เจียงเวยยอมรับเรื่องทั้งหมดที่เธอเคยทำมาอย่างไม่อ้อมค้อม ในดวงตามีความเย้ยหยัน: "ต่อให้ตอนนี้เธอรู้แล้ว จะทำอะไรได้? เจียงเซิง ฉันมีชีวิตย่ำแย่ เธอมีสิทธิ์อะไรถึงมีชีวิตได้ดีกว่าฉัน?"เธอเกลียดเกลียดที่ตัวเธอเองไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆ ของเจียงเซิ่น ยิ่งเกลียดที่เธอไม่ได้โชคดีและมีชีวิตที่ดีอย่างเจียงเซิง!"ดังนั้น ฉันต้องการให้แกหายสาบสูญไปจากโลกนี้ตลอดกาล เพียงแค่เธอหายสาบสูญไป ก็ไม่มีคนแย่งกับฉันแล้ว ไม่มีคนตอบโต้กับฉันแล้ว!"อย่างไรซะแม่ของเธอก็เข้าคุกแล้ว เธอก็สูญเสียทุกอย่างไป แม้แต่บ้านก็ไม่มี เธอยังจะกลัวอะไรอีกล่ะ?เห็นท่าทางที่แทบจะเป็นบ้าของเจียงเวย เจียงเซิงไม่ได้รู้สึกสงสาร แต่รู้สึกว่าเธอน่าสมเพช: "เจียงเวย เธอไม่เคยยืนอยู่ในมุมมองของตัวเองและคิดทบทวนตัวเลยจริง ๆ""เส้นทางนี้เธอเป็นคนเลือกเองไม่ใช่เหรอ?" เจียงเซิงถามย้อนอีกครั้ง"เธอมีสิทธิ์อะไรที่พูดเรื่องเหล่านี้กับฉัน ทุกอย่างนี้เป็นเพราะเธอทั้งนั้น!" เจียงเวยกัดฟัน มือที่จับผมของเจียงเซิงออกแรงมากขึ้นเจียงเซิงขมวดคิ้วเล็กน้อย ตั้งแต่ต้นจนจบไม่ร้องตะโกนว่าเจ็บเลยสักคำ ยิ่งไม่มีทางขอร้องเจียงเวย: "ฉันทำอะไรเธอ หกปีก่
ขณะพูด เธอเหลือบมองเจียงเวย และยิ้มกริ่ม: "เทียบกับที่พวกนายเอาเงินจากเธอ สู้เอาเงินจากฉันไม่ดีกว่า ก็แค่เงินไม่ใช่เหรอ?"ชายสองคนนั้นเกิดความลังเลเจียงเวยสีหน้าเปลี่ยนไปตกตะลึง: "พวกนายอย่าไปเชื่อเธอ!""เจียงเวย เธอยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย ยังอยากจะต่อต้านอีกเหรอ?" เจียงเซิงขยับไปข้างหูของเธอแล้วหัวเราะเสียงเบา: "รอให้ฉันปล่อยเลือดของเธอออกมาจนหมด เธอยังจะให้เงินพวกเขาได้อย่างไร?"ทันใดนั้น ชายสองคนที่เฝ้าอยู่นอกประตูจู่ ๆ ถูกคนโยนเข้ามาบอดี้การ์ดชุดดำสองสามคนที่บุกเข้ามาในมือถือปืน ผู้ชายสองคนนั้นกำลังจะหนีไป ก็ถูกบอดี้การ์ดชุดดำจัดการจนหมอบลงกับพื้นและใช้ปืนจ่อที่หัวซือเย่เจ๋วเดินเข้ามาช้า ๆ เหมือนกับเทพจุติลงมา รอบตัวแผ่ซ่านความเย็นเยือกแทบจะทำให้คนที่อยู่ในเหตุการณ์แข็งตัวแต่ทว่าในตอนที่เห็นว่าเจียงเซิงเป็นคนที่ควบคุมตัวอยู่ ความเย็นเยือกในดวงตาถึงได้ค่อย ๆ หายไป"เย่เจ๋ว ช่วยฉันด้วย เจียงเซิงเธอบ้าไปแล้ว เธอจะฆ่าฉัน!" ในตอนที่เจียงเวยเห็นซือเย่เจ๋วก็ตื่นเต้นจนตะโกนไปทางเขาแต่ทว่าสายตาของซือเย่เจ๋วไม่ได้มองมาที่เธอเลย และยิ่งไม่ได้สนใจแต่มองดูบอดี้การณ์สอง
ภายในรถซือเย่เจ๋วหยิบกล่องยาออกมาแล้วเช็ดรอยขีดข่วนบนแก้มของเจียงเซิง แม้ว่ามันจะตื้นมาก แต่หากไม่ระวังเพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้เกิดแผลเป็นได้เจียงเซิงนั่งอยู่บนที่นั่งไม่พูดไม่จามาโดยตลอด และก็ไม่ได้มองซือเย่เจ๋ว"เธอคิดว่าฉันโหดเหี้ยมใช่ไหม กลัวเหรอ?"ซือเย่เจ๋วขมวดคิ้ว เขารู้ว่าตัวเองอาจะทำให้เธอตกใจ แต่เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้จริง ๆเขาโมโหมากเขาถึงกับต้องการฆ่าเจียงเวยด้วยซ้ำเจียงเซิงดึงสายตากลับและมองเขา ริมฝีปากขยับ: "เฉย ๆ"สายตาของเขาเย็นชาเล็กน้อย ริมฝีปากบางแยกออก: "เฉย ๆ หมายความว่าอย่างไร?"เจียงเซิงยื่นมือออกไปกอดเขาไว้ ใบหน้าแนบบนหน้าอกรุ่มร้อนของเขาเหมือนกับพักพิง การกระทำของเธอทำให้ซือเย่เจ๋วนิ่งอึ้ง“เซิงเซิง เธอ…”เจียงเซิงหลับตาลง ยิ้มในอ้อมกอดอันอบอุ่นของเขา: "ซือเย่เจ๋ว ฉันรู้ว่าคุณจะไม่ทำร้ายฉัน ดังนั้นฉันไม่กลัวคุณ ขอบคุณที่คุณมาช่วยฉัน"ความหนาวเย็นในดวงตาของซือเย่เจ๋วค่อยๆ จางหายไป เขายกมือขึ้นลูบศรีษะที่มีผมนุ่ม และจูบศรีษะเธอเบา ๆ พร้อมรอยยิ้ม“เซิงเซิง คนที่ทำร้ายเธอ ฉันไม่มีทางออมมือแน่นอน”ตกเย็นวิลล่าบลูเบย์ซือเย่เจ๋วอุ้มเธอกลับไปท
ได้ฟังคำมั่นสัญญาของชายที่อยู่ด้านหลัง เจียงเซิงยิ้มออกมาโดยไม่ตั้งใจ: "นี่คุณพูดเองนะ"เขายิ้มด้วยความรักใคร่เอ็นดู: "อืม ฉันเป็นคนพูด"**วันต่อมาซูหลิงโหรวมาที่บริษัท เมื่อเธอเดินผ่านแผนกต้อนรับก็ได้ยินพนักงานหญิงหลายคนนินทาเรื่องบางอย่าง“ตั้งแต่ที่ท่านเจ๋วกับคุณเจียงจดทะเบียนสมรสกัน พวกเขาก็สวีทหวานกันมากเลย เมื่อก่อนยังต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ตอนนี้ไม่ต้องหลบซ่อนแล้ว”"เป็นสามีภรรยากันแล้ว ยังต้องหลบอะไรอีกล่ะ?"ท่านเจ๋วตามใจคุณเจียงมากจริง ๆ ไม่เสียแรงที่ฉันเชียร์คู่จิ้นคู่นี้!"ซูหลิงโหรวฝีเท้าหยุดชะงัก สีหน้าอึมครึมเหมือนกับถูกปกคลุมด้วยชั้นเมฆเมื่อวานเจียงเวยไม่มีข่าวคราว เธอเดาได้แล้วว่าเจียงเวยอาจจะทำล้มเหลวโชคดีที่เบอร์โทรศัพท์ที่เธอใช้ติดต่อกับเจียงเวยไม่ใช่เบอร์โทรศัพท์มือถือของตัวเอง ต่อให้ซือเย่เจ๋วตรวจสอบเจียงเวย ก็ไม่มีทางสืบมาจนถึงหัวตัวเองได้ประตูลิฟต์เปิดออก เธอเห็นเจียงเซิงคล้องแขนซือเย่เจ๋วเดินออกมาจากลิฟต์ เป็นอย่างที่พนักงานพวกนั้นพูดจริง ๆ ด้วย เปิดเผยออกมาโดยตรงตอนที่เจียงเซิงเห็นซูหลิงโหรว สายตาเคลื่อนไหว จากนั้นกอดแขนของเขาเอาไว้แน่น: "สามี วันนี
ขนตาของเธอสั่นไหวและพูดทันที: "ซือเย่เจ๋ว คุณทำอะไรน่ะ?""เมื่อกี้เธอเรียกสามีเรียกอย่างดีใจมากไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงได้เปลี่ยนคำเรียกอีกแล้ว หือ?" เขาไม่พอใจเล็กน้อยเจียงเซิงพูดพึมพำ: "ฉันแค่ยั่วโมโหเธอก็เท่านั้น ใครใช้ให้เธอแอบมองผู้ชาย... "แอบมอง ผู้ชายของเธอเหรอ?ซือเย่เจ๋วพอใจกับคำตอบนี้มากเขาวางมือบนเอวของเธอแล้วขยับเข้าไป จากนั้นยิ้มมุมปาก: "เมื่อครู่เธอพูดว่า อยากเล่นอะไรที่ตื่นเต้น?"เจียงเซิงตัวสั่นไปทั้งตัว หน้าแดงหูแดงจับมือที่อยู่ไม่นิ่งของเขาไว้และกัดฟันพูด: "ซือเย่เจ๋ว คุณอย่าทำอะไรซี้ซั้วที่นี่ ฉันพูดว่าน่าตื่นเต้นไม่ใช่เรื่องแบบนี้!"ผู้ชายเฮงซวยคนนี้ คิดแต่จะทำเรื่องนั้นทุกวัน เขาไม่กลัวไตวายเหรอ?ซือเย่เจ๋วยิ้มและไม่พูดอะไร"อย่างไรคุณก็พูดแล้วว่า วันนี้จะอยู่เป็นเพื่อนฉันทั้งวัน งั้นฉันอยากไปทำอะไร คุณจะไม่ปฏิเสธใช่ไหม?" เจียงเซิงกะพริบตาซือเย่เจ๋วเลิกคิ้ว: "งั้นเธอพูดมาสิว่าอยากไปทำอะไร?"ตอนนี้ยิ่งอยู่เขายิ่งชอบที่เธอพึ่งพิงตัวเองเจียงเซิงยิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วพูดว่า: "อยากทำหมดเลย ดูหนัง เดินเที่ยวเหมือนกับคู่รักทั่ว ๆ ไป"เมื่อเห็นสีหน้าของซือเย่เจ๋ว
ขณะพูดเธอก็เงยหน้าขึ้น: "ทั้งที่คุณเจียงรู้ว่าเย่เจ๋วมีประชุมตอนบ่าย แต่ก็ดึงดันจะให้เย่เจ๋วออกไปเที่ยวเป็นเพื่อนเธอ ไม่ว่าหนูเกลี้ยกล่อมอย่างไร เย่เจ๋วก็ไม่ฟังหนู""ไม่ว่าหนูทำอย่างไร เย่เจ๋วก็คิดว่าเป็นความผิดของหนู แต่เป็นแบบนี้ต่อไป เกรงว่าแม้แต่บริษัทเย่เจ๋วก็ไม่สนแล้ว"เมื่อเห็นมือของท่านผู้เฒ่าที่เช็ดเครื่องลายครามหยุดชะงัก ความเย็นชาในดวงตาของซูหลิงโหรวที่แวบผ่านเดิมทีคุณปู่ไม่ชอบเจียงเซิงอยู่แล้ว และคำพูดเหล่านี้ของเธอเป็นการบอกนัย ๆ ว่าเจียงเซิงยุยงให้ซือเย่เจ๋วไม่สนใจบริษัทผู้หญิงที่ล่อหลอกด้วยเสน่ห์แบบนี้ จะคู่ควรแต่งงานเข้าตระกูลซือได้อย่างไรล่ะ?แต่ทว่า เธอรออยู่ครู่หนึ่งก็ไม่เห็นความโมโหของท่านผู้เฒ่า ท่านผู้เฒ่ายื่นเครื่องลายครามให้พ่อบ้านเฉิน พูดอย่างจริงจัง: "หลิงโหรว หนูต้องเข้าใจนะ เย่เจ๋วในฐานะประธานของ TG ถ้าหลายสิ่งหลายอย่างต้องให้เขาจัดการเอง งั้นเขายังต้องการผู้ช่วยพิเศษหลัวเชว่ไปเพื่ออะไรล่ะ?"สีหน้าของซูหลิงโหรวแข็งทื่อเล็กน้อย“อีกอย่างเย่เจ๋วก็แค่อยากผ่อนคลาย ในเมื่อเขาแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นแล้ว จัดแจงวันหยุดก็ไม่มีปัญหาอะไร”คำพูดของท่านผู้เฒ่าท
พนักงานสาวคนนั้นพูดจบ เมื่อเห็นว่าเจียงเซิงปรากฏตัวขึ้นก็ตัวสั่นสะท้าน: “คุณ……คุณเจียง……”“พวกคุณกำลังพูดอะไรน่ะ?”เจียงเซิงยิ้มแย้มพนักงานสาวสองคนนั้นเหมือนจะพูดแต่ก็ไม่พูด รู้สึกเก้กังเล็กน้อย“ไม่เป็นไร ฉันไม่โทษพวกคุณหรอก ฉันแค่อยากรู้ว่าคำพูดพวกนี้ออกมาจากปากของใครกัน?” เจียงเซิงพูดด้วยน้ำเสียงเชื่องช้าเมื่อสัมผัสได้ว่าเธอไม่ได้โมโห พนักงานคนหนึ่งพูดติด ๆ ขัด ๆ: “คือ……คือฝ่ายธุรการที่ชั้นบนพูดกันว่าเมื่อ……เมื่อวานคุณตื๊อท่านเจ๋วไม่ให้ท่านเจ๋วไปประชุม”เจียงเซิงหรี่ตาลง: “คนของฝ่ายธุรการ?”พนักงานสาวคนนั้นพยักหน้า เมื่อนึกอะไรได้ก็พูดอย่างเก้กัง: “เหมือนว่า ผู้ช่วยซูพูดอะไรสักอย่างกับพวกเขา จากนั้นก็……”เจียงเซิงเข้าใจในทันทีเธอยิ้มแล้วพยักหน้า: “ขอบใจนะ”ฝ่ายธุรการ“อันที่จริงฉันคิดว่านะ คุณเจียงหน้าตาสวยขนาดนั้นผู้ชายคนไหนบ้างไม่หวั่นไหว ถ้าฉันเป็นผู้ชาย ฉันก็ไม่อยากประชุม”“อุ๊ย เธอคิดดูนะ ผู้หญิงรูปลักษณ์ภายนอกสวยงาม แต่รูปลักษณ์ก็มีตอนที่แก่ตัวไป ตอนนี้รักกัน ต่อไปก็ไม่แน่นะ”“จริงด้วย เรื่องน้ำเน่าของตระกูลร่ำรวยเหล่านั้นยังไม่มากพออีกเหรอ?”พนักงานที่รวมตัวก
“คุณ……” ซูหลิงโหรวกำหมัดแน่น ดวงตาแดงก่ำจ้องมองเธอด้วยความเกลียดชังคนในแผนกเงียบขรึมกันหมด พูดตามตรง เรื่องส่วนใหญ่ของบริษัท ผู้จัดการพิเศษหลัวเป็นคนจัดการจริง ๆ นั่นแหละอีกอย่างหลาย ๆ เรื่องประธานก็มอบหมายให้ผู้ช่วยพิเศษหลัวแต่หลังจากที่ผู้ช่วยพิเศษหลัวถูกย้ายไป ผู้ช่วยซูคนนี้มาถึง ไม่รู้ว่าทำไมท่านเจ๋วดูงานยุ่งเป็นพิเศษท่านเจ๋วเป็นเจ้านาย ส่วนพวกเขาเป็นแค่พนักงานที่ท่านเจ๋วว่าจ้าง ต่อให้ท่านเจ๋วไม่มา งั้นผู้ช่วยก็ต้องเป็นเจ้าภาพพวกเขาเพิ่งรู้ว่า พวกเขาถูกชักนำแล้วพวกเขาก็ได้เห็นถึงฝีมือของภรรยาท่านเจ๋วแล้ว โชคดีที่คนที่ถูกตบไม่ใช่พวกเขาเจียงเซิงใบหน้ายังคงยิ้มแย้ม: “ผู้ช่วยซู ถ้าไม่อยากทำงานแล้วจริง ๆ ก็ย้ายหลัวเชว่กลับมา ในเมื่อหลัวเชว่มีประโยชน์กว่าคุณเยอะ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ไม่คิดที่จะพึ่งพาซือเย่เจ๋วเจ้านายคนนี้ ถูกมั้ย?”อะไรคือหน้าเนื้อในเสือคนอื่นเห็นก็รู้แล้วภรรยาท่านเจ๋วสาธิตด้วยตัวเอง!ซือเย่เจ๋วเพิ่งเดินออกจากสำนักงานบริหาร เมื่อเห็นพนักงานกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันอยู่ในแผนก เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่นานนักสายตาก็มองไปทางเจียงเซิงที่อยู่ด้านหน้าซูหลิงโหรว"เกิดอ
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ