ผู้ชายชั่วนั้นยังอยากให้เธอมีลูกกับเขาอีกเหรอ?อย่าแม้แต่จะคิดเลย!"ไอ้สารเลว ไอ้หน้าด้าน วันๆ คิดแต่อยากจะมีอะไรกับฉันอยู่เรื่อย ฝันไปเถอะ!" เธอกำลังพูดพล่อยๆ พลางพับเสื้อผ้า และวางแผนจะเก็บข้าวของไปนอนที่ห้องนวนนวนโดยไม่รู้ว่าชายที่อยู่ข้างหลังเธอยืนพิงประตูโดยกอดแขนแล้วหรี่ตามองเธอเป็นเวลานานแล้วเมื่อได้ยินเสียงบ่นเขาเหมือนกำลังหงุดหงิดนั้น เขาไม่รู้สึกโกรธแต่อย่างใด แต่เป็นความจริงที่เขาอยากมีอะไรกับเธออยู่เรื่อยเมื่อเจียงเซิงหันกลับมาพร้อมกับชุดเสื้อผ้าในอ้อมแขนของเธอ ร่างกายของเธอก็สั่นอย่างรุนแรง และสีหน้าของเขาก็แข็งทื่อเล็กน้อยแม่งเอ๊ย!ประมาทไป!"ไม่ด่าแล้วเหรอ?" ซือเย่เจ๋วจ้องมองตรงที่เธอ พูดตามตรง เมื่อเธอดุเขาเธอดูมีพลังมากและก็น่ารักดีเจียงเซิง "..."เธอถือเสื้อผ้าอย่างใจเย็นแล้วเดินออกไป "คืนนี้ฉันจะนอนกับนวนนวน"ซือเย่เจ๋วก็ไม่ได้หยุดเธอไว้เพียงมองดูแผ่นหลังที่จากไปของเธอ เขาก็ยิ้มอย่างจนใจเดิมที เจียงเซิงยังกังวลว่าชายคนนั้นจะติดตัวเธอไม่ยอมเลิก แต่เธอคิดมากไป และคิดว่าเธอคงจะนอนหลับฝันดีกับนวนนวน ใครจะไปรู้ว่าเธอจะถูกท่าที่นวนนวนนอนไม่นิ่งนั้นปลุ
ในอดีต ถ้าเธอโวยวายใช้อารมณ์ พ่อของเธอก็มักจะตามใจเธอ แต่ตอนนี้เขาไม่แม้แต่จะสนใจลูกสาวอย่างเธอเลยด้วยซ้ำเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะเจียงเซิง!เซียวหลานเงียบไป เธอกำลังคิดอะไรอยู่หลังจากที่เจียงเวยกินข้าวเช้าแล้ว เซียวหลานถึงไปห้องหนังสือของเจียงเซิ่นเธออยากเห็นว่าไอ้แก่คนนี้กำลังทำอะไรอยู่กันแน่แต่หากไม่เข้าไปดูก็ไม่รู้ พอดูแล้วก็ต้องตกใจ ปรากฎว่าของเก่าๆ เหล่านี้คือของที่ระลึกที่กงม่านม่านทิ้งไว้!ดวงตาของเซียวหลานแดงก่ำ ปรากฎว่าเขาซ่อนตัวอยู่ในห้องหนังสือหลายวันนี้เพื่อจัดเก็บข้าวของของเธอ!ให้ตายเถอะ ไอ้แก่คนนี้ยังคงคิดถึงคนตายคนนั้นจริงๆ!เซียวหลานเดินไปพลิกดูของที่ระลึกเหล่านั้น และทำให้เธอประหลาดใจคือไม่มีรูปถ่ายของกงม่านม่านด้วยซ้ำ พวกมันล้วนเป็นเศษซากที่ไม่มีค่าก็ไม่รู้ว่าเขายังเก็บของเหล่านั้นไว้เพื่ออะไรทันใดนั้น เธอก็พลิกเห็นกล่องไม้สีแดงที่ด้านล่างลิ้นชาได้เซียวหลานหยิบกล่องไม้ในมือแล้วเปิดออก มันเป็นสร้อยข้อมือสไตล์เรโทรที่ละเอียดมาก ทำจากอาเกตสีน้ำเงินเขียวและฝังด้วยขอบทองที่มีลวดลายสร้อยข้อมือเส้นนี้ดูไม่มีค่าเท่ากับหยก เป็นแค่สร้อยข้อมือที
เจียงเซิงตกตะลึง และขนตาของเธอก็ร่วงหล่น"ทำไมจู่ๆ คุณถึงยอมบอกฉันในตอนนี้ล่ะ"เขาไม่เคยพูดถึงแม่ของเธอมาก่อน จนเธอคิดว่าเขาลืมแม่ของเธอซึ่งเป็นภรรยาคนแรกของเขาไปเสียสนิทแล้วแม้กระทั่ง เธอยังรู้สึกเศร้าหมองเมื่อเห็นเขาปกป้องสองแม่ลูกเจียงเวยและเซียวหลานเจียงเซิ่นเห็นความผิดหวังในดวงตาของเธอ และเขาก็รู้สึกหนักใจขึ้นมา "ฉันไม่พูดเพราะฉันไม่อยากนึกถึงมัน""ฉันอยากรู้มาตลอดว่าคุณเกลียดแม่ฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?"ขนาดให้กำเนิดลูกแก่เขา สุดท้ายแล้วไม่สามารถเทียบได้กับความอ่อนโยนของเซียวหลานได้?เจียงเซิ่นกัดฟัน "เรื่องระหว่าฉันกับแม่เธอ เธอไม่รู้เรื่องเลย เธอคิดว่าเกลียดเธอจริงๆ เหรอ?"เจียงเซิงหันหน้าออกไปอย่างเฉยเมยและไม่พูดอะไร"เซิงเซิง อันที่จริงเธอคงไม่รู้สินะ ตอนที่ฉันแต่งงานกับแม่ของเธอ เป็นแม่ของเธอต่างหากที่มาหาฉัน เดิมทีเราสองคนแต่งงานกันไม่ใช่เพราะความรู้สึกของเราหรอก"ไม่ใช่เพราะความรู้สึกงั้นเหรอ?เจียงเซิงหยุดชะงัก สีหน้าดูประหลาดใจเล็กน้อยสีหน้าของเจียงเซิ่นจริงจังขึ้น "ตอนนั้นฉันยังเด็กและมีความฝันมากมาย และต้องการเริ่มต้นธุรกิจจากเมืองจินเฉิงไปจนถึงเมืองหลวง แต่ฉ
เขาใช้เวลาสองปีโดยหวังที่จะสร้างความประทับใจให้เธอ แต่นอกจากมีลูกคนหนึ่งแล้ว เธอไม่เคยรักเขาเลยจนกระทั่งเจียงเซิงค่อยๆ เติบขึ้น และสุขภาพของเธอเริ่มแย่ลง เขาจึงตระหนักว่าเธอเลือกที่จะมีลูกให้เขาเป็นเพราะเธอเหลือเวลาไม่มากแล้วนี่ถือว่าเป็นการชดเชยที่เธอมีต่อเขา เป็นค่าชดเชยที่น่าขำ เธอหลอกลวงเขาชัดๆ ทำให้เขาไม่สามารถมีความรักกับเธอได้ เขายังแค้นใจอยู่ไม่หายแม้หลังจากที่เธอเสียชีวิตแล้ว!จนกระทั่งเธอเสียชีวิตแล้ว เธอก็ไม่ได้ทิ้งคำพูดแม้แต่คำเดียวไว้ให้และหลายปีที่ผ่านมา ขณะที่เขามองดูเจียงเซิงยิ่งโตขึ้นยิ่งเหมือนแม่ของเธอ เขาก็ยิ่งเจ็บปวดใจมากขึ้นที่เขารับเซียวหลานและเจียงเวยกลับมา และหันความสนใจไปที่ เจียงเวย ไม่ใช่ว่าเขาไม่สนใจลูกสาวอย่างเจียงเซิง เขาแค่ไม่อยากให้ตัวเองคิดถึงกงม่านม่านอีกต่อไปเท่านั้นเจียงเซิ่นนั่งบนโซฟาโดยใช้ฝ่ามือจับหัวในขณะเดียวกันสีหน้าของเจียงเซิงซีดเผือดลง เธอคิดมาโดยตลอดว่าพ่อของเธอเป็นคนนอกใจเธอ และไม่ซื่อสัตย์ต่อชีวิตการแต่งงานของเธอ เพราะก่อนหน้านี้แม่ของเธอดีกับเธอมาก จนเธอมองไม่ออกว่ามีเหตุผลอะไรที่ทำให้แม่ของเธอไม่มีความสุขได้เธอคิดว่าแม่ของ
เจียงนวนนวนหัวเราะคิกคัก"ไอ้เด็กเวร แกหัวเราะทำไม!" เจียงเวยโกรธเกรี้ยวกับเสียงหัวเราะของเธอจนเธอหน้าเขียวคล้ำถมึงทึงทันที เธอยังไม่ได้คิดบัญชีกับพวกเขาเลยเซียวเถียนเถียนขวางทางเจียงเวย "เจียงเวย เธออยากทำอะไรล่ะ นี่คือร้านอาหาร ถ้าเธออยากทำตัวเหมือนมนุษย์ป้าก็ออกไปที่ท้องถนนซะ จะได้ไม่ส่งผลกระทบต่อการรับประทานอาหารของลูกค้าคนอื่นๆ "ชายสวมหูฟังที่กำลังรออยู่ที่แผนกต้อนรับเกิมทีแค่อยากจะแพ็คอาหารกลางวันกลับบ้าน แต่เนื่องจากมีเสียงรโวยวายทำให้เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่เรื่องแบบนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา และเขาก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งด้วยลูกค้าคนอื่นๆ มองดูพวกเขาพร้อมกัน และดูเหมือนไม่พอใจบ้างพนักงานเสิร์ฟเดินเข้าไปห้ามเธอแต่กลับถูกเจียงเวยด่ายกใหญ่เลยโดยไม่คาดคิด ต่อมาเจียงเวยถึงหยิบถ้วยกาแฟบนโต๊ะแล้วหดใส่ไปที่เซียวเถียนเถียนทุกคนรอบตัวต่างตกใจกับการกระทำของเธอ"แม่บุญธรรม!" เจียงเหยียนเหยียนลุกขึ้นและถอดแว่นกันแดดออก เขาก็หยิบแก้วน้ำมาเทใส่หน้าเจียงเวยเช่นกันเนื่องจากเธอโดนน้ำ การแต่งหน้าของเธอจึงเลอะเทอะเล็กน้อย"ไอ้สารเลว แกกล้าดียังไงมา..."เจียงเวยยกมือขึ้นด้วยความโกรธจัด
ยิ่งไปกว่านั้น ใครบ้างในประเทศ Z ที่ไม่รู้ว่าแม่ของเขาเป็นคุณหนูที่มีฐานะสูงศักดิ์ของตระกูลกุงที่เป็นตระกูลขุนนางในประเทศ S?ลู่ลี่เซินไม่มีความรู้สึกต่อผู้หญิงคนนี้ และไม่ต้องการสนใจเธอ แต่เจียงเวยกลับจับเขาไว้ "ฉันขอโทษค่ะ เมื่อกี้เป็นฉันใจร้อนเกินไป ฉันต้องขอบคุณคุณที่ห้ามฉันทันเวลา...""ปล่อยผมไป..."ทันใดนั้นดวงตาของลู่ลี่เซินก็ตกลงไปที่สร้อยข้อมือในมือขวาของเธอ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปด้วยความตกใจ และก็คว้ามือของเธอไว้ทันที "สร้อยข้อมือนี้มาจากไหน?"เจียงเวยตกตะลึง ทำไมเขาถึงถามเกี่ยวกับสร้อยข้อมือนี้ได้ล่ะ?"ตอบผม!""นี่... นี่คือ..." เจียงเวยมักจะรู้สึกว่าเขาให้ความสำคัญกับสร้อยข้อมือนี้มาก หรือว่าสร้อยข้อมือที่แม่ของนังเจียงเซิงทิ้งไว้นั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาด้วยถ้าอย่างนั้น เธอก็...เธอกัดริมฝีปากแล้วตอบว่า "แม่ฉันเป็นคนให้ค่ะ"ลู่ลี่เซินจ้องมองเธอโดยไม่ละสายตาและถามชัดถ้อยชัดคำว่า "แม่ของคุณคือกุงม่านม่านเหรอ"เจียงเวยรู้สึกร้อนตัวเล็กน้อย แม่ของเธอจะเป็นกงม่านม่านได้อย่างไร แต่ความสัมพันธ์ระหว่างกงม่านม่านกับตระกูลลู่มันเป็นยังไงกัน?เธอถามอย่างระมัดระวังว่า "มีอ
เพราะสร้อยข้อมือนี้เป็นของแม่ของเจียงเซิง และเธอจะไปรู้ได้อย่างไรว่าแม่ของเจียงเซิงเป็นผู้ลากมากดี ถ้าเธอคืนสร้อยข้อมือกลับไปก็ไม่เท่ากับว่ายอมปล่อยให้พวกเขารับเจียงเซิงไปเหรอเธอจะปล่อยให้เจียงเซิงเอาฐานะนี้กลับไปแล้วมาเหยียบหัวสองแม่ลูกอย่างพวกเธอในอนาคตได้อย่างไร ?"แต่ฝั่งพ่อ..."เธอยังกังวลมากเซียวหลานคิดอย่างใจเย็นมาครู่หนึ่ง "พ่อของลูกน่าจะไม่รู้เรื่องนี้ ดังนั้นอย่าให้พ่อและย่าของลูกรู้เด็ดขาด""เวยเวย นำสร้อยข้อมือแล้วไประบุตัวกับคุณนายลู่ จากนั้นลูกก็หาทางโกหกให้เรื่องผ่านๆ ไป เมื่อลูกถึงตระกูลกุงแล้วแทนนังนั่นได้จริงๆ แล้ว ลูกอยากได้อะไรก็ได้หมดแหละ"เซียวหลานมีชีวิตที่ยากลำบากมาตั้งแต่เด็ก ถ้าเธอไม่ได้พบกับเจียงเซิ่น ตอนนี้เธอคงใช้ชีวิตอย่างประหยัดในห้องแคบเล็กๆ ที่ไหนก็ไม่รู้แน่นอนว่าเธอไม่อยากให้ลูกสาวของตัวเองเป็นเหมือนเธอ แม้ว่าเธอจะรู้ว่าทรัพย์สมบัติของตระกูลเจียงไม่ทำให้สองแม่ลูกพวกเธอร่ำรวย แต่อย่างน้อยพวกเธอก็มีชีวิตที่สงบสุขได้ถ้าลูกสาวมีหน้ามีตาได้และประสบความสำเร็จในอนาคต เธอในฐานะแม่ก็ย่อมได้รับประโยชน์จากมันด้วยสำหรับเจียงเซิ่นและผู้เฒ่าเจียง เธอจะ
เจียงเฉินเฉิน "เอ่อ"เขารีบวิ่งออกกลับไปลู่ลี่เซินหยิบข้อมูลบนโต๊ะขึ้นมาแล้วอ่านดูเจียงเฉินเฉิน...เจ้าเด็กน้อยคนนี้มีนามสกุลเจียงด้วยเหรอ?**ซือเย่เจ๋วได้ยินว่าเจียงเซิ่นมาพบเจียงเซิง และไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรไปบ้าง เจียงเซิงมีสีหน้าหดหู่ และอยู่ในห้องทำงานตลอดหรือว่าเจียงเซิ่นมาที่นี่เพื่อหาเรื่องกับเธออีกแล้ว?เมื่อนึกอย่างนั้น เขาก็ตรงไปที่ชั้นสิบหกทันทีซือเย่เจ๋วเดินไปถึงนอกห้องทำงานของเธอ เปิดประตู และเห็นเธอนั่งอยู่บนโซฟาโดยงอขาของเธอ ดูโดดเดี่ยวและเศร้าหมองอยู่แม้ว่าเธอจะเห็นซือเย่เจ๋วเข้า เธอก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองตามปกติผู้หญิงที่มักจะแสดงสีหน้าไม่เป็นมิตรของเธอตอนนี้กลับนั่งเงียบๆ เหมือนแมวที่ถูกทอดทิ้งที่น่าสงสารอย่างไรอย่างนั้น ซึ่งทำให้ซือเย่เจ๋วทำอะไรไม่ถูกในชั่วขณะเขาเดินไปหาเธอ มองลงที่เธอ จากนั้นยื่นมือออกไปลูบหัวของเธอดวงตาของเธอขยับเล็กน้อย และหลังจากที่เธอเงยหน้าขึ้นสบตาเข้ากับซือเย่เจ๋ว เธอก็หันหน้าและพึมพำว่า "อย่ามองฉันด้วยสายตานี้... ฉันไม่ต้องการความเห็นใจจากคุณ"รู้สึกเหมือนเขากำลังมองตัวเองราวกับว่าเธอเป็นคนน่าสงสารอย่างไรอย่างนั้นซือเย
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ