Share

บทที่ 14

last update Terakhir Diperbarui: 2024-11-26 15:49:39

“อ้อเปล่าครับ พอดีผมมาหาเพื่อน แต่จำไม่ได้ว่าหลังไหน” อชิระเอ่ยบอก ขณะนั้นจมูกเขาหมือนจะได้กลิ่นหอมอะไรบางอย่างลอยมาจากภายในบ้านของสัมปันนี แต่พอเห็นว่าคนในบ้านที่คาดว่าน่าจะเป็นแม่ของเธอใช้ไม้เท้าช่วยพยุงตอนเดินก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น 

“คุณป้าเป็นอะไรหรือครับ”

“อ้อ…ถูกรถชน” วรรณีเอ่ยบอกพร้อมก้มมองขาตัวเองไปด้วย

“หายดีแล้วใช่ไหมครับ”

“ก็ดีขึ้นมากแล้วนะ เหลือแค่ขาข้างที่หักมันยังแปล๊บๆ ลงน้ำหนักไม่ได้เท่าแต่ก่อน แต่ก็ใช้ไม้เท้าพยุงตัวเดินไปไหนมาไหนเอา” วรรณีเอ่ยบอกอาการตัวเอง 

“คุณป้าทำอะไรอยู่หรือครับ กลิ่นหอมลอยออกมาจนถึงตรงนี้” เพราะยังไม่อยากกลับตอนนี้ อชิระจึงเอ่ยถามเรื่องกลิ่นหอมๆ ที่ชวนให้เกิดความสงสัยว่าคือกลิ่นอะไร 

“อ้อ…ป้ากำลังอบขนมสัมปันนีน่ะ”

“ขนมสัมปันนี” ชื่อขนมที่ได้ยินมันสะดุดหูของอชิระ เพราะมันคือชื่อเดียวกับลูกสาวของบ้านนี้แน่นอน 
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ท่านประทานขา อย่ารังแกหนู   บทที่ 15

    แต่ยิ่งห้ามไม่ให้คิดถึงสมองของสัมปันนีกลับทรยศเพราะมันยิ่งคิดถึงอชิระ ทั้งๆ ที่เขาร้ายกาจกับเธออย่างไม่น่าให้อภัย เขาคือคนที่ทิ้งตราบาปไว้ให้ทว่าสุดท้ายเธอกลับห้ามความคิดไม่ได้ บ่อยครั้งขณะอยู่ที่ทำงานแล้วได้ยินชื่อเขา จู่ๆ ใจเธอมันก็เต้นรัว เธอพยายามเลี่ยงพบหน้าเขาแต่เหมือนฟ้าจะไม่เป็นใจเพราะยิ่งเลี่ยงก็ยิ่งได้เจอหน้าเขาบ่อยขึ้น“เหม่อคิดอะไรอยู่ครับลูกหนู”“เปล่า เมื่อกี้ปรัชญ์พูดว่าอะไรเหรอ” สัมปันนีเอ่ยถามเพราะเมื่อครู่เธอมัวแต่คิดเรื่องไม่เป็นเรื่องจนไม่ได้ยินว่าอีกฝ่ายพูดอะไร“สรุปจะกินอะไร ปรัชญ์จะได้ไปซื้อให้”“ไม่เป็นไรๆ ลูกหนูไปเองได้ ปรัชญ์ไปซื้อเถอะ”“โอเค” ปรัชญ์เอ่ยรับ ชายหนุ่มตามขายขนมจีบ สัมปันนีอยู่ เพราะเข้ามาทำงานที่นี่พร้อมกันเขาจึงใช้เรื่องนั้นเปิดประเด็นเข้ามาคุยทำความรู้จักกับเธอ แต่ไม่ว่าจะชวนไปไหนหลังเลิกงานสัมปันนีกลับไม่เคยตอบรับคำชวนเหล่านั้นจากเขาเลยสักครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นปรัชญ์ก็ยังคงเดินหน้าจีบไม่ถอย

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-27
  • ท่านประทานขา อย่ารังแกหนู   บทที่ 16

    “อืม”“เป็นใคร ฉันรู้จักไหม” ตุลย์เอ่ยถามอย่างสนใจ“ไม่รู้จัก พี่รีบหายรีบกลับเพราะตอนนี้ผมอยากมีเวลาไปปั้มลูกจะแย่แล้ว”“อะไรของนาย บทจะโสดก็โสดสนิท บทจะมีเมียอยากมีลูกก็เร็วจนตั้งตัวไม่ทัน”“ไม่ดีหรือไง”“ดี รอหน่อยแล้วกัน ฉันกลับไปแน่”“กลับมาแบบหายดีแล้วนะพี่ ไม่กลับแบบอื่น”“เออ พี่นายไม่ตายง่ายๆ หรอก แค่นี้แล้วกัน พยาบาลจับได้แล้วว่าฉันยังไม่นอน”“ครับ” อชิระเอ่ยรับก่อนจะวางสายไป จากการพูดคุยรับรู้ได้ถึงสภาพจิตใจของพี่ชายที่ยังดีอยู่ สภาพจิตใจดีก็สามารถต่อสู้กับความเจ็บป่วยได้ ส่วนเขาก็จะตั้งอกตั้งใจทำงานและปั๊มทายาทอย่างเต็มที่เช่นกันว่าแต่แม่ของลูกเขาจะยอมไหมนี่สิ ไม่ยอมก็ปล้ำแล้วกัน อชิระนั่งยิ้มกริ่มกับตัวเองทว่าพอพักเที่ยงรอยยิ้มที่ว่าก็เปลี่ยนมาเป็นความบึ้งตึงราวกับกำลังโกรธหรือหึงใคร

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-28
  • ท่านประทานขา อย่ารังแกหนู   บทที่ 17

    “เราไม่ได้สนิทกันถึงขนาดนั้นค่ะ”“โอเคๆ พี่ถามใหม่แล้วกัน ถ้าน้องลูกหนูไม่สะดวกให้พี่ไปส่งที่บ้านงั้นเราเปลี่ยนไปหาโรงแรมเงียบๆ นอนคุยกันสักคืนดีไหม” คำพูดที่ส่อไปถึงสันดานแสดงออกว่าไม่ให้เกียรติคนฟังแม้แต่น้อยดังมาจากชายตรงหน้า คำพูดเหล่านี้มันทำให้เส้นความอดทนของสัมปันนีขาดทันทีเพียะเสียงตบฉาดใหญ่ดังขึ้น ยิ่งรอบข้างเงียบเสียงมันก็ยิ่งดังเป็นพิเศษ ซึ่งคนที่ถูกตบจนหน้าหันคือเอกชัยซึ่งเวลานี้หันมาจ้องมองสัมปันนีราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ“ลูกหนูจะเอาเรื่องนี้ไปแจ้งฝ่ายบุคคลให้สอบสวนพี่”“เอาสิ แจ้งเลย พี่จะรอดูว่าฝ่ายบุคคลที่นี่จะทำอะไรพี่ได้ไหม” แทนที่จะกลัวทว่าเอกชัยกลับท้าทาย สัมปันนีกลับมาเพราะมั่นใจว่าไม่มีใครเอาผิดตนได้แน่นอนนั่นยิ่งทำให้เธอรู้สึกจนตรอกก่อนจะกวาดสายตามองหาทางหนีทีรอดทว่าอีกฝ่ายกลับรู้ทันจึงเข้ามารวบเธอเข้าไปกอดและพยามยามล่วงเกิน แต่ถึงอย่างนั้น สัมปันนีก็ไม

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-29
  • ท่านประทานขา อย่ารังแกหนู   บทที่ 18

    “ไม่คุ้มหรอกคะ เพราะฉันไม่ได้มีค่ากับใครมากขนาดนั้น”“ทำไมถึงด้อยค่าตัวเองแบบนั้น คนเราทุกคนมีค่าเสมอ เอาละ บอกทางไปบ้านเธอมา เดี๋ยวฉันขับรถไปส่ง” แม้จะอยากคุยอยากถามมากกว่านี้ทว่าอชิระก็เลือกที่จะตัดบทถามเรื่องเส้นทางไปบ้านของสัมปันนีแทน นั่นเพราะเธอพึ่งผ่านเรื่องน่าตกใจมาแล้วเกิดเขาเปิดเผยความลับบางอย่างเข้า กลัวเหลือเกินว่าสัมปันนีจะรับไม่ไหว“ไม่เป็นไรคะ ฉันกลับแท็กซี่ได้”“ไม่ได้ บอกแล้วไงว่าฉันจะไปส่ง” อชิระเอ่ยบอกอย่างหนักแน่นนั่นทำให้สัมปันนีไม่กล้าปฏิเสธ สุดท้ายก็ยอมบอกว่าบ้านเธออยู่ที่ไหนจากปั๊มน้ำมันมาถึงบ้านของสัมปันนีใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น อาจเพราะนั่งรถยนต์ส่วนตัวการเดินทางจึงรวดเร็วกว่ารถสาธารณะที่เธอใช้บริการทุกวันตลอดทางทั้งคู่แทบไม่ได้คุยอะไรกัน บ่อยครั้งที่ความสนใจของสัมปันนีไปอยู่ที่สร้อยบนข้อมือของอชิระ ใจหนึ่งก็อยากถามอีกใจก็ไม่กล้า ส่วนประธานหนุ่มก็จงใจขยับมือซ้ายบ่อยๆ เช่นกัน กระทั่งรถเลี้ยวเข้าไปจอดหน้ารั้

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-30
  • ท่านประทานขา อย่ารังแกหนู   บทที่ 19

    เพราะสูตรชงกาแฟทำให้หลังจากนั้นชมดาวและสัมปันนีสนิทกันมากขึ้น บ่อยครั้งที่ชมดาวจะแวะเวียนมาชวนสัมปันนีไปกินข้าวเที่ยงด้วย แวะเวียนเอาขนมมาให้บ้างอย่างวันนี้ก็มีผลไม้พร้อมกินมาฝาก“ขอบคุณค่ะคุณชมดาว”“พี่ชมดาวค่ะ” ชมดาวเอ่ยย้ำสรรพนามที่เธอนั้นอยากให้สัมปันนีเรียก“ค่ะพี่ชมดาว”“น้องลูกหนูสนใจมาทำงานเป็นเลขาไหมคะ”“เลขาหรือคะ” สัมปันนีกระพริบตาปริบๆ กับประโยคที่ได้ยิน“ใช่ค่ะ งานเลขา สนใจไหม”“ไม่ค่ะ ลูกหนูคิดว่าตัวเองไม่ถนัดงานอะไรพวกนี้”“ของแบบนี้มันเรียนรู้กันได้ ถ้าน้องลูกหนูสนใจพี่สอนงานให้สอนแบบหมดเปลือกไม่กั๊กวิชาค่ะ” ชมดาวยิ้มอย่างมีความหมาย แต่แทนที่จะตอบรับสัมปันนีกลับตั้งคำถามแทน“พี่ชมดาวจะลาออกหรือคะ”“ใช่ค่ะ พอดีว่าพี่จะย้ายตามสามีไปอยู่ต่างประเทศ นี่ก็พึ่งเข้าไปบอกท่านประธานม

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-30
  • ท่านประทานขา อย่ารังแกหนู   บทที่ 20

    เพื่อนๆ ที่นี่เขาแทบไม่มี อาจเพราะเขาไปเรียนต่อที่ต่างประเทศและใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นมาตลอดหลายปี เพื่อนๆ ก็พลอยห่างเหินไม่ค่อยได้คุยและเพราะแบบนั้นจึงไม่ค่อยสนิทเหมือนสมัยยังเป็นเด็ก รวมทั้งเขาเป็นคนไม่ค่อยชอบเข้าสังคมเสียเท่าไหร่ ออกจะมีโลกส่วนตัวสูงอีกด้วย“เรียกว่าป้าณีเฉยๆ ก็พอ คุณเคินอย่าเรียกเลย มันไม่เหมาะกับคนอย่างป้าหรอก”“ครับ” อชิระเอ่ยรับแม้จะอยากแย้งว่าวรรณีไม่ควรคิดอะไรเช่นนั้น แต่ยิ่งได้รับความไว้ใจเขากลับรู้สึกผิดกับเรื่องที่ได้ก่อไว้ แม้จะก่อไว้โดยไม่ได้ตั้งใจทว่ากลับอยากรับผิดชอบรวมถึงลากตัวคนก่อเรื่องที่ป่านนี้ยังอยู่ต่างประเทศมาลงโทษให้หลาบจำ“พอจะขูดมะพร้าวเป็นไหม”“ขูดมะพร้าวเหรอครับ” อชิระเอ่ยทวนประโยคที่ได้ยินด้วยความสนใจระคนสงสัย“ใช่ ท่าทางแบบนี้ขูดไม่เป็นแน่”“เป็นครับเป็น แค่ขูดมะพร้าว สบายมาก” เพราะไม่อยากให้วรรณีผิดหวังอชิระก็รีบรับคำว่าเขานั้นขูดมะพร้าวได้อย่าง

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-01
  • ท่านประทานขา อย่ารังแกหนู   บทที่ 21

    “ผมขอโทษครับ คืนนั้นผมเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะให้เรื่องมันเป็นแบบนั้นจริงๆ ทันทีที่เข้าไปทำงานผมก็จัดการส่งลูกน้องสองคนนั้นไปทำงานที่ต่างประเทศน่าจะก่อนลูกหนูจะเริ่มงานไม่นาน ส่วนแม่เล้าคนต้นเรื่องถ้ากลับมาเมืองไทยเมื่อไหร่ผมจะจัดการเธอทันที”“มิน่าล่ะ วันนั้นลูกหนูถึงคิดสั้นจะฆ่าตัวตาย” วรรณียกมือขึ้นลูบอกตัวเอง ถ้าวันนั้นเธอเข้าไปไม่ทันจะเป็นยังไง แม้จะทุกข์อย่างแสนสาหัสทว่าสัมปันนีกลับไม่เคยปริปากบอก เธอเป็นแม่ประสาอะไรถึงมองข้ามความทุกข์ของลูกไปได้“อะไรนะครับ” อชิระอุทานออกมาอย่างตกใจอย่างมาก นั่นเพราะชายหนุ่มไม่เคยรู้มาก่อนว่าสัมปันนีเคยคิดสั้นฆ่าตัวตาย“ลูกหนูคิดสั้นจะฆ่าตัวตาย ดีที่ป้าเข้าไปช่วยไว้ได้ทัน” วรรณีใจสั่นเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ในวันนั้นเพราะหากเธอเข้าไปช้าเพียงนิดเดียวสัมปันนีคงจากโลกนี้ไปแล้ว“ผมไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน”“ถ้าคุณไม่บอก ป้าเองก็คงไม่รู้ถึงต้นสายปลายเหตุที่ทำให้ลูกหนูคิดสั้นเหมือนกัน เฮ้อ” เวลานี้ทั้งสองคนถอนหายใจออกมาแทบจะพร้อมกัน &ldqu

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-02
  • ท่านประทานขา อย่ารังแกหนู   บทที่ 22

    หลังบินไปทำงานที่มาเลยเซียครบอาทิตย์อชิระก็กลับเข้าบริษัท บางวันตั้งใจกลับช้าเพื่อทดสอบใครบางคนว่าเธอจะกลับก่อนเขาไหมหรือจะรอ แรกๆ สัมปันนีกลับตรงเวลาเลิกงานเป๊ะหลังจากนั้นก็กลับช้าขึ้น แต่ก็มักจะออกจากบริษัทก่อนเขาเสมอเพราะเป็นห่วงอชิระจึงขับรถไปดักรอเธอที่หน้าปากซอยบ้าน กระทั่งเห็นว่าสัมปันนีเข้าบ้านอย่างปลอดภัยแล้วจึงกลับเพนเฮาส์ของตัวเอง พอต้องนอนคนเดียวก็อดคิดถึงเธอไม่ได้จริงๆ เพราะคิดถึงเขาจึงเก็บไปฝันก่อนจะสะดุ้งเมื่อฝันเจ้ากรรมทำให้กางเกงเขาเปียกแต่เพราะไม่รู้ว่าอชิระกำลังทดสอบความอดทนของเธอ บางวันที่เขากลับดึกสัมปันนีก็เผลอรออย่างเป็นห่วงทั้งๆ ที่เธอไม่ควรห่วงเขาด้วยซ้ำแต่ก็อดไม่ได้จริงๆ ยิ่งช่วงนี้ชมดาวจะลาออกงานของอชิระก็เหมือนจะยุ่งมากกว่าเดิม แถมยังไม่มีวี่แววว่าจะหาเลขาคนใหม่เสียด้วย“งานยุ่งกว่าที่คิดแฮะ” ประธานหนุ่มพึมพำกับตัวเอง จังหวะที่กำลังจะคว้ากาแฟมาดื่มก็ต้องชะงักเพราะกาแฟที่แม่บ้านชงมาให้ตอนนี้ก็เย็นชืดไร้รสชาติ แต่พออยากได้กาแฟหอมๆ แก้วใหม่ก็นึกขึ้นได้ว่าวันนี้ชมดาวลาป่วย เขาจึงยกหูโทรศัพท์ภายใน

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-02

Bab terbaru

  • ท่านประทานขา อย่ารังแกหนู   บทที่ 32-จบ

    “คุณเป็นคนเก่ง” อชิระเอ่ยขึ้นในขณะที่เลขากำลังแสดงท่าทางบางอย่างออกมา“ค่ะ” น้ำเสียงอ่อนหวานของปลายฟ้าเอ่ยรับ สิ่งเดียวที่ทำให้เธอตัดสินใจรับงานนี้ไม่ใช่เงินเดือนเป็นแสนหรือสวัสดิการพิเศษอะไร แต่คือประธานหนุ่มที่ชื่ออชิระที่พยายามยั่วเขามาหลายเดือนกลับไม่เคยสำเร็จ“แล้วทำไมถึงด้อยค่าตัวเองด้วยการทำตัวไม่น่ารักแบบนี้”“เอ้” ปลายฟ้าอุทานออกมาอย่างตกใจ“ผมรู้ว่าคุณกำลังคิดจะทำอะไร ครั้งนี้ผมแค่เตือน แต่ถ้าคุณไม่หยุดเราคงทำงานร่วมกันไม่ได้” อชิระไม่ใช่คนใสซื่อถึงตามไม่ทันมารยาหญิงและวิธีรับมือ“ทำไมถึงปฏิเสธฉันคะหรือว่าท่านประธานจะเป็นเกย์อย่างที่คนอื่นพูดๆ กัน” ปลายฟ้าเอ่ยถามนั่นเพราะทุกครั้งที่มีโอกาสเธอจะเข้าหาอชิระเสมอแต่ประธานหนุ่มกลับไม่ได้แสดงท่าทีสนใจเธอเลยแม้แต่น้อย“เปล่าแต่ผมมีผู้หญิงที่อยากให้เกียรติทั้งต่อหน้าและลับหลัง”“เธอคนนั้นโชคดี

  • ท่านประทานขา อย่ารังแกหนู   บทที่ 31

    อชิระและสัมปันนีคบหากันได้หลายเดือน จู่ๆ ก็มีข่าวทลายซ่องโสเภณีที่ฮ่องกง โดยหนึ่งในเหยื่อที่ถูกหลอกให้ไปทำงานจนแทบไม่เห็นเดือนเห็นตะวันที่นั่นคือพิจิกา แม้จะเบลอหน้าเหยื่อไว้แต่สัมปันนีก็มองออกว่าเป็นใคร ในขณะที่ข่าววงในจากอชิระก็ช่วยยืนยันว่าคือคนเดียวกันอีกด้วย“เห็นข่าวแล้วใช่ไหม”“ค่ะ” สัมปันนีเอ่ยรับ อชิระดึงเธอเข้ามากอดเพราะอย่างน้อยเวลานี้พิจิกาก็กำลังรับกรรมที่ก่อไว้ แม้จะไม่ได้มาจากพวกเขาโดยตรงก็ตาม“เห็นว่าเธอติดโรคมาด้วย ตอนนี้กำลังรักษาตัวอยู่”“กรรมค่ะ คนเราทำกรรมอะไรไว้ก็ต้องรับแบบนั้น” เวลานี้สัมปันนีอโหสิกรรมให้พิจิกาแล้วหลังจากนี้ก็ขอให้ต่างคนต่างอยู่“ผมมีอะไรให้ลูกหนูดู” เอ่ยบอกเสร็จอชิระก็พา สัมปันนีไปที่โต๊ะทำงาน ซึ่งตอนนี้พวกเขาอยู่ที่เพนท์เฮ้าส์ของชายหนุ่ม“อะไรคะ”“แบบบ้านครับ” เสียงทุ้มเฉลยนั่นทำให้สัมปันนีแปลกใจเป็นอย่างมาก

  • ท่านประทานขา อย่ารังแกหนู   บทที่ 30

    ทั้งอชิระและสัมปันนีก็ต่างเป็นคนสำคัญของกันและกัน เพราะไม่อยากให้กระทบกับหน้าที่การงานโดยเฉพาะอิชระ สัมปันนีจึงตั้งกฎว่าห้ามเปิดเผยความสัมพันธ์นี้ให้คนอื่นรู้อย่างเด็ดขาดแม้จะไม่อยากรับปากแต่อชิระก็จำต้องทำตามกฎที่เธอกำหนดขึ้นแต่ถึงอย่างนั้นประธานหนุ่มก็มักจะหาโอกาสหรือจังหวะเหมาะๆ เพื่อให้ได้อยู่ตามลำพังกับสัมปันนีในที่ทำงานเสมอๆ ใช้ข้ออ้างเรื่องงานยุ่งเรื่องกาแฟหมดเพื่อให้เธอมาดูแลบ้าง แม้สัมปันนีจะรู้ทันแต่เธอกลับไม่ได้แย้งอะไร“กาแฟค่ะ” เสียงสดใสเอ่ยบอกพร้อมกับวางกาแฟหอมๆ ลงบนโต๊ะทำงานประธานหนุ่มที่เวลานี้เขาคือความรักของเธอเช่นกัน“ขอบคุณครับ อืม…ช่วงนี้งานยุ่งมาก ลูกหนูคิดว่าผมรับเลขาคนใหม่ดีไหม” เสียงทุ้มเอ่ยถามนั่นเพราะตอนนี้ชมดาวได้ลาออกไปแล้วส่งผลให้ประธานหนุ่มไม่ได้มีเลขาส่วนตัว เหตุผลเพราะมั่นใจว่าตนทำงานคนเดียวได้ทว่าพึ่งมาตระหนักว่าเขาไม่ได้มีเวลามากพอที่จะจัดการทุกอย่างงานเล็กๆ น้อยๆ บางอย่างเขาก็ต้องส่งให้เลขาช่วยจัดการแทน ไม่อย่างนั้นคิวงานเขาจะชนกันอย่างที่เป็นอยู่ แต่สมัยนี้การจะหาเลขาเก่

  • ท่านประทานขา อย่ารังแกหนู   บทที่ 29

    วันรุ่งขึ้นอชิระมาที่บ้านของสัมปันนีตั้งแต่เช้าตรู่ ชายหนุ่มอาสาขับรถไปส่งทั้งคู่ที่โรงพยาบาลท่ามกลางความสงสัยของสัมปันนี นั่นเพราะแม่ของเธอไม่ได้มีปฏิกิริยาตกใจหรือสงสัยที่จู่ๆ อชิระก็มารับแม้แต่น้อย แต่ก็ยังคงเก็บความสงสัยเหล่านั้นเอาไว้ระยะเวลารอคิวที่โรงพยาบาลรัฐใช้เวลาครึ่งค่อนวันแต่อชิระก็ไม่ได้บ่นหรือแสดงท่าทางหงุดหงิดอะไร แต่เพราะอยากให้วรรณีได้รับการดูแลที่ดีกว่านี้เขาจึงเสนอทางเลือกให้ ซึ่งทั้งคู่กลับปฏิเสธที่จะรับข้อเสนอนั้นอชิระจึงมัดมือชกจัดการเปลี่ยนโรงพยาบาลจากรัฐไปเอกชนทันที“ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้โอม” ขณะนั่งรอเรียกพบหมอวรรณีก็เอ่ยขึ้น“ผมเต็มใจครับ อีกอย่างลูกเขยดูแลแม่ยายจะเป็นไรไป” อชิระยิ้มออกมา ซึ่งประโยคนี้สัมปันนีไม่ได้ยินเพราะเธอเดินไปซื้อน้ำ แต่พอกลับมาก็คอยสังเกตคนทั้งคู่มาตลอดหลังจากเก็บความสงสัยมาตั้งแต่เช้าในที่สุดก็เอ่ยถามออกไป“แม่รู้จักท่านประธานมาก่อนหรือเปล่าคะ”“ตอบยังไงดีล่ะทีนี้” วรรณีหันมองมาที่อชิระราวก

  • ท่านประทานขา อย่ารังแกหนู   บทที่ 28

    “ฉันต้องกลับบ้านแล้ว” สัมปันนีพยายามคุมโทนเสียงอย่างมากเพื่อไม่ให้สั่นสะท้านไปกับสัมผัสของอชิระ แต่ดูเหมือนประธานหนุ่มจะไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆ เพราะนอกจากลูบไล้เขาก็เริ่มเปลี่ยนมาเป็นขย้ำหน้าอกอวบอิ่มของเธอเบาๆ“ท่านประธาน…อา” เสียงครางกระเส่าดังมาจากคนในอ้อมกอด เธอเผลอส่งเสียงที่ทำให้อชิระตื่นตัวแบบนี้เขาจะปล่อยให้เธอกลับบ้านได้ยังไง“ลูกหนูกำลังทำให้ผมหลง”“หนูเปล่า” สัมปันนีขบเม้มริมฝีปากอิ่มแล้วเผลอเอ่ยแทนตัวเองด้วยชื่อนั่นกลับยิ่งทำให้อชิระยิ่งลูบไล้เธอมากขึ้น “สีหน้ายั่วๆ แบบนี้ เสียงกระเส่าแบบนี้ มันทำร้ายผมมากรู้ไหม เพราะฉะนั้นลูกหนูต้องรับผิดชอบ”“ท่านประธาน”“ทำไมถึงยังเรียกผมว่าท่านประธาน” เสียงทุ้มเอ่ยถาม“หนูอยากเรียก ในที่ทำงานหนูจะเรียกคุณว่าท่านประธาน”“แล้วนอกเวลางานจะเรียกว่าอะไร”“เอ่อ…” สัมปันนีอึกๆ อักๆ ทันที ใบหน้าหวานแดงก่ำ“ว่าไงจะเรียกว่าอ

  • ท่านประทานขา อย่ารังแกหนู   บทที่ 27

    “จะโกรธคุณ ฉันจะไปจากคุณ ฉันจะฆ่า…คุณ”“จะทำแบบนั้นกับผมจริงๆ นะเหรอลูกหนู” ขณะเอ่ยถามอิชระก็เร่งจังหวะนิ้วให้ถี่กระชั้นยิ่งขึ้น “ไม่ค่ะ ฉันไม่ทำ ได้โปรดอย่างทรมานฉันแบบนี้อีกเลย” สัมปันนีครางกระเส่าออกมา ดูเหมือนว่าเวลานี้เธอไม่อาจต่อรองอะไรกับอชิระได้ทั้งนั้น เธอต้องรังเกียจสัมผัสจากเขาไม่ใช่โหยหาอย่างที่เป็นอยู่ แต่ไม่ว่าจะบอกตัวเองยังไงร่างกายและหัวใจกลับไม่ทำตามคำตอบที่ได้ยินทำให้อชิระยิ้ม ชายหนุ่มเลื่อนกายขึ้นมาทาบทับบนร่างเปลือยของสัมปันนี เขาเองก็อดทนมามากพอแล้วเช่นกัน ทั้งคู่สบตากันก่อนที่อชิระจะมอบจูบให้เธออีกครั้งพร้อมกับค่อยๆ บดเบียดสะโพกสอบเข้าหาแล้วใช้หัวเข่าดันขาทั้งสองข้างของสัมปันนีให้แยกห่างออกจากกันจากนั้นก็ค่อยๆ แทรกตัวฝากฝังความเป็นชายที่เวลานี้ตื่นตัวอย่างเต็มที่ให้เธอ ความคับแน่นก่อเกิดเป็นความเจ็บที่ทำให้สัมปันนีสะดุ้ง แม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกแต่เธอก็ยังใหม่อยู่มาก“เจ็บใช่ไหม”“ค่ะ” สัมปันนีเอ่ยรับอย่างไม่ปิดบัง อชิระจึงเพิ่มความนุ่มนวลให

  • ท่านประทานขา อย่ารังแกหนู   บทที่ 26

    อชิระยังคงมอบจูบให้สัมปันนีอย่างต่อเนื่อง ใช้ปากของตัวเองปิดปากของเธอพลอยทำให้จังหวะหายใจของสัมปันนีสะดุดตามไปด้วยนั่นเพราะเธอยังรับมือกับเรื่องนี้ได้ไม่ค่อยดีนัก จูบลงโทษอยากเขาช่างร้อนแรงจนเธอไม่อาจต่อต้านได้นั่นเพราะแม้จะพยายามหลบเลี่ยงมากแค่ไหนก็ยังคงถูกประธานหนุ่มล็อคตัวไว้ได้และทำให้เธอดำดิ่งไปกับรสสวาทจนหาทางออกไม่ได้ โดยเฉพาะปลายลิ้นร้อนชื้นแสนชำนาญของอชิระตวัดเกี่ยวรัดกับปลายลิ้นของ สัมปันนีอย่างช่ำชอง นั่นทำให้สัมปันนีเผลอส่งเสียงครางออกมาเบาๆ ยามที่ชายหนุ่มจูบอย่างดูดดื่มความรู้สึกต่อต้านค่อยๆ หายไปเหลือเพียงความโหยหาที่เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเพราะอะไรถึงได้รู้สึกแบบนั้นกับอชิระ เธอต้องผลักไสเขา เธอต้องรังเกียจเขาแต่แล้วทุกๆ อย่างกลับไม่เป็นแบบนั้น เสียงครางกระเส่าของ สัมปันนีทำให้อชิระถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง“นึกว่าจะไม่ได้ยินเสียงครางแบบนี้อีก”“คุณ” สัมปันนีกำลังจะด่าทอแต่ก็ถูกอีกฝ่ายปิดกั้นด้วยจูบที่ครั้งนี้ร้อนแรงและเต็มไปด้วยความต้องการ พร้อมกันนั้นอชิระก็จัดการถอดเสื้อของเธอออก แต่

  • ท่านประทานขา อย่ารังแกหนู   บทที่ 25

    “อย่านะ”“งั้นก็ตอบตามความจริงมา” ลมหายใจอุ่นๆ รดอยู่บริเวณใบหน้าของสัมปันนีนั่นยิ่งทำให้เธอประหม่า“ท่านประธานจะอยากรู้ไปทำไมว่าใช่ฉันหรือไม่ใช่”“ผมถามเรื่องสร้อยข้อมือไม่ได้ถามสักคำว่าคืนนั้นใช่คุณไหม”“คุณอชิระ” เพราะความลนทำให้สัมปันนีพลาดพลั้ง จะปฏิเสธก็คงไม่ทันเสียแล้วรวมไปถึงคำพูดของประธานหนุ่มก็ยิ่งตอกย้ำให้สัมปันนีมั่นใจว่าเขาคือผู้ชายในคืนนั้นไม่ผิดแน่“เรียกชื่อกันแบบนี้ โกรธแล้วใช่ไหม”“เปล่าค่ะ ท่านประธาน” น้ำเสียงของสัมปันนีห้วนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โลกใบนี้ทำไมมันถึงไม่เมตตาเธอเลยสักนิด“ปล่อยฉันได้หรือยังคะ”“ปล่อยแต่ยังไม่ใช่ตอนนี้”“จะทำอะไร” เพราะเขาโน้มใบหน้าลงมาใกล้อีกครั้งสัมปันนีก็ถามขึ้นพร้อมกับออกแรงผลักไสชายหนุ่มให้ออกห่าง“ต้องให้บอกด้วยเหรอ ทั้งๆ ที่เราก็โตๆ กันแ

  • ท่านประทานขา อย่ารังแกหนู   บทที่ 24

    เพราะงานยังไม่เสร็จทำให้สัมปันนีจำต้องอยู่เป็นคนสุดท้ายของแผนก การจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ติดต่อกันนานๆ ทำให้สัมปันนีเกิดอาการตาล้าและเมื่อยแถวๆ หัวไหล่ลามไปจนถึงบ่าและหลัง แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ต้องรีบทำเพราะถ้าไม่เสร็จก็ส่งงานให้คนอื่นทำต่อไม่ได้ ในขณะที่เธอกำลังขะมักเขม้นจดจ่อกับการเคลียร์งานอยู่นั้น จู่ๆ ไฟส่วนกลางที่ตั้งเวลาไว้ก็ดับลงพรึบ!สัมปันนีถึงกับสะดุ้งโหยงพร้อมกับขนเส้นเล็กๆ บนร่างกายก็พากันลุกซู่ด้วยความพร้อมเพรียง เธอนั่งตัวตรงแล้วจู่ๆ เรื่องผีในออฟฟิศที่พึ่งฟังจากรายการผีรายการหนึ่งก็ผุดเข้ามาโลดแล่นในหัวเป็นเรื่องเป็นราว จินตนาการฟุ้งไปหมดเพราะมองไปมุมไหนก็เจอแต่ความมืดและเงียบ เงียบจนได้ยินเสียงหายใจแสงที่มีตอนนี้มาจากคอมพิวเตอร์บนโต๊ะของเธอเท่านั้น สัมปันนีนั่งคิดครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจหอบงานกลับไปทำต่อที่บ้านดีกว่าทนทำงานต่อในบรรยากาศแบบนี้ เธออาศัยแสงจากไฟฉายในโทรศัพท์นำทาง เดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็รู้สึกเสียวสันหลังแปลกๆ คล้ายมีลมเย็นๆ ผ่านไปเมื่อครู่รวมถึงรู้สึกเหมือนมีใครจ้องมองอยู่“เอาเป็นว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้จะทำบุญให้” สัมปันนี

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status