공유

บทที่ 29 การแข่งขันชิงทุน

last update 최신 업데이트: 2025-02-23 03:01:23

[ภารกิจพิเศษ : แข่งขันชนะรับคะแนน 1,000 แต้ม]

และใช่ สิ่งที่เฉินเฟิ่นอี้รอคอยที่สุดก็มาถึง ภารกิจพิเศษที่จะได้รับรางวัลที่คุ้มค่า แต่ว่าครั้งนี้มันทำให้เฉินเฟิ่นอี้กังวลมากเพราะเธอไม่ได้แข่งคนเดียว อีกอย่างยังมีห้องอื่นที่รับรู้การแข่งขันตั้งแต่แรก และคนเก่งห้องอื่นๆ ก็มีอีกมาก

เช้าวันนี้เฉินเฟิ่นอี้รับทำข้าวกล่องให้แค่พวกเว่ยฟ่งและจี้หลัน เธอจำเป็นต้องทำสมาธิและพักผ่อนให้เพียงพอจึงงดรับทำให้คนอื่นด้วย แม้แต่คนที่สั่งไว้ล่วงหน้าก็ยังถูกเท อันที่จริงไม่เชิงว่าถูกเทเพราะมีหลายคนเห็นว่าวันนี้เฉินเฟิ่นอี้ไม่รับทำอาหารจึงคะยั้นคะยอให้เธอรับ เฉินเฟิ่นอี้ยังไม่รับปากแต่รับรายชื่อมา เธอบอกเพียงถ้าจะทำให้เดี๋ยวนำไปส่งที่โรงเรียนเลย

“ช่วงนี้รางวัลพิเศษไม่ค่อยมีเลย” เฉินเฟิ่นอี้พึมพำเมื่อนั่งลงบนม้านั่งประจำที่พวกเธอชอบมานั่ง

รอบข้างมีผู้คนประปรายเพราะวันนี้เฉินเฟิ่นอี้มาโรงเรียนเช้ากว่าปกติ ไหนจะมีการแข่งขันชิงทุน ทางโรงเรียนจึงอนุญาตให้นักเรียนมาสายหรือสามารถหยุดเรียนได้ ยกเว้นตัวแทนห้องที่ต้องมาแข่งขันทั้งหมดสามรอบ

ช่วงเช้าจะถูกคัดออกแปดห้อง นั่นก็คือห้องอันดับสองและอันดับสามที่ต้องไปแข่งกับห
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

관련 챕터

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 30 แพ้

    นักเรียนมัธยมปลายปลายชั้นปีที่หนึ่งห้องอันดับต้นและห้องอันดับสามต่างทยอยเดินเข้าห้องการแข่งขันรอบที่สอง ตัวแทนห้องอันดับต้นมีหมิงหลานฮุ่ย ชิงไห่ตัน อี้เหม่ยเฟิ่งและหวังซ่งเยี่ยน ในขณะที่ห้องอันดับสามมีเฉินไห่หลิว เฉินตง เฉินเฟิ่นอี้ และเจียวซีไม่มีใครรู้เกณฑ์การคัดเลือกตัวแทนของห้องอันดับต้น แต่สำหรับเฉินเฟิ่นอี้แล้วคิดว่าการแข่งขันรอบที่สองพวกเธอจะผ่านไปได้อย่างง่ายดาย ในอดีตหมิงหลานฮุ่ยและอี้เหม่ยเฟิ่งคอยขอให้เฉินเฟิ่นอี้ทำการบ้านให้ ไหนจะงานต่างๆ ที่นำไปส่งและบอกว่าตนเองทำอีก หากไม่มีเฉินเฟิ่นอี้พวกเขาอาจจบมัธยมต้นไม่ได้ด้วยซ้ำเสียงพูดคุยในห้องดังขึ้นเป็นระยะระหว่างรอคุณครูที่คุมการแข่งขันเดินเข้ามา มีหลายคนกำลังพูดถึงว่าห้องไหนจะได้รับชัยชนะในครั้งนี้ แน่นอนว่าใครอยู่ห้องไหนก็บอกว่าห้องตนเองจะชนะ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงห้องอันดับต้นที่คิดว่าตนเองเก่งกว่าห้องอื่นทั้งที่ระบบห้องเพิ่งเปลี่ยนเฉินเฟิ่นอี้จิบน้ำในขวดพร้อมนวดมือไปด้วย เมื่อวานทำอาหารเยอะเกินไป ตื่นเช้ามามันจึงมีอาการปวด ยิ่งก่อนหน้านี้ต้องเร่งเขียนคำตอบให้ทันก่อนคนอื่นมันจึงปวดเพิ่มขึ้นอีก แต่มันก็ไม่ได้หนักหนาอะไรขนาดนั้น

    최신 업데이트 : 2025-02-23
  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 31 รอเวลา

    “นั่นสิ คุ้นยังไงนะ คู่หมั้นหรืออาการป่วย” ประโยคสุดท้ายเฉินเฟิ่นอี้ลากเสียงยาวให้อีกฝ่ายเสียอาการ และมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เป็นเรื่องจริงสินะเฉินเฟิ่นอี้หลุบสายตามองต่ำและอดสงสารเฉินเฟิ่นอี้คนเก่าไม่ได้ หล่อนเป็นคนที่นิสัยดีและรักเพื่อนมาก แต่โชคร้ายที่หล่อนมีเพื่อนแย่และคนรักที่นิสัยแย่ ก็อย่างว่าแหละในตอนที่เฉินเฟิ่นอี้หมั้นหมายกับหมิงหลานฮุ่ยตอนนั้นหล่อนอายุแค่สิบสอง บ้านเฉินก็ไม่ได้ห้ามเพราะคิดว่ามันจะดีต่อเฉินเฟิ่นอี้“เฉินเฟิ่นอี้เธอเป็นบ้าไปแล้วเหรอ ตั้งนานไม่เห็นจะพูดมาพูดตอนนี้จะได้อะไร พวกเราถอนหมั้นกันไปแล้วหลายเดือนยังตามราวีไม่เลิก” หมิงหลานฮุ่ยเดินมาเผชิญหน้ากับเฉินเฟิ่นอี้อย่างหัวเสีย เพื่อนร่วมห้องต้องหัวเราะเยาะเขาแน่ที่แพ้“เดี๋ยวนะเฉินเฟิ่นอี้ เธอเคยหมั้นหมายกับเขาเหรอ! ไหนวันนั้นพวกหวังซ่งเยี่ยนมาหาเรื่องเธอเพราะได้ยินจากอี้เหม่ยเฟิ่งว่าเธอไปอ่อยคู่หมั้นของหล่อนล่ะ!” จี้หลันถามด้วยความตกใจและสับสน ตกลงเรื่องมันเป็นมายังไงกันแน่“ฉันกับเขาเพิ่งถอนหมั้นกันไปตอนต้นปี และเขาได้หมั้นหมายกับอี้เหม่ยเฟิ่งก่อนเปิดเทอมได้ไม่นาน” เฉินเฟิ่นอี้ไม่ได้ปิดบัง เธอก็ไม่อยากสนใจ

    최신 업데이트 : 2025-02-23
  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 32 ชัยชนะ

    “มัธยมปลายชั้นปีที่หนึ่งห้องที่สาม เจ็ดสิบหกคะแนน!”ทันทีที่เสียงประกาศออกจากปากผู้อำนวยการของโรงเรียน สมาชิกเพื่อนร่วมห้องของเฉินเฟิ่นอี้ต่างลุกขึ้นเฮอย่างดีใจ บางคนถึงกับน้ำตาไหลเพราะเงินทุนในวันนี้มันสำคัญมากๆ อย่างเช่นเจียวซีถึงกับทรุดลงพื้นหล่อนต้องการเรียนพิเศษเพิ่มกับเพื่อนสนิท ซึ่งบ้านเจียวคิดว่ามันไม่จำเป็นจึงไม่จ่ายเงินส่วนนี้ให้ หากหล่อนอยากเรียนต้องหาเงินหรือเก็บเงินที่จะได้ในแต่ละวันเพื่อเรียนเอง พอได้รับโอกาสเป็นตัวแทนมาหล่อนจึงตั้งใจเต็มที่เป็นอย่างมากคะแนนมัธยมปลายชั้นปีหนึ่งห้องอันดับสามนำโด่ง แข่งกันกับมัธยมต้นชั้นปีหนึ่งห้องอันดับต้น การแข่งขันรอบสุดท้ายเฉินเฟิ่นอี้ทำคะแนนได้ถึงสิบคะแนน เฉินไห่หลิวสี่คะแนน เฉินตงและเจียวซีทำคะแนนได้คนละสามคะแนน ส่วนมัธยมต้นชั้นปีหนึ่งเฉินเหม่ยเย่กับเฉินตงทำคะแนนไปได้คนละห้าคะแนน และไม่ยอมให้โอกาสทีมอื่นได้คะแนนไปเลยเมื่อการแข่งขันจบลงและประกาศตัวแทนห้องที่ชนะเฉินเฟิ่นอี้ก็รีบนั่งลงดื่มน้ำ มีเพื่อนร่วมห้องคอยพัดให้ลมเย็น ต้องบอกว่าอากาศมันร้อนสุดๆ ส่วนรางวัลที่ต้องได้รับครูใหญ่แจ้งว่าให้ตัวแทนได้พักผ่อนก่อน“ฉันลุ้นมาก!” โม่เยี่ยน

    최신 업데이트 : 2025-02-25
  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 33 รุ่นพี่โอวหยางจิง

    ลุงใหญ่เฉินและพ่อของเฉินเฟิ่นอี้นำธัญพืชที่แบ่งไว้ในบ้านเข้ามาส่งในอำเภอ และนำเงินใช้จ่ายอื่นๆ มาให้ด้วย เดือนนี้ได้มาถึงสิบห้าหยวน แต่ลุงใหญ่เฉินบอกว่าเดือนหน้าอาจเข้ามาหาช้ากว่านี้เพราะต้องทำงานในแปลงนาต่อเฉินเฟิ่นอี้นอนพักแค่วันเดียววันต่อไปก็ไปโรงเรียนอย่างปกติ เพียงแต่ว่าสายของตาของนักเรียนมักมองมาที่เธอ ซึ่งเฉินไห่หลิวกล่าวว่าเพราะเฉินเฟิ่นอี้ถูกประกาศหน้าเสาธงเรื่องที่เป็นคนที่ได้คะแนนมากที่สุดในการแข่งขันชิงทุนวันนี้เป็นวันที่สิบพอดีจากการที่เธอขาดเรียนวันนั้น เฉินเฟิ่นอี้กลับมารับทำอาหารมื้อกลางวันเหมือนปกติ และวันนี้เธอจะมาพูดคุยกับคนที่ต้องการเรียนพิเศษอย่างจริงจัง จะได้นัดแนะเวลาและสถานที่ในการสอนพิเศษเอาไว้ด้วย เหมือนว่าครูเซี่ยอันลี่จะโน้มน้าวคุณหญิงโอวหยางเรื่องการสอนพิเศษไม่ได้ ภายในโรงเรียนจึงมีกฎที่ว่าหลังเลิกเรียน ห้องเรียนจะปิดทันที ทั้งที่ปกติก็เปิดทิ้งไว้หลายชั่วโมงก่อนปิดโรงเรียนในแต่ละวันเฉินเฟิ่นอี้ก็ไม่อยากใส่ใจในเรื่องนี้แต่เหมือนเธอจะถูกจับตามองแล้ว อย่างวันก่อนเธอยังถูกครูที่ปรึกษาของห้องเซี่ยอันลี่เรียกเข้าพบ และเอ่ยเตือนที่เฉินเฟิ่นอี้สอนพิเศษให้เพื่อ

    최신 업데이트 : 2025-02-25
  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 34 โรงหนัง

    สอนพิเศษเข้าสัปดาห์ที่สามเฉินเฟิ่นอี้จึงพบปัญหาที่น่ากระอักกระอ่วน อยู่ๆ รุ่นพี่โอวหยางจิงก็นำขนมมาฝากทุกวันเมื่อมีตางรางเรียนพิเศษ ขนมแค่ของเธอคนเดียวไม่พอ ยังมีของน้องๆ อีกเป็นตะกร้า อย่างวันนี้เป็นวันหยุดเรียนแต่ยังมีการสอนพิเศษ เธอลุกมาเตรียมตัวตั้งแต่เช้า วันนี้เฉินเฟิ่นอี้ทำอาหารมื้อกลางวันให้คนอื่นๆ ด้วย ทุกคนเฉลี่ยเงินกันออกยกเว้นเจียวซีที่เว่ยฟ่งจ่ายให้แลกกับการทำการบ้าน“รุ่นพี่โอวหยางไม่ต้องนำขนมมาให้ก็ได้นะคะ” ปกติในบ้านก็ไม่ค่อยแตะขนมหวานกันอยู่แล้วยกเว้นเฉินเหม่ยเย่ เธอกลัวน้องสาวจะเป็นเบาหวานซะก่อนวันนี้โอวหยางจิงมาก่อนคนอื่น ไม่รอแม้กระทั่งจี้หลันที่บ้านอยู่ใกล้กัน หลังรับประทานอาหารเสร็จเขาก็ออกจากบ้านทันที ยังไงที่บ้านก็ไม่มีคนอยู่ มานั่งเล่นกับพี่น้องบ้านเฉินก่อนเรียนพิเศษยังดีกว่า แถมจี้หลันยังชักช้าแต่งตัวไม่เสร็จเสียทีเขาจึงไม่รอ“อ่า รับไปเถอะ ไม่อย่างนั้นก็เอาเป็นของว่างให้เพื่อนๆ ก็ได้” ขนมนี้แม่ของเขาเป็นคนฝากมาให้ครูสอนพิเศษที่ดูท่าจะถูกใจมาก ซึ่งเขาก็ถูกใจไม่น้อย ภาษาต่างประเทศเขาดีขึ้นจากแต่ก่อนมากเฉินตงกอดอกยืนพิงประตูหน้าบ้านอย่างไม่พอใจ รุ่นพี่โอวหยาง

    최신 업데이트 : 2025-02-25
  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 35 ผู้หญิงแพศยา

    “มาดูหนังกับผู้ชายกลางวันแสกๆ ไม่กลัวว่าจะมีคนนินทาเหรอ” หมิงหลานฮุ่ยเดินมาสมทบคู่หมั้นสาวพร้อมทั้งกล่าวอย่างไม่ไว้หน้าอดีตคู่หมั้นด้วยความหงุดหงิดเฉินเฟิ่นอี้มองตั้งแต่หัวจรดเท้าของอี้เหม่ยเฟิ่งก่อนจะหัวเราะออกมา จริงอยู่ที่ว่าทั้งสองมีสถานะเป็นคู่หมั้นกัน การมาดูหนังแบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ในอดีตตอนที่หมิงหลานฮุ่ยยังหมั้นหมายกับเฉินเฟิ่นอี้อยู่ ทั้งสองก็ไปดูหนังด้วยกันบ่อยๆ มีเพื่อนในโรงเรียนเคยบอกเรื่องนี้แต่เฉินเฟิ่นอี้ไม่เชื่อ พอมาดูความทรงจำของเฉินเฟิ่นอี้แล้วเธอย่อมรู้ว่ามันเป็นเรื่องจริง“หัวเราะอะไร”“หมิงหลานฮุ่ย ก่อนที่คุณจะพูดอะไรควรนึกให้ดีก่อนนะคะ ไม่ใช่ว่าตอนที่หมั้นหมายกับฉันอยู่คุณก็ทำแบบนี้เหรอ อีกอย่างมันก็เป็นสิทธิ์ของฉันหรือเปล่าที่จะไปไหนมาไหนกับใครก็ได้” ที่นี่ไม่ใช่ในโรงเรียนและพวกเขาทั้งสองก็มารบกวนเธอและรุ่นพี่โอวหยาง เฉินเฟิ่นอี้จึงไม่ไว้หน้าและตอกกลับอย่างไม่เกรงกลัวใบหน้าอี้เหม่ยเฟิ่งเริ่มซีด เรื่องนี้เฉินเฟิ่นอี้ไม่เคยรู้ หล่อนรู้ได้อย่างไร! ไม่ต่างจากหมิงหลานฮุ่ยที่ทำหน้าตกตะลึงออกมา แม้แต่คนในบ้านของเขายังไม่ทราบและคิดว่าเขาไปกับเฉินเฟิ่นอี้มาตลอด ห

    최신 업데이트 : 2025-02-25
  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 36 ขายนาฬิกา

    ยังดีที่วันต่อมาเป็นวันหยุด ใบหน้าที่บวมช้ำของเฉินเฟิ่นอี้จึงไม่ต้องออกไปเผชิญกับผู้คน เฉินเหม่ยเย่ยิ่งโมโหมากกว่าเดิม เพราะใบหน้าที่หล่อนชอบเปลี่ยนไป ถึงขั้นบ่นกับพี่สาวตลอดทั้งวัน แต่ยังดีที่มันยุบตัวลงมากแล้ว นอกจากอี้เหม่ยเฟิ่งจะมีแรงตบมากแล้วผิวของเฉินเฟิ่นอี้ยังบอบบางมากด้วยยิ่งพอถึงวันต้องไปโรงเรียน รอยช้ำก็ยังมีให้เห็น มีเพื่อนร่วมห้องหลายคนที่เข้ามาสอบถามแต่เฉินเฟิ่นอี้เลือกที่จะเงียบ เธอไม่ต้องการให้เพื่อนมีปัญหากับอี้เหม่ยเฟิ่งด้วยชีวิตของเด็กๆ บ้านเฉินยังคงวนเวียนเหมือนเดิม ทำอาหารใส่ปิ่นโตไปส่งลูกค้าที่จองเอาไว้ ไปเรียนและสอนพิเศษให้เพื่อนที่จ่ายเงินตามวันเวลาที่ตกลงกัน มีบ้างที่เฉินเฟิ่นอี้จะสอนพิเศษเพื่อนร่วมห้องในคาบว่างวันนี้เป็นอีกหนึ่งวันหยุดของโรงเรียน และเฉินเฟิ่นอี้ไม่มีสอนพิเศษให้ทุกคน เธอจึงเลือกของที่แลกเอาไว้เพื่อนำไปขาย ตลอดระยะเวลาที่เรียนอยู่จนกระทั่งใกล้ปิดภาคเรียนที่หนึ่งเฉินเฟิ่นอี้ยังนำของไปขายอยู่ตลอด แต่เธอไม่ได้เอาเงินเข้ากองกลางทั้งหมด ซึ่งเป็นข้อตกลงที่ทุกคนต่างรับทราบกันดี อย่างรอบก่อนที่นำของไปขายมาเฉินเฟิ่นอี้เก็บเองเจ็ดสิบหยวน และส่งเข้ากอง

    최신 업데이트 : 2025-02-25
  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 37 เศรษฐีนี

    ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความกังวลของเฉินเฟิ่นอี้หรือเปล่าทำให้เธอได้ล่วงรู้ความลับอีกหนึ่งอย่าง เฉินเฟิ่นอี้สามารถนำของข้างนอกไปเก็บไว้ในระบบได้ อย่างเงินจำนวนหมื่นหยวนที่ได้รับมาเฉินเฟิ่นอี้ไม่เสี่ยงนำไปฝากธนาคาร เธอนำกลับมาที่บ้านและให้เฉินตงเงียบไว้ก่อนห้ามพูดแม้กระทั่งพี่น้องอีกสามคน ต้องบอกว่าเงินจำนวนนี้มันเยอะและมันสามารถทำให้ทุกคนแตกหักกันได้เฉินเฟิ่นอี้จึงลอบถามระบบเมื่อไม่รู้จะทำอย่างไรกับเงินจำนวนนี้ พวกเธอเป็นเพียงนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายเท่านั้นและเป็นลูกหลานของชาวนา เอาเงินจำนวนมากขนาดนี้ไปฝากคงไม่พ้นถูกจับส่งทางการและเงินนี้ก็จะไม่ได้อีก อันที่จริงตอนแรกเธอคิดว่าผู้ชายคนนั้นพูดเล่นเรื่องราคา แต่พอนัดแนะกันเสร็จตามที่นัดหมายเขาก็มาจริงๆเงินจำนวนหนึ่งหมื่นหนึ่งพันหยวนถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน ส่วนที่หนึ่งเงินสำหรับใช้เรียนในอนาคตจำนวนห้าพันหยวน ส่วนที่สองเป็นเงินส่วนตัวของเฉินเฟิ่นอี้จำนวนสี่พันหยวน ส่วนที่สามและส่วนที่สี่เป็นเงินใช้จ่ายในบ้านรวมถึงเก็บไว้สำรองใช้จ่ายในแต่ละวันเรียกได้ว่าเฉินเฟิ่นอี้กลายเป็นเศรษฐีนีภายในพริบตาก็ว่าได้ แต่เธอไม่ได้ป่าวประกาศออกไป เรื่องนี้รู้เพี

    최신 업데이트 : 2025-02-25

최신 챕터

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทส่งท้าย

    วันที่ 5 เดือน 3 ปี 1984 งานมงคลสมรสของเฉินเฟิ่นอี้และโอวหยางจิงจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ แขกที่ได้รับเชิญต่างพากันเข้าร่วมงานอย่างหนาแน่น เฉินเฟิ่นอี้ต้องลุกมาแต่งตัวตั้งแต่เช้ามืด ทั้งต้องคอยถามถึงหน้างานเพื่อไม่ให้มีอะไรผิดพลาดในชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง สิ่งที่รอคอยนั่นคือการแต่งงานสักครั้งในชีวิต ในตอนที่เป็นแป้งร่ำ เธอพลาดโอกาสนั้นแล้ว ครั้งนี้เฉินเฟิ่นอี้ย่อมไม่พลาด"พี่สาวสามสวยมาก" เฉินเหม่ยเย่เอ่ยชมพี่สาวด้วยความตื่นเต้น ทั้งที่ไม่ใช่งานของตนเองนาน ๆ ที เฉินเฟิ่นอี้จะได้แต่งหน้าและแต่งตัว หากไม่ใช่วันสำคัญ แต่ก็ไม่ได้จัดเต็มเหมือนวันนี้ ภายใต้ชุดสีแดงมงคล เฉินเฟิ่นอี้เป็นผู้หญิงที่สวยมากในสายตาของน้องสาว"พี่สาวสามของเธอเป็นคนสวยมาตั้งนานแล้ว หล่อนแค่ไม่แต่งตัวเหมือนกับเธอที่ต้องทำงาน" พี่สาวใหญ่เดินเข้ามานั่งใกล้น้องสาวภายในห้องเจ้าสาวตอนนี้ มีพี่สาวใหญ่ พี่สาวรอง เฉินเหม่ยเย่ และเฉินเฟิ่นอี้ที่เป็นเจ้าสาว ทั้งสี่คนเป็นหลานสาวสายหลักของลุงสามที่เป็นผู้นำตระกูล ต่อให้แต่งงานแล้วแต่ยังเป็นคนสำคัญเฉินเฟิ่นอี้แต่งงานแล้วเธอจะเป็นคนของตระกูลโอวหยาง แต่ว่ายังสามารถมีปากเสียงในตระกูลเ

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 156 เติบโต

    ต่อให้เร่งมากแค่ไหน การสร้างบ้านยังต้องใช้เวลาสองเดือน เฉินเฟิ่นอี้จึงใช้เวลาที่ว่างในการช่วยเฉียนลี่เซียนเปิดร้านตัดเย็บ มันเป็นเพียงการตัดเย็บที่ลูกค้าสั่งตัดไม่เกินห้าตัว ปะซ่อมบริเวณที่ขาดกว่าบ้านจะเสร็จ ร้านตัดเย็บเฉียนก็เริ่มเข้าที่แล้ว เฉินเฟิ่นอี้ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว เธอปล่อยให้หล่อนจัดการร้านเอาเอง เพราะมีเฉียนเฟยเข้ามาช่วยจึงไม่ค่อยห่วงนักบ้านที่สร้างใหม่เป็นบ้านปูนห้าห้องนอน ล้อมรั้วแข็งแรงไม่ให้คนนอกเข้าไป แต่เฉินเฟิ่นอี้ฝากกุญแจให้ผู้ใหญ่บ้านจ้างคนไปทำความสะอาดข้างนอกบ้านให้ รวมถึงถางหญ้าในที่ดิน ค่าดูแลเดือนละยี่สิบหยวน แน่นอนว่าเฉินเฟิ่นอี้ยอมจ่ายทันทีที่บ้านเสร็จ กลุ่มของเฉินเฟิ่นอี้ก็เดินทางกลับปักกิ่งเพื่อเริ่มงาน พวกผู้หญิงมีงานถ่ายแบบเข้ามาบ้าง เฉินเฟิ่นอี้อนุญาตให้ทำและลดเงินเดือนบางส่วนของพวกหล่อนลงร้านผ้าถุงเซี่ยเซี่ยอีกสองสาขาอยู่ห่างจากสาขาใหญ่พอสมควร แต่เป็นบริเวณที่มีคนเดินผ่าน แน่นอนว่าร้านของเธอพี่ใหญ่เฉินเป็นคนหาให้ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าสาขาที่สองเป็นสาขาที่เฉินเฟิ่นอี้สร้างร่วมกับน้องชายน้องสาว ส่วนสาขาใหญ่ตอนนี้มันเป็นเพียงชื่อของเธอ ซึ่งแน่นอนว่าการ

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 155 ยุติการขาย

    งานมงคลผ่านไปแล้ว มีแต่คนอิจฉาเจ้าสาวเพราะได้รับสินสอดจำนวนมาก หลังงานมงคลเฉินเฟิ่นอี้เรียกผู้รับเหมาเข้าไปดูบ้านพร้อมกับสร้างบ้านใหม่ด้วยเวลาอันน้อยนิด เฉินเฟิ่นอี้จ่ายไม่อั้นเพื่อให้บ้านเสร็จก่อนกลับปักกิ่ง แต่ถึงจะเสร็จไม่ทันเธอก็จะรอให้มันเสร็จก่อนอยู่ดี ต่อให้มีคนนินทาและด่าว่าโง่ที่เอาเงินมาทิ้งกับบ้านที่ไม่ได้อยู่ เฉินเฟิ่นอี้ก็ไม่ได้สนใจ"พี่จัดการเรื่องผ้าถุงเสร็จแล้ว พวกเรากลับไปที่ร้านกันก่อนเถอะครับ" โอวหยางจิงบอกคนรักที่นั่งรออยู่ในโรงงานวันนี้เฉินเฟิ่นอี้เข้ามาจัดการเรื่องที่จะให้โรงงานส่งผ้าถุงเข้าไปในปักกิ่ง ค่าใช้จ่ายในการขนส่งแน่นอนว่าเฉินเฟิ่นอี้ยินดีจ่าย ขอแค่ให้ของไปถึงมือส่วนร้านเซี่ยเซี่ยร้านแรกของเธอจะยุติการขาย เรื่องนี้ได้คุยกับลุงเหว่ยเทาไปแล้วตอนที่กลับมาถึงวันแรก แต่ต้องเข้าไปคุยอีกทีเพื่อยกเลิกสัญญาพอมีการประกาศออกไปดูเหมือนว่าทุกคนจะตกใจและรีบมาซื้อเก็บเอาไว้ สินค้าจะมีเหลือให้ขายเพียงห้าพันผืนสุดท้าย หากขายหมดก่อนร้านจะปิดลงทันที"ค่ะ"หากเป็นเมื่อก่อนเฉินเฟิ่นอี้กับโอหยางจิงคงปั่นจักรยานกัน แต่ตอนนี้คุณลุงโอวหยางให้คนรักของเธอนำรถมาใช้งานระหว่างอยู

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 154 บ้านหลังแรก

    วันที่เจ็ดเดือนสามปี 1982 กลุ่มของเฉินเฟิ่นอี้เดินทางมาถึงบ้านพักในอำเภอจวี่ที่เป็นบ้านหลังเดิม และเพื่อนของลุงสามเป็นคนจัดพื้นที่เอาไว้ให้แล้วการเดินทางในครั้งนี้ไม่ได้มีผู้ใหญ่บ้านเฉินเดินทางมาด้วย มีเพียงผู้ปกครองที่เดินทางกลับบ้าน เฉินเฟิ่นอี้พร้อมกับน้อง ๆ ต้องการมาเข้าร่วมงานมงคลของเว่ยฟ่งกับเจียวซีถึงได้ตามกันมา ยกเว้นเฉินชิงชิงน้องชายคนเล็กของบ้านที่ปีนี้อายุสิบเอ็ดปีแล้วเฉินเฟิ่นอี้รับกุญแจจากลุงเหว่ยเทาทันทีที่มาถึง บ้านพักหลังนี้ถือว่าเป็นความทรงจำของเธอก็ว่าได้ อยู่มาตั้งหลายปี ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม"คุณลุงเหว่ยไม่ได้ปล่อยบ้านให้คนอื่นเช่าเหรอคะ" เฉินเฟิ่นอี้หันไปถามเจ้าของบ้านที่นั่งอยู่ในห้องโถง และสอบถามเรื่องราวระหว่างที่ไปอยู่ในปักกิ่ง"บ้านหลังนี้หลานบอกว่ามันเป็นความทรงจำไม่ใช่หรือ ถึงลุงไม่ได้ขายให้แต่ก็เก็บเอาไว้รอพวกหลานกลับมา" เหว่ยเทายิ้มเล็กน้อยเขาไม่ได้แต่งงานมีภรรยา สมบัติที่มีอยู่จึงเป็นของเขาและมีรายได้จากการปล่อยเช่าห้องพัก ไม่จำเป็นต้องปล่อยเช่าบ้านหลังนี้ให้คนอื่น และเด็กบ้านเฉินก็เหมือนลูกเหมือนหลานของเขา"ขอบคุณค่ะ""ลุงสามฝากบอกว่าถ้ามีเวลาให้ขึ

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 153 เวลาไม่รอคอย

    หลังงานเลี้ยงจบลง ข่าวที่หลายคนจับตามองมากที่สุดไม่พ้นหลานชายหลานสาวของตระกูลเฉินมีคนรักแล้ว หลายคนยังคงต้องการขยับความสัมพันธ์ เผื่อว่าวันหน้าจะมีโอกาส จึงจ้างกลุ่มของเฉินเฟิ่นอี้ไปร่วมงานอยู่บ่อย ๆช่วงปิดภาคเรียนเป็นช่วงที่ต้องทำหลายอย่าง กว่าจะลงตัวก็เปิดภาคเรียนแล้ว ภาคเรียนที่สองเป็นภาคเรียนที่เหนื่อยมาก บ่อยครั้งที่เฉินเฟิ่นอี้ต้องนอนในหอพักของมหาวิทยาลัยความสัมพันธ์ของกลุ่มเพื่อนยังคงหนาแน่น ยิ่งที่บ้านย้ายเข้าไปอยู่ในเขตตระกูลเฉิน ทุกคนย้ายเข้าไปอยู่บ้านพักทำให้ได้พบเจอหน้ากันทุกวันยิ่งได้อยู่ด้วยกันกับเฉินเฟิ่นอี้ ทุกคนต่างลงความเห็นที่จะทำงานกับเพื่อนสาว เว่ยฟ่งถึงขั้นต่อสายมาหาพ่อกับแม่เรื่องที่เขาเรียนจบแล้วจะกลับไปแต่งงานกับเจียวซีแล้วจะกลับมาอยู่ในปักกิ่งคนอื่น ๆ ก็มีท่าทีไม่ต่างกัน ผู้ชายเข้าไปช่วยรุ่นพี่โอวหยางจิงทำงาน ผู้หญิงช่วยเฉินเฟิ่นอี้ในร้านผ้าถุงเซี่ยเซี่ย ตอนนี้ได้ค่าตอบแทนน้อย แต่ถือว่าคุ้มเพราะช่วยอยู่เบื้องหลังแค่มาเรียนปีแรกก็ทำเอาผู้ปกครองปวดหัวแล้ว ปีที่ีสองยิ่งปวดหัวมากกว่าเดิม ไม่มีใครกลับบ้านในช่วงปิดภาคเรียน ถ้าอยากเจอก็ให้เดินทางมาหาความสัมพัน

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 152 งานเลี้ยงต้อนรับ

    หลานชาย หลานสาว รวมถึงกลุ่มเพื่อนสนิทถูกจับแต่งตัวให้เหมาะสมกับงานสำคัญ อันที่จริงกลุ่มเพื่อนของเฉินเฟิ่นอี้ไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมก็ได้ แต่ทุกคนลงความคิดเห็นว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ภายใต้การดูแลของบ้านเฉินแล้วแขกภายในงานมีหลายคนที่เคยสนิทกับคนในตระกูลเฉิน เพราะฉะนั้นเฉินเฟิ่นอี้จึงพยายามบอกคนอื่นให้หลีกเลี่ยงเท่าที่จะทำได้เฉินเฟิ่นอี้มองชุดที่ออกแบบด้วยฝีมือของพี่เยี่ยฉิงจากร้านเยว่ซิน ทันทีที่จะมีการจัดเตรียมงานเธอได้ทำการติดต่อขอตัดเย็บเสื้อผ้าให้ และตระกูลเยี่ยคือหนึ่งในพันธมิตรของปู่เธอ"เสียดายจริง ๆ ที่เธอไม่คิดจะทำงานในวงการบ้างหรือ" เยี่ยฉิงมองชุดบนตัวของเฉินเฟิ่นอี้"ไม่ละค่ะ ฉันชอบทำงานเบื้องหลังมากกว่า" เธอรีบส่ายหน้าปฏิเสธไป ให้ช่วยแต่งหน้าหรือทำอย่างอื่นได้ แต่จะให้ถ่ายแบบเธอทำไม่ได้จริง ๆ"อื้อ ๆ ฉันก็ว่าแบบนั้นดูเป็นเธอมากกว่า" หล่อนหัวเราะเฉินเฟิ่นอี้เป็นเจ้าของร้านผ้าถุงที่ออกแบบลวดลายเอง เยี่ยฉิงเป็นเจ้าของร้านเสื้อผ้าที่ไม่ถ่ายแบบงานตัวเอง จึงเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่ายเยี่ยฉิงที่ช่วยเฉินเฟิ่นอี้แต่งตัวแล้วเดินไปช่วยคนอื่นต่อ ทั้งที่ตัวเองยังไม่ได้แต่งตัว แน่นอนว่างานส

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 151 ผู้นำตระกูลที่แท้จริง

    ข่าวหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งของหลายวันมานี้จะเป็นข่าวอะไรไปไม่ได้นอกจากข่าวผลัดเปลี่ยนผู้นำตระกูลเฉิน เป็นผู้นำที่หลาย ๆ คนคิดว่าเหมาะสมที่สุด นั่นก็คือ เฉินจงอี้ หรือปู่เฉินของเด็ก ๆ บ้านเฉิน ที่รับช่วงต่อระหว่างรอลูกชายทั้งสี่เรียนรู้งานเฉินเฟิ่นอี้ให้พี่ใหญ่เฉินส่งคนคอยตามคนตระกูลเฉินไปอย่างลับ ๆ เธอไม่ไว้ใจพวกเขา อย่าลืมว่าเฉินหานกับ เฉินหว่านทั้งสองต่างมีชื่อเสียง เป็นไปไม่ได้ที่จะยอมแพ้ง่าย ๆ และปู่รอง ปู่สามของตระกูลจะไม่มีน้ำยาทำอะไรจริง ๆ น่ะหรือ"ปู่คะ ฉันว่าพวกเราอยู่ที่บ้านนี้สักพักก่อนดีกว่าค่ะ ส่วนบ้านหลังนั้นก็ให้คนเข้าไปเก็บกวาดซ่อมแซมใหม่ก่อน" เฉินเฟิ่นอี้เสนอเมื่อปู่เฉินจะพาทุกคนย้ายเข้าไปอยู่บ้านตระกูลเฉินบ้านมันเก่ามากแล้วควรทำความสะอาดครั้งใหญ่ อีกอย่างเธอก็ไม่รู้ว่าข้างในจะมีอะไรที่เป็นอันตรายหรือไม่ และเธอสะดวกใจที่จะอยู่บ้านพักหลังนี้มากกว่า แต่ว่าถ้าปู่เฉินต้องการที่จะย้ายไปเธอก็ไม่ได้ว่าอะไร ขอเพียงให้มั่นใจก่อนว่ามันจะปลอดภัยจริง ๆช่วงนี้เธอไม่สามารถติดต่อกับระบบได้และมันก็หายไปหลายวันแล้ว ทำให้เฉินเฟิ่นอี้เป็นกังวลและคิดว่าควรรอมากกว่า"ทำไมล่ะ ที่จริงพวกเร

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 150 ตระกูลบรรพบุรุษ

    ปู่เฉิน ย่าเฉิน ลุงใหญ่ ลุงรอง ลุงสาม พ่อของเธอ พี่ใหญ่เฉิน และเฉินเฟิ่นอี้อยู่บนรถยนต์เพื่อเดินทางไปยังตระกูลเฉินตามที่เคยบอกเฉินหว่านเอาไว้ เฉินเฟิ่นอี้ไม่ได้พูดเล่น ตอนนี้ตระกูลเฉินมีหนี้และอีกไม่นานกิจการค้าขายที่เคยเป็นของปู่เฉินก็จะถูกยึด พี่ใหญ่เฉินกล่าวว่ามีคนจากตระกูลเฉินขอกู้เงินจำนวนหนึ่งล้านหยวนแลกกับกิจการเฉินเฟิ่นอี้นั่งข้างคนขับซึงก็คือพี่ใหญ่เฉิน นอกจากพวกเธอแล้วยังมีนายทหารอีกสองคันที่พี่ใหญ่เฉินพามาด้วย ดูเหมือนว่าตระกูลเฉินจะไม่มีเงินจ้างคนทำความสะอาดทางเข้า เขตบ้านตระกูลเฉินรกมากรถยนต์ดับลงหน้าบ้าน สมาชิกบ้านเฉินลงจากรถ เฉินเฟิ่นอี้เดินไปหาย่าเฉินที่อยู่ในวงล้อมของลูก ๆ เฉินเฟิ่นไม่ได้กลัวแต่ถ้าเกิดมีการลงไม้ลงมือกัน อย่างน้อยอยู่ใกล้ย่าเฉินจะปลอดภัยที่สุด“ที่นี่คือตระกูลเฉินเหรอคะ?”เฉินเฟิ่นอี้มองไปยังบ้านหลายหลังที่อยู่ติดกัน ด้านหน้าทางเข้าพบว่าเป็นบ้านสมัยใหม่ที่ดูดี แต่พอเข้ามาด้านหลังต้องบอกว่ามันทรุดโทรมมาก โดยเฉพาะหลังที่เป็นเหมือนบ้านรวม ตัวหลังคาหน้าบ้านมันแตกแล้ว“เปลี่ยนไปมากจริง ๆ” ปู่เฉินว่าด้วยความเสียดาย ที่ผ่านมาเขาคิดว่าจะมีคนดูแลที่นี่เหมือนก

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 149 ตามหาจนพบ

    เป็นไปไม่ได้ที่จะปิดร้านนานหลายวัน เฉินเฟิ่นอี้กลับมาเปิดร้านอีกครั้งและจ้างคนมาเฝ้าหน้าร้านถึงสามคนเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย หนังสือพิมพ์ลงข่าวทายาทของเจ้าของกิจการที่ยกให้น้องชายก่อนที่เขาจะหายตัวไปพร้อมครอบครัว ทำให้ร้านผ้าถุงมีลูกค้าเข้ามาซื้อของมากขึ้น และมีหลายร้านที่มาจ้างให้เฉินเหม่ยเย่ไปถ่ายงาน นอกจากนี้กลุ่มเพื่อนผู้หญิงก็ยังมีงานตามมาอีกไม่ต่างกันเฉินเฟิ่นอี้นั่งลงบนเก้าอี้เพื่อตรวจสอบบัญชีของเมื่อวานที่ยังไม่ได้จัดการ ข้าง ๆ กันมีโอวหยางจิงที่ตามมาด้วย เห็นบอกว่างานในโรงงานไม่ได้มีอะไรให้ทำและไม่ได้รับลูกค้าเพิ่ม เพียงตัดเย็บให้ร้านของเธอกับตัดเย็บเสื้อผ้าให้ร้านเยว่ซินก็ทำแทบไม่ทันแล้ว"เมื่อวานโจวซิงฉือบอกว่าที่บ้านติดต่อมา มีคนเข้าไปหาพวกเขาสอบถามถึงเรื่องของเธอ แต่ครอบครัวของเขาบอกไปว่าไม่รู้จักเธอ" โอวหยางจิงเอ่ยขึ้นระหว่างที่นั่งมองคนรักทำงานทุกคนติดต่อไปยังครอบครัวเพื่อให้บอกว่าไม่รู้จักบ้านเฉินหรือหากพวกเขามีพยานให้ตอบว่าเป็นเพื่อนของลูกเท่านั้นไม่ได้รู้จักสนิทสนม และเป็นคำสั่งของเฉินเฟิ่นอี้เองเพื่อความปลอดภัยของทุกคน และไม่มีใครถามเนื่องจากเชื่อในตัวของเพื่อน

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status