แชร์

บทที่ 643

ผู้เขียน: พิณเคล้าสายฝน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-02 18:00:12
พ่อบ้านไม่รู้ว่าเขาถืออะไรออกมา แต่ดูเป็นม้วนๆ น่าจะเป็นภาพเขียน

เรื่องบางอย่าง จำเป็นต้องอธิบายให้ชัดเจน

......

เยี่ยเป่ยเฉิงไม่คาดคิดว่าไป๋อวี้ถังจะมาหาเขา

เพราะคิดว่า ระหว่างพวกเขาคงไม่มีเรื่องใดต้องคุยกันอีก

นับแต่รู้ว่าไป๋อวี้ถังคิดเลยเถิดต่อซวงเอ๋อร์ของเขา ก็ไม่คิดว่าไป๋อวี้ถังเป็นเพื่อนอีก กระทั่งยังนึกอิจฉาในใจเสียด้วยซ้ำ!

เพราะเทียบกับที่เขาทำร้ายจิตใจหลินซวงเอ๋อร์ ไป๋อวี้ถังคล้ายกับทำให้นางพอใจและมีความสุขมากกว่า

เพียงแต่ซวงเอ๋อร์จะคิดอย่างไรต่อไป๋อวี้ถังกันนะ?

หากเขาไม่ใช้วิธีบังคับให้นางมาอยู่ด้วย นางจะชื่นชมไป๋อวี้ถังมากกว่าหรือเปล่า?

และหากวันที่จากลา ไม่มีเหตุการณ์ภูเขาถล่ม นางจะไปกับไป๋อวี้ถังจริงๆ ชาตินี้ไม่กลับมาพบเขาอีกหรือไม่?

เมื่อนึกถึงเรื่องเหล่านี้ เขาก็รู้สึกปวดใจยิ่ง

เรื่องนี้เหมือนดั่งเสี้ยนหนามที่คาอยู่ในลำคอ ทำให้เขาไม่กล้าคิดต่อ ไม่กล้าไปซักถาม ได้แต่หลบเลี่ยงไปวันๆ...

สำหรับไป๋อวี้ถังนั้น เขาควรจะโกรธแค้นคนผู้นี้ให้มาก!

เพราะวันนั้น ที่หลินซวงเอ๋อร์จากไป ไป๋อวี้ถังก็ตั้งใจจะพาซวงเอ๋อร์ของเขาหนีไปให้ไกล แต่สุดท้ายเขาไม่ได้ดูแลนางดีๆ จึงทำให้เส
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Jaew Pattraporn
เมื่อไรจะมาUpdateต่อคะ รออยู่ค่ะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 644

    “นางไม่เคยชอบพอข้ามาก่อน มีแต่ข้าที่คิดไปฝ่ายเดียว” ไป๋อวี้ถังจู่ ๆ ยื่นของในมือให้แก่เยี่ยเป่ยเฉิง “ข้ารู้ว่าเจ้าเคยไปห้องลับของข้า และเห็นของเหล่านี้เข้า...”เยี่ยเป่ยเฉิงชะงักเล็กน้อย ก่อนค่อยๆ รับของจากไป๋อวี้ถังมาเขาคลี่ออกดูทีละภาพ ข้างในล้วนเป็นภาพเขียนที่เห็นในห้องลับวันนั้น เป็นภาพที่นางได้ผ่านเรื่องราวต่างๆ ร่วมกับไป๋อวี้ถังมา แต่ละภาพล้วนมีความสมจริง และเป็นที่บาดตาของเขายิ่งไป๋อวี้ถังมองดูหญิงสาวในภาพด้วยความหลงใหล พลางกล่าวเสียงทุ้มเบา “ข้ายอมรับ ว่าเกิดความคิดที่ไม่เหมาะสมต่อนาง นับแต่ครั้งแรกที่พบเห็น ข้าก็เกิดความคิดแล้ว...”“แต่เรื่องไม่ใช่เป็นเหมือนที่เจ้าคิด”“เหตุการณ์ต่างๆ ในรูป ล้วนเป็นสิ่งที่ข้าจินตนาการเอง...”เขาคลี่ภาพออกทีละภาพต่อ ชี้ไปที่ภาพนั้นๆ พลางอธิบายต่อเขา “เช่นภาพนี้ เป็นครั้งแรกที่ได้พบนาง นางยืนอยู่ริมถนน บริสุทธิ์ผ่องแผ้วเหมือนดั่งเทพธิดา เห็นครั้งแรกก็ตราตรึง ครั้งสองยิ่งซึ้งใจ...”เยี่ยเป่ยเฉิงมองตามภาพที่เขาชี้ เขาเพิ่งนึกได้ นั่นเป็นครั้งแรกที่พานางไปซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ นางเลือกชุดยาวเป็นสีฟ้าคราม และเมื่อสวมใส่ก็งดงามราวเทพธิดาจำแลงจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 645

    เขาย้อนถามเยี่ยเป่ยเฉิง “เหตุใดนางต้องจากไป? เป็นเพราะข้ากระนั้นรึ?”เยี่ยเป่ยเฉิงไม่รู้จะเอ่ยปากโต้เถียงอย่างไรใช่ เหตุใดนางต้องจากไป มิใช่เพราะความโง่เขลาของเขา ที่ทำให้นางเสียใจอย่างที่สุด จนต้องจากไปเพียงลำพังหรอกหรือ...ไป๋อวี้ถังกล่าว “เพราะเจ้าทำให้นางเสียใจ เพราะเจ้าไม่ได้ถนอนน้ำใจนางไว้!”“แต่รู้หรือไม่ว่า นางรักเจ้าเพียงไหน...”ไป๋อวี้ถังกล่าวเน้นยำทีละคำ “ในคืนวันไหว้พระจันทร์ เจ้าผิดนัดไม่ไปตามสัญญา นางรออยู่ริมน้ำทั้งคืน แต่ไม่ได้โกรธเคืองใดๆ ต่อเจ้า เพียงห่วงว่าเจ้าได้พักผ่อนหรือไม่ ทำงานหนักไปหรือเปล่า จึงได้ลืมวันสำคัญเช่นนี้ไป กระทั่งห่วงว่าเจ้าได้กินข้าวอิ่มท้องบ้างหรือไม่...”ได้ยินถึงตรงนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกคล้ายดวงตาพร่ามัวในคืนไหว้พระจันทร์นั้น เขายอมรับว่าลืมไปจริงๆ ลืมเสียสนิทด้วย! เขารีบกลับไปขอโทษนาง แต่นางก็มิได้โกรธเคือง แต่พอเขาเห็นภาพวาดในห้องลับของไป๋อวี้ถัง กลับคิดว่าเพราะนางอยู่กับไป๋อวี้ถังนั่นเอง จึงไม่นึกโกรธเคืองตนแม้แต่น้อย...นางมีแต่เขาผู้เป็นสามีอยู่ในใจเพียงผู้เดียว แต่เขากลับจิตใจคับแคบ หึงหวงส่งเดช แม้กระทั่งอารมณ์เสียใส่นาง...ห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 646

    หลินซวงเอ๋อร์คล้ายตกอยู่ในห้วงฝันอันยาวนานสิ่งที่นางผ่านมาครึ่งชีวิตล้วนเกิดขึ้นในมโนภาพอีกครั้งท่ามกลางหิมะตกโปรยปราย กระท่อมเล็กใกล้ผุพัง ครอบครัวพ่อแม่ลูกสี่คนที่อยู่อย่างอบอุ่น หลินซวงเอ๋อร์อิงแอบอยู่ในอ้อมแขนมารดา สองตาของเด็กน้อยเต็มไปด้วยความไร้เดียงสาบิดาอยู่ด้านข้างกำลังทำกระบี่ไม้ให้นางกับพี่ชายอยู่ มารดาอุ้มนางพร้อมร้องเพลงขับกล่อมให้นอนหลับ ช่างเป็นภาพที่สวยงามยิ่งมารดากล่าวว่า “ซวงเอ๋อร์ต้องรีบโตเร็วๆ อีกหน่อยโตเป็นสาวแล้ว คงไม่อ้อนแม่เช่นนี้อีก”หลินซวงเอ๋อร์เบิกตาโตขึ้น ใบหน้าอ่อนเยาว์แนบที่อกมารดา “ซวงเอ๋อร์จะอ้อนท่านแม่เสียอย่าง ท่านแม่ต้องอยู่กับซวงเอ๋อร์ตลอดไป”พี่ชายกล่าว “ข้าก็จะรีบเติบใหญ่ไวๆ เมื่อโตขึ้นแล้ว จะซื้อของอร่อยมาให้น้องกิน พาน้องไปอยู่บ้านหลังใหญ่ กินขนมชิ้นใหญ่ที่สุดเลย”บิดาหัวเราะ พร้อมกล่าว “ถ้าเช่นนั้นเจ้าต้องรีบเติบใหญ่ จึงจะปกป้องน้องสาวได้”ในความฝันของนาง หวังจะหยุดอยู่ช่วงนั้นให้นานที่สุด มีความรักจากบิดามารดา มีพี่ชายคอยปกป้อง แม้จะกินไม่ค่อยอิ่ม เสื้อผ้าก็ไม่พอให้กันหนาว แต่กระท่อมน้อยหลังนี้ คือที่ๆ นางอาลัยอาวรณ์ที่สุดทันใดน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 1

    ฤดูใบไม้ผลิเดือนสาม อากาศเดี๋ยวก็อบอุ่นเดี๋ยวก็หนาวเสียงกรีดร้องอันโหยหวนดังทะลุท้องนภายามราตรี ทำลายความสงบของจวนหย่งอันเสวี่ยหยวนที่อยู่เรือนฝั่งตะวันออกไม่รู้ว่าทำผิดเรื่องอะไรถึงได้รับโทษทัณฑ์อย่างหนัก เสียงโอดครวญของนางดังไปทั่วทั้งจวนท่านอ๋องตลอดทั้งราตรีในยามเช้า ท่านป้าจ้าวให้หลินซวงเอ๋อร์ไปที่ร้านขายยา และขอให้นางซื้อยาลดไข้กลับมาหลินซวงเอ๋อร์รีบไปรีบกลับ เมื่อเดินผ่านสวนหลังจวน นางเห็นบ่าวรับใช้สองคนลากอะไรบางอย่างที่เปื้อนเลือดมาแต่ไกลหลินซวงเอ๋อร์รีบยืนชิดด้านข้างอย่างรวดเร็วขณะที่หน้าผ่านนางไป เธอก็เหลือบไปเห็นโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ แค่เพียงแวบเดียว หลินซวงเอ๋อร์ก็ตกใจกลัวจนหน้าซีดเผือดนั่นไม่ใช่ใครอื่น นั่นก็คือเสวี่ยหยวนที่ส่งเสียงกรีดร้องตลอดทั้งคืนหลินซวงเอ๋อร์ไม่เคยเห็นภาพเช่นนี้มาก่อน จึงตกใจกลัวจนตัวแข็งอยู่กับที่อยู่ครู่หนึ่ง"เจ้ามาทำอะไรอยู่ที่นี่?"ท่านป้าจ้าวผู้ดูแลจวนไม่รู้ว่ามายืนอยู่ข้างหลังนางตั้งแต่เมื่อไหร่ นัยน์ตาอันแหลมคมคู่นั้นจับจ้องไปที่นาง“ยาที่ข้าให้เจ้าไปซื้ออยู่ที่ไหน?”หลินซวงเอ๋อร์รีบถอนสายตากลับมา แล้วยื่นยาที่อยู่ในมือให้ท่าน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 2

    “ข้าอยากได้น้ำ น้ำ……”พอตั้งใจฟังแล้ว เสียงนั้นดังมาจากเรือนอวิ๋นซวนและผู้ที่อาศัยอยู่ในเรือนอวิ๋นซวนก็คือท่านอ๋องของจวนนี้ - เยี่ยเป่ยเฉิงหลินซวงเอ๋อร์นึกถึงคำพูดของท่านป้าจ้าวทันทีหากท่านอ๋องเรียกเจ้า เจ้าก็เข้าไปปรนนิบัติรับใช้ ถ้าไม่เรียก เจ้าก็ไม่ต้องไปสนใจหลินซวงเอ๋อร์ลังเล เธอไม่อยากไปปรนนิบัติรับใช้ ตอนกลางวันได้ยินมาว่าท่านอ๋องโมโหร้าย ถ้านางปรนนิบัติไม่ดี ก็จะลงเอยเหมือนเสวี่ยหยวน“น้ำ… ข้าอยากได้น้ำ…”เสียงของชายหนุ่มเริ่มแหบแห้งมากขึ้นเรื่อยๆ ตามด้วยเสียงหอบเบาๆหลายครั้ง ราวกับว่ากำลังพยายามสุดขีดเพื่ออดทนต่อความเจ็บปวดบางที ท่านอาจจะแค่อยากดื่มน้ำ?พอคิดอย่างนี้ สุดท้ายหลินซวงเอ๋อร์ก็ไม่สนใจอะไรมากนัก หยิบปิ่นปักผมจากใต้หมอนแล้วมัดผมอันดำขลับไว้ด้านหลังศีรษะ นางกำลังจะไปหยิบผ้าพันหน้าอก แต่กลับพบว่าผ้าพันอกยังเปียกและมีน้ำหยดอยู่..ด้วยความจนใจ หลินซวงเอ๋อร์จึงเอาเสื้อคลุมหลวมๆตัวหนึ่งจากตู้เสื้อผ้ามาสวมแบบลวกๆพอมาถึงเรือนอวิ๋นซวน เสียงของชายหนุ่มก็ดังมาจากข้างในเป็นระยะๆหลินซวงเอ๋อร์เปิดประตูอย่างตัวสั่นงันงกสองปีที่นางอยู่ที่จวนแห่งนี้ นี่เป็นครั้งแร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 3

    เมื่อเยี่ยเป่ยเฉิงตื่นขึ้นมา ภายในมุ้งเตียงก็เละเทะไปหมด หญิงสาวที่ร่วมหลับนอนกับเขาเมื่อคืนได้จากไปนานแล้วเขาลุกขึ้นพร้อมกุมหน้าผาก คิ้วขมวดเล็กน้อย เปลวไฟอันเร่าร้อนนั้นได้มอดไหม้ไปตั้งนานแล้ว เหลือเพียงแต่ความเย็นชาและความเกรี้ยวโกรธภาพเหตุการณ์ของเมื่อคืนปรากฏขึ้นแวบๆราวกับว่าเป็นเศษชิ้นส่วนที่กระจัดกระจาย แต่จะปะติดปะต่ออย่างไรก็ไม่อาจทำให้ภาพสมบูรณ์ได้สิ่งเดียวที่จำได้ก็คือ นัยน์ตาที่ใสบริสุทธิ์เป็นพิเศษคู่นั้น มองมาที่เขาด้วยน้ำตาสายตาแบบนั้น ทำให้เยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกมีอารมณ์แปลกๆอยู่ในใจ และก็รู้สึกหงุดหงิดใจเป็นอย่างยิ่ง"เสวียนอู่! "เสวียนอู่ที่รออยู่นอกประตู พอได้ยินเสียงเรียก ก็รีบเปิดประตูเข้าไปทันทีกวาดสายตามองเตียงที่เละเทะ เสวียนอู่ก็ไม่โง่ มองแวบเดียวก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น“เพราะข้าน้อยละเลยหน้าที่ ท่านอ๋องได้โปรดลงโทษด้วย”เสวียนอู่สับสนเล็กน้อย ทั้งๆที่เขาขับไล่หญิงรับใช้เรือนฝั่งตะวันออกไปหมดแล้ว เหตุใด...เยี่ยเป่ยเฉิงนั่งย้อนแสง สีหน้าที่อยู่บนใบหน้าซ่อนอยู่ในเงามืด ในมือกำลังเล่นกับปิ่นปักผมไม้อันหนึ่งอยู่และปิ่นปักผมไม้อันนี้ เป็นปิ่นที่ผู้หญิงคนน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 4

    หลินซวงเอ๋อร์นอนอยู่บนเตียงเป็นเวลาสองวันเต็มสองวันที่ผ่านมานี้ ท่านป้าจ้าวมาหาเธอหนึ่งครั้ง นอกจากจะเป็นห่วงเรื่องอาการป่วยของเธอแล้ว ยังถามรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นที่เรือนฝั่งตะวันออกในวันนั้นด้วยการคัดเลือกในวันนั้น เยี่ยเป่ยเฉิงไม่ชอบสาวใช้คนใดเลย แถมยังอารมณ์เสียอย่างไร้สาเหตุท่านป้าจ้าวไปหาเสวียนอู่เพื่อสอบถามเป็นการส่วนตัว ว่าเป็นสาวใช้ที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงคนไหนกันแน่ที่ไม่เชื่อฟังคำแนะนำ และแอบไปขึ้นเตียงท่านอ๋องในตอนกลางคืน!สถานะอันสูงส่งของเยี่ยเป่ยเฉิง ไม่สิ่งที่คนรับใช้จะคิดอาจเอื้อมได้!แม้ว่าท่านอ๋องจะไว้ชีวิตนาง แต่นายหญิงของจวนอ๋องก็คงจะไม่ปล่อยนางไว้ท่านป้าจ้าวไม่อยากให้จุดจบของเสวี่ยหยวนเกิดขึ้นกับสาวใช้คนอื่นอีก จึงมาหา หลินซวงเอ๋อร์เพราะอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนั้นเพราะท้ายที่สุดแล้วคนที่รักษาการณ์อยู่ที่เรือนฝั่งตะวันออกก็คือนาง“หลินซวง บอกข้ามาตามตรง วันนั้นนอกจากเจ้าแล้วยังมีใครแอบเข้าไปในเรือนฝั่งตะวันออกอีกไหม?”สีหน้าท่าทางของท่านป้าจ้าวจริงจังมากนิ้วมือของหลินซวงเอ๋อร์กำเสื้อของนางเอาไว้แน่น: "นอกจากข้า ก็ไม่มีคนอื่นเลย"เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 5

    ขนตาที่เปียกชื้นของนางสั่นไหวทันที หลินซวงเอ๋อร์ก้มศีรษะต่ำลงยิ่งกว่าเดิม"เงยหน้าขึ้น!" น้ำเสียงของชายหนุ่มค่อยๆหมดความอดทนเล็บเลาะลึกเข้าไปในฝ่ามือ หลินซวงเอ๋อร์เงยหน้าขึ้นอย่างขี้ขลาดตาขาว แต่ก็ไม่กล้าสบตาเขาเยี่ยเป่ยเฉิงจ้องไปที่คนที่อยู่ตรงหน้า คิ้วทั้งสองข้างก็ขมวดกันทันทีสวมเสื้อผ้าเนื้อหยาบ น่าจะเป็นบ่าวรับใช้ระดับล่างสุดในจวน แต่บ่าวรับใช้คนนี้หน้าตาผุดผ่อง ใบหน้าที่เรียวเล็กเท่าฝ่ามือขาวราวกับไข่ปอก ขนตาที่ทั้งยาวทั้งหนาสั่นไหวเล็กน้อย ริมฝีปากที่เหมือนกลีบดอกไม้นั้นงดงามมีเสน่ห์มากบนโลกใบนี้ จะมีผู้ชายที่หล่อเหลาขนาดนี้ได้อย่างไร?เยี่ยเป่ยเฉิงผู้ที่เห็นสาวงามจนชินตา ในขณะนี้จิตใจเหม่อลอยเล็กน้อยจากนั้นไม่นาน น้ำเสียงของเขาก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย แล้วถามว่า "เจ้าชื่ออะไร?"หลินซวงเอ๋อร์เปิดๆปิดปาก น้ำเสียงเบามาก: "ข้าน้อย... ชื่อหลินซวง"แต่เยี่ยเป่ยเฉิงได้ยินอย่างชัดเจน“หลินซวง?” เขาพึมพำชื่อนี้ออกมา รู้สึกว่าคุ้นหูเล็กน้อย ราวกับว่าเคยได้ยินจากที่ไหนสักแห่ง“เงยหน้าขึ้น แล้วสบตาข้า!” น้ำเสียงที่เย็นชาดังขึ้นอีกครั้ง และความรู้สึกกดดันสุดขีดก็ถาโถมเข้ามาหลิน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29

บทล่าสุด

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 646

    หลินซวงเอ๋อร์คล้ายตกอยู่ในห้วงฝันอันยาวนานสิ่งที่นางผ่านมาครึ่งชีวิตล้วนเกิดขึ้นในมโนภาพอีกครั้งท่ามกลางหิมะตกโปรยปราย กระท่อมเล็กใกล้ผุพัง ครอบครัวพ่อแม่ลูกสี่คนที่อยู่อย่างอบอุ่น หลินซวงเอ๋อร์อิงแอบอยู่ในอ้อมแขนมารดา สองตาของเด็กน้อยเต็มไปด้วยความไร้เดียงสาบิดาอยู่ด้านข้างกำลังทำกระบี่ไม้ให้นางกับพี่ชายอยู่ มารดาอุ้มนางพร้อมร้องเพลงขับกล่อมให้นอนหลับ ช่างเป็นภาพที่สวยงามยิ่งมารดากล่าวว่า “ซวงเอ๋อร์ต้องรีบโตเร็วๆ อีกหน่อยโตเป็นสาวแล้ว คงไม่อ้อนแม่เช่นนี้อีก”หลินซวงเอ๋อร์เบิกตาโตขึ้น ใบหน้าอ่อนเยาว์แนบที่อกมารดา “ซวงเอ๋อร์จะอ้อนท่านแม่เสียอย่าง ท่านแม่ต้องอยู่กับซวงเอ๋อร์ตลอดไป”พี่ชายกล่าว “ข้าก็จะรีบเติบใหญ่ไวๆ เมื่อโตขึ้นแล้ว จะซื้อของอร่อยมาให้น้องกิน พาน้องไปอยู่บ้านหลังใหญ่ กินขนมชิ้นใหญ่ที่สุดเลย”บิดาหัวเราะ พร้อมกล่าว “ถ้าเช่นนั้นเจ้าต้องรีบเติบใหญ่ จึงจะปกป้องน้องสาวได้”ในความฝันของนาง หวังจะหยุดอยู่ช่วงนั้นให้นานที่สุด มีความรักจากบิดามารดา มีพี่ชายคอยปกป้อง แม้จะกินไม่ค่อยอิ่ม เสื้อผ้าก็ไม่พอให้กันหนาว แต่กระท่อมน้อยหลังนี้ คือที่ๆ นางอาลัยอาวรณ์ที่สุดทันใดน

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 645

    เขาย้อนถามเยี่ยเป่ยเฉิง “เหตุใดนางต้องจากไป? เป็นเพราะข้ากระนั้นรึ?”เยี่ยเป่ยเฉิงไม่รู้จะเอ่ยปากโต้เถียงอย่างไรใช่ เหตุใดนางต้องจากไป มิใช่เพราะความโง่เขลาของเขา ที่ทำให้นางเสียใจอย่างที่สุด จนต้องจากไปเพียงลำพังหรอกหรือ...ไป๋อวี้ถังกล่าว “เพราะเจ้าทำให้นางเสียใจ เพราะเจ้าไม่ได้ถนอนน้ำใจนางไว้!”“แต่รู้หรือไม่ว่า นางรักเจ้าเพียงไหน...”ไป๋อวี้ถังกล่าวเน้นยำทีละคำ “ในคืนวันไหว้พระจันทร์ เจ้าผิดนัดไม่ไปตามสัญญา นางรออยู่ริมน้ำทั้งคืน แต่ไม่ได้โกรธเคืองใดๆ ต่อเจ้า เพียงห่วงว่าเจ้าได้พักผ่อนหรือไม่ ทำงานหนักไปหรือเปล่า จึงได้ลืมวันสำคัญเช่นนี้ไป กระทั่งห่วงว่าเจ้าได้กินข้าวอิ่มท้องบ้างหรือไม่...”ได้ยินถึงตรงนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกคล้ายดวงตาพร่ามัวในคืนไหว้พระจันทร์นั้น เขายอมรับว่าลืมไปจริงๆ ลืมเสียสนิทด้วย! เขารีบกลับไปขอโทษนาง แต่นางก็มิได้โกรธเคือง แต่พอเขาเห็นภาพวาดในห้องลับของไป๋อวี้ถัง กลับคิดว่าเพราะนางอยู่กับไป๋อวี้ถังนั่นเอง จึงไม่นึกโกรธเคืองตนแม้แต่น้อย...นางมีแต่เขาผู้เป็นสามีอยู่ในใจเพียงผู้เดียว แต่เขากลับจิตใจคับแคบ หึงหวงส่งเดช แม้กระทั่งอารมณ์เสียใส่นาง...ห

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 644

    “นางไม่เคยชอบพอข้ามาก่อน มีแต่ข้าที่คิดไปฝ่ายเดียว” ไป๋อวี้ถังจู่ ๆ ยื่นของในมือให้แก่เยี่ยเป่ยเฉิง “ข้ารู้ว่าเจ้าเคยไปห้องลับของข้า และเห็นของเหล่านี้เข้า...”เยี่ยเป่ยเฉิงชะงักเล็กน้อย ก่อนค่อยๆ รับของจากไป๋อวี้ถังมาเขาคลี่ออกดูทีละภาพ ข้างในล้วนเป็นภาพเขียนที่เห็นในห้องลับวันนั้น เป็นภาพที่นางได้ผ่านเรื่องราวต่างๆ ร่วมกับไป๋อวี้ถังมา แต่ละภาพล้วนมีความสมจริง และเป็นที่บาดตาของเขายิ่งไป๋อวี้ถังมองดูหญิงสาวในภาพด้วยความหลงใหล พลางกล่าวเสียงทุ้มเบา “ข้ายอมรับ ว่าเกิดความคิดที่ไม่เหมาะสมต่อนาง นับแต่ครั้งแรกที่พบเห็น ข้าก็เกิดความคิดแล้ว...”“แต่เรื่องไม่ใช่เป็นเหมือนที่เจ้าคิด”“เหตุการณ์ต่างๆ ในรูป ล้วนเป็นสิ่งที่ข้าจินตนาการเอง...”เขาคลี่ภาพออกทีละภาพต่อ ชี้ไปที่ภาพนั้นๆ พลางอธิบายต่อเขา “เช่นภาพนี้ เป็นครั้งแรกที่ได้พบนาง นางยืนอยู่ริมถนน บริสุทธิ์ผ่องแผ้วเหมือนดั่งเทพธิดา เห็นครั้งแรกก็ตราตรึง ครั้งสองยิ่งซึ้งใจ...”เยี่ยเป่ยเฉิงมองตามภาพที่เขาชี้ เขาเพิ่งนึกได้ นั่นเป็นครั้งแรกที่พานางไปซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ นางเลือกชุดยาวเป็นสีฟ้าคราม และเมื่อสวมใส่ก็งดงามราวเทพธิดาจำแลงจ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 643

    พ่อบ้านไม่รู้ว่าเขาถืออะไรออกมา แต่ดูเป็นม้วนๆ น่าจะเป็นภาพเขียนเรื่องบางอย่าง จำเป็นต้องอธิบายให้ชัดเจน......เยี่ยเป่ยเฉิงไม่คาดคิดว่าไป๋อวี้ถังจะมาหาเขาเพราะคิดว่า ระหว่างพวกเขาคงไม่มีเรื่องใดต้องคุยกันอีกนับแต่รู้ว่าไป๋อวี้ถังคิดเลยเถิดต่อซวงเอ๋อร์ของเขา ก็ไม่คิดว่าไป๋อวี้ถังเป็นเพื่อนอีก กระทั่งยังนึกอิจฉาในใจเสียด้วยซ้ำ!เพราะเทียบกับที่เขาทำร้ายจิตใจหลินซวงเอ๋อร์ ไป๋อวี้ถังคล้ายกับทำให้นางพอใจและมีความสุขมากกว่าเพียงแต่ซวงเอ๋อร์จะคิดอย่างไรต่อไป๋อวี้ถังกันนะ?หากเขาไม่ใช้วิธีบังคับให้นางมาอยู่ด้วย นางจะชื่นชมไป๋อวี้ถังมากกว่าหรือเปล่า?และหากวันที่จากลา ไม่มีเหตุการณ์ภูเขาถล่ม นางจะไปกับไป๋อวี้ถังจริงๆ ชาตินี้ไม่กลับมาพบเขาอีกหรือไม่?เมื่อนึกถึงเรื่องเหล่านี้ เขาก็รู้สึกปวดใจยิ่งเรื่องนี้เหมือนดั่งเสี้ยนหนามที่คาอยู่ในลำคอ ทำให้เขาไม่กล้าคิดต่อ ไม่กล้าไปซักถาม ได้แต่หลบเลี่ยงไปวันๆ...สำหรับไป๋อวี้ถังนั้น เขาควรจะโกรธแค้นคนผู้นี้ให้มาก!เพราะวันนั้น ที่หลินซวงเอ๋อร์จากไป ไป๋อวี้ถังก็ตั้งใจจะพาซวงเอ๋อร์ของเขาหนีไปให้ไกล แต่สุดท้ายเขาไม่ได้ดูแลนางดีๆ จึงทำให้เส

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 642

    ไป๋อวี้ถังกลับมาถึงจวน ก็เป็นยามค่ำคืนที่ดึกสงัดมากแล้วทันทีที่พ่อบ้านเปิดประตูให้เขา ก็ได้กลิ่นสุราฉุนโชยมาแต่ก่อนไป๋อวี้ถังไม่เคยดื่มเหล้า แต่หลายวันนี้ เขามักกลับมาพร้อมกลิ่นเหล้าติดตัวเสมอพ่อบ้านเป็นคนเก่าแก่ในจวน เห็นไป๋อวี้ถังมาตั้งแต่เล็กจนโต รู้นิสัยดีว่าเป็นคนอย่างไร เขาไม่เคยเห็นไป๋อวี้ถังปล่อยปละตนเองเช่นนี้มาก่อน แม้เจ้าตัวจะไม่ยอมพูดอันใด แต่พ่อบ้านก็รู้ดี ว่าไป๋อวี้ถังมีเรื่องกลัดกลุ้มในใจ จนทำให้เขาคล้ายหมดอาลัยตายอยากจนสิ้น“ใต้เท้า สุราทำลายสุขภาพ ท่านต้องดูแลตัวเองบ้างนะขอรับ” พ่อบ้านเดินตามไป๋อวี้ถังเข้าไปในจวน พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงหดหู่ไป๋อวี้ถังดื่มสุราไปมาก เขานึกว่าการดื่มจะทำให้ลืมเลือนความทุกข์ไปได้บ้าง แต่แท้จริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ ไม่ว่าเขาจะดื่มมากเท่าใด ใบหน้าของหลินซวงเอ๋อร์ก็ยิ่งปรากฏเด่นชัดในห้วงคำนึงของเขา อย่างไรก็ไม่อาจลบล้าง...ที่แท้ การใช้สุราดับทุกข์ ทุกข์จะยิ่มเพิ่มพูนต่างหากเขารู้สึกก้าวเท้าเลื่อนลอย แต่สมองยังมีสติอยู่มาก“ข้าไม่เป็นไร ท่านออกไปก่อน อย่าให้ใครมารบกวนข้า” ไป๋อวี้ถังผลักประตูห้องหนังสือ ตรงดิ่งเข้าไปด้านในเดิมพ่อบ้า

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 641

    ไหนๆ คนก็เสียชีวิตไปแล้ว ไม่มีพยานหลักฐาน ใครจะยืนยันได้ว่านางเป็นคนทำ!แต่เยี่ยเป่ยเฉิงไม่ได้ถามนางซ้ำอีก ไม่แม้แต่จะมองนางอีกสักนิด แต่กลับยืนขึ้น หันไปกล่าวต่อเสวียนอู่ซึ่งยืนอยู่เรือนด้านนอก “เตรียมยามาให้เจียงหว่าน!”เมื่อได้ยินประโยคนี้ เจียงหว่านก็ค่อยเบาใจลงที่แท้ เขายังเชื่อใจนางอยู่เขาตัดใจฆ่านางไม่ได้หรอกเขายังนึกถึงบุญคุณที่ตระกูลเจียงมีต่อเขา...“ท่านอ๋อง ไม่ว่าจะด้วยเหตุอันใด เจียงหว่านก็ไม่โทษท่าน หากท่านเข้าใจผิดเรื่องใด เจียงหว่านจะอธิบายให้รู้เอง”เยี่ยเป่ยเฉิงไม่ได้กล่าวเรื่องใดต่ออีก เขายืนที่ขั้นบันใด พร้อมเอามือไพล่หลัง ทั่วกายปรากฏลักษณะอันเย็นชา จนทำให้คนรู้สึกอึดอัดเสวียนอู่รับคำสั่งเดินเข้ามา พร้อมติดตามมาด้วยทหารอีกสองคน พอมาถึงก็คุมตัวเจียงหว่านไว้ ลากตัวนางเข้าไปห้องด้านข้างอย่างไม่ปรานีปราศรัยเจียงหว่านยังบาดเจ็บหนักอยู่ เมื่อถูกกระทำการป่าเถื่อนเช่นนี้ นางย่อมตกใจเป็นอย่างมากนางเอื้อมมือไปจับชายเสื้อเยี่ยเป่ยเฉิงไว้ “ท่านอ๋อง เจียงหว่านรู้สึกกลัวนัก เจียงหว่านเจ็บเจ้าค่ะ...”เยี่ยเป่ยเฉิงแทบไม่มองหน้านางเสียด้วยซ้ำ ปล่อยให้ทหารสองคนเดินขึ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 640

    ดวงตาเยี่ยเป่ยเฉิงเต็มไปด้วยจิตสังหาร กริชในมือแทงเข้าไปในอกเจียงหว่านทีละน้อย ทว่ากลับจงใจไม่ให้นางตายใบมีดหมุนวนอยู่ในบาดแผลลึกของนาง เยี่ยเป่ยเฉิงมีท่าทางเยือกเย็น ไม่สงสารเลยแม้แต่น้อยฟ้ารู้ว่าเขาอยากฆ่านางมาก กระทั่งอยากสับนางเป็นหมื่นชิ้น!ทว่านี่หาได้คลายความเคียดแค้นที่อยู่ในใจเขาไปได้!ซวงเอ๋อร์ของเขาประสบกับความทรมานมากมาย เขาจะให้เจียงหว่านตายอย่างมีความสุขได้อย่างไร!สีหน้าเจียงหว่านซีดดั่งผีสาง เลือดแดงสดไหลออกมาจากทรวงอกนาง นางมองเยี่ยเป่ยเฉิงด้วยความตกใจ ราวกับไม่กล้าเชื่อว่าเขาจะมีใจคิดฆ่าและอยากฆ่านางจริง…“ท่านอ๋อง…ข้าทำอะไรผิดหรือ…ไยจึงทำเช่นนี้กับข้า…”นางฝืนกลั้นความเจ็บปวด ดวงตาตกใจเผยความหวาดกลัวสุดขีดในใจออดมาเยี่ยเป่ยเฉิงชักกริชออกอย่างแรง พลันเลือดสาดกระเซ็นไปทั่วราวกับเจียงหว่านถูกสูบแรงจนหมดไปทั่วร่าง จึงค่อยๆ ทรุดตัวไถลตามเสาตกลงพื้นเลือดไหลออกมาจากปากนาง มือกุมบาดแผลที่เลือดไหลไม่หยุดไว้แน่น พลางมองเยี่ยเป่ยเฉิงด้วยสีหน้าเจ็บปวด พร้อมถามเขาด้วยความไม่เข้าใจอย่างมาก “ท่านจะฆ่าข้าจริงหรือ? พ่อข้ามีบุญคุณต่อท่านอย่างใหญ่หลวงดั่งภูเขา แม้แต่บุญคุณ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 639

    หากเป็นเช่นนี้จริงก็ดีเลย นางรอเวลานี้มานานโขแล้ว…นางถึงกับไม่เสียดายที่จะเป็นแทนของหลินซวงเอ๋อร์ สรุปแล้ว หาวิธีอยู่ข้างกายเข้าให้ได้ก่อนค่อยว่ากัน รอมาเนิ่นนาน รอเขาลืมหลินซวงเอ๋อร์นังผู้หญิงคนนั้นจนสิ้น ไม่แน่เขาอาจจะหันมาชอบตัวเองก็ได้ด้วยความตื่นเต้นเต็มเปี่ยม ในที่สุดรถม้าก็มาถึงเจียงหว่านถือกระโปรงลงจากรถม้า ไม่รอให้เสวียนอู่นำทาง ก็วิ่งเบาๆ ไปยังเรือนตะวันออกนางถึงขั้นที่คิดได้แล้วว่าควรจะคำปลอบเขาอย่างไร สรุปแล้ว ต้องให้เขาเกิดความรู้สึกดีต่อตัวเองถึงจะได้…ไม่นานก็มาถึงเรือนตะวันออก เสวียนอีไม่ได้ตามเข้าไปอีก แค่ยืนอยู่นอกประตูเรือน ไม่ให้ผู้ใดเข้าใกล้เจียงหว่านไม่คิดสิ่งใด ยกเท้าก้าวเข้าไปในเรือนทันทีในเรือนว่างเปล่าไร้คน ดูแล้วเงียบเป็นพิเศษต้าหู่ถูกขังไว้ในรั้ว ตอนนี้กำลังหลับอยู่เมื่อเห็นต้าหู่ เจียงหว่านลดฝีเท้าเบาลงไปมากโดยไม่รู้ตัว ด้วยกลัวว่าจะไปทำให้มันตื่นแต่ต่อให้ฝีเท้านางจะเบาแค่ไหน ก็ยังดังจนทำให้ต้าหู่ตื่นอยู่ดีต้าหู่ลืมตาขึ้น ครั้นเห็นเจียงหว่านก้อ้าปากกว้าง คำรามใส่นาง ให้ความรู้สึกว่าอยากจะฉีกนางเป็นชิ้นๆ เจียงหว่านสั่นเทาไปทั่วร่าง และ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 638

    ไม่กี่วันมานี้ เจียงหว่านพักอยู่ในจวนตระกูลเจียงอย่างสบายอกสบายใจคนที่นางส่งไปสอดแหนมหลินซวงเอ๋อร์กลับมารายงานว่า หลินซวงเอ๋อร์เสียชีวิตในเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลาก ร่างหายสาบสูญเมื่อได้ยินข่าวนี้ อย่าว่าเลยว่านางจะรู้สึกดีใจปานฉะไหนนางยังกังวลอยู่เลยว่าจะมีใครรู้เรื่องที่ตัวเองทำเข้า แต่ไม่คิดเลยว่าหลินซวงเอ๋อร์จะโชคไม่ดี ประสบภัยน้ำป่า! ดูท่า แม้แต่พระเจ้าก็ยังละเว้นโทษให้นาง!ตอนนี้ ตัวนางไม่อยู่แล้ว แม้แต่ศพก็หาไม่เจอ ก็จะไม่มีใครสืบสาวราวเรื่องมาถึงนางได้แล้วแต่ไม่รู้ทำไม ไม่กี่วันมานี้หนังตานางกระตุกแรงมาก และมักจะรู้สึกไม่สบายใจ ราวกับว่าจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นนับตั้งแต่ถูกเยี่ยเป่ยเฉิงไล่กลับมาจวนตระกูลเจียง เยี่ยเป่ยเฉิงก็ไม่เรียกหานางอีก ได้ยินว่า เสิ่นป๋อเหลียงกลับเมืองหลวงมาแล้ว จากนี้ไป เขาไม่มีทางใช้นางอีกแล้ว…ไม่กี่วันนี้นาวพักอยู่ในจวนอย่างสงบเสงี่ยม รอจังหวะ นางคิดว่ารอเรื่องนี้จบลงแล้ว นางก็จัคิดหาวิธีเข้าใกล้เยี่ยเป่ยเฉิงนางเชื่อว่า คนๆ หนึ่งที่อยู่ในความสิ้นหวังโดดเดี่ยวสุดๆ จะต้องการผู้หญิงสักคนมาเป็นห่วงปลอบใจที่สุด…ไม่คิดเลยว่า เพิ่งผ่านไปได้ไม่กี่วัน

DMCA.com Protection Status