พนักงานสาวคนนั้นพูดจบ เมื่อเห็นว่าเจียงเซิงปรากฏตัวขึ้นก็ตัวสั่นสะท้าน: “คุณ……คุณเจียง……”“พวกคุณกำลังพูดอะไรน่ะ?”เจียงเซิงยิ้มแย้มพนักงานสาวสองคนนั้นเหมือนจะพูดแต่ก็ไม่พูด รู้สึกเก้กังเล็กน้อย“ไม่เป็นไร ฉันไม่โทษพวกคุณหรอก ฉันแค่อยากรู้ว่าคำพูดพวกนี้ออกมาจากปากของใครกัน?” เจียงเซิงพูดด้วยน้ำเสียงเชื่องช้าเมื่อสัมผัสได้ว่าเธอไม่ได้โมโห พนักงานคนหนึ่งพูดติด ๆ ขัด ๆ: “คือ……คือฝ่ายธุรการที่ชั้นบนพูดกันว่าเมื่อ……เมื่อวานคุณตื๊อท่านเจ๋วไม่ให้ท่านเจ๋วไปประชุม”เจียงเซิงหรี่ตาลง: “คนของฝ่ายธุรการ?”พนักงานสาวคนนั้นพยักหน้า เมื่อนึกอะไรได้ก็พูดอย่างเก้กัง: “เหมือนว่า ผู้ช่วยซูพูดอะไรสักอย่างกับพวกเขา จากนั้นก็……”เจียงเซิงเข้าใจในทันทีเธอยิ้มแล้วพยักหน้า: “ขอบใจนะ”ฝ่ายธุรการ“อันที่จริงฉันคิดว่านะ คุณเจียงหน้าตาสวยขนาดนั้นผู้ชายคนไหนบ้างไม่หวั่นไหว ถ้าฉันเป็นผู้ชาย ฉันก็ไม่อยากประชุม”“อุ๊ย เธอคิดดูนะ ผู้หญิงรูปลักษณ์ภายนอกสวยงาม แต่รูปลักษณ์ก็มีตอนที่แก่ตัวไป ตอนนี้รักกัน ต่อไปก็ไม่แน่นะ”“จริงด้วย เรื่องน้ำเน่าของตระกูลร่ำรวยเหล่านั้นยังไม่มากพออีกเหรอ?”พนักงานที่รวมตัวก
“คุณ……” ซูหลิงโหรวกำหมัดแน่น ดวงตาแดงก่ำจ้องมองเธอด้วยความเกลียดชังคนในแผนกเงียบขรึมกันหมด พูดตามตรง เรื่องส่วนใหญ่ของบริษัท ผู้จัดการพิเศษหลัวเป็นคนจัดการจริง ๆ นั่นแหละอีกอย่างหลาย ๆ เรื่องประธานก็มอบหมายให้ผู้ช่วยพิเศษหลัวแต่หลังจากที่ผู้ช่วยพิเศษหลัวถูกย้ายไป ผู้ช่วยซูคนนี้มาถึง ไม่รู้ว่าทำไมท่านเจ๋วดูงานยุ่งเป็นพิเศษท่านเจ๋วเป็นเจ้านาย ส่วนพวกเขาเป็นแค่พนักงานที่ท่านเจ๋วว่าจ้าง ต่อให้ท่านเจ๋วไม่มา งั้นผู้ช่วยก็ต้องเป็นเจ้าภาพพวกเขาเพิ่งรู้ว่า พวกเขาถูกชักนำแล้วพวกเขาก็ได้เห็นถึงฝีมือของภรรยาท่านเจ๋วแล้ว โชคดีที่คนที่ถูกตบไม่ใช่พวกเขาเจียงเซิงใบหน้ายังคงยิ้มแย้ม: “ผู้ช่วยซู ถ้าไม่อยากทำงานแล้วจริง ๆ ก็ย้ายหลัวเชว่กลับมา ในเมื่อหลัวเชว่มีประโยชน์กว่าคุณเยอะ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ไม่คิดที่จะพึ่งพาซือเย่เจ๋วเจ้านายคนนี้ ถูกมั้ย?”อะไรคือหน้าเนื้อในเสือคนอื่นเห็นก็รู้แล้วภรรยาท่านเจ๋วสาธิตด้วยตัวเอง!ซือเย่เจ๋วเพิ่งเดินออกจากสำนักงานบริหาร เมื่อเห็นพนักงานกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันอยู่ในแผนก เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่นานนักสายตาก็มองไปทางเจียงเซิงที่อยู่ด้านหน้าซูหลิงโหรว"เกิดอ
ซือเย่เจ๋วเม้มริมฝีปากแน่น ตอนนั้นเป็นซูหลิงโหรวที่นำรูปภาพใบนั้นมาให้เขาจริง ๆ นั่นแหละดังนั้น ภาพนั้นวั่งฉีเป็นคนถ่าย?เจียงเซิงเรียกเบาๆ: "ซือเย่เจ๋ว "เขากลับมามีสติ: "หือ"“คุณกำลังคิดอะไรอยู่?” เธอมองเขาอย่างสงบด้วยดวงตาที่ใสเหมือนน้ำ เขาเหม่อเลยเหรอ?เมื่อนึกถึงบางสิ่งบางอย่าง เธอขมวดคิ้ว: "ไม่ใช่ว่าคุณให้คนแอบมาจับตาดูฉันหรอกนะ?"ซือเย่เจ๋วยกมือขึ้นสัมผัสแก้มของเธอ: "เธออยู่ที่ค่ายฝึกมีเรื่องอะไรหลัวหยิงกับหลัวหู่ก็จะบอกฉัน แต่เรื่องของเธอกับกู้ยี่ฟาน ซูหลิงโหรวเป็นคนบอกฉัน"ซูหลิงโหรว?เจียงเซิงก้มตาต่ำดังนั้นวั่งฉี "เป็นหูเป็นตา" ของซูหลิงโหรวภายในค่ายฝึกอบรม มิน่าล่ะซูหลิงโหรวสวมแหวนหยกวงนั้นมาหาตัวเอง ทำให้ตัวเองเข้าใจผิด และซือเย่เจ๋วจู่ ๆ ก็รับรู้เรื่องของกู้ยี่ฟานกับตัวเองจึงเข้าใจผิด"การตายของวั่งฉีไม่ใช่ว่ามีความเกี่ยวข้องกับซูหลิงโหรวหรอกนะ?"แม้ว่าเธอจะไม่มีหลักฐาน แต่ความสัมพันธ์ใกล้ชิดของซูหลิงโหรวกับวั่งฉี ขนาดวั่งฉีตายไปก็ไม่เคยเอ่ยถึง เหมือนว่าสำหรับซูหลิงโหรวแล้วคนคนนี้ไม่เคยมีตัวตนอยู่อีกอย่าง ก่อนหน้านี้เธอเคยสงสัยว่างูพิษภายในค่ายฝึกถ้าหากไม่
ซือเย่เจ๋วประคองแก้มของเธอ คำสารภาพเหล่านั้นของเจียงเวยเพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าการคาดคะเนของเขาก่อนหน้านี้ถูกต้องเจียงเซิงออกมาจากค่ายฝึกอบรม จู่ ๆ คุณปู่ก็รู้ว่าเจียงเซิงมีความเกี่ยวข้องกับตระกูลซู และเรื่องนี้นอกจากเขากับพ่อของเขาที่เก็บเป็นความลับ แม้แต่เจียงเซิ่นและคนอื่น ๆ ก็ไม่รู้เรื่อง นอกจากเจียงเวยคนที่เคยคิดแย่งชิงสถานะคุณหนูตระกูลกุงไป!ซือเย่เจ๋วคิดอะไรบางอย่าง มองดูเธอแล้วพูดเบา ๆ: "เพื่อเป็นการป้องกัน ตั้งแต่พรุ่งนี้ฉันย้ายหลัวหยิงมาอยู่ข้างกายเธอ เธอจะไปทำงานนอกสถานที่อย่างไรก็แล้วแต่เธอสำหรับเด็ก ๆ มีคุณพ่อกับตาแกนั่นอยู่ ไม่มีทางเป็นอะไร ตอนนี้คนที่ฉันไม่วางใจเพียงหนึ่งเดียวก็คือเธอ"กระแสน้ำอุ่นพุ่งผ่านหัวใจเจียงเซิง เธอมองออกว่าซือเย่เจ๋วเป็นห่วงตัวเธอมากจริง ๆเธอจับมือของเขาแนบกับใบหน้าของตัวเอง ในขณะที่ซือเย่เจ๋วตกตะลึง เธอยิ้มบาง: "มีคุณอยู่ ฉันก็ไม่รู้สึกว่าเป็นอันตราย"ตกเย็นโรงเรียนดนตรีรอยัลเจียงเฉินเฉินสะพายกระเป๋านักเรียนเดินออกมาจากโรงเรียน บอดี้การ์ดชาวต่างชาติสองคนเดินลงมาจากรถหรูและขวางทางเขาไว้"คุณคือเจียงเฉินเฉินใช่ไหม?" บอดี้การ์ดต่างชาติ
เขาหัวเราะหึหึ: "ทำไมฉันจะมาหาเขาไม่ได้ เขาควรจะเรียกฉันว่าทวดตาสักคำไม่ใช่เหรอ?"ลู่ลี่เซินเม้มริมฝีปากแน่นไม่พูด ถึงแม้ก่อนหน้านี้คุณแม่จะบอกคุณตาแล้วว่า ตามหาลูกสาวของคุณน้าเจอแล้วแต่ตอนนั้นพวกเขาต่างคิดว่าเป็นเจียงเวยก็เท่านั้นแต่ทว่าภายหลังถึงได้รู้ว่าลูกของคุณน้าของเขาก็คือเจียงเซิง และเจียงเซิงก็ดันแต่งงานกับซือเย่เจ๋ว ถึงขั้นที่ไม่รู้ว่าคุณตารู้ได้อย่างไรว่าเด็กคนนี้คือลูกของเจียงเซิง......เจียงเฉินเฉินกะพริบตา: "คุณคือทวดตาของผมเหรอ?"กุงเห้อมองดูเขาแล้วตอบกลับ: "แม่ของเธอเรียกฉันว่าคุณตา เธอก็ต้องเรียกฉันว่าทวดตาอยู่แล้ว"เจียงเฉินเฉินขมวดคิ้ว: "แต่ว่าหม่ามี้ไม่เคยบอกพวกเราเลยนะ"“คุณผู้หญิงท่านนี้ ขอโทษด้วยค่ะ ร้านอาหารถูกเหมาเอาไว้หมดแล้ว คุณจะบุกเข้ามาไม่ได้......”"หลีกไป"เจียงเซิงผลักพนักงานเสิร์ฟออกไป เป็นเพราะเธอเป็นห่วงเฉินเฉินจนกระวนกระวายใจ จึงไม่สนใจอะไรทั้งนั้นบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างกายกุงเห้ออยากจะเข้าไปขวางไว้ จนกระทั่งเจียงเฉินเฉินเห็นเธอและลุกขึ้นยืน: "หม่ามี้!"เจียงเซิงเมื่อเห็นเจียงเฉินเฉินกับลู่ลี่เซินอยู่ด้วยกัน และเจียงเฉินเฉินก็ปลอดภัยดี เ
เจียงเซิงไม่มีความรู้สึกแม้แต่น้อย: "ฉันเชื่อซือเย่เจ๋ว"ในตอนที่เจียงเซิงพาเจียงเฉินเฉินไป นึกอะไรขึ้นได้ เธอหันหน้ากลับแล้วพูดว่า: "เรื่องแม่ของซือเย่เจ๋วฉันรับรู้แล้ว ถ้าหากตระกูลกุงทำเรื่องแบบนั้นจริง ๆ ฉันก็ไม่สามารถให้อภัยตระกูลกุงได้"เจียงเซิงพูดจบก็พาเจียงเฉินเฉินจากไปลู่ลี่เซินนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ เมื่อเห็นสีหน้าของกุงเห้อแย่ลงเล็กน้อย จึงเอ่ยปากขึ้น: "คุณตา ถ้าไม่มีธุระอะไรผมกลับก่อนนะครับ""นายส่งข้อความไปบอกเธอเหรอ?"กุงเห้อถามอย่างเย็นชาลู่ลี่เซินพยักหน้า: "ใช่ครับ ผมแค่ไม่รู้ว่าจุดประสงค์ที่คุณตามาหาเด็กคนนี้ อีกอย่าง คุณแม่ก็เคยพูดไว้ เรื่องในอดีตได้ผ่านไปแล้ว คุณตาทำไมถึงยังหมกมุ่นอยู่กับเรื่องนี้"กุงเห้อตบโต๊ะด้วยความโมโห: "เรื่องที่เกี่ยวกับตระกูลซือปล่อยวางไม่ได้ พวกเขาสมควรตาย!"ลู่ลี่เซินเห็นกุงเห้อไม่สามารถละทิ้งอคติต่อตระกูลซือได้ ไม่ว่าเขาจะพยายามเกลี้ยกล่อมแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์...ที่ชั้นล่าง เจียงเฉินเฉินหันไปมองเจียงเซิง: "หม่ามี้ คนนี้คือคุณตาของหม่ามี้จริง ๆ เหรอครับ?"เจียงเซิงหยุดนิ่ง ฝืนยิ้มออกมา: "ใช่มั้ง""ทวดตาเกลียดคนตระกูลกุงเหรอครับ
เจียงเซิงสบตาดวงตาที่แฝงไปด้วยรอยยิ้ม จึงทำสีหน้าให้ความร่วมมือ: "ที่รักบอกว่าอยู่ทานข้าว งั้นก็อยู่ทานข้าว"ลูกสาม : อี๋ น่าอิจฉาตาร้อน!ระหว่างทานอาหารเย็น คนรับใช้ก็เสิร์ฟอาหารให้พวกเขาตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่ซือเย่เจ๋วย้ายออกไป แทบจะไม่เคยกลับมาทานอาหารเย็น และวันนี้เป็นครั้งแรกที่เขากลับมาเด็กน้อยทั้งสามคนนั่งข้างแด๊ดดี้กับหม่ามี้ มีแด๊ดดี้หม่ามี้อยู่ที่นี่ เด็กน้อยทั้งสามคนนี้ทานข้าวอย่างเอร็ดอร่อยท่านผู้เฒ่าถือว่ามองออกแล้วว่า เด็กสองสามคนปกติเวลาทานข้าวไม่เห็นว่าจะกระตือรือร้นแบบนี้เป็นอย่างที่คิดอยู่ข้างพ่อแม่ก็ดีใจและเป็นตัวของตัวเอง"แฮ่ม ในเมื่อกลับมาแล้ว งั้นก็ย้ายกลับมาอยู่ซะเลยสิ" ท่านผู้เฒ่าพูดซือเย่เจ๋วเงยหน้าขึ้นและพูดอย่างราบเรียบ: "จะมีครรภ์ที่สอง ไม่สะดวก"เจียงเซิงมือสั่น มองดูเขาอย่างประหลาดใจไม่ต้องพูดถึงเธอ แม้แต่ท่านผู้เฒ่าก็ตกตะลึงไปด้วย: "จะ......จะมีครรภ์ที่สอง?""แด๊ดดี้ หม่ามี้จะคลอดเบบี๋เหรอ?"เจียงนวนนวนดวงตาเป็นประกาย: "งั้นหนูก็เป็นพี่สาวแล้วใช่ไหม หนูไม่ได้อยู่ในลำดับที่เล็กที่สุดแล้ว!"เจียงนวนนวนไม่อยากเป็นน้องสามอีกแล้ว เธอก็อยากเ
"ใช่ เจ้าตัวนี้ขุดดินโคลนนอกสวนดอกไม้ทุกวัน สกปรกมอมแมมไปหมด ต้องอาบน้ำให้มันบ่อย ๆ""โฮ่ง~" มันแลบลิ้นส่ายหาง ดวงตาสีน้ำตาลจ้องมองเจียงเซิง เหมือนจะชอบเธอมากเจียงเซิ่นวางแก้วชาลงแล้วพูดขึ้น: "เจ้าตัวนี้ถูกเจ้าของเก่าทอดทิ้ง พ่อเจอมันที่ข้างทางน่าสงสารจึงพามันกลับมา""พาไปโรงพยาบาลสัตว์ตรวจสอบแล้วว่าเจ้าตัวนี้ร่างกายแข็งแร็ง นอกจากลำไส้กับกระเพาะไม่ดี และไม่มีโรคผิวหนังอะไร น่าจะเป็นเพราะเจ้าของเดิมเลี้ยงไม่ได้ ถึงได้ทอดทิ้งมัน"เจียงเซิงลูบขนปุยบนหัวของมัน ไม่แปลกใจที่เด็ก ๆ ต่างชอบมัน ขนปุยตัวเล็กน่ารักทำให้คนชื่นชอบมากจริง ๆ"เซิงเซิง จู่ ๆ ทำไมวันนี้ถึงมาที่นี่ล่ะ?"เจียงเซิงวางมันลง เดินไปตรงหน้าโซฟาแล้วนั่งลง: "ไวน์เนอร์ตกแต่งเกือบเสร็จแล้ว หนูมาถามพ่อ ถ้าหากพ่อยังยินยอมบริหารบริษัท ตำแหน่งประธานกจะคืนให้กับพ่อ"เจียงเซิ่นตกตะลึง สายตาหดหู่: "เรื่องของไวน์เนอร์ในเมื่อมอบให้ลูกแล้ว พ่อก็ไม่คิดที่จะเข้าแทรก......""พ่อไม่ต้องเข้าแทรก แต่ทางด้านคณะกรรมการบริหาร ไม่ใช่เหรอ?"เธอพูดต่ออีก: "ก่อนที่พ่อจะเกษียณ หนูอยากให้พ่อกลับไปที่บริษัท และบริษัทก็ต้องการพ่อนะคะ"เจียงเซิ่
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ