เธอต้องหาทางห้ามไว้โดยเร็วที่สุดณ Soul จิวเวลรี่สตูดิโอในตอนเย็น ทุกคนในแผนกก็ทยอยเลิกงานกันไปแล้วซือเย่เจ๋วมาที่ห้องทำงานของเจียงเซิง พับแขนแล้วพิงประตู มองเจียงเซิงยืนอยู่หน้าชั้นหนังสือเพื่อค้นหาข้อมูล รูปร่างที่สวยงามที่ดึงดูดสายตาของเขาทำให้เขาไม่อยากละสายตาไปเจียงเซิงไม่ได้สังเกตเห็นคนที่เดินมาหาเธอแม้แต่นิดเลย เธอก้มศีรษะลงเพื่อพลิกอ่านข้อมูล เพียงแต่รู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่เข้ามาใกล้จากด้านหลังอย่างกะทันหันชายคนนั้นกอดเธอจากด้านหลัง ซึ่งทำให้เจียงเซิงตกใจแทบแย่ แต่เธอรู้ว่าเป็นใครโดยไม่ต้องหันหน้าไป เธอกัดฟันแล้วพูดว่า "ซือเย่เจ๋ว คุณอีกแล้ว... ""ผมทำไม ผมแค่อยากจะกอดคุณก็เท่านั้น" ชายคนนั้นหัวเราะเบาๆ ดังมาจากเหนือศีรษะ ทำไมเขาถึงไม่อยากปล่อยภรรยาตัวน้อยในอ้อมแขนของเขามากนักเจียงเซิงหายใจเข้าลึกๆ เมื่อคิดถึงฉากที่ยุ่งเหยิงเมื่อคืนนี้ เธอก็รู้สึกว่าแก้มของเธอเริ่มร้อนขึ้นมาและก็รู้สึกอับอายเล็กน้อยแต่เธอไม่ต้องการที่จะยอมรับว่าเธอไม่สามารถต้านทาน "การล่อใจด้วยความหล่อ" ของเขาเมื่อคืนนี้ได้จริงๆ"ถึงเวลาไปรับเฉินเฉินเลิกเรียนแล้ว" ซือเย่เจ๋วก้มศีรษะลง วางคางไว้
"ขอบใจน้องสะใภ้นะ ฉันได้ยินมาว่าช่วงนี้น้องสะใภ้ดูแลแม่ที่โรงพยาบาลตลอด คงเหนื่อยแย่แล้ว"เซียวหลานยิ้ม "นี่เป็นหน้าที่ที่ลูกสะใภ้ควรทำอยู่แล้วค่ะ"เจียงยี่แอบเหลือบมองเซียวหลานแวบหนึ่ง และต้องยอมรับว่าน้องชายของเขามีรสนิยมดีมากเมื่อเทียบกับภรรยาของตัวเองที่ดูหยาบมาก รูปร่างของเธอมีน้ำหนักมากขึ้นตั้งแต่คลอดลูก และหลายเป็นหญิงแก่ที่ไม่น่าสนใจเอาเสียแม้ว่าเซียวหลานจะมีอายุเยอะแล้วด้วย แต่เธอก็ดูอ่อนและมีเสน่ห์มากวังเยี่ยนสังเกตเห็นว่าสามีของเธอกำลังแอบมองเซียวหลาน และสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันที เธอไอออกมา และเจียงยี่ก็กลับมามีสติ ยิ้มอย่างเก้ๆ กังๆ และเปลี่ยนเรื่องทันที "ใช่แล้ว ทำไมไม่เห็น เวยเวยและเซิงเซิงล่ะ"ผู้เฒ่าเจียงที่อยู่ข้างๆ พูดกับเจียงเซิ่น "ใช่สิ ยังไงเวยเวยก็เป็นลูกสาวของนาย ฉันว่าถ้าจะเรียกเวยเวยกลับมากินข้าวด้วยกันคงจะดีนะ"เซียวหลานดีใจที่เห็นว่าผู้เฒ่าเจียงมีความตั้งใจนี้ แต่เธอไม่กล้าที่จะแสดงมันออกมาให้ชัดเจนเกินไปเจียงเซิ่นคิดถึงเจียงเวย ก็จริง ที่เขาไม่ได้เห็นลูกสาวคนนี้มาระยะหนึ่งแล้ว ไม่ว่าเธอจะเป็นอะไร เธอก็ยังเป็นลูกสาวของเขา"ให้เซียวหลานเรียกเธอ
เธอแอบเหลือบมองผู้คนที่มีสีหน้าต่างกันบนโต๊ะ และกำลังคิดอะไรอยู่ผู้เฒ่าเจียงออกจากโรงพยาบาล ลุงของเธอและวังเยี่ยนมาถึงเมืองหลวง และแม้แต่เซียวหลานและเจียงเวยก็กลับมายังตระกูลเจียงด้วยเกรงว่างานเลี้ยงครอบครัวคืนนี้จะไม่ใช่แค่งานเลี้ยงธรรมดาขนาดนั้นตลอดมื้ออาหาร อาจเป็นเพราะผู้คนที่มีความคิดต่างๆ นาๆ มารวมตัวกันถึงทำให้บรรยากาศน่าตึงเครียกมากวังเยี่ยนมองไปที่เจียงเซิงแล้วถามว่า "เซิงเซิง ได้ยินมาว่าเธอก่อตั้งสตูดิโอจิวเวลรี่ รายได้เป็นอย่างไรบ้างล่ะ"ดูเหมือนมีจุดมุ่งหมาย ไม่ใช่ถามเพราะเป็นห่วงใยผู้เฒ่าเจียงตอบอย่างเหยียดหยาม "แน่นอนว่ารายได้ของเธอต้องไม่เลวล่ะสิ ด้วยความช่วยเหลือของท่านเจ๋ว จะแย่ได้อย่างไร แม้ว่าเธอไม่ต้องทำงานอะไรเลย เธอก็ยังสามารถใช้ชีวิตแบบหรูหราได้""ท่านเจ๋ว? ก็คือคนๆ นั้นที่มาจากตระกูลซือเหรอ?" เจียงยี่ประหลาดใจ หลานสาวคนนี้มีความสามารถจริงๆ"จะมีใครอีกล่ะนอกจากท่านเจ๋วจากตระกูลซือนั่น เซิงเซิงนี่ได้เป็นหน้าเป็นตาให้กับตระกูลเจียงของเราจริงๆ ก็ต้องขอบคุณหน้าตาของเธอนี่น่ะ" ผู้เฒ่าเจียงแอบพูดประชดประชัน เจียงเซิงที่มีทุกวันนี้ได้ก็เพราะหน้าตาที่ช่างยั่
"ใช่ ผมจะมอบไวน์เนอร์ จิวเวลรี่ให้กับเซิงเซิงเท่านั้น มีเพียงลูกสาวของผมเท่านั้นที่มีสิทธิ์รับช่วงต่อ"ในที่สุด เจียงเซิ่นก็เข้าใจได้ชัดเจนว่าพวกเขากำลังวางแผนที่จะบังคับให้เขาส่งมอบหุ้นของไวน์เนอร์ จิวเวลรี่ออกมาหากเป็นเช่นนั้น เขาก็ไม่จำเป็นต้องรออะไรอีก "เรื่งหุ้นของไวน์เนอร์ จิวเวลรี่ ผมได้ให้ทนายความเขียนชื่อของเซิงเซิงเรียบร้อยแล้ว""ลูกเอ๋ย นายบ้าไปแล้วหรือไง นายให้ไวน์เนอร์ จิวเวลรี่แก่เธอ…""ตอนที่ม่านม่านและผมก่อตั้งไวน์เนอร์ จิวเวลรี่ พวกคุณเคยสนับสนุนอะไรให้หรือไม่"เจียงเซิ่นมองไปที่ผู้เฒ่าเจียง และเยาะเย้ย "แม่ ไม่ใช่ว่าผมไม่กตัญญูคุณ ในเมื่อคุณไม่เคยเห็นผมเป็นลูกชายของคุณ และไม่เห็นเซิงเซิงเป็นหลานสาวของคุณด้วย งั้นผมก็ไม่จำเป็นต้องสุภาพต่อคุณอีก""แก..." ผู้เฒ่าเจียงโกรธมากจนตัวสั่นไปทั้งตัว แต่เหมือนมีอะไรขวางคอของเธอทำให้เธอพูดอะไรไม่ออกอาหารเย็นจบลงในลักษณะเงียบๆ เมื่อวังเยี่ยนและเจียงยี่จากไป ก็ไม่มีใครสังเกตเห็น เจียงยี่ขยิบตาส่งสายตาที่มีเลศนัยให้กับเซียวหลานแต่เจียงเซิงที่เดินอยู่ข้างหลังกลับสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง เมื่อเธอเดินผ่านเซียวหลานด้วยสายตาที่ม
ซือเย่เจ๋ว "..."เมื่อต้องถามว่าสิ่งที่ซือเย่เจ๋ว ชายผู้ทรงพลังและเด็ดเดี่ยวในโลกธุรกิจกลัวมากที่สุดคืออะไร อีกหลายปีข้างหน้า เขาจะตอบว่าเขากลัวภรรยาโกรธ แต่ตอนนี้ เขากลัวว่าตัวเองจะโกรธตาย เพราะความคิดฟุ้งซ่านของเด็กๆ...เจียงเซิงกำลังคุยโทรศัพท์กับใครบางคนที่ระเบียง โดยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายพูดอะไรไป เจียงเซิงก็ลดขนตาลง "งั้นก็รบกวนทนายจ้าวแล้วค่ะ อีอย่าง โปรดอย่าบอกพ่อของฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยค่ะ"คนในสายพูดอะไรสองสามคำอีก เจียงเซิงพยักหน้า "ค่ะ พรุ่งนี้เจอกันค่อยว่ากันอีกทีเถอะ"เจียงเซิงวางโทรศัพท์ลง และมองดูวิวกลางคืนในระยะไกลด้วยสายตาเย็นชา อาหารเย็นในคืนนี้ ทำให้เธอเห็นจุดประสงค์ของผู้เฒ่าเจียงและครอบครัวของลุงของเธอได้ชัดเจนแล้วแม้ว่าพ่อของเขาจะยืนกรานที่จะยืนเคียงข้างเธอ แต่พวกเขาจะดูอ่อนแอไปหน่อยเมื่อเผชิญกับความทะเยอทะยานของผู้เฒ่าเจียงและครอบครัวของลุงวันนี้พวกเขาสามารถใช้วิธีบังคับให้พ่อส่งมอบหุ้นของไวน์เนอร์ออกมาได้ งั้นพรุ่งนี้พวกเขาอาจจะใช้วิธีปล้นเอาก็ได้ส่วนเซียวหลานและเจียงเวย...เซียวหลานฉลาดพอที่จะไม่ต่อต้านเธออย่างตรงๆ ในครั้งนี้ เพราะเธอจับจุดอ่อนของอีกฝ
เซียวหลานอธิบายอย่างอ่อนข้อให้ "แม่ ฉัน... ฉันว่าฉันกลับไปค้างคืนที่เดิมจะดีกว่าค่ะ""ค้างคืนที่เดิม? มันจะใช้ได้อย่างไร? " ผู้เฒ่าเจียงเห็นว่าเซียวหลานกลัวที่จะถูกเจียงเซิ่นรังเดียจ ดังนั้นเธอจึงเหลือบมองเจียงเซิ่นที่นิ่งเงียบก่อนพูดว่า "ในเมื่อนายตามภรรยาของนายกลับมาแล้ว งั้นก็ใช้ชีวิตให้ดีๆ สิ จะปล่อยให้ภรรยาของนายไปอยู่ข้างนอกทุกคืนแบบนี้ หากเรื่องถูกแพร่ออกไป มันจะฟังเข้าท่าไหม""แม่ แม่อย่าตำหนิเซิ่นเลย มันเป็นความผิดของฉันเอง" เซียวหลานโทษตัวเองทั้งหมด และภาพลักษณ์ที่เป็นภรรยาใจดีและเอาใจใส่ได้น่าประทับใจมากทีเดียวเจียงเซิ่นวางถ้วยชาลง แม้ว่าเขาจะยอมให้สองแม่ลุกเซียวหลานได้กลับตระกูลเจียงแล้ว แต่เรื่องที่เซียวหลานแกล้งท้องนั้นยังคงเป็นปมในใจของเขาแต่ว่า เมื่อเห็นว่าทัศนคติของเซียวหลานได้เปลี่ยนไปไม่น้อย เจียงเซิ่นจึงพูดช้าๆ "ในเมื่อกลับมาแล้ว ต่อไปก็อยู่บ้านต่อเลย"ถึงยังไงพวกเขายังไม่ได้หย่าจริงๆ หากมีข่าวลือแพร่สะพัด ผู้คนก็จะซุบซิบนินทาเอาเซียวหลานยิ้มอย่างอ่อนโยน "ค่ะ งั้นต่อไปฉันจะอยู่บ้านค่ะ"จู่ๆ เจียงเซิ่นก็ได้รับโทรศัพท์ "ทนายจ้าว?"เมื่อผู้เฒ่าเจียงได้ยินคำว
ผู้เฒ่าเจียงได้ยินคำพูดของวังเยี่ยน หลานชายคนเดียวที่เธอรักมากที่สุด และตอนนี้ลูกชายของเธอยืนกรานที่จะมอบไวน์เนอร์ จิวเวลรี่ให้กับเจียงเซิง เธอจะไม่ร้อนใจได้อย่างไร?เธอตะคอก "ในเมื่อใช้วิธีอย่างเปิดเผยไม่ได้ผล งั้นเราก็จะแย่งลับๆ!"วันรุ่งขึ้น ผู้เฒ่าเจียงไปที่ลอว์เฟิร์มเพื่อขอสัญญาโอนหุ้นคืนในฐานะแม่ของเจียงเซิ่น และทนายจ้าวก็มอบสัญญาที่ร่างไว้ให้เธอโดยไม่ลังเลเลยหลังจากที่ผู้เฒ่าเจียงจากไป ทนายจ้าวก็โทรหาเจียงเซิง"คุณหนูเจียง เมื่อกี้มีผู้หญิงคนหนึ่งที่บอกว่าเธอเป็นแม่ของประธานเจียงมารับสัญญาไป ผมได้มอบสัญญาให้กับเธอแล้ว" ทนายจ้าวกล่าวเพราะเธอเคยบอกไว้ในวันนั้น ว่าถ้ามีคนมาขอสัญญา ก็มอบสัญญาที่ร่างไว้แก่คนนั้นถึงยังไงต่อให้สัญญาที่ไม่มีผลตกไปอยู่ในมือของใครก็ตาม มันก็ไร้ประโยชน์อยู่แล้ว สัญญาฉบับจริงรับได้โดยบุคคลที่ได้รับอนุญาตด้วยเจ้าของเท่านั้นเจียงเซิงยิ้มและพูดว่า "ขอบคุณมาก งั้นฉันจะต้องรบกวนคุณแสดงละครในวันมะรืนนี้ให้แล้วนะค่ะ"หลังจากวางสาย ดวงตาของเจียงเซิงก็อดไม่ได้ที่จะเย็นชาลง คราวนี้เธอต้องการให้พ่อของเธอเห็นธาตุแท้ของคนที่เรียกว่าครอบครัวของเขาเป็นอย่างไร
"อะไร... แม่หมายถึงอะไร?" เจียงเซิ่นไม่คิดว่าแม่ของเขาจะจ้างทนายความด้วย"สวัสดีครับ ประธานเจียง ผมคือนายเหอ ซึ่งเป็นทนายความของผู้เฒ่าเจียง ผู้เฒ่าเจียงมอบหมายให้ผมมาที่นี่ ผมมีเอกสารเรื่องสิทธิ์โอนหุ้นไวน์เนอร์ จิวเวลรี่ คุณลองดูครับ"เจียงเซิ่นหยุดชะงัก และเมื่อเขาเห็นว่าผู้มีอำนาจในสัญญาโอนหุ้นในมือของเขาเปลี่ยนเป็นเจียงเฮง ใบหน้าของเขาก็อดไม่ได้ที่จะแย่ลงเพราะคนธรรมดาที่ตาเฉียบแหลมต่างก็มองออกทันทีว่าสัญญาโอนหุ้นนี้เป็นของปลอม และเจียงเซิ่นจะไม่รู้ได้อย่างไร"ลูกเอ๋ย นายก็เห็นแล้ว ว่าในสัญญาโอนหุ้นนี้เขียนชื่อของเฮงเอ๋อไว้ ดังนั้น ไวน์เนอร์ จิวเวลรี่จะเกี่ยวอะไรกับเจียงเซิงคนนั้นด้วยล่ะ?"ผู้เฒ่าเจียงตะคอกอย่างไม่แยแสหากไม่ใช่วังเยี่ยน ลูกสะใภ้คนโตมาเตือนเธอ นังตัวดีเจียงเซิงคนนั้นคงจะใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้เพื่อรับสิทธิ์การโอนหุ้นในวันนี้ไปแล้วถึงยังไงสัญญาฉบับนี้เป็นลูกชายของเธอมอบออกไปให้ เธอแค่ให้ใครบางคนมาแก้ไขมันสักนิดก็เท่านั้นเจียงเซิ่นโกรธจนหัวเราะออกมา เขาโกรธที่แม่ของเขากล้าใช้วิธีนี้เพื่อห้ามเขา สิ่งที่น่าตลกคือวิธีที่เธอใช้นั้นมันต่ำทรามและไม่เข้าท่ามากปร
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ