แชร์

บทที่ 5 (2/2) : เจ้าต้องรอดนะ (2)

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-23 11:59:46

เมื่อกลับเข้ามาในเรือนของตัวเอง เมิ่งเจียวซินก็นำสมุนไพรที่เก็บมาได้ไปทำความสะอาด ก่อนจะนำออกไปตาก จากนั้นนางจึงเดินเข้าไปจัดเตรียมสมุนไพรส่วนที่เหลือพร้อมกับอุปกรณ์สำหรับการปรุงยาสูตรแรกเอาไว้ หากเย็นนี้นางได้รับสมุนไพรอีกสองตัวมาจากหมิงลู่ พรุ่งนี้เช้านางก็จะสามารถเริ่มปรุงยาสูตรแรกได้เลย

โดยยาตัวแรกที่นางคิดจะปรุงก็คือ ยาเม็ดที่พระเอกของนิยายเรื่องนี้ต้องกินทุกวัน เพื่อลดอาการเจ็บปวดจากยาพิษร้ายแรงในร่างกาย ซึ่งแน่นอนว่ายาที่นางปรุงย่อมต้องได้ผลดีกว่ายาที่หลี่อวิ้นกุยมีอยู่

แม้เนื้อหาในนิยายจะไม่ได้บอกว่า หลี่อวิ้นกุยถูกวางยาพิษชนิดไหน แต่ด้วยบทบรรยายที่เจ้าตัวได้กล่าวเย้ยหยันกับโชคชะตาชีวิตของตัวเองที่ว่า ‘เมื่อถึงเวลาที่พิษในร่างกายของข้าสำแดงอาการ แม้ข้าจะได้กินยา...แต่มันก็ทำได้เพียงแค่ช่วยลดความเหน็บหนาวที่ข้าจะต้องเผชิญในทุกค่ำคืนลงเท่านั้น เพราะตัวข้าไม่อาจเดินลมปราณหรือใช้พลังได้ดั่งใจต้องการอยู่ดี’ หากนำเอาประโยคนี้ไปรวมเข้ากับบทบรรยายที่ว่า ‘หลี่อวิ้นกุยไม่อาจถอนพิษออกจากร่างกายได้ทันการ’ เมิ่งเจียวซินก็มั่นใจไปถึงแปดในสิบส่วนเลยว่า หลี่อวิ้นกุยถูกวางยาพิษ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุไปเป็นอาจารย์ตัวประกอบเพื่อสอนรัก...พระเอก   บทที่ 6 (1/2) : เจ้าลูกกระรอก (1)

    ‘ที่นี่ที่ไหน?’หลี่อวิ้นกุยลืมตาขึ้นมาก็พบตนเองกำลังนอนอยู่ในห้องไม้ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ห้องหนึ่ง เขาจึงคิดที่จะลุก แต่เขาก็ไม่อาจจะขยับแขนและขาของตัวเองได้ หรือแม้แต่ปากของเขายามนี้ก็ยังถูกมัดเอาไว้ด้วยผ้า ‘นี่มัน...หรือว่าข้าจะถูกคนของหลี่อวิ้นมู่จับตัวเอาไว้ได้ ไม่สิ! หากเป็นคนขององค์ชายใหญ่ยามนี้ข้าน่าจะถูกสังหารไปแล้ว เช่นนั้นข้าถูกคนของผู้ใดจับตัวเอามาขังไว้ในสภาพนี้กัน!’ หลี่อวิ้นกุยยามนี้แม้แต่กำลังที่จะใช้รวบรวมลมปราณก็ยังไม่มีเหลือ นับประสาอะไรกับการหลบหนีออกจากที่นี่ หากเป็นตัวเขายามปกติ มีหรือที่เชือกเพียงไม่กี่เส้นนี้จะผูกมัดแขนและขาของเขาเอาไว้ได้ แต่จะผลักเอาความอัปยศที่เขาได้รับมาทั้งหมดในตอนนี้ไปให้กับศัตรูก็คงจะไม่ได้ เพราะส่วนหนึ่งมันก็เกิดมาจากความประมาท และความโง่เขลาของตัวเขาเองด้วย.... เมื่อห้าวันก่อน หลี่อวิ้นกุยได้รับคำสั่งจากราชาปีศาจให้ออกเดินทางไปตรวจสอบความผิดปกติตามแนวเขตแดน โดยมีองค์หญิงห้าหลี่อวิ้นเหมยกับมารดาของนางเซียวชิงเถาหรือท่านน้าของเขา ขอเข้าร่วมเดินทางมากับเขาในครั้งนี้ด้วย โดยในยามนี้ท่านน้าเซียวชิงเถาได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-23
  • ทะลุไปเป็นอาจารย์ตัวประกอบเพื่อสอนรัก...พระเอก   บทที่ 6 (2/2) : เจ้าลูกกระรอก (2)

    ‘เจ้าลูกกระรอก...’หลี่อวิ้นกุยทวนสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่ในใจ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่า ตนเองใช้วิชาร่างแปลงเพื่อซ่อนตัว ซึ่งร่างที่เขาเลือกใช้ก็คือ...กระรอก! หลี่อวิ้นกุยนึกไปถึงวันที่จิ่นโซวสอนวิชาร่างแปลงให้กับเขา... ยามนั้นหลี่อวิ้นกุยในวัยเจ็ดหนาวเพิ่งก้าวเท้าเข้าไปอยู่ในวังราชาปีศาจได้ไม่ถึงเดือน จึงเป็นช่วงที่เขาทั้งอ่อนแอ ไร้กำลัง แล้วยังไร้ซึ่งผู้เป็นมารดาที่คอยปกป้องดูแลเหมือนกับบุตรคนอื่น ๆ ของราชาปีศาจ ถึงแม้ในตอนนั้นเขาจะมีผู้เป็นน้าเดินทางมาพร้อมกับเขาด้วย แต่อีกฝ่ายก็ตามมาเพียงเพราะต้องการที่จะปีนเตียงของราชาปีศาจเท่านั้น แต่ก็ยังดีที่ผู้เป็นบิดาได้ส่งลูกน้องฝีมือดีจำนวนหนึ่งมาเป็นองครักษ์ให้กับหลี่อวิ้นกุย เพราะถึงแม้ว่าบิดาของเขา ซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึงราชาปีศาจได้ประกาศยอมรับว่า เขาคือบุตรชายของเจ้าตัว พร้อมกับแต่งตั้งให้หลี่อวิ้นกุยขึ้นเป็นพระโอรสองค์ที่สามต่อหน้าทุกคนในท้องพระโรง แต่คนอื่น ๆ ในเผ่ามารและเผ่าปีศาจก็หาได้ยอมรับในตัวหลี่อวิ้นกุยด้วยไม่ หลังจากวันที่หลี่อวิ้นกุยได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นองค์ชายสาม เขาก็เริ่มเผชิญหน้ากับการถูกลอบฆ่า ทั้งจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-23
  • ทะลุไปเป็นอาจารย์ตัวประกอบเพื่อสอนรัก...พระเอก   บทที่ 7 (1/2) : ตัดสินใจ (1)

    เมิ่งเจียวซินหลังจากจัดการกับบาดแผลเสร็จ นางจึงแกะเศษผ้าที่มัดปากเจ้าลูกกระรอกออก จากนั้นนางจึงใช้มือข้างซ้ายของนางอ้อมเข้าไปประคองระหว่างช่วงคอและศีรษะของเจ้าตัวเล็ก ก่อนจะยกขึ้นมาเล็กน้อย หลังจากนั้นเมิ่งเจียวซินจึงเริ่มใช้งานนิ้วมือข้างซ้ายของนางต่อ โดยเริ่มจากการวางนิ้วนางกับนิ้วก้อยลงตรงช่วงคอด้านหน้าเพื่อช่วยในการประคอง จากนั้นนางจึงวางนิ้วโป้งลงตรงตำแหน่งกรามด้านซ้าย แล้วตามด้วยนิ้วชี้กับนิ้วกลางวางตรงตำแหน่งกรามด้านขวา ก่อนจะออกแรงบีบนิ้วทั้งสามที่วางตรงตำแหน่งกรามทั้งสองข้างเบา ๆ ซึ่งในขณะนั้นมือข้างขวาของเมิ่งเจียวซินก็ได้ยกช้อนใบเล็กเตรียมจ่อเข้าที่ปากของลูกกระรอกแล้ว พอปากเล็ก ๆ นั้นอ้าออก นางก็จัดการป้อนข้าวต้มผสมเหอเถา (วอลนัต) ที่บดจนละเอียดใส่ปากของเจ้าตัวเล็กทันที ‘เหตุใดข้าถึงรู้สึกว่า...สายตาของลูกกระรอกน้อยตัวนี้ มันช่างดูดุร้ายนักนะ’ เมิ่งเจียวซินคิดในใจ หลังจากสังเกตเห็นสายตาที่ลูกกระรอกใช้มองมาที่นาง แต่พอนางมาลองคิดดูอีกที เจ้าลูกกระรอกตัวนี้เป็นกระรอกป่าอย่างแท้จริง หาใช่กระรอกตามร้านขายสัตว์เลี้ยงที่นางเคยเห็นมา ดังนั้นการที่อยู่ ๆ มัน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-23
  • ทะลุไปเป็นอาจารย์ตัวประกอบเพื่อสอนรัก...พระเอก   บทที่ 7 (2/2) : ตัดสินใจ (2)

    “เจ้าลูกกระรอก เจ้าฟังอาการที่ข้าจะพูดต่อจากนี้ให้ดีนะ หากอาการไหนตรงกับที่เจ้ากำลังเผชิญอยู่ก็ให้เจ้าหลับตาตอบกลับมาหนึ่งครั้ง แต่ถ้าหากอาการไหนไม่ตรงกับที่เจ้ากำลังเผชิญอยู่ก็ให้เจ้าหลับตาตอบกลับข้ามาสองครั้ง” พูดจบ เมิ่งเจียวซินก็เริ่มกล่าวคำถามออกไปทีละข้อพร้อมกับหยุด เพื่อมองคำตอบจากดวงตากลมโตของลูกกระรอกไปด้วย “ยามที่ยาพิษเริ่มสำแดงอาการ เจ้าจะรู้สึกหนาวเย็นราวกับว่ากำลังถูกจับแช่ลงไปในน้ำที่เย็นจัดเลยใช่หรือไม่? ... จากนั้นเจ้าก็จะเริ่มขยับร่างกายของตนเองไม่ได้ ราวกับว่าเนื้อตัวของเจ้ามันกำลังแข็งค้างเลยใช่หรือไม่? ... แล้วยามนี้เจ้าไม่อาจเดินลมปราณหรือใช้พลังได้ดั่งใจต้องการใช่หรือไม่? ...” เมื่อได้รับคำตอบจากเจ้าตัวเล็ก เมิ่งเจียวซินก็มั่นใจไปถึงแปดในสิบส่วนเลยว่า ยาพิษในร่างกายของลูกกระรอกคือ ยาพิษค่ำคืนเหมันต์ ซึ่งก็เป็นยาพิษตัวเดียวกับที่พระเอกของนิยายเรื่องนี้น่าจะกำลังเผชิญกับมันอยู่เช่นกัน ยามนี้เมิ่งเจียวซินจึงรู้สึกเป็นกังวลอยู่ไม่น้อยเลย เพราะยาพิษชนิดนี้มันส่งผลต่อร่างกายค่อนข้างมาก ขนาดพระเอกของนิยายเรื่องนี้อย่างหลี่อวิ้นกุยยังรักษามันออกไปได้ไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-23
  • ทะลุไปเป็นอาจารย์ตัวประกอบเพื่อสอนรัก...พระเอก   บทที่ 8 (1/2) : สตรีประหลาด (1)

    เมิ่งเจียวซินมองลูกกระรอกที่กลับลงไปซบใบหน้ากับบ่าของนาง เจ้าตัวเล็กทำให้นางนึกไปถึงเรื่องตัวตนของพวกปีศาจในนิยายเรื่องนี้ขึ้นมาได้... พวกปีศาจหากถือกำเนิดมาจากการบำเพ็ญเพียร ก็จะมีทั้งพวกที่สามารถกลายร่างเป็นมนุษย์ได้แบบสมบูรณ์ กับพวกที่กลายร่างเป็นมนุษย์ได้แบบยังไม่สมบูรณ์ ซึ่งมันขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการบำเพ็ญเพียรของปีศาจตนนั้น ๆ แต่หากปีศาจตนใดถือกำเนิดมาจากบิดามารดาที่เป็นปีศาจอยู่แล้ว ก็จะสามารถกลายร่างเป็นมนุษย์แบบสมบูรณ์ได้เลยตั้งแต่ในวัยหนึ่งหนาว แล้วปีศาจกระรอกที่แนบชิดอยู่กับบ่าของนางในยามนี้ล่ะ ถือกำเนิดมาแบบไหน? มีอายุเท่าใด? แล้วเจ้าตัวสามารถกลายร่างเป็นมนุษย์ได้หรือไม่? เมิ่งเจียวซินคิดไปถึงซีรีส์จีนที่นางเคยดูมา... พวกปีศาจยามกลายร่างเป็นมนุษย์ส่วนใหญ่ก็มักจะปรากฏกายในรูปร่างของบุรุษหนุ่มหรือไม่ก็สตรีที่พร้อมจะออกเรือนได้แล้ว แต่พอกลับไปอยู่ในร่างตั้งต้นของตัวเอง ปีศาจบางตนก็เป็นเพียงแค่ลูกสัตว์ตัวเล็ก ๆ เท่านั้น แล้วในซีรีส์บางเรื่องพวกปีศาจถึงกับสามารถทั้งเพิ่มทั้งลดขนาดตัวหรือแม้แต่อายุของร่างตั้งต้นได้อีกด้วย ส่วนเรื่องของอายุที่แท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-23
  • ทะลุไปเป็นอาจารย์ตัวประกอบเพื่อสอนรัก...พระเอก   บทที่ 8 (2/2) : สตรีประหลาด (2)

    เมิ่งเจียวซินหลังจากกล่อมให้ลูกกระรอกหลับลงไปอีกครั้งได้แล้ว นางก็ขยับเอาเจ้าตัวเล็กลงไปนอนบนเตียงในจุดที่นางเพิ่งจะเอาตัวเองลุกออกมา เพราะที่ตรงนั้นยังคงมีไออุ่นจากร่างกายของนางอยู่ จากนั้นนางจึงลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปจากห้องพัก เพื่อไปบอกให้ซุนเย่ผิงต้มข้าวผสมเหอเถาหนึ่งหม้อเล็ก และทำอาหารอ่อน ๆ อีกหนึ่งอย่างใส่เพิ่มลงในสำรับทุกมื้อหลังจากนี้ให้นางด้วย โดยหลังจากที่เมิ่งเจียวซินสั่งงานจบ นางก็เห็นสีหน้าที่แสดงออกให้รู้ว่า ซุนเย่ผิงกำลังรู้สึกสงสัย ซึ่งนางก็ได้เตรียมคำตอบเอาไว้แล้ว แต่ซุนเย่ผิงไม่ได้ถามอะไรออกมา อีกฝ่ายทำเพียงพยักหน้าตอบรับคำสั่งของนางเท่านั้น เมิ่งเจียวซินจึงหันหลังแล้วเดินกลับเข้าห้องพัก เพื่อไปจัดการดูแลตัวเองหลังฉากกั้นทันที หลังจากจัดการดูแลตัวเองเสร็จ เมิ่งเจียวซินก็คิดจะเข้าไปดูลูกกระรอกบนเตียง แต่ยังไม่ทันที่นางจะได้เดินเข้าไป เจ้าตัวเล็กก็ลุกขึ้นยืนหันข้างแล้วมองมาที่นางเสียก่อน เมื่อเห็นเช่นนั้นนางจึงเดินลงไปนั่งที่เตียงแล้วยื่นมือเข้าไปลูบหัวอีกฝ่ายทันที แต่ก็ลูบได้เพียงแค่สองครั้ง เพราะเจ้าลูกกระรอกรีบขยับเอาหัวเล็ก ๆ นั้นหนีออกไปจากมือของน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-23
  • ทะลุไปเป็นอาจารย์ตัวประกอบเพื่อสอนรัก...พระเอก   บทที่ 9 (1/2) : สมบัติของคนผู้นั้น (1)

    หลังจากได้ของใช้ และชุดบุรุษบิดาเจ้าของร่างนี้ที่พอจะนำไปให้เจ้าลูกกระรอกหยิบยืมเอาไปใช้ได้ชั่วคราวแล้ว เมิ่งเจียวซินก็เดินกลับไปยังห้องพักของตนเอง แล้วนำของทั้งหมดเข้าไปวางไว้ที่โต๊ะกลมกลางห้อง ก่อนจะกลับออกมา แล้วเดินไปลากเก้าอี้ในห้องโถงมาใช้นั่งรอที่บริเวณหน้าห้องพักของนาง จนเวลาผ่านล่วงเลยไปได้สักพัก เมิ่งเจียวซินก็ได้ยินเสียงเรียกของเด็กหนุ่ม “ข้าแต่งกายเสร็จแล้ว” “เช่นนั้นข้าขอเข้าไปนะ” ไม่มีเสียงตอบรับ เมิ่งเจียวซินจึงตัดสินใจเปิดประตูแล้วก้าวเท้าเข้าไปในห้อง พร้อมกับคิดในใจว่า... ‘เหตุใดข้าจึงเริ่มรู้สึกว่าห้องพักห้องนี้ มันไม่ใช่ห้องของข้าอีกต่อไปแล้วล่ะ!’ เมิ่งเจียวซินเมื่อกลับเข้าไปในห้อง นางก็เห็นเด็กหนุ่มนั่งอยู่ที่โต๊ะกลมกลางห้อง นางจึงเดินตรงเข้าไปหยิบตำราพร้อมกับสมุดบันทึกที่นางเตรียมเอาไว้พูดคุยกับอีกฝ่ายบนโต๊ะเขียนหนังสือ จากนั้นนางก็หอบเอาของทั้งหมดเดินเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับเด็กหนุ่ม แล้วเมื่อเมิ่งเจียวซินเงยหน้าขึ้นมา นางก็เห็นเด็กหนุ่มกำลังจ้องมองมาที่นางอยู่ก่อนแล้ว โดยสายตาที่อีกฝ่ายใช้มองมานั้นมันช่างดูดุดันยิ่งกว่าตอนที่เจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-23
  • ทะลุไปเป็นอาจารย์ตัวประกอบเพื่อสอนรัก...พระเอก   บทที่ 9 (2/2) : สมบัติของคนผู้นั้น (2)

    เมื่อได้ยินสิ่งที่สตรีตรงหน้าพูด แล้วได้เห็นสายตาของอีกฝ่ายความรู้สึกเป็นกังวลที่หลี่อวิ้นกุยมีเมื่อครู่ ก็ดูเหมือนจะหายไปในทันที แล้วอีกอย่างถ้าหากยามนี้เขาเลือกที่จะปฏิเสธนาง เพื่อออกเดินทางไปหาหมอมนุษย์ที่อยู่ในเผ่าจิ้งจอก ด้วยเงื่อนไขของระยะเวลารวมไปถึงระยะทาง ไม่แน่ว่า...สุดท้ายเขาก็อาจจะถอนพิษชนิดนี้ออกจากร่างกายได้ไม่ทันการ เมื่อคิดได้เช่นนั้นหลี่อวิ้นกุยจึงรีบตอบกลับไปว่า “ได้ เช่นนั้นจากนี้ข้าขอฝากชีวิตของข้าไว้กับซินซินด้วยนะ” “อืม...ได้!” เมิ่งเจียวซินดีใจที่เจ้าลูกกระรอกยอมให้นางช่วยเหลือ นางจึงส่งยิ้มจริงใจกลับไปให้อีกฝ่ายทันที หลี่อวิ้นกุยเมื่อได้เห็นรอยยิ้มครั้งนี้ของสตรีประหลาดก็เกิดอาการใจกระตุก เขาจึงรีบยกมือข้างขวาขึ้นมาทาบที่อกข้างซ้าย ‘หรือว่าพิษจะกำเริบอีกแล้ว แต่เหตุใดข้าถึงไม่รู้สึกหนาวเย็นล่ะ!’ หลี่อวิ้นกุยจึงรีบปรับลมหายใจของตนเอง เพียงไม่นานหัวใจของเขาก็กลับมาเต้นเป็นปกติอีกครั้ง เมื่ออีกฝ่ายตกลงให้นางช่วยรักษาแล้ว เมิ่งเจียวซินก็นึกขึ้นได้ว่า นางต้องบอกเรื่องที่อยู่ในบันทึกให้เด็กหนุ่มรับรู้ด้วย “กุยกุย ในตำราเล่มนั้นได้บ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-23

บทล่าสุด

  • ทะลุไปเป็นอาจารย์ตัวประกอบเพื่อสอนรัก...พระเอก   บทที่ 40 (2/2) : ความโชคดีเดียวที่เขามี (2) 

    หลังจากบอกเจ้าลูกกระรอกให้ออกเดินทางกลับไปหาครอบครัวในวันพรุ่งนี้เช้า เมิ่งเจียวซินก็แอบรู้สึกเป็นกังวลอยู่ไม่น้อยเกี่ยวกับเรื่องเสื้อผ้ารวมไปถึงรองเท้าที่เจ้าตัวจะใช้สวมใส่ยามออกเดินทาง เพราะนางไม่อาจพาอีกฝ่ายออกไปหาซื้อในตลาดอย่างที่นัดกันเอาไว้ได้แล้ว ดังนั้นก็เหลือเพียงต้องหยิบยืมของเมิ่งเจียวฉือไปใช้ก่อนเท่านั้น แล้วในขณะที่นางกำลังคิดไม่ตกว่า จะหาทางหลบจูมี่กับซุนเย่ผิงเข้ามาหาของให้อีกฝ่ายได้อย่างไร ซุนเย่ผิงก็หยิบยื่นโอกาสมาให้ด้วยการส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ ซึ่งในยามนั้นเมิ่งเจียวซินมั่นใจไปถึงแปดในสิบส่วนเลยว่า เจ้าตัวน่าจะต้องการขอออกไปข้างนอก นางจึงรีบเล่นตามน้ำไปกับซุนเย่ผิงทันที แล้วก็ด้วยเพราะการขอออกไปข้างนอกของซุนเย่ผิง ทำให้นางฉวยโอกาสจัดการเรื่องอาหารมื้อเย็นให้กับเจ้าลูกกระรอกไปได้ด้วย ซึ่งพอเหลือเพียงแค่ตัวนางกับจูมี่ เมิ่งเจียวซินก็รีบใช้ข้ออ้าง อย่างเรื่องการอยากให้อีกฝ่ายไปพักผ่อน ซึ่งกว่าที่นางจะส่งจูมี่เข้าห้องพักไปได้...

  • ทะลุไปเป็นอาจารย์ตัวประกอบเพื่อสอนรัก...พระเอก   บทที่ 40 (1/2) : ความโชคดีเดียวที่เขามี (1) 

    เมิ่งเจียวซินเดินออกมาถึงห้องโถง คนขับเกวียนกับบุรุษที่มาด้วยกันก็ได้ลำเลียงตะกร้าของฝากเสร็จพอดี นางจึงเดินไปหาคนทั้งคู่ เพื่อจ่ายค่าแรง แต่ทว่าจูมี่ก็รีบขยับเข้ามาขวาง เพราะเจ้าตัวได้จ่ายค่าจ้างพร้อมกับค่าแรงที่ช่วยยกของไปแล้ว เมื่อรู้เช่นนั้นนางจึงเดินนำจูมี่ออกไปส่งบุรุษทั้งสองที่ประตูรั้วด้านหน้าเรือน ในขณะที่ยืนมองเกวียนขับออกไป พวกนางก็เห็นซุนเย่ผิงวิ่งสวนเข้ามาหา จูมี่จึงเอ่ยถามอีกฝ่ายว่า “อาซุนเจ้าไปไหนมา?” “ข้า... คือ ข้าไป...” แม้เมิ่งเจียวซินจะรู้สึกแปลกใจ...ซุนเย่ผิงรู้ได้เช่นไรว่าจูมี่กลับมาแล้ว? แต่พอได้เห็นท่าทีละล่ำละลักคิดหาคำตอบไม่ทันของอีกฝ่าย นางจึงกล่าวสิ่งที่ตนช่วยคิดแก้ต่างแทนเจ้าตัวเอาไว้เมื่อครู่ออกมา “พอดี

  • ทะลุไปเป็นอาจารย์ตัวประกอบเพื่อสอนรัก...พระเอก   บทที่ 39 (2/2) : ข้าทำไม่ได้! (2) 

    หลี่อวิ้นกุยนั่งปรับอารมณ์ตัวเองอยู่สักพัก จากนั้นเขาก็หันไปส่งสัญญาณเรียกจิ่นสือเข้ามาสั่งการ ทว่าผู้ที่เข้ามารับคำสั่งหาได้มีเพียงแค่จิ่นสือ แต่ยังมีจิ่นตั้งที่เข้ามาพร้อมกับผู้เป็นน้องชายด้วย หลังจากสอบถามหลี่อวิ้นกุยก็ได้รู้ว่า จิ่นสือส่งสารไปบอกจิ่นตั้งเรื่องที่เขาสั่งย้ายเจ้าตัวไปเป็นองครักษ์เงาให้กับเมิ่งเจียวซิน จิ่นตั้งจึงรีบออกเดินทางมาเป็นองครักษ์ข้างกายของเขาแทนผู้เป็นน้องชายต่อทันที ซึ่งจิ่นตั้งเพิ่งจะเดินทางมาถึงเมื่อเช้านี้ และกำลังหาจังหวะเข้ามารายงานตัวกับเขาอยู่ แล้วเมื่อได้รับสัญญาณเรียก...จิ่นตั้งเลยตามผู้เป็นน้องชายเข้ามาด้วย จากนั้นคนทั้งสองก็เริ่มรายงานเรื่องที่เขาสั่งให้ไปทำ... เรื่องการแก้แค้น...หลี่อวิ้นกุยได้เลือกทำตามที่เมิ่งเจียวซินเคยขอ โดยเริ่มจากการส่งคนไปสืบหาข้อมูลให้แน่ชัดก่อน จากนั้นเขาก็เลือกลงมือเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้อง และมีส่วนร่วมกับการวางยาพิษเขาครั้งล่าสุดจริง ๆ เท่านั้น ซึ่งยามนี้จิ่นตั

  • ทะลุไปเป็นอาจารย์ตัวประกอบเพื่อสอนรัก...พระเอก   บทที่ 39 (1/2) : ข้าทำไม่ได้! (1) 

    เมิ่งเจียวซินนอนส่งมอบพลังหยินให้กับเจ้าลูกกระรอก ซึ่งภายในใจของนางยังคงมีความรู้สึกสงสัยเกี่ยวกับท่าทีของเด็กหนุ่มติดค้างอยู่ เนื่องจากวันนี้ทั้งวันเจ้าตัวพยายามแย่งงานจากนางไปทำแทบจะทุกอย่าง แล้วก็ด้วยเพราะความอยากทำงานมาก ๆ ของอีกฝ่าย ตอนนี้ชุดสมุนไพร และยารักษาโรคทั่วไปที่นางตั้งใจจะจัดเตรียมให้กับเจ้าตัว รวมไปถึงผู้คนรอบกายนางได้ถูกจัดใส่ห่อรอที่จะส่งมอบเรียบร้อยแล้ว ซึ่งตลอดทั้งวันเมิ่งเจียวซินก็พยายามเอ่ยถามเด็กหนุ่มว่าเป็นอะไร แต่ทว่าเจ้าตัวก็ใช้ความเงียบ หรือไม่ก็มักจะเอ่ยของานจากนางขัดขึ้นมาเสียก่อนทุกครั้ง จนผ่านล่วงเลยมาถึงยามนี้...แต่เมิ่งเจียวซินก็หาได้คิดที่จะยอมแพ้ไม่ นางจึงขยับร่างกาย แล้วเอนตัวไปทางด้านหลังเล็กน้อย พร้อมกับเอ่ยถามว่า “กุยกุย คือ...ข้ารู้สึกว่าวันนี้เจ้าขยันแปลก ๆ เจ้าเป็นอะไรหรือไม่? หรือว่า...มีเรื่องอะไรกวนใจเจ้า? เจ้าพอจะ...” ยังไม่ทันที่เมิ่งเจียวซินจะได้พูดจนจบประโยค อีกฝ่ายก็ขยับเข้ามาโอบกอดร่างกายขอ

  • ทะลุไปเป็นอาจารย์ตัวประกอบเพื่อสอนรัก...พระเอก   บทที่ 38 (2/2) : ความรู้สึกแปลก ๆ ที่มันเพิ่งเคยเกิดขึ้น (2)

    เมื่อดึงสติกลับมาได้ หลี่อวิ้นกุยก็รีบขยับเอาร่างกายของตนเองถอยออกมา จากนั้นเขาก็เห็นริมฝีปากของคนตรงหน้ามีรอยช้ำเล็ก ๆ ซึ่งแน่นอนว่า มันเกิดขึ้นจากการถูกเขาจุมพิตเมื่อครู่ หลี่อวิ้นกุยรีบดีดตัวลุกขึ้นมานั่ง จากนั้นเขาก็คิดจะลงไปเอายามาทาบริเวณริมฝีปากตรงจุดที่เกิดรอยช้ำให้กับนาง แต่เมื่อเขานึกขึ้นได้ว่า หากเมิ่งเจียวซินตื่นขึ้นมา แล้วรับรู้ได้ถึงยาที่เขาทาให้กับนางล่ะ? หลังจากนั่งชั่งใจมาสักพัก หลี่อวิ้นกุยก็ยื่นนิ้วมือเข้าไปลูบไล้และนวดคลึง พร้อมกับก้มลงไปมองริมฝีปากของเมิ่งเจียวซินอีกครั้ง แล้วเมื่อเห็นว่าไม่มีบาดแผล มีเพียงรอยช้ำเล็ก ๆ สี่ห้าจุดเท่านั้น เขาจึงตัดสินใจล้มตัวลงไปนอน แล้วจัดท่านอนให้เป็นท่าที่เขากับนางใช้นอนร่วมกันบนเตียงหลังนี้ทุกคืน โดยคิดเอาไว้ว่า...พรุ่งนี้เช้าเขาค่อยรอดูท่าทีของนางตอนเห็นรอยช้ำ ยามนั้นเขาค่อยคิดอีกทีว่า ควรจะทำเช่นไรต่อ? ซึ่งหลี่อวิ้นกุยไ

  • ทะลุไปเป็นอาจารย์ตัวประกอบเพื่อสอนรัก...พระเอก   บทที่ 38 (1/2) : ความรู้สึกแปลก ๆ ที่มันเพิ่งเคยเกิดขึ้น (1)

    หลี่อวิ้นกุยลืมตาขึ้นมากลางดึก ยามนี้แม้ทุกสิ่งรอบกายจะยังคงตกอยู่ในความมืด แต่เหตุใดในสายตาของเขาจึงยังเห็นศีรษะ ใบหู เส้นผม ลำคอ ไหล่ ฯลฯ ของสตรีในอ้อมแขนได้อย่างชัดเจน มันช่างน่าแปลก! เพราะตั้งแต่จำความได้ทุกสิ่งที่อยู่รอบกายเขา มันมักจะเต็มไปด้วยความมืดมิดเสมอ ตั้งแต่ในวัยเยาว์ แม้หลี่อวิ้นกุยจะได้ใช้ชีวิตอยู่กับคนในครอบครัวฝั่งมารดา แต่ชีวิตในสถานที่แห่งนั้นมันช่างเงียบเหงา และเดียวดาย ไร้ซึ่งคำว่า‘ความอบอุ่น’ จากผู้คนที่ได้นามว่าเป็นคนในครอบครัวของเขา แล้วเมื่อเขาเติบใหญ่พอรู้ความ จิ่นโซวก็เข้ามาพูดคุยเพื่อรับตัวเขาจากคนเหล่านั้น โดยหลี่อวิ้นกุยยังจำสีหน้าที่แสดงออกถึงความรู้สึกโล่งใจ ยินดีที่เขากำลังจะจากไป ในวันสุดท้ายที่เขาก้าวเท้าออกมาจากเรือนที่ตนเองถือกำเนิด และเติบโตมาของผู้คนที่ได้นามว่าเป็นคนในครอบครัวของเขาได้อย่างชัดเจน แล้วในวันที่หลี่อวิ้นกุย

  • ทะลุไปเป็นอาจารย์ตัวประกอบเพื่อสอนรัก...พระเอก   บทที่ 37 (2/2) : ช่วยเก็บมันเอาไว้กับตัว (2)

    “ขอบคุณที่เดินมาส่งนะเจ้าคะ ข้าฝากบอกพี่ชายฟางด้วยว่า ขอให้หายเร็ว ๆ” “ได้” หมิงลู่ตอบพร้อมกับส่งยิ้มให้กับเมิ่งเจียวซิน จากนั้นเขาก็รู้สึกขนลุกขึ้นมาแปลก ๆ อีกครั้ง “ไว้เจอกันใหม่นะเจียวซิน” “อืม” “เจ้ารีบเข้าเรือนเถิด พวกข้าจะไปแล้ว” เมิ่งเจียวซินทำเพียงพยักหน้าตอบหมิงลู่ ก่อนจะหันหลัง แล้วเดินเข้าเรือนของตนเอง หมิงลู่ยืนมองส่งเมิ่งเจียวซิน แล้วเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเดินเข้าเรือนไปแล้ว เขาก็เดินนำน้องสาวไปทางเรือนของพวกตนต่อ “มองไม่วางตาเลยนะเจ้าคะ” หมิงจิวเอ่ยเย้าผู้เป็นพี่ชาย “เจ้านี่!” หมิงล

  • ทะลุไปเป็นอาจารย์ตัวประกอบเพื่อสอนรัก...พระเอก   บทที่ 37 (1/2) : ช่วยเก็บมันเอาไว้กับตัว (1)

    เมิ่งเจียวซินก้มมองเจ้าลูกกระรอกบนตัก ตั้งแต่ช่วงบ่ายอีกฝ่ายได้กินเพียงแค่ขนมรองท้องเท่านั้น ไม่แน่ว่า ยามนี้เจ้าตัวอาจจะเริ่มรู้สึกหิวไม่น้อยแล้วก็ได้ นางจึงหยิบขนมในจานส่งไปให้เจ้าลูกกระรอกอีกหนึ่งชิ้น ซึ่งในขณะนั้นคนของโรงเตี๊ยมก็เข้ามาเติมน้ำชาให้กับพวกนางพอดี เมิ่งเจียวซินจึงหันไปสั่งอาหารกับอีกฝ่าย “เสี่ยวเอ้อร์ ข้าขอซี่โครงหมูผัดเปรี้ยวหวานกับปลานึ่งซีอิ๊วอย่างละหนึ่งที่ และข้าวสวยจำนวนสองถ้วยด้วยเจ้าค่ะ ชุดนี้ข้ารบกวนจัดใส่ห่อนะเจ้าคะ แล้วก็...ข้ารบกวนห่อขนมแบบจานนี้เพิ่มให้ข้าในชุดอาหารด้วยเจ้าค่ะ” “ได้ขอรับ รอสักครู่นะขอรับ” “เจียวซิน เจ้าอย่าบอกนะว่า...เจ้าจะซื้อไปฝากบ่าวสตรีนางนั้น” หมิงลู่เอ่ยถามเสียงเข้ม “ไม่ใช่เจ้าค่ะ ข้าซื้อไปกินเอง” “พี่ใหญ่ข้าขอซื้ออาหาร แล้วฝ

  • ทะลุไปเป็นอาจารย์ตัวประกอบเพื่อสอนรัก...พระเอก   บทที่ 36 (2/2) : ถือความเท่าเทียมเป็นหลัก (2) 

    หลังจากได้ยินคำถาม ซึ่งไม่มีที่มาที่ไปของหมิงจิว เมิ่งเจียวซินจึงหันกลับไปมองอีกฝ่าย เมื่อครู่ไม่ใช่ว่าเจ้าตัวกำลังรู้สึกโมโหเรื่องเล่าจากในรั้วในวังอยู่หรอกหรือ? แต่เมื่อได้เห็นสายตาที่แสดงออกราวกับว่า อยากจะรู้จริง ๆ จากสหาย นางจึงหยุดคิดเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวตอบไปว่า “หากถามว่าเคยคิดหรือไม่? ในวัยเด็กข้าก็เหมือนจะเคยคิดนะ คงอาจจะด้วยเพราะช่วงวัย แล้วก็อาจจะด้วยเพราะความคิดแบบเด็ก ๆ ที่ว่า ตนเองจะได้เข้าไปอยู่ในเรือนหลังใหญ่ จะได้แต่งกายด้วยชุดที่สวยหรู และก็จะได้ชิมอาหารอร่อย ๆ จากโรงเตี๊ยมดัง ๆ ทุกวัน แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ความคิดในวัยเยาว์ เพราะข้าในยามนี้ไม่คิดจะนำความสุขที่ตนเองมี ไปแลกกับความสุขที่ได้มาเพียงชั่วคราวแน่นอน” “อะไรคือ ความสุขเพียงชั่วคราว?” หมิงจิวเอ่ยถามด้วยความสงสัย “ข้าจะอธิบายให้เจ้าฟังแบบง่าย ๆ ให้เจ้าได้รับรู้ และได้เห็นภาพเลยนะ” พูดจบ เมิ่งเจียวซินก็เอ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status