แชร์

บทที่ 563

ผู้เขียน: พิณเคล้าสายฝน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-02 18:00:00
เยี่ยเป่ยเฉิงไหนเลยจะยอมให้หลินซวงเอ๋อร์นอนในห้องตงเหมยได้ จึงไม่สนใจใดๆ ทั้งสิ้น เปิดผ้าที่คลุมถึงศีรษะหลินซวงเอ๋อร์ โน้มตัวลงเพื่อจะอุ้มนางขึ้นมา

“ซวงเอ๋อร์อย่าได้โกรธเคือง ข้าจะอุ้มเจ้ากลับไปนอนเดี๋ยวนี้”

หลินซวงเอ๋อร์ดิ้นรนอยู่ในอ้อมแขนเขา มือน้อยกำหมัดแน่น ทุบตีเยี่ยเป่ยเฉิงไม่หยุด

“ข้าไม่ไป ข้าไม่กลับไปกับท่าน ข้าไม่อยากนอนคนเดียวในห้องนั้นอีก”

นางกลัวมาก ตอนนี้รู้สึกกลัวจริงๆ

ระยะหลังมานี้ นางเริ่มรู้สึกใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว คล้ายมีบางอย่างที่แปลกประหลาดอยู่ในห้องนั้น ทุกครั้งเมื่อถึงเวลานอน นางจะรู้สึกหวาดกลัว เกิดความอึดอัดในใจจนแทบหายใจไม่ออก

นางแทบจำไม่ได้แล้วว่าได้อดนอนมากี่คืน จนรู้สึกอ่อนเพลียยิ่ง ทุกคืนพอใกล้จะนอนหลับ ก็คล้ายมีมือใหญ่ที่มองไม่เห็นมาฉุดนางลงสู่เหวลึก ให้นางค่อยๆ ดิ่งลงสู่ฝันร้าย จนยากจะถอนตัว

นางรู้สึกเหนื่อยนัก

นางไม่ต้องการจะฝันร้ายอีก เพียงแค่อยากนอนหลับฝันดี

แต่นางก็รู้ ถ้าไปอยู่ในเรือนอวิ๋นซวน นางจะไม่มีทางได้นอนหลับ ไม่เหมือนมาอยู่กับตงเหมย นางค่อยได้นอนอย่างหมดห่วงบ้าง

แต่เยี่ยเป่ยเฉิงไม่ยอมให้นางนอนกับตงเหมย เพียงแค่คำขอเล็กๆ เท่านี
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 564

    เยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกปวดใจยิ่งที่แท้ตลอดเวลาที่เขาไม่อยู่ นางต้องผ่านความทุกข์ทรมานเช่นนี้มาเคราะห์ดีที่ว่า ตอนนี้เขามีเวลาอยู่กับนางแล้ว จะไม่ยอมให้นางอยู่อย่างโดดเดี่ยวอีก“เพราะข้าไม่ดีเอง ทำให้ซวงเอ๋อร์ต้องลำบาก” เยี่ยเป่ยเฉิงกุมใบหน้าของนาง พร้อมจุมพิตด้วยความอ่อนโยนหลินซวงเอ๋อร์เม้มริมฝีปาก ฝืนทนต่อความไม่สบายในร่างกาย ปล่อยให้เยี่ยเป่ยเฉิงใช้กำลังรั้งตัวเข้าในห้อมแขนนางรู้ดี ไม่ว่านางจะพูดอย่างไร เยี่ยเป่ยเฉิงก็ไม่ยอมให้นางออกจากห้องอย่างแน่นอน จึงไม่คิดจะดิ้นรนอีกนางนึกว่าถ้ามีเยี่ยเป่ยเฉิงอยู่เป็นเพื่อน ตนคงไม่ฝันร้ายเหมือนที่แล้วมาอีก แต่พอหลับตาลง ฝันนั้นก็ยังคงตามมาหลอกหลอนจวบจนเที่ยงคืน หลินซวงเอ๋อร์สะดุ้งตื่นจากฝันร้ายอีกครั้ง เมื่อย้อนนึกถึงภาพในความฝัน นางก็ยิ่งใจเต้นแรงไม่หยุด เนื้อตัวเปียกชุ่มด้วยเหงื่อในห้องยังจุดตะเกียงสว่างไสว นางหันกายมา ก็เห็นเยี่ยเป่ยเฉิงนอนหลับสนิทอยู่ข้างกายหลินซวงเอ๋อร์ยังคงขวัญผวาไม่หาย แม้จะอิงแอบอยู่แนบอกเยี่ยเป่ยเฉิง ใจนางก็ยังมีกังวลอยู่มากฝ่ามือรู้สึกเจ็บแสบขึ้น นางจึงพบว่าที่แท้เพราะตนกำหมัดแน่นเกินไป จนเล็บจิกเข้าไปใน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-02
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 565

    “ท่านพี่ ข้าเริ่มแยกไม่ออกแล้วว่าสิ่งใดคือความฝัน สิ่งใดคือความจริง เพราะสิ่งที่เห็นเมื่อคืนนี้ เดิมทีอยู่แต่ในความฝัน...”“แต่จู่ๆ กลับปรากฏให้เห็นทั้งที่ข้ายังตื่นอยู่”“ตอนนี้แม้ข้าจะไม่นอน พวกมันก็ยังมารังควานอีก...”“ท่านพี่เจ้าคะ ข้าเคยบอกแล้วว่า ห้องนี้มีสิ่งประหลาดอยู่มากมาย เหตุใดท่านจึงไม่ยอมเชื่อข้า”หลินซวงเอ๋อร์นำความในใจของนางบอกกล่าวให้เยี่ยเป่ยเฉิงได้รับรู้ในที่สุดเขาจึงเริ่มตระหนักถึงความไม่ชอบมาพากลเดิมคิดว่านางเพียงพักผ่อนน้อย จึงชอบคิดฟุ้งซ่าน แต่บัดนี้ดูแล้ว อาการน่าจะหนักหน่วงกว่าที่คิด“ซวงเอ๋อร์อย่าดื้อ ข้าจะตามหมอหลวงมาดูเจ้า เจ้าคงจะล้มป่วย...”เขาไม่กล้ารอช้า รีบสั่งให้เสวียนอู่เข้าวังไปเชิญหมอหลวงผู้หนึ่งมาดูหมอหลวงรีบมาถึงจวนอย่างเร็วเขาตรวจชีพจรให้หลินซวงเอ๋อร์ ไม่นานก็พบสาเหตุแห่งโรคเยี่ยเป่ยเฉิงให้หมอหลวงมาพูดข้างหน้าหมอหลวงกล่าว “ร่างกายพระชายาอ่อนแอยิ่งนัก ดูจากอาการเช่นที่เป็นอยู่ คาดว่าเกิดจากความเครียดสะสม หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าจะยิ่งหนักหนาสาหัส เกินว่าจะเยียวยาได้...”เยี่ยเป่ยเฉิงไม่อาจระงับความตกใจได้ ดวงตาดำขลับหรี่ลงรวด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-03
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 566

    เห็นเยี่ยเป่ยเฉิงมองนางแบบนั้น หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีอยู่ในใจนางแสร้งทำเป็นกล่าวกับเยี่ยเป่ยเฉิงด้วยรอยยิ้ม “เป็นอะไรหรือ? ท่านหมอหลวงว่าอย่างไร? ไม่ให้ข้าคิดมาก? แล้วพักผ่อนเยอะๆ ใช่หรือไม่?”ไม่รอให้เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าว หลินซวงเอ๋อร์ก็กล่าวขึ้น “หากเป็นอย่างนั้นจริง ก็หาใช่ป่วยหนักอะไร ท่านพี่ไม่ต้องเป็นห่วง ข้าจะพักผ่อนให้ดีๆ ”เยี่ยเป่ยเฉิงยังคงไม่พูดสิ่งใด สีหน้าเขาเคร่งขรึม สายตาที่มองนางดูซับซ้อนอย่างยิ่งในยามนี้เอง หลินซวงเอ๋อร์ก็รู้สึกกระวนกระวายใจขึ้นมาเล็กน้อยนางคิดว่าเยี่ยเป่ยเฉิงรู้เรื่องอะไรบางอย่างเช่น เรื่องที่นางแท้งหรือเรื่องที่ต่อไปนี้นางจะไม่สามารถตั้งครรภ์ได้อีกแล้ว…นางฝืนระงับความขมขื่นที่พรั่งพรูขึ้นมาในใจไว้ และกล่าวเร่งเร้าเยี่ยเป่ยเฉิง “ท่านพี่ยุ่งมากเลยมิใช่หรือ?ข้าไม่เป็นไรจริงๆ ท่านรีบไปทำงานเถิด คืนนี้ไม่กลับมาก็ไม่เป็นไร ข้าจุดไฟนอนก็ได้…”“ซวงเอ๋อร์…”ไม่รอให้นางได้ว่าจบ จู่ๆ เยี่ยเป่ยเฉิงก็สวมกอดนางแน่นเขากอดแน่นมาก หลินซวงเอ๋อร์เกือบจะหายใจไม่ออก“ท่านพี่?ท่านเป็นอะไรหรือ?”เยี่ยเป่ยเฉิงซุกหัวอยู่ในซอกคอนาง เสียงของเขาทั้งอ่อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-03
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 567

    หลินซวงเอ๋อร์กำมือแน่นฉับพลัน ในใจเกิดคลื่นโหมกระหน่ำขึ้นมาทันใด“ดังนั้นเจ้าเลยปิดบังข้า?” น้ำเสียงของนางสั่นเบาๆ มือของเจียงหว่านยังคงวุ่นอยู่กับการจัดของ นางจุดเทียนขึ้นหนึ่งเล่ม นำเข็มแต่ละเล่มรนไฟอย่างพิถีพิถัน“ข้าก็คิดเพื่อเจ้า เจ้าร่างกายอ่อนแอมาตั้งแต่เกิด เดิมไม่ควรท้องอยู่แล้ว ต่อให้บอกเจ้าแล้วจะอย่างไร? นอกจากดีใจเก้อแล้วเจ้าก็ไม่ได้อะไรสักอย่าง”ท่าทางนางเรียบนิ่ง ราวกับพูดเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ทว่าหลินซวงเอ๋อร์กลับรู้สึกแสลงหูอย่างมาก“ต่อให้จะดีใจเก้อเจ้าก็ไม่ควรปิดบังข้า! และยิ่งไม่ควรปิดบังท่านอ๋อง!”เจียงหว่านถอนหายใจ พลางกล่าวอย่าวค่อนข้างรู้สึกระอา “น้องซวงเอ๋อร์ พูดตามตรง หาใช่ข้าจงใจปิดบังเจ้า แต่เพราะทารกในท้องเจ้าไม่มั่นคงเจ้าร่างกายเย็นมาตั้งแต่เกิดไม่เหมาะกับการตั้งครรภ์ แม้จะไม่เกิดอุบัติเหตุ เด็กในท้องเจ้าก็ไม่รอดอยู่ดี!”ว่าจบ นางพักไปครู่หนึ่ง พลางกล่าวกับนางด้วยท่าทางเสียใจสุดๆ “เฮ้อ! สูญเสียเด็กคนนั้นไป เกรงว่าวันหน้าคงตั้งครรภ์ไม่ได้ง่ายๆ อีกแล้วกระมัง?”“แต่ว่า ขอแค่เจ้าคิดอยากได้ ก็ดูแลร่างกายให้ดีๆ บางที่…อาจจะตั้งท้องอีกครั้งก็ได้”มือที่ซ่อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-03
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 568

    ด้วยความคิดชั่วร้ายในใจ นางหยิบถ้วยกระเบื้องที่อยู่ถัดจากโต๊ะเตี้ยขึ้นมา แล้วโยนไปที่เจียงหว่านโดยไม่ลังเลใจถ้วยกระเบื้องกระแทกโดนหัวของเจียงหว่านอย่างจัง พลันเขียวช้ำขึ้นมาทันใดทั้งๆ ที่เจียงหว่านสามารถเอียงหัวหลบได้ แต่นางกลับไม่หลบ เหมือนกับจงใจรออะไรบางอย่างจากนั้น ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากนอกห้อง เจียงหว่านรีบกุมหน้าผาก และกล่าวด้วยสีหน้าหวาดกลัวออกมา “น้องซวงเอ๋อร์ นี่เจ้าเป็นอะไรกันแน่?”หลินซวงเอ๋อร์สงสัยไม่เข้าใจ ครั้นเห็นประตูห้องเปิดออก เยี่ยเป่ยเฉิงกำลังยืนมองเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นภายในห้องอยู่หน้าประตู หลินซวงเอ๋อร์ถึงได้เข้าใจในทันทีไม่รอให้หลินซวงเอ๋อร์ได้พูด เจียงหว่านกุมหน้าผากคุยกับเยี่ยเป่ยเฉิงขึ้นก่อน “ท่านอ๋อง อาการป่วยของน้องซวงเอ๋อร์หนักขึ้นอีกแล้ว เมื่อครู่นางคลุ้มคลั่งทำร้ายคน หากยังไม่รักษาอย่างจริงจังอีก เกรงว่าอาการจะยิ่งแย่ลง”ว่าจบ เจียงหว่านก็ให้เยี่ยเป่ยเฉิงดูแผลบนหน้าผากนางยามนี้ หน้าผากนาวบวมนูนเป็นลูกใหญ่ขึ้นมาแล้ว โชคดีที่ไม่แตก มีแค่ฟกช้ำเท่านั้น“ท่านพี่…ข้าไม่ได้คลุ้มคลั่ง นางกำลังโกหก!” หลินซวงเอ๋อร์รีบอธิบายด้วยความร้อนรนนางไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-03
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 569

    เยี่ยเป่ยเฉิงขมวดคิ้ว เขาถามหลินซวงเอ๋อร์ว่าเหตุใดถึงได้คิดเช่นนี้หลินซวงเอ๋อร์เลยบอกสิ่งที่ตัวเองเดาให้เยี่ยเป่ยเฉิงฟัง“ท่านพี่เชื่อข้าหรือไม่?” หลินซวงเอ๋อร์จับชายเสื้อของเยี่ยเป่ยเฉิงไว้ ประหนึ่งคว้าที่พึ่งสุดท้ายเอาไว้ตอนนี้ นางมีแค่เขาที่สามารถพึ่งพาได้ หากแม้แต่เขาก็ยังไม่เชื่อนาง นางก็คงจะแตกสลายจนสิ้นเยี่ยเป่ยเฉิงสวดกอดนางไว้ในอ้อมแขน พลางปลอบเสียงเบา “พี่จะไปสืบดู หากนางจะทำร้ายเจ้าจริง พี่ฆ่านางแน่!”ตอนนั้นเจียงหว่านสั่งยาสองชนิดให้หลินซวงเอ๋อร์ อันหนึ่งเป็นยาสมุนไพรใช้ภายใน อีกอันหนึ่งเป็นยาทาที่ใช้ทาแผลภายนอกเยี่ยเป่ยเฉิงเรียกเสวียนอู่เข้ามาในห้อง ให้เขาเอายาสองชนิดนี้ไปหาหมอหลวงในวัง ดูว่าส่วนผสมในนั้นมีผลไม่ดีต่อร่างกายหรือไม่เสวียนอู่ถือยาไว้ในมือ อดถามขึ้นมาไม่ได้ “หากแม่นางเจียงทำจริง ท่านอ๋องจะจัดการอย่างไรขอรับ?”เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าวด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก “ฆ่านางซะ!”“ขอรับ!” เสวียนอู่ไม่ถามอะไรมากอีก เขาถือยาและตรงออกจากประตูไปทันทีเยี่ยเป่ยเฉิงนั่งลงบนเก้าอี้ บนโต๊ะมีกระดาษแผ่นหนึ่งกางอยู่พอดี บนกระดาษนั้นมีเขียนอยู่ไม่กี่บรรทัดเดิมทีนี่เป็นวันมง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-04
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 570

    นางในยามนี้ สวมเสื้อผ้าเบาบาง ผมดำขลับด้านหลังตรงสรวยเงางามหลินซวงเอ๋อร์เห็นเขาผ่านกระจกนางหันกลับมา ดวงตาชุ่มชื่นคู่นั้นในเวลานี้กำลังจับจ้องมาที่เขา“ท่านพี่กลับมาแล้วหรือ?”หลินซวงเอ๋อร์หยักยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย ลักยิ้มบนแก้มเผยออกมา ปอยผมที่ย้อยทั้งสองข้างปลิวไหวเบาๆ ยิ่งขับให้ดูดีมากขึ้นเยี่ยเป่ยเฉิงแอบกลืนน้ำลาย อารมณ์สั่นไหวที่อยู่ในใจใกล้จะปะทุออกมาดีจริงๆ ซวงเอ๋อร์ของเขา ทั้งใจทั้งกายล้วนเป็นของเขา…เยี่ยเป่ยเฉิงมิอาจอธิบายได้ว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไร เขาแค่รู้สึกว่าใจของตัวเองได้รับการเติมเต็มอย่างมากเขาเดินไปหาหลินซวงเอ๋อร์ทีละก้าวๆ แล้วโอบนางจากด้านหลัง ร่างเพรียวถูกอกหนาของเขาโอบไว้อย่างแน่นหนา“วันนี้ซวงเอ๋อร์ดื่มยาอย่างเชื่อฟังไหมเอ่ย?” เยี่ยเป่ยเฉิงหลุบตามองนาง ในตาพรั่งพรู่ไปด้วยความต้องการหลินซวงเอ๋อร์กล่าว “ดื่มแล้ว เป็นยาที่ท่านหมอหลวงสั่งให้ข้า”เยี่ยเป่ยเฉิงจูบหน้าผากหลินซวงเอ๋อร์ พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงแหบพร่าเล็กน้อย “ซวงเอ๋อร์เป็นเด็กดีจริงๆ ”ทว่าหลินซวงเอ๋อรกลับนึกบางอย่างขึ้นมาได้ เขาผละเยี่ยเป่ยเฉิงออก และมองดูเขา ก่อนถามด้วยท่าทางเคร่งขรึม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-04
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 571

    หลินซวงเอ๋อร์มองเขาด้วยดวงตาแดงก่ำ ทว่าก็อดถามเขาด้วยตัวเองขึ้นมาไม่ได้ว่า “ท่านพี่รู้เรื่องที่ข้าแท้งนานแล้วใช่หรือไม่…”เยี่ยเป่ยเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย ครู่ใหญ่ๆ ถึงได้พยักหน้าเบาๆ “ซวงเอ๋อร์ หมอหลวงบอกแล้ว ขอแค่รักษาดูแลตัวเองให้ดี วันหน้าอาจจะยังมีลูกได้…”หลินซวงเอ๋อร์หลับตาลง ก่อนลืมตาขึ้นขมวดคิ้วเล็กน้อย “เช่นนั้นท่านรู้หรือไม่ ความจริงเจียงหว่านตรวจข้าว่าท้องได้นานแล้ว แต่นางกลับปิดบังไม่รายงาน ให้ยาข้าดื่มทุกวันสุดท้ายก็ทำร้ายข้าจนแท้งลูก ท่านพี่ยังคงเลือกที่จะปกป้องนางอยู่หรือไม่?”เยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกจนใจเล็กน้อย เขารู้ว่าคนที่เป็นโรคซึมเศร้ามักจะคิดไปเรื่อยเปื่อย กระทั่งแยกไม่ออกว่าไหนความจริงไหนลวงตา เขาคิดว่า ซวงเอ๋อร์ของเขาต้องคิดมากเกินไปแล้วแน่ ถึงได้คิดจนดูผิดปกติเล็กน้อยเขารู้ว่าตอนนี้ตัวเองไม่สามารถไปกระตุ้นได้ จึงแกล้งทำเป็นไม่กล้าคุยเสียงดังใส่นาง ได้แค่คุยกับนางด้วยเสียงอ่อนโยน “ซวงเอ๋อร์ จะฆ่าคนต้องมีหลักฐาน เจียงหว่านไม่ได้มีความกล้าไปทำร้ายเจ้าหรอก เป็นเจ้าที่คิดมากเกินไป…”“ท่านก็ยังไม่เชื่อข้า…”หลินซวงเอ๋อร์ใหล้จะแตกสลายไม่มีใครยอมเชื่อนาง ทว่านางเชื่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-04

บทล่าสุด

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 655

    วันที่เจียงหว่านกำลังจะถูกเนรเทศ ในที่สุดเจียงเช่อก็มาหาถึงหน้าประตูเขาคุกเข่าเบื้องหน้าเยี่ยเป่ยเฉิง เว้าวอนขอเยี่ยเป่ยเฉิงปล่อยเจียงหว่านไปขณะที่เดินทางมา เขารับรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วเจียงหว่านลอบวางยาพระชายาเยี่ย ใช้ประชาชนที่ติดโรคทดลองยา เข่นฆ่าคนบริสุทธิ์ ผลาญชีวิตคนดุจผักดุจปลา นับเป็นอาชญากรรมอันชั่วร้ายที่สุด......แต่ไม่ว่าอย่างไร เจียงหว่านก็เป็นน้องสาวเขา เป็นคุณหนูหนึ่งเดียวของตระกูลเจียง เจียงเช่อมิอาจนั่งนิ่งดูดาย ปล่อยให้นางไปตายได้“ขอร้องท่านอ๋องไว้ชีวิตนางเถิด เป็นเพราะข้าตามใจนางจนเสียคน หากท่านอ๋องจะลงโทษ โปรดลงที่เจียงเช่อเถิดพะยะค่ะ”เมื่อเห็นเจียงเช่อ สายตาสิ้นหวังของเจียงหว่านพลันมีประกายความหวังขึ้น“พี่......ท่านพี่ ช่วยข้าด้วย ข้าไม่อยากไปแดนเถื่อน ข้าอยากกลับบ้าน ท่านพี่ช่วยข้าด้วย......”เจียงเช่อขมวดคิ้วเขม็งจ้องเจียงหว่าน สายตาแฝงเร้นด้วยแววเกยีดชังเข้าไส้เขารู้ว่าเจียงหว่านต้องโทษตาย ยามนี้แค่เนรเทศ ถือว่าเมตตามากแล้ว แต่เขาเองก็รู้ว่า สถานที่อย่างแดนเถื่อนนั้น มิใช่สถานที่ที่สตรีตัวคนเดียวจะไปได้ การเนรเทศนางไปที่นั่น เท่ากับส่งนางไปขุมนร

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 654

    “เลือดของนาง...”เจียงหว่านสีหน้าตกตะลึงตอนนั้น ตอนที่ฮุ่ยอี๋มอบยาถอนพิษใส่ในมือนาง นางเคยเอาทิ้งไว้หลายขวด เดิมทีคิดศึกษาส่วนผสมในนั้น ทว่าด้านในกลับมีส่วนผสมยาเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือเลือดมนุษย์...แรกเริ่ม นางคิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหล! กระทั่งยามนี้นางถึงได้เชื่อความจริง ส่วนประกอบของยานั้น มีเพียงเลือดมนุษย์จริงๆ! ทั้งยังเป็นเลือดของหลินซวงเอ๋อร์! เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ในที่สุดนางก็เข้าใจ!มิน่า...ตอนนั้น นางใช้ยาปริมาณมาก แต่กลับไม่อาจทำให้หลินซวงเอ๋อร์ถึงตาย! ไม่คิดว่าเลือดของนางจะขจัดพิษในร่างนางโดยมองไม่เห็น...ฮุ่ยอี๋เอ่ย “เจ้ายังมีหน้าพูดว่าไม่ได้ฆ่าคนเป็นผักเป็นปลาอีก! เจียงหว่าน เจ้าลืมแล้วหรือว่าเจ้าวางยาซวงเอ๋อร์อย่างไร? เสด็จอาให้อภัยเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ข้าไม่มีวันเกรงใจเจ้า!”คำพูดนี้สองแง่สองง่าม เห็นชัดว่ากำเย้ยหยันเยี่ยเป่ยเฉิงที่ดึงหมาป่าเจ้าเล่ห์เข้าบ้าน!เยี่ยเป่ยเฉิงตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ไร้ซึ่งแรงโต้กลับยามนี้ เขามิอาจชำระคืนได้ ซวงเอ๋อร์ของเขาไม่มีวันกลับมาอีกต่อไป!สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้ คือทำให้เจียงหว่านชดใช้อย่างสาสมที่สุด ส่วนตัวเขา ชีวิตที่

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 653

    เยี่ยเป่ยเฉิงมีสีหน้าเคร่งขรึม สายตาที่มองเจียงหว่านเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง ไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิดเขาอยากฆ่านางตั้งนานแล้ว ที่ปล่อยนางรอดมาจนถึงตอนนี้ ก็แค่อยากให้นางได้รับความทรมานจนตายบัดนี้เห็นนางตกยากเช่นนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงกลับรู้สึกว่าบทลงโทษแค่นี้ยังมิพอเจียงหว่านถูกทรมานจนเหมือนตายดีกว่าอยู่มานานแล้ว นางรู้ เยี่ยเป่ยเฉิงไม่มีทางปล่อยนางไปง่ายๆ หลังจากคิดดูแล้ว หากตายด้วยน้ำมือของเยี่ยเป่ยเฉิงได้ ก็คงจะดีกว่าตอนนี้ ที่ดูดซับยาเข้าสู่ร่างกายทุกวัน ถูกฝันร้ายหลอกหลอนทุกคืนสุดท้ายก็ไม่สามารถหนีจากพิษและเสียชีวิตลงได้!อย่างไรก็ตาย มิสู้ให้เยี่ยเป่ยเฉิงจบชีวิตนางด้วยมือเขาเอง!เมื่อคิดได้เช่นนี้ นางก็ยิ้มเยาะ จงใจกล่าวยั่วยุเขา “เยี่ยเป่ยเฉิง เจ้ามีฝีมือแค่นี้หรือ? แน่จริงก็ฆ่าข้าไปเลยสิ!”“ฆ่าข้าให้มันจบๆ ไปเสีย!”เยี่ยเป่ยเฉิงปรายตามองนาง พลางกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนั้น เจ้าก็ทรมานซวงเอ๋อร์เช่นนี้!”เจียงหว่านกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้วอย่างไร!”“ลูกในท้องนางข้าก็เป็นคนทำร้ายเอง! ร่างกายอ่อนแอแบบนั้นของนางต่อไปจะตั้งครรภ์ไม่ได้อีกแล้ว!”“ที่นางฝันร้ายทุกคืน ก็เป็นข้าที่ทำเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 652

    หลายสิบปีมานี้ นางทำเรื่องชั่วมานับไม่ถ้วน ทุกเรื่อง นางจิตใจสงบ ไม่เคยรู้สึกผิดเลยมีเพียงเจียงหลิง…มีเพียงการตายของเจียงหลิง ทำให้นางยากจะข่มตานอนได้…ตลอดเวลาที่ผ่านมา ในฐานะคุณหนูรอง เจียงหว่านไม่เป็นที่ชื่นชอบของพ่อแม่มาตลอด พี่ชายก็ยิ่งไม่สนใจนาง ทว่าเจียงหลิงกลับได้รับความรักมากมาย…นางอิจฉาเจียงหลิง และแทบอยากทำให้อีกฝ่ายหายไปจากโลกใบนี้แต่เจียงหลิงกลับรักเอ็นดูนางมาตั้งแต่ต้นจนจบ ปกป้องนาง มอบของที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ให้แก่นาง…เจียงหลิงเป็นพี่สาวที่ดีต่อนางที่สุดบนโลกใบนี้…ทว่าที่นางต้องการหาใช่แค่พี่สาวอย่างเดียว นางต้องการความรักของทุกคน นางต้องการให้พ่อแม่ พี่ชายรกนางแค่คนเดียว นางอยากครอบครองของที่ดีที่สุดไว้กับตัวเอง ไม่ใช่รอให้คนอื่นมอบให้!ดังนั้น ในคืนวันหิมะตก นางผลักเจียงหลิงตกน้ำ มองนางจมตายทั้งเป็นอยู่ใต้น้ำ หลังจากนั้นนางก็ติดวันเกิดเวลาเกิดของเจียงหลิงบนตุ๊กตาคุณไสย แทงเธอทุกวัน สวดภาวนาทุกคืน นางต้องการให้เจียงหลิงไม่มีโอกาสได้ผุดได้เกิด ไม่หวนกลับมาตลอดกาล!เพราะมีเพียงแค่ทำแบบนี้ นางถึงจะไม่มีโอกาสแก้แค้นตัวเอง!แต่ทำไม…ทำไมตอนนี้นางถึงยังหาตัวเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 651

    ยาซึมเข้าสู่ร่างกายติดกันหลายวันทำให้เจียงหว่านค่อยๆ เป็นบ้าในห้องที่ปิดสนิท เจียงหว่านหดตัวอยู่บนพื้นเหมือนดินโคลนตัวนางเหม็นมาก ชุดกระโปรงสีรากบัวเปลี่ยนเป็นสกปรกและเก่าองครักษ์ทำให้เส้นเอ็นมือของนางขาด ตรงบาดแผลถูกทาขี้ผึ้งปิดแผลชั้นแล้วชั้นเล่าแม้ขี้ผึ้งปิดแผลจะเป็นยาสำหรับปกปิด ทว่ากลับมีผลดีต่อการหยุดเลือดบาดแผลแข็งตัวจนกลายเป็นสะเก็ดไปแล้ว เพียงแต่ไม่ได้รับการรักษาที่ดีกว่านี้ แม้จะดีขึ้นก็ยังเหลือรอยแผลเป็นอัปลักษณ์เอาไว้ธูปในห้องไม่เคยลดลงเลยทั้งวัน ประกอบกับกระกระตุ้นของต้นคลีเวีย ความคิดต่ำช้าที่อยู่ในตัวนางแทบจะถูกกระตุ้นออกมาทั้งหมดสองตานางแดงก่ำ ดูฉุนเฉียวไม่น้อย กรีดร้องโวยวายอยู่ในห้อง ประหนึ่งคนบ้าคนหนึ่งองครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้าห้องไม่สนใจนางสักนิด ได้แต่ทรมานนางไม่ให้นางตายทุกวันความเคียดแค้นฉายออกมาจากในตาเจียงหว่าน เวลานี้ นางได้ปล่อยว่างความหลงใหลต่อเยี่ยเป่ยเฉิงแล้ว ไม่ว่าจะรักมากขนาดไหนก็แปรเปลี่ยนเป็นความชิงชังเข้ากระดูก“เยี่ยเป่ยเฉิง! ปล่อยข้ากลับไป! ปล่อยข้ากลับไปสิ!”“แน่จริงก็ฆ่าข้าเลยสิ!ฆ่าข้าให้มันจบๆ ! ท่านมีสิทธิ์อะไรมาขังข้าไว้เช่นนี

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 650

    “ได้ยินว่าพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเจ้าเสียไปนานแล้ว แล้วเจ้ากับพี่ชายอยู่มาได้อย่างไร?”“แล้วเหตุใดเจ้าจึงขายตัวไปเป็นบ่าวไพร่? หลายปีมานี้ เจ้าคงผ่านความลำบากมิใช่น้อย เคยถูกใครรังแกหรือไม่?”หลินซวงเอ๋อร์พลันเกิดความขมขื่นในจิตใจเดิมที หากไม่เอ่ยถึงเรื่องเหล่านี้ นางยังพออดทนได้บ้าง แต่เมื่ออวี๋หว่านหนิงถามขึ้นมา นางก็อดรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเสียมิได้นางเม้มปากพลางจ้องมองนิ้วมือตนเอง น้ำตาเริ่มเอ่อล้น พร้อมหยดแหมะลงหลังมือทีละหยดนางอยู่สบายหรือไม่?นางเคยถามตนเองอยู่เช่นกันหลายปีมานี้ นางผ่านเรื่องราวมากมาย สูญเสียบิดามารดา สูญเสียพี่ชายไป กลายเป็นเด็กกำพร้าที่ไร้ญาติขาดมิตรโดยแท้แต่หากคิดดีๆ ชีวิตนางก็เคยอยู่สุขสบายมาช่วงหนึ่งนั่นคือตอนอยู่กับเยี่ยเป่ยเฉิง นางมีความสุขจริงๆในตอนนั้น เยี่ยเป่ยเฉิงเป็นกำลังใจให้นาง ซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ หาของดีมาให้กิน สอนนางเรียนหนังสือ พาไปเดินเล่นท่องทะเลสาบ ให้ความรักต่อนางอย่างชนิดไร้ผู้เทียบเทียม...ในเวลานั้น นางมีความสุขเหลือล้น เป็นความสุขมากที่สุดในชีวิต แม้แต่ฝันก็ยังเป็นฝันหวาน...แต่ต่อมา ทุกอย่างกลับแปรเปลี่ยน ก่อนหน้านี้เคยสุ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 649

    เมื่อได้ยินประโยคนี้ หลินซวงเอ๋อร์แทบชะงักงันไปที่บั้นเอวนางมีปานแดงรูปเสี้ยวจันทร์จริงๆ ท่านแม่บอกว่า มันมีติดตัวมาตั้งแต่นางเกิด เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่บั้นเอว จึงมีน้อยคนที่จะรู้เรื่องนี้“ท่าน...คือแม่ของข้าจริงหรือ?” หลินซวงเอ๋อร์หัวใจเต้นแรง ขอบตาแดงเรื่อขึ้นอวี๋หว่านหนิงยื่นมือมาจับมือของนางไว้ พลางกล่าวเสียวเศร้า “ซวงเอ๋อร์ ข้าคือแม่เจ้าจริงๆ หลายปีนี้ทำให้เจ้าลำบากนัก...”แม่นมซุนอยู่ด้านข้างพลางกล่าวเสริม “องค์หญิง นางคือเสด็จแม่ของท่านจริงๆ หลายปีมานี้ ฮองเฮาไม่เคยเลิกราในการตามหาท่าน เพียงแต่ภาคกลางกว้างขวางนัก พวกท่านเองก็ข่าวคราวเงียบหาย หลายปีนี้ พวกท่านลำบากก็จริง ฮองเฮาก็ไม่ได้สุขสบายใจ...”หลินซวงเอ๋อร์นิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ พลันหันไปมองอวี๋หว่านหนิงแล้วกล่าว “ที่จริง ข้าไม่เคยตำหนิท่านเลย เพียงแต่บางครั้งก็เคยคิด ว่าท่านแม่จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้หรือไม่”“ตอนยังเป็นเด็ก ข้าเคยคาดหวังให้นางมาหาบ้าง แต่พอโตขึ้นก็ไม่เห็นนางมาเสียที ข้าจึงภาวนาให้นางอยู่ดีมีสุขแทน แม้จะไม่ได้พบหน้า แต่ขอให้นางยังมีชีวิตอยู่ เป็นความคิดถึงในใจก็เพียงพอแล้ว...”

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 648

    อวี๋หว่านหนิงรับเอาผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตา พลันเกิดความตื้นตันจนไม่รู้ตอบอย่างไรดีทันใดนั้น แม่นมซุนเดินขึ้นมาพร้อมกล่าว “องค์หญิง ที่นี่คือวังหลวงแห่งเป่ยหรง ฮองเฮาทรงตามหาท่านมานาน ทุ่มแทแรงกายแรงใจไม่น้อยกว่าจะหาพบ...”“องค์หญิง?” หลินซวงเอ๋อร์นึกว่าตนหูฝาดไป “ท่านเรียกข้าอยู่หรือ?”นางกล่าวตอบ “พวกท่านจำคนผิดหรือเปล่า ข้าไม่ใช่องค์หญิง ข้าคือหลินซวงเอ๋อร์ต่างหาก”นางเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้ง เติบโตมาจากชนบทแร้นแค้น เป็นเพียงสาวใช้ต่ำต้อยผู้หนึ่งเท่านั้นองค์หญิงอะไรกัน ยังมีวังเป่ยหรงอีก แล้วใครคือฮองเฮา?พวกนางคงจำคนผิดเป็นแน่แม่นมซุนกล่าวตอบ “ไม่ผิดเจ้าค่ะ ไม่มีผิดแน่นอน ท่านก็คือองค์หญิงของเรา องค์หญิงที่พลัดพรากจากฮองเฮาไป...”หลินซวงเอ๋อร์คล้ายกับยังมึนงงอยู่ ความคิดนางเกิดความสับสน ปวดหัวเป็นอย่างมากแม่นมซุนอธิบายต่อ “สมัยที่อดีตฮ่องเต้สวรรคต ฮ่องเต้องค์ใหม่ยังไม่ได้ขึ้นครองราชย์ ราชสำนักเป่ยหรงเกิดความวุ่นวาย ตอนนั้นฮองเฮายังมีฐานะเป็นเพียงพระชายาแห่งรัชทายาท นางเสี่ยงอันตรายให้กำเนิดแฝดชายหญิงคู่หนึ่ง เพื่อปกป้องชีวิตของพวกท่านไว้ จึงให้คนสนิทส่งพวกท่านออก

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 647

    หลินซวงเอ๋อร์เปลือกตากระตุกเล็กน้อย นางก็อยากตื่น แต่ทำอย่างไรก็ไม่อาจตื่นขึ้นมาหน้าอกคล้ายถูกกรีดจนเป็นแผลเหวอะหวะ เหงื่อเย็นในตัวไหลพราก ลำคอคล้ายถูกงูพิษตัวหนึ่งรัดไว้ ยิ่งรัดก็ยิ่งแน่น จนนางใกล้จะหายใจไม่ออกข้างโสตนั้น ได้ยินเสียงคุ้นหูประเดี๋ยวไกลประเดี๋ยวใกล้ ถัดจากนั้น คล้ายมีมืออ่อนโยนลูบไล้ใบหน้านางเบาๆ“เด็กดี หมดเรื่องแล้ว เจ้าปลอดภัยดีแล้ว รีบตื่นมาเถิด ตื่นมาเร็วเข้า...”หลังจากได้ยินเสียงนั้นชัดเจนมากขึ้น ลำคอที่ถูกรัดแน่นก็ค่อยๆ คลายออก นางลืมตาช้าๆ ภาพเบื้องหน้าจากพร่ามัวจนกลายเป็นชัดเจน สิ่งแรกที่เข้าสู่ม่านตาก็คือม่านคลุมเตียงสีม่วงที่อยู่เหนือศีรษะขึ้นไป คล้ายเป็นภาพฝัน เสมือนเป็นแหยักษ์ที่ถูกเหวี่ยงลงมา เพื่อคลุมตัวนางให้อยู่ตรงกลางเตียงนี้เป็นเตียงที่สวยงาม จนแม้แต่เสาเตียงก็เป็นลวดลายที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน หัวเตียงนอกจากจะแกะสลักลายดอกไม้แล้วยังฝังด้วยหยกเจียระไนงดงามและพลอยล้ำค่าอีกชั่วขณะนั้น นางรู้สึกมึนงงยิ่งนี่มันเป็นที่ไหนกัน?“ซวงเอ๋อร์ เจ้ารู้สึกตัวแล้วรึ?” จนกระทั่งข้างหูได้ยินเสียงนั้นอีกครั้ง นางจำได้ว่าตอนอยู่ในความฝัน ได้ยินเสียงนี้จนคุ

DMCA.com Protection Status