“ซี้ด...อ่า !” อัสนีเป่าลมออกทางปาก กายแกร่งสั่นยะเยือกเพราะเสียวจัด ร่องสาวอ่อนนุ่มทว่ารัดแน่นและรีดเค้นน้ำออกจากดุ้นเขาจนหมดลำ เสียวสะใจจนอยากจะต่อเวลาเสพสมไปอีกนาน ๆ แต่เจ้าของร่องร่านที่เขาขยับโยกลำเนื้อเข้าออกอยู่ตอนนี้สลบคาลำไปแล้ว แม้อยากจะสนุกต่ออีกสักยก แต่เขาก็คงต้องตัดใจ
อัสนีถอดถอนลำเอ็นออกมาจากรูสวาท เมื่อรูที่เพิ่งถูกเปิดซิงไร้ดุ้นเสียบคา น้ำหล่อลื่น น้ำเสียวสุดยอด และน้ำกามสีขาวที่เขาแตกในใส่ตัวเธอไว้ก็ไหลเยิ้มออกมาผสมปนเปกับเลือดสาวบริสุทธิ์ เปรอะเปื้อนเต็มซอกขาด้านใน
ตาคมกริบมองกลางหว่างขาขาว แล้วเหลือบขึ้นมองดวงหน้าเนียนใสที่ดวงตาปิดสนิท น้ำตาเปียกชุ่มแพขนตางอน อัสนีถอนหายใจแรง นึกหงุดหงิดใจที่เธออ่อนแอเป็นลมง่ายขนาดนี้
แม้อยากจะต่ออีกสักน้ำ แต่เขาก็คงต้องตัดใจ เพราะไม่ชอบเอากับร่างไร้สติ อัสนีจึงรีบจัดการล้วงล้างทำความสะอาดร่างกายให้ปลายฟ้า ก่อนจะอุ้มเธอขึ้นจากลำธารตรงไปยังกระท่อม
ในตอนที่อัสนีวางปลายฟ้าลงบนเสื่อในกระท่อม ก็พอดีกับที่ดวงตะวันตกดินและความมืดเริ่มโรยตัวปกคลุมไปทั่วบริเวณ
เสียงนกร้องนอกหน้าต่างปลุกให้คนหลับยาวตั้งแต่เมื่อคืนให้รู้สึกตัวตื่น ปลายฟ้าค่อย ๆ ลืมตาขึ้น แสงสว่างที่สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างทำให้เธอต้องหยีตา ต่อเมื่อคุ้นเคยกับแสงแล้ว ปลายฟ้าจึงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอีกครั้ง
“อ๊ะ !” ความเจ็บระบมกลางซอกขาและอาการปวดเมื่อยไปทั้งตัวทำให้ปลายฟ้าต้องนิ่วหน้า หญิงสาวนอนคุดคู้กอดตัวเองอยู่ใต้ผ้าห่มผืนบาง เธอนอนอยู่บนเสื่อบาง ๆ และแข็งกระด้าง ไม่สบายตัวเอาเสียเลย หมอนที่หนุนหัวอยู่ก็แข็งเหมือนท่อนไม้ แต่เธอเลือกที่จะนอนนิ่งอยู่ท่าเดิม มีเพียงตาคู่สวยที่ลืมขึ้นมาพร้อมกับหยาดน้ำตาที่ไหลริน
“ตื่นแล้วก็ลุกขึ้นมาทำงาน”
เสียงตวาดของโจรใจทรามดังลั่นกระท่อม ตามมาด้วยเสียงถังน้ำหูหิ้วอะลูมิเนียมถูกโยนลงกระทบพื้นไม้ เสียงของมันดังจนแสบแก้วหู สร้างความตื่นตกใจให้คนที่ขวัญเสียอยู่เป็นทุนเดิมแล้วสะดุ้งรีบลุกขึ้นนั่ง และกระถดก้นถอยหนีไปจนชิดผนังกระท่อม
อัสนียืนจังก้าอยู่หน้าประตู เขากอดอก และมองปลายฟ้าด้วยสายตาเย้ยหยัน ให้นอนตั้งแต่หัวค่ำจนตะวันลอยโด่งเหนือยอดไม้แล้ว ถึงเวลาที่เธอต้องตื่นไปทำงานแล้ว
“ลุกไปทำงาน !”
“ทำงานอะไรคะ” ปลายฟ้ามองคนที่สวมเพียงกางเกงผ้าขายาวตัวเดียวอย่างหวั่นใจ ตัวเธอเองก็มีเพียงผ้าถุงกระโจมอก และไม่ได้ใส่ชุดชั้นในด้วย หญิงสาวนั่งพับเพียบและกอดตัวเองไว้แน่น เธอไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรกับเธออีก เธอกลัวต้องเจ็บตัว กลัวเขาจะกระทำย่ำยีร่างกายของเธออีก
“ซักผ้า ตักน้ำ รดน้ำผัก หุงหาอาหารและทำความสะอาดกระท่อม” อัสนีถอนหายใจแรงใส่คนที่นุ่งผ้าถุงกระโจมอกเพียงแค่ผืนเดียว เขาตัดใจหันหลังให้เรือนกายเย้ายวนชวนน้ำลายสอ เพราะตอนนี้เขาหิวข้าวมากกว่าหิวกาม
พอร่างสูงหันหลังเดินหนีไปจากประตู ปลายฟ้าก็ชะเง้อคอมองตามอย่างระแวง เธอลังเลใจว่าจะเดินตามเขาออกไปดีไหม เพราะกลัวว่าเขาจะทำมิดีมิร้ายกับเธออีก
“จะออกมาดี ๆ หรือจะให้ฉันเข้าไปปี้อีกสักรอบถึงจะออกมาได้” เมื่อขู่เธอแล้วเขาก็หันกลับไปมองประตูไม้ที่เปิดอ้าอยู่ แต่ก็ไร้วี่แววว่าเธอจะออกมา อัสนีจึงแกล้งเดินย่ำเท้าแรง ๆ อยู่กับที่ เสียงฝีเท้ากระทบพื้นไม้กระเทือนไปทั้งกระท่อม เขาลงน้ำหนักย่ำเท้าไม่ทันถึงสามเก้า คนที่ถูกเขาขู่ก็กอดถังน้ำวิ่งหน้าตื่นออกมาหยุดมองเขาที่หน้าบานประตู
“นึกว่าจะแน่” อัสนียิ้มเยาะแล้วเดินผ่านเฉลียงหน้ากระท่อมไปยังบันได เขาเดินลงไปยืนอยู่หน้ากระท่อม แล้วหันกลับมาสั่งเสียงดังลั่น
“ทำกับข้าวให้ฉันกินก่อน แล้วค่อยทำงานอย่างอื่น ครัวอยู่หลังกระท่อม เดินอ้อมไปทางนั้น ห้องส้วมอยู่ข้างล่าง เดินลงบันไดตรงครัวไป”ปลายฟ้ามองไปทางที่เขาชี้นิ้วบอก“รีบ ๆ ทำ ฉันหิว ถ้ามัวชักช้าโอ้เอ้ ฉันจะจับเธอกินแทนข้าว จะกินให้สลบคาลำเหมือนเมื่อวานนี้เลย”อัสนีไม่พูดเปล่า เขาทำท่าว่าจะเดินขึ้นบันไดมาด้วย ปลายฟ้าจึงรีบอุ้มถังน้ำเดินอ้อมระเบียงข้างกระท่อมไปยังด้านหลัง ความรีบร้อนลุก และการเดินเร็วส่งผลให้จุดซ่อนเร้นเจ็บแสบจนน้ำตาแทบไหลพอไปถึงระเบียงหลังกระท่อม ปลายฟ้าจึงวางถังน้ำลง แล้วนั่งลงบนตั่งไม้เตี้ย ๆ เธอสูดลมหายใจลึก ระบายออกช้า ๆ สะกดกลั้นความเจ็บที่แล่นเป็นริ้วอยู่กลางซอกสาวแม้ความเจ็บระบมจะไม่บรรเทาเบาบาง ทว่าพอได้นั่งนิ่งก็พอทนได้อยู่ ปลายฟ้าจึงเริ่มมองสำรวจรอบตัวครัวเตาฟืนเล็ก ๆ ตรงนี้มีเพิงคุ้มแดดคุ้มฝนที่ยื่นออกมาจากหลังคากระท่อม มีอุปกรณ์ทำครัวง่าย ๆ ที่มีสภาพผ่านการใช้งานมาอย่างโชกโชน อย่างหม้อที่มีหูจับสองข้าง หูข้างหนึ่งก็หลุดหายไป สภาพหม้อบุบและบู้บี้จนไม่น่าจะใช้งานได้ ด้ามทัพพีที่วางอยู่ใกล้หม้อก็หักครึ่ง กระทะก็สภาพไม่
“มีผงซักฟอกมั้ยคะ”ปลายฟ้าตะโกนถามแล้วยืนรอคำตอบ แต่คนที่นอนอยู่บนเปลก็ไม่ตอบเธอสักที เขาไม่กระดุกกระดิกตัวเลยด้วยซ้ำ“ผงซักฟอกอยู่ตรงไหนหรือคะ” ปลายฟ้าถามใหม่ และยืนรอคำตอบอยู่ที่เดิม ทว่าเขาก็ไม่ตอบเธอสักที เธอจึงคิดว่า เขาคงนอนหลับปลายฟ้าวางเสื้อผ้ากองไว้ริมเฉลียง เธอลงบันไดอย่างระมัดระวัง แต่ต่อให้ระวังแค่ไหน เธอก็ยังเจ็บจุดซ่อนเร้นอยู่ดีปลายฟ้าสวมรองเท้าแตะที่ขนาดใหญ่กว่าเท้าของเธอ ซึ่งวางอยู่หน้าบันได เมื่อเธอเดินไปใกล้ถึงใต้ร่มไม้คู่ที่เขาผูกเปลนอน ปลายฟ้าก็หยุดยืนอยู่ห่างเขาราวสองเมตร“ปลายจะซักผ้า คุณมีผงซักฟอกมั้ยคะ”ปลายฟ้าคิดว่าเธอพูดเสียงดังพอสมควร แต่คนที่นอนนิ่งอยู่บนเปลก็ยังไม่หือไม่อือ เขาหลับหรือว่าเขาตายไปแล้ว ถ้าเขาตายไปแล้วเธอจะออกจากป่านี้ได้อย่างไร เธอจะมาตายอยู่ในป่าแบบนี้ไม่ได้นะ เธอไม่ยอมปลายฟ้าสูดลมหายใจลึก เพื่อเรียกกำลังใจให้ตัวเองก่อนจะก้าวเข้าไปใกล้เขาอีกนิด“มีผงซักฟอกมั้ยคะ” ปลายฟ้ายังคงใช้คำถามเดิม เพราะเธอไม่รู้ว่าจะเรียกเขาว่าอะไร จะเรียกโจรใจทรามก็กลัวว่า เขายังไม่ตายอย่างที่เธอคิด แล้วพอ
เมื่องานเสร็จหมดทุกอย่าง และคนที่ชอบขู่ยังคงหลับอยู่ ปลายฟ้าจึงเดินขึ้นบันไดไปนั่งพิงผนังกระท่อมข้างประตู เธอคอยมองคนที่หลับอยู่บนเปลตลอดเวลา เพราะกลัวว่าเขาจะเดินขึ้นมาหา แต่พอสายลมเย็นพัดโชยมาเรื่อย ๆ ประกอบกับความเมื่อยล้าที่ติดพันมาตั้งแต่เมื่อวาน จึงทำให้เธอเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว“อืม…” ปลายฟ้าส่ายหน้าไปมาทั้งที่ยังหลับตาอยู่ เพราะรู้สึกคล้ายกับว่ามีอะไรบางอย่างมาถูไถแก้มและปาก แต่ไม่ว่าเธอจะส่ายหน้าหนีอย่างไร ก็ยังรู้สึกได้ถึงการก่อกวนเหมือนเดิม ปลายฟ้าจึงลืมตาขึ้นมอง แต่เพราะมันอยู่ระยะประชิดเกินไปเธอจึงมองเห็นไม่ถนัด ปลายฟ้าจึงขมวดคิ้วมุ่น และหรี่ตามองภาพหัวมนอวบใหญ่สีแดงเข้ม น้ำใส ๆ ซึมออกมาจากรูเล็ก ที่จ่ออยู่ไม่ถึงคืบจากปลายจมูกทำให้ปลายฟ้าเบิกตากว้าง เธอตั้งท่าจะลุกขึ้น แต่กลับโดนกดบ่าไว้ให้นั่งอยู่ตามเดิม“เลียแล้วก็อมมันเข้าไป”คำสั่งชวนสะอิดสะเอียนทำให้ปลายฟ้าเงยหน้ามองเจ้าของลำกายแข็งโด่ หญิงสาวชักสีหน้าและขึงตาดุมองเขา แต่คนที่ออกคำสั่งกับเธอกลับยิ้มร้าย แถมยังขยับบั้นเอวส่งหัวมนทู่มาถูไถแก้มเนียนด้วยพอปลายฟ้าสะบ
“หึ ! นึกว่าจะแน่” อัสนียิ้มเยาะเย้ยอย่างผู้ชนะ เขาเดินไปนั่งรอเธอหาข้าวหาปลามาให้กิน เขามีเวลาอยู่กับเธอตั้งหนึ่งเดือน เขาจะใช้งานเธอเยี่ยงทาส ลงทัณฑ์กามเยี่ยงจำเลยสวาท เอาให้หนักเท่าที่เขาอยากเอา จะใช้เธอทำทุกอย่างตามแต่ใจ จะไม่ปล่อยให้เธอได้อยู่กินอย่างสบายในที่ของเขาแน่นอน “ปลายยังเจ็บอยู่ค่ะ” ปลายฟ้าบอกเสียงสั่น มีความหวาดหวั่นในน้ำเสียง คนที่เพิ่งดึงเรือนกายเย้ายวนเข้ามากอดจึงหัวเราะในลำคอ เธอสวมเพียงผ้าถุงกระโจมอกตามคำสั่งของเขา พอได้แตะต้องได้แนบชิด ลำดุ้นก็แข็งโด่ผงกหัวหงึก ๆ“เจ็บแค่รูหน้า ฉันเอารูหลังก็ได้”คำพูดของอัสนี ทำให้คนที่ตื่นกลัวอยู่แล้วยิ่งตื่นตระหนกขวัญผวาไปกันใหญ่ ปลายฟ้ารีบใช้สองมือดันแผ่นอกกว้างเปล่าเปลือยไว้ เพราะเขาเปลือยท่อนบน น้ำตาที่เอ่อคลอเต็มดวงตาคู่สวยสะท้อนแสงตะเกียงวาววับ ตอนนี้เขากับเธอนอนอยู่บนเสื่อผืนเดียวกันในกระท่อม มีเพียงแสงจากตะเกียงเจ้าพายุที่วางอยู่มุมห้องที่ส่องสว่างให้พอได้มองเห็นหน้าเห็นตากันในยามค่ำคืน“ให้ปลายพักก่อนไม่ได้หรือคะ ถ้าปลายหายเจ็บแล้ว ปลายจะยอมคุณ
“อ๊าย !” ปลายฟ้าเจ็บจนน้ำตาไหลพราก เธอไม่อาจสู้แรงเขาได้ ไม่ว่าจะดิ้นรนขัดขืน หรือผลักไสเขาเท่าใดก็ไม่เป็นผล เขากดเธอไว้ใต้ร่างกายกำยำ แล้วกระหน่ำเอ็นแทงร่องฟิตอย่างบ้าคลั่งแม้เจ็บแสบจนสั่นสะท้าน แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีความเสียววูบวาบปนเปอยู่ด้วย กระทั่งเขาโถมถั่งพาเธอพุ่งทะยานไปยังจุดสุดเสียว ปลายฟ้าจึงยกขาเรียวตวัดรัดเอวสอบไว้ ทั้งยังกอดเกี่ยวเขาเต็มวงแขน เมื่อเขากระเด้าเอ็นอัดร่องถี่ยิบ เธอก็ถึงจุดสุดยอดน้ำแตกไปพร้อมกับเขาอัสนีขยับบั้นเอว โยกลำกายในแอ่งเนื้ออุ่นอ้าวอย่างสบายใจ“คุณไม่รักษาสัญญา” ปลายฟ้าว่าเสียงเจือสะอื้น ร่างกายสั่นสะท้านเพราะยังวูบวาบปลาบเสียวเต็มซอกขาอัสนีหัวเราะในลำคอ เขาก้มจูบแก้มนวลเบา ๆ แล้วเบี่ยงหน้าไปกระซิบชิดใบหูเล็กว่า“ไม่มีสัจจะในหมู่โจรหรอก...ปลายฟ้า”แม้เขาจะตักตวงความสุขจากร่างกายของเธอจนบอบช้ำไปทั้งตัว แต่พอตื่นเช้ามา ปลายฟ้าก็ยังต้องทำงานบ้านงานเรือนเหมือนเดิม ในขณะที่เขานอนรอกินข้าวเช้าอยู่บนเปลอย่างสบายอกสบายใจหลังจากหุงหาอาหาร และหาข้าวหาน้ำให้เขากินเรียบร้อยแล้ว เช้านี้ปลายฟ้า
ปลายฟ้าวิ่งไปจนรู้สึกเหนื่อยเหมือนใจจะขาด หายใจแทบไม่ทัน หัวใจเต้นโครมคราม ขาเริ่มอ่อนล้า จนในที่สุดเธอก็สะดุดเท้าตัวเองล้มลงบนพื้น ปลายฟ้ารีบหันกลับไปมองข้างหลัง เมื่อไม่เห็นใครตามมา เธอก็ลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล เมื่อยล้าไปทั้งขา เจ็บไปทั้งฝ่าเท้า ก้มลงมองที่เท้าตัวเอง น้ำตาก็ไหลพราก บาดแผลจากกรวดหินและหนามที่ทิ่มแทงฝ่าเท้า ทำให้เลือดออกเต็มทั้งสองเท้า เธอวิ่งไม่ไหวแล้ว เจ็บระบมทั้งฝ่าเท้าปลายฟ้าหันไปมองข้างหลังอีกครั้ง น้ำตาเอ่อคลอเต็มหน่วย ทั้งไหลรินผ่านแก้มเนียนผสมปนเปกับเหงื่อบนใบหน้า ใจดวงน้อยหวาดหวั่นสั่นไหว แต่ในเมื่อเธอตัดสินใจออกมาจากตรงนั้นแล้ว เธอจะไม่ยอมกลับไปอีกเด็ดขาดปลายฟ้าหันมองรอบตัวเพื่อหาทางหนีทีไล่ เมื่อไม่อาจฝืนกำลังวิ่งต่อไปได้ ก็ต้องหลบซ่อนเพื่อไม่ให้เขาหาเจอ ในเมื่อเขาวิ่งตามมาบนบก เธอก็ต้องลงไปซ่อนในน้ำ เมื่อเขาผ่านไปแล้ว เธอค่อยวิ่งหนีไปทางอื่นปลายฟ้าเดินกะเผลกไปยังริมลำธาร หญิงสาวมองไปทั่วบริเวณ ก่อนค่อย ๆ เดินลงไปในลำธาร เพียงแค่สองเท้าย่ำลงบนน้ำใบหน้าสวยก็บิดเบี้ยว แสบไปทั้งเท้า เจ็บจนน้ำตาไหลนอง แต่ปลายฟ้าก็ฝืนเดินไปจนถึงซอกเล็ก ๆ
คนกำลังนั่งหั่นแตงกวาอยู่บนพื้นเงยหน้ามองคนถามแวบหนึ่ง ก่อนก้มทำงานตรงหน้าต่ออย่างเก้กัง“ตาบอดหรือไง”คนที่ถามดี ๆ เผลอมองค้อนคนปากไม่ดีเหมือนนิสัย“ให้ปลายช่วยไหมคะ”“ใส่บาตรเขาไม่ถามพระกันหรอก จะช่วยก็นั่งลงทำสิ”ปลายฟ้าทำปากยื่นใส่คนปากดี ที่ต้องถามก็เพราะเขาไม่ใช่พระไง เขาเป็นมาร“จะทำผัดแตงกวาใส่ไข่หรือคะ” ปลายฟ้าเดาเอาจากข้าวของที่กระจัดกระจายอยู่รอบตัวเขา“อือ...”“ต้องหั่นแตงกวาชิ้นเล็กกว่านั้นนะคะ”อัสนีชะงักมือที่กำลังหั่นแตงกวา เขาปักปลายมีดบางเล่มใหญ่ลงกลางเขียงเสียงดังปั้ก !“พูดมาก ! หายแล้วใช่มั้ยถึงได้พูดมากขนาดนี้ หายแล้วก็มาทำกับข้าว ฉันจะไปนอนรอกิน”พ่อครัวขี้หงุดหงิดลุกพรวดพราด แถมตอนเดินออกจากครัว เขาเดินชนคนตัวเล็กจนเซ และทั้งที่ตัวเองเดินชนอื่นก่อน แต่เขาไม่คิดจะขอโทษ แต่กลับโยนความผิดให้ปลายฟ้าซะอย่างนั้น“ยืนไม่ระวัง ! เกะกะ !”คนตัวสูงกำยำกระทืบฝ่าเท้าเดินไปทางหน้ากระท่อม เดินผ่านเฉลียงลงบันไดตรงยังใต้ร่มไม้คู่ที่ผูกเปลญวนไว้ และเขาก็ทำตามอย่างที่พูดคือ นอนรอกินข้าว
“ถ้าคุณย่ำยีปลายจนเบื่อแล้ว คุณจะปล่อยปลายไปมั้ย หรือว่าคุณจะฆ่าปลายทิ้ง” เธอจะได้ทำใจถูก จะได้รู้ว่า ยังมีหวังที่จะได้ใช้ชีวิตในวันที่ดีกว่านี้ไหม หรือว่าสักวัน เธอต้องตายอยู่กลางป่าโดยที่ไม่มีใครรู้ว่าเธอตายไปแล้ว“ฉันไม่ใจร้ายขนาดนั้นหรอกปลายฟ้า ฉันเอาเธอเบื่อแล้ว ฉันจะปล่อยเธอไปเอง”“ถ้าปลายไม่ขัดขืน คุณจะไม่รุนแรงใช่มั้ยคะ”คิ้วเข้มเลิกสูง เขาหรี่ตามองดวงหน้าสวยทว่าแววตาโศก ก่อนพยักหน้าช้า ๆ“อีกนานมั้ยคะ กว่าคุณจะปล่อยปลายไป”อัสนีสูดลมหายใจลึก“หนึ่งเดือน ครบหนึ่งเดือนแล้วฉันจะปล่อยเธอไป ในหนึ่งเดือนนี้ ถ้าเธอทำตัวดี ๆ ยอมอ้าขาให้ฉันเอาง่าย ๆ เธอก็จะไม่เจ็บตัว”ปลายฟ้าจ้องหน้าคนที่เป็นเสมือนเจ้าชีวิตของเธอ เพราะชีวิตของเธออยู่ในกำมือของเขา หากเขาจะฆ่าเธอให้ตายตอนนี้ก็คงไม่มีใครรู้“ปลายเชื่อคุณได้ใช่มั้ยคะ”“ไม่เชื่อฉันแล้วจะเชื่อหมาตัวไหน ที่นี่มีแค่ฉันกับเธอ”“ก็คุณเคยบอกว่า ไม่มีสัจจะในหมู่โจร”คนเคยผิดคำพูดเพราะหื่นขึ้นหน้าถอนหายใจพรืดใหญ่“เรื่องนั้นกับเรื่องนี้มันคนละอย่างกัน อย่าเหมารวม
คนเป็นแม่กดอารมณ์โกรธไว้ เหมือนที่เคยกดไว้หลายครั้งแล้ว เพราะลูกแสบทั้งสองทำตัวโตเกินวัย และมักมีเรื่องกับเพื่อนรุ่นพี่บ่อย ๆ นี่ถ้าพ่อไม่ใช่คนมีอิทธิพลในจังหวัด ลูกของเธอคงถูกไล่ออกจากโรงเรียนตั้งแต่อนุบาลแล้ว เพราะมีเรื่องกับนักเรียนคนอื่นประจำปลายฟ้าขยับตัวหันไปมองลูกชายทั้งสองที่นั่งหน้าจ๋อยอยู่ ตาดุของคนเป็นแม่ทำให้เจ้าตัวแสบพากันก้มหน้าหลบ“แม่ดีใจที่อิชย์กับอาชว์รักและคอยช่วยเหลือกัน แต่ลูกก็ไม่ควรไปชกต่อยกับคนอื่น พอชกกัน เขาเจ็บ ลูกก็เจ็บ มีแต่คนเจ็บตัว มันไม่ดีเลยนะคะ มีปัญหาหรือไม่พอใจเรื่องอะไรก็ควรพูดคุยกันดี ๆ ถ้าพูดคุยกันแล้วยังตกลงกันไม่ได้ ลูกก็ควรบอกคุณครู หรือบอกพ่อกับแม่ก็ได้ ไม่ควรไปนัดตีนัดต่อยกัน”ปลายฟ้าถอนหายใจอีกครั้ง มองลูก ๆ ที่เอาแต่นั่งเงียบไม่พูดอะไรอย่างหนักใจ เพราะที่เห็นนั่งเงียบนี่ไม่รู้ว่าเข้าใจและพร้อมจะทำตาม หรือเงียบฟังพอให้เธอไม่บ่นต่อก็ไม่รู้“เข้าใจที่แม่พูดมั้ยคะ”อิชย์เงยหน้าขึ้นมามองหน้าแม่ เขาพยักหน้า“เข้าใจครับ”“อาชว์ล่ะ เข้าใจมั้ยคะ”“เข้าใจครับ” เจ้าหนูพยักหน้า“เอาล่ะ.
พอปลายฟ้าวางปืนลง ถอดที่ครอบหูออก เขาก็เดินเข้าไปหา กอดเธอจากข้างหลัง ก้มหอมแก้มนวลฟอดใหญ่“คุณอัส !” ปลายฟ้าหมุนตัวไปมองคนที่เข้ามาสวมกอดเธอโดยไม่ให้สุ้มให้เสียงด้วยความตกใจ“ทำไมไม่อยู่คอยผัวที่บ้าน”“ก็คุณอัสบอกว่าจะกลับค่ำ นี่เพิ่งบ่ายโมงเองนะคะ”“งานเสร็จแล้ว เลยรีบกลับมาหาเมีย คิดถึง อยากเอา” เขาพูดพลางขยับบั้นเอว เสียดสีเป้าตุงๆ กับหน้าท้องเมียปลายฟ้าถอนหายใจแรง ทุบอกกว้างไปหนึ่งที“ปลายต้องไปรับลูกที่โรงเรียนค่ะ”“อีกตั้งหลายชั่วโมง ขอเอาหน่อยน่า ไม่สงสารฉันบ้างเหรอ ไม่ได้เอามาหลายวันแล้วนะ”“แค่สองวันเองนะคะ”“สองวันสำหรับฉันก็ถือว่านาน”ปลายฟ้าส่ายหน้าระอาใจ เขารุกประชิดตัวขนาดนี้ แถมลูกก็ไปโรงเรียนด้วย ไม่มีใครกวนเขาได้ เธอไม่รอดแน่ ๆ“คุณอัสห้ามทำนานนะคะ”คำอนุญาตกลาย ๆ ของภรรยาทำให้คนอยากเอาเมียใจจะขาดยิ้มกว้าง“รู้แล้วน่า เอาเสร็จแล้ว เดี๋ยวฉันขับรถพาไปรับลูกเอง จะพาเจ้าสองแสบไปกินข้าวร้านที่พวกเขาชอบด้วย เรารีบกลับไปเอากันที่บ้านเถอะ”เมื่อก่อนปลายฟ้าอาจขัดหูกับคำพูดห่าม
อัสนีกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น เขากดปากจูบกลางกระหม่อมสาว เขารู้ว่าที่ผ่านมาปลายฟ้าเจอเรื่องหนักหนามามากแค่ไหน เขาเองก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอต้องเจ็บต้องเสียใจ ดีแค่ไหนแล้วที่เธอยอมให้เขาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเธอ ยอมเปิดโอกาสให้เขาแก้ตัว นับจากนี้ไป เขาจะใช้ทั้งชีวิตที่เหลืออยู่ไถ่โทษที่เคยทำไว้ เขาจะไม่มีวันทำให้เธอเสียใจอีกเด็ดขาด และใครที่คิดจะทำร้ายหรือทำให้เมียเขาเสียใจอีก เขาจะไม่ปล่อยให้มันลอยนวลแน่นอน…“ทำไมถึงต้องใส่ชุดนี้ด้วย ลูกสองแล้วนะ เธอควรแต่งตัวให้มันมิดชิดเรียบร้อย” คนหวงเมียบ่นไม่เลิก บ่นตั้งแต่เห็นเมียสวมชุด กระทั่งพาเมียขึ้นรถตู้มาถึงโรงแรมก็ยังบ่นอยู่ปลายฟ้าในวัยสามสิบปี เป็นคุณแม่ลูกสองที่สวยสะคราญ ผิวพรรณเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล ใบหน้าสวย รอยยิ้มหวาน กิริยานุ่มนวลเรียบร้อยอ่อนโยน ทำให้เธอเป็นแม่เลี้ยงสาวที่น่าพิศน่ามองและทรงเสน่ห์ และคนที่หลงเสน่ห์เธอจนหัวปักหัวปำก็คือสามีของเธอนั่นเองคนถูกสามีทักท้วงชุดขมวดคิ้วเล็กน้อย ทั้งถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย คืนนี้เธอสวมชุดราตรีสีชมพูนู้ด คอปาด แขนสั้น ชุดที่เธอสวมรัดทร
ปลายฟ้าถอนหายใจบางเบา เธอแอ่นเต้านมยกอกขึ้น ยื่นมือไปประสานกันตรงท้ายทอยสามี แล้วออกแรงโน้มลงมาหา พออัสนีก้มลงมาอ้าอมหัวนมข้างซ้ายของเธอ แล้วดูดจนน้ำนมพุ่งเข้าปากเขา ปลายฟ้าก็เงยหน้า หลับตาพริ้ม ปากอิ่มเผยอครางเสียงหวาน“อ๊า ! คุณอัสขา...”ปลายฟ้าตอบแทนคนเพิ่งดีของเธอด้วยการปรนเปรอเขาด้วยบทรักบทสวาทสุดฝีมือ ไม่ว่าเขาจะเรียกร้องให้ทำอะไร เธอก็ตอบสนองด้วยความเต็มใจ“ปลายจ๋า ยัดมันเข้าไป แล้วขย่มแรง ๆ เลยทูนหัว”อัสนีบีบขยำแก้มก้นสาวเต็มสองมือ รอคอยเมียกดบั้นท้ายลงมาดูดเอาดุ้นที่แข็งจนแทบระเบิดเข้าไปในร่องสาวเปียกแฉะปลายฟ้ายิ้มหวานยั่วยวน เธอกดหัวเข่าลงข้างสะโพกสอบ มือข้างหนึ่งจับบ่าบึกบึนไว้ มืออีกข้างล้วงลงข้างล่าง จับหัวถอกอวบยัดใส่ร่องเนื้อชุ่มฉ่ำอัสนีนั่งพิงหลังกับพนักโซฟา ในตอนที่หัวลำเอ็นมุดเข้าไปในรูอุ่นอ้าว เขาหลับตา สูดลมหายใจลึก“ผัวขา...” เขาชอบให้เธอเรียกแบบนี้ตอนเอากัน แต่ไม่บ่อยนักที่เธอจะยอมเรียก เพราะกระดากปาก แต่ตอนนี้ปลายฟ้ายอมเรียก โดยที่เขาไม่ต้องสั่ง ไม่ต้องร้องขออัสนีลืมตาขึ้นมองสบตาคู่สวย“ขย่มผัว
ปลายฟ้าแนบแก้มกับอกกว้าง ฟังเสียงหัวใจของเขาเต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไม่พูดอะไรระหว่างเธอกับเขามันเริ่มต้นไม่ดีเท่าไร ปลายฟ้าไม่คิดเลยด้วยซ้ำว่าสุดท้ายแล้วเธอกับเขาจะลงเอยแบบนี้ ตอนนี้เขาเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เปลี่ยนจากโจรใจทรามมาเป็นคุณพ่อใจดี เป็นสามีที่แสนน่ารัก“ปลายนึกว่าคุณอัสต้องการแค่ลูก”“อยากได้ทั้งลูกทั้งแม่นั่นแหละ”ปลายฟ้าเงยมองหน้าเขาอีกครั้ง อัสนีก้มมองสบตาเธอ เขายิ้ม ตาเป็นประกาย“จริง ๆ แล้วฉันกะว่าจะฟันแล้วทิ้ง ฉันอยากเอาคืนพี่ชายเธอ ฉันทำไปเพื่อความสะใจแค่นั้นเอง แต่เธอทำให้ฉันผิดแผนผิดความตั้งใจไปหมด”ปลายฟ้าหน้าบึ้งลงเรื่อย ๆ ดวงตาคู่สวยก็ดุขึ้นทีละนิดอัสนียิ้มแหย เขารีบพูดต่อว่า“ปลาย...ฉันไม่รู้ว่าไอ้ความรู้สึกอยากเก็บเธอไว้กับตัวตลอดไปมันเกิดขึ้นเมื่อไร แต่พอฉันปล่อยเธอไป แล้วต่อมาเธอก็หายไปจากสายตา ฉันรีบให้คนออกตามหา ใครจะไปรู้ว่า เธอหนีไปอยู่กับน้าเบญ ไม่งั้น ฉันไม่ต้องเสียเวลาหาเป็นเดือนสองเดือนหรอก”“ทำไมถึงอยากให้ปลายอยู่ใกล้ ๆ คะ ในเมื่อคุณอัสแค่อยากแก้แค้น อยากท
“คุณอัส...พอแล้ว อื๊อ !” ปลายฟ้าดันใบหน้าที่ซุกอยู่กลางหว่างขาของตัวเองออก แต่คนที่กำลังดื่มด่ำกับรสชาติหวานล้ำก็ยังดื้อดึง อัสนีกดปากจูบกลางกลีบเนื้อนุ่มจนเกิดเสียงดัง แถมยังสูดดมความหอมหวนอีกหนึ่งฟอดใหญ่ ก่อนจะเลื่อนขึ้นมาจูบหน้าท้องนูนใหญ่ แล้วจึงเงยหน้าขึ้นยิ้มพราวให้กับคนที่ถูกเขาลงลิ้นจนแตกซ่านคาปากไปหลายทีปลายฟ้าทุบบ่ากว้างด้วยแรงอันน้อยนิด เธอมองค้อนคนหื่น แล้วปั้นหน้าบึ้งตึงใส่เขา“ปลายไม่น่าเชื่อคุณอัสเลย”ปลายฟ้าบ่นกระปอดกระแปด พลางขยับตัวอุ้ยอ้าย มือบางจับชายกระโปรงชุดคลุมท้องเพื่อจะดึงลงปิดส่วนล่าง แต่อัสนีทำตัวเป็นคนดีด้วยการดึงเป้ากางเกงในมาปิดสัดส่วนที่น่าหลงใหล และช่วยจัดชายกระโปรงให้เธอ พร้อมกับจับเท้าอวบสองข้างของคุณแม่ท้องแก่วางลงบนพื้นห้องนอน“ทำไมจะเชื่อไม่ได้ ฉันไม่ได้ผิดคำสัญญาสักหน่อย”ปลายฟ้าถอนหายใจแรง เธอยอมให้เขาโอบประคองลุกขึ้นยืน“ปลายไม่คุยกับคุณอัสแล้วค่ะ”อัสนีหัวเราะในลำคอ เอ็นดูคนจับไม่ได้ไล่ไม่ทันเขาสักที“เธอไม่คุยก็ช่าง ฉันคุยกับเจ้าแสบก็ได้” อัสนีคุกเข่าลงตรงหน้าท้องกลมโตที่คุณหมอนัดคลอด
เขาผละออกมา ยิ้มเจ้าเล่ห์“หิวฉันหรือว่าหิวข้าว”“หิวข้าวค่ะ”อัสนีถอนหายใจ ทำหน้าแสนเสียดาย“ยอมให้ครั้งหนึ่งก็แล้วกัน”ปลายฟ้าอมยิ้ม เธอยื่นมือข้างหนึ่งไปแตะแก้มเขา“ทำไมวันนี้น่ารักจังเลยคะ” ปกติเขาเคยยอมเธอที่ไหน เอาแต่ใจเป็นที่หนึ่ง“วันนี้เรามีธุระสำคัญต้องจัดการ เอาไว้คืนนี้ฉันค่อยเอาคืนเธอก็ยังไม่สาย”ใบหน้าที่ยิ้มแย้มเมื่อครู่มุ่ยลงทันที“เคยคิดจะยอมให้ปลายบ้างสักครั้งมั้ยคะ”อัสนีจับมือนุ่มที่แตะอยู่แก้มตัวเองมากุมไว้ เขามองลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวย“อยากให้ฉันยอม เธอก็ต้องยอมฉันก่อน”...“สวัสดีค่ะ ป้าเบญ ลุงโชค”ปลายฟ้ายกมือไหว้ทักทายผู้สูงวัยทั้งสองอย่างนอบน้อม แม้จะแปลกใจอยู่บ้างที่เห็นพวกท่านนั่งอยู่ในห้องรับแขกของบ้าน“หนูปลาย เป็นไงบ้างลูก ขวัญเอ๊ย ! ขวัญมานะจ๊ะ” แม่เลี้ยงเบญญาลุกขึ้นไปประคองปลายฟ้ามานั่งลงที่โซฟาตัวเดียวกัน ลูบหัวลูบหลังด้วยความเป็นห่วงเป็นใย“ปลายปลอดภัยดีค่ะ ขอบคุณป้าเบญที่เป็นห่วงนะคะ”“ป้าเป้ออ
นางมณีโอบกอดลูกเต็มอก ปลอบใจ เรียกขวัญ“ขวัญเอ๊ย ! ขวัญมานะลูก ไม่ต้องกลัว เขากลับไปแล้ว เขาไม่มาแล้วล่ะ ต่อแต่นี้ไปก็อยู่ใครอยู่มัน ไม่ต้องไปข้องเกี่ยวกันอีก”ปลายฟ้าขยับตัวเล็กน้อย มือบางวางลงบนท้องแล้วลูบเบา ๆ“ตื่นสายนะเรา”ปลายฟ้าลืมตา หันไปมองเจ้าของเสียงที่นอนเอามือเท้าแก้มอยู่ข้างหลังเธอ“กี่โมงแล้วคะ”“สิบโมงแล้ว”“สายขนาดนี้แล้วหรือคะ”ปลายฟ้าว่าพลางขยับตัวจะลุกขึ้น อัสนีจึงช่วยประคองคุณแม่ท้องแก่ลุกขึ้นนั่ง“ถ้าเธอจะนอนต่อก็ได้นะ”“ไม่นอนแล้วค่ะ ปลายหิว”“จะอาบน้ำก่อนลงไปกินข้าว หรือว่าจะให้ป้าอิ่มเอากับข้าวขึ้นมาให้กินบนห้องตอนนี้เลย”“อาบน้ำก่อนได้มั้ยคะ”“ก็ดี เดี๋ยวฉันอาบให้”ปลายฟ้ามองหน้าเขาอย่างไม่ค่อยไว้ใจ“อาบน้ำเฉย ๆ แหละน่า ฉันไม่ทำอะไรหรอก”แม้จะไม่ค่อยเชื่อคำพูดเขาเท่าไร แต่ปลายฟ้าก็ยอมให้เขาช่วยถอดชุดนอน และคนหน้าหนาก็ถอดเสื้อผ้าตัวเองตามเธอด้วย ก่อนจะช่วยโอบประคองเธอเข้าห้องน้ำไม่น่าเชื่อว่าอัสนีจะทำตามอย่างท
หลังจากพาปลายฟ้ากลับมาถึงบ้าน อัสนีอาบน้ำให้เธอและบังคับให้เธอกินข้าว แม้กินได้เพียงเล็กน้อยก็ยังดีกว่าไม่กิน ก่อนจะพาเธอเข้าห้อง พามานอนบนเตียง แล้วกกกอดเธอไว้แนบกายไม่ห่าง“ฉันไม่ไปไหนหรอก หลับซะ” อัสนีจูบขมับหอมกรุ่น เลื่อนฝ่ามือไปลูบหน้าท้องนูนใหญ่เบา ๆปลายฟ้าหลับตาลงอย่างว่าง่าย เธออบอุ่นใจ และรู้สึกปลอดภัยในอ้อมกอดของเขา ที่ตรงนี้จะไม่มีใครทำร้ายเธอได้อัสนีจูบขมับ หอมแก้มคนในอ้อมกอดอยู่หลายครั้ง กระทั่งเธอหลับไปในอ้อมกอดของเขา หัวใจแกร่งสั่นไหวเมื่อคิดไปว่า หากเขาไปช่วยเธอไม่ทันจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้างถือว่าโชคดีที่ลูกน้องของเขาปฏิบัติตามคำสั่งเขาอย่างเคร่งครัด พวกเขาติดตามปลายฟ้าอย่างใกล้ชิด และไม่ยอมให้เธอคลาดสายตาอย่างที่เขาสั่ง ในตอนที่ปองภพพาปลายฟ้าขึ้นรถตู้ออกจากโรงพยาบาล ลูกน้องของเขาจึงขับรถตามและโทรบอกเขาทันที จากที่จะกลับบ้านไปหาเธอ เขาจึงรีบตามมาที่รีสอร์ตของเสี่ยโบ้ที่อยู่นอกเมือง และสั่งคนของเขากลุ่มใหญ่ตามมาช่วยเธอไว้ได้ทันอัสนีกระชับวงแขนกอดเธอแนบอก จูบแก้มนวลเบา ๆ หวงแหนและห่วงใยจนไม่คิดว่าจะปล่อยให้เธออยู่ไกลสายตาได้ เขาจ