เจียงเซิงสบตาดวงตาที่แฝงไปด้วยรอยยิ้ม จึงทำสีหน้าให้ความร่วมมือ: "ที่รักบอกว่าอยู่ทานข้าว งั้นก็อยู่ทานข้าว"ลูกสาม : อี๋ น่าอิจฉาตาร้อน!ระหว่างทานอาหารเย็น คนรับใช้ก็เสิร์ฟอาหารให้พวกเขาตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่ซือเย่เจ๋วย้ายออกไป แทบจะไม่เคยกลับมาทานอาหารเย็น และวันนี้เป็นครั้งแรกที่เขากลับมาเด็กน้อยทั้งสามคนนั่งข้างแด๊ดดี้กับหม่ามี้ มีแด๊ดดี้หม่ามี้อยู่ที่นี่ เด็กน้อยทั้งสามคนนี้ทานข้าวอย่างเอร็ดอร่อยท่านผู้เฒ่าถือว่ามองออกแล้วว่า เด็กสองสามคนปกติเวลาทานข้าวไม่เห็นว่าจะกระตือรือร้นแบบนี้เป็นอย่างที่คิดอยู่ข้างพ่อแม่ก็ดีใจและเป็นตัวของตัวเอง"แฮ่ม ในเมื่อกลับมาแล้ว งั้นก็ย้ายกลับมาอยู่ซะเลยสิ" ท่านผู้เฒ่าพูดซือเย่เจ๋วเงยหน้าขึ้นและพูดอย่างราบเรียบ: "จะมีครรภ์ที่สอง ไม่สะดวก"เจียงเซิงมือสั่น มองดูเขาอย่างประหลาดใจไม่ต้องพูดถึงเธอ แม้แต่ท่านผู้เฒ่าก็ตกตะลึงไปด้วย: "จะ......จะมีครรภ์ที่สอง?""แด๊ดดี้ หม่ามี้จะคลอดเบบี๋เหรอ?"เจียงนวนนวนดวงตาเป็นประกาย: "งั้นหนูก็เป็นพี่สาวแล้วใช่ไหม หนูไม่ได้อยู่ในลำดับที่เล็กที่สุดแล้ว!"เจียงนวนนวนไม่อยากเป็นน้องสามอีกแล้ว เธอก็อยากเ
"ใช่ เจ้าตัวนี้ขุดดินโคลนนอกสวนดอกไม้ทุกวัน สกปรกมอมแมมไปหมด ต้องอาบน้ำให้มันบ่อย ๆ""โฮ่ง~" มันแลบลิ้นส่ายหาง ดวงตาสีน้ำตาลจ้องมองเจียงเซิง เหมือนจะชอบเธอมากเจียงเซิ่นวางแก้วชาลงแล้วพูดขึ้น: "เจ้าตัวนี้ถูกเจ้าของเก่าทอดทิ้ง พ่อเจอมันที่ข้างทางน่าสงสารจึงพามันกลับมา""พาไปโรงพยาบาลสัตว์ตรวจสอบแล้วว่าเจ้าตัวนี้ร่างกายแข็งแร็ง นอกจากลำไส้กับกระเพาะไม่ดี และไม่มีโรคผิวหนังอะไร น่าจะเป็นเพราะเจ้าของเดิมเลี้ยงไม่ได้ ถึงได้ทอดทิ้งมัน"เจียงเซิงลูบขนปุยบนหัวของมัน ไม่แปลกใจที่เด็ก ๆ ต่างชอบมัน ขนปุยตัวเล็กน่ารักทำให้คนชื่นชอบมากจริง ๆ"เซิงเซิง จู่ ๆ ทำไมวันนี้ถึงมาที่นี่ล่ะ?"เจียงเซิงวางมันลง เดินไปตรงหน้าโซฟาแล้วนั่งลง: "ไวน์เนอร์ตกแต่งเกือบเสร็จแล้ว หนูมาถามพ่อ ถ้าหากพ่อยังยินยอมบริหารบริษัท ตำแหน่งประธานกจะคืนให้กับพ่อ"เจียงเซิ่นตกตะลึง สายตาหดหู่: "เรื่องของไวน์เนอร์ในเมื่อมอบให้ลูกแล้ว พ่อก็ไม่คิดที่จะเข้าแทรก......""พ่อไม่ต้องเข้าแทรก แต่ทางด้านคณะกรรมการบริหาร ไม่ใช่เหรอ?"เธอพูดต่ออีก: "ก่อนที่พ่อจะเกษียณ หนูอยากให้พ่อกลับไปที่บริษัท และบริษัทก็ต้องการพ่อนะคะ"เจียงเซิ่
รับเงินเดือนเปล่า ๆ ไม่ทำอะไรสักอย่างนี่ก็คือความฝันของคนขี้เกียจอย่างฉันเลยนะ!"เจียงเซิงยิ้มอย่างเก้กังผู้หญิงคนนี้ซื่อ ๆ จนรู้สึกว่าน่ารักและในตอนนี้ พนักงานสาวคนหนึ่งเคาะประตูอย่างร้อนลน จากนั้นเดินเข้ามาแล้วพูดขึ้น: "พี่โซรา ด้านนอกมีสามีภรรยาคู่หนึ่งท่าทางฉุนเฉียว เอะอะว่ามาหาคุณ!""หาฉันท" เจียงเซิงหยุดชะงัก ลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามพนักงานสาวออกไปดู หลัวหยิงก็ตามอยู่ด้านหลังเธอ"เรียกผู้รับผิดชอบของที่นี่ออกมาให้ฉัน ได้ยินไหม!"สามีภรรยาที่อยู่ข้างนอกอายุประมาณสี่สิบห้าสิบกว่า ๆ แต่งเนื้อแต่งตัวไม่ได้ร่ำรวย แต่ก็ถือว่ามีฐานะอยู่หน่อยเจียงเซิงเดินเข้าไปถาม: "คุณทั้งสองคนมีธุระกับฉัน?"ผู้หญิงคนนั้นเหลือบมองเธอแล้วตอบกลับ: "พวกเราคือพ่อแม่ของวั่งฉี"พูดจบ สีหน้าของเจียงเซิงกับหลัวหยิงตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัดเจียงเซิงยิ้ม: "ที่แท้ก็คุณวั่งกับคุณนายวั่ง เข้าไปคุยข้างในห้องไหมคะ?""หึ เข้าไปคุยในห้องคงไม่ต้องแล้วล่ะ วันนี้พวกเราคุยกันตรงนี้แหละ ถามเรื่องของลูกสาวของพวกเราจากเธอต่อหน้าทุกคน"คุณนายวั่งแสดงออกอย่างเย็นชามาก: "พวกเราไปสอบถามที่ค่ายฝึกแล้ว พวกเขาพูดว่าลูกสาว
ประการที่สอง ในค่ายฝึกอบรมเป็นวั่งฉีที่คิดหาวิธีทำร้ายฉันมาโดยตลอด ถึงขั้นปรักปรำใส่ร้ายป้ายสีฉัน เรื่องนี้ฉันไม่คิดเล็กคิดน้อยแล้วประการที่สาม สาเหตุการเสียชีวิตวั่งฉีนั้นแปลกมาก ไม่ว่าจะเป็นการฆ่าตัวตายหรือการฆาตกรรม ตำรวตกำบัวจัดการกับเรื่องนี้อยู่แต่ถ้าพวกคุณต้องการโยนความผิดทั้งหมดให้ฉัน งั้นฉันทำได้แค่ให้พวกคุณไปหาทนายความมาคุยกับฉันแน่นอนว่าหากยื่นฟ้องแล้วอาจจะไม่ได้รับผลตามที่พวกคุณต้องการเพราะมันไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน ฉันตกเป็นเหยื่อ ผู้เสียชีวิตก็ตกเป็นเหยื่อ ถ้าหากเอาเรื่องนี้ผลักดันมาที่ฉัน งั้นฉันเจียงเซิงจะไม่ยอมให้ตัวเองเป็นแพะรับบาปแน่นอน "เจียงเซิงพูดเสียงดังทุกคนได้ยินอย่างชัดเจนหากเธอเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จริงๆ เธอจะไม่มีความมั่นใจแบบนี้คุณนายวั่งนิ่งอึ้งอย่างเห็นได้ชัด ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรชั่วขณะคุณวั่งปลอบใจภรรยาของตัวเองอย่างเก้กัง: "ไอ้หยา พวกเราต้องคุยกับคนเขาดี ๆ หน่อยสิ คุณร้อนใจอะไร""คุณกลัวมีปัญหาแต่ฉันไม่กลัว ลูกสาวเสียชีวิตไปแล้ว ฉันยังจะต้องสนใจอะไร?"คุณนายวั่งส่งเสียงไม่พอใจ: "เธอก็แค่อาศัยท่านเจ๋วไม่ใช่เหรอ เธอเป็นภรรยาของท่านเจ๋ว ต่
ไม่สู้พวกคุณจ่ายค่าเสียหายทางจิตให้ฉันก่อน แล้วฉันจะจ่ายค่าชดเชยให้พวกคุณ? "“เธอ……”คุณนายวั่งรู้สึกจุก คนคนนี้ทำไมจัดการได้ยากขนาดนี้นะ?"เงินของใครลอยมากับลมบ้าง ต่างก็หามาด้วยความเหนื่อยยาก เป็นเพราะการถึงแก่กรรมของลูกสาวของคุณ คิดว่าสามารถใช้ประโยชน์เรื่องนี้มาหลอกเอาเงินจากฉันได้เหรอ?"เจียงเซิงสีหน้าเคร่งขรึมลงเรื่อย ๆ น้ำเสียงก็ไม่มีความเกรงใจอีกต่อไป: "ถ้าหากพวกคุณมาสร้างเรื่องงั้นก็ไปสร้าง ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดไม่กลัวทำลายชื่อเสียง แต่หลังจากนี้พวกคุณควรรับผิดชอบแบบไหนนั่นก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันหลอกลวงมาจนถึงตัวฉันแล้ว ถ้าหากฉันเจียงเซิงไม่พูดอะไรสักหน่อย คนอื่นจะคิดว่าฉันกลั่นแกล้งได้ง่าย ฉันก็ไม่ได้โง่"เธอพูดจบก็หันหน้าพูดกับหลัวหยิง: "เชิญพวกเขาออกไปเถอะ"หลัวหยิงพยักหน้า: "ได้เลยค่ะ"เธอเดินไปตรงหน้าทั้งสองท่าน: "ขอโทษนะคะ หากคุณโวยวายพอแล้วก็กลับไปเถอะ ไม่อย่างนั้นอีกเดี๋ยวพวกคุณผู้อาวุโสทั้งสองคนจะเสียหน้า"ถ้าหากถูกตอกหน้าต่อผู้คน เธอเป็นกังวลแทนหนังหน้าของผู้อาวุโสทั้งสองว่าจะอดกลั้นไว้ไม่ได้ผู้อาวุโสตระกูลวั่งทั้งสองโมโหอย่างมาก แต่ก็พูดอะไรไม่ได้ ทำได้แค่พาก
ด้วยเหตุนี้ ชาวเน็ตจำนวนมากไปตั้งคำถามที่เฟซบุ๊กของเจียงเซิง แต่ก็มีชาวเน็ตบางส่วนคิดว่าสามีภรรยาคู่นี้มาเกาะกระแสในเมื่อกระแสที่เจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งจดทะเบียนสมรสกันยังไม่ผ่านไป สามีภรรยาคู่นี้ก็ออกมาพูดยืนยันว่าเจียงเซิงบีบคั้นลูกสาวของพวกเขาจนตาย"ไม่ใช่ว่าคุณเจียงบีบบังคับคนอื่นจนตายจริง ๆ หรอกนะ?"“อย่าด่วนสรุปไปเร็วนัก ไม่เห็นเหรอ ข่าวที่เกี่ยวกับคุณเจียงผ่านไปไม่กี่วันก็ถูกตอกหน้าอย่างรวดเร็ว”“แต่ถ้าครั้งนี้เป็นเรื่องจริงล่ะ?”การพูดคุยของพนักงานสองสามคนหยุดลงในตอนที่เจียงเซิงปรากฏตัว พวกเขาได้ยินว่า ไม่กี่วันก่อนผู้ช่วยซูถูกคุณเจียงตบหน้าเพราะเรื่อง "แพร่กระจายข่าวลือ"ยิ่งกว่านั้นท่านเจ๋วยังยอมให้คุณเจียงทำเช่นนี้ด้วย มีตัวอย่างนี้ ใครจะกล้าพูดจาซี้ซั้วอีก?หลัวหยิงติดตามเจียงเซิง อันที่จริงได้ยินการสนทนาของคนเหล่านั้นแล้ว: "พี่สะใภ้ พี่ไม่ต้องกังวล เรื่องนี้ท่านเจ๋วพูดไว้ว่าเขาจะจัดการ"เจียงเซิงหันไปมองเธอแล้วพูดเสียงเบา: " หลัวหยิง มีบางอย่างที่ฉันอยากมอบหมายให้เธอไปทำ"หลัวหยิงงุนงง: "เรื่องอะไรคะ?"เดินไปตรงหน้าลิฟต์ เธอตบไหล่ของหลัวหยิง: "เธอไปหาสามีภรร
“อย่าทำแบบนี้ เดี๋ยวจะมีคนมาอีก คุณปล่อยฉันไปสักครั้งอุ๊บ...”เจียงเซิง "ร้องขอความเมตตา" ด้วยความอ่อนโยน ใบหน้าที่สวยงามดวงตาที่สดใสทำให้คนหวั่นไหว ใครเห็นใครรักก้นบึ้งหัวใจของซือเย่เจ๋วแทบจะละลายแล้ว ผู้หญิงคนนี้วางเพลิงที่ก้นบึ้งหัวใจของเขาอย่างไม่เกรงกลัว จากนั้นก็ร้องขอเขาด้วยความน่าสงสารอีก ผู้ชายคนไหนบ้างจะสามารถรับได้?เขาหายใจเข้าลึก ๆ กอดเจียงเซิงเอาไว้เฉย ๆ: "อย่าเพิ่งขยับ ให้ฉันกอดหน่อย"เจียงเซิงไม่กล้าขยับ เพราะเธอรู้ว่าซือเย่เจ๋วกำลังควบคุมตัวเองอยู่ บางทีถ้าเธอขยับ สติเส้นสุดท้ายของคนบางคนก็จะขาดแล้ว"คุณหายแล้วยัง?""..."“ซือเย่เจ๋ว ให้ฉันเล่าเรื่องตลกให้คุณฟังไหม? รับรองว่าคุณจะจิตใจสงบในทันที”คนที่อยู่ด้านหลังบีบคั้นคำว่า "อืม" ออกมาจากในลำคอ อืมที่แฝงไปด้วยความสงสัย"น้ำตาลหนึ่งเม็ด มันเดินอยู่ที่ขั้วโลกเหนือ มันรู้สึกหนาวมาก ดังนั้นมันจึงกลายเป็นน้ำตาลกรวด"ซือเย่เจ๋ว: "..."ความสนุกของผู้หญิงบางคนก็เกิดขึ้นแล้ว: "ยังมีอีกนะ กะหล่ำปลีหัวหนึ่ง เดินไปด้วยถอดเสื้อผ้าไปด้วย สุดท้ายมันหายไปแล้ว!"ซือเย่เจ๋วก้มหน้าลงจูบปากของเธอที่พูดพร่ำไม่หยุด“พี่สะใภ้
ตอนนี้ลูกสาวเสียชีวิตแล้ว ตอนนั้นเธอยังหวังว่าลูกสาวจะได้รับใช้อยู่ข้างกายคนที่มีอำนาจเหล่านั้น และมีรายได้สูงตอนนี้เธอทำได้แค่ทุ่มหมดตัวเจียงเซิงฉีกยิ้มมุมปาก: "เงินชดเชย พวกคุณต้องการเท่าไหร่?"“ไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยก็ต้องยี่สิบห้าล้านบาทไหม?”เห็นคุณนายวั่งเรียกราคาสูงมาก หลัวหยิงแทบจะอดกลั้นอารมณ์ไม่อยู่ยี่สิบห้าล้านบาท ห้าร้อยบาทเธอยังคิดว่าเยอะ!เจียงเซิงยิ้ม: "หลังจากที่คุณได้รับเงินยี่สิบห้าล้านบาทล่ะ รอให้ใช้หมด ก็มาเอากับฉันอีก?"คุณนายวั่งนิ่งอึ้ง เหมือนกับถูกจับความคิดของตัวเองได้ เธอพูดด้วยความโมโห: "เธอหมายความว่าอย่างไร ตกลงจะให้ม้ั้ย พูดมาคำเดียว?"“หลัวหยิง โดยทั่วไปกฎหมายเรียกสถานการณ์นี้ว่าอะไร?” เจียงเซิงไม่ตอบคำพูดของคุณนายวั่ง แต่กลับถามคนที่อยู่ข้างกายหลัวหยิงครั้งนี้ไม่ทำให้ผิดหวัง: "การขู่กรรโชก สามปีขึ้นไป แต่ยี่สิบห้าล้านบาทจำนวนมหาศาลเลยนะ ฉันเดาว่าอย่างน้อยต้องติดคุกสิบห้าปี"ผู้อาวุโสทั้งสองสีหน้าไม่ดี"ทำไมถึงเรียกว่าขู่กรรโชกล่ะ? เธออยากจะใส่ร้ายพวกเราชัด ๆ!" คุณนายวั่งพูดอย่างร้อนรนเจียงเซิงหยิบสัญญาออกมาจากกระเป๋า ซองใส่สัญญายังเป็นข
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ