บทที่ 9 กลืนน้ำลายตนเองร่างเล็กเดินวนเป็นหนูติดจั่นอยู่ภายในห้องน้ำใหญ่ ไม่กล้าออกไปเผชิญกับคนตัวสูงด้านนอก ป่านนี้คงจะนั่งกระดิกเท้ารอให้เธอไปปรนนิบัติก่อนขึ้นเตียงแล้วกระมัง เพราะทันทีที่กลับถึงคอนโดฯ เขาก็อุ้มเธอลงจากรถพาเดินเข้ามาในลิฟต์จนกระทั่งถึงห้องอายแสนอาย ไม่ไว้หน้ากันบ้างเลย ประเจิดประเจ้อที่สุด ถึงแม้ว่าคนที่ได้เห็นท่าทีแบบนั้นจะเป็นคนขับรถส่วนตัวของเขาที่เธอคุ้นชินมาแรมปีก็เถอะแต่เด็กสาวอย่างเธอก็เขินเป็นเหมือนกันนะ...ก๊อก ก๊อก ก๊อกประตูห้องน้ำที่เป็นดั่งป้อมปราการชั้นดีของหญิงสาวถูกเคาะเรียกสามครั้ง ตามมาด้วยเสียงทุ้มลึกที่แค่ได้ยินก็ทำเอาเธอผวาไปทั้งร่าง“ขิม ออกมาได้แล้ว!”ธีรภัทร์ไม่อยากพูดเยอะ เขาให้เวลาเธอทำใจนานนับชั่วโมงเพราะเห็นแก่ความไร้เดียงสา ยอมอดทนนั่งรออย่างใจเย็น ไม่อยากใช้อำนาจที่มีเหนือกว่าบีบบังคับ เกรงว่าจะถูกมองเป็นผู้ใหญ่ใจร้าย แต่ดูเหมือนเด็กน้อยกำลังทำตัวไม่น่ารัก เขาใจดีกับเธอขนาดนี้แล้วยังจะต้องกลัวอะไรอีกเรื่องบนเตียงคือเรื่องธรรมชาติระหว่างชายหญิงสองคนที่มีความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน เขมมิกากำลังจะได้เรียนรู้ความรู้สึกหวามไหวที่เขาจะมอบมันให้เ
บทที่ 10 เป็นของฉัน NC“เป็นของฉันนะขิม”เสียงแหบพร่ากระซิบบอก เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนย่อตัวอุ้มเธอลอยละลิ่วจากโซฟา จุดหมายปลายทางคือห้องนอนของหญิงสาว วินาทีที่เปิดประตูห้องเข้ามา กลิ่นหอมหวานซึ่งเป็นกลิ่นเดียวกันกับเจ้าของเรือนร่างบอบบางนี้ฟุ้งแตะจมูก ยิ่งเพิ่มความกระสันในกายเขาให้ลุกตื่นธีรภัทร์วางร่างงามลงบนเตียงกว้าง ปลายจมูกโด่งเขี่ยเบา ๆ ที่จมูกเล็กรั้นของเธอ สองตาสบมองกันและกัน คิ้วเข้มตีขึ้นพร้อมรอยยิ้มขี้เล่น ทำคนในอ้อมกอดทั้งประหม่า ทั้งสั่นสู้ในเวลาเดียวกัน หน้าเล็กเบี่ยงเล็กน้อยหมายสูดอากาศเข้าไปกักไว้เต็มปอดความรู้สึกตอนนี้ ราวกับกำลังจมน้ำ ลมหายใจแทบรวยรินฟู่วว..ทว่าพอหันสายตากลับมาอีกที สติที่มีอยู่น้อยนิดแทบจะหมดลง ร่างสูงกำยำปลดเปลื้องอาภรณ์ของตนออกจนเกือบหมด เหลือเพียงบ็อกเซอร์ กำลังยืนอวดส่วนสัดมัดกล้ามเนื้อแข็งแรง..ตากลมเบิกกว้างมองลอนหน้าท้องก่อนลดสายตาต่ำลงตรงแก่นกายแข็งขึงของเขาปากบางเผยอหายใจเฮือก เมื่อคนตัวโตเคลื่อนกายคร่อมทับเรือนร่างของเธอ เขาเกลี่ยนิ้วปัดปอยผมทัดใบหูเล็กให้อย่างอ่อนโยน ไล้ปลายนิ้ววนแถวพวงแก้มนุ่มที่กำลังขึ้นสีเรื่อเธอน่ารักน่าท
บทที่ 11 เด็กเลี้ยง หยดเลือดที่ปรากฏอยู่บนผ้าปูที่นอนสีขาว คือสิ่งย้ำเตือนว่าตอนนี้เธอไม่ใช่หญิงสาวบริสุทธิ์อีกต่อไป เขมมิกาไล้ปลายนิ้วแผ่วเบาลงบนรอยเปื้อนจาง ๆ ที่กระจายทั่วเตียง ด้วยเมื่อคืนธีรภัทร์ตักตวงความสุขจากเธอไปหลายครั้ง เขาไม่หยุดแม้ว่าเธอจะหมดแรงเปล่งเสียงครางหวานให้ได้ยิน ชายหนุ่มกระหายคลั่งไคล้การเสพสมจนหน้ามืดตามัว รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เห็นผิวเนื้อขาวผ่องของคนตัวเล็ก เต็มไปด้วยรอยกุหลาบที่เขาตีตราไว้ทั่วเรือนร่าง“หิวมั้ย?”ประโยคแรกที่เอ่ยถามหลังความสัมพันธ์ทางกายจบลง เขมมิกากำผ้าปูแน่น พอเรื่องอย่างว่าจบ ความเขินอายก็ปรากฏบนใบหน้าแดงซ่านอีกครั้งเขาสวมเพียงผ้าขนหนูที่พันกายเอาไว้อย่างหมิ่นเหม่ มือหนาสองข้างขยุ้มผ้าเช็ดเรือนผมที่ยังเปียกลู่ บนแผงอกแกร่งลามมาถึงลอนหน้าท้องแข็งแรงมีหยดน้ำเกาะพราวอยู่ทั่วให้ตายสิ.. เขาจะน่ากินเกินไปแล้วนะ บ้าจริง!คิดอะไรอยู่เนี่ยขิม เป็นคนทะลึ่งแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน อดทนเข้าไว้..ถึงเขาจะอ่อยแค่ไหนก็เถอะ“ว่าไง… หิวหรือเปล่า”ถามย้ำเมื่ออีกฝ่ายยังคงเงียบ คิ้วหนาขมวดแน่นจนเป็นปม เมื่ออีกฝ่ายเอาแต่จ้องเขาไม่วางตา ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้าง
บทที่ 12 หมายหัว“เลิกงานแล้วโทร.มานะ”“คุณภีมจะมารับขิมหรือคะ”ถามกลับไปตาแป๋ว ใบหน้าหวานเปื้อนยิ้มมาตลอดทั้งวัน มันอิ่มเอมจนแทบสำลักอยู่แล้ว ไอ้เจ้าความสุขเนี่ย“อืม”เขาพยักหน้าตอบพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น มันน่ารักจนเขมมิกาต้องโน้มหน้าเข้าหาเพื่อจุมพิตตรงแก้มสากเป็นรางวัลธีรภัทร์ถึงกับอึ้ง คาดไม่ถึงว่าหล่อนจะกล้า แต่ความกล้าแบบนี้เขามีแต่ได้กับได้“งั้นขิมไปนะคะ”“เดี๋ยวสิ”มือใหญ่รีบรั้งเอวคอดเอาไว้ เขาตวัดร่างงามข้ามเกียร์รถมานั่งบนตักของตนเอง เขมมิกาตกใจร้องเสียงหลง รีบยกมือคล้องคอเขาเอาไว้“คุณภีม ทำอะไรคะเนี่ย”ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยตกใจ อกหยุ่นเบียดเสียดอกกว้างของเขา สร้างความปั่นป่วนให้เธอไม่น้อย“จูบก่อน”แค่หอมมันคงไม่พอสินะ ถึงได้ทำอะไรไม่กริ่งเกรงว่าใครจะเห็น ก็รู้อยู่หรอก..ว่ารถติดฟิล์มดำทึบ ทว่าก็อดไม่ได้ที่จะระแวงกลัวใครจะมาเห็นเข้า“ขิมหอมแก้มคุณภีมไปแล้วนี่คะ”ได้คืบจะเอาศอกจริง ๆ เรื่องอะไรจะยอมกันล่ะ“หอมก็ส่วนหอมสิ และอันนั้นฉันไม่ได้ร้องขอ แต่นี่ฉันกำลังขอเธออยู่นะ”มะ หมายความว่าไอ้หอมเมื่อครู่ กลายเป็นเขมมิกาเองสินะที่เสนอตัว เจ้าเล่ห์นักนะ“ไม่เอาค่ะคุณภีม ขิมจะสาย
บทที่ 13 ลูกค้า VVIPตลอดทั้งวันเขมมิกาวุ่นวายกับงานหน้าร้านจนแทบไม่มีเวลาพัก เพราะวันนี้มีลูกค้าแห่กันมาเข้าร้านมากเป็นพิเศษ ด้วยทางร้านจัดโปรโมชันพิเศษ ทำให้บรรดาสายรักของหวานต่างตบเท้าเข้ามาอุดหนุนจนแน่น ลูกค้านั่งเต็มทุกโต๊ะ“นี่ ฉันได้ยินมาว่าโดนไล่ออกนะ ไม่ใช่แค่โดนเรียกตักเตือนอย่างที่นางบอก”“ขนาดนั้นเลยเหรอแก ไม่อยากจะเชื่อ”“ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อย่ะ ก็นางเล่นไปหาเรื่องคนโปรดของพี่ใหม่ รายนั้นเขาเล็งน้องมาตั้งแต่เดินมาเขียนใบสมัครแล้ว พอเกิดเรื่องนี้ขึ้นก็ได้ทีทำคะแนนไง ไล่ออกโชว์สาวเลยจ้า”“ใช่เหรอแก แต่ฉันก็ยังเห็นน้องขิมเขาทำตัวปกติเหมือนเดิมนะ ไม่เห็นจะดีใจที่ยัยจอยถูกไล่ออกเลย”เขมมิกาเดินผ่านมาได้ยินข่าวใหม่ครบถ้วนทุกถ้อยคำ สองมือวางถังขยะที่นำไปทิ้งมาเรียบร้อยแล้วลงบนพื้น พนักงานหญิงที่กำลังจับกลุ่มคุยเรื่องสำคัญต่างสะดุ้งตกใจ เมื่อหันมาสบตาเข้ากับหล่อน“พวกพี่ไม่ได้นินทานะจ๊ะน้องขิม แค่เล่าสู่กันฟังเฉย ๆ”รีบแก้ต่างอย่างรวดเร็ว เวลานี้ไม่มีใครกล้ามีเรื่องกับเขมมิกาทั้งนั้น ด้วยเรื่องของจอยเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู“พี่จอยถูกไล่ออกหรือคะ ตั้งแต่เมื่อไร”อดสงสัยไม่ได้ ว่าส
บทที่ 14 ซวยล่ะ“คุณภีม”เสียงหวานพึมพำชื่อของธีรภัทร์ นึกไม่ถึงว่าเรื่องหยุมหยิมพวกนี้ เขาจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ในความทรงจำย้อนคิดไปถึงวันนั้น หลังจากที่เขาได้รู้ข้อมูลบางอย่างจากพลอยใส ท่าทีของเขาก็เปลี่ยนไปจนเธอเองก็แอบกังวลไม่อยากจะเชื่อ…ว่าจะเป็นเพราะเขาที่ทำให้จอยกับพวกกระเด็นไปไกลขนาดนี้ หวังว่าเขาจะไม่อาฆาตถึงขั้นตามไปสั่งแบล็กลิสต์ทุกที่ที่สามคนนั้นไปสมัครงานหรอกนะ“คนนี้หรือเปล่า แฟนขิม”ดูท่าเสียงพึมพำของเธอจะทำให้ผู้จัดการหนุ่มได้ยิน หญิงสาวส่ายหน้าและส่งยิ้มเจื่อนให้..ก็แหงล่ะ จะให้บอกได้อย่างไรว่าธีรภัทร์คือแฟน ถึงทั้งคู่จะมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นไปหลายต่อหลายตลบแล้วก็เถอะ ทว่าในความเป็นจริง….….กลับไม่มีสถานะอะไรที่จับต้องได้เลยตลอดบ่ายว้าวุ่นเหมือนหนูติดจั่น ตั้งแต่แม่เลี้ยงมหาภัยกลับออกไป อีกทั้งนี่ก็ใกล้เวลาเลิกงานของเขมมิกาแล้ว ทว่าตลอดทั้งวันมานี้อีกฝ่ายไม่มีแม้แต่ส่งข้อความถึง นั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกเป็นกังวลทวีคูณขืนรอต่อไปต้องสติแตกแน่…ร่างสูงลุกขึ้นยืนคว้าเสื้อสูทขึ้นสวมแล้วก้าวเท้าฉับ ๆ เดินออกไปที่ลิฟต์เพื่อลงไปยังลานจอดรถ ใบหน้าเคร่งขึมของชายหนุ่มโดยปกติ
บทที่ 15 คนรักเก่าภายในห้องอาหารบนโรงแรมหรูเจ็ดดาว กลายเป็นสถานที่ชวนอึดอัดเมื่อบทสนทนาคือเรื่องที่ธีรภัทร์ไม่อยากพูดถึงมากที่สุด นิ้วเรียววนรอบปากแก้วทรงสูง ก่อนจะยกมันขึ้นจิบอย่างมีมารยาทผิวเผินดูเหมือนเขาไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการมาพบหน้าบิดามารดาของอดีตแฟนสาวที่เลิกรากันไป ชายหนุ่มยังคงให้ความเคารพทั้งสองเสมอมา แม้ว่าลูกสาวของอีกฝ่ายจะเป็นต้นเหตุของความทุกข์ที่กักขังหัวใจของเขามานานหลายปี“ภีมยิ่งโตยิ่งหล่อนะ หน้าที่การงานก็ดี วันก่อนอาดูข่าวบันเทิงในทีวีเห็นเขาออกสกู๊ปข่าวของภีมด้วยนะ ได้ฉายานักธุรกิจหล่อขั้นเทพเลยนี่เรา ไม่ธรรมดาจริง ๆ”พงษกรชื่นชมว่าที่ลูกเขย เขาหันไปพยักพเยิดกับภรรยาที่นั่งยิ้มแป้นเคียงข้างกัน“จริงด้วยค่ะคุณพี่ ตาภีมของเราดูดีทุกกระเบียดนิ้วสมคำร่ำลือจริง ๆ ค่ะ”สุนิสารีบสมทบคำเยินยอของสามี ทั้งสองเบนสายตามองไปที่เจ้าสัวธนาที่ฉีกยิ้มกว้างไม่แพ้กัน“รูปหล่อ พ่อรวย ทำธุรกิจเก่งแบบนี้ ผมดีใจแทนเจ้าสัวจริง ๆ ครับที่มีลูกชายครบเครื่องไร้ที่ติ”หากธีรภัทร์เป็นคนบ้ายอปอปั้น เขาก็คงเคลิบเคลิ้มตัวลอยไปกับคำกล่าวชม ทว่าเขากลับไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายกับคำพูดเหล่านั้นแม้
บทที่ 16 ว่าที่คู่หมั้นเวลาล่วงเลยมาจนถึงตีสองก็ยังไร้วี่แววของคนที่รับปากว่าจะกลับมาหาเธอ เขมมิกานั่งรอธีรภัทร์อยู่ที่โซฟาหน้าทีวี บนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยกับข้าวมากมายที่เธอลงมือทำด้วยตัวเอง แน่นอนว่าแต่ละเมนูเย็นชืดหมดแล้ว เจ้าของร่างบางยืนมองโต๊ะอาหารด้วยสายตาละห้อยทำไมเขาไม่มา…อย่างน้อยก็ควรบอกเธอให้รู้…เขมมิกาไม่กล้าที่จะกดโทรหรือส่งข้อความหาอีกฝ่าย ด้วยไม่อยากให้เขาเข้าใจว่าเธอเซ้าซี้จนอาจทำให้เขารู้สึกรำคาญด้วย แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความกังวลก็ตาม เพราะปกติธีรภัทร์ไม่เคยผิดวาจา หากชายหนุ่มบอกว่าจะมาเขาไม่เคยสักครั้งที่จะผิดนัดเธอโดยไม่แจ้งหรือว่า… มีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้นกับเขากันนะ อย่างนี้เธอควรจะโทรหาเขาหรือเปล่า ได้แต่คิด ทว่ากลับไม่กล้า ถึงเธอกับเขาสถานะจะสนิทสนมมากกว่าเดิม แต่ความเคยชินและตัวตนของเขา ทำให้หญิงสาวเลือกที่จะวางมือถือลง“ตีสาม!! คุณภีมคงไม่มาแล้วล่ะ”มือเล็กค่อย ๆ เก็บจานอาหารไปเททิ้งและทำความสะอาด ในใจก็รู้สึกโหวงหวิวอย่างบอกไม่ถูก สองหน่วยตารื้นไปหมด ความรู้สึกที่มีเพิ่มขึ้นในทุก ๆ วัน ทำให้เธอกลายเป็นคนงี่เง่าแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันก่อนจะปิดตานอน เขมมิก
ตอนพิเศษ ของขวัญที่แสนพิเศษหลายปีต่อมา…“เอ้า ดื่ม!”เสียงโหวกเหวกโวยวายตามประสาผู้ชายขี้เมาดังขึ้น ธีรภัทร์ชูแก้วเหล้าไปตรงหน้าเพื่อนทั้งสี่คน ที่นัดมาดื่มสังสรรค์กันที่บ้านด้วยตัวเขาเองไม่อยากจะออกไปดื่มกินที่ไหน“พวกเราต้องกินให้เต็มที่นะเว้ย เพราะตั้งแต่ไอ้ภีมแต่งงานมีเมียเนี่ย มันเหมือนพระเข้าไปทุกวัน นอนเร็ว งดเที่ยว จนเพื่อนฝูงแทบจะจำหน้ามันไม่ได้แล้ว”เสียงหัวเราะร่วนอย่างสนุกสนานดังขึ้นอีกครั้ง“ถามจริงเถอะครับไอ้คุณภีม เมียเด็กของมึงนี่ โหดมากเหรอวะ มึงถึงได้ทำตัวเป็นลูกเสือแรกเกิดอยู่ในโอวาทเมียเสียเหลือเกิน”เสียงแซวของกันต์เพื่อนรักดังขึ้นอีกหน“มึงเมาก็กลับบ้านไปนอนไป”ธีรภัทร์ส่ายหน้าให้ ก่อนจะกระดกเหล้าในแก้วดื่มพรวดลงคอ ตั้งแต่มาถึงบ้านแต่ละคนไม่หยุดล้อเลียนเขาเรื่องเขมมิกาเลย เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบสายตาจับผิดของพวกเพื่อน ๆ“มองอะไรกัน กูไม่ได้กลัวเมีย”“พวกกูก็ไม่ได้พูดสักคำว่ามึงกลัวเมีย”เหมือนจะร้อนตัวรีบบอกออกไป แต่นั่นกลายเป็นว่าเขายอมรับแล้วสินะว่าเขามันคนกลัวเมีย“กู…”ไม่ทันได้ปฏิเสธ ก็ต้องกลืนทุกอย่างลงคอไป เมื่อร่างบางระหงเดินลงมาจากชั้นสองของบ้าน ใบหน้าของเ
บทที่ 30 จบบริบูรณ์ NCอาการของเขมมิกาดีขึ้นตามลำดับ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเธอไม่ได้รับบาดเจ็บมากนักตามร่างกาย มีเพียงร่องรอยฟกช้ำเท่านั้น อีกทั้งได้บุรุษพยาบาลดีทำให้สภาพจิตใจของเธอเองก็ค่อย ๆ ดีขึ้นเช่นกันก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูห้องผู้ป่วยดังขึ้นพอเป็นพิธี ก่อนที่ร่างสูงสง่าของเจ้าสัวธนาจะเดินเข้ามา ในมือของท่านมีกระเช้าของเยี่ยมติดมือไปมาด้วย มากไปกว่านั้นใบหน้าเกรงขามดุดันเวลานี้กลับประดับไปด้วยรอยยิ้มใจดีสองคู่รักหันหน้ามองกันเลิ่กลั่ก ธีรภัทร์ถึงขั้นขยี้ตาตัวเองด้วยไม่นึกไม่ฝันว่าจะเห็นบิดาที่นี่“สวัสดีค่ะ”มือเล็กยกขึ้นไหว้ ภาพจำในคืนดินเนอร์ยังตราตรึงไม่หาย ก็จะให้ลืมง่าย ๆ ได้อย่างไร ในเมื่อพ่อของว่าที่สามีทำหล่อนร้องไห้กลับบ้าน แถมนั่งน้ำตาแตกนานอยู่หลายชั่วโมง“เป็นยังไงบ้าง”เจ้าสัวธนาวางกระเช้าของเยี่ยมลงบนโต๊ะข้างเตียง เอ่ยถามด้วยใบหน้าปกติอย่างที่สุด ราวกับว่าไม่เคยมีเรื่องบาดหมางแคลงใจกันมาก่อน“ดีขึ้นมากแล้วค่ะ มะรืนก็น่าจะกลับบ้านได้แล้วค่ะ”เขมมิกาตอบพลางชำเลืองสายตามองคนตัวสูงด้านข้าง“พักให้หายดีก่อน แล้วค่อยกลับ ค่ารักษาพยาบาลเดี๋ยวพ่อจ่ายเอง”“คะ?”พะ พ่ออย
บทที่ 29 พี่มาช่วยแล้ว“กรี๊ด!!!”เสียงกรีดร้องของเขมมิกาดังขึ้นเมื่อชายฉกรรจ์หน้าเหี้ยมสองคนกระโจนเข้ามาแล้วลากเธอกลับขึ้นไปบนเตียง หมายจะปลุกปล้ำทำลายเธอ ที่ตรงมุมห้องหญิงสาวอีกคนที่คิดว่าเดินจากไปแล้วกำลังยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่ออัดคลิปวิดีโอ“ปล่อยนะ ปล่อยนะไอ้พวกชั่ว ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยที”เขมมิกาพยายามปัดป้องไม่ให้ไอ้พวกคนชั่วข่มเหงเธอได้ ปากเล็กตะโกนร้องเรียกให้คนช่วย เวลานี้ในสถานที่แบบนี้ใครกันจะมาช่วยเธอได้ น้ำตาเม็ดแล้วเม็ดเล่าไหลพรากอาบสองแก้มบวมช้ำ ในใจคิดถึงแต่หน้าชายคนรัก‘พี่ภีมขา ช่วยขิมด้วย..’แควก! แควก!“กรี๊ด!!! ปล่อยนะ ปล่อย!”เสียงเสื้อผ้าขาดวิ่นจากการถูกกระชากดังขึ้น พร้อมเสียงกรีดร้องของเขมมิกา มือเล็กยกขึ้นปกปิดส่วนสงวนของตนเอง ร่างเล็กสั่นเทิ้มด้วยความกลัวจนสุดขีด เขมมิกาถดกายไปจนสุดขอบเตียงนอน แผ่นหลังเล็กแนบไปกับฝาบ้าน ดวงตากลมโตสั่นระริกส่ายหน้าไปมางันงก ตั้งแต่เกิดมาหล่อนไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายเช่นนี้มาก่อนทำไมมนุษย์ถึงต่ำช้ากับมนุษย์ด้วยกันได้ลงคอ…หนึ่งในชายโฉด กลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ ยกมือข้างที่ถือเศษชิ้นส่วนเสื้อผ้าของหญิงสาวขึ้นมาสูดดมก่
บทที่ 28 แม่นกต่อ 2“ขิมขับเข้าไปอีกหน่อยนะลูก ห้องพักของแม่อยู่ในซอยข้างหน้านี้แหละจ้ะ”เอมอรชี้ไปที่ปากทางเข้าซอยเล็กแคบ ที่ดูยังไงรถของเธอก็เข้าไปไม่ได้“รถขิมน่าจะเข้าไปไม่ได้นะคะ ซอยเล็กขนาดนี้ เราคงต้องลงเดินแล้วล่ะค่ะ”เขมมิกาจอดรถตรงปากทางเข้า หล่อนชะโงกหน้ามองถนนเล็กน้อย ตรงนี้มันทั้งมืดทั้งเปลี่ยว ก่อนจะหันมามองมารดาที่เริ่มเมาได้ที่ หญิงสาวพ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะหันไปมองทางเข้าซอยอีกครั้งปล่อยแม่เดินกลับเข้าบ้านไปตามลำพังคงจะไม่ได้ มันอันตรายเกินไป ในใจก็คิดไปถึงการหาที่อยู่ใหม่ให้ผู้เป็นแม่ หญิงสาวตัดสินใจดับเครื่องยนต์แล้วเดินลงจากรถ อ้อมไปเปิดประตูอีกฝั่ง ก่อนจะประคองร่างหนักอึ้งของมารดาออกมา“ไหวมั้ยคะ แม่ระวังหัวค่ะ ค่อย ๆ นะคะ เดี๋ยวขิมไปส่งที่บ้านนะ”“โอ๊ย ไม่เป็นไรหรอกลูก กลับไปพักเถอะ อีกนิดเดียวเอง แม่เดินไปเองได้”เอมอรยกมือโบก ทำท่าจะดันร่างเล็กของลูกสาวออก ก่อนจะขาอ่อนแรงเดือดร้อนเขมมิกาต้องรีบประคองช่วย พาหิ้วปีกเดินเข้าซอยเล็กอย่างทุลักทุเล ข้างหน้ามีแสงไฟสลัว ๆ จากหลอดไฟนีออนของบ้านคน เดินไปอีกนิดก็เจอสะพานไม้เก่าข้ามคูคลอง ได้กลิ่นน้ำเน่าลอยแตะจมูก สภา
บทที่ 27 แม่นกต่อ 1“เอางี้ดีกว่า แม่ไม่อยากคลาดกับขิมอีก เดี๋ยวแม่นั่งรอแถว ๆ นี้ก็ได้ หรือถ้าขิมกลัวอายคนอื่นเดี๋ยวแม่ไปนั่งรอตรงป้ายรถเมล์ก็ได้นะลูก ดะ.. ดูนี่สิ แม่เพิ่งได้ค่าแรงมา วันนี้ให้แม่ได้เลี้ยงข้าวลูกสักมื้อเถอะนะ”เอมอรล้วงเงินในกระเป๋าผ้าออกมานับรวมเหรียญแล้วได้เงินสามร้อยหกสิบแปดบาท ซึ่งเป็นค่าแรงที่หล่อนบอกว่า แบ่งเก็บไว้จากการทำงานสามวัน ใบหน้าอิดโรยพยายามยิ้มกว้างอวดเงินในมืออย่างภาคภูมิใจ“ก็ได้ค่ะ แต่แม่รอตรงป้ายรถเมล์หรือรอตรงนี้ไม่ได้หรอก อากาศร้อนแบบนี้ได้เป็นลมเป็นแล้งกันพอดี ฝั่งโน้นมีร้านสปา ขิมว่าแม่ไปนอนรอให้เขานวดตัวให้สักสามชั่วโมงดีกว่าค่ะ เดี๋ยววันนี้ขิมจะขอลาหัวหน้าขอกลับก่อน บ่ายสามเดี๋ยวขิมไปรับนะคะ หรือถ้าแม่หิวแม่หาอะไรรองท้องก่อนได้เลยนะคะ”“อื้อ ได้ ๆ เอาตามนี้ละกัน”เอมอรพยักหน้าเห็นด้วยกับข้อเสนอของลูกสาว เขมมิกาหยิบธนบัตรจากกระเป๋าเงินส่งให้ผู้เป็นแม่สองพันเงินจำนวนนี้ทำเอมอรตาลุกวาว ในใจก็เริ่มคิดว่าบางทีเขมมิกาก็อาจช่วยให้หล่อนไม่ลำบากได้เช่นกันคล้อยหลังเขมมิกา เอมอรก็ล้วงโทรศัพท์มือถือที่ซ่อนไว้ใต้เสื้อออกมาก่อนจะพิมพ์ข้อความรายงานความคื
บทที่ 26 สารภาพรัก 2 NC“พี่รักขิมนะ”เสียงทุ้มกระซิบบอกรักซ้ำ ๆ คนตัวเล็กในอ้อมกอดเงยหน้าขึ้นมอง น้ำตามากมายไหลอาบสองแก้มแดงเรื่อ ธีรภัทร์ก้มลงจูบซับสองเปลือกตาอย่างรักใคร่“พี่ภีมรักขิมจริง ๆ หรือคะ”เพราะเขาไม่เคยบอก และเธอก็ไม่เคยคาดหวังว่าจะได้ยินคำคำนี้ออกจากปากชายหนุ่ม ผู้ชายที่ตั้งกำแพงความสัมพันธ์ตั้งแต่วันแรกที่มาเหยียบที่นี่“ถ้าไม่จริงพี่คงไม่พาเธอไปเปิดตัวกับคุณพ่อ และก็คงไม่ประกาศต่อหน้าทุกคนว่าจะเลือกเธอ”การกระทำของเขาสำคัญกว่าคำพูดเสมอ ถึงแม้จะรู้แบบนั้น แต่เขมมิกาก็อยากจะได้รับคำยืนยันจากปากของเขาอยู่ดี“พี่รักขิม”“…”“รักขิมคนเดียว”ธีรภัทร์โน้มใบหน้าลงมาอีกครั้ง สัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นที่เป่ารดกันและกัน เขมมิกาหลับตาพริ้มปล่อยตัวปล่อยใจรับจูบอ่อนหวานจากเขา เรียวลิ้นสากชำแรกเข้ามาในโพรงปากเล็ก วงแขนแข็งแรงกอดรัดเอวบางแนบแน่น มือข้างหนึ่งบีบขยำเต้าอวบหนักสลับเบาปลุกเร้าอารมณ์คนในอ้อมกอด ก่อนจะใช้มือเพียงข้างเดียวปลดกระดุมเสื้อทั้งหมด ก่อนจะสอดมือไปปลดตะขอบราเซียและเปลื้องทุกอย่างออกในคราเดียวกัน นิ้วโป้งบีบบี้เม็ดทับทิมสีเรื่อจนเขมมิกาเสียวสะท้านไปทั้งร่าง ส่งเสียงค
บทที่ 25 สารภาพรัก 1“ไหน ๆ ก็ตัดชุดให้คนอื่นใส่มานักต่อนักแล้ว หาเวลาว่างตัดชุดให้ตัวเองบ้างสิ”หลังจากบนโต๊ะอาหารเงียบไปหลายอึดใจ เจ้าสัวธนาก็เริ่มชวนคริมาพูดคุยอีกครั้ง“คะ?”“ภีม ช่วงนี้งานที่บริษัทก็ไม่ค่อยยุ่งแล้ว มีเวลาก็ไปวัดตัวให้เรียบร้อย กว่าจะถึงฤกษ์ที่ซินแสให้มาก็อีกหลายเดือน หนูครีมรอได้ใช่ไหมลูก”“คุณพ่อครับ!!”ธีรภัทร์ปรายสายตาไปทางบิดาเมื่อรู้ความหมายในสิ่งที่เจ้าสัวต้องการสื่อ ไม่อยากจะเชื่อว่าท่านจะใช้วิธีนี้มามัดมือชก มือข้างหนึ่งของเขากุมมือเขมมิกาแน่น“หรือว่าช้าไป จันพรุ่งนี้เธอนัดซินแสให้เข้ามาพบฉันหน่อย หนุ่มสาวสมัยนี้ใจร้อนจริงเชียว หนูครีมอย่า...”เพล้ง!เมื่อบิดาไม่คิดไว้หน้ากัน ความอดทนอดกลั้นก็จบลง ธีรภัทร์ปัดแก้วน้ำลงพื้น เสียงของมันดังพอที่จะทำให้ทุกคนหยุดพูดและหันมามอง“ลุกขึ้น!”เขาใช้มือข้างที่กุมมือเขมมิกากระตุกรั้งให้หญิงสาวลุกขึ้นยืน“พี่ภีมคะ”ท่าทีแบบนี้ของเขาไม่บ่อยนักที่จะได้เห็น ทว่าก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่เคยมี เขมมิการู้ดีว่าเวลานี้อารมณ์ของเขาถึงจุดเดือดแล้ว นอกจากห้ามปรามไม่ได้ เธอยังต้องทำตัวเป็นพวกเดียวกันกับเขาอีกด้วยธีรภัทร์กระชากแขนเล็ก
บทที่ 24 แขกคนสำคัญคฤหาสน์ที่ปรากฏตรงเบื้องหน้าใหญ่โตโอ่อ่าสมฐานะตระกูลที่มั่งคั่งอันดับต้น ๆ ของประเทศ เขมมิกายืนนิ่งไม่ไหวติง รอให้ธีรภัทร์ก้าวลงจากรถมาหยุดยืนเคียงข้างกัน มือใหญ่หงายฝ่ามือออกให้เธอได้จับ พร้อมพยักหน้าให้กำลังใจเมื่อสัมผัสได้ถึงเหงื่อชื้นของฝ่ามือเล็ก“พวกเราเข้าไปข้างในกันเถอะ”เขาบีบมือหล่อนเล็กน้อย ก่อนจะพาเขมมิกาเดินเคียงคู่เข้าบ้านไปด้วยกันขาเรียวสั่นเล็กน้อยขณะก้าวผ่านพ้นประตูบ้าน ทุกสิ่งทุกอย่างราวกับคนละโลกกับที่เธอมา หน้าเล็กแหงนขึ้นเล็กน้อยมองแชนเดอเลียร์เหนือศีรษะแสงระยิบระยับจากคริสตัลนับพันกระทบนัยน์ตาจนแทบพร่าเลือนนี่บ้านคนหรือวังกันแน่...หญิงสาวกระตุกเกร็งเล็กน้อยเมื่อหันสายตาไปสบกับพวกแม่บ้านที่ยืนรอต้อนรับชายหนุ่ม เขาคงรับรู้ได้ถึงความประหม่าของเขมมิกาเมื่อฝ่ามือหนาบีบแน่นขึ้นจนเธอต้องเงยหน้ามองเขา“ไม่ต้องกลัวนะขิม มีพี่อยู่ด้วย”“ค่ะ พี่ภีม”เขาใช้มืออีกข้างซับเม็ดเหงื่อบนจมูกเล็กให้ ก่อนจะพาหญิงสาวไปยังชั้นสองของบ้าน ด้วยเวลานี้บิดาของเขามักจะขลุกตัวอยู่ในห้องทำงานก๊อกๆ ก๊อกๆ“เข้ามา”เมื่อได้รับอนุญาตจากเจ้าของเสียงทรงอำนาจ ชายหนุ่มก็เปิดปร
บทที่ 23 เงินสำคัญกว่า“กะ แกเป็นแม่ของเขมมิกาเหรอ”คริมาจิกหัวถามซ้ำด้วยไม่อยากจะเชื่อ แต่เมื่ออีกฝ่ายยืนยันหนักแน่นหล่อนก็ไม่มีอะไรต้องคลางแคลงใจ“ใช่จ้ะ ฉันเนี่ยแหละ แม่ของเขมมิกา”แหงล่ะ ลูกสาวที่ยอมเอาตัวเข้าแลกเพื่อให้ได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่สุขสบาย มันจะมีแม่ที่มีสภาพเป็นนางฟ้านางสวรรค์ได้อย่างไรล่ะ“คุณจันบอกให้ฉันมาหาคุณที่นี่ คุณจะให้เงินฉันหากฉันบอกว่าตัวเองเป็นใคร”เอมอรรีบพูดถึงเรื่องเงินทันที คริมาแสยะยิ้มดูถูก กอดอกมองสภาพน่าสมเพชของอีกฝ่าย“แกทำงานอะไร”“เอ่อ… ฉันไม่ได้ทำงานมาหลายปีแล้วจ้ะ”ตั้งแต่เลิกรากับสามีใหม่อย่างชัยณรงค์ เอมอรก็ถูกเตะกลับมายังประเทศไทย หล่อนเร่ร่อนไม่ได้ทำงานทำการเป็นหลักแหล่ง นอกจากรับจ้างล้างจานตามร้านอาหารตามสั่งโต้รุ่ง กวาดถนน ได้เงินเล็ก ๆ น้อย ๆ พอให้ตัวเองมีเงินซื้อข้าวครบสามมื้อ......และซื้อเหล้า“แล้วได้ติดต่อกับลูกสาวบ้างหรือเปล่า”“ไม่ได้ติดต่อเลยจ้ะ ฉันไม่ได้ติดต่อกับยัยขิมมาหลายปีแล้ว”เอมอรรีบส่ายหน้า เรื่องลูกสาวถือเป็นของแสลงที่หล่อนไม่อยากยุ่งเกี่ยว กลัวว่าจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่าง ๆ“แสดงว่าแกคงไม่รู้เลยสินะ ว่าตอนนี้ลูกส