แชร์

บทที่ 569

ผู้แต่ง: พิณเคล้าสายฝน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-04 18:00:13
เยี่ยเป่ยเฉิงขมวดคิ้ว เขาถามหลินซวงเอ๋อร์ว่าเหตุใดถึงได้คิดเช่นนี้

หลินซวงเอ๋อร์เลยบอกสิ่งที่ตัวเองเดาให้เยี่ยเป่ยเฉิงฟัง

“ท่านพี่เชื่อข้าหรือไม่?” หลินซวงเอ๋อร์จับชายเสื้อของเยี่ยเป่ยเฉิงไว้ ประหนึ่งคว้าที่พึ่งสุดท้ายเอาไว้

ตอนนี้ นางมีแค่เขาที่สามารถพึ่งพาได้ หากแม้แต่เขาก็ยังไม่เชื่อนาง นางก็คงจะแตกสลายจนสิ้น

เยี่ยเป่ยเฉิงสวดกอดนางไว้ในอ้อมแขน พลางปลอบเสียงเบา “พี่จะไปสืบดู หากนางจะทำร้ายเจ้าจริง พี่ฆ่านางแน่!”

ตอนนั้นเจียงหว่านสั่งยาสองชนิดให้หลินซวงเอ๋อร์ อันหนึ่งเป็นยาสมุนไพรใช้ภายใน อีกอันหนึ่งเป็นยาทาที่ใช้ทาแผลภายนอก

เยี่ยเป่ยเฉิงเรียกเสวียนอู่เข้ามาในห้อง ให้เขาเอายาสองชนิดนี้ไปหาหมอหลวงในวัง ดูว่าส่วนผสมในนั้นมีผลไม่ดีต่อร่างกายหรือไม่

เสวียนอู่ถือยาไว้ในมือ อดถามขึ้นมาไม่ได้ “หากแม่นางเจียงทำจริง ท่านอ๋องจะจัดการอย่างไรขอรับ?”

เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าวด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก “ฆ่านางซะ!”

“ขอรับ!” เสวียนอู่ไม่ถามอะไรมากอีก เขาถือยาและตรงออกจากประตูไปทันที

เยี่ยเป่ยเฉิงนั่งลงบนเก้าอี้ บนโต๊ะมีกระดาษแผ่นหนึ่งกางอยู่พอดี บนกระดาษนั้นมีเขียนอยู่ไม่กี่บรรทัด

เดิมทีนี่เป็นวันมง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 570

    นางในยามนี้ สวมเสื้อผ้าเบาบาง ผมดำขลับด้านหลังตรงสรวยเงางามหลินซวงเอ๋อร์เห็นเขาผ่านกระจกนางหันกลับมา ดวงตาชุ่มชื่นคู่นั้นในเวลานี้กำลังจับจ้องมาที่เขา“ท่านพี่กลับมาแล้วหรือ?”หลินซวงเอ๋อร์หยักยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย ลักยิ้มบนแก้มเผยออกมา ปอยผมที่ย้อยทั้งสองข้างปลิวไหวเบาๆ ยิ่งขับให้ดูดีมากขึ้นเยี่ยเป่ยเฉิงแอบกลืนน้ำลาย อารมณ์สั่นไหวที่อยู่ในใจใกล้จะปะทุออกมาดีจริงๆ ซวงเอ๋อร์ของเขา ทั้งใจทั้งกายล้วนเป็นของเขา…เยี่ยเป่ยเฉิงมิอาจอธิบายได้ว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไร เขาแค่รู้สึกว่าใจของตัวเองได้รับการเติมเต็มอย่างมากเขาเดินไปหาหลินซวงเอ๋อร์ทีละก้าวๆ แล้วโอบนางจากด้านหลัง ร่างเพรียวถูกอกหนาของเขาโอบไว้อย่างแน่นหนา“วันนี้ซวงเอ๋อร์ดื่มยาอย่างเชื่อฟังไหมเอ่ย?” เยี่ยเป่ยเฉิงหลุบตามองนาง ในตาพรั่งพรู่ไปด้วยความต้องการหลินซวงเอ๋อร์กล่าว “ดื่มแล้ว เป็นยาที่ท่านหมอหลวงสั่งให้ข้า”เยี่ยเป่ยเฉิงจูบหน้าผากหลินซวงเอ๋อร์ พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงแหบพร่าเล็กน้อย “ซวงเอ๋อร์เป็นเด็กดีจริงๆ ”ทว่าหลินซวงเอ๋อรกลับนึกบางอย่างขึ้นมาได้ เขาผละเยี่ยเป่ยเฉิงออก และมองดูเขา ก่อนถามด้วยท่าทางเคร่งขรึม

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 571

    หลินซวงเอ๋อร์มองเขาด้วยดวงตาแดงก่ำ ทว่าก็อดถามเขาด้วยตัวเองขึ้นมาไม่ได้ว่า “ท่านพี่รู้เรื่องที่ข้าแท้งนานแล้วใช่หรือไม่…”เยี่ยเป่ยเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย ครู่ใหญ่ๆ ถึงได้พยักหน้าเบาๆ “ซวงเอ๋อร์ หมอหลวงบอกแล้ว ขอแค่รักษาดูแลตัวเองให้ดี วันหน้าอาจจะยังมีลูกได้…”หลินซวงเอ๋อร์หลับตาลง ก่อนลืมตาขึ้นขมวดคิ้วเล็กน้อย “เช่นนั้นท่านรู้หรือไม่ ความจริงเจียงหว่านตรวจข้าว่าท้องได้นานแล้ว แต่นางกลับปิดบังไม่รายงาน ให้ยาข้าดื่มทุกวันสุดท้ายก็ทำร้ายข้าจนแท้งลูก ท่านพี่ยังคงเลือกที่จะปกป้องนางอยู่หรือไม่?”เยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกจนใจเล็กน้อย เขารู้ว่าคนที่เป็นโรคซึมเศร้ามักจะคิดไปเรื่อยเปื่อย กระทั่งแยกไม่ออกว่าไหนความจริงไหนลวงตา เขาคิดว่า ซวงเอ๋อร์ของเขาต้องคิดมากเกินไปแล้วแน่ ถึงได้คิดจนดูผิดปกติเล็กน้อยเขารู้ว่าตอนนี้ตัวเองไม่สามารถไปกระตุ้นได้ จึงแกล้งทำเป็นไม่กล้าคุยเสียงดังใส่นาง ได้แค่คุยกับนางด้วยเสียงอ่อนโยน “ซวงเอ๋อร์ จะฆ่าคนต้องมีหลักฐาน เจียงหว่านไม่ได้มีความกล้าไปทำร้ายเจ้าหรอก เป็นเจ้าที่คิดมากเกินไป…”“ท่านก็ยังไม่เชื่อข้า…”หลินซวงเอ๋อร์ใหล้จะแตกสลายไม่มีใครยอมเชื่อนาง ทว่านางเชื่

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 572

    เพราะนางอารมณ์ดีมากใช่หรือไม่ ถึงคิดจะรังแกอะไรก็ได้!แต่ว่า นางก็มีหัวใจ! นางได้ผ่านวันคืนเหล่านั้นด้วยการให้อภัยเยี่ยเป่ยเฉิงเพียงลำพัง!บัดนี้ นางสูญเสียลูก เจียงหว่านจะต้องมีส่วนรับผิดชอบ!เหตุใดนางจะให้เจียงหว่านชดใช้ไม่ได้!เยี่ยเป่ยเฉิงถอนหายใจเสียงต่ำ “ซวงเอ๋อร์ เจ้าคิดมากไปแล้วจริงๆ เจียงหว่านเป็นแค่คนนอก เจ้าข้าไม่จำเป็นต้องทะเลาะกันเพราะนาง”หลินซวงเอ๋อร์ระงับโทสะที่อยู่ในใจเอาไว้ กล่าว“ในเมื่อเป็นแค่คนนอก!เหตุใดท่านพี่ถึงเชื่อนางไม่เชื่อข้า! ข้าบอกแล้ว นางทำร้ายลูกของข้า…”“ข้าจะให้นางได้ชดใช้! นางทำร้ายลูกข้า ไยท่านพี่ถึงต้องปกป้องนางเสมอ! ข้าเกลียดนาง! และเกลียดท่านด้วย!”เยี่ยเป่ยเฉิงชะงักไปเล็กน้อย อารมณ์ของซวงเอ๋อร์อ่อนโยนมาตลอด นี่เป็นหนแรกที่เห็นนางโกรธเช่นนี้ แม้แต่เขาก็ยังโดนด้วย“ซวงเอ๋อร์…เจ้าเป็นอะไรกันแน่?”เยี่ยเป่ยเฉิงเผยท่าทางกลัดกลุ้มออกมา ด้วยกลัวว่านางจะโมโห และทำท่าจะทำร้ายตัวเองอีกหลินซวงเอ๋อร์ถามเขากลับ“แล้วท่านพี่เล่าเป็นอะไรกันแน่? ข้าจำได้ว่าเมื่อก่อนท่านพี่ดีกับซวงเอ๋อร์มากๆ เหตุใดตอนนี้ถึงเปลี่ยนไป เพราะว่าได้แล้วก็ไม่เห็นค่าได้ใช่หรือไม่

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 573

    จู่ๆ หลินซวงเอ๋อร์ก็นิ่งไป ทำให้เยี่ยเป่ยเฉิงกระวนกระวายใจเล็กน้อยเขารีบอธิบาย “ซวงเอ๋อร์ หาใช่พี่ไม่เชื่อเจ้า เพียงแต่ตอนนี้เจ้ายังป่วยอยู่ ทุกอย่างรอหลังจากที่เจ้าหายแล้ว ค่อยอธิบาย…”หลินซวงเอ๋อร์กล่าว“ท่านอ๋องจะเชื่อก็เชื่อเถิด ไม่เชื่อก็ช่าง”เยี่ยเป่ยเฉิงตกใจนางโกรธแล้วจริงๆ แม้แต่คำว่าท่านพี่ก็ไม่เรียกแล้ว“ซวงเอ๋อร์…”หลินซวงเอ๋อร์ไม่สนใจเขาอีก นางลุกขึ้นเดินไปทางเตียงนอน แล้วล้มตัวลงนอนหันหลังให้เขาจากนั้นเยี่ยเป่ยเฉิงก็ตามาเลิกผ้าห่มขึ้นและซุกตัวลงนอนบนเตียงสองสามวันนี้เอาแต่คำนึงถึงนางป่วย เขาจึงแทบอยู่เป็นเพื่อนนางในจวนทุกวัน ตกเย็นก็มักจะกอดกันนอนทว่าคืนนี้ หลินซวงเอ๋อร์ไม่ให้เขากอด แม้แต่แตะนิดหน่อยก็ไม่ให้เยี่ยเป่ยเฉิงถอนหายใจ และทำได้เพียงเก็บมือกลับมาไว้เหมือนเดิมเขารู้ว่าตอนนี้นางยังโกรธอยู่ คิดว่ารอนางหายโมโหแล้วค่อยง้อนางอย่างไรเสีย คำพังเพยกล่าวไว้ว่าสามีภรรยาทะเลาะกัน ไม่นานก็คืนดีกัน ยิ่งไปกว่านั้น ซวงเอ๋อร์ของเขาอารมณ์ดีมากมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไม่มีทางไม่สนเขาตลอดไปแน่นอนแต่ที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงก็คือ เมื่อถึงวันรุ่งขึ้น ความโกรธของหลินซวงเอ๋อร์

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 574

    “ซวงเอ๋อร์ ได้ยินว่าเจ้าไม่สบายใจ ได้เจอข้าแล้วดีขึ้นบ้างหรือไม่?” ฮุ่ยอี๋กระตือรือร้น ครั้นเห็นหลินซวงเอ๋อร์ก็แทบทะยานพุ่งเข้ากอดนางฉาดใหญ่หลินซวงเอ๋อร์เกือบตั้งตัวไม่ไหว ถอยหลังไปหลายก้าวกว่าจะตั้งหลักได้“องค์หญิงมาได้อย่างไร? อาการป่วยของเจ้าดีแล้วหรือ?” หลินซวงเอ๋อร์เผยสีหน้าตกตะลึง ฮุ่ยอี๋ตรงหน้ายังคงเป็นองค์หญิงผู้เปล่งประกายคนนั้น ช่างแตกต่างจากฮุ่ยอี๋ในตำหนักหลวนเฟิ่งวันนั้นยิ่งนัก“เอาล่ะ เอาล่ะ ข้ายังมีเรื่องใหม่ๆน่าสนุกอีกเยอะแยะ ทั้งของกินของใช้ ขอแค่เจ้าชอบจากนี้จะมีมาให้อีก”สิ้นเสียงนางสนมรับใช้และขันทีทยอยยกกล่องของกำนัลน้อยใหญ่ส่งเข้ามาในห้องหลินซวงเอ๋อร์หลินซวงเอ๋อร์อ้าปากค้างตะลึงงันของกำนัลหายากแปลกตาสารพัดเท่าภูเขากองนี้ ราวกับสินสอด คนที่ไม่รู้คงคิดว่านางกำลังออกเรือนเป็นแน่......หลินซวงเอ๋อร์เอ่ย “เหตุใดองค์หญิงถึงส่งมอบของเหล่านี้หรือ?”ฮุ่ยอี๋ตอบ “ข้าบอกไปแล้ว จากนี้ของที่ข้ามี จะแบ่งให้เจ้าครึ่งหนึ่ง”หลินซวงเอ๋อร์ส่ายหน้ารัวพัลวัน “ไม่เป็นไร ของเหล่านี้ข้าล้วนมีในจวนครบครันแล้ว องค์หญิงไม่จำเป็นต้องมอบให้ข้าเป็นพิเศษหรอก”ฮุ่ยอี๋เอ่ย “นั่นมันคน

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 575

    “พี่ไป๋ ท่านมาอยู่นี่ได้อย่างไร?” ชั่ววินาทีที่เห็นไป๋อวี้ถัง หลินซวงเอ๋อร์ตะลึงงันทันใดไป๋อวี้ถังเอ่ย “ช่างบังเอิญเสียจริง เจอแม่นางซวงเอ๋อร์อีกแล้ว”หางตาหางคิ้วยกโค้งตามรอยยิ้ม ทำเอาใครเห็นล้วนรู้สึกราวกับกำลังอาบน้ำท่ามกลางวสันตฤดูหลินซวงเอ๋อร์กล่าว “ช่างบังเอิญจริงๆ องค์หญิงเองก็อยู่ด้วย” พูดไปพลางหันหลังมาดหมายตามหาองค์หญิง ทว่ากลับถูกเอาออกแรงรั้งเอวไว้ ทำเอานางตกอยู่ในอ้อมกอดเขาทันใด“ซวงเอ๋อร์ ระวัง”สิ้นเสียง ผู้คนบนถนนเริ่มถาโถมเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง ที่แท้ก็เพราะด้านหน้าก็มีนักแสดงความสามารถเปิดหมวกแสดงฝีมืออยู่นั่นเอง เสียงเคาะฆ้องดังสนั่น เมื่อนักแสดงความสามารถกู่ร้องลั่น ฝูงชนพลันกระหน่ำไปเบื้องหน้าทันทีฮุ่ยอี๋ถูกฝูงชนเบียดเสียดพาไปข้างหน้า ลากยาวห่างจากหลินซวงเอ๋อร์ไประยะหนึ่งทีเดียวหลินซวงเอ๋อร์ถูกไป๋อวี้ถังกักไว้ในอ้อมแขน ขยับตัวไม่ได้อยู่ครู่หนึ่งไม่รู้ว่าใครรีบร้อนนักหนา ถึงชนไป๋อวี้ถังเต็มแรง ทำเอาเขากระเด็นมาข้างหน้า ระยะห่างของทั้งสองขยับใกล้ขึ้นอีกขั้นคนในอ้อมแขนอ่อนนุ่มดุจไร้กระดูก ครั้นไป๋อวี้ถังผลุบตามองลงก็เห็นเข้ากับขนตาแพงอนยาวของ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 576

    ฮุ่ยอี๋กล่าวด้วยความเย่อหยิ่ง “รู้แล้วก็ดี!”หลินซวงเอ๋อร์มองไป๋อวี้ถังด้วยวความเห็นใจ ทั้งที่เขาถูกฮุ่ยอี๋พูดฉีกหน้าเช่นนี้ยังไม่สนใจอีกฝ่าย ก็คิดว่าคงตกหลุมรักฮุ่ยอี๋เข้าเต็มเปาแล้วคิดได้ดังนี้ หลินซวงเอ๋อร์พลันรู้สึกว่าเขาน่าสงสาร จึงอดพูดกับฮุ่ยอี๋ไม่ได้ “องค์หญิง เจ้าอย่าพูดกับพี่ไป๋เช่นนี้เลย เขาจะเสียใจเอา”ไป๋อวี้ถัง “?”ฮุ่ยอี๋ยิ้มเอ่ยอย่างใจร้าย ชี้ไปที่จมูกไป๋อวี้ถัง “เขาจะเสียใจอะไรเล่า? เขามันไร้หัวใจ ซวงเอ๋อร์อย่าได้เห็นใจเขา!”หลินซวงเอ๋อร์ถอนหายใจ นางหันกายกลับไปเอ่ยกับไป๋อวี้ถัง “พี่ไป๋ อฃค์หญิงเป็นพวกปากพูดไปเรื่อย แต่ใจหาได้คิดอะไร ท่านอย่าถือสาใส่ใจไปเลย”ไป๋อวี้ถังเอ่ยจริงจัง “แม่นางซวงเอ๋อร์ ข้ามิได้ถือสาใส่ใจ”หลินซวงเอ๋อร์มองเขาด้วยสายตาเห็นใจยิ่งกว่าเดิม นางกดเสียงเบาเอ่ยกับไป๋อวี้ถัง “พี่ไป๋ ข้ารู้ว่าลึกๆท่านเสียใจ อย่างไรเสีย การคิดไปเองฝ่ายเดียวนั้นเจ็บปวดยิ่ง กระนั้นหากอดทนไว้ มันจะผ่านไปได้ในท้ายที่สุด......”ไป๋อวี้ถังขมวดคิ้ว รู้สึกสับสนงุนงงกระนั้นนางกลับพูดถูก การคิดไปเองฝ่ายเดียวนั้นเจ็บปวดเหลือทน และได้ว่าทนแล้วจะผ่านไปได้เสียหมด“พี่ไป๋ม

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 577

    สายตาถูกฮุ่ยอี๋ขวางไว้ได้อย่างชาญฉลาด ไป๋อวี้ถังไม่เห็นใบหน้าหลินซวงเอ๋อร์ ทำได้เพียงละสายตาไปอย่างผิดหวังทั้งสามเดินไปข้างหน้าต่ออาจเป็นเพราะไม่ได้ออกวังมานาน ฮุ่ยอี๋ถึงรู้สึกเก็บกด เห็นอะไรดูแปลกตาน่าสนุก ก็อดใจพุ่งไปดูไปจับเสียมิได้ครานี้ นางเตรียมเงินมาเพียงพอ ยามเห็นอะไรน่าสนุกหรือสวยงาม ก็ต้องซื้อติดมือไปสองชิ้น ชิ้นหนึ่งให้ตนเอง อีกชิ้นเอาให้ซวงเอ๋อร์ไปอวี้ถังตามหลังทั้งสอง ออกตัวถือของให้ฮุ่ยอี๋ฮุ่ยอี๋เองก็ไม่เกรงใจ ไม่ว่าจะซื้ออะไรล้วนยัดใส่มือไป๋อวี้ถังทั้งหมดไม่นาน ในมือไป๋อวี้ถังก็เต็มไปด้วยสารพัดของเล็กใหญ่ฮุ่ยอี๋ยังไม่พอใจ เทียวเลือกของหน้าร้านต่อเนื่องหลินซวงเอ๋อร์ไม่ได้ตามติดไป นางเห็นไป๋อวี้ถังถือของเต็มมือ จึงคิดอยากช่วยแบ่งเบาสักส่วนไป๋อวี้ถังเอ่ย “ไม่เป็นไร เรื่องใช้แรงงานเช่นนี้จะให้เจ้าทำได้อย่างไร”หลินซวงเอ๋อร์ตอบ “ไม่เป็นหรอก แต่ก่อนข้าก็ใช้แรงงาน เป็นงานใช้แรงหนักกว่านี้เสียอีก”ไป๋อวี้ถังกล่าว “อย่างไรก็ไม่ได้ อย่างน้อยอยู่ต่อหน้าข้า ข้าไม่มีทางให้เจ้าต้องทำเรื่องแบบนี้แน่”เมื่อได้ยิน หลินซวงเอ๋อร์ชะงักงันเล็กน้อยคำพูดคำจานี้ ฟังดูแล้ว

บทล่าสุด

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 625

    เยี่ยเป่ยเฉิงมือสั่นขณะรับขวดกระเบื้องจากตงเหมยมาเนื้อสีขาวของขวดปรากฏเงาสีแดงรำไรอยู่ด้านในตงเหมยกล่าว “ท่านอ๋องบอกว่าจะเชื่อใจนางใช่หรือไม่เจ้าคะ? ถ้าเช่นนั้นบ่าวจะไม่นำไปให้องค์หญิงอีก ท่านอ๋องลองเอาเลือดซวงเอ๋อร์ไปทดสอบดูก็ได้ ว่าเป็นจริงดั่งที่นางว่าหรือไม่ ใช้รักษาโรคระบาดได้จริง!”“ถึงตอนนั้น ท่านอ๋องย่อมจะรู้เอง ว่าซวงเอ๋อร์ไม่ได้พูดโกหก...”เยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกจุกในอก ในยามนี้ เขาเกิดความกลัวที่จะนำไปพิสูจน์เพราะหากว่า ทุกอย่างเป็นจริงดั่งที่ตงเหมยพูด นั่นแสดงว่าเขาทรยศต่อความไว้วางใจของหลินซวงเอ๋อร์อีกครั้งในตอนนั้น นางเคยร่ำไห้พูดกับตนว่า เลือดของนางสามารถช่วยชีวิตคนได้แล้วเขาตอบว่าอย่างไร?อ้อ นึกออกแล้วเขาเย้ยหยันไปว่านางไม่ใช่เทวดา พร้อมกล่าวตำหนิว่านางชอบทำร้ายตนเองบ่อยครั้งสวรรค์ นี่เขาเป็นอะไรไป เขาได้กระทำสิ่งใดต่อนางไปบ้าง...เสวี่ยนอู่เห็นดังนี้ จึงรีบเดินมารับขวดไปจากมือเยี่ยเป่ยเฉิง พร้อมกล่าวต่อเขา “ในค่ายทหารยังมีผู้ป่วยอีกหลายคน ข้าน้อยจะนำไปทดสอบเดี๋ยวนี้...”เมื่อกล่าวเช่นนี้แล้ว ตงเหมยจึงไม่อยากพูดมากความอีก นางหันหลังเตรียมจะจากไป กลับถูก

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 624

    ตงเหมยกล่าวเสียงสะอื้น “เชื่อตอนนี้จะมีประโยชน์อันใดเจ้าคะ? ในยามที่นางโดดเดี่ยวสิ้นหวัง ท่านไม่อยู่เคียงข้าง นางสูญเสียลูกไป ท่านก็ไม่อยู่เคียงข้าง และบัดนี้นางล้มป่วย ท่านก็เอาร่างนางไปอยู่บ้านนอกแทน”“เชื่อตอนนี้จะมีประโยชน์อันใด ทุกอย่างล้วนสายเกินแก้!”ตงเหมยยิ่งพูดก็ยิ่งโมโห จนแทบอยากระบายความอัดอั้นที่หลินซวงเอ๋อร์ได้รับออกมาแทนนางให้หมดสิ้น“น่าเห็นใจซวงเอ๋อร์นัก...นางทำเพื่อท่าน ต้องทนกล้ำกลืนความเจ็บช้ำมากมาย ไม่เคยที่จะระบายให้ท่านฟังสักครั้ง”“คืนวันนั้น ท่านอ๋องจู่ๆ ทิ้งนางไป นางเพิ่งสูญเสียลูก ยังมีเลือดออกเต็มตัว ตอนบ่าวเปิดประตูเข้าไปเห็น รู้แต่ว่าแทบเป็นลมหมดสติ!”“บ่าวคิดจะบอกท่านให้รู้ แต่ซวงเอ๋อร์ไม่ต้องการให้ท่านเป็นห่วง นางบอกว่าท่านอ๋องเป็นคนทำงานใหญ่ ไม่ควรให้อยู่แต่ในเรือนหลัง ยิ่งกลัวว่าหากพูดไปแล้ว ท่านจะรังเกียจร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ของนาง วันหน้าไม่อาจมีทายาทให้ท่านได้อีก”“แต่ว่า ท่านอ๋องรู้หรือไม่ ตอนสูญเสียลูกไปนั้น นางเจ็บปวดเพียงไหน ในใจรู้สึกสิ้นหวังเพียงใด?”“ท่านอ๋องเคยคิดปลอบประโลมจิตใจนางบ้างหรือไม่?”เยี่ยเป่ยเฉิงยืนตะลึงตัวแข็งทื่อ เลือดใน

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 623

    “ซวงเอ๋อร์ ซวงเอ๋อร์ ข้ากลับมาแล้ว”เยี่ยเป่ยเฉิงผลักประตูเรือนอวิ๋นซวน พร้อมเดินก้าวเข้าไปด้านใน แต่กลับพบว่าภายในว่างเปล่าผ้าห่มบนเตียงถูกพับไว้เรียบร้อย ข้าวของเครื่องใช้ก็จัดวางเป็นระเบียบ ราวกับมีคนมาจัดเก็บแล้วหนึ่งรอบเมื่อเห็นหลินซวงเอ๋อร์ไม่อยู่ในห้อง เยี่ยเป่ยเฉิงก็คิดว่านางคงไปห้องหนังสือเพราะที่ผ่านมา นางมักชอบเก็บตัวในห้องนั้นเพื่อเขียนหนังสือเงียบๆ เมื่อนึกถึงตรงนี้ เขาจึงรีบออกจากเรือนอวิ๋นซวน ตรงไปยังห้องหนังสือทันทีที่ไหนได้ ห้องหนังสือก็ไม่มีร่องรอยของนาง อุปกรณ์เครื่องเขียนบนโต๊ะจัดวางเป็นระเบียบ พู่กันที่นางเคยใช้บ่อยๆ คล้ายมีการล้างน้ำจนสะอาดสะอ้าน เยี่ยเป่ยเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย พลางก้าวเดินออกจากห้องหนังสือ เดินตามหาไปยังทุกห้อง ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของนางจนกระทั่งตงเหมยกลับมาจากเรือนด้านหน้าทันทีที่เห็นตงเหมย เยี่ยเป่ยเฉิงก็รีบปรี่ไปหา “ซวงเอ๋อร์เล่า นางอยู่ที่ใด?”ในมือตงเหมยถือกล่องอยู่ใบหนึ่ง เมื่อเผชิญกับคำถามของเยี่ยเป่ยเฉิง นางมิได้ตอบกลับ นอกจากยื่นกล่องในมือให้แก่เยี่ยเป่ยเฉิง“นี่คือเครื่องประดับที่ท่านอ๋องซื้อให้ซวงเอ๋อร์ ก่อนจากไป นางได้ม

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 622

    เสิ่นป๋อเหลียงกล่าว “ท่านอ๋องกล่าวถูกต้อง ยาชนิดนี้ไม่อาจพกติดตัวได้ โดยเฉพาะยามเข้านอน ร่างกายมนุษย์จะอยู่ในช่วงอ่อนแอที่สุด พิษจะซึมเข้าสู่ร่ายกายได้ง่าย...”กล่าวได้ครึ่งหนึ่ง จู่ๆ เสิ่นป๋อเหลียงคล้ายกับนึกอะไรขึ้นมา หันไปมองเยี่ยเป่ยเฉิง พร้อมถามด้วยความตกใจ “พระชายา...นางเคยบาดเจ็บหรือไม่?”เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าวตอบ “เคย”เดิมทีนางทำเพื่อหวังจะช่วยเขา ขึ้นเขาไปหางูดำหางไหม้เพียงลำพัง กลับมาพร้อมกับบาดแผลทั่วร่าง...เสิ่นป๋อเหลียงกล่าว “ถ้าเช่นนั้นก็ถูกแล้ว ข้าน้อยเดาว่า อาการของพระชายา น่าจะเกี่ยวข้องกับถุงผ้านี้...”เยี่ยเป่ยเฉิงสูดลมหายใจเข้าลึกในยามนี้ เขาได้กระจ่างแจ้งต่อเรื่องราวทุกอย่างมิน่าเล่า นางมักจะบอกว่าไม่อยากอยู่ในเรือนอวิ๋นซวนมิน่าเล่า นางมักบอกว่ากลางคืนชอบฝันร้าย แม้เขาจะอยู่เป็นเพื่อน นางก็นอนหลับไม่สนิท...มิน่าเล่า นางเริ่มมีอารมณ์แปรปรวน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายเอาแน่ไม่ได้มิน่าเล่า นางคิดจะฆ่าเจียงหว่านให้จงได้...ทั้งที่เมื่อก่อนนางเป็นคนอ่อนน้อม ว่านอนสอนง่ายราวกับกระต่ายน้อยตัวหนึ่ง...แต่เขากลับไม่เชื่อนาง คิดว่านั่นเพราะนางเป็นโรคเครียด เพราะป่วยหน

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 621

    เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าว “นางมิได้ตั้งใจ เพียงได้รับความกระทบกระเทือนหนัก จึงทำให้ขาดสติไป ข้าไม่เคยคิดตำหนิ”เมื่อได้ยินดังนี้ เสิ่นป๋อเหลียงก็พอคาดเดาได้บ้าง จึงหยิบผ้าพันแผลออกมา พร้อมทำแผลให้เขาใหม่ และกล่าว “เป็นฝีมือพระชายาใช่หรือไม่?”เห็นเยี่ยเป่ยเฉิงไม่กล่าวตอบ เสิ่นป๋อเหลียงยิ่งรู้ดีแก่ใจ จึงไม่ถามมากความอีกแผ่นดินนี้ คงมีเพียงสตรีผู้นี้เท่านั้นที่กล้าทำร้ายเขาโดยไม่หวาดกลัว ซ้ำยังได้รับการอภัยโดยปราศจากเงื่อนไขใดๆ อีกพันแผลเสร็จเรียบร้อย เสิ่นป๋อเหลียงจึงกล่าวกำชับ “บาดแผลยังไม่แห้งสนิทดี อย่าให้โดนน้ำเป็นอันขาด...”ขาดคำไม่ทันไร จมูกก็ได้กลิ่นหอมประหลาดบางอย่างโชยมาเสิ่นป๋อเหลียงขมวดคิ้วเล็กน้อย พลางสูดกลิ่นหอมประหลาดนั่น แล้วสายตาก็ไปหยุดที่ถุงผ้าใบหนึ่งที่เหน็บอยู่ช่วงเอวของเยี่ยเป่ยเฉิง“ท่านอ๋อง ถุงผ้าใบนั้นให้ข้าดูหน่อยได้หรือไม่?”นั่นเป็นถุงผ้าที่หลินซวงเอ๋อร์เป็นคนปักให้เขา เยี่ยป่ยเฉิงย่อมไม่ยินดีจะมอบให้ผู้อื่นแต่เห็นเสิ่นป๋อเหลียงมีสีหน้าเคร่งเครียด จึงได้ถาม “ทำไมรึ? ถุงผ้าข้ามีสิ่งใดผิดปกติหรืออย่างไร?”เสิ่นป๋อเหลียงกล่าว “ข้อนี้คงต้องถามท่านอ๋อง ว่าภา

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 620

    เมื่อได้ยินว่าเสิ่นป๋อเหลียงกลับมา เยี่ยเป่ยเฉิงก็พลันหยุดชะงัก พร้อมถามเสวียนอู่ “เขาอยู่ที่ใด?”เสวียนอู่กล่าว “เขารู้ว่าหลายวันนี้ท่านอ๋องตามหาอยู่ ดังนั้น เมื่อกลับถึงเมืองหลวง ข้าน้อยจึงรีบพาตัวมาทันที ตอนนี้อยู่ค่ายทหารขอรับ”เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าว “เหมาะเลย ข้ากำลังจะกลับจวน ให้เขาตามข้ากลับไปด้วยกัน!”“ขอรับ”เสวียนอู่รีบไปเตรียมรถม้ามาคันหนึ่ง ให้เยี่ยเป่ยเฉิงและเสิ่นป๋อเหลียงโดยสารพร้อมกันภายในรถม้า เยี่ยเป่ยเฉิงมีสีหน้าเคร่งขรึม เสิ่นป๋อเหลียงนั่งอยู่ด้านข้างจึงไม่กล้าพูดจาช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาออกจากวังไปท่องเที่ยว เยี่ยเป่ยเฉิงได้มีจดหมายส่งถึงเขาหลายครั้ง เดิมทีควรรีบกลับมาเมืองหลวงนานแล้ว แต่ระหว่างทางกลับมีอุปสรรคมาขวางกั้น จนทำให้เสียเวลาไปมากและบัดนี้ เขาได้กลับถึงเมืองหลวงแล้ว รู้ว่าเยี่ยเป่ยเฉิงต้องการพบเขาคงมีเรื่องเร่งด่วน ทันทีที่มาถึงจึงมาขอพบเยี่ยเป่ยเฉิงก่อนแต่เยี่ยเป่ยเฉิงกลับไม่พูดไม่จา สีหน้าเคร่งเครียดหมองคล้ำ ดูแล้วน่าประหลาดใจยิ่งชั่วขณะนั้น ทั้งคู่ต่างไม่มีการพูดคุย บรรยากาศภายในรถม้าค่อนข้างตึงเครียดเสิ่นป๋อเหลียงเป็นฝ่ายอธิบายก่อน “ใช่ว่าข้

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 619

    ไม่เหลือซากให้เห็น และไม่ได้ออกมาอีกลมเย็นพัดกรูมา เขารู้สึกคล้ายร่างกายถูกหินก้อนใหญ่มากดทับไว้ จนเลือดท่วมทะลัก เจ็บปวดอย่างเหลือแสน...“ไม่...ไม่นะ...”ไป๋อวี้ถังรีบก้าวเท้าพุ่งตัวไป พร้อมเอามือตะกุยดินอย่างบ้าคลั่ง ราวกับสูญเสียสติสัมปชัญญะไปเสียสิ้น“ซวงเอ๋อร์ ข้าไม่ยอมให้เจ้าตาย ข้าจะช่วยเจ้าออกมา ข้าจะช่วยเจ้าออกมาให้ได้...”“เราตกลงว่าจะไปเมืองหยางโจวด้วยกัน เจ้าอย่าทิ้งข้าไปนะ ซวงเอ๋อร์ อย่าทิ้งข้าไป...”เมื่อรอบข้างสงบลง ชาวบ้านก็ต่างแห่กันมา เมื่อเห็นไป๋อวี้ถังเอามือตะกุยดินราวกับไม่คิดชีวิต จนนิ้วมือมีเลือดออก ก็ต่างส่ายหน้าและกล่าวเตือน “คุณชาย ช่างเถิดนะ อย่าขุดอีกเลย ถ้าใครถูกฝังอยู่ใต้ล่าง อย่างไรก็ไม่รอดอยู่แล้ว”ไป๋อวี้ถังไม่ยอมรับฟัง พลางวิ่งเข้าหมู่บ้านถือพลั่วมาหนึ่งอัน ขุดดินไปอย่างบ้าคลั่งอีกเมื่อเห็นเขาเตือนแล้วไม่ฟัง ชาวบ้านบางรายก็ไปช่วยขุดบ้างมีคนหนึ่งกล่าวเตือนเขา “คุณชายก็อย่าเสียใจมากนัก บางที สหายท่านอาจจะรอดตายหวุดหวิด หรือไม่ก็ ไม่ได้รออยู่ที่เชิงเขานี้”ไป๋อวี้ถังหยุดชะงักโดยพลัน นัยน์ตาแดงก่ำ มองชาวบ้านผู้นั้นด้วยความหวัง พลางกล่าว “จริงร

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 618

    ไป๋อวี้ถังขี่ม้ามาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เขามองหาบ่อน้ำ แล้วจึงเอากระเป๋าใส่น้ำที่พกติดตัวมาบรรจุน้ำในบ่อจนเต็มหมู่บ้านนี้มีผู้คนอยู่ห่างๆ เพียงไม่กี่ครัวเรือน เดิมไป๋อวี้ถังไม่คิดจะอยู่นาน แต่พอรอนแรมมาไกลมาก อีกทั้งละแวกนี้ก็ไม่มีโรงเตี๊ยมพอให้พักอาศัยหากคิดจะหาโรงเตี๊ยมจริงๆ ก็ต้องเดินทางต่อไปอีกประมาณสิบกว่าลี้เพื่อไม่ให้หลินซวงเอ๋อร์ต้องหิวข้าว ไป๋อวี้ถังจึงไปหาครอบครัวหนึ่ง พร้อมใช้เงินซื้อหมั่นโถวหลายลูกที่พวกเขาเพิ่งนึ่งเสร็จใหม่ๆ เนื่องจากเขาเป็นคนใจป้ำ ครอบครัวชาวบ้านธรรมดาทำงานหนึ่งปียังไม่ได้เงินมากมายเท่านี้ จึงได้แถมนมแพะที่รีดเองให้แก่ไป๋อวี้ถังไปด้วยเป็นนมที่เพิ่งผ่านการต้มมา ดื่มแล้วช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นมากไป๋อวี้ถึงจึงไม่ปฏิเสธ ยอมรับมาแต่โดยดีแต่เขาไม่กล้าให้หลินซวงเอ๋อร์คอยนาน ขณะหันหลังคิดจะกลับนั้น จู่ๆ มีหญิงชราร้องเรียกจากด้านหลัง“คุณชาย หากไม่รีบร้อนเดินทาง เชิญค้างที่นี่สักคืนค่อยไปก็ได้”ไป๋อวี้ถังกล่าวตอบ “อย่าเลย ข้างหน้ายังมีคนรออยู่”หญิงชรามองดูท้องฟ้า พลางกล่าว “พรุ่งนี้ค่อยไปก็ยังไม่สาย คุณชายไปพาเพื่อนมาด้วยก็ได้ หลายวันนี้มีฝนตกหน

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 617

    ไป๋อวี้ถังกล่าวตอบ “ข้าก็คิดเช่นนั้น”หลินซวงเอ๋อร์มองหน้าเขาพร้อมยิ้มเล็กน้อย นางกล่าวต่อ “ถ้าเช่นนั้นข้าขอไปก่อน ขอให้พี่ไป๋มีความสุขในเร็ววัน ลาก่อน”กล่าวจบ นางไม่รอช้าที่จะปล่อยผ้าม่านลงไป๋อวี้ถังสีหน้าเปลี่ยนโดยพลัน รีบร้อนกล่าวต่อ “แม่นางซวงเอ๋อร์รอประเดี๋ยว...”ได้ยินเสียงร้องเรียกของไป๋อวี้ถัง หลินซวงเอ๋อร์จึงแหวกผ้าม่านด้วยความสงสัยอีกครั้งในยามนี้ ดวงอาทิตย์ลอยขึ้นสูง แดดภายนอกจึงแสบตายิ่ง หลินซวงเอ๋อร์ยกมือขึ้นบังตา เพื่อลดความแรงกล้าของแสง พลางกล่าวเสียงอ่อนโยน “พี่ไป๋ ท่านยังมีเรื่องอันใดอีก?”นางยังต้องรีบเดินทางต่อ ไม่อยากพูดคุยกับเขานานไป๋อวี้ถังกล่าว “แม่นางซวงเอ๋อร์คิดดีแล้วหรือไม่ว่าจะไปที่ใด หรือเราสองคนจะเดินทางด้วยกัน?”น้ำเสียงเขาฟังดูราบเรียบ คล้ายกับไม่ตั้งใจกดดัน เพียงแต่ถามไปเรื่อยเปื่อยแต่หลินซวงเอ๋อร์แทบไม่ต้องคิด นางรีบกล่าวตอบ “อย่าเลย ข้ายังไม่ได้คิดว่าจะไปที่ใด แผ่นดินกว้างใหญ่ ไปถึงแห่งใดก็อยู่ตรงนั้นก่อน”ไป๋อวี้ถังกล่าวยิ้มๆ “เช่นนั้นก็ประจวบเหมาะนัก ข้าก็ไม่คิดจะไปที่ใด หรือเราจะเดินทางด้วยกัน เพราะหนทางยังอีกยาวไกล หากมีเพื่อนพูดคุยก

DMCA.com Protection Status