ด้านปาลมีก็กลับมาที่บ้านด้วยสภาพสะบักสบอมจนเสี่ยกำธรและคุณหญิงวดีถึงกับตกใจ รีบเข้ามาหาลูกสาวทันที“เกิดอะไรขึ้น ใครทำอะไรลูกพ่อ บอกมาเลย พ่อจะไปจัดการมันเอง” เสี่ยกำธรพูดไปอย่างโมโหที่เห็นลูกสาวมีสภาพบอบช้ำกลับมาบ้านแบบนี้ เขาเลี้ยงลูกสาวของเขามาไม่เคยตบตีเลยสักครั้ง แล้วใครกันมันกล้ามาทำกับลูกสาวของเขาแบบนี้“ก็ยัยเด็กที่พี่ฟรานคั่วอยู่ตอนนี้น่ะสิคะคุณพ่อ มันตบปาล์ม คุณพ่อต้องจัดการให้ปาล์มนะคะ ไม่งั้นปาล์มไม่ยอมจริงๆด้วย” ปาลมีได้ทีก็ฟ้องผู้เป็นพ่อไปทันที ก่อนจะซบกอดแม่ของตัวเองอย่างอ้อนๆ“หนูพิชงั้นสิ ร้ายไม่เบาจริงๆ พ่อจะจัดการเด็กคนนี้เองลุกไม่ต้องห่วงหรอก พ่อจะทำให้เด็กคนนี้เจ็บกว่าลูกพ่อเป็นร้อยเท่าพันเท่า” กำธรเอ่ยพูดไปด้วยสายตาจริงจัง พร้อมกับเผยรอยยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ เขาก่ะจะปล่อยเด็กสาวไปอยุ่แล้วเชียวแต่ในเมื่อเธอรนหาที่มาทำกับลุกสาวเขาแบบนี้ เขาก็จะจัดการเธอให้มันจบๆเรื่องด้วยการจับเธอมาเป็นเมียน้อยของเขาอีกคนให้ได้“แล้วข่าวของพี่ฟรานกับอีเด็กนี่ก็ด้วย คุณพ่อต้องจัดการให้ปาล์มนะคะ ทำให้ยังไงก็ได้ไม่ให้ปาล์มเป้นขี้ปากสังคมแบบนี้” ปาลมีพูดบอกไป เพราะเธอทนเป็นแบบนี้ไม่
“งั้นก็แล้วแต่พิชก็แล้วกันลูก หนุต้องดูแลตัวเองดีๆนะ ถ้ามีอะไรก็บอกน้าสองคนนะลูกอย่าเก็บไว้คนเดียว” พิริมาบอกไปก็ยิ้มให้หลานสาวแล้วเอามือลูบใบหน้าสวยๆของหลานสาวอย่างเอ็นดู ก่อนจะกอดหลานสาวอย่างให้กำลังใจ“ถ้าผู้ชายไม่ชัดเจน พิชก็เองก็ต้องชัดเจนนะลูก อย่าให้ผู้ชายมักมากคนหนึ่งมาทำลายความสุขที่หนูมี น้าก็คงพูดได้แค่นี้แหละ เพราะทุกอย่างๆน้าเองที่เป็นต้นเหตุ” โจเซฟพูดไปก็กล่าวโทษตัวเองอย่างรุ้สึกผิด ที่เขาทำให้หลาสาวต้องมาเจอกับผู้ชายอย่างฟรานติโน่“อย่าโทษตัวเองสิคะน้าโจ ทุกๆอย่างเป็นเพราะพิชเองค่ะ พิชตัดสินใจเอง ทำทุกอย่างโดยไม่ปรึกษาน้าพิมกับน้าโจ อย่าโทษตัวเองเลยนะคะ” พิชชาภาบอกกับน้องทั้งสองไปก็ยิ้มให้ท่านสอง“แต่น้าก็อดคิดไม่ได้จริงๆ เฮ้อ” โจเซฟพูดไปก็มองหลานสาวอย่างเอ็นดู“อย่าคิดมากค่ะ วันนี้เราออกไปเที่ยวกันดีกว่าค่ะ เราไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันแบบนี้มานานแล้วนะคะ” พิชชาภาเอ่ยบอกไป เพราะอยากจะพาน้าทั้งสองไปพักผ่อนเพื่อคลายความเครียด“อืม เอางั้นก็ได้ ว่าแต่เราจะไปไหนกันดีล่ะลูก” พิริมาถามออกไปอย่างอยากรู้“พัทยาไหมคะ ขับรถไปแค่สองชั่วโมงเอง ไปสักคืนสองคืนก็ได้ค่ะ” พิชชาภาบอกไปก็ยิ้ม
“พิชไม่เคยมั่วกับผู้ชายไปทั่วแบบ ผู้หญิงบางคนไหน ปาล์มอย่ามาพูดแบบนี้อีกพี่ไม่ชอบ แล้วหยุดคิดเรื่องที่จะใส่ร้ายยพิชกับนักข่าว ไม่งั้นพี่ก็จะไม่ไว้หน้าเราเหมือนกัน” ฟรานติโน่ที่จะพูดว่าผู้หญิงแบบเธอไป ก็หยุดพูดทันไม่งั้นปาลมีคงจะรู้ตัวว่าเขารู้เรื่องที่เธอทำแอบไปมีอะไรกับผู้ชายคนอื่นๆแน่“ถ้าพี่ฟรานยังไม่จัดการอีเด็กนั่นออกไปจากชีวิตพี่ล่ะก็ ปาล์มจะไม่ใจดีแบบนี้แล้วนะคะ เพราะอะไรที่มันเป็นของปาล์ม มันก็ต้องเป็นของปาล์มเท่านั้น คนอื่นไม่มีสิทธิ์” ปาลมีพูดออกไปอย่างเป็นเจ้าเข้าเจ้าของฟรานติโน่ เพราะเธอจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาทำลายงานแต่งงานของเธอกับฟรานติโน่เด็ดขาด“พี่ไม่ใช่สิ่งของนะปาล์ม แล้วปาล์มก็ห้ามยุ่งกับพิช” ฟรานติโน่พูดออกไปเสียงเข้มอย่างโมโห แต่ก็ต้องเก็บอารมณ์โกรธเอาไว้“งั้นพี่ก็ต้องไปสัมภาษณ์พร้อมกับปาล์ม แล้วยืนยันว่าเรารักกันดี ไม่มีมือที่สาม แล้วปาล์มจะปล่อยให้เรื่องนี้เงียบไป” ปาลมีเอ่ยพูดไปอย่างมีแผนในใจ เพราะเอจะทำให้อีเด็กนั่นเจ็บใจจนแทบกระอักเลือดออกมาฟรานติโน่ก็มองปาลมีอย่างไม่ไว้ใจ เพราะร้ายลึกแบบปาลมีเธอคงจะไม่ยอมปล่อยพิชชาภาไปง่ายๆแน่ แต่ถ้าเขาปล่อยให้ปาลมีพูดกับ
“นี่มันอะไรกันตาฟราน ทำไมหนูปาล์มถึงท้องห้ะ ไหนบอกอยากจะยกเลิกงานแต่งแล้วหนูปาล์มท้องแบบนี้ เราจะยกเลิกงานแต่งได้ยังไงกัน ถ้าหนูปาล์มท้องจริงๆมัมจะไม่ยอกเลิกงานแต่งงานเด็ดขาด” ฟารีดาเอ่ยพูดกับลูกชายหลังจากที่เดินเข้ามาในงานแล้วเธอก็หามุมลับตาคนคุยกับลูกชายอย่างสงสัย นี่เธอกำลังจะมีหลานงั้นเหรอ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงเธอคงยอมให้งานแต่งถูกยกเลิกไม่ได้“ใจเย็นก่อนนะครับมัม ผมว่าปาล์มเขาไม่ได้ท้องจริงๆหรอกครับ หรือถ้าเขาท้องจริงๆผมก็ไม่มั่นใจว่าจะใช่ลูกของผมรึเปล่า” ฟรานติโน่พูดไปด้วยสีหน้ากังวล เพราะเขาเองก็ยังสงสัยว่าปาลมีท้องจริงๆหรือแค่ต้องการให้เขาแต่งงานด้วยเท่านั้น“หมายความว่ายังไงตาฟราน นี่เราจะปัดความรับผิดชอบงั้นเหรอ ทำอะไรไว้เราก็ต้องรับผิดชอบสิ มัมไม่เคยสอนให้ลูกเป็นคนแบบนี้นะ” ฟารีดาเอ็ดลูกชายออกไป เมื่อลูกชายพูดทำนองว่าไม่แน่ใจว่าเด็กในท้องเป็นลูกของใคร ทั้งที่ปาลมีเองก็เป็นคู่หมั้นของลูกชายของเธอ แล้วเธอจะไปท้องกับใครได้นอกจากเธอจะนอกใจฟรานติโน่ไปมีคนอื่น“ไม่ใช่ครับมัม ผมทำอะไรไว้ผมก็ต้องรับผิดชอบอยู่แล้วครับ แต่เวลาผมมีอะไรกับปาล์มผมใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งนะมัม แล้วเขาจะท้องไ
ด้านพิชชาภาพอวางโทรศัพท์ไปก็ร้องไห้ออกมาทันทีก่อนจะกดปิดโทรศัพท์ไป จนน้าสาวของเธอหันมาเอามือลูบหัวเธอแล้วเอนเบาะมากอดปลอบใจหลานสาวอย่างสงสาร“น้าพิม อือๆ คู่หมั้นของเขาท้องค่ะ อือๆ พิช ทำแบบนี้ถูกแล้วใช่ไหมคะ อือๆ” พิชชาภาร้องไห้ออกมาแล้วกอดน้าสาวอย่างเจ็บปวด เพราะถ้าเขากำลังจะมีลูก เธอก็จะไม่ยุ่งกับเขาอีกต่อไป“โถ่ลูก อย่าร้องไห้เลยนะ หนูยังมีน้ากับน้าโจอยู่ข้างๆหนูนะ” พิริมาพูดไปก้ลูบหัวของหลานสาวแล้วกอดปลอบใจอย่างสงสาร“ไปอยู่กับยัยพลอยสักพักไหมลูก เผื่อเราจะสบายใจขึ้น ฝึกงานจะจบแล้วนิ” โจเซฟที่กำลังขับรถบนทางด่วนก็ไม่สามารถหยุดรถไปปลอบใจหลานสาวได้ เขาจึงเอ่ยบอกให้หลานสาวหลบไปพักใจที่อเมริกาแทน เพราะตอนนี้กิจการของร้านกำลังไปได้ดีและเขาก็ทำธุรกิจร้านอาหารเพิ่มอีก จนกลับมามีกินมีใช้เหมือนเดิม และเขาเองก็สามารถส่งให้หลานสาวไปเที่ยวหาลูกสาวของเขาได้สบายๆ“ค่ะน้าโจ พิชจะไปหายัยพลอยสักพัก พิชไม่อยากจะอยู่ที่นี่แล้ว” พิชชาภาเอ่ยบอกไปก็ร้องไห้ออกมาต่อ จนน้าทั้งสองอ่อนใจ ไม่รู้จะทำอย่างไรดี“ฟังน้านะพิช หนูร้องไห้เสียใจไปมันก็ไม่ทำให้สิ่งที่เกิดขึ้นเปลี่ยนแปลงไปได้ ยิ่งหนูเสียใจเท่าไหร่คนท
“นี่มันสาธรแฟนของเมลดานิ เล่นแฟนเพื่อนแบบนี้เลยเหรอ เฮ้อ ร่านจริงๆ” ฟรานติโน่ดูรูปของปาลมีกอดแขนกับสาธรเข้าคอนโดไปอย่างสมเพช นี่เขาหลำตัวไปเอากับเธอได้ยังไงกัน ขนาดเขามั่วกับผู้หญิงเขายังไม่เคยคิดนอนกับแฟนของเพื่อนเลย ปาลมีนี่ร้ายจริงๆ“ใช่ครับ เล่นชู้กับแฟนเพื่อน นักสืบยังบอกอีกนะครับว่ายังรับทั้งคุณสาธรแล้วก็คุณวรินพร้อมกันอีก แบบนี้ผมว่าน่ากลัวแล้วนะครับ ขนาดคุณฟรานมั่วกับผู้หญิงก็ยังไม่เท่าเธอเลย ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆว่าเธอจะร้ายขนาดนี้ ” เมทีเอ่ยเสริมไปตามที่นักสืบได้บอกเขามาว่าเธอเธอหายไปพร้อมกับผู้ชายสองคนนี้เกือบเช้า และแน่นอนว่ามันต้องไม่ใช่แค่ขึ้นไปพูดคุยกันแน่“ฉันรู้นะว่านายหลอกด่าฉัน ไอ้นี่ เออนายส่งรูปนี้ไปให้เมลดาด้วยนะแล้วก็เขียนบอกให้เธอหาแฟนใหม่แล้วก็หาเพื่อนใหม่ที่มันจริงใจกว่านี้ด้วย จะได้ไม่โดนสวมเขาแบบนี้อีก ส่วนที่เหลือก็รอแค่คลิปเท่านั้น” ฟรานติโน่เอ่ยบอกไป เพราะถ้าเมลดาได้เห็นก็คงไม่อยู่เฉยๆแน่ และที่สำคัญเธอจะได้หลุดพ้นจะคนพวกนี้สักที“เมียเขาจะยอมส่งให้เหรอครับ มันขอลับของผัวเลยนะนั่น” เมทีเอ่ยพูดไปอย่างสงสัย เพราะถ้าเป็นเขา เขาก็ไม่ส่งคลิปของคนรักให้ใครไปทำอะ
หลังจากนั้นพิชชาภาก็พาน้องบาสไปเล่นที่ห้องแล้วก็พากันไปเดินเล่นที่ชายหาด ก่อนที่จะมีพนักงานมารับน้องบาสไปอาบน้ำเพราะมันก็เย็นมากแล้ว พิชชาภาจึงนั่งเล่นที่หาดทรายแล้วคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย จนกระทั่งเธอตัดสินใจที่จะไปหาน้องสาวที่อเมริกา เธอจึงเอาโทรศัพท์มากดเปิดเครื่องแล้วข้อความของฟรานติโน่และเพื่อนทั้งสองก็ขึ้นมารัวๆ แต่เธอเลือกที่จะโทรหาแฟรงก์ น้องชายของฟรานติโน่แทน“ฮัลโหลน้องพิช ว่าไงครับ” แฟรงก์รับสายของพิชชาภาและเอ่ยพูดอย่างเป็นกันเอง แล้วคิดในใจว่าเธอจะรู้เรื่องที่ปาลมีท้องหรือไม่ เพราะวันนี้ข่าวของพี่ชายของเขากับปาลมีกำลังแพร่สพัดไปทั่วประเทศและมันก็กลบข่าวของพิชชาภากับพี่ชายของเขาไปหมด“อ่อพี่แฟรงก์คะ พิชอยากเร่งถ่ายโฆษณาให้เร็วขึ้นได้ไหมคะ พอดีพิชมีธุระสำคัญที่ต้องทำน่ะค่ะ งานของเราถ่ายที่พัทยานี่ใช่ไหมคะพี่แฟรงก์ พอดีพิชมาเที่ยวที่นี่พอดีน่ะค่ะก็เลยจะอยู่รอถ่ายแบบที่นี่เลย” พิชชาภาเอ่ยพูดไปก็รอฟังคำตอบของแฟรงก์อย่างตั้งใจ เพราะมันก็เหลือเวลาอีกแค่อาทิตย์เดียวที่จะถ่ายโฆษณาเธอจึงลองถามเขาดู แต่ถ้าจะให้ยกเลิกสัญญาก็คงไม่ได้ ไม่งั้นคงได้จ่ายเงินค่าปรับกันยาว“อืมใช่ แต่พี่กลัวว่
พอเช้าของอีกวันฟรานติโน่ที่แทบจะนอนไม่หลับ เพราะกังวลเรื่องของพิชชาภาเนื่องจากเธอไม่ยอมรับสายของเขาแถมยังปิดทุกการติดต่อของเขา จนเขาจะบ้าตายอยู่แล้ว“อ่าวเฮียฟราน ผมนึกว่าอยู่ที่คอนโดซะอีก ไงกลับมาบ้านได้ล่ะ เห้ยเฮีย ทำไมหน้าซี๊ดแบบนี้ล่ะ” แฟรงก์เอ่ยทักไปในขณะที่กำลังลากกระเป๋าเดินทางออกมาด้วย แล้วเข้าไปนั่งตรงข้ามพี่ชาย แล้วมองใบหน้าซี๊ดหมองของฟรานติโน่อย่างสงสาร“เฮ้อ ไอ้ฟราน เมียฉันงอนแล้วหนีฉันไปไหนไม่รู้ว่ะ ฉันคิดถึงแล้วก็เป็นห่วงเธอจนนอนไม่หลับทั้งคืนแล้วเนี่ย” ฟรานติโน่พูดไปก็เอามือลูบหน้าตัวเองแล้วพิงโซฟาอย่างเหนื่อยๆ“เมีย อ่อ น้องปาล์มน่ะเหรอเฮีย ท้องแล้วไม่ใช่เหรอ ยินดีด้วยนะครับเฮีย” แฟรงก์แกล้งพูดไปเพราะอยากแซวพี่ชายเล่นขำๆ“หน้าฉันมันเล่นกับแกรึไงไอ้แฟรงก์ เมียฉันมีแค่คนเดียว ก็คือพิชชาภา จำเอาไว้ด้วย แล้วแกก็ห้ามยุ่งกับเธอให้ฉันเห็นอีกไม่งั้น น้องก็น้องเถอะว่ะ ฉันไม่เอาไว้แน่” ฟรานติโน่ขู่น้องชายออกไปก็มองโทรศัพท์แล้วดูรูปของพิชชาภาอย่างคิดถึง“ถ้าไม่อยากให้ผมยุ่งผมก็จะไม่ยุ่ง แต่ถ้าเฮียรักเขาจริงๆ ทำไมไม่ทำให้เขารู้ล่ะว่าเฮียรักเขา ผู้หญิงแค่อยากได้ความชัดเจน แต่เฮียมี
ด้านแฟรงก์และพลอยลดาก็นั่งแอบอยู่ที่ห้องของแฟรงก์ เพราะว่าห้องนอนของแฟรงก์มันมีระเบียงมองไปที่สระว่ายน้ำแบบชัดเจน และพวกเขาก็เชื่อมสายไฟต่างๆให้มาอยู่ในห้องของแฟรงก์ เพื่อสะดวกต่อการเซอร์ไพร์สครั้งนี้ ส่วนคนที่แฟรงก์ให้มันจัดการ เขาก็ให้กลับตั้งแต่ครึ่งช่วโมงก่อนหน้านี้ไปหมดแล้วด้านฟรานติโน่ก็พาพิชชาภาเดินออกมาแล้วคอยพยุงเธอมาจนถึงสระว่ายน้ำที่ถูกตกแต่งไปด้วยลูกโป่งพร้อมมีแสงสีหลากสีสวยงามอยู่รอบๆ ก่อนจะส่งสัญญาณบอกกับน้องชายที่อยู่กับพลอยลดาให้ทำตามแผน ด้วยการปิดไฟที่สระว่ายน้ำทั้งหมดเพื่อเขาจะเปิดตาของพิชชาภา“พี่ฟรานจะทำอะไรคะ เมื่อไหร่จะถึงสักที” พิชชาภาที่ถูกปิดตาเอ่ยถามออกไปอย่างตื่นเต้นว่าฟรานติโน่กำลังจะทำอะไรเธอถึงพาเธอปิดตาแล้วเดินมานานขนาดนี้“เดี๋ยวก่อนนะคนดี ยืนตรงนี้แปปนึงนะครับ” ฟรานติโน่พูดเสียงเพราะก็ยิ้มมุมปากก่อนจะมองไปรอบๆที่ไฟทั้งหมดถูกปิดแล้วจนมันมืด เขาก็เอามือเอื้อมไปปลดผ้าปิดตาของพิชชาภาออกมา“ลืมตาได้แล้วคนดี” ฟรานติโน่บอกไป พิชชาภาก็ค่อยลืมตามาก็เห็นฟรานติโน่ยืนยิ้มใส่เธออยู่“มีอะไรกันคะ ทำไมต้องปิดตาพิชด้วย” พิชชาภาเอ่ยถามอย่างสงสัย ก่อนจะเห็นว่ามันมืดมาก
พอเช้าของอีกวันฟรานติโน่และแฟรงก์ก็พาพิชชาภาเดินทางไปส่งพลอยลดาที่บ้านของอลิซ่าผู้ดูแลพลอยลดาที่นี่โดยรถสปอตคันหรู เพื่อเข้าไปพูดคุยเกี่ยวกับการย้ายที่อยู่ของพลอยลดาให้มาอยู่ในความดูแลของฟรานติโน่ แต่ก็เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น กว่าฟรานติโน่และแฟรงก์จะเคลียร์ปัญหากับอดัมและอลิซ่าเสร็จก็นานเป็นชั่วโมง จากนั้นก็ช่วยกันขนของใช้ส่วนตัวของพลอยลดาออกมาบางส่วน แล้วก็กลับมาที่บ้านของฟรานติโน่“ช่วงที่พี่ยังอยู่ที่นี่พลอยก็พักห้องนั้นไปก่อนนะ เดี๋ยวถ้าพี่กับพิชกลับไทยไป พลอยก็ค่อยย้ายมาอยู่ห้องนี้ก็แล้วกันนะ ส่วนเรื่องที่พักเดี๋ยวพี่จะให้ไอ้แฟรงก์มันจัดการให้ ไม่ต้องห่วงนะ พิชพาน้องเอาของไปเก็บที่ห้องก่อนเถอะ” ฟรานติโน่บอกทั้งสองสาวไปด้วยรอยยิ้มเอ็นดู เพราะวันนี้เด็กสาวเจอแต่เรื่องไม่ดี เขาจึงพยายามพูดดีกับเธอให้เหมือนพี่ชายคนหนึ่งควรจะทำ“ไปกันเถอะยัยพลอย มาพี่ช่วยถือ” พิชชาภาเอ่ยพูดไปเสียงอ่อน ก็ช่วยน้องสาวที่ใบหน้าเศร้าเดินเข้าไปที่ห้องของน้องสาว พอแฟรงก์เห็นสองสาวเดินเข้าไปให้ห้องแล้ว เขาก็เอ่ยถามพี่ชายทันที“อ่าวเฮีย ทำไมเฮียไม่ไปจัดการเองอ่ะ ผมก็มีงานต้องทำนะครับ ไม่ได้มีเวลาไปทำอะไรให้ใคร โ
หลังจากนั้นทั้งสองก็หลับพักผ่อนจนเกือบเย็น ตื่นมาอีกทีก็เกือบจะหกโมงเย็นกว่าทั้งสองจะออกมาหาแฟรงก์และพลอยลดาที่ในบ้านหลังนี้ด้วย“อ่าวยัยพลอยทำไมมานั่งคนเดียว แล้วพี่แฟรงก์ล่ะ” พิชชาภาเดินออกมาจากห้องแล้วเดินไปที่ห้องโถงกลางบ้านก็เจอน้องสาวกำลังนั่งทำหน้ายักษ์อยู่ จึงเอ่ยถามออกไป“ไม่รู้สิคะ ป่านนี้คงนอนอืดตายแล้วมั้งคะ” พลอยลดาเอ่ยบอกไปด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เพราะยิ่งเธอนึกถึงตอนที่เขามาแอบมองเธอเล่นน้ำ แล้วเขาก็เล่นกับเจ้านั่นของเขา ยิ่งนึกถึงเหตุการณ์เมื่อตอนบ่ายเธอก็อดโมโหไม่ได้“ยัยพลอย พี่แฟรงก์เขาแก่กว่าเราตั้งกี่ปี เคารพเขาบ้างสิเราน่ะ อีกอย่างต่อไปเราต้องอยู่กับพี่แฟรงก์ที่นี่ เพราะฉะนั้นเราต้องทำตัวดีๆกับพี่เขา เข้าใจไหม” พิชชาภาเอ่ยดุน้องสาวไปอย่างเตือนๆ เพราะยังไงแฟรงก์ก็อายุมากกว่าน้องสาวของเธอ“เคารพคนแบบนั้นไปทำไมล่ะคะ พี่พิชรู้ไหมว่าอีตานั่นมัน” พลอยลดาที่โมโหอยุ่พูดออกไปอย่างลืมตัว ก่อนจะหยุดพูดไปเพราะกลัวว่าพี่สาวจะเป็นห่วงมากกว่าเดิม“ทำไม พี่แฟรงก์ทำอะไรเรา บอกพี่มานะ” พิชชาภาเริ่มทำหน้าเครียดแบบจริงจัง พร้อมกับจ้องมองน้องสาวอย่างจับผิด“เปล่าค่ะ เขาก็แค่ชอบพูดกวนพลอย
ด้านฟรานติโน่ที่เขามารอพิชชาภาในห้องก็กระตุกยิ้มมุมปากเมื่อเขาคิดแผนอะไรดีๆออกแล้ว ว่าเขาควรจะเอาเวลาที่อยู่ที่นี่ทำอะไรดี แต่ก่อนที่เขาจะโทรหาเมที เขาจึงแอบส่งข้อความให้น้องชายช่วยดูแลน้องสาวของพิชชาภาระหว่างที่พวกเขาจะพักผ่อน จากนั้นเขาก็เดินไปล็อคประตูห้องแล้วเลือกที่จะโทรหาเมทีทันที“ว่าไงครับคุณแฟรงก์ มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ” เมทีรับสายแล้วกรอกเสียงพูดไปอย่างเป็นกันเอง ก่อนจะคิดในใจว่าเจ้านายของเขาคงจะมีงานด่วนให้เขาทำแน่ๆถึงโทรมาเร็วขนาดนี้ ทั้งที่พึ่งจะกำลังถึงอเมริกา“มีแน่ๆ ฉันจะเซอร์ไพร์สขอเมียฉันแต่งงานที่นี่” ฟรานติโน่เอ่ยบอกออกไปก็คิดไปพร้อมกับรอยยิ้มที่ฉายออกมาอย่างอดไม่ได้ว่าพิชชาภาจะมีความสุขขนาดไหนถ้าเขาทำอะไรมุ้งมิ้งแบบนี้ให้เธอ“อะไรนะครับ นี่คุณฟรานจะขอคุณพิชแต่งงานที่นั่นเหรอครับ แต่คุณฟรานกับคุณพิชแต่งงานกันแล้วนิครับจะขอแต่งงานกันไปทำไมล่ะครับ ยังไงก็จดทะเบียนกันแล้วนิครับ” เมทีเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ เพราะทั้งสองก็จดทะเบียนสมรสกันไปแล้ว ทำไมต้องมาทำเซอร์ไพร์สอะไรอีก“ฉันไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแกถึงไม่มีเมียจนถึงอายุปูนนี้ ไม่มีความโรแมนติกเลยนะแกเนี่ย ถึงฉันกับพิชจะจดท
หลังจากนั้นทั้งสี่คนก็นั่งรถเดินทางไปยังบ้านของฟรานติโน่ที่อยู่ในเมืองฮอลลีวูดซึ่งมันเป็นเมืองที่อยู่ในลอสแองเจลิสอีกที แต่ก็ถือว่าเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงอยู่เหมือนกัน นั่งรถมาครึ่งชั่วโมงก็ถึงบ้านที่อยู่ริมทะเล“นี่บ้านเหรอคะเนี่ย ใหญ่เวอร์วังไปอีก” พลอยลดาลงจากรถคันหรูก็มองบ้านของพี่เขยอย่างอึ้งๆ เพราะมันเรียกว่าบ้านไม่ได้ มันต้องเรียกว่าคฤหาสน์แล้ว ยิ่งอยู่ติดทะเลแบบนี้พี่เขยเธอคงจะรวยน่าดู เพราะคนที่นี่ถ้าไม่รวยจริงอยู่ติดทะเลแบบนี้ไม่ได้แน่“นี่บ้านของพี่ฟรานจริงๆเหรอคะ” พิชชาถาเองก็อึ้งไม่ต่างจากน้องสาว เพราะบ้านของเขาที่ไทยก็ใหญ่มากแล้ว แต่พอเจอที่นี่ไปบ้านที่ไทยดูธรรมดาไปเลย“ พี่กับไอ้แฟรงก์พึ่งซื้อได้ไม่นานเท่าไหร่ มันสวยดีพี่ก็เลยซื้อเก็บไว้เผื่อมาทำงานที่นี่จะได้มีบ้านนอนสบายๆ ” ฟรานติโน่เอ่ยบอกไปก็จูงมือของพิชชาภาเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ริมทะเล เขาเลือกซื้อที่นี่ไว้เพราะทำงานที่อเมริกาแต่ละครั้งก็หลายเดือน ซื้อบ้านไว้น่าจะสะดวกกว่า“จะไม่เข้าบ้านเหรอ มัวแต่ยืนยิ้มอยู่ได้ ไม่ร้อนไง” แฟรงก์พูดไปก็มองหน้าของเด็กสาวอย่างกวนๆ ก่อนจะเดินตามฟรานติโน่และพิชชาภาเข้าไปในบ้าน“หืม ไอ้บ้
ด้านพิชชาภาก็เดินทางมาถึงอเมริกาก็เกือบสิบโมงเช้า พอได้เห็นเมืองที่น้องสาวอยู่ก็รู้สึกดีใจที่น้องสาวได้มาเรียนที่นี่ นั่นก็คือเมืองลอสแองเจลิสที่อยู่ในรัฐแคลิฟอเนียซึ่งอยู่ในแทบทะเลถือว่าเป็นเมืองที่ใหญ่มากๆเมืองหนึ่งในอเมริกา“ไงเราตื่นเต้นละสิ ตาลุกวาวเลยนะ” แฟรงก์เอ่ยพูดกับพิชาภาอย่างแซวๆ เมื่อเธอยิ้มหน้าบานแถมยังทำท่าตื่นเต้นจนออกนอกหน้า ซึ่งต่างจากเขาและพี่ชายที่มาที่นี่บ่อยแล้วเพราะมีธุรกิจอยุ่ที่นี่เป็นส่วนใหญ่“เมืองนี้สวยมากเลยอ่ะพี่แฟรงก์ ตอนเครื่องลงพิชมองดูวิวแล้วนะ เริสมาก เดี๋ยวต้องไปอ้อนพี่ฟรานให้พาเที่ยวหน่อยแล้วล่ะค่ะ” พิชชาภาพูดบอกไปก็ยิ้มหน้าบานก่อนจะหันไปหาฟรานติโน่ที่ยืนส่ายหัวใส่เธออยู่ข้างๆแฟรงก์“นี่มาหาน้องสาวไม่ใช่เหรอเรา ยังไม่ทันไรก็จะให้พี่พาเที่ยวเหรอ เคลียร์เรื่องน้องสาวเราให้จบก่อนเถอะ” ฟรานติโน่เอ่ยพูดบอกไปพร้อมกับเก็กท่าหล่อใส่พิชชาภาจนพิชชาภามองเขาอย่างเบะปากแบบหมั่นไส้“เคลียร์แน่ค่ะ นี่ก็บอกว่าถ้าส่งงานอาจารย์แล้วจะมารอรับที่สนามบิน ทำไมยังไม่มาก็ไม่รู้” พิชชาภาพูดบอกไปก็แลสายตามองหาน้องสาว เพราะน้องสาวของเธอบอกจะมารอรับ เพราะไม่อยากอยู่บ้านคนเดียว
“เฮ้อ เบื่อพวกข้าวใหม่ปลามันจริงๆ ถ้าเฮียเป็นห่วงน้องพิชเดี๋ยวผมไปส่งน้องพิชเขาก่อนก็ได้ เพราะผมว่างงานมากเลยเฮีย ไม่ได้มีงานเต็มโต๊ะแบบเฮีย” แฟรงก์พูดไปอย่างกวนๆก็มองทั้งสองพูดคุยกันต่อ“มันจำเป็นต้องไปขนาดนั้นเลยเหรอ ก็ได้พี่จะให้พิชไปอเมริกา” ฟรานติโน่พูดไปอย่างไม่สนใจน้องชาย ก่อนจะยอมแพ้ลูกอ้อนของพิชชาภา เพราะแค่เห็นสายตาของเธอเขาก็สยบแทบเท้าของเธอแล้ว“เออโว้ย ยอมง่ายดีจริงพี่กู คนกลัวเมียสองพันสิบแปดชัดๆ” แฟรงก์พูดออกมาเบาๆอย่างงงๆ เมื่อกี้พี่ชายเขายังทำท่าแข็งขืนอยุ่เลย ตอนนี้กลับยอมง่ายๆ“พี่จะไปกับพิชด้วย ไปพรุ่งนี้ใช่ไหม พี่จะให้เมทีหาตั๋วเครื่องบินให้” ฟรานติโน่พูดออกไปจนพิชชาภายิ้มออกมาอย่างดีใจ“ขอบคุณนะคะ พี่ฟรานน่ารักที่สุดเลยค่ะ” พิชชาภาพูดบอกไปก็เอามือบีบแก้มของฟรานติโน่อย่างน่ารัก“อ่าวเฮียไหนบอกมีงานเยอะปลีกไปไม่ได้ไง แล้วงานที่นี่ใครจะทำเล่า” แฟรงก์เอ่ยถามออกไปอย่างงงๆ ปากอ้างว่ามีงานเยอะแต่พอพิชชาภาพูดว่าจะไปอเมริกาเท่านั้นแหละ พี่ชายของเขากลับเปลี่ยนใจทันที แบบนี้มันน่าน้อยใจจริงๆ“มันเรื่องของฉัน แกเองก็ไปเตรียมตัวด้วย เราจะไปอเมริกาพร้อมกัน” ฟรานติโน่เอ่ยบอกไปก
“อดัมพ่อเลี้ยงของอลิสค่ะพี่พิช เขาจะลวนลามพลอย อือๆ พลอยไม่จะทำยังไงดีคะ พลอยไม่กล้าบอกเจกับอลิสด้วย พลอยไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว พลอยอยากกลับบ้าน พี่พิชช่วยพลอยนะคะ อือๆ” พลอยลดาเอ่ยบอกพี่สาวด้วยเสียงสะอื้น เธอพยายามอดทนมานานแล้ว แต่วันนี้อดัมพยายามลวนลามเธอจนเธอทนไม่ได้แล้ว แล้วเธอก็ไม่รู้จะบอกอลิซ่าแม่ของอลิสยังไง เธอกลัวว่าพวกเขาจะไม่เชื่อเธอ“ใจเย็นๆนะพลอย เดี๋ยวพี่จะจัดการเรื่องนี้เองแล้วเราก็พยายามอยู่ห่างๆอดัมไว้อย่าไปใกล้เขา ถ้ามีอะไรก็เรียกให้เจช่วยนะพลอย แล้วก็ล็อคห้องดีๆ เข้าใจไหม เราไม่ต้องเป็นห่วงนะพี่จะไม่ยอมให้เราอยู่ที่นั่นอีกต่อไป” พิชชาภาเอ่ยบอกไปอย่างเป็นห่วงน้องสาว เธอไม่คิดเลยว่าน้องสาวของเธอจะเจอเรื่องแบบนี้ ขออย่าให้น้องสาวเธอโดนไอ้แก่อดัมนั่นทำอะไรเลย พิชชาภาคิดไปอย่างกังวล“ค่ะพี่พิช พลอยรู้นะคะว่าพ่อกับแม่ไม่มีเงินให้พลอยไปพักอยู่ที่อื่นหรอก เพราะที่พลอยมาเรียนที่นี่ได้ก็เพราะเงินของพี่พิช แต่ตอนนี้พลอยยอมกลับไปเรียนที่ไทยก็ได้ค่ะ แต่พลอยขอพี่พิชบอกพ่อกับแม่เรื่องนี้นะคะ พลอยไม่อยากให้พวกท่านเป็นห่วงพลอยค่ะ” พลอยลดาบอกไปอย่างท้อใจ เพราะเธอเจอเรื่องแบบนี้แล้วมัน
“อ่าส์ พิช เจ็บไหม พี่ทำแรงไปหน่อย” ฟรานติโน่เอายถามออกไปก็มองพิชชาภาอย่างสงสาร เพราะวันนี้เขาเผลอเอาเธอแรงไปหน่อย“ไม่ค่ะ เพื่อลูกของเราพิชทนได้” พิชชาภาบอกไปก็ยิ้มละมุมใส่ฟรานติโน่“บล็อก อ่าส์ แดงเชียว” ฟรานติโถอนท่อนเอ็นออกจากร่องสาวก็นั่งยองๆดูร่อร่องสาวของพิชชาภาที่แดงเผือก ก่อนจะเห็นน้ำรักของเขาไหลออกมาจากรูเล็กๆนั่น เขาก็เอื้มมือไปหยิบทิชชู่มาเช็ดคราบน้ำรักของเขาออกไป“เดี๋ยวพิชทำเอง พี่ฟรานจัดการของตัวเองเถอะค่ะ” พิชชาภาเอ่ยบอกไปก็ลุกขึ้นแล้วดึงกระโปรงของเธอลง ก่อนจะมองหากางเกงชั้นในของตัวเองที่วางอยู่ขอบโต๊ะทำงานของฟรานติโน่ เธอก็ลุกขึ้นไปหยิบมาทันที“งั้นไปพร้อมกันนั่นแหละ” ฟรานติโน่บอกไปก็จูงมือพาพิชชาภาไปเข้าห้องน้ำในห้องทำงานของเขาที่อยู่ในห้องทำงานทันทีหลังจากนั้นทั้งสองก็ช่วยกันทำความสะอาดของกันและกันจนเสร็จ ฟรานติโน่ก็มานั่งที่เก้าอี้ตรงโต๊ะทำงาน ส่วนพิชชาภาก็ไปนั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามกับฟรานติโน่แล้วเธอก็เอามือท้าวคางมองฟรานติโน่ทำงานอย่างหลงใหล“คนอะไร ยิ่งดูยิ่งหล่อ ยิ่งดูยิ่งน่าเอา” พิชชาภาพูดไปก็มองฟรานติโน่ไป จนฟรานติโน่ที่กำลังอ่านเอกสารถึงกับเงยหน้ามามองพิชชาภาอ