Share

ตอนที่ 3 สะใภ้เฉิน

last update Last Updated: 2025-04-15 16:52:51

หลี่หยุนฟางไปที่ห้องของโจวชิงหลิน ช่วยพยุงหญิงวัยสี่สิบสองนั่งที่รถเข็นไม้ที่มีล้อ จากนั้นก็พาเธอไปที่ห้องน้ำที่ด้านหลัง

“รบกวนเธอแล้วนะอาฟาง”

“ไม่เป็นไรเลยค่ะป้าโจว ฉันเป็นลูกสะใภ้ของป้านี่คะ” หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล

เธออยู่ที่นี่ก็ต้องช่วยงานบ้านและทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ เพราะนั่นหมายถึงอนาคตและความอยู่รอดของเธอเอง อีกอย่างเท่าที่จำได้ โจวชิงหลินก็เอ็นดูตนอยู่มาก

“เป็นสะใภ้แล้ว เรียกแม่เถอะ”

“ค่ะ แม่” เธอเรียกสรรพนามนั้นอย่างไม่มีเขินอายหรือว่าแสดงความไม่เต็มใจ

เมื่อถึงห้องน้ำ เธอพยุงโจวชิงหลินให้นั่งยังเก้าอี้ไม้ที่ทำรูเอาไว้ ครอบเหนือส้วมซึมแบบเก่าเพื่อใช้ขับถ่าย ดูคล้ายกับเก้าอี้ขับถ่ายของผู้ป่วยในปัจจุบันที่ยายของเธอเคยใช้

เลื่อนถังน้ำมาวางที่ข้างๆ เธอแล้วตักน้ำให้ พร้อมกับช่วยถอดเสื้อผ้าโดยไม่ได้มีท่าทีรังเกียจ

“แม่อาบน้ำรอฉันก่อนนะคะ ฉันจะไปทำความสะอาดที่นอน เดี๋ยวกลับมา”

“อืม” โจวชิงหลินพยักหน้าด้วยความกระดากอาย ปกติแล้วเธอจะร้องเรียกลูกชายให้พาไปห้องน้ำยามดึก

แต่เมื่อคืนนี้เป็นคืนเข้าหอ เธอไม่ได้เรียก จึงปัสสาวะรดบนที่นอน ลูกสะใภ้ก็ไม่ได้รังเกียจแล้วยังช่วยทำทุกอย่างด้วยความเต็มใจ

หลี่หยุนฟาง เดิมทีเธอคือ เมี่ยวซาน หญิงสาวเคยดูแลยายที่แก่ชราเป็นผู้ป่วยติดเตียงตั้งแต่เธอยังเด็ก จนกระทั่งยายของเธอเสียไปก่อนหน้านี้เพียงสามปี แค่ดูแลแม่สามีในยุคนี้จึงไม่ใช่เรื่องยากอะไร

พอเธอทำความสะอาดห้องและนำที่นอนมาตากเสร็จแล้ว จึงกลับไปหาแม่สามีที่รออยู่ ช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วใช้รถเข็นพาไปนั่งที่หน้าบ้าน ท่ามกลางสายตาที่ชื่นชมของเพื่อนบ้าน ที่เห็นลูกสะใภ้ดูแลแม่สามีดีจนผิดคาดจากที่เคยพูดนินทาเอาไว้

“แม่นั่งเล่นอยู่นี่นะคะ ฉันจะไปทำกับข้าวในครัว” หญิงสาวบอกด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ จากนั้นจึงเดินเข้าไปในบ้านเพื่อที่จะทำอาหารเช้าในวันนี้ ด้วยความทรงจำของหลี่หยุนฟาง ผสานกับฝีมือการปรุงอาหารในยุคปัจจุบันที่เธอจากมา

“หลี่หยุนฟางไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเราคิดเอาไว้เลยคุณนายจาง ดูสิเธอไม่ได้รังเกียจฉันแม้แต่น้อย  ก่อนหน้านี้หรือเป็นฉันเองที่คิดมาก” โจวชิงหลินพูดด้วยน้ำเสียงที่วางใจ

“นั่นสิ ใครๆ ก็รู้ว่าลูกสะใภ้เธอมีใจให้กับลูกชายหัวหน้าหมู่บ้านข้างๆ ใครจะไปคิดว่าถูกบังคับให้แต่งงานกับอาเซียนแล้ว นอกจากจะไม่ต่อต้าน ยังทำตัวเป็นลูกสะใภ้ที่ดีอีกอย่างนี้ เฉินเซียนถือว่ามีวาสนาแล้ว” คุณนายจางพูดเอาใจเพื่อนบ้าน

โจวชิงหลินพยักหน้ายิ้มอย่างพอใจ แค่อีกฝ่ายดีกับตนและลูกชาย และเป็นสะใภ้ที่ดีของสกุลเฉิน อดีตจะรักใครชอบใคร หรือเป็นอย่างไรเธอก็ไม่สนใจทั้งนั้น เพราะทุกคนย่อมผิดพลาดกันได้

ไก่ทอดราดซอสเปรี้ยวหวาน ไข่ผัดมะเขือเทศ และแกงจืดผักกาดขาว เป็นอาหารอย่างง่ายที่เธอทำเป็นมื้อแรกหลังจากที่มาอยู่ที่นี่

“แม่กินเยอะๆ นะคะ ตอนสายๆ ฉันจะพาแม่ทำกายภาพบำบัด” เธอบอกแม่สามีด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวังดี

เฉินเซียนถึงกับยิ้มไม่หุบ เมื่อภรรยาและแม่เข้ากันได้ดีกว่าที่คิดเอาไว้

“จริงสิ ครอบครัวเธอ เขาย้ายไปต่างเมืองแบบนั้น ส่งเจ้าสาวขึ้นเกี้ยวแทนที่ครอบครัวฝ่ายหญิงจะตามมา กลับขนของย้ายบ้านไปพร้อมกับสินสอด แบบนี้เกินไปแล้ว แต่เธอไม่ต้องคิดมากนะอาฟาง แม่กับอาเซียนจะเป็นครอบครัวให้เธอเอง” โจวชิงหลินบอกลูกสะใภ้ แล้วคีบไก่ทอดชิ้นใหญ่ที่สุดให้เธอ

หลี่หยุนฟางยิ้มรับด้วยความดีใจ เธอเองก็ไม่ต่างจากเจ้าของร่างที่อาศัยอยู่ ไม่มีญาติมิตรที่ไหนเหลืออยู่ และยิ่งมาอยู่ที่นี่ก็เหมือนกับตัวคนเดียว แปลกที่แปลกทาง วิถีชีวิตก็ต่างจากปัจจุบันมาก

การที่มีคนรักและต้อนรับอย่างอบอุ่น เธอซาบซึ้งใจ และต้องรับโอกาสนี้เอาไว้ เพราะไม่รู้ว่าจะได้กลับไปตอนไหน หรือไม่ได้กลับไปอีกเลย

“ขอบคุณค่ะแม่” เธอตอบรับด้วยน้ำเสียงที่นุ่มหวาน คีบอาหารให้แม่สามีอีกครั้ง และครั้งนี้หันไปคีบให้เฉินเซียนด้วย ทำให้เขาถึงกับอมยิ้มอย่างพอใจ

“จริงสิ วันนี้ลูกต้องเอาคูปองไปแลกในเมือง งั้นก็ให้อาฟางช่วยเฝ้าร้านแทนสิ”

เฉินเซียนหันไปมองหน้าภรรยาด้วยความเกรงใจ กลัวว่าเธอจะอึดอัดที่แม่ของตนจุ้นจ้านและชอบจัดแจงอะไรแบบนี้

เธอรับรู้ได้ถึงความลำบากใจของเขา แต่ก็ยิ้มรับด้วยความเต็มใจ “เอาสิ ฉันจะเฝ้าร้านเอง อันไหนที่ไม่ได้ใช้คูปองนายเขียนราคาไว้ก็แล้วกัน”

“ตายจริง พวกลูกแต่งงานกันแล้ว จะเรียกกันแบบตอนสมัยเด็กได้อย่างไรเล่า ใครเขามาได้ยินเข้าจะนินทาเอาได้ เรียกใหม่ให้เป็นทางการขึ้นดีกว่า”

“แม่ครับ” เฉินเซียนปรามมารดาเอาไว้ เพราะสิ่งที่ขอนั้นอาจจะทำให้ภรรยาลำบากใจ เขาอยากให้เธออยู่ที่นี่อย่างมีความสุขที่สุด

“ไม่เป็นไรค่ะ คุณ” เธอเรียกสรรพนามที่ดูเป็นทางการตามที่โจวชิงหลินบอก

เฉินเซียนหน้าแดงด้วยความเขินและประทับใจ หัวใจของเขาเต้นรัวเมื่อได้ยินสรรพนามที่ดูเหมือนสามีภรรยามากกว่าเพื่อนเล่นวัยเด็ก

“อาฟางน่าเอ็นดูจริงๆ เลยเชียว เห็นไหมว่าสะใภ้ของแม่เชื่อฟังและเป็นคนช่างเอาใจมากแค่ไหน ลูกต้องดูแลเธอดีๆ นะอาเซียน” โจวชิงหลินยิ้มกว้างอย่างชอบใจ

จริงๆ แล้วเธอแค่แกล้งทดสอบดูเท่านั้นว่าหลี่หยุนฟางจะรับมือกับเธอในแบบที่ขี้จุกจิกอย่างไร ตอนนี้รู้แล้วว่าลูกสะใภ้วัยสิบแปดปีคนนี้ เป็นคนอ่อนน้อมและเชื่อฟังกว่าที่คิด

“เดี๋ยวผมเขียนรายการไว้ให้นะ”

เขาใช้สรรพนามแทนตัวนั้นด้วยความตื่นเต้น

หลี่หยุนฟางที่มีความเป็นสาวสมัยใหม่ที่ติดตัวมาแต่แรก เธอไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นหรือเหนียมอายกับสรรพนามเหล่านี้ แต่กลับมองท่าทีของสามีที่ดูน่าจะเขินกับสรรพนามนี้เสียเองด้วยความเอ็นดู

หลังมื้ออาหาร สะใภ้สาวก็เข็นเก้าอี้ไม้รถเข็นของแม่สามีเพื่อไปส่งที่ห้องนอน

ก่อนหน้านี้หลี่หยุนฟางไม่ได้มาเยี่ยมเยียน จึงไม่ค่อยได้คุยกันอย่างตอนเป็นเด็กที่เธอเคยมาวิ่งเล่นกับลูกชาย จึงชวนคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปทั่ว

แต่ส่วนใหญ่จะเล่าเรื่องเฉินเซียนให้เธอฟังเสียมากกว่า หลี่หยุนฟางไม่ใช่คนโง่ เธอรู้ว่าแม่สามีต้องการจะทำอะไร โจวชิงหลินคงกังวลกับความพิการของตนแล้วกลัวว่าเธอจะทิ้งลูกชายคนเดียวไป

“อาเซียนรักเธอมากนะอาฟาง”

“ฉันรู้ค่ะ ฉันจะดูแลแม่กับอาเซียนเป็นอย่างดี แต่งเข้าสกุลเฉิน แม้ตายก็เป็นผีสกุลเฉิน ฉันไม่มีวันทอดทิ้งเขาไปแน่” หญิงสาวตอบรับให้แม่สามีวางใจ

เธอจะไปไหนได้ล่ะ ในเมื่อเธอไม่มีที่ไปเลยสักที่

************************

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาเจ้าของร้านชำในยุค70   ตอนที่ 4 การเปลี่ยนแปลง

    หลี่หยุนฟางนั่งอยู่ในร้านขายของชำขนาดเล็กที่ต่อเติมแยกออกมาจากตัวบ้าน หน้าร้านติดกับถนนเส้นหลัก แต่คนที่เดินผ่านไปมาไม่ได้สนใจที่จะแวะเวียนเข้ามาจับจ่ายสินค้ามากอย่างที่ควรจะเป็นมีบ้างที่เดินเข้ามาซื้อไข่ไก่ด้วยคูปองที่จำกัด เพราะไม่อยากสิ้นเปลืองค่ารถในการเข้าไปซื้อในตัวเอง และซื้อธัญพืชเพื่อไปทำอาหารด้วยเงินไม่กี่เหมา[1] และลูกกวาดที่ห่อกระดาษหลากสีแค่ไม่กี่เฟินเท่านั้นคนที่ต้องการซื้อของเข้าบ้านในปริมาณเยอะเดือนละครั้ง ส่วนมากจะไปซื้อที่ร้านค้าในตัวเมืองกันมากกว่า เพราะจ่ายค่าน้ำมันรถเพียงรอบเดียวและได้แวะซื้อของอย่างอื่นติดไม้ติดมือมาด้วยดังนั้นของจุกจิกที่รัฐบาลไม่ได้ควบคุมการซื้อขายด้วยคูปอง จึงสามารถขายออกได้บ้างหญิงสาวสังเกตการจัดวางข้าวของที่วางเป็นระเบียบ แต่หากดูดีๆ แล้ว ภายใต้ความเป็นระเบียบนั้นก็ยุ่งเหยิงอยู่ไม่น้อย เพราะไม่มีการจัดแยกหมวดหมู่สินค้าอย่างชัดเจนถั่วและธัญพืชจัดเรียงรายแต่กลับไปปนอยู่กับในส่วนของของใช้จำพวกสบู่และแชมพูส่วนลูกกวาดหลากสีก็ไปวางอยู่หน้าร้าน ใกล้กับเครื่องปรุงและไข่ไก่ เพื่อดึงดูดสายตาให้คนเข้าร้านการจัดวางที่สะเปะสะปะนี้ ทำให้เธอรู้สึกหง

    Last Updated : 2025-04-15
  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาเจ้าของร้านชำในยุค70   ตอนที่ 5 จริงจัง

    เนื่องจากวันนี้เฉินเซียนกลับมาถึงช้ากว่าที่คิด หลี่หยุนฟางจึงไม่ได้พาแม่สามีไปทำกายภาพบำบัดอย่างที่ตั้งใจเอาไว้เธอกลับไปอุ่นแกงจืดในตอนเช้า พร้อมกับทำเพิ่มอีกหนึ่งอย่าง จากนั้นก็ช่วยพาแม่สามีเข้าห้องน้ำก่อนที่จะเข็นให้มานั่งกินอาหารด้วยกัน“เธอไม่ต้องนั่งกินข้าวกับแม่หรอก จริงๆ ให้แม่กินในห้องก็ได้ เธอไปนั่งกินกับอาเซียนที่ร้านเถอะ” โจวชิงหลินบอกลูกสะใภ้ด้วยน้ำเสียงที่เอ็นดู“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อาเซียนเองก็คงเข้าใจ ฉันอยู่ดูแลแม่ กินข้าวเป็นเพื่อนแม่จะได้ไม่เหงา อีกอย่างวันนี้ฉันยังกะเวลาทำอาหารกลางวันไม่ถูก ทุกอย่างล่าช้าไปหมด เอาไว้พรุ่งนี้ทุกอย่างลงตัว ฉันค่อยไปกินกับเขาที่ร้านดีไหมคะ”“ช่างเอาใจแบบนี้ แม่โชคดีที่ได้เธอมาเป็นสะใภ้ วาสนาของบ้านเราแท้ๆ” แม่สามีชื่นชมสะใภ้ของตนเองไม่หยุดนั่นเพราะหลี่หยุนฟางอยากอยู่อย่างสงบ ไม่อยากมีปัญหา เธอจึงต้องวางตัวให้มีคนรักมากกว่าที่จะมีคนเกลียด“อาการของแม่ ฉันถามจากอาเซียนแล้วนะคะ ฉันคิดว่าแม่มีความรู้สึกที่ขาอยู่ไม่ได้ แค่กล้ามเนื้อขาอ่อนแรงและเส้นประสาทบางส่วนไม่ทำงาน หากได้รับการกระตุ้น ฉันว่าแม่ต้องสามารถกลับมาเดินได้อีกครั้งแน่”โจวชิงหล

    Last Updated : 2025-04-15
  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาเจ้าของร้านชำในยุค70   ตอนที่ 6 ของดีมีจำกัด

    กระดาษถูกนำมาแปะติดกับแผ่นไม้ แล้วเขียนข้อความด้วยลายมือที่อ่านง่ายและมีสีสันที่สะดุดตาในแบบที่ไม่เคยพบเห็นเฉินเซียนมองดูป้ายเหล่านั้นแล้วมองภรรยาสาวด้วยสายตาที่ต่างออกไป เริ่มเอะใจแล้วว่าหญิงสาวทำไมจึงเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ รวมถึงความคิดที่จะขายของด้วยวิธีแปลกประหลาดเขาพยายามเก็บความสงสัยนั้นเอาไว้ ช่วงหลังมาตั้งแต่เขาขายของต่อจากบิดาก็ไม่ค่อยได้เจอกัน บางทีเธออาจจะมีสหายใหม่ที่สอนเรื่องพวกนี้ให้รู้ โดยที่เขาไม่รับรู้ก็ได้“นี่มันอะไรกันอาฟาง ซื้อสองแถมหนึ่ง ซื้อหนึ่งลดราคาอีกหนึ่ง” เขาอ่านแล้วก็งงอยู่ไม่น้อยหญิงสาวยิ้มออกมาแล้วเริ่มอธิบายให้เขาเข้าใจวิธีคิดของเธอ“ซีอิ๊วราคาขายเก้าเหมา ไข่ไก่ฟองละห้าเฟิน สี่ฟองก็สองเหมา ดังนั้นหากซีอิ๊วเก้าเหมาและซื้อไข่ไก่สี่ฟองอีกสองเหมา จากราคาเดิมรวมหนึ่งหยวนกับอีกหนึ่งเหมา จะลดราคาเหลือเพียงหนึ่งหยวนเท่านั้น นั่นเท่ากับว่าได้ไข่ไก่แถมไปสองฟอง แบบนี้ก็จะทำให้คนรู้สึกว่าคุ้มค่ากว่า”เฉินเซียนพยักหน้าทำความเข้าใจ ซีอิ๊วราคาต้นทุนมาเจ็ดเหมา ไข่ไก่ก็เลี้ยงเองที่หลังบ้าน ค่าอาหารต่อวันก็ไม่ถึงหนึ่งเหมา อย่างไรก็ได้กำไร“แล้วนั่นล่ะ” เขาพยักพเยิดไปทาง

    Last Updated : 2025-04-17
  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาเจ้าของร้านชำในยุค70   ตอนที่ 7 หมอนข้าง

    หลังจากที่ส่งแม่สามีเข้านอนแล้ว หลี่หยุนฟางก็กลับมาที่ห้องนอนเมื่อคืนนี้เธอเหนื่อยจากงานแต่งงานจึงนอนหลับไปโดยไม่ได้ระวังตัว แต่วันนี้สิสามีหนุ่มนั่งตาแป๋วรอเธอเพื่อเข้านอนพร้อมกัน ไม่รู้ว่าเธอจะหลับลงหรือเปล่า“เอ่อ ผมรอคุณน่ะ เรามานอนกันเถอะ” เขาอมยิ้มแล้วลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางที่ดูวางตัวไม่ถูก“มีผ้าห่มอีกผืนไหมคะ ฉันอยากม้วนมาเป็นหมอนข้างนะ” เธอบอกเขา ตั้งใจจะเอามาวางกั้นแบ่งเขตเตียงไปในตัว“หมอนข้างเหรอ” เขาไม่เข้าใจว่าเธอต้องการอะไร แต่ก็เดินออกจากห้องเพื่อไปหามาให้เธออีกผืนด้วยความเต็มใจหญิงสาวรับผ้าห่มมาแล้วม้วนให้เป็นรูปทรงกระบอก วางคั่นกลางระหว่างเธอกับเขาเอาไว้เฉินเซียนเห็นอย่างนั้นก็เข้าใจทุกอย่าง เธอดีกับเขา ดีกับมารดา ช่วยเหลือการค้าขาย แต่เรื่องความสัมพันธ์นั้นยังคงไม่ยอมเปิดใจง่ายๆเขาขยับไปนอนฝั่งของตัวเอง ต่างคนต่างหลับตาลงแล้วไม่ได้พูดอะไรเฉินเซียนมีความรู้สึกน้อยใจลึกๆ รู้สึกมีก้อนจุกที่ลำคอเมื่อการแต่งงานนี้ยังคงดูห่างเหิน หลี่หยุนฟางไม่ไว้ใจตนถึงขั้นต้องนำผ้าห่มมาวางกั้น ทั้งๆ ที่ตนรับปากแล้วแท้ๆ ว่าจะรอจนถึงวันที่เธอยินยอมสามีหนุ่มกลืนเอาคำพูดและเรื่องที่อยาก

    Last Updated : 2025-04-17
  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาเจ้าของร้านชำในยุค70   ตอนที่ 8 ทั้งแจกทั้งแถม

    หลังจากเปิดร้านขายของชำได้ไม่นานคนก็เริ่มทยอยมาที่ร้านพร้อมทั้งถามหาสินค้าที่จัดคู่ขายในราคาหนึ่งหยวนหลี่หยุนฟางยิ้มให้กับสามีของตนเอง มีคนมาถามตั้งแต่เช้าแบบนี้ เคยมีที่ไหนกันหญิงสาวนำป้ายที่เขียนชุดสินค้าประจำวันออกมาตั้งไว้พร้อมกับแจกรอยยิ้มที่สดใส พร้อมกับอธิบายสินค้าที่จับคู่ขายในวันนี้“ชุดแรกเป็นน้ำยาสระผมราคาเจ็ดเหมา สบู่ราคาสี่เหมา ราคาหนึ่งหยวนกับหนึ่งเหมา จ่ายเพียงหนึ่งหยวน” ชุดนี้ลูกค้าจำนวนสามรายก็ยังลังเลอยู่“ชุดที่สอง สบู่สามก้อน ราคาหนึ่งหยวนกับอีกสองเหมา ขายในราคาหนึ่งเหมา” ลูกค้าทยอยมาเพิ่ม ได้ยินก็ยังคงลังเลเช่นกัน เพราะของใช้ไม่ค่อยจำเป็นเท่าอาหาร“ชุดที่สาม ถั่วเหลืองตวง ราคาถ้วยตวงละสี่เหมา ถั่วแดงสี่เหมาและถั่วเขียวสี่เหมา ราคาหนึ่งหยวนกับอีกสองเหมา ขายในราคาหนึ่งเหมา” หญิงสาวพูดถึงชุดสุดท้าย ลูกค้าราวห้าคนในตอนนี้เริ่มมองหน้ากันอย่างครุ่นคิดหลี่หยุนฟางจึงปล่อยไม้เด็ดออกมา “และทั้งสามชุดนี้ หากบ้านไหนที่พาเด็กมาด้วย จะแถมลูกกวาดให้เด็กคนละสองเม็ดต่อชุด”เมื่อได้ยินดังนั้นลูกค้าก็รีบกลับออกจากร้านขายของชำไป เฉินเซียนมีความเป็นกังวลใจ เพราะสินค้าที่จับคู่เป็นส

    Last Updated : 2025-04-17
  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาเจ้าของร้านชำในยุค70   ตอนที่ 9 ใกล้ชิด

    ราวไม้สำหรับฝึกเดินทำกายภาพบำบัดของโจวชิงหลิน ถูกวางไว้ที่กลางสวนตอนเย็นหลังจากกลับมาถึง หลี่หยุนฟางก็พบว่าสามีทำเสร็จพอดี เธอยิ้มอย่างพอใจที่เขาทำมันมาได้ดีกว่าที่คิดหญิงสาวเดินเข้าไปยืนดูผลงานที่สามีทำ ใบหน้าของเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อไคล ยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดจนเปื้อนไปหมด“ดูสิ เปื้อนหมดแล้ว” เธอยิ้มมองใบหน้าเปื้อนคราบดินของเขา จากนั้นก็หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาแล้วบรรจงเช็ดรอบๆ ดวงตาให้จนกระทั่งทั้งสองสบสายตากัน เฉินเซียนกำลังจ้องมองเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรัก ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้เป็นเวลาสามวันแล้ว สายตาของเขายังคงมองเธอแบบเดิมอย่างมั่นคงในวัยเพียงเท่านี้เขาย่อมมีความใจร้อน คึกคะนอง และห้ามใจตัวเองได้ยาก แต่ยังคงเป็นสุภาพบุรุษไม่ได้แตะต้องล่วงเกินเลยแม้แต่น้อยเฉินเซียนเป็นผู้ชายที่ดี เขาดีขนาดนี้แล้วเธอยังจะรออะไรแววตาที่สั่นไหวของภรรยาทำให้เขาจ้องมองด้วยความสนใจ จากนั้นจึงค่อยๆ เลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ แต่อีกฝ่ายหดมือที่กำลังเช็ดเหงื่อให้เขากลับไป พร้อมกับถอยห่างไปเล็กน้อยจนเขารู้สึกใจหาย“ฉันจะไปทำกับข้าว คุณไปอาบน้ำเถอะ”เธอบอกเขาด้วยใบหน้าที่แดงซ่าน จากนั้นก็รีบเดินเข้าไปในห้อ

    Last Updated : 2025-04-18
  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาเจ้าของร้านชำในยุค70   ตอนที่ 10 ขายดี

    หลี่หยุนฟางช่วยพยุงแม่สามีไปที่ห้องน้ำ จากนั้นก็ช่วยเหลือจนอาบน้ำแล้วเสร็จ ก่อนจะพาไปดูราวไม้ที่ทำเอาไว้ในตอนนั้นเองเฉินเซียนก็เดินออกมาสมทบพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใส หญิงสาวจึงให้เขาลองพามารดาไปยืนจับที่ราวไม้ แล้วให้ช่วยพยุงเดินไปทีละก้าว เพราะเฉินเซียนตัวใหญ่กว่าเธอน่าจะประคองและรอรับมารดาของเขาได้ดีกว่าจากนั้นจึงเข้าไปในครัวเติมฟืนเพื่อเร่งไฟให้น้ำเดือดขึ้นมา ทำการลวกเส้นและผักใส่ในชาม นำหมูที่ย่างเอาไว้อุ่นไฟเล็กน้อยให้พอให้อุ่น แล้วนำมาหั่นบางๆ วางเรียงที่ด้านบน นำไข่ต้มที่ต้มปอกเปลือกผ่าครึ่งลูกแล้ววางประดับข้างเนื้อหมูขั้นตอนสุดท้าย ราดน้ำต้มหัวไชท้าวที่บะหมี่ แล้วยกไปวางที่โต๊ะอาหาร ก่อนจะเดินไปเรียกสองแม่ลูกให้มารับประทานอาหารเช้าด้วยกันภาพที่เธอเห็นคือโจวชิงหลินจับราวไม้แล้วค่อยๆ ก้าวเดินโดยที่มีเฉินเซียนยืนประกบตามอยู่ไม่ห่าง หญิงสาวเดินได้โดยการช่วยพยุง แขนยังไม่แข็งแรงพอที่จะจับราวเดินด้วยตนเอง“อาฟาง ดูสิ แม่ลองเดินดูแล้ว ราวนี้ใช้ได้ผลดีจริงๆ” โจวชิงหลินตื่นเต้นเป็นอย่างมากกับวิธีการนี้“อย่าหักโหมเลยค่ะแม่ แม่ต้องกินอาหารเช้าก่อน พักผ่อนให้เพียงพอ ฉันจะต้องนวดกระตุ้นก

    Last Updated : 2025-04-18
  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาเจ้าของร้านชำในยุค70   ตอนที่ 11 อดใจเอาไว้

    ในตอนบ่ายแก่ๆ เฉินเซียนไปจ่ายตลาดเพื่อซื้ออาหารสด แล้วกลับไปเพื่อที่จะพามารดาหัดเดินทำกายภาพบำบัด ในขณะที่หลี่หยุนฟางอยู่ขายของต่อที่ร้านชำ แล้วลงบัญชีเป็นรายการต่อรายการเพื่อไม่ให้เสียเวลาในการนำตัวเลขไปลงบัญชีในภายหลังเธอใช้ความรู้วิธีบวกเลขในปัจจุบันรวมตัวเลขโดยไม่ต้องใช้ลูกคิด ทำบัญชีรายรับรายจ่ายอย่างง่าย จากนั้นก็อยู่เฝ้าร้านจนกระทั่งถึงเวลาพอสมควร เธอก็ปิดร้านเพื่อกลับไปทำอาหารเย็นหลี่หยุนฟางกลับไปถึงก็พบว่าสามียังคงพามารดาฝึกเดินอยู่เมื่อเห็นลูกสะใภ้มองด้วยสายตาที่ห่วงใย โจวชิงหลินก็ยิ้มเจื่อนๆ เพราะอีกฝ่ายบอกเอาไว้ว่าไม่ให้ตนหักโหม แต่จะอดใจไหวได้อย่างไรในเมื่อความหวังว่าจะเดินได้อยู่ตรงหน้า จึงได้หัดเดินตั้งแต่ที่ลูกชายกลับมาถึงแล้ว“อาฟาง อย่าตำหนิแม่เลย แม่ก็แค่อยากเดินได้เร็วๆ น่ะ” แม่สามีออกตัวไว้ก่อน“แม่คะ ฉันจะตำหนิอะไรแม่ได้ เพียงแค่ว่าฉันเป็นห่วงกลัวว่าแม่จะหักโหมแล้วกล้ามเนื้อจะปรับตัวไม่ทันก็เท่านั้นเอง ถ้าแม่คิดว่าไหวฉันก็คงห้ามไม่ได้หรอกค่ะ”“ผมบอกแม่แล้วนะ แต่เราก็ไม่ได้ทำนานนะ ทำเสร็จสองรอบก็มานั่งพัก จากนั้นก็มาทำต่อสลับกับนั่งพักไปเรื่อยๆ” เฉินเซียนรีบออก

    Last Updated : 2025-04-18

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาเจ้าของร้านชำในยุค70   ตอนที่ 30 ตอนจบ

    ปี 1985 มินิมาร์ทต้าเฉินได้ย้ายไปขายชั่วคราวในที่ดินที่ซื้อใหม่ ในส่วนของร้านขายเฟอร์นิเจอร์ไม้ของเฉินเซียนที่ดินแปลงข้างๆ ยาวลงไปเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้านหน้าจะทำเป็นร้านขายเครื่องเรือน แต่ตอนนี้ย้ายของที่มินิมาร์ทมาขายชั่วคราวในระหว่างที่กำลังก่อสร้าง ‘ต้าเฉินซูเปอร์มาร์เก็ต’ด้านหลังของที่ดินเป็นส่วนของโรงงานและโกดังเก็บสินค้า ที่ตอนนี้มีช่างไม้จำนวนสิบคน ยังไม่เปิดขายหน้าร้านอย่างเป็นทางการ เพราะตลอดห้าปีที่ผ่านมารับทำเฟอร์นิเจอร์ไม้ตามสั่งจนไม่มีเวลาผลิตขายการก่อสร้างต้าเฉินซูเปอร์มาร์เก็ตน่าจะใช้เวลาอีกสี่เดือนจึงจะแล้วเสร็จ ในระหว่างนี้หลี่หยุนฟางดูแลที่ร้านเต็มตัวและคอยอบรมความรู้ใหม่ๆ ให้พนักงานอยู่เสมอยิ่งร้านพัฒนามาเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ เธอก็อดภูมิใจในตัวเองไม่ได้ มองย้อนไปเมื่อเก้าปีที่แล้วเธอยังนั่งปัดฝุ่นสินค้าในร้านชำอยู่เลยสามปีก่อนพวกตนกลับไปที่หมู่บ้านเดิมในเมืองซีหยวนเขตฝั่งผู่ซี เพื่อร่วมงานแต่งงานของเจียงหมิง ที่นั่นยังไม่ได้รับการพัฒนาเทียบเท่าเขตที่ตนอยู่ด้วยซ้ำรถยี่ห้อหรูที่นั่งกลับไปพร้อมกับเสื้อผ้าที่ทันสมัยและเครื่องประดับราคาแพง ทำให้ชาวบ้านที

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาเจ้าของร้านชำในยุค70   ตอนที่ 29 กิจการร่ำรวย

    โรงงานไม้ของเฉินเซียนมีคนในเมืองนั้นมาสมัครงานช่างไม้ หยวนคังพอมีฝีมืออยู่บ้างเฉินเซียนจึงรับมาช่วยงานดูก่อนเฉินเซียนและลูกมือของเขาช่วยกันทำชุดโต๊ะและเก้าอี้เอาไว้เตรียมขาย ขณะที่หน้าร้านยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง โดยใช้ไม้ของตนที่ตัดเอาไว้ตอนปรับปรุงพื้นที่ และขอซื้อต่อจากเจ้าของที่ดินที่กำลังปรับปรุงที่ดินบริเวณใกล้เคียงในราคาถูก เพราะดีกว่าขนเอาไปทิ้งที่อื่นโต๊ะไม้ที่หลี่หยุนฟางช่วยออกแบบดูแปลกตาและทันสมัย โต๊ะอาหารแบบมีแป้นหมุนตรงกลางแปลกใหม่สำหรับผู้คนแถบนี้มาก เพียงทำตัวอย่างออกมาชุดเดียวยังไม่ทันขัดไม้และลงเงาด้วยซ้ำ คนที่มาซื้อของที่มินิมาร์ทเดินผ่านไปเห็นก็ถึงกับสั่งจองทันทีเฉินเซียนจึงได้โอกาส เสนอลิ้นชักไม้ ชั้นวางของ เตียง และตู้เสื้อผ้าแบบเข้าชุด ทำให้ลูกค้าเศรษฐีที่กำลังวางแผนสร้างบ้านพักในแถบนี้ตัดสินใจที่จะให้เขาทำเฟอร์นิเจอร์ไม้ให้แก่บ้านทั้งหลัง เพราะนิยมงานไม้มากกว่างานของต่างชาติกิจการมินิมาร์ทก็ทำกำไรเป็นกอบเป็นกำ จนต้องสั่งสินค้าให้มาส่งที่ร้านทุกๆ สามวันเพราะสินค้าแทบไม่พอต่อความต้องการจากเงินเก็บที่มีหลักหมื่น เพิ่มเป็นหลักแสนเพียงระยะเวลาไม่ถึงสองเดือน

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาเจ้าของร้านชำในยุค70   ตอนที่ 28 บ้านใหม่

    กระเป๋าเสื้อผ้าและของใช้เด็กถูกมัดไว้บนหลังคารถ เจียงหมิงและยายของเขายืนรอส่งครอบครัวสกุลเฉินอยู่ที่หน้าบ้านด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์และซาบซึ้งในบุญคุณที่มอบให้“ผมจะดูแลบ้านสกุลเฉินให้ดี และจะทำให้ร้านขายงานไม้ของผมเจริญรุ่งเรือง หาเงินจ่ายค่าเช่าให้เถ้าแก่ตรงตามเวลาอย่างแน่นอน”“เอาเงินส่วนนั้นใจให้แม่ยายฉันเถอะ ถ้าเธอมาถามนายก็ให้เธอได้เลยไม่ต้องส่งให้ฉัน แต่หากเธอไม่กล้ามาเอานายก็เก็บเอาไว้ ถ้าตอนไหนได้ผ่านมาเมืองนี้ฉันจะแวะมาหา”“ครับเถ้าแก่” เจียงหมิงรับปากด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือคล้ายจะร้องไห้ เฉินอ้ายเฟยเดินเข้าไปกอดขา แล้วดึงชายเสื้อให้เจียงหมิงอุ้มขึ้นไปเขาอุ้มเด็กชายตัวน้อยที่ช่วยเลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะ มือน้อยๆ นั้นวางที่แก้มแล้วเช็ดน้ำตาให้“ไม่ร้องนะอาหมิง” เสียงเล็กๆ ที่พูดไม่ค่อยชัดนั้นพยายามปลอบใจชายหน้าดุจนเขายิ้มออกมา“แล้วพบกันใหม่นะครับนายน้อย” เจียงหมิงวางเด็กชายลง จากนั้นก็เปิดประตูรถส่งคุณชายตัวน้อยขึ้นรถไป ในขณะที่หลี่หยุนฟางอุ้มลูกน้อยวัยสี่เดือนเอาไว้แล้วยิ้มลาเขากับยายจางจินเองก็เดินมาส่งโจวชิงหลิน พร้อมกับขนมให้เอาไว้กินระหว่างทาง“คุณนายเฉินขอ

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาเจ้าของร้านชำในยุค70   ตอนที่ 27 อกตัญญู

    ข้าวของในร้านของร้านขายของชำสกุลเฉินเริ่มร่อยหรอลงไป แต่ก็ไม่มีการซื้อเข้ามาเพิ่ม หลายคนต่างพูดถึงเรื่องนี้ในวงกว้างแม้โจวชิงหลินจะพยายามบอกว่าขายของเพื่อเตรียมจะย้ายบ้านแต่ก็ไม่มีใครเชื่อ และคิดว่าบ้านสกุลเฉินนั้นกำลังตกอับไม่มีเงินซื้อของเข้ามาขายในร้านบ้างก็เชื่อว่าอีกฝ่ายจะย้ายเพื่อหนีหนี้ หากมีเงินเก็บจริง ทำไมบ้านหลังเก่าทรุดโทรมแห่งนี้ถึงไม่ได้รับการต่อเติมให้ดูดี ยิ่งคำพูดออกมาจากปากแม่หม้ายกู่สองแม่ลูก ก็ยิ่งทำให้ชาวบ้านเริ่มพูดถึงเรื่องนี้อย่างหนาหูเฉินเซียนและเจียงหมิง ในช่วงนี้พวกเขาก็ไม่รับทำงานไม้ เดินทางออกไปตั้งแต่เช้าและกลับมาตอนเย็นแทบจะทุกวันเพื่อดูแลงานก่อสร้าง แต่ชาวบ้านกลับมองว่าทั้งสองออกไปหางานทำที่อื่นเพราะว่างานไม้นั้นไม่สามารถขายออกได้แล้ว“อยากรีบไปแล้ว เมื่อไหร่เราจะได้ไปจากที่นี่เสียที” โจชิงหมิงพูดด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความอึดอัด เธอยังใจไม่แข็งพอที่จะรับฟังคำนินทาจากพวกเพื่อนบ้านเหล่านั้นแม้ลูกสะใภ้และลูกชายจะปลอบใจอยู่บ่อยครั้งว่าที่ใหม่นั้นจะดีกว่าที่เดิม แต่เธอยังไม่เห็นกับตา มันจะจริงเท็จแค่ไหนก็ไม่รู้รู้แต่ว่าเงินในบัญชีของบ้านนั้นถูกใช้

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาเจ้าของร้านชำในยุค70   ตอนที่ 26 การกลับมา

    ในฤดูหนาว ปลายปี ค.ศ. 1978 เฉินอ้ายเฟยในวัยขวบเศษกำลังจ้องมองน้องสาวที่กำลังหัดพลิกคว่ำอยู่บนเบาะนิ้วน้อยๆ เลื่อนเข้าไปจิ้มแก้มป่องๆ นั้นด้วยความมันเขี้ยว แต่ก็ทำได้เพียงแค่แตะเบาๆ เพราะกลัวว่าน้องสาวจะเจ็บหลี่หยุนฟางมองภาพที่น่าเอ็นดูนั้น ทั้งสองนอนเล่นอยู่กลางเตียงโดยมีเธอและสามีนอนกั้นขอบเตียงเอาไว้“อากาศหนาวแบบนี้ไม่อยากเปิดร้านขายของเลย อยากนอนขี้เกียจอยู่ในผ้าห่มเสียมากกว่า”หลี่หยุนฟางบ่นแล้วอ้าปากหาวนอน เธอต้องตื่นมาให้นมเฉินเยว่อิงทั้งคืน ตอนนี้จึงไม่อยากลุกตื่นขึ้นไปไหน“แม่บอกว่าไม่ต้องให้คุณออกไปช่วยที่ร้าน ท่านเข้าใจว่าคุณเลี้ยงเด็กๆ เหนื่อยแค่ไหน ไม่ต้องไปฟังเสียงชาวบ้านหรอก ขอแค่เราเข้าใจกันเท่านั้นก็พอ” เฉินเซียนบอกภรรยาด้วยน้ำเสียงที่นุ่มปากของสองแม่ลูกสกุลกู่ที่เป็นม่ายทั้งสอง หม้ายกู่เล็ก หม้ายกู่ใหญ่ เป็นปากที่ช่างไม่เคยอยู่สุขรู้ทั้งรู้ว่าภรรยาของเขากำลังเลี้ยงลูกน้อยทั้งสองคนจนไม่มีเวลาพักผ่อน มารดาของเขาจึงออกไปช่วยขายของที่ร้านชำ แต่กลับนินทาว่าเธอขี้เกียจไม่ทำงานปล่อยให้แม่สามีและสามีทำงานกันอยู่ลำพัง โดยที่ตัวเองนั่งสุขสบายไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูเหมือนว่าหลี

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาเจ้าของร้านชำในยุค70   ตอนที่ 25 หัวปีท้ายปี

    เฉินอ้ายเฟย ทารกวัยหกเดือนกำลังนั่งบนรถหัดเดินที่เลียนแบบรถหัดเดินในยุคปัจจุบัน ถูกทำขึ้นโดยฝีมือของเฉินเซียนและการออกแบบของหลี่หยุนฟางบริเวณที่นั่งถูกเจาะรูตรงกลางแล้วใส่ผ้าผูกเอาไว้สำหรับนั่ง ความสูงอยู่ในระดับที่ขาแตะพื้นพอดีทำให้เจ้าตัวน้อยสามารถใช้เท้าไถไปมาวิ่งเล่นได้อย่างอิสระในพื้นที่คับแคบอย่างในร้านขายของชำ ตอนนี้จึงได้แต่นั่งนิ่งไม่สามารถขยับไปไหนได้ แต่เท้าก็ยังแตะพื้นโยกไปมาพร้อมทั้งหัวเราะเอิ๊กอ๊ากด้วยความชอบใจ อารมณ์ดีทั้งวันเป็นที่รักและเอ็นดูแก่ผู้พบเห็นรถหัดเดินสำหรับเด็กจึงถูกถามหาเป็นจำนวนมาก มีบางคนบอกว่าเคยเห็นเก้าอี้แบบนี้วางขายในเมืองเป็นสินค้าจากต่างประเทศ ทำให้หลี่หยุนฟางรู้ว่าสิ่งนี้ไม่ใช่ของแปลกใหม่สำหรับยุคนี้ เพียงแค่ที่นี่เป็นชนบทของสิ่งนี้จึงยังมาไม่ถึงเท่านั้นเองแต่ถึงอย่างนั้นก็ได้รับความสนใจของบ้านที่มีเด็กวัยไล่เลี่ยกันกับลูกชายของเธอ ดังนั้นจึงมีคนสั่งทำอยู่จำนวนหนึ่งเพื่อที่จะให้เด็กน้อยได้นั่งและหัดเดิน ในยามที่ผู้ใหญ่กำลังกินข้าวหรือว่าทำงานบ้านจะได้ไม่ต้องคอยอุ้มอยู่ตลอดโจวชิงหลินที่ตอนนี้สามารถเดินได้อย่างคล่องแคล่วราวกับคนที่ไม่เคยเจ็บป่

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาเจ้าของร้านชำในยุค70   ตอนที่ 24 ก่อนกำหนด

    เมื่อฤดูหนาวพ้นไปอากาศก็เริ่มอบอุ่นขึ้น ครรภ์ของหลี่หยุนฟางก็เริ่มขยายใหญ่โตพร้อมที่จะคลอดภายในไม่กี่สัปดาห์นี้แล้วโจวชิงหลินเห่อหลานคนแรกเป็นอย่างมาก ไม่ยอมให้ลูกสะใภ้หยิบจับอะไร แม้กระทั่งยืนขายของที่ร้านก็ยังไม่อยากให้ทำตอนนี้กลายเป็นว่าแม่สามีมาช่วยขายของอย่างเต็มตัว ทั้งจัดของบนชั้น ปัดกวาดฝุ่นที่ติดอยู่ตามสินค้า เดินไปขายซาลาเปาหมั่นโถวหยิบใส่ถุงกระดาษให้ลูกค้า ทำทุกอย่างและให้หลี่หยุนฟางทำหน้าที่เพียงแค่นั่งเฉยๆ บนโต๊ะคิดเงินและลงบัญชีเท่านั้นชุดโต๊ะรับประทานอาหารรูปแบบกลมและเก้าอี้แบบมีพนักพิงของเฉินเซียน ได้ถูกจัดทำขึ้นมาจำนวนเดือนละหนึ่งชุด และขายได้ทันทีหลังจากที่นำมาวางขายที่หน้าร้านตอนนี้กำไรจากการทำงานไม้นั้นยังมากอยู่ เพราะไม่มีต้นทุนอื่นนอกจากค่าแรงของเจียงหมิงและค่าฝีมือกับค่าเสียเวลาของคนทำแต่ในอนาคตป่าไม้จะถูกรัฐบาลสั่งให้ห้ามตัด การตัดไม้จะกลายเป็นเรื่องที่ต้องขออนุญาตอย่างถูกกฎหมาย แน่นอนว่าเมื่อย้ายไปเขตผู่ตงแล้ว หากจะทำเครื่องเรือนพวกนี้จะต้องซื้อไม้มาทำ ต้นทุนก็ย่อมสูงขึ้นแน่นอนหลี่หยุนฟางคุยกับสามีเอาไว้ ว่าในอนาคตกำไรอาจจะน้อยลงเพราะมีต้นทุนเหล่านี้เพิ่

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาเจ้าของร้านชำในยุค70   ตอนที่ 23 ลอบวางเพลิง

    ในยามดึกสงัดของคืนเทศกาลโคมไฟ ที่ร้านขายของชำที่ปิดแล้วคนลึกลับคนหนึ่งกำลังด้อมๆ มองๆ อยู่หน้าร้าน ภายใต้ความมืดคือใบหน้าที่เต็มไปด้วยความมุ่งร้าย ในมือถือโคมไฟ สายตามองที่ร้านขายของชำสกุลเฉินด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความแค้นโคมไฟในมือถูกวางลงที่หน้าร้านชำ พร้อมกับกระดาษจำนวนหนึ่งที่ฉีกออกมาจากตำราเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิง จากนั้นคนลึกลับนั่นก็หย่อนกระดาษลงไปในโคมไฟให้เกิดการเผาไหม้ มองไฟที่ลุกจากโคมไฟยังกระดาษที่ตนเองวางไว้ก่อนจะรีบหนีออกไป“ไฟไหม้ ไฟไหม้” เสียงของคนที่เห็นเปลวเพลิงลุกโชนร้องขึ้นมาเฉินเซียนอยู่ในบ้านกำลังนอนหลับได้ยินเสียงนั้นก็รีบลุกขึ้นออกไปดู เห็นประตูร้านขายของชำมีไฟกำลังลุกไหม้จึงรีบไปหาน้ำมาเพื่อที่จะดับไฟโชคดีที่ไฟลุกแค่ตรงประตูยังไม่ลามเข้าไปในร้าน ทำให้เขาสกัดต้นเพลิงไว้ได้ทันเวลา รวมถึงเพื่อนบ้านที่ผ่านมาเห็นเหตุการณ์ก็ช่วยสกัดไฟไว้ตั้งแต่แรก“ขอบคุณท่านน้าอี้ที่ช่วยเหลือ” เขาบอกแก่เพื่อนบ้านที่ใจดีหลี่หยุนฟางได้ยินเสียงเอะอะโวยวายและสามีไม่อยู่ที่เตียงจึงเดินออกมาดู เธอเห็นที่หน้าประตูร้านชำมีควันขึ้นเป็นจากไฟที่ดับมอดลงไป และเห็นสามีกับเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้า

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาเจ้าของร้านชำในยุค70   ตอนที่ 22 เทศกาลโคมไฟ

    ร้านขายของชำสกุลเฉิน นอกจากจะจัดรายการสินค้าราคาหนึ่งหยวนประจำสัปดาห์ ที่สับเปลี่ยนกันไปมาให้ได้เลือกซื้อกันแล้วยังมีซาลาเปาและหมั่นโถวขายที่หน้าร้าน เผือกทอดเค็มหวานที่ก่อนหน้านี้หลายบ้านพยายามทำเลียนแบบ แต่ก็สู้ต้นทุนน้ำมันในการทอดไม่ได้อีกทั้งรสชาติที่ออกมาก็ไม่ใกล้เคียงกับที่หลี่หยุนฟางทำ ทุกคนจึงคิดว่าซื้อกินเองน่าจะคุ้มกว่าค่ากว่าในราคาเพียงสามเหมานอกจากนี้ในช่วงฤดูหนาว สินค้าที่ได้รับความนิยมได้แก่ ชุดโลชั่นบำรุงผิวรูปแบบใหม่ที่ร้านนำมาวางขาย เนื้อหมักเครื่องเทศที่เสียบไม้พร้อมย่างขายเป็นชุดละสิบไม้ในราคาหนึ่งหยวนและเพราะอากาศที่หนาวหนาวเย็นทำให้รักษาอุณหภูมิสินค้าสดได้ดี หลี่หยุนฟางจึงได้ทำชุดอาหารกึ่งสำเร็จขายสำหรับรับประทานหนึ่งคนชุดแกงจืดหมูสับทรงเครื่อง ชุดหมูทอดราดซอสเปรี้ยวหวาน และชุดไก่หมักเครื่องเทศ ที่ใครซื้อแล้วก็นำไปปรุงสุกก็สามารถรับประทานได้เลยอาหารกึ่งสำเร็จเป็นที่นิยมแก่คนที่ไม่อยากฝ่าลมหนาวไปตลาด ร้านขายของชำสกุลเฉินจึงเป็นร้านค้าที่ได้รับความนิยมในระดับตำบล หมู่บ้านใกล้เคียงก็ยังมาซื้อของจับจ่ายที่นี่ในส่วนงานไม้ของเฉินเซียนนั้น ตอนนี้เขาเริ่มรับงานน้อย

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status