เมื่องานเลี้ยงล่วงเลยถึงเวลาเที่ยงคืน ทารีน่าที่ดื่มไปประมาณหนึ่งก็เริ่มที่จะยืนไม่ไหว“ข้าขอตัวไปรับลมก่อนนะคะท่านพี่”วินเทอร์จับมือของทารีน่าเอาไว้“ข้าว่าเรากลับกันเลยดีไหม? คาดินันกาเล็ตเองก็น่าจะใกล้เสร็จธุระแล้ว"“ข้า..ขอออกไปรับลมสักพักนะคะ”เธอส่งยิ้มให้กับท่านพี่วินเทอร์ และรอยยิ้มเช่นนั้นของทารีน่ามันหมายความว่านางกำลัง มีแผนการบางอย่างอยู่ในใจ เขาเหลือบมององค์รัชทายาทฮาร์วีที่กำลังพูดคุยอยู่กับขุนนาง ก่อนจะยินยอมปล่อยมือจากทารีน่า“ข้าจะรออยู่ตรงนี้..”“ค่ะ ข้าจะรีบกลับมา”ตั้งแต่ที่เธอเข้ามาในงานเลี้ยงแห่งนี้ ความรู้สึกแรกของทารีน่ามันบอกว่าองค์รัชทายาทจะต้องหาทางเข้ามาพูดคุยกับเธอเป็นการส่วนตัวอย่างแน่นอน ตามนิสัยของพระเอกในนิยายแล้ว ฮาร์วีเป็นบุรุษที่เจ้าแผนการและชื่นชอบความสมบูรณ์แบบ คนเช่นนั้นย่อมทำให้ตัวเองเป็นที่สนใจและสตรีที่จะสามารถดึงความสนใจของเหล่าชนชั้นสูงมาที่เขาได้ก็คงจะหนีไม่พ้นทารีน่าผู้นี้..เพื่อให้ตัวเองเป็นที่นิยมชมชอบก็เลยเหยียบย่ำสตรีผู้หนึ่งขึ้นไปยังจุดนั้นสินะอ่า..คันมืออยากจะซัดใบหน้านั้นสักครั้งจังโว้ย!! นี่เธอโมโหเหมือนกับว่าเขากำลังหลอกใช้ตัวเ
เดนิซาได้ยินทุกคำกล่าวและมองเห็นในทุกการกระทำที่องค์รัชทายาทฮาร์วีและเลดี้โรแกนกระทำในระเบียงชมวิวที่ชั้นสองของห้องโถงจัดเลี้ยงเขาเดินเข้ามาหาเลดี้โรแกนด้วยหัวใจที่รู้สึกสับสน นางมิได้มีทีท่าว่าจะฆ่าเขาเหมือนกับที่รับปากเอาไว้กับองค์รัชทายาทเลยแม้แต่น้อยทารีน่าในยามนี้กำลังถูมือไปมาบนหน้าผากที่พึ่งจะถูกจุมพิตเมื่อครู่นี้ด้วยใบหน้าที่เหยเก“เลดี้โรแกน..”“อ่า ได้ยินแล้วใช่ไหมคะท่านเซอร์ ดูเหมือนว่าองค์รัชทายาทผู้นั้นจะต้องการให้ข้าสังหารท่าน เหตุผลของพระองค์คงจะเป็นการที่ท่านทำตัวเด่นเกินไปในสายตาของว่าที่พระชายาอเดเรีย”ในใจของเดนิซานั้นเกิดคำถามขึ้นมามากมาย เขาทวนคำกล่าวของเลดี้โรแกนซ้ำๆ อีกครั้งในใจตระกูลของเขาภักดีต่อราชวงศ์มาโดยตลอด ชีวิตของเซอร์เดนิซาสามารถยกให้องค์จักรพรรดิก็ยังได้ แต่ทว่าองค์รัชทายาทกลับสั่งให้เลดี้ผู้หนึ่งมาสังหารเขา“แล้วเลดี้..ในยามนี้ต้องการดาบสักเล่มไหมครับ”ทารีน่าหัวเราะเบาๆ หลังจากที่เช็ดหน้าผากจนพอใจ เธอก็มองออกไปที่สวนในยามค่ำคืนของพระราชวัง“ข้าไม่คิดทำตามคำสั่งเขาหรอกค่ะ แต่อย่างน้อยในยามนี้ข้าคิดว่าข้ากำลังจะได้เพื่อนใหม่คนหนึ่งที่มีอุดมการณ์เดี
อุณหภูมิข้างแก้มพลันร้อนผ่าวขึ้นมาเมื่อได้ยินคำกล่าวเช่นนั้นของท่านพี่วินเทอร์ส่วนมือของท่านกาเล็ตก็กำลังป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ กางเกงซับในของเธออยู่ทารีน่ารีบยกมือขึ้นมาเพื่อขัดขวางเขาเอาไว้“อ่า!..ขะ..ข้ายังคุยเรื่องสำคัญไม่จบเลยค่ะ”กาเล็ตหัวเราะเบาๆ เขาลุกขึ้นไปนั่งบนเตียงกับทารีน่าพร้อมกับหอมแก้มเธอเบาๆ“ตามเจตนาของท่านทารีน่าแล้ว ท่านต้องการให้องค์รัชทายาทฮาร์วีลงจากตำแหน่งองค์รัชทายาทที่กำลังดำรงอยู่ มันอาจจะง่ายดายมากขึ้นหากว่าท่านเล็งเห็นถึงผู้ที่จะขึ้นมาเป็นองค์รัชทายาทแทนฮาร์วี เพราะบุคคลผู้นั้นน่าจะยินดียื่นมือเข้ามาช่วยเหลือท่านทารีน่า..”เธอยื่นมือไปจับมือของคาดินันกาเล็ตเอาไว้“ท่านไงคะ ท่านกาเล็ตคือผู้ที่ข้ามองว่าท่านเหมาะสมที่สุดในการขึ้นเป็นองค์รัชทายาทและองค์จักรพรรดิ”กาเล็ตนิ่งอึ้งไปหลายนาที คำกล่าวของทารีน่าทำให้เขาแทบหยุดหายใจ“ท่านทารีน่า ข้าไม่สามารถเป็นองค์จักรพรรดิหรือว่าองค์รัชทายาทได้หรอกครับ ข้าหลบหนีมาก็เพราะว่าข้าไม่ต้องการแย่งชิงอำนาจในพระราชวัง และข้าเองก็คาดหวังอย่างยิ่งว่าลูกชายของข้าจะไม่ต้องแย่งชิงอำนาจจากใครทั้งนั้น” ทารีน่าส่งยิ้มหวานให้เขา มันเป
ความวาบหวามแล่นริ้วขึ้นมาทันทีที่ปลายนิ้วของท่านพี่วินเทอร์สัมผัสร่างกาย ทารีน่าช้อนสายตามามองใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ผมสีเหลืองทองสว่างถูกปล่อยสยายอย่างไม่ใส่ใจนัก และในยามนี้มันกำลังเปียกลู่ไปตามแผ่นหลังเพราะว่าเราต่างก็นั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำเธอกำลังนั่งอยู่บนร่างกายของท่านกาเล็ต ผมสีเงินของเขาเปล่งประกายเมื่อต้องแสงจันทร์ในยามค่ำคืน เขาถอดแว่นที่ปกติมักจะสวมเอาไว้บนใบหน้าออกไป ทำให้จากใบหน้าที่เคร่งขรึมของคาดินันผู้ปกครองวิหารศักดิ์สิทธิ์ยามนี้หลงเหลือเอาไว้เพียงแค่ใบหน้าที่แสนอ่อนโยนของบุรุษผู้หนึ่งเท่านั้นเองริมฝีปากของกาเล็ตพรมจูบไปตามแผ่นหลังของทารีน่าเพื่อสร้างร่องรอยของความรักให้หลงเหลือเอาไว้ ส่วนมือทั้งสองข้างของเขากำลังบีบเคล้นเนื้อเนินอวบอิ่มคู่นั้นอย่างไม่ยอมลดละสัมผัสอ่อนนุ่มจากริมฝีปากของท่านกาเล็ตกำลังทำให้เธอหลงมัวเมา ริมฝีปากของเขาทั้งเร่าร้อนและร้ายกาจในคราวเดียวกัน สติของเธอแทบไม่หลงเหลืออยู่แล้วในร่างกายนี้การทำใจให้ชินกับบุรุษที่มีใบหน้าราวกับพระเจ้าทรงปั้นทั้งสองคนนี้ไม่ง่ายเลย และความอ่อนโยนจากสัมผัสของพวกเขาที่ถูกส่งมอบมาให้เธอพร้อมๆ กัน มันยิ่งทำให้ทารีน่า
สายตาของวินเทอร์นั้นยังคงจับจ้องไปที่ใบหน้าของทารีน่า เขาซุกหน้ากับเส้นผมชื้นเหงื่อ เพื่อสูดดมความหอมหวานทั้งผม หู หน้าผาก พรมจูบทุกส่วนของเธออย่างมีความสุข“ข้าจะพาท่านทารีน่าไปล้างตัว ส่วนท่านเก็บที่นอนด้วยนะครับ”วินเทอร์ที่กำลังพรมจูบทารีน่าถึงกับขมวดคิ้ว ไอ้หมอนี่พอเห็นเขายอมหน่อยล่ะเอาเปรียบใหญ่เลยนะ“ครั้งที่แล้วไม่ใช่ตกลงกัน ว่าข้าจะต้องเริ่มก่อนงั้นหรือ แต่ครั้งนี้เจ้ากลับเป็นเริ่มก่อน คาดินันกาเล็ต..เจ้าต่างหากที่ต้องเก็บที่นอนเพราะว่าข้าจะพารินาไปอาบน้ำเอง”กาเล็ตทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เขาอุ้มทารีน่าขึ้นมาโดยไม่สนใจสายตาของเคาน์วินเทอร์เลยด้วยซ้ำ“ท่านเป็นคนพานางมาที่เตียงด้วยซ้ำ เพราะอย่างนั้นเป็นท่านที่จะต้องเก็บเตียงนะครับ”กาเล็ตอุ้มทารีน่าพานางไปที่ห้องอาบน้ำอีกครั้ง เขาจัดการวางนางลงบนเก้าอี้ก่อนจะล้างเนื้อล้างตัวให้นาง กาเล็ตยังไม่ลืมล้างส่วนนั้นให้เธออีกด้วยเขาแยกขาของทารีน่าออก ก่อนจะใช้ปลายนิ้วปาดไปมาแล้วสอดลึกเข้าไปด้านในเพื่อล้วงเอาหยาดน้ำด้านในออกมา“อื้อ!..ข้าทำไม่ไหวแล้วนะคะ”“ข้าไม่ได้ทำอะไรแล้วครับ แค่ทำความสะอาดส่วนนั้นให้ท่าน แต่พอท่านทารีน่าร้องครางออกมาเช่
ดวงตาของอเดเรียนั้นกำลังสั่นระริก ริมฝีปากคู่สวยขบเม้มคลายเข้าคลายออกซ้ำๆ ด้วยความสับสนเมื่อเธอกลับมายังพระราชวังของตัวเอง นั่นก็คือที่ประทับของพระชายากลับมีบางอย่างหายไปจากหีบไม้ที่เธอเฝ้าระมัดระวังบันทึกของอเดเรียตัวจริงหายตัวไป หายไปไหนกันนะ?ไม่มีทางที่เธอจะหลงลืมเอาไปไว้ที่อื่นเพราะว่าเรื่องนี้เธอระวังมากกว่าเรื่องไหนๆ ในนั้นมีเรื่องราวมากมายที่เธอยังไม่ได้อ่านไปจนถึงหน้าสุดท้ายเลย เพราะการเป็นว่าที่พระชายาทำให้อเดเรียไม่มีเวลาส่วนตัวเลยก็ว่าได้ แถมองค์รัชทายาทก็ตามติดเธอแทบจะตลอดเวลา..สีหน้าของอเดเรียนั้นเคร่งเครียดแสดงถึงความคิดอันยุ่งเหยิงในจิตใจมือของเธอสั่นเทาจนแทบจะหยิบจับอะไรไม่ได้ เธอชั่งใจมากเกินไป เพราะคิดว่าไม่น่าจะมีใครมายุ่งเกี่ยวกับบันทึกนั้น ก็เลยไม่ได้รีบอ่านรีบทำลายมันทิ้งไปไม่ว่าบันทึกนั้นจะอยู่ที่ใคร ความเป็นอยู่ของเธอในยามนี้ก็ล้วนแล้วแต่อันตรายทั้งสิ้นเลย“อเดเรีย..”เธอสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงเรียกที่หน้าต่างละเมื่อหันกลับไปมองก็เห็นเซอร์เดนิซาที่กำลังปีนหน้าต่างเข้ามาหาเธอ เขายังคงส่งยิ้มให้เธอพร้อมกับยกมือขึ้นมาแล้วโอบกอดเอวของเธอเอาไว้ด้วยความรักใ
ทารีน่ายังคงนอนอยู่บนเตียงพร้อมกับผ้าห่มผืนใหญ่ เธอทอดสายตามองออกไปด้านนอกหน้าต่างก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปยังเตาผิงเมื่อวานหลังจากกลับมาจากพระราชวังเธอก็ใช้เวลาไปกับสมุดบันทึกของอเดเรียทารีน่าคิดว่าอเดเรียตัวจริงน่าจะเป็นผู้จดบันทึกเรื่องราวต่างๆ เอาไว้ ที่น่าตกใจมากๆ ก็คือนางเอกของเรื่องมีพลังในการมองเห็นอนาคต และอนาคตที่อเดเรียมองเห็นมันถูกเขียนเอาไว้ในสมุดบันทึกเล่มนี้หมดแล้วเมื่อทารีน่ามายืนอยู่ที่ด้านหน้าเตาผิง นางก็โยนสมุดบันทึกในมือไปใส่ในกองไฟเธอมั่นใจว่าอเดเรียผู้สวมร่างน่าจะยังไม่ได้อ่านบันทึกนี้จบ ไม่อย่างนั้นนางคงจะไม่ใช้ชีวิตสบายๆ อย่างตอนนี้เป็นแน่เมื่อเพอร์ร่าได้ยินเสียงฝีเท้าที่ด้านใน สาวใช้ก็คิดว่านายหญิงของเธอจะต้องตื่นแล้วเป็นแน่ เธอจึงสั่งให้สาวใช้ด้านนอกยกถาดอาหารเข้ามาด้านใน“สายไปนิดสำหรับมื้อเช้านะคะนายหญิง”ทารีน่ายักไหล่“เพอร์ร่าหิมะตกหนักมากขนาดนี้ เจ้าเองก็ไม่ต้องตื่นเช้าอะไรมากมายนักหรอก”เพอร์ร่าส่งยิ้มให้กับนายหญิงก่อนจะก้มหน้าลง“ทหารในนามของตระกูลโรแกนได้นำผ้าห่มและเสื้อคลุมกันหนาวไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านตามที่นายหญิงสั่งเรียบร้อยแล้วค่ะ”ทารีน่าหยั
เมื่อได้ยินคำกล่าวของทารีน่า มาไคล์ก็ตัวแข็งทื่อไปพักหนึ่ง เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเธอจะทำแบบนั้น..ดวงตาที่เบิกกว้างของเขาพลันอ่อนลงก่อนจะเดินเข้าไปหาทารีน่าที่กำลังนั่งอยู่บนเตียงนั้นช้าๆ มือของเขาสอดรับเข้าไปยังใบหน้าของเธอเพื่อจงใจเชยคางมนให้เงยขึ้นมามองสบตาเขา“ทารีน่า..ข้าไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไรเพื่อให้เจ้าเข้าใจ แต่ข้ากับอเดเรีย ข้าไม่ได้รักนาง”ทารีน่าช้อนสายตามองหน้าเขา มือของเธอกำแน่นด้วยความคับแค้นใจ จะเอาอย่างนี้ใช่ไหม? จะหลอกลวงเธอจนถึงนาทีสุดท้ายเลยใช่ไหม!!“ใครบอกว่าข้าหมายถึงว่าที่พระชายาอเดเรียล่ะคะ ท่านดยุคแห่งทารอน ท่านน่ะมักจะมองข้าว่าข้าคือสตรีที่โง่งมเสมอเลย ท่านดูถูกดูแคลนสายข่าวของโรแกนมากเกินไปแล้ว”ใบหน้าของมาไคล์ซีดเซียวจนไร้สีเลือด เขาขบเม้มริมฝีปากเบาๆ ก่อนจะใช้ปลายนิ้วไล้ลงไปบนริมฝีปากนุ่มหยุ่นของเธอ“ข้าเสียนางไปไม่ได้ กับเจ้าก็เช่นกัน”“เพี๊ยะ!!”มือของเธอที่พึ่งจะฟาดลงไปบนใบหน้าของเขา มันทำให้มาไคล์รู้สึกชาไปหมดทั้งใบหน้า และท่าทีตกใจของท่านมาไคล์ที่ถูกเธอตบมันยิ่งทำให้ในใจของทารีน่ารู้สึกดียิ่งนัก!!“ข้าไม่ต้องการเป็นสตรีที่สองรองจากใครทั้งนั้น หากว่
เส้นทางความรักของเขานั้นต่อให้เปื้อนเลือดนิดหน่อยก็คงไม่เป็นไร เพื่อรอยยิ้มของทารีน่าแล้ว เขาจำเป็นต้องทำทุกอย่างแม้จะลงมือสังหารใครไปบ้างก็ไม่เป็นไรหรอกเธอบอกว่าเขาคือตัวร้ายในนิยายเรื่องนี้และตำแหน่งนั้นมันช่างเหมาะสมกับเขามากเหลือเกิน..มาไคล์เลือกที่จะอาบน้ำเพื่อชะล้างรอยเลือดที่ติดอยู่ตามร่างกายให้หมด หลังจากนั้นเมื่อเขามองออกไปด้านนอกหน้าต่างก็ยังคงมืดครึ้มอยู่ ตอนนี้เป็นเวลาสายมาแล้วและทารีน่ายังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลย มุมปากของมาไคล์ยกสูงขึ้นมาเมื่อเขานึกถึงใบหน้ายามเหนื่อยล้าของเธอ เพราะว่าร่างกายของเธอมันหอมหวานมากเกินไป เขาถึงได้กลืนกินจนไม่หลงเหลือสติเช่นนี้มาไคล์เดินไปจุมพิตทารีน่าอีกครั้ง แล้วสวมเสื้อคลุมเพื่อเดินออกไปด้านนอกวันนี้หิมะตกลงมาเบาบางมากเหลือเกิน เหมือนกับว่าอากาศเป็นใจให้เขาได้นำพาเถ้ากระดูกของท่านอาจารย์มาฝังเอาไว้ที่สุสานของตระกูลทารอนบนใบหน้าของมาไคล์ไม่มีร่องรอยความเสียใจเลยแม้แต่น้อย เพราะเขาคิดว่าช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ เขาเสียใจมากพอแล้วกับการกระทำที่ผิดพลาดเกี่ยวกับการสูญเสียท่านอาจารย์ไป เขาร้องไห้มามากจริงๆ แถมยังจมอยู่กับความรู้สึกผิดที่อัดแน่น
ฝ่ามือหนาของมาไคล์บรรจงลูบลงไปที่แผ่นหลังของทารีน่า หัวใจของเขามันเต็มเปี่ยมไปด้วยความอิ่มเอมอาจจะเพราะว่าเขาได้ปรับความเข้าใจกับเธอ หรือไม่ก็เพราะว่าเขาได้กระทำเรื่องบนเตียงหลายครั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนทารีน่าผลอยหลับไปในอ้อมแขนของเขา เธอยังคงงดงามถึงแม้ว่าดวงตาจะปิดสนิทมาไคล์จุมพิตลงไปบนหน้าผากของเธอก่อนจะค่อยๆ ดึงผ้าห่มขึ้นมาปกคลุมร่างกายของทารีน่าให้อบอุ่นเช่นเดียวกันกับในยามที่เธออยู่ในอ้อมแขนของเขาเขาค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงด้วยความระมัดระวังเพื่อไม่ให้เธอตื่นขึ้นมา ที่มุมปากของมาไคล์หยักยิ้มขึ้นมาด้วยความเอ็นดูเหมือนว่าเขาจะหลงเสน่ห์เธออย่างหัวปักหัวปำแล้วล่ะสิ เขาไม่อยากลุกออกจากเตียงในยามนี้เลยให้ตายเถอะเพียงแต่ยังมีเรื่องที่เขาต้องการจัดการให้เสร็จสิ้น มาไคล์เดินลงมายังชั้นใต้ดินของคฤหาสน์ เขาปรายตามองเซอร์เดนิซาที่นั่งพิงกำแพงอยู่ด้านในคุก“เจ้าโชคดีที่ได้ทารีน่าออกหน้าเพื่อช่วยเหลือ ไม่อย่างนั้นในยามนี้ศพของเจ้าคงจะถูกแขวนอยู่ที่ประตูเข้าคฤหาสน์ทารอนไปแล้ว”เดนิซาก้มหน้าลงเพื่อทำความเคารพท่านดยุค“เรื่องการวางเพลิงข้ากระทำเพียงผู้เดียวไม่เกี่ยวกับเลดี้โรแกนเลยครับ ท่านดยุคได
มาไคล์วางทารีน่าลงบนเตียง เพียงแค่เขาดีดนิ้วเบาๆ ประตูและหน้าต่างทั้งหมดก็ปิดลงพร้อมๆ กับม่านหน้าต่างที่ปิดทึบลงมา “ทารีน่าเจ้ากำลังก่อเรื่องอะไร? ..” เธอละสายตาจากใบหน้าของเขาเพื่อหันมองไปทางอื่น “ข้าไม่ได้ก่อเรื่องค่ะ เพราะว่าข้าทำจริงๆ” “เจ้าคิดว่าข้าโง่ขนาดที่มองไม่ออกอย่างนั้นหรือว่านี่มันคือฝีมือของใคร ทำไมถึงปกป้องเซอร์เดนิซา” เขาผลักเธอให้ล้มตัวลงไปบนเตียง เรือนผมสีแดงเพลิงของทารีน่าสยายลงไปบนหมอน มาไคล์จ้องมองความงามล้ำบนใบหน้านั้นด้วยความพึงพอใจก่อนที่เขาจะคล่อมทับร่างของเธอเอาไว้ “เพราะว่าท่านเซอร์เป็นคนดีค่ะ” “เหอะ! เช่นนั้นข้าเป็นคนเลวหรืออย่างไรเจ้าถึงได้ไม่ปกป้องข้าบ้าง” ก็ใช่นะสิ เพราะว่าท่านมาไคล์คือตัวร้าย..แถมยังเป็นคนใจร้ายด้วย!! “ข้าคิดว่าท่านจะร้องไห้เสียใจที่ร่างของสตรีผู้นั้นถูกเผาจนวอดไปหมด..” มาไคล์ไม่ได้ตกใจกับคำกล่าวตัดพ้อของทารีน่าเลย เขาใช้มือฉีกทึ้งชุดเดรสของเธอออกจากร่าง ตามมาด้วยเสื้อซับในตัวบาง “เรื่องของข้ากับท่านอาจารย์มันเกิดขึ้นมานานแล้วตั้งแต่ที่ข้ายังเด็กมากๆ ข้ารู้สึกกับผิดนางมากกว่า เจ้าเองเถิดทารีน่า..ข้ามั่นใจว่าไม่มีใคร
เมื่อมาไคล์มองเห็นใบหน้าของคนร้ายที่วางเพลิงเผาเรือนหลังเล็กของเขา ที่มุมปากของมาไคล์ก็แสยะยิ้มออกมาอย่างเลือดเย็น เขาดึงดาบที่เอวของทหารออกมาก่อนจะพาดลงไปที่คอของเซอร์เดนิซา“เซอร์เดนิซา เจ้าต้องเป็นคนโง่แบบไหนถึงบุกเข้ามาในคฤหาสน์ของข้าเพื่อทำเรื่องเช่นนี้ได้”เดนิสกำมือแน่น เขาผิดจริงๆ ในเรื่องนี้และเขาในยามนี้ก็กำลังทำใจให้สบายเพื่อพร้อมที่จะตายแล้ว เมื่อสตรีในโลงแก้วผู้นั้นไม่หลงเหลือร่างกาย ดยุคทารอนก็ไม่ต้องใช้เลือดหัวใจของอเดเรียอีก คราวนี้นางจะสามารถมีชีวิตอย่างมีความสุขโดยไร้ซึ่งความหวาดระแวง“ข้าผิดเองครับท่านดยุค การกระทำของข้าในครั้งนี้ข้ายินยอมรับทุกอย่างด้วยความตายที่ท่านจะประทานให้”ทารีน่าเม้มปากแน่น ท่านเซอร์เดนิซานี่..พอมองๆ ไปแล้ว เขาเหมือนกับเธอในตอนแรกเลยแฮะ เพราะว่ารักถึงได้ยินยอมส่งมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้ ไม่เสียดายแม้กระทั่งชีวิตของตัวเอง..ความรักเมื่อมีอิทธิพลเหนือสมองแล้ว จะส่งผลทำให้เราหูตามืดบอดแถมยังโง่อีกต่างหาก..“เจ้าตายไปแล้วร่างกายของอาจารย์ข้าที่มอดไหม้ไปแล้วจะกลับคืนมาอย่างนั้นหรือเซอร์ ข้ารู้ว่าเจ้าถูกสั่งมาเพราะอย่างนั้นกล่าวรายนามของผู้ที่สั่งการ
ไม่ว่าจะปลายนิ้วหรือว่าปลายลิ้นที่ลากไล้ผ่านเรือนร่าง ต่างก็ส่งผลให้ตรงจุดนั้นร้อนผ่าวคล้ายจะมีไฟลุกขึ้นมาในทารีน่าช้อนสายตามองใบหน้าที่เธอเคยลุ่มหลงเขาจนโงหัวไม่ขึ้น ดวงตาสีเลือดนั้นทำให้เธอเคยตกหลุมรักเขาซ้ำๆ อย่างไม่อาจหักห้ามหัวใจเธอเทิดทูนบูชาเขาราวกับเป็นเทพเจ้า หลงรักเขาที่มั่นคงในความรักต่อนางเอกของเรื่อง..ทว่าเขาไม่ใช่บุรุษในแบบที่เธอเคยเลยสักนิดแน่นอนว่าใบหน้าของท่านมาไคล์ยังคงหล่อเหลาเหมือนเดิมไม่ผิดเพี๊ยนไปแต่ทว่านิสัยความโลและความไม่มั่นคงของเขามันทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดฝ่ามือใหญ่ไล้ไปตามผิวเนื้อเปลือยเปล่าที่สั่นเทาน้อยๆ ก่อนจะเลื่อนลงไปตามสีข้าง เอว จนถึงระหว่างขา ชุดเดรสที่ทารีน่าสวมใส่พลันถูกเลิกขึ้นมาจนเกือบถึงเอวมาไคล์ไม่สนด้วยซ้ำว่าในยามนี้เรานั่งอยู่ในห้องอาหารที่ไม่ใช้ห้องนอน เขารู้สึกเพียงแค่อยากสัมผัสเธอจนแทบคลั่ง หัวใจของเขามันแทบจะหยุดหายใจเพียงเพราะเธอมองหน้าเขาด้วยสายตาไม่ชอบใจความเจ็บปวดที่ไร้ที่มาพาดผ่านหัวใจไปเงียบๆ ราวกับขนนกที่ปัดผ่าน“ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าตัดใจจากข้าไปจนสิ้น..”คำกล่าวของมาไคล์ถูกกลืนลงคอเมื่อเขามองเห็น..ดวงตาที่คลอหน่วยไปด้วยหยดน้ำ
หลังจากที่เพอร์ร่าพูดคุยกับพ่อบ้านเสร็จเรียบร้อย สาวใช้ร่างท้วมก็เดินมาที่หน้าห้องนอนของนายหญิง เธอเคาะประตูเล็กน้อยตามมารยาท แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับเพอร์ร่าจึงเดินเข้าไปด้านในเพราะคิดว่านายหญิงอาจจะกำลังหลับอยู่ เธอจึงไม่ได้เข้าไปด้านในและรอคอยอีกพักใหญ่ๆ ถึงเดินมาเคาะประตูใหม่ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับเช่นเคยเมื่อเห็นท่าไม่ดีเพอร์ร่าจึงเปิดประตูเข้าไปในทันที ด้านในห้องนอนของนายหญิงไม่มีร่องรอยของใครเลย“นายหญิงออกมาจากห้องนอนรึเปล่า?”สาวใช้ที่เฝ้าหน้าห้องนอนของนายหญิงส่ายหน้าพร้อมกัน“ข้าทั้งสองไม่เห็นว่ามีใครเข้าหรือว่าออกจากห้องนอนของนายหญิงเลยค่ะคุณหัวหน้าสาวใช้”เพอร์ร่ายกมือขึ้นมากุมหัวใจเอาไว้ เธอพยายามระงับความตกใจที่เกิดขึ้นเอาไว้ก่อนจะรีบดึงสติของตัวเองกลับมา“ส่งคนไปที่วิหารศักดิ์สิทธิ์และคฤหาสน์ทรอย รายงานว่าท่านทารีน่าหายตัวไป..”แน่นอนว่าเมื่อกาเล็ตได้รับข่าวสารจากสาวใช้ของทารีน่าเขาก็ตรงมาที่คฤหาสน์โรแกนในทันที วันนี้หิมะตกหนักมากกว่าทุกวันอีกทั้งการเดินทางด้วยรถม้านั้นลำบากและกินเวลายิ่งนัก แต่เมื่อเขามาถึงหน้าคฤหาสน์ก็เห็นเคาน์ทรอยยืนรอเขาอยู่ด้วยสภาพเหนื่อยหอบ“ข
เมื่อได้ยินคำกล่าวของทารีน่า มาไคล์ก็ตัวแข็งทื่อไปพักหนึ่ง เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเธอจะทำแบบนั้น..ดวงตาที่เบิกกว้างของเขาพลันอ่อนลงก่อนจะเดินเข้าไปหาทารีน่าที่กำลังนั่งอยู่บนเตียงนั้นช้าๆ มือของเขาสอดรับเข้าไปยังใบหน้าของเธอเพื่อจงใจเชยคางมนให้เงยขึ้นมามองสบตาเขา“ทารีน่า..ข้าไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไรเพื่อให้เจ้าเข้าใจ แต่ข้ากับอเดเรีย ข้าไม่ได้รักนาง”ทารีน่าช้อนสายตามองหน้าเขา มือของเธอกำแน่นด้วยความคับแค้นใจ จะเอาอย่างนี้ใช่ไหม? จะหลอกลวงเธอจนถึงนาทีสุดท้ายเลยใช่ไหม!!“ใครบอกว่าข้าหมายถึงว่าที่พระชายาอเดเรียล่ะคะ ท่านดยุคแห่งทารอน ท่านน่ะมักจะมองข้าว่าข้าคือสตรีที่โง่งมเสมอเลย ท่านดูถูกดูแคลนสายข่าวของโรแกนมากเกินไปแล้ว”ใบหน้าของมาไคล์ซีดเซียวจนไร้สีเลือด เขาขบเม้มริมฝีปากเบาๆ ก่อนจะใช้ปลายนิ้วไล้ลงไปบนริมฝีปากนุ่มหยุ่นของเธอ“ข้าเสียนางไปไม่ได้ กับเจ้าก็เช่นกัน”“เพี๊ยะ!!”มือของเธอที่พึ่งจะฟาดลงไปบนใบหน้าของเขา มันทำให้มาไคล์รู้สึกชาไปหมดทั้งใบหน้า และท่าทีตกใจของท่านมาไคล์ที่ถูกเธอตบมันยิ่งทำให้ในใจของทารีน่ารู้สึกดียิ่งนัก!!“ข้าไม่ต้องการเป็นสตรีที่สองรองจากใครทั้งนั้น หากว่
ทารีน่ายังคงนอนอยู่บนเตียงพร้อมกับผ้าห่มผืนใหญ่ เธอทอดสายตามองออกไปด้านนอกหน้าต่างก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปยังเตาผิงเมื่อวานหลังจากกลับมาจากพระราชวังเธอก็ใช้เวลาไปกับสมุดบันทึกของอเดเรียทารีน่าคิดว่าอเดเรียตัวจริงน่าจะเป็นผู้จดบันทึกเรื่องราวต่างๆ เอาไว้ ที่น่าตกใจมากๆ ก็คือนางเอกของเรื่องมีพลังในการมองเห็นอนาคต และอนาคตที่อเดเรียมองเห็นมันถูกเขียนเอาไว้ในสมุดบันทึกเล่มนี้หมดแล้วเมื่อทารีน่ามายืนอยู่ที่ด้านหน้าเตาผิง นางก็โยนสมุดบันทึกในมือไปใส่ในกองไฟเธอมั่นใจว่าอเดเรียผู้สวมร่างน่าจะยังไม่ได้อ่านบันทึกนี้จบ ไม่อย่างนั้นนางคงจะไม่ใช้ชีวิตสบายๆ อย่างตอนนี้เป็นแน่เมื่อเพอร์ร่าได้ยินเสียงฝีเท้าที่ด้านใน สาวใช้ก็คิดว่านายหญิงของเธอจะต้องตื่นแล้วเป็นแน่ เธอจึงสั่งให้สาวใช้ด้านนอกยกถาดอาหารเข้ามาด้านใน“สายไปนิดสำหรับมื้อเช้านะคะนายหญิง”ทารีน่ายักไหล่“เพอร์ร่าหิมะตกหนักมากขนาดนี้ เจ้าเองก็ไม่ต้องตื่นเช้าอะไรมากมายนักหรอก”เพอร์ร่าส่งยิ้มให้กับนายหญิงก่อนจะก้มหน้าลง“ทหารในนามของตระกูลโรแกนได้นำผ้าห่มและเสื้อคลุมกันหนาวไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านตามที่นายหญิงสั่งเรียบร้อยแล้วค่ะ”ทารีน่าหยั
ดวงตาของอเดเรียนั้นกำลังสั่นระริก ริมฝีปากคู่สวยขบเม้มคลายเข้าคลายออกซ้ำๆ ด้วยความสับสนเมื่อเธอกลับมายังพระราชวังของตัวเอง นั่นก็คือที่ประทับของพระชายากลับมีบางอย่างหายไปจากหีบไม้ที่เธอเฝ้าระมัดระวังบันทึกของอเดเรียตัวจริงหายตัวไป หายไปไหนกันนะ?ไม่มีทางที่เธอจะหลงลืมเอาไปไว้ที่อื่นเพราะว่าเรื่องนี้เธอระวังมากกว่าเรื่องไหนๆ ในนั้นมีเรื่องราวมากมายที่เธอยังไม่ได้อ่านไปจนถึงหน้าสุดท้ายเลย เพราะการเป็นว่าที่พระชายาทำให้อเดเรียไม่มีเวลาส่วนตัวเลยก็ว่าได้ แถมองค์รัชทายาทก็ตามติดเธอแทบจะตลอดเวลา..สีหน้าของอเดเรียนั้นเคร่งเครียดแสดงถึงความคิดอันยุ่งเหยิงในจิตใจมือของเธอสั่นเทาจนแทบจะหยิบจับอะไรไม่ได้ เธอชั่งใจมากเกินไป เพราะคิดว่าไม่น่าจะมีใครมายุ่งเกี่ยวกับบันทึกนั้น ก็เลยไม่ได้รีบอ่านรีบทำลายมันทิ้งไปไม่ว่าบันทึกนั้นจะอยู่ที่ใคร ความเป็นอยู่ของเธอในยามนี้ก็ล้วนแล้วแต่อันตรายทั้งสิ้นเลย“อเดเรีย..”เธอสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงเรียกที่หน้าต่างละเมื่อหันกลับไปมองก็เห็นเซอร์เดนิซาที่กำลังปีนหน้าต่างเข้ามาหาเธอ เขายังคงส่งยิ้มให้เธอพร้อมกับยกมือขึ้นมาแล้วโอบกอดเอวของเธอเอาไว้ด้วยความรักใ