แชร์

65 : ซือซือข้ากลัว

ผู้แต่ง: หิมะที่ปลิดปลิว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-26 11:19:20

65 : ซือซือข้ากลัว

ก่อนเริ่มออกเดินทางอีกครั้ง คนของโหย่วหย่งอี้ได้มารายงานเรื่องสำคัญ เส้นทางที่พวกเขาต้องเดินทางผ่านนั้น ถูกข้าศึกบุกเข้าไปยึดพื้นที่หมดเสียแล้ว

“เหตุใดพวกมันถึงได้ยึดที่นั่นได้เร็วนัก” โหย่วหย่งอี้ไม่เข้าใจเรื่องนี้

“เป็นกองทหารม้า มาจากอีกฝั่งหนึ่งของเมืองขอรับ” ลูกน้องคนที่นำข่าวมาแจ้งรีบอธิบายเพิ่ม

“กองทหารม้าเช่นนั้นรึ เราไปทางเดิมไม่ได้แล้ว ท่านลุงหลูท่านมีความเห็นว่าอย่างไร”

“ทางราบไปไม่ได้แล้วขอรับคุณชายรองอันตรายเกินไป เราคงต้องไปเส้นทางอื่น” หลูจิ่นฟานนำแผนที่ของเขาออกมากางดู พบเส้นทางบนเทือกเขาที่พอจะผ่านไปได้ แต่ค่อนข้างอันตรายเพราะมีโจรป่าคอยดักซุ่มโจมตีอยู่

หลูจิ่นฟานนำเรื่องนี้มาบอกแก่ผู้ใหญ่บ้าน เพราะเขาเป็นหัวหน้าชาวบ้านที่เดินทางร่วมกันไป ผู้ใหญ่บ้านไม่อาจตัดสินใจเองได้ เขานำเรื่องนี้ไปหารือกับชาวบ้านทุกคน หลายคนส่งเสียงโอดโอยด้วยความผิดหวัง ไม่คิดว่าเส้นทางหลักที่ใช้เดินทาง จะถูกข้าศึกยึดไปในเวลาอันรวดเร็ว

“พวกชาวบ้านที่แยกไปอีกทางล่ะขอรับ” ท่านหมออวี่นึกห่วงกลุ่มที่แยกไปก่อนหน้า
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   66 : โจรป่าบุก

    66 : โจรป่าบุก เสียงของชาวบ้านดังไกลออกไปเรื่อย ๆ เหลือเพียงกลุ่มของโหย่วหย่งอี้ กับคนบ้านสกุลเซี่ยที่ยังอยู่ที่เดิม หลูจิ่นฟานนึกสงสัยคนบ้านนี้นัก เขาเดินเข้าไปถามเซี่ยฉางใกล้ ๆ ว่าเหตุใดถึงไม่ตามชาวบ้านไป “เด็กอาซือนั่นจะไปรู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไร ข้าไม่เชื่อนางหรอกขอรับ อยู่กับพวกท่านน่าจะปลอดภัยที่สุดแล้ว” เซี่ยฉางไม่เคยเชื่อหลานสาวของตนเองสักครั้ง ที่ผ่านมานางก็แค่โชคดีเท่านั้นเอง “นางก็แค่โกหกชาวบ้านไปวัน ๆ ท่านหลูก็อย่าไปโดนนางหลอกเสียล่ะ” แม่เฒ่าเซี่ยได้ทีซ้ำเติมเซี่ยซือซือเข้าไปอีก “นั่นไม่ใช่หลานสาวของพวกท่านหรอกรึ” “ก็เพราะว่าเป็นหลานสาวน่ะสิ ข้าถึงรู้จักนิสัยใจคอนางเป็นอย่างดี ใครจะเชื่อนางก็เชื่อไปเถอะ ข้าไม่เชื่อหรอก” แม่เฒ่าเซี่ยทำเสียงเย้ยหยันเต็มที่ สวบ ! สวบ ! เสียงฝีเท้าเหมือนคนวิ่งเร็ว ๆ ตรงมาทางนี้ ทุกคนต่างหันไปให้ความสนใจเป็นสายตาเดียวกัน พบคนที่หลูจิ่นฟานส่งไปดูลาดเลาบนเขาก่อนหน้า เขาตรงมากำหมัดคำนับให้หลูจิ่นฟาน “มีโจรป่ากำลังลงมาจากเขาจริง ๆ ขอรับท่านหลู” เสียงรายงานเต็มไปด้วยลมห

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   67 : ค่ายทหารเมืองอี๋หลิง    

    67 : ค่ายทหารเมืองอี๋หลิง ทุกคนผ่านค่ำคืนอันเลวร้ายมาได้ ด้วยการนำทางของเซี่ยซือซือ หลูจิ่นฟานยังไม่เข้าใจว่าทำไม นางถึงรู้จักเส้นทางในความมืดได้ อีกทั้งยังสามารถบอกได้ จุดไหนมีหลุมมีบ่อหรือก้อนหินขวางทาง ในยามนี้เขาเริ่มเชื่อชาวบ้านขึ้นมาแล้ว ที่ว่านางมีลางสังหรณ์อันดีเยี่ยม ยามเหม่า[1] เซี่ยซือซือให้ทุกคนหยุดพักและหลับเอาแรงก่อนได้ นางเห็นแล้วว่าพวกโจรป่า พากันกลับขึ้นภูเขาไป ส่วนเจียงฉีหมิงได้นำลูกน้องทั้งหมดตามหลังทุกคนมา นางทำเช่นนี้เพื่อรอพวกเขาอีกด้วย เพราะมีสามคนในกลุ่มของเจียงฉีหมิงได้รับบาดเจ็บ จำเป็นต้องให้ท่านหมออวี่ช่วยรักษา ขณะที่ชาวบ้านกำลังทำมื้อเช้ากันอยู่นั้น เจียงฉีหมิงได้พาคนของเขาตามมาทันพอดี ท่านหมออวี่รีบเข้าไปทำการรักษา คนที่ได้รับบาดเจ็บได้อย่างทันท่วงที เป็นไปตามที่เซี่ยซือซือคาดการณ์เอาไว้ เพราะเหตุการณ์ฉุกละหุก ทุกคนจึงกลับมากินข้าวหม้อเดียวกันอีกครั้ง โดยแบ่งเสบียงของแต่ละบ้านมารวมกัน บ้านสกุลเซี่ยแม้จำใจต้องทิ้งเสบียงที่อยู่บนรถเข็น แต่พวกเขายังมีเสบียงอยู่จำนวนหนึ่ง ยังพอให้ได้กินไปได้อีกหลายวัน เซี่ย

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   68 : เสี่ยวเป่าไม่ไปกับข้ารึท่านพี่     

    68 : เสี่ยวเป่าไม่ไปกับข้ารึท่านพี่ ทุกคนนั่งพักหายเหนื่อยได้ราวสองเค่อ ทหารที่ออกไปช่วยขับไล่ข้าศึกก็กลับเข้ามา พร้อมกับข่าวดีว่าข้าศึกล่าถอยออกไปหมดแล้ว ทุกคนต่างกล่าวขอบคุณกองทัพเมืองอี๋หลิง ที่ช่วยปกป้องชีวิตของผู้ลี้ภัย “ผู้นำกองทหารออกไปขับไล่ข้าศึก คือคุณชายใหญ่โหย่วหยางหลง ลูกชายคนโตของแม่ทัพโหย่วตงหยางของเมืองเว่ย์เชียวนะ โชคดีของเมืองอี๋หลิงแล้วที่ได้คุณชายใหญ่ผู้นี้ มาช่วยขับไล่พวกทหารแคว้นฉี” เสียงชาวบ้านผู้หนึ่งเอ่ยขึ้น ทำให้ทุกคนมองไปยังผู้นำกองทหาร ที่กำลังขี่ม้าเข้ามาในกำแพงเมือง ด้วยสายตาแห่งความชื่นชม “เจ้ารู้ได้อย่างไร” “บ้านเดิมข้าอยู่เมืองเว่ย์ ช่างห้าวหาญเหมือนบิดาไม่มีผิด” “จริงด้วย น่าเกรงขามยิ่งนัก แต่เหตุใดถึงได้มาอยู่เมืองอี๋หลิงได้ล่ะ ได้ข่าวว่าเป็นรองแม่ทัพของเมืองเว่ย์เชียวนะ” “เรื่องนี้ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน” “เหตุใดถึงมีคนหน้าเหมือนพี่เขยเพิ่มมาอีกคนเล่า” เสียงของเซี่ยซือหยางทำให้ชาวบ้านต่างหันมามองถานจ้านกันหมด ก่อนจะหันกลับไปมองโหย่วหยางหลง สลับกันไปมาอยู่อย่างนั้น “เหม

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   69 : จ่ายห้าสิบตำลึงมา ข้าพร้อมตัดขาดจากพวกมัน

    69 : จ่ายห้าสิบตำลึงมา ข้าพร้อมตัดขาดจากพวกมัน เช้าวันต่อมาเซี่ยซือซือถึงได้รับคำตอบจากชาวบ้าน ว่าพวกเขาตัดสินใจอยู่ที่นี่กันหมด กระทั่งครอบครัวของแม่เฒ่าเซี่ยเอง แม้ว่าคนบ้านใหญ่อยากเดินทางต่อไปยังเมืองเว่ย์ แต่พวกเขาไม่มีเสบียงที่จะใช้กินอยู่ระหว่างทาง จึงตัดสินใจทำแบบชาวบ้านทั้งหมด มีเพียงคนบ้านสกุลถานที่ตัดสินใจไปต่อ แต่พอแม่เฒ่าเซี่ยเห็นว่าคนบ้านสกุลถาน ออกไปหาซื้อรถม้าและขนเสบียงมาเต็มคันรถ นางเกิดโลภมากอยากได้ขึ้นมา ต่างพาลูกหลานวิ่งเข้าไปแย่งชิงเอา จนเกิดการลงไม้ลงมือกันขึ้น เซี่ยฮุ่ยหนิงถูกเซี่ยซือซือตบกระเด็นไปนอนกองอยู่บนพื้น โทษฐานมาแย่งของของน้องสาวนาง ส่วนเซี่ยเวยอันก็ถูกถานจ้านถีบกระเด็นไปอีกทาง เพราะมาแย่งของในมือของเซี่ยซือหยาง เซี่ยฉางกับเซี่ยชุนเห็นว่าลูก ๆ ของตนถูกทำร้าย ต่างก็วิ่งเข้าไปช่วยเหลือ แต่เพราะเหตุใดก็ไม่รู้ ถึงได้สู้แรงของถานจ้านกับเซี่ยซือซือไม่ได้ ถูกพวกนั้นถีบกระเด็นไปคนละทิศทาง “เป็นไปได้อย่างไร” นางจงกอดลูกสาวเอาไว้แน่น ไม่กล้าเข้าไปลงมือเหมือนคนอื่น ได้แต่มองสามีกับลูกชายถูกคนบ้านสกุลถาน ตบตีจนล้มไปกองอยู่บน

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   70 : มุ่งหน้าสู่เมืองเว่ย์

    70 : มุ่งหน้าสู่เมืองเว่ย์ เจียงฉีหมิงเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น เขานำเรื่องนี้กลับไปรายงานโหย่วหย่งอี้ หลังจากได้รับคำสั่งให้มาดูชาวบ้าน ว่าตัดสินใจทำอย่างไรต่อ ขณะที่เขาเอ่ยเรื่องนี้สามพี่น้องตระกูลโหย่ว ต่างนั่งอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน “พวกเขาไม่ไปเมืองเว่ย์กันนี่เอง” โหย่วหย่งอี้ไม่แปลกใจเท่าใดนัก สภาพของชาวบ้านดูไม่อยากจากบ้านเกิดไปไกล “ขอรับ มีเพียงคนบ้านสกุลถานที่ไปครอบครัวเดียว” “คนบ้านสกุลถาน ใช่คนที่ท่านลุงหลูรู้จัก ที่ว่าเคยเป็นคนใช้เก่าจวนแม่ทัพคนนั้นใช่ไหม” โหย่วหย่งอี้ถามย้ำเพื่อความแน่ใจ “ใช่ขอรับคุณชายรอง ลูกสะใภ้กับน้อง ๆ ของนางด้วย อีกเรื่องนางทะเลาะกับท่านย่าของนาง ถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน สุดท้ายเลยต้องทำหนังสือตัดขาดจากกัน” “ตัดขาด ?” โหย่วหย่งอี้นึกสงสัย เจียงฉีหมิงเลยเล่าให้ละเอียดขึ้นกว่าเดิม แทบไม่มีตกหล่นแม้แต่เหตุการณ์เดียว “ห้าสิบตำลึงแลกกับการตัดขาดจากสกุลเดิมอย่างนั้นรึ เซี่ยซือซือผู้นี้ช่างใจเด็ดนัก” โหย่วหยางหลงได้ยินแล้วก็รู้สึกชื่นชมเซี่ยซือซืออยู่ไม่น้อย เป็นสตรีอายุยังน้อยแต่กลับก

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   71 : ลอบสังหารในโรงเตี๊ยม  

    71 : ลอบสังหารในโรงเตี๊ยม เซี่ยซือซือกางแผนที่หนังแกะดูอยู่บ่อยครั้ง นางหารือกับถานจ้านตลอดการเดินทาง ทั้งคู่ทำหน้าที่บังคับรถม้าเคียงข้างกัน บนศีรษะของพวกเขามีหมวกสานใบใหญ่ครอบอยู่ เซี่ยซือซือซื้อหมวกที่มีผ้าโปร่งแสงติดอยู่ นางไม่อยากให้เศษฝุ่นปลิวเข้าตา เสื้อผ้าที่สวมใส่ก็รัดแขนให้ทะมัดทะแมง ทั้งคู่ทดลองบังคับรถม้าแค่ไม่กี่ครั้ง ก็สามารถออกเดินทางได้ นับว่าเป็นความสามารถ แบบก้าวกระโดดทั้งสองคน เซี่ยซือซือนอกจากจะให้น้ำพุวิเศษแก่คนแล้ว นางยังมอบน้ำพุวิเศษให้ม้าทั้งสองตัวอีกด้วย พวกมันดูกระฉับกระเฉงขึ้นทันตา พอถึงทางตรงก็ออกแรงวิ่งอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย มีชะลอแค่ช่วงที่เป็นเส้นทางขรุขระและเป็นหลุมบ่อมากเกินไป เซี่ยซือหยางร้องไห้จนเหนื่อย และหลับอยู่ในอ้อมกอดของนางถานไป โชคดีที่เซี่ยซือซือซื้อผ้าห่มบุปุยฝ้ายอย่างหนามาด้วย นางต้องการใช้ปูให้ทุกคนได้นอนบนรถม้า กระทั่งเบาะนั่งตรงคนขับนางก็หาซื้อแบบหนาพิเศษมา “ด้านในเป็นอย่างไรบ้าง” ถานจ้านถามเมื่อถึงเส้นทางผ่านป่าไผ่ เขาบังคับรถม้าให้วิ่งไปช้า ๆ คนในรถม้าด้านหลังเงียบเสียงไปนานแล้ว จึงให้ภรรยาเข้าไปส่อง

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   72 : ข้าไม่ใช่หมอจะมีย่ามยาได้อย่างไร      

    72 : ข้าไม่ใช่หมอจะมีย่ามยาได้อย่างไร จ้าวเลี่ยงหลิงมองดูองครักษ์ของตนด้วยสายตาเคร่งเครียด เขาเดินทางออกมาปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของบิดา ให้เดินทางไปยังเมืองเว่ย์ ระหว่างทางกลับเจอคนลอบทำร้ายมาตลอด ซ้ำร้ายยังเจอข้าศึกบุกโจมตีแต่ละเมืองที่เดินทางผ่าน ทำให้เขาต้องเปลี่ยนเส้นทางไปเมืองเว่ย์ จนได้มาเข้าพักที่โรงพักม้าแห่งนี้ ไม่คิดว่าคนร้ายยังตามมาสังหารเขาในค่ำคืนนี้อีก คนของเขาได้รับบาดเจ็บหนัก และหาหมอรักษาได้ยากยิ่งนัก “มู่เหยียนเค้นคอพวกมันได้การหรือไม่” “พวกมันชิงฆ่าตัวตายไปเสียก่อน ขออภัยที่ข้าไม่อาจสืบหาคนจ้างวานได้” จีมู่เหยียนเป็นองครักษ์พระจำตัวของจ้าวเลี่ยงหลิง คนร้ายที่ถูกจับกุมชิงกัดยาพิษที่ซ่อนไว้ในฟัน กระอักเลือดตายไปต่อหน้าต่อตา ทำให้เขาไม่อาจสืบหาความจริงได้ “เจ้าว่าใช่คนของรัชทายาทหรือไม่” “เรื่องนี้ข้าไม่อาจออกความเห็นได้ขอรับ” “ช่างเถอะ ข้าไม่ได้มีกองทหารที่เป็นภัยต่อรัชทายาทเสียหน่อย เหตุใดยังมุ่งเป้ามาสังหารข้าอีก” “เกรงว่าอาจจะเป็นเรื่องที่ท่านเดินทางไปยังเมืองเว่ย์ ท่านอ๋องเจ็ดมีกองกำลัง

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   73 : พี่จ้านข้าขอโทษ 

    73 : พี่จ้านข้าขอโทษ คนบ้านสกุลถานนอนหลับสนิทจนถึงเช้า พวกเขาตื่นมาอีกทีเป็นเวลายามเฉิน[1]แล้ว นางถานเป็นคนตื่นนอนคนแรก นางมองดูลูกชายลูกสะใภ้ นอนกอดกันกลมบนเตียงนอน หัวใจพลันรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นทั้งคู่ได้นอนด้วยกัน “ท่านป้าเช้าแล้วหรือ” เซี่ยซือหยางลุกขึ้นมานั่งขยี้ตาแบบงุนงง “เช้าแล้วเจ้านอนต่ออีกหน่อยดีหรือไม่เสี่ยวซือหยาง” “อื้ม” เจ้าตัวน้อยทิ้งตัวลงไปนอนอีกหน นางถานลูบศีรษะของเขาเบา ๆ ก่อนดึงผ้าห่มขึ้นคลุมให้เซี่ยซานซาน ให้พวกเขานอนต่ออีกสักหน่อยก็แล้วกัน ตัวนางลุกออกจากห้องไป ให้คนหาน้ำมาล้างหน้าล้างตา จากนั้นก็เดินไปถามเสี่ยวเอ้อร์ ว่าทางโรงเตี๊ยมสามารถเตรียมอาหารเช้าให้ได้หรือไม่ “ห้องครัวของเรายังสามารถทำอาหารได้อยู่ขอรับ” เสี่ยวเอ้อร์ตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “เช่นนั้นก็ดี” นางถานเลือกรายการอาหารง่าย ๆ สำหรับมื้อเช้าของทุกคน กลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง ทุกคนกลับตื่นนอนกันหมดแล้ว นางเลยให้คนยกน้ำเข้ามาให้ล้างหน้าล้างตากัน “ข้าสั่งเขาทำมื้อเช้าให้แล้ว พวกเราไปนั่งกินที่ห

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   114 : ยวนยางคู่ (จบ)

    114 : ยวนยางคู่ (จบ) สองเดือนต่อมา เสียงประทัดจุดขึ้นตรงหน้าคฤหาสน์ตระกูลเซี่ย ถานจ้านเป็นฝ่ายแต่งเข้ามาเป็นเขยของตระกูล คนนอกไม่รู้มักคิดติฉินนินทา แต่การที่เซี่ยซือซืออยู่กับสองแม่ลูกตระกูลถานมาตั้งแต่ต้น พวกเขาเป็นหนึ่งเดียวกันมาหลายปีแล้ว ไม่แบ่งแยกว่าใครต้องแต่งเข้าบ้านใคร นางถานเองย่อมรู้ว่าการที่บุตรชายแต่งเข้าบ้านของภรรยา เป็นเพราะเขาต้องการช่วยนางดูแลน้อง ๆ ทั้งสองคน ตัวนางเองมีวันนี้ได้เพราะเซี่ยซือซือเช่นเดียวกัน “เจ้าไม่เสียใจแน่นะเหลี่ยฮวา” แม่เฒ่าจางแอบถามก่อนพิธีเริ่มต้นขึ้น “ข้าไม่เสียใจเจ้าค่ะแม่เฒ่าจาง ลูกชายข้ายังใช้แซ่ของข้ามาตั้งแต่เกิด ข้าไม่สนใจเรื่องชื่อแซ่หรอกเจ้าค่ะ สนใจแค่ว่าเขามีความสุขในชีวิตหรือไม่ ข้าเคยถามเรื่องซื้อเรือนเป็นของตัวเอง จ้านเออร์ปฏิเสธในทันที เขาไม่ยอมแยกจากซือซือไปไหน และรู้ว่านางเองก็ไม่สามารถแยกจากน้อง ๆ ไปได้เช่นเดียวกัน พวกเราอยู่ด้วยกันเช่นนี้ก็มีความสุขดีแล้วนี่เจ้าคะ ยังท่านมีครอบครัวอาจารย์ฮู่ ล้วนแล้วแต่เป็นครอบครัวเดียวกัน” “เจ้าคิดเช่นนี้ย่อมดีแก่พวกเขา อย่าไปฟังเสียงผ

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   113 : ขอแต่งงาน

    113 : ขอแต่งงาน ถานจ้านพานางไปเลือกซื้อโคมไฟอันใหม่ จากนั้นก็ชวนกันไปล่องเรือในบึง เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศของผืนน้ำ ที่สะท้อนแสงเป็นดวงไฟน้อยใหญ่เต็มไปหมด ฝีพายยืนอยู่ด้านหลังทำเป็นไม่สนใจคู่สามีภรรยา ที่กำลังอิงอกซบไหล่กันอยู่ ถานจ้านถอดเสื้อคลุมขนสุนัขจิ้งจอกออกคลุมให้ภรรยา “ซือซือ” “หืม” “เจ้าอายุสิบแปดแล้วนะ” “อื้ม” “เราแต่งงานกันเถอะ” เซี่ยซือซือ “...” นางรีบดันศีรษะตัวเองออก เงยหน้ามองเขาด้วยความงุนงง “ไม่ใช่เราเป็นสามีภรรยากันแล้วรึ” “ใช่ แต่เราไม่เคยเข้าพิธีแต่งงานกัน และยังไม่เคยร่วมหอ” ทำไมเซี่ยซือซือได้ยินแล้วรู้สึกว่า เขาย้ำสองคำสุดท้ายแบบแปลก ๆ ก้มลงเล่นนิ้วมือตัวเองเงียบ ๆ “ร่วมเหอหรือ” พวงแก้มแดงปลั่ง ภายใต้แสงจากโคมไฟที่แขวนไว้ตรงหัวเรือ “เจ้าเคยเล่าให้ข้าฟังว่า โลกของเจ้าบุรุษขอสตรีแต่งงาน จะสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้าย” ถานจ้านล้วงหยิบแหวนหยกเนื้อดีสีขาวออกมาจากแขนเสื้อ บรรจงสวมใส่บนนิ้วนางข้างซ้ายให้นาง “แต่งงานกับข้านะซือซือ” เซี่ยซือซือมองแหวนบนนิ้ว

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   112 : ชีวิตในเมืองหลวง

    112 : ชีวิตในเมืองหลวง เมื่อแคว้นฉีแพ้สงครามย่อยยับ เพื่อแสดงความจริงใจว่าจะไม่บุกแคว้นจ้าวในช่วงสิบปีนับจากนี้ พวกเขาจึงยอมส่งองค์ชายหกซึ่งมีอายุเพียงห้าปี มาเป็นตัวประกันที่แคว้นจ้าว หลังจากนั้นเพียงห้าเดือน เมืองหลวงได้เกิดเหตุวุ่นวายขึ้น เนื่องจากฮ่องเต้ทรงสวรรคตลงด้วยโรคร้าย ท่านอ๋องเจ็ดกับท่านอ๋องห้าจึงต้องนำทัพ เข้าไปปราบปรามขุนนางชั่วที่ก่อกบฏ และปลดองค์รัชทายาทผู้ไร้ความสามารถลงจากบัลลังก์ ท่านอ๋องเจ็ดได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย ให้ขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้องค์ถัดไป เมืองหลวงที่เคยเต็มไปด้วยขุนนางชั่ว กลับถูกกำจัดทิ้งไปในเวลาเพียงสองปีกว่า แน่นอนว่าคนที่อยู่เบื้องหลัง คอยเฝ้าดูคนชั่วและชี้เป้าหมายความผิดได้อย่างแม่นยำ ยังเป็นเซี่ยซือซือคนเดิม แม้นางไม่ขอรับตำแหน่งใด ๆ เพราะอยากทำการค้าเพื่อความร่ำรวย แต่หากมีเรื่องสำคัญจริง ๆ อยากให้นางช่วย นางก็พร้อมช่วยเหลือด้วยความเต็มใจ แม่ทัพโหย่วถูกย้ายมาเป็นแม่ทัพประจำเมืองหลวง ฮ่องเต้ได้มอบจวนให้เขาได้อยู่อาศัยอย่างสมเกียรติ และมอบตำแหน่งให้บุตรชายทั้งสอง โหย่วหยางหลงได้เป็นหัวหน้าองครักษ์เสื้อแพร แม้เขาแขนพ

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   111 : ขับไล่ข้าศึก

    111 : ขับไล่ข้าศึก เซี่ยซือซือนอนไปได้เพียงหนึ่งชั่วยามเศษ ท่านอ๋องเจ็ดก็ส่งคนมาตามนางที่กระโจม ให้นางตรวจสอบดูสถานการณ์ที่ค่ายของข้าศึก เซี่ยซือซือใช้เวลาไม่นานก็พบว่าฤทธิ์ของยาเริ่มทำงาน ท่านหมอใช้ยาที่ทำให้ร่างกายอ่อนแรง ไร้รสไร้กลิ่นไร้สี ม้าศึกนับหมื่นตัวล้มเกลื่อนอยู่บนพื้น ส่วนทหารหนึ่งในสี่ต่างก็ลุกไม่ขึ้นเช่นกัน “ได้ผลเจ้าค่ะท่านอ๋อง แม้จำนวนที่ได้รับยาไม่มากนัก แต่ก็ทำให้กองทหารม้าทมิฬไร้อาชาสู้รบได้จริง ๆ” “เช่นนั้นดี ออกคำสั่งไปให้เตรียมตัวออกรบ ส่งข่าวให้ทางซื่อจื่อได้รู้ด้วย” ท่านอ๋องเจ็ดจะรุกฆาตข้าศึกในเช้านี้ เซี่ยซือซือตัดสินใจพูดเรื่องน้ำพุวิเศษกับท่านอ๋องเจ็ดตามลำพัง นางไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องนี้มากนัก แต่ทหารนับแสนนาย นางไม่สามารถลงมือคนเดียวได้ “เจ้าบอกว่าน้ำพุวิเศษสามารถทำให้กำลังวังชาเพิ่มขึ้นได้เช่นนั้นรึ” “เจ้าค่ะ ท่านลองดื่มดูก็ได้แต่แค่อึกเดียวพอนะเจ้าคะ มันช่วยในการรักษาเป็นหลัก ร่างกายคนปกติหากดื่มเกินหนึ่งอึก มันจะส่งผลเสีย” นางล้วงหยิบขวดน้ำพุวิเศษยื่นให้ท่านอ๋องเจ็ด ท่านอ๋องเจ็ดรับข

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   110 :  กำจัดหน่วยสอดแนม

    110 : กำจัดหน่วยสอดแนม ซื่อจื่อได้รับจดหมายเตือนแล้วถึงกับหน้าดำคล้ำในทันที หากไม่มีการเตือนจากฝั่งท่านอ๋องเจ็ด เขาคงไม่ได้สนใจข้าศึกที่แอบมาด้านข้างเป็นแน่ รีบออกคำสั่งให้ทหารหลักสามหมื่นนาย ดักซุ่มโจมตีข้าศึกที่จ้องทำลายคลังเสบียงในคืนนี้ ส่วนข้าศึกด้านหน้าที่แสร้งทำเป็นบุกโจมตี ก็ให้กองทัพย่อย ๆ ออกไปจัดการส่วนหนึ่ง ที่เหลือตรึงกำลังอยู่กับที่ ห้ามผลีผลามโดยเด็ดขาด ยามดึกทหารทั้งสองฝั่งต่างทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ ถานจ้านนำทหารร้อยนาย ตามด้วยเซี่ยซือซือกับอาจารย์ฮู่ ลอบเข้าไปโจมตีหน่วยสอดแนมของอีกฝ่าย หนนี้พวกมันมากันเพียงสิบสองคน แบ่งออกเป็นสองกลุ่มกลุ่มละหกคน เซี่ยซือซือชี้เป้าให้พลธนูโจมตีได้อย่างง่ายดาย จากนั้นนางก็ปลีกตัวไปช่วยสามีกับอาจารย์ฮู่ หน่วยสอดแนมทั้งแปดกลายเป็นศพในเวลาอันรวดเร็ว “จุดพลุส่งสัญญาณ” นางสั่งทหารด้านหลัง ปัง ! ปัง ! ตามที่ตกลงกันไว้ หากพลุส่งสัญญาณดังขึ้น รุ่งเช้าทหารทุกนายต้องเดินทางลงจากเทือกเขาชิงเทียนอย่างเงียบ ๆ กลุ่มของถานจ้านจะเดินทางนำหน้าไปก่อน เพื่อที่จะได้ส่งสัญญาณบอกคนด้านหลังเป็นระยะ เป

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   109 : เข้าสู่สมรภูมิรบ

    109 : เข้าสู่สมรภูมิรบ เรือนโหย่วเสวี่ยหยา เซี่ยซานซานฝึกฝนวรยุทธ์กับคุณหนูสามจนเหนื่อยล้า นางกำลังนั่งกินขนมที่สาวใช้นำมาให้ ส่วนโหย่วเสวี่ยหยาขอตัวเข้าไปอาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน ความจริงนางชวนเซี่ยซานซานไปอาบน้ำด้วย แต่เซี่ยซานซานปฏิเสธไม่อยากรบกวน “เหตุใดเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่” เสียงนุ่มทุ้มของโหย่วหยางหลงดังขึ้นอยู่ด้านหลัง “คุณชายใหญ่” เซี่ยซือซือรีบลุกขึ้นโค้งศีรษะให้เขา “ข้าเห็นสาวใช้บอกว่าเสวี่ยหยามีแขก นึกว่าจะเป็นใครที่ไหนเสียอีก นั่งลงสิเจ้ากำลังกินขนมอยู่ไม่ใช่รึ” “เจ้าค่ะ” เซี่ยซานซานไม่อยากอยู่กับคนผู้นี้ตามลำพัง นางเหมือนเด็กน้อยขี้ขลาด มองไปทางประตูห้องของโหย่วเสวี่ยหยาตลอดเวลา “เหตุใดถึงไม่นั่ง รังเกียจข้ารึ” “มะไม่ใช่เจ้าค่ะ ข้านั่งแล้ว” นางไม่กล้ามองสบสายตากับเขาด้วยซ้ำ นั่งลงบนเก้าอี้อย่างจำใจ “กลัวข้ารึ” มุมปากของโหย่วหยางหลงกระตุกเบา ๆ นึกอยากแกล้งเด็กสาวคนนี้ขึ้นมา “เจ้ามาฝึกวรยุทธ์กับน้องสามของข้า เหตุใดไม่มาลองฝึกกับข้าดูบ้างล่ะ” “ข้าฝีมืออ่อนหัดนัก ไม่บังอาจไ

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   108 :  รักษาท่านอ๋องห้า   

    108 : รักษาท่านอ๋องห้า แม่เฒ่าจางกับเสี่ยวเป่าเริ่มปรับตัวเข้ากับทุกคนได้แล้ว นางคอยช่วยเหลืองานบ้านทุกอย่าง ไม่ทำตัวนิ่งดูดายแต่อย่างใด แม้ว่านางถานจะบอกให้อยู่เฉย ๆ ไม่ต้องทำอันใด แต่ความเกรงใจของหญิงชรานั้นมีมากเหลือเกิน เซี่ยซือซือเลยปล่อยให้ท่านทำไป การอยู่เฉย ๆ จะยิ่งทำให้รู้สึกเครียด นางคอยกำชับแม่เฒ่าจางว่า นางมีเงินสามารถเลี้ยงดูทั้งคู่ได้ ไม่ต้องคิดว่านางจะลำบาก แม่เฒ่าจางถึงได้วางใจ “ท่านพี่ข้าไปหาคุณหนูสามได้หรือไม่” เซี่ยซานซานอยากเจอหน้าโหย่วเสวี่ยหยา นางอยากรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นอย่างไร ถอนหมั้นไปแล้วทางซื่อจื่อจะตำหนินางหรือไม่ “อืม” เซี่ยซือซือคิดหนักเพราะนางต้องไปทำงานนี่สิ “ไปเพิ่มอีกคนคงไม่เป็นไรหรอกซือซือ” ถานจ้านหน้าน้องสาวภรรยาแล้วรู้สึกสงสาร “แล้วน้องเล็กล่ะ” เซี่ยซือซือมองหาน้องชายบ้าง เพราะปกติเซี่ยซานซานจะเป็นคนคอยดูแลเขา เซี่ยซานซาน “เขาเล่นอยู่กับเสี่ยวเป่าหลังบ้านเจ้าค่ะ มีหนิงเซียนคอยดูอยู่” “เจ้าเข้าไปบอกท่านแม่ไว้ก่อน เผื่อไม่เห็นเจ้าท่านจะเป็นห่วงเอา” “ได้ท่านพี่” เซี่ยซา

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   107 : คุณชายเริ่นก้งเยว่กับพี่หญิงใหญ่

    107 : คุณชายเริ่นก้งเยว่กับพี่หญิงใหญ่ วันต่อมาโรงประมูลหยางชุนกระจายข่าวออกไปอย่างหนาหู ว่าคุณชายเริ่นก้งเยว่ได้นำของล้ำค่ามาร่วมประมูล ผู้คนต่างแห่มาซื้อตั๋วเข้าชมกันอย่างล้นหลาม รวมไปถึงคนในจวนท่านอ๋องห้าด้วย “เจ้าแน่ใจนะว่าข้าเหมือนสตรีแล้ว” สตรีร่างสูงอย่างถานจ้านเริ่มรู้สึกประหม่า เขาแอบออกมาแต่งตัวที่โรงเตี๊ยมด้านนอก เพราะไม่อยากให้คนในบ้านรู้เรื่องนี้ “พี่หญิงใหญ่เหตุใดไม่เชื่อมือข้าล่ะขอรับ” เซี่ยซือซือที่อยู่ในชุดของคุณชายเริ่นก้งเยว่กลั้นขำแทบตาย นางถักเปียทำมวยผมให้เขาอย่างน่ารัก ใบหน้าแต่งแต้มเครื่องสำอางอย่างสวยงาม “พี่หญิงใหญ่ท่านงามมากขอรับ บุรุษในโรงประมูลต้องคลั่งไคล้ท่านแน่” ถานจ้าน “...!?” เขามองพ่อหนุ่มน้อยหน้าตาเกลี้ยงเกลาตรงหน้า นางจะรู้บ้างไหมว่าแต่งเช่นนี้แล้วดึงดูดสายตาผู้คนยิ่งนัก “เจ้ารีบสวมหมวกเถอะ” เขาหยิบหมวกใบใหญ่ครอบลงบนศีรษะของนาง ก่อนจะสวมให้ตัวเองอีกด้วย หากเซี่ยซือซือไม่บอกว่านางสวมหมวกปิดบังใบหน้า ไว้ตลอดเวลาที่ปลอมตัวเป็นคุณชายเริ่นก้งเยว่ เขาคงห้ามไม่ให้นางเข้าไปยังโรงประมูลแล้ว ก่อนหน้

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   106 : เสี่ยวเป่า นั่นเจ้าใช่ไหม ! 

    106 : เสี่ยวเป่า นั่นเจ้าใช่ไหม ! รถม้าวิ่งช้า ๆ ผ่านถนนที่มีขอทานกับคนไร้บ้านรวมตัวกันอยู่ เซี่ยซือซือไม่อยากให้น้องชายของนาง เห็นภาพน่าเวทนาเหล่านี้ นางอยากพาเขากลับเข้าไปนั่งในรถม้า แต่ไม่มีที่ให้จอดรถม้าได้อย่างปลอดภัย หากจอดไปแล้วเกรงว่าคนไร้บ้านเหล่านี้ จะกรูกันเข้ามารุมทึ้งรถม้าของนางเข้า จึงต้องให้เขานั่งอยู่บนตักของนางต่อไป เซี่ยซือหยางกินขนมในมือแล้วมองสองข้างทางไปด้วย เขาเห็นคนยากไร้นอนเกลื่อนข้างถนนเต็มไปหมด เขาได้แต่ถอนหายใจเฮือกแล้วเฮือกเล่า ก้มลงมองขาสั้น ๆ กับนิ้วมือป้อม ๆ ของตัวเอง จะไปช่วยเหลืออันใดผู้อื่นได้ “แต่เอ๋ ?” เขาหันกลับไปมองดูอีกที ขนมในมือถูกปล่อยทิ้งลงพื้น ลุกขึ้นยืนหันหน้ามองไปยังด้านหลัง “น้องเล็กอันตรายอย่าลุก” เซี่ยซือซือจับเขาเอาไว้แน่น ๆ แต่เหตุใดเขาถึงได้ดิ้นรน อยากมองไปด้านหลังเช่นนี้ “เสี่ยวเป่า นั่นเจ้าใช่ไหม !” ถานจ้านถึงกับค่อย ๆ หยุดรถม้าลง เขาหันไปมองหน้าเซี่ยซือหยางด้วยความแปลกใจ “เสี่ยวซือหยางเจ้าเรียกใคร” “เหมือนข้าจะเห็นเสี่ยวเป่า” เขาพูดคล้ายไม่แน่ใจ “เสี่ยวเป

DMCA.com Protection Status