ด้านปาลมีที่เห็นฟรานติโน่ลงวิดีโอกับพิชชาภาในไอจี เธอถึงกับโกรธจนร้องโวยวายออกมาเสียงดัง จนเมลดาที่เป็นเพื่อนสาวถึงกับเอามือปิดหู“กรี๊ด ฉันไม่ยอมแกง่ายๆหรอก อีเด็กแรด อ้าย กรี๊ด” ปาลมีร้องกรี๊ดออกไปก็ทำท่าไม่พอใจ จนเพื่อนสาวของเธอเข้ามาห้าม“ใจเย็นๆแก ฉันหนวกหูไปหมดแล้ว ฉันว่าแกเอาเวลาที่แกมาโวยวายแบบนี้มาคิดดีกว่าไหมว่าจะทำยังไงกับคุณฟรานติโน่ เอาจริงๆนะ สวยๆรวยๆแบบแกก็หาผู้ชายดีๆได้ ทำไมต้องเป็นเขาด้วยล่ะ ฉันว่าแกไปหาคนอื่นดีกว่าไหม” เมลดาเอ่ยบอกเพื่อนสาวอย่างปลงๆ เพราะแค่นี้เธอก็ดูออกแล้วว่าฟรานติโน่น่ะเลือกใคร“หุบปากแกไปเลยยัยเม ฉันรักพี่ฟราน แล้วเขาก้ต้องเป็นของฉันเท่านั้น ผู้หญิงหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์” ปาลมีพูดออกไปอย่างมาดมั่น เพราะเธอจะไม่ยอมให้ใครตราหน้าว่าถูกเด็กเมื่อวานซืนแย่งคนรักไปแน่ๆ“แล้วแกจะทำยังไง ไม่เห็นเหรอว่าเขาหลงเด็กนั่นแค่ไหน” เมลดาถามออกไปอย่างอยากรู้ว่าเพื่อนสาวจะทำยังไงต่อไป“ฉันก็จะเผยธาตุแท้ของยัยเด็กนั่นออกมาไง ฉันจะทำให้พี่ฟรานเกลียดมันจนไม่อยากจะมองหน้ามันเลย แกคอยดูเถอะยัยเม พรุ่งนี้แกไปร้านพรีเวดดิ้งกับฉันด้วยนะ ฉันอยากจะไปดูน้ำหน้าอีเด็กนั่นสักหน่อย
พิชชาภาถึงกับโกรธจนกำมือแน่น ที่ผู้หญิงคนนี้พูดมามันก็ถูก เธอผิดที่ไปขายตัวให้ฟรานติโน่ก็จริง แต่เธอก็ไม่ได้เต็มใจที่จะทำแบบนั้น แต่ตอนนี้เธอเริ่มจะอยากได้ฟรานติโน่จากยัยนี่แบบเต็มใจแล้ว เธอจึงยิ้มออกมาแล้วพูดออกไปอย่างไม่ยอม“ผัวจะให้เงินเมียไปใช้หนี้มันก็ไม่แปลกนิคะ จะเรียกว่าขายตัวก็ได้ค่ะ เพราะก็ขอเงินผัวตอนอยู่บนเตียงด้วยกันตลอด ที่สำคัญนอนกอดกับคุณฟรานทุกคืนเลยนะคะ ไม่เคยโดนไล่กลับไปนอนที่ไหนเลย แถมยังใช้ชีวิตแบบผัวๆเมียๆ ไม่ได้นอนให้เขาเอาแล้วก็จบไปวันๆแบบใคร นี่ยังดีนะคะนอนกับผู้ชายแล้วได้เงินเป็นล้านๆ ดีกว่านอนกับผู้ชายฟรีๆแล้วโง่มาอวดว่าตัวเองฉลาด แบบนั้นเขาเรียกว่าโง่ค่ะ” พิชชาภาพูดออกไปอย่างผู้ชนะ คิดว่าเธอจะยอมรึไง ชิ นี่พิชชาภานะยะ คนอย่างเธอไม่ยอมให้ใครมาดูถูกอย่างนี้แน่“กรี๊ด อีแรดบ้า แกว่าฉันโง่เหรอ” ปาลมีร้องโวยวายออกมาเสียงดัง ก็ชี้หน้าพิชชาภาอย่างโกรธแค้น แต่เมลดาก็จับตัวเธอไว้“พอแล้วแก กลับกันเถอะ” เมลดาพูดออกไปอย่างเตือนๆเพื่อนสาว เพราะที่นี่ไม่ใช่ถื่นของพวกเธอ ขืนทำอะไรไปก็เจ็บตัวฟรีๆเปล่าๆ“แกไม่เห็นเหรอยัยเม มันด่าฉันนะ แกเป็นเพื่อนประสาอะไรห้ะ ถึงไม่ช่วยฉัน
“น้องปาล์มไปหาหมอไหม เดี๋ยวพี่จะพาไป ไปให้หมอดูแผลหน่อยไหม” แฟรงก์เสนออกไป เพราะอยากจะดูท่าทีของปาลมีว่าจะทำอย่างไร“เดี๋ยวปาล์มให้เมพาไปก็ได้ค่ะ งั้นปาล์มกลับก่อนนะคะ” ปาลมีบอกไปก็เดินออกไปพร้อมกับรอยยิ้มสะใจที่ฟรานติโน่เชื่อเธอ และจะไปจัดการยัยเด็กนั่นให้เธอ“แกเห็นแล้วใช่ไหมเม ว่าพี่ฟรานเขาเห็นใครสำคัญกว่ากัน ฮ่าๆ ไปกันเถอะ ไปฉลองให้กับความสะใจของฉัน” พอออกมานอกห้องทำงานของฟรานติโน่ ปาลมีก็เอ่ยบอกเพื่อนสาวไปก็เดินออกไปด้วยความสะใจ“ถ้าเป็นผมโดยตบมาขนาดนี้นะ ผมจะไปหาหมอก่อนเลย ไม่เรมาฟ้องแบบนี้หรอก” เมทีเอ่ยพูดออกไปเมื่ออยุ่กับแฟรงก์สองคน เขารู้ว่าปาลมีนั้นคอยจัดการสาวๆของฟรานติโน่ตลอด แต่เขาคิดว่ากับพิชชาภาคงจะยาก เพราะรายนั้นก็ถูกใจฟรานติโน่ใช่ย่อยเหมือนกัน“ก็น้องปาล์มเขาลงทุนมาให้เฮียฟรานเห็นไงพี่เมที ถ้ามาแบบเปล่าๆจะไปดูน่าสงสารได้ยังไงล่ะจริงไหม หึหึ” แฟรงก์พูดไปอย่างรู้ทันมารยาของผู้หญิง เพราะเขานั้นเรียกว่าเสือผู้หญิงเลยก็ว่าได้ เรื่องแบบนี้ใครๆก็ดูออก“ผมล่ะเดาจคุณฟรานไม่ออกเลยว่าจะไปจัดการกับคุณพิชยังไง” เมทีพูดไปแบบนั้น เพราะฟรานติโน่ก็ดูชอบสองสาวเหมือนกันจนเขาไม่แน่ใจว่า
ด้านปัทมาก็รีบเดินเร็วไปนั่งกับนภัทรอย่างเกร็งๆ ก่อนจะพากันมองทั้งสองคุยกันอย่างอยากรู้ว่าจะเป็นอน่างไรต่อไป เพราะเธอแทบจะเดาสถานการณ์นี้ไม่ออกเลย“เฮ้อ ลุกขึ้นพิช แล้วไปกับผมเดี๋ยวนี้” ฟรานติโน่ถอนหายใจอย่างปลงๆกับความขี้งอนของหญิงสาว ก่อนจะใช้น้ำเสียงอ่อนลง แล้วเขาก็เดินเข้าไปหาเธอ แล้วมันก็ทำให้เขาได้เห็นใบหน้าสวยๆเป็นรอยมือแดงๆทั้งสองข้างแก้ม จนเขาอยากจะฆ่าตัวเองนักที่ปล่อยให้ปาลมีไปวุ่นวายกับพิชชาภาแบบนั้น“ไม่ค่ะ พิชไม่อยากจะยุ่งกับคุณอีกแล้ว พิชไม่อยากจะมีปัญหากับคู่หมั้นของคุณอีก เรื่องของเราให้มันจบไปเถอะค่ะ” พิชชาภาแกล้งพูดออกไปอย่างหยั่งเชิง เพราะถ้าอยากจะกำจัดแรดแบบปาลมีเธอก็ต้องใช้มารยากับเขาบ้างทั้งนภัทรและปัทมาก็หันมามองหน้ากันอย่างงงๆว่าเพื่อนสาวคิดจะทำอะไร เพราะอยุ่ๆก็คิดจะเลิกยุ่งกับฟรานติโน่ ทั้งที่ก็พึ่งจะคิดเอาฟรานติโน่คืน“จบอะไร พูดบ้าอะไรออกมารู้ตัวรึเปล่า ผมบอกให้ลุกขึ้น อย่าทำให้ผมต้องโมโหได้ไหมพิช” ฟรานติโน่พูดไปก็เริ่มชักจะไม่เข้าใจหญิงสาวแล้วว่าเธอต้องการอะไรกับเขา เขาผิดที่ทำให้เธอเจ็บตัวแบบนี้แต่ถ้าเขาเลือกได้เขาก็ไม่ได้อยากให้เรื่องมันเป็นแบบนี้“พิชบอ
ด้านปาลมีก็กลับมาที่บ้านด้วยสภาพสะบักสบอมจนเสี่ยกำธรและคุณหญิงวดีถึงกับตกใจ รีบเข้ามาหาลูกสาวทันที“เกิดอะไรขึ้น ใครทำอะไรลูกพ่อ บอกมาเลย พ่อจะไปจัดการมันเอง” เสี่ยกำธรพูดไปอย่างโมโหที่เห็นลูกสาวมีสภาพบอบช้ำกลับมาบ้านแบบนี้ เขาเลี้ยงลูกสาวของเขามาไม่เคยตบตีเลยสักครั้ง แล้วใครกันมันกล้ามาทำกับลูกสาวของเขาแบบนี้“ก็ยัยเด็กที่พี่ฟรานคั่วอยู่ตอนนี้น่ะสิคะคุณพ่อ มันตบปาล์ม คุณพ่อต้องจัดการให้ปาล์มนะคะ ไม่งั้นปาล์มไม่ยอมจริงๆด้วย” ปาลมีได้ทีก็ฟ้องผู้เป็นพ่อไปทันที ก่อนจะซบกอดแม่ของตัวเองอย่างอ้อนๆ“หนูพิชงั้นสิ ร้ายไม่เบาจริงๆ พ่อจะจัดการเด็กคนนี้เองลุกไม่ต้องห่วงหรอก พ่อจะทำให้เด็กคนนี้เจ็บกว่าลูกพ่อเป็นร้อยเท่าพันเท่า” กำธรเอ่ยพูดไปด้วยสายตาจริงจัง พร้อมกับเผยรอยยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ เขาก่ะจะปล่อยเด็กสาวไปอยุ่แล้วเชียวแต่ในเมื่อเธอรนหาที่มาทำกับลุกสาวเขาแบบนี้ เขาก็จะจัดการเธอให้มันจบๆเรื่องด้วยการจับเธอมาเป็นเมียน้อยของเขาอีกคนให้ได้“แล้วข่าวของพี่ฟรานกับอีเด็กนี่ก็ด้วย คุณพ่อต้องจัดการให้ปาล์มนะคะ ทำให้ยังไงก็ได้ไม่ให้ปาล์มเป้นขี้ปากสังคมแบบนี้” ปาลมีพูดบอกไป เพราะเธอทนเป็นแบบนี้ไม่
“งั้นก็แล้วแต่พิชก็แล้วกันลูก หนุต้องดูแลตัวเองดีๆนะ ถ้ามีอะไรก็บอกน้าสองคนนะลูกอย่าเก็บไว้คนเดียว” พิริมาบอกไปก็ยิ้มให้หลานสาวแล้วเอามือลูบใบหน้าสวยๆของหลานสาวอย่างเอ็นดู ก่อนจะกอดหลานสาวอย่างให้กำลังใจ“ถ้าผู้ชายไม่ชัดเจน พิชก็เองก็ต้องชัดเจนนะลูก อย่าให้ผู้ชายมักมากคนหนึ่งมาทำลายความสุขที่หนูมี น้าก็คงพูดได้แค่นี้แหละ เพราะทุกอย่างๆน้าเองที่เป็นต้นเหตุ” โจเซฟพูดไปก็กล่าวโทษตัวเองอย่างรุ้สึกผิด ที่เขาทำให้หลาสาวต้องมาเจอกับผู้ชายอย่างฟรานติโน่“อย่าโทษตัวเองสิคะน้าโจ ทุกๆอย่างเป็นเพราะพิชเองค่ะ พิชตัดสินใจเอง ทำทุกอย่างโดยไม่ปรึกษาน้าพิมกับน้าโจ อย่าโทษตัวเองเลยนะคะ” พิชชาภาบอกกับน้องทั้งสองไปก็ยิ้มให้ท่านสอง“แต่น้าก็อดคิดไม่ได้จริงๆ เฮ้อ” โจเซฟพูดไปก็มองหลานสาวอย่างเอ็นดู“อย่าคิดมากค่ะ วันนี้เราออกไปเที่ยวกันดีกว่าค่ะ เราไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันแบบนี้มานานแล้วนะคะ” พิชชาภาเอ่ยบอกไป เพราะอยากจะพาน้าทั้งสองไปพักผ่อนเพื่อคลายความเครียด“อืม เอางั้นก็ได้ ว่าแต่เราจะไปไหนกันดีล่ะลูก” พิริมาถามออกไปอย่างอยากรู้“พัทยาไหมคะ ขับรถไปแค่สองชั่วโมงเอง ไปสักคืนสองคืนก็ได้ค่ะ” พิชชาภาบอกไปก็ยิ้ม
“พิชไม่เคยมั่วกับผู้ชายไปทั่วแบบ ผู้หญิงบางคนไหน ปาล์มอย่ามาพูดแบบนี้อีกพี่ไม่ชอบ แล้วหยุดคิดเรื่องที่จะใส่ร้ายยพิชกับนักข่าว ไม่งั้นพี่ก็จะไม่ไว้หน้าเราเหมือนกัน” ฟรานติโน่ที่จะพูดว่าผู้หญิงแบบเธอไป ก็หยุดพูดทันไม่งั้นปาลมีคงจะรู้ตัวว่าเขารู้เรื่องที่เธอทำแอบไปมีอะไรกับผู้ชายคนอื่นๆแน่“ถ้าพี่ฟรานยังไม่จัดการอีเด็กนั่นออกไปจากชีวิตพี่ล่ะก็ ปาล์มจะไม่ใจดีแบบนี้แล้วนะคะ เพราะอะไรที่มันเป็นของปาล์ม มันก็ต้องเป็นของปาล์มเท่านั้น คนอื่นไม่มีสิทธิ์” ปาลมีพูดออกไปอย่างเป็นเจ้าเข้าเจ้าของฟรานติโน่ เพราะเธอจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาทำลายงานแต่งงานของเธอกับฟรานติโน่เด็ดขาด“พี่ไม่ใช่สิ่งของนะปาล์ม แล้วปาล์มก็ห้ามยุ่งกับพิช” ฟรานติโน่พูดออกไปเสียงเข้มอย่างโมโห แต่ก็ต้องเก็บอารมณ์โกรธเอาไว้“งั้นพี่ก็ต้องไปสัมภาษณ์พร้อมกับปาล์ม แล้วยืนยันว่าเรารักกันดี ไม่มีมือที่สาม แล้วปาล์มจะปล่อยให้เรื่องนี้เงียบไป” ปาลมีเอ่ยพูดไปอย่างมีแผนในใจ เพราะเอจะทำให้อีเด็กนั่นเจ็บใจจนแทบกระอักเลือดออกมาฟรานติโน่ก็มองปาลมีอย่างไม่ไว้ใจ เพราะร้ายลึกแบบปาลมีเธอคงจะไม่ยอมปล่อยพิชชาภาไปง่ายๆแน่ แต่ถ้าเขาปล่อยให้ปาลมีพูดกับ
“นี่มันอะไรกันตาฟราน ทำไมหนูปาล์มถึงท้องห้ะ ไหนบอกอยากจะยกเลิกงานแต่งแล้วหนูปาล์มท้องแบบนี้ เราจะยกเลิกงานแต่งได้ยังไงกัน ถ้าหนูปาล์มท้องจริงๆมัมจะไม่ยอกเลิกงานแต่งงานเด็ดขาด” ฟารีดาเอ่ยพูดกับลูกชายหลังจากที่เดินเข้ามาในงานแล้วเธอก็หามุมลับตาคนคุยกับลูกชายอย่างสงสัย นี่เธอกำลังจะมีหลานงั้นเหรอ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงเธอคงยอมให้งานแต่งถูกยกเลิกไม่ได้“ใจเย็นก่อนนะครับมัม ผมว่าปาล์มเขาไม่ได้ท้องจริงๆหรอกครับ หรือถ้าเขาท้องจริงๆผมก็ไม่มั่นใจว่าจะใช่ลูกของผมรึเปล่า” ฟรานติโน่พูดไปด้วยสีหน้ากังวล เพราะเขาเองก็ยังสงสัยว่าปาลมีท้องจริงๆหรือแค่ต้องการให้เขาแต่งงานด้วยเท่านั้น“หมายความว่ายังไงตาฟราน นี่เราจะปัดความรับผิดชอบงั้นเหรอ ทำอะไรไว้เราก็ต้องรับผิดชอบสิ มัมไม่เคยสอนให้ลูกเป็นคนแบบนี้นะ” ฟารีดาเอ็ดลูกชายออกไป เมื่อลูกชายพูดทำนองว่าไม่แน่ใจว่าเด็กในท้องเป็นลูกของใคร ทั้งที่ปาลมีเองก็เป็นคู่หมั้นของลูกชายของเธอ แล้วเธอจะไปท้องกับใครได้นอกจากเธอจะนอกใจฟรานติโน่ไปมีคนอื่น“ไม่ใช่ครับมัม ผมทำอะไรไว้ผมก็ต้องรับผิดชอบอยู่แล้วครับ แต่เวลาผมมีอะไรกับปาล์มผมใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งนะมัม แล้วเขาจะท้องไ
ด้านแฟรงก์และพลอยลดาก็นั่งแอบอยู่ที่ห้องของแฟรงก์ เพราะว่าห้องนอนของแฟรงก์มันมีระเบียงมองไปที่สระว่ายน้ำแบบชัดเจน และพวกเขาก็เชื่อมสายไฟต่างๆให้มาอยู่ในห้องของแฟรงก์ เพื่อสะดวกต่อการเซอร์ไพร์สครั้งนี้ ส่วนคนที่แฟรงก์ให้มันจัดการ เขาก็ให้กลับตั้งแต่ครึ่งช่วโมงก่อนหน้านี้ไปหมดแล้วด้านฟรานติโน่ก็พาพิชชาภาเดินออกมาแล้วคอยพยุงเธอมาจนถึงสระว่ายน้ำที่ถูกตกแต่งไปด้วยลูกโป่งพร้อมมีแสงสีหลากสีสวยงามอยู่รอบๆ ก่อนจะส่งสัญญาณบอกกับน้องชายที่อยู่กับพลอยลดาให้ทำตามแผน ด้วยการปิดไฟที่สระว่ายน้ำทั้งหมดเพื่อเขาจะเปิดตาของพิชชาภา“พี่ฟรานจะทำอะไรคะ เมื่อไหร่จะถึงสักที” พิชชาภาที่ถูกปิดตาเอ่ยถามออกไปอย่างตื่นเต้นว่าฟรานติโน่กำลังจะทำอะไรเธอถึงพาเธอปิดตาแล้วเดินมานานขนาดนี้“เดี๋ยวก่อนนะคนดี ยืนตรงนี้แปปนึงนะครับ” ฟรานติโน่พูดเสียงเพราะก็ยิ้มมุมปากก่อนจะมองไปรอบๆที่ไฟทั้งหมดถูกปิดแล้วจนมันมืด เขาก็เอามือเอื้อมไปปลดผ้าปิดตาของพิชชาภาออกมา“ลืมตาได้แล้วคนดี” ฟรานติโน่บอกไป พิชชาภาก็ค่อยลืมตามาก็เห็นฟรานติโน่ยืนยิ้มใส่เธออยู่“มีอะไรกันคะ ทำไมต้องปิดตาพิชด้วย” พิชชาภาเอ่ยถามอย่างสงสัย ก่อนจะเห็นว่ามันมืดมาก
พอเช้าของอีกวันฟรานติโน่และแฟรงก์ก็พาพิชชาภาเดินทางไปส่งพลอยลดาที่บ้านของอลิซ่าผู้ดูแลพลอยลดาที่นี่โดยรถสปอตคันหรู เพื่อเข้าไปพูดคุยเกี่ยวกับการย้ายที่อยู่ของพลอยลดาให้มาอยู่ในความดูแลของฟรานติโน่ แต่ก็เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น กว่าฟรานติโน่และแฟรงก์จะเคลียร์ปัญหากับอดัมและอลิซ่าเสร็จก็นานเป็นชั่วโมง จากนั้นก็ช่วยกันขนของใช้ส่วนตัวของพลอยลดาออกมาบางส่วน แล้วก็กลับมาที่บ้านของฟรานติโน่“ช่วงที่พี่ยังอยู่ที่นี่พลอยก็พักห้องนั้นไปก่อนนะ เดี๋ยวถ้าพี่กับพิชกลับไทยไป พลอยก็ค่อยย้ายมาอยู่ห้องนี้ก็แล้วกันนะ ส่วนเรื่องที่พักเดี๋ยวพี่จะให้ไอ้แฟรงก์มันจัดการให้ ไม่ต้องห่วงนะ พิชพาน้องเอาของไปเก็บที่ห้องก่อนเถอะ” ฟรานติโน่บอกทั้งสองสาวไปด้วยรอยยิ้มเอ็นดู เพราะวันนี้เด็กสาวเจอแต่เรื่องไม่ดี เขาจึงพยายามพูดดีกับเธอให้เหมือนพี่ชายคนหนึ่งควรจะทำ“ไปกันเถอะยัยพลอย มาพี่ช่วยถือ” พิชชาภาเอ่ยพูดไปเสียงอ่อน ก็ช่วยน้องสาวที่ใบหน้าเศร้าเดินเข้าไปที่ห้องของน้องสาว พอแฟรงก์เห็นสองสาวเดินเข้าไปให้ห้องแล้ว เขาก็เอ่ยถามพี่ชายทันที“อ่าวเฮีย ทำไมเฮียไม่ไปจัดการเองอ่ะ ผมก็มีงานต้องทำนะครับ ไม่ได้มีเวลาไปทำอะไรให้ใคร โ
หลังจากนั้นทั้งสองก็หลับพักผ่อนจนเกือบเย็น ตื่นมาอีกทีก็เกือบจะหกโมงเย็นกว่าทั้งสองจะออกมาหาแฟรงก์และพลอยลดาที่ในบ้านหลังนี้ด้วย“อ่าวยัยพลอยทำไมมานั่งคนเดียว แล้วพี่แฟรงก์ล่ะ” พิชชาภาเดินออกมาจากห้องแล้วเดินไปที่ห้องโถงกลางบ้านก็เจอน้องสาวกำลังนั่งทำหน้ายักษ์อยู่ จึงเอ่ยถามออกไป“ไม่รู้สิคะ ป่านนี้คงนอนอืดตายแล้วมั้งคะ” พลอยลดาเอ่ยบอกไปด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เพราะยิ่งเธอนึกถึงตอนที่เขามาแอบมองเธอเล่นน้ำ แล้วเขาก็เล่นกับเจ้านั่นของเขา ยิ่งนึกถึงเหตุการณ์เมื่อตอนบ่ายเธอก็อดโมโหไม่ได้“ยัยพลอย พี่แฟรงก์เขาแก่กว่าเราตั้งกี่ปี เคารพเขาบ้างสิเราน่ะ อีกอย่างต่อไปเราต้องอยู่กับพี่แฟรงก์ที่นี่ เพราะฉะนั้นเราต้องทำตัวดีๆกับพี่เขา เข้าใจไหม” พิชชาภาเอ่ยดุน้องสาวไปอย่างเตือนๆ เพราะยังไงแฟรงก์ก็อายุมากกว่าน้องสาวของเธอ“เคารพคนแบบนั้นไปทำไมล่ะคะ พี่พิชรู้ไหมว่าอีตานั่นมัน” พลอยลดาที่โมโหอยุ่พูดออกไปอย่างลืมตัว ก่อนจะหยุดพูดไปเพราะกลัวว่าพี่สาวจะเป็นห่วงมากกว่าเดิม“ทำไม พี่แฟรงก์ทำอะไรเรา บอกพี่มานะ” พิชชาภาเริ่มทำหน้าเครียดแบบจริงจัง พร้อมกับจ้องมองน้องสาวอย่างจับผิด“เปล่าค่ะ เขาก็แค่ชอบพูดกวนพลอย
ด้านฟรานติโน่ที่เขามารอพิชชาภาในห้องก็กระตุกยิ้มมุมปากเมื่อเขาคิดแผนอะไรดีๆออกแล้ว ว่าเขาควรจะเอาเวลาที่อยู่ที่นี่ทำอะไรดี แต่ก่อนที่เขาจะโทรหาเมที เขาจึงแอบส่งข้อความให้น้องชายช่วยดูแลน้องสาวของพิชชาภาระหว่างที่พวกเขาจะพักผ่อน จากนั้นเขาก็เดินไปล็อคประตูห้องแล้วเลือกที่จะโทรหาเมทีทันที“ว่าไงครับคุณแฟรงก์ มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ” เมทีรับสายแล้วกรอกเสียงพูดไปอย่างเป็นกันเอง ก่อนจะคิดในใจว่าเจ้านายของเขาคงจะมีงานด่วนให้เขาทำแน่ๆถึงโทรมาเร็วขนาดนี้ ทั้งที่พึ่งจะกำลังถึงอเมริกา“มีแน่ๆ ฉันจะเซอร์ไพร์สขอเมียฉันแต่งงานที่นี่” ฟรานติโน่เอ่ยบอกออกไปก็คิดไปพร้อมกับรอยยิ้มที่ฉายออกมาอย่างอดไม่ได้ว่าพิชชาภาจะมีความสุขขนาดไหนถ้าเขาทำอะไรมุ้งมิ้งแบบนี้ให้เธอ“อะไรนะครับ นี่คุณฟรานจะขอคุณพิชแต่งงานที่นั่นเหรอครับ แต่คุณฟรานกับคุณพิชแต่งงานกันแล้วนิครับจะขอแต่งงานกันไปทำไมล่ะครับ ยังไงก็จดทะเบียนกันแล้วนิครับ” เมทีเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ เพราะทั้งสองก็จดทะเบียนสมรสกันไปแล้ว ทำไมต้องมาทำเซอร์ไพร์สอะไรอีก“ฉันไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแกถึงไม่มีเมียจนถึงอายุปูนนี้ ไม่มีความโรแมนติกเลยนะแกเนี่ย ถึงฉันกับพิชจะจดท
หลังจากนั้นทั้งสี่คนก็นั่งรถเดินทางไปยังบ้านของฟรานติโน่ที่อยู่ในเมืองฮอลลีวูดซึ่งมันเป็นเมืองที่อยู่ในลอสแองเจลิสอีกที แต่ก็ถือว่าเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงอยู่เหมือนกัน นั่งรถมาครึ่งชั่วโมงก็ถึงบ้านที่อยู่ริมทะเล“นี่บ้านเหรอคะเนี่ย ใหญ่เวอร์วังไปอีก” พลอยลดาลงจากรถคันหรูก็มองบ้านของพี่เขยอย่างอึ้งๆ เพราะมันเรียกว่าบ้านไม่ได้ มันต้องเรียกว่าคฤหาสน์แล้ว ยิ่งอยู่ติดทะเลแบบนี้พี่เขยเธอคงจะรวยน่าดู เพราะคนที่นี่ถ้าไม่รวยจริงอยู่ติดทะเลแบบนี้ไม่ได้แน่“นี่บ้านของพี่ฟรานจริงๆเหรอคะ” พิชชาถาเองก็อึ้งไม่ต่างจากน้องสาว เพราะบ้านของเขาที่ไทยก็ใหญ่มากแล้ว แต่พอเจอที่นี่ไปบ้านที่ไทยดูธรรมดาไปเลย“ พี่กับไอ้แฟรงก์พึ่งซื้อได้ไม่นานเท่าไหร่ มันสวยดีพี่ก็เลยซื้อเก็บไว้เผื่อมาทำงานที่นี่จะได้มีบ้านนอนสบายๆ ” ฟรานติโน่เอ่ยบอกไปก็จูงมือของพิชชาภาเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ริมทะเล เขาเลือกซื้อที่นี่ไว้เพราะทำงานที่อเมริกาแต่ละครั้งก็หลายเดือน ซื้อบ้านไว้น่าจะสะดวกกว่า“จะไม่เข้าบ้านเหรอ มัวแต่ยืนยิ้มอยู่ได้ ไม่ร้อนไง” แฟรงก์พูดไปก็มองหน้าของเด็กสาวอย่างกวนๆ ก่อนจะเดินตามฟรานติโน่และพิชชาภาเข้าไปในบ้าน“หืม ไอ้บ้
ด้านพิชชาภาก็เดินทางมาถึงอเมริกาก็เกือบสิบโมงเช้า พอได้เห็นเมืองที่น้องสาวอยู่ก็รู้สึกดีใจที่น้องสาวได้มาเรียนที่นี่ นั่นก็คือเมืองลอสแองเจลิสที่อยู่ในรัฐแคลิฟอเนียซึ่งอยู่ในแทบทะเลถือว่าเป็นเมืองที่ใหญ่มากๆเมืองหนึ่งในอเมริกา“ไงเราตื่นเต้นละสิ ตาลุกวาวเลยนะ” แฟรงก์เอ่ยพูดกับพิชาภาอย่างแซวๆ เมื่อเธอยิ้มหน้าบานแถมยังทำท่าตื่นเต้นจนออกนอกหน้า ซึ่งต่างจากเขาและพี่ชายที่มาที่นี่บ่อยแล้วเพราะมีธุรกิจอยุ่ที่นี่เป็นส่วนใหญ่“เมืองนี้สวยมากเลยอ่ะพี่แฟรงก์ ตอนเครื่องลงพิชมองดูวิวแล้วนะ เริสมาก เดี๋ยวต้องไปอ้อนพี่ฟรานให้พาเที่ยวหน่อยแล้วล่ะค่ะ” พิชชาภาพูดบอกไปก็ยิ้มหน้าบานก่อนจะหันไปหาฟรานติโน่ที่ยืนส่ายหัวใส่เธออยู่ข้างๆแฟรงก์“นี่มาหาน้องสาวไม่ใช่เหรอเรา ยังไม่ทันไรก็จะให้พี่พาเที่ยวเหรอ เคลียร์เรื่องน้องสาวเราให้จบก่อนเถอะ” ฟรานติโน่เอ่ยพูดบอกไปพร้อมกับเก็กท่าหล่อใส่พิชชาภาจนพิชชาภามองเขาอย่างเบะปากแบบหมั่นไส้“เคลียร์แน่ค่ะ นี่ก็บอกว่าถ้าส่งงานอาจารย์แล้วจะมารอรับที่สนามบิน ทำไมยังไม่มาก็ไม่รู้” พิชชาภาพูดบอกไปก็แลสายตามองหาน้องสาว เพราะน้องสาวของเธอบอกจะมารอรับ เพราะไม่อยากอยู่บ้านคนเดียว
“เฮ้อ เบื่อพวกข้าวใหม่ปลามันจริงๆ ถ้าเฮียเป็นห่วงน้องพิชเดี๋ยวผมไปส่งน้องพิชเขาก่อนก็ได้ เพราะผมว่างงานมากเลยเฮีย ไม่ได้มีงานเต็มโต๊ะแบบเฮีย” แฟรงก์พูดไปอย่างกวนๆก็มองทั้งสองพูดคุยกันต่อ“มันจำเป็นต้องไปขนาดนั้นเลยเหรอ ก็ได้พี่จะให้พิชไปอเมริกา” ฟรานติโน่พูดไปอย่างไม่สนใจน้องชาย ก่อนจะยอมแพ้ลูกอ้อนของพิชชาภา เพราะแค่เห็นสายตาของเธอเขาก็สยบแทบเท้าของเธอแล้ว“เออโว้ย ยอมง่ายดีจริงพี่กู คนกลัวเมียสองพันสิบแปดชัดๆ” แฟรงก์พูดออกมาเบาๆอย่างงงๆ เมื่อกี้พี่ชายเขายังทำท่าแข็งขืนอยุ่เลย ตอนนี้กลับยอมง่ายๆ“พี่จะไปกับพิชด้วย ไปพรุ่งนี้ใช่ไหม พี่จะให้เมทีหาตั๋วเครื่องบินให้” ฟรานติโน่พูดออกไปจนพิชชาภายิ้มออกมาอย่างดีใจ“ขอบคุณนะคะ พี่ฟรานน่ารักที่สุดเลยค่ะ” พิชชาภาพูดบอกไปก็เอามือบีบแก้มของฟรานติโน่อย่างน่ารัก“อ่าวเฮียไหนบอกมีงานเยอะปลีกไปไม่ได้ไง แล้วงานที่นี่ใครจะทำเล่า” แฟรงก์เอ่ยถามออกไปอย่างงงๆ ปากอ้างว่ามีงานเยอะแต่พอพิชชาภาพูดว่าจะไปอเมริกาเท่านั้นแหละ พี่ชายของเขากลับเปลี่ยนใจทันที แบบนี้มันน่าน้อยใจจริงๆ“มันเรื่องของฉัน แกเองก็ไปเตรียมตัวด้วย เราจะไปอเมริกาพร้อมกัน” ฟรานติโน่เอ่ยบอกไปก
“อดัมพ่อเลี้ยงของอลิสค่ะพี่พิช เขาจะลวนลามพลอย อือๆ พลอยไม่จะทำยังไงดีคะ พลอยไม่กล้าบอกเจกับอลิสด้วย พลอยไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว พลอยอยากกลับบ้าน พี่พิชช่วยพลอยนะคะ อือๆ” พลอยลดาเอ่ยบอกพี่สาวด้วยเสียงสะอื้น เธอพยายามอดทนมานานแล้ว แต่วันนี้อดัมพยายามลวนลามเธอจนเธอทนไม่ได้แล้ว แล้วเธอก็ไม่รู้จะบอกอลิซ่าแม่ของอลิสยังไง เธอกลัวว่าพวกเขาจะไม่เชื่อเธอ“ใจเย็นๆนะพลอย เดี๋ยวพี่จะจัดการเรื่องนี้เองแล้วเราก็พยายามอยู่ห่างๆอดัมไว้อย่าไปใกล้เขา ถ้ามีอะไรก็เรียกให้เจช่วยนะพลอย แล้วก็ล็อคห้องดีๆ เข้าใจไหม เราไม่ต้องเป็นห่วงนะพี่จะไม่ยอมให้เราอยู่ที่นั่นอีกต่อไป” พิชชาภาเอ่ยบอกไปอย่างเป็นห่วงน้องสาว เธอไม่คิดเลยว่าน้องสาวของเธอจะเจอเรื่องแบบนี้ ขออย่าให้น้องสาวเธอโดนไอ้แก่อดัมนั่นทำอะไรเลย พิชชาภาคิดไปอย่างกังวล“ค่ะพี่พิช พลอยรู้นะคะว่าพ่อกับแม่ไม่มีเงินให้พลอยไปพักอยู่ที่อื่นหรอก เพราะที่พลอยมาเรียนที่นี่ได้ก็เพราะเงินของพี่พิช แต่ตอนนี้พลอยยอมกลับไปเรียนที่ไทยก็ได้ค่ะ แต่พลอยขอพี่พิชบอกพ่อกับแม่เรื่องนี้นะคะ พลอยไม่อยากให้พวกท่านเป็นห่วงพลอยค่ะ” พลอยลดาบอกไปอย่างท้อใจ เพราะเธอเจอเรื่องแบบนี้แล้วมัน
“อ่าส์ พิช เจ็บไหม พี่ทำแรงไปหน่อย” ฟรานติโน่เอายถามออกไปก็มองพิชชาภาอย่างสงสาร เพราะวันนี้เขาเผลอเอาเธอแรงไปหน่อย“ไม่ค่ะ เพื่อลูกของเราพิชทนได้” พิชชาภาบอกไปก็ยิ้มละมุมใส่ฟรานติโน่“บล็อก อ่าส์ แดงเชียว” ฟรานติโถอนท่อนเอ็นออกจากร่องสาวก็นั่งยองๆดูร่อร่องสาวของพิชชาภาที่แดงเผือก ก่อนจะเห็นน้ำรักของเขาไหลออกมาจากรูเล็กๆนั่น เขาก็เอื้มมือไปหยิบทิชชู่มาเช็ดคราบน้ำรักของเขาออกไป“เดี๋ยวพิชทำเอง พี่ฟรานจัดการของตัวเองเถอะค่ะ” พิชชาภาเอ่ยบอกไปก็ลุกขึ้นแล้วดึงกระโปรงของเธอลง ก่อนจะมองหากางเกงชั้นในของตัวเองที่วางอยู่ขอบโต๊ะทำงานของฟรานติโน่ เธอก็ลุกขึ้นไปหยิบมาทันที“งั้นไปพร้อมกันนั่นแหละ” ฟรานติโน่บอกไปก็จูงมือพาพิชชาภาไปเข้าห้องน้ำในห้องทำงานของเขาที่อยู่ในห้องทำงานทันทีหลังจากนั้นทั้งสองก็ช่วยกันทำความสะอาดของกันและกันจนเสร็จ ฟรานติโน่ก็มานั่งที่เก้าอี้ตรงโต๊ะทำงาน ส่วนพิชชาภาก็ไปนั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามกับฟรานติโน่แล้วเธอก็เอามือท้าวคางมองฟรานติโน่ทำงานอย่างหลงใหล“คนอะไร ยิ่งดูยิ่งหล่อ ยิ่งดูยิ่งน่าเอา” พิชชาภาพูดไปก็มองฟรานติโน่ไป จนฟรานติโน่ที่กำลังอ่านเอกสารถึงกับเงยหน้ามามองพิชชาภาอ