ตระกูลทารอนเป็นตระกูลผู้ถูกสาปให้ไร้หัวใจ เด็กชายที่เกิดขึ้นมาในตระกูลนี้จะถูกคำสาปครอบงำ การจะได้มาซึ่งพลังอันแข็งแกร่งของซาตาน จะต้องสังหารสตรีอันเป็นที่รักยิ่ง แล้วนำเลือดหัวใจของนางมาเป็นเครื่องสังเวยให้กับซาตาน
ในวันที่มาไคล์อายุสิบเจ็ดปี เขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลก็จริง แต่ทว่าท่านพ่อต้องสังหารแม่ของเขาเพื่อให้ตัวเองได้พลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่นั้นมา ทำให้ดยุคคนก่อนของทารอนเลือกที่จะหลบหนีออกไปจากตระกูลทารอนเงียบๆ เพราะเขาไม่อาจทนเห็นลูกชายที่เหมือนภรรยาไปทุกกระเบียดนิ้วอย่างมาไคล์ได้อีกต่อไป อีกทั้งพลังอำนาจที่มีคำกล่าวเล่าขานว่ายิ่งใหญ่นักหนา มันว่างเปล่าไปหมดเลย เมื่อไม่มีภรรยาอยู่ข้างกาย.. ดยุคคนเก่าแห่งทารอนหายไปอย่างไร้ร่องรอย โดยไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย ตระกูลทารอนถูกส่งมอบมาให้มาไคล์ และเขามีสตรีที่ผูกพันยิ่งกว่าสตรีใด นั่นก็คือท่านอาจารย์มอนเน่ สตรีใบหน้าธรรมดาๆ นางมิได้งดงามจับใจเหมือนกับเลดี้ชนชั้นสูงในจักรวรรดิ แต่ทว่าท่านอาจารย์มอนเน่ก็อยู่เคียงข้างมาไคล์ทุกช่วงเวลาของชีวิต นางพร่ำสอนเขาเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ในจักรวรรดิ เรื่องการนำพาทารอนให้กลับไปยิ่งใหญ่ และสอนเรื่องที่ทำให้หัวใจที่ด้านชาของมาไคล์กลับมาเต้นแรงอีกครั้งหนึ่ง นั่นก็คือเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก เพียงแต่คำว่าจุดสูงสุดของแต่ละคนมันไม่เท่ากัน และจุดสูงสุดที่มาไคล์ต้องการคือพลังอำนาจของทารอน..ที่ซาตานควรจะส่งมอบให้เขา ม่อนเน่คือสตรีที่เป็นเพียงหญิงชาวบ้านธรรมดาๆ เท่านั้น นางโชคดีที่เรียนเก่งและโชคดีกว่าใครที่ได้เข้ามาสอนว่าที่ดยุคของตระกูลทารอน มาไคล์ถือเป็นเด็กที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสามารถ และมอนเน่..รักเขา เธอคิดว่าความรู้สึกของมาไคล์น่าจะไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ เราต่างก็กำลังรักกัน ความสัมพันธ์ท่านอาจารย์ของนางและเขาเลยเถิดไปจนถึงการร่วมเตียง มาไคล์อายุเพียงสิบเจ็ดปีและม่อนแน่เองก็พึ่งจะยี่สิบเอ็ดเท่านั้น เราต่างก็ยังเด็กและนี่คือรักครั้งแรกของเธอ แน่นอนว่าเธอทุ่มเทให้มาไคล์สุดหัวใจถึงแม้เขาจะร้องขอให้เธอเก็บเรื่องราวของเราเอาไว้เป็นความลับ กลางวันเรายังคงเป็นท่านอาจารย์และลูกศิษย์ แต่ทว่าในยามกลางคืนเราต่างก็เป็นคู่รักที่เร่าร้อนมากที่สุด ม่อนเน่ไม่เคยคาดหวังว่าตัวเองจะได้เป็นดัชเชสที่ยืนเคียงข้างเขาได้อย่างมีเกียรติ เธอแค่อยากจะอยู่กับเขาให้ได้มากที่สุดเท่าที่ยังสามารถทำได้ เมื่อใดก็ตามที่มาไคล์หมดรักเธอ เธอก็จะทำใจปล่อยเขาไป.. ทว่าในคืนหนึ่ง วันที่มาไคล์อายุสิบแปดปีหลังจากที่เธอและเขาได้ก้าวผ่านค่ำคืนที่เร่าร้อนมาด้วยกัน มีดเล่มยาวในมือเขาถูกยกขึ้นมาแทงทะลุหัวใจของเธอ ลมหายใจสุดท้ายของมอนเน่รู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก แต่วินาทีสุดท้ายที่ชีวิตของนางจบสิ้นลง นางจากไปด้วยรอยยิ้ม ความตายที่ชายคนรักมอบให้ อาจจะเป็นคำตัดสินของพระเจ้าก็ได้ เพราะว่าเธอหวังสูงมากเกินไป เพราะอย่างนั้นการตายของเธอ มอนเน่จึงไม่คิดคิดโทษมาไคล์แม้แต่น้อย... หลังจากมอนเน่สิ้นใจ มาไคล์จึงนำหัวใจของนางไปถวายให้กับซาตานเพื่อทำพิธี ขอพลังอันแข็งแกร่งที่สุดในฐานะผู้ปกครองทารอน เขาได้พลังที่แสนแข็งแกร่งนั้นมาถือครองเอาไว้ แต่กลับสูญเสียท่านอาจารย์ที่เขารักไป.. สามเดือนแรกมาไคล์ตื่นเต้นไปกับพลังที่มากมายเหล่านั้น เขาเข้าร่วมในสงครามและสามารถสังหารข้าศึกนับพันนับหมื่นได้เพียงแค่ตวัดดาบเบาๆ ทว่าหลังจากได้ชัยชนะกลับมา..เขารู้สึกว่าชีวิตของเขามันช่าง..ว่างเปล่ามากเหลือเกิน เขาสร้างเรือนหลังเล็กขึ้นมาพร้อมๆ กับเก็บร่างที่ยังสมบูรณ์ของท่านอาจารย์เอาไว้ในโลงแก้วด้วยพลังเวท “ทายาทของข้าเอ๋ย เจ้าอยากจะฟื้นคืนชีวิตให้กับหญิงคนรักของเจ้าหรือไม่?” เงาร่างสีดำสนิทล่องลอยเข้ามาหาเขาก่อนจะพัดผ่านร่างกายของเขาไป “ข้าทำได้อย่างนั้นหรือครับ?” “แน่นอน เพราะว่าเจ้าคือทายาทที่ข้ารักที่สุดยังไงล่ะมาไคล์ ไปนำเลือดหัวใจของสตรีผู้หนึ่งมาให้ข้าสิ สตรีผู้นั้นมีนามว่าอเดเรีย คาเรน แต่มีข้อแม้เหมือนเดิมก็คือจะใช้เลือดหัวใจของสตรีผู้นั้นได้ ก็ต่อเมื่อหัวใจของนางอยู่ในช่วงมีความรัก..หากเจ้าสามารถส่งมอบเลือดหัวใจของอเดเรียให้ข้าได้ ข้าก็จะฟื้นคืนชีพสตรีอันเป็นที่รักของเจ้าให้เอง” หนึ่งปีที่สูญเสียท่านอาจารย์ไป มาไคล์เป็นโรคนอนไม่หลับ ในทุกค่ำคืนแค่เพียงเขาหลับตาภาพความรักระหว่างเขาและท่านอาจารย์ก็ปรากฏขึ้นมาในหัว เขาไม่อาจข่มตานอนได้เลย.. ความทรมานยังคงเกาะกุมหัวใจของเขาเอาไว้อย่างไม่ยอมอ่อนข้อและลดละ เหมือนกับว่าเขากำลังถูกพระเจ้าลงโทษอยู่ แต่ทว่าเขากลับหลับสนิท..เมื่อได้นอนอยู่เคียงข้างกับทารีน่า เขาหัวเราะออกมาราวกับว่าตัวเองอยู่ในวัยสิบเจ็ดอีกครั้ง สตรีผู้นั้นทำให้เขาหลงลืมความตั้งใจแรกของตัวเองไปซะหมด เพียงเพราะว่านางบอกว่านางรักเขา คำหวานที่นางพร่ำบอกออกมาทำให้เขาลืมเลือนท่านอาจารย์ไปหมดสิ้น แถมในใจยังเผลอไผลมีความสุขทั้งๆ ที่เขาไม่ควรจะมีความสุขเลยด้วยซ้ำ!! “ขอโทษนะครับท่านอาจารย์ ข้าขอโทษจริงๆ ...” คืนนั้นมาไคล์นอนอยู่บนพื้นข้างๆ โลงแก้วโดยที่ดวงตาของเขามันเปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตาแห่งความเจ็บปวด ในขณะที่ทารีน่าเผชิญหน้ากับองค์รัชทายาทด้วยสายตาที่แน่วแน่ นางจ้องมองใบหน้าของเขาอย่างไม่หลบสายตาด้วยซ้ำ! “รินา เจ้าอย่าเอาแต่มององค์รัชทายาทแบบนั้นสิ ควรจะหันมามองข้าบ้าง..” ทารีน่าขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อท่านพี่วินเทอร์ยกมือขึ้นมาโอบเอวของเธอพร้อมๆ กับหอมแก้มเบาๆ ให้ตายเถอะ! เธอมองหมอนั่นเพราะว่าสะใจ ไม่ได้มองเพราะว่าชอบสักหน่อย!! จะหึงก็ให้มันอยู่ในความเป็นจริงหน่อยเถิด ถึงแม้ในใจจะคิดเช่นนั้นแต่ทารีน่ากลับยกมือขึ้นมาแล้วโอบเอวของวินเทอร์เอาไว้ “ข้ามองเพราะว่าข้าสะใจ หากท่านพี่คิดว่าข้ามองเพราะสนใจเขาละก็ไม่มีทางเป็นเช่นนั้นอย่างเด็ดขาด ท่านพี่วินเทอร์ของข้าหล่อเหลามากกว่าคนผู้นั้นตั้งเยอะเลย..” วินเทอร์หรี่ตามองใบหน้างามชวนหลงใหลของสตรีในอ้อมแขน “ข้าชอบนะ เวลาที่เจ้ากล่าวว่าข้าเป็นของเจ้า..” “ก็เพราะว่าพี่เป็นของข้าจริงๆ นี่ หรือท่านพี่จะเถียงว่าท่านไม่ใช่คนของข้า” วินเทอร์ยกมือขึ้นมาจับที่เอวคอดกิ่วของทารีน่าเบาๆ “วินเทอร์คนนี้เป็นของทารีน่าแต่เพียงผู้เดียว..ข้าล้วนไม่กล้าเถียงเจ้าหรอก..ที่รัก” ความอ่อนหวานเข้ากอบกุมหัวใจของวินเทอร์เอาไว้ เขาชอบช่วงเวลานี้เป็นที่สุด เพราะว่าในสายตาของทารีน่า ดวงตาคู่สวยของนางกำลังจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของเขาเมื่องานเลี้ยงล่วงเลยถึงเวลาเที่ยงคืน ทารีน่าที่ดื่มไปประมาณหนึ่งก็เริ่มที่จะยืนไม่ไหว“ข้าขอตัวไปรับลมก่อนนะคะท่านพี่”วินเทอร์จับมือของทารีน่าเอาไว้“ข้าว่าเรากลับกันเลยดีไหม? คาดินันกาเล็ตเองก็น่าจะใกล้เสร็จธุระแล้ว"“ข้า..ขอออกไปรับลมสักพักนะคะ”เธอส่งยิ้มให้กับท่านพี่วินเทอร์ และรอยยิ้มเช่นนั้นของทารีน่ามันหมายความว่านางกำลัง มีแผนการบางอย่างอยู่ในใจ เขาเหลือบมององค์รัชทายาทฮาร์วีที่กำลังพูดคุยอยู่กับขุนนาง ก่อนจะยินยอมปล่อยมือจากทารีน่า“ข้าจะรออยู่ตรงนี้..”“ค่ะ ข้าจะรีบกลับมา”ตั้งแต่ที่เธอเข้ามาในงานเลี้ยงแห่งนี้ ความรู้สึกแรกของทารีน่ามันบอกว่าองค์รัชทายาทจะต้องหาทางเข้ามาพูดคุยกับเธอเป็นการส่วนตัวอย่างแน่นอน ตามนิสัยของพระเอกในนิยายแล้ว ฮาร์วีเป็นบุรุษที่เจ้าแผนการและชื่นชอบความสมบูรณ์แบบ คนเช่นนั้นย่อมทำให้ตัวเองเป็นที่สนใจและสตรีที่จะสามารถดึงความสนใจของเหล่าชนชั้นสูงมาที่เขาได้ก็คงจะหนีไม่พ้นทารีน่าผู้นี้..เพื่อให้ตัวเองเป็นที่นิยมชมชอบก็เลยเหยียบย่ำสตรีผู้หนึ่งขึ้นไปยังจุดนั้นสินะอ่า..คันมืออยากจะซัดใบหน้านั้นสักครั้งจังโว้ย!! นี่เธอโมโหเหมือนกับว่าเขากำลังหลอกใช้ตัวเ
เดนิซาได้ยินทุกคำกล่าวและมองเห็นในทุกการกระทำที่องค์รัชทายาทฮาร์วีและเลดี้โรแกนกระทำในระเบียงชมวิวที่ชั้นสองของห้องโถงจัดเลี้ยงเขาเดินเข้ามาหาเลดี้โรแกนด้วยหัวใจที่รู้สึกสับสน นางมิได้มีทีท่าว่าจะฆ่าเขาเหมือนกับที่รับปากเอาไว้กับองค์รัชทายาทเลยแม้แต่น้อยทารีน่าในยามนี้กำลังถูมือไปมาบนหน้าผากที่พึ่งจะถูกจุมพิตเมื่อครู่นี้ด้วยใบหน้าที่เหยเก“เลดี้โรแกน..”“อ่า ได้ยินแล้วใช่ไหมคะท่านเซอร์ ดูเหมือนว่าองค์รัชทายาทผู้นั้นจะต้องการให้ข้าสังหารท่าน เหตุผลของพระองค์คงจะเป็นการที่ท่านทำตัวเด่นเกินไปในสายตาของว่าที่พระชายาอเดเรีย”ในใจของเดนิซานั้นเกิดคำถามขึ้นมามากมาย เขาทวนคำกล่าวของเลดี้โรแกนซ้ำๆ อีกครั้งในใจตระกูลของเขาภักดีต่อราชวงศ์มาโดยตลอด ชีวิตของเซอร์เดนิซาสามารถยกให้องค์จักรพรรดิก็ยังได้ แต่ทว่าองค์รัชทายาทกลับสั่งให้เลดี้ผู้หนึ่งมาสังหารเขา“แล้วเลดี้..ในยามนี้ต้องการดาบสักเล่มไหมครับ”ทารีน่าหัวเราะเบาๆ หลังจากที่เช็ดหน้าผากจนพอใจ เธอก็มองออกไปที่สวนในยามค่ำคืนของพระราชวัง“ข้าไม่คิดทำตามคำสั่งเขาหรอกค่ะ แต่อย่างน้อยในยามนี้ข้าคิดว่าข้ากำลังจะได้เพื่อนใหม่คนหนึ่งที่มีอุดมการณ์เดี
อุณหภูมิข้างแก้มพลันร้อนผ่าวขึ้นมาเมื่อได้ยินคำกล่าวเช่นนั้นของท่านพี่วินเทอร์ส่วนมือของท่านกาเล็ตก็กำลังป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ กางเกงซับในของเธออยู่ทารีน่ารีบยกมือขึ้นมาเพื่อขัดขวางเขาเอาไว้“อ่า!..ขะ..ข้ายังคุยเรื่องสำคัญไม่จบเลยค่ะ”กาเล็ตหัวเราะเบาๆ เขาลุกขึ้นไปนั่งบนเตียงกับทารีน่าพร้อมกับหอมแก้มเธอเบาๆ“ตามเจตนาของท่านทารีน่าแล้ว ท่านต้องการให้องค์รัชทายาทฮาร์วีลงจากตำแหน่งองค์รัชทายาทที่กำลังดำรงอยู่ มันอาจจะง่ายดายมากขึ้นหากว่าท่านเล็งเห็นถึงผู้ที่จะขึ้นมาเป็นองค์รัชทายาทแทนฮาร์วี เพราะบุคคลผู้นั้นน่าจะยินดียื่นมือเข้ามาช่วยเหลือท่านทารีน่า..”เธอยื่นมือไปจับมือของคาดินันกาเล็ตเอาไว้“ท่านไงคะ ท่านกาเล็ตคือผู้ที่ข้ามองว่าท่านเหมาะสมที่สุดในการขึ้นเป็นองค์รัชทายาทและองค์จักรพรรดิ”กาเล็ตนิ่งอึ้งไปหลายนาที คำกล่าวของทารีน่าทำให้เขาแทบหยุดหายใจ“ท่านทารีน่า ข้าไม่สามารถเป็นองค์จักรพรรดิหรือว่าองค์รัชทายาทได้หรอกครับ ข้าหลบหนีมาก็เพราะว่าข้าไม่ต้องการแย่งชิงอำนาจในพระราชวัง และข้าเองก็คาดหวังอย่างยิ่งว่าลูกชายของข้าจะไม่ต้องแย่งชิงอำนาจจากใครทั้งนั้น” ทารีน่าส่งยิ้มหวานให้เขา มันเป
ความวาบหวามแล่นริ้วขึ้นมาทันทีที่ปลายนิ้วของท่านพี่วินเทอร์สัมผัสร่างกาย ทารีน่าช้อนสายตามามองใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ผมสีเหลืองทองสว่างถูกปล่อยสยายอย่างไม่ใส่ใจนัก และในยามนี้มันกำลังเปียกลู่ไปตามแผ่นหลังเพราะว่าเราต่างก็นั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำเธอกำลังนั่งอยู่บนร่างกายของท่านกาเล็ต ผมสีเงินของเขาเปล่งประกายเมื่อต้องแสงจันทร์ในยามค่ำคืน เขาถอดแว่นที่ปกติมักจะสวมเอาไว้บนใบหน้าออกไป ทำให้จากใบหน้าที่เคร่งขรึมของคาดินันผู้ปกครองวิหารศักดิ์สิทธิ์ยามนี้หลงเหลือเอาไว้เพียงแค่ใบหน้าที่แสนอ่อนโยนของบุรุษผู้หนึ่งเท่านั้นเองริมฝีปากของกาเล็ตพรมจูบไปตามแผ่นหลังของทารีน่าเพื่อสร้างร่องรอยของความรักให้หลงเหลือเอาไว้ ส่วนมือทั้งสองข้างของเขากำลังบีบเคล้นเนื้อเนินอวบอิ่มคู่นั้นอย่างไม่ยอมลดละสัมผัสอ่อนนุ่มจากริมฝีปากของท่านกาเล็ตกำลังทำให้เธอหลงมัวเมา ริมฝีปากของเขาทั้งเร่าร้อนและร้ายกาจในคราวเดียวกัน สติของเธอแทบไม่หลงเหลืออยู่แล้วในร่างกายนี้การทำใจให้ชินกับบุรุษที่มีใบหน้าราวกับพระเจ้าทรงปั้นทั้งสองคนนี้ไม่ง่ายเลย และความอ่อนโยนจากสัมผัสของพวกเขาที่ถูกส่งมอบมาให้เธอพร้อมๆ กัน มันยิ่งทำให้ทารีน่า
อ่า..ฉันคิดว่าตัวเองกำลังอยู่ในช่วงตกหลุมรักล่ะ เวลาตกหลุมรักใครสักคนหัวใจก็จะเต้นแรง หน้าแดงทุกที ในตอนที่เจอเขาใช่ไหม?อาการมันเป็นแบบนั้นเลยในยามที่หันไปมองภาพวาดขนาดใหญ่ที่ติดอยู่ตรงหัวเตียง“วันนี้ก็ยังคงหล่อเหมือนเดิมเลยนะคะมาไคล์ ถ้าได้ฝันถึงคุณก็ดีสิ”เธอรู้แล้วน่า..ว่าเขาเป็นตัวร้าย แต่เขาโตมาในครอบครัวประสาทแดกแบบนั้นมันเลยหล่อหลอมให้เขาต้องร้ายเพื่อมีชีวิตรอดถึงแม้ว่าเขาจะสังหารผู้คนมากมาย แต่เพราะเขาเป็นแม่ทัพนี่ เขาต้องปกป้องจักรวรรดิ แถมยังต้องปกป้ององค์รัชทายาทที่ไม่ได้เรื่องนั่นอีก เป็นพระเอกประสาอะไรไม่ยอมออกไปรบ อยู่แต่ในพระราชวังเพื่อสั่งการ ผู้ที่ต้องออกไปจับดาบออกรบและปกป้องราชวงศ์มีแค่ตัวร้ายสุดหล่อของเธอเท่านั้นเอง.. ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่หรอกที่เขาลุกขึ้นมาก่อกบฏในตอนที่รู้ว่าอเดเรียกับองค์รัชทายาทฮาร์วีจะแต่งงานกันน่ะถึงแม้นิยายเรื่องเจ้าหญิงผู้ถูกรักจะเป็นนิยายฮาเร็มแต่ก็ไม่มีฉากรักของอเดเรียกับมาไคล์เลย ซึ่งมัน..ดีมากๆเขาเป็นของฉันจ้า นางเอกของเรื่องมีผู้ชายที่รักเยอะแล้วอย่ามายุ่งกับเมนของฉันเลยฉันค่อยๆ หลับตาลงช้าๆ เพราะทำงานมาเหนื่อยทั้งวัน ฉันจึงเข้าสู
ผมสีทองที่สว่างราวกับแสงของดวงตะวัน แววตาของเขาในยามที่มองมาที่เธอมันอ่อนโยนเหมือนกับว่าเขาหลงลืมไป ว่าทารีน่าคือตัวร้ายที่ชั่วช้าแบบสุดๆ ..วินเทอร์และทารีน่าหมั้นหมายกันตั้งแต่ทั้งสองยังเด็ก และทารีน่าพยายามยกเลิกการหมั้นหมายนั้นเป็นอย่างมาก หากแต่วินเทอร์ไม่ยินยอมในตอนที่อ่านนิยายมุมมองของเธอที่มีต่อความสัมพันธ์ของวินเทอร์และนางร้าย มันเหมือนกับว่านี่ไม่ใช่ความรักแบบหนุ่มสาวแต่มันคือความอยากปกป้องน้องสาวของวินเทอร์ต่างหากเขาน่าจะมองทารีน่าเป็นน้องสาวมากกว่าคนรัก..เพียงแต่มีบางอย่างที่เธอไม่รู้มาก่อนเลยว่าวินเทอร์จะหล่อขนาดนี้แม่เจ้า..เขาหล่อเหลาราวกับรูปเทพบนผนังของวิหารเลย ใบหน้าที่อ่อนโยนมาพร้อมๆ กับดวงตาที่เต็มไปด้วยความเมตตา“เรื่องนี้อยู่นอกเหนือความสามารถของท่านเคาน์ทรอย ข้าได้รับคำสั่งจากองค์รัชทายาทให้มาตามหาเลดี้คาเรน จากเบาะแสทั้งหมดที่ข้าตามสืบมา ผู้ที่น่าสงสัยมากที่สุดคือคู่หมั้นของท่าน”“ดยุคทารอน หากท่านจะสอบสวนนาง ข้าย่อมไม่ขัดแต่ว่านี่ท่านกำลังทำร้ายร่างกายของนาง ข้ายอมไม่ได้ที่ท่านกระทำการหยาบช้าเช่นนี้กับสตรีตัวเล็กๆ อย่างทารีน่า”ดวงตาคมเข้มแฝงไปด้วยความทรงอำน
“กลับไปพร้อมกันเถอะอเดเรีย เจ้าก็รู้ว่าข้าเป็นห่วงเจ้ามากแค่ไหน ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ได้มาที่นี่เพราะอยากมาแต่มันเป็นเพราะเลดี้โรแกนใช่ไหม นางบังคับเจ้ามาที่นี่ใช่รึเปล่า?”องค์รัชทายาทฮาร์วีกล่าวพร้อมกับยื่นมือไปจับมือของอเดเรีย หากจะเปรียบเทียบความงดงามนี้ จริงอยู่ที่อเดเรียอาจจะสู้ทารีน่าไม่ได้ แต่อเดเรียนางเป็นสตรีที่ดูอ่อนโยน ดวงตานั้นเต็มไปด้วยความเมตตาอีกทั้งนางยังอ่อนแอและน่าปกป้อง ตามนิสัยของบุรุษแล้วย่อมชื่นชอบสตรีที่ว่านอนสอนง่าย มิใช่สตรีที่อารมณ์ร้ายเช่นทารีน่าเพราะแบบนั้นเขาถึงได้ไม่เคยชายตามองทารีน่าเลย นางไม่ใช่สตรีในแบบที่เขาชื่นชอบยังไงล่ะ..“ข้ามาที่นี่เพราะว่าอยากมาเพคะองค์รัชทายาท อย่าใส่ร้ายเลดี้โรแกนอีกเลย นางมิได้รู้เรื่องด้วย”“อเดเรีย ข้าล้วนแล้วแต่ตามใจเจ้า..เรื่องของเลดี้โรแกนข้าจะไม่ถามอีก แต่เจ้าต้องเดินทางกลับไปที่เมืองหลวงพร้อมกันกับข้า ที่พระราชวังได้จัดเตรียมห้องของว่าที่พระชายาเอาไว้แล้ว..อย่าได้เป็นกังวลเพราะไม่ว่าอย่างไรเจ้าก็จะได้เป็นจักรพรรดินีเคียงข้างข้าที่จะขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิของจักรวรรดินี้”อเดเรียส่งยิ้มให้กับองค์รัชทายาท ดวงตาของเธอหรี่เล็กล
คฤหาสน์โรแกนนั้นช่างหรูหรามากจริงๆ ทารีน่ากวาดสายตามองไปรอบๆ ก็เห็นสาวใช้จำนวนมากที่ยืนอยู่ตรงประตูทางเข้า ถึงแม้จะได้เป็นนางร้ายแต่รวยไม่ใช่เล่นแบบนี้ก็ดีเหมือนกันแฮะ ไม่มีพี่น้องมาคอยก่อดราม่าแถมพ่อแม่ก็เสียไปหมดแล้วไม่มีปมเรื่องครอบครัว แย่งชิงตำแหน่งผู้นำตระกูล.. นี่มัน..สุขสบายสุดๆ ไปเลยไม่ใช่รึไง? เธอหันมามองสบตากับเจ้าของเรือนผมสีทองสว่างที่กำลังมองมาที่เธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ตั้งแต่ที่ทารีน่าเอ่ยว่าจะยกเลิกเรื่องการหมั้นหมายออกไป.. วินเทอร์ก็ไม่พูดอะไรออกมาอีกเลย ภายในใจของเขากำลังว้าวุ่นและสับสนเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านี้ที่เขาเลือกจะไม่เข้าหานางมันเป็นเพราะว่าทารีน่าหลงรักองค์รัชทายาทฮาร์วีทั้งหัวใจ เขาหวาดกลัวว่าหากแสดงออกไปว่าเขารักนาง นางจะยิ่งหลบหนีไปจากเขาจึงแอบมองและคอยห่วงอยู่ไกลๆ เท่านั้น วินเทอร์ไม่รู้เลยว่าการกระทำเช่นนั้นจะทำให้นางเข้าใจไปว่าเขารักนางเหมือนน้องสาว เหมือนคนในครอบครัว เขาไม่แน่ใจว่าควรจะรู้สึกอย่างไรดีเมื่อนางกล่าวออกมาว่าชอบ ดยุคแห่งทารอน.. ยามนี้เขาควรจะเป็นวินเทอร์ที่ขี้ขลาดหวาดกลัวว่านางจะยกเลิกสัญญาหมั้นหมาย หรือจะพุ่งชนเข้าไปแ
ความวาบหวามแล่นริ้วขึ้นมาทันทีที่ปลายนิ้วของท่านพี่วินเทอร์สัมผัสร่างกาย ทารีน่าช้อนสายตามามองใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ผมสีเหลืองทองสว่างถูกปล่อยสยายอย่างไม่ใส่ใจนัก และในยามนี้มันกำลังเปียกลู่ไปตามแผ่นหลังเพราะว่าเราต่างก็นั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำเธอกำลังนั่งอยู่บนร่างกายของท่านกาเล็ต ผมสีเงินของเขาเปล่งประกายเมื่อต้องแสงจันทร์ในยามค่ำคืน เขาถอดแว่นที่ปกติมักจะสวมเอาไว้บนใบหน้าออกไป ทำให้จากใบหน้าที่เคร่งขรึมของคาดินันผู้ปกครองวิหารศักดิ์สิทธิ์ยามนี้หลงเหลือเอาไว้เพียงแค่ใบหน้าที่แสนอ่อนโยนของบุรุษผู้หนึ่งเท่านั้นเองริมฝีปากของกาเล็ตพรมจูบไปตามแผ่นหลังของทารีน่าเพื่อสร้างร่องรอยของความรักให้หลงเหลือเอาไว้ ส่วนมือทั้งสองข้างของเขากำลังบีบเคล้นเนื้อเนินอวบอิ่มคู่นั้นอย่างไม่ยอมลดละสัมผัสอ่อนนุ่มจากริมฝีปากของท่านกาเล็ตกำลังทำให้เธอหลงมัวเมา ริมฝีปากของเขาทั้งเร่าร้อนและร้ายกาจในคราวเดียวกัน สติของเธอแทบไม่หลงเหลืออยู่แล้วในร่างกายนี้การทำใจให้ชินกับบุรุษที่มีใบหน้าราวกับพระเจ้าทรงปั้นทั้งสองคนนี้ไม่ง่ายเลย และความอ่อนโยนจากสัมผัสของพวกเขาที่ถูกส่งมอบมาให้เธอพร้อมๆ กัน มันยิ่งทำให้ทารีน่า
อุณหภูมิข้างแก้มพลันร้อนผ่าวขึ้นมาเมื่อได้ยินคำกล่าวเช่นนั้นของท่านพี่วินเทอร์ส่วนมือของท่านกาเล็ตก็กำลังป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ กางเกงซับในของเธออยู่ทารีน่ารีบยกมือขึ้นมาเพื่อขัดขวางเขาเอาไว้“อ่า!..ขะ..ข้ายังคุยเรื่องสำคัญไม่จบเลยค่ะ”กาเล็ตหัวเราะเบาๆ เขาลุกขึ้นไปนั่งบนเตียงกับทารีน่าพร้อมกับหอมแก้มเธอเบาๆ“ตามเจตนาของท่านทารีน่าแล้ว ท่านต้องการให้องค์รัชทายาทฮาร์วีลงจากตำแหน่งองค์รัชทายาทที่กำลังดำรงอยู่ มันอาจจะง่ายดายมากขึ้นหากว่าท่านเล็งเห็นถึงผู้ที่จะขึ้นมาเป็นองค์รัชทายาทแทนฮาร์วี เพราะบุคคลผู้นั้นน่าจะยินดียื่นมือเข้ามาช่วยเหลือท่านทารีน่า..”เธอยื่นมือไปจับมือของคาดินันกาเล็ตเอาไว้“ท่านไงคะ ท่านกาเล็ตคือผู้ที่ข้ามองว่าท่านเหมาะสมที่สุดในการขึ้นเป็นองค์รัชทายาทและองค์จักรพรรดิ”กาเล็ตนิ่งอึ้งไปหลายนาที คำกล่าวของทารีน่าทำให้เขาแทบหยุดหายใจ“ท่านทารีน่า ข้าไม่สามารถเป็นองค์จักรพรรดิหรือว่าองค์รัชทายาทได้หรอกครับ ข้าหลบหนีมาก็เพราะว่าข้าไม่ต้องการแย่งชิงอำนาจในพระราชวัง และข้าเองก็คาดหวังอย่างยิ่งว่าลูกชายของข้าจะไม่ต้องแย่งชิงอำนาจจากใครทั้งนั้น” ทารีน่าส่งยิ้มหวานให้เขา มันเป
เดนิซาได้ยินทุกคำกล่าวและมองเห็นในทุกการกระทำที่องค์รัชทายาทฮาร์วีและเลดี้โรแกนกระทำในระเบียงชมวิวที่ชั้นสองของห้องโถงจัดเลี้ยงเขาเดินเข้ามาหาเลดี้โรแกนด้วยหัวใจที่รู้สึกสับสน นางมิได้มีทีท่าว่าจะฆ่าเขาเหมือนกับที่รับปากเอาไว้กับองค์รัชทายาทเลยแม้แต่น้อยทารีน่าในยามนี้กำลังถูมือไปมาบนหน้าผากที่พึ่งจะถูกจุมพิตเมื่อครู่นี้ด้วยใบหน้าที่เหยเก“เลดี้โรแกน..”“อ่า ได้ยินแล้วใช่ไหมคะท่านเซอร์ ดูเหมือนว่าองค์รัชทายาทผู้นั้นจะต้องการให้ข้าสังหารท่าน เหตุผลของพระองค์คงจะเป็นการที่ท่านทำตัวเด่นเกินไปในสายตาของว่าที่พระชายาอเดเรีย”ในใจของเดนิซานั้นเกิดคำถามขึ้นมามากมาย เขาทวนคำกล่าวของเลดี้โรแกนซ้ำๆ อีกครั้งในใจตระกูลของเขาภักดีต่อราชวงศ์มาโดยตลอด ชีวิตของเซอร์เดนิซาสามารถยกให้องค์จักรพรรดิก็ยังได้ แต่ทว่าองค์รัชทายาทกลับสั่งให้เลดี้ผู้หนึ่งมาสังหารเขา“แล้วเลดี้..ในยามนี้ต้องการดาบสักเล่มไหมครับ”ทารีน่าหัวเราะเบาๆ หลังจากที่เช็ดหน้าผากจนพอใจ เธอก็มองออกไปที่สวนในยามค่ำคืนของพระราชวัง“ข้าไม่คิดทำตามคำสั่งเขาหรอกค่ะ แต่อย่างน้อยในยามนี้ข้าคิดว่าข้ากำลังจะได้เพื่อนใหม่คนหนึ่งที่มีอุดมการณ์เดี
เมื่องานเลี้ยงล่วงเลยถึงเวลาเที่ยงคืน ทารีน่าที่ดื่มไปประมาณหนึ่งก็เริ่มที่จะยืนไม่ไหว“ข้าขอตัวไปรับลมก่อนนะคะท่านพี่”วินเทอร์จับมือของทารีน่าเอาไว้“ข้าว่าเรากลับกันเลยดีไหม? คาดินันกาเล็ตเองก็น่าจะใกล้เสร็จธุระแล้ว"“ข้า..ขอออกไปรับลมสักพักนะคะ”เธอส่งยิ้มให้กับท่านพี่วินเทอร์ และรอยยิ้มเช่นนั้นของทารีน่ามันหมายความว่านางกำลัง มีแผนการบางอย่างอยู่ในใจ เขาเหลือบมององค์รัชทายาทฮาร์วีที่กำลังพูดคุยอยู่กับขุนนาง ก่อนจะยินยอมปล่อยมือจากทารีน่า“ข้าจะรออยู่ตรงนี้..”“ค่ะ ข้าจะรีบกลับมา”ตั้งแต่ที่เธอเข้ามาในงานเลี้ยงแห่งนี้ ความรู้สึกแรกของทารีน่ามันบอกว่าองค์รัชทายาทจะต้องหาทางเข้ามาพูดคุยกับเธอเป็นการส่วนตัวอย่างแน่นอน ตามนิสัยของพระเอกในนิยายแล้ว ฮาร์วีเป็นบุรุษที่เจ้าแผนการและชื่นชอบความสมบูรณ์แบบ คนเช่นนั้นย่อมทำให้ตัวเองเป็นที่สนใจและสตรีที่จะสามารถดึงความสนใจของเหล่าชนชั้นสูงมาที่เขาได้ก็คงจะหนีไม่พ้นทารีน่าผู้นี้..เพื่อให้ตัวเองเป็นที่นิยมชมชอบก็เลยเหยียบย่ำสตรีผู้หนึ่งขึ้นไปยังจุดนั้นสินะอ่า..คันมืออยากจะซัดใบหน้านั้นสักครั้งจังโว้ย!! นี่เธอโมโหเหมือนกับว่าเขากำลังหลอกใช้ตัวเ
ตระกูลทารอนเป็นตระกูลผู้ถูกสาปให้ไร้หัวใจ เด็กชายที่เกิดขึ้นมาในตระกูลนี้จะถูกคำสาปครอบงำ การจะได้มาซึ่งพลังอันแข็งแกร่งของซาตาน จะต้องสังหารสตรีอันเป็นที่รักยิ่ง แล้วนำเลือดหัวใจของนางมาเป็นเครื่องสังเวยให้กับซาตานในวันที่มาไคล์อายุสิบเจ็ดปี เขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลก็จริง แต่ทว่าท่านพ่อต้องสังหารแม่ของเขาเพื่อให้ตัวเองได้พลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่นั้นมา ทำให้ดยุคคนก่อนของทารอนเลือกที่จะหลบหนีออกไปจากตระกูลทารอนเงียบๆ เพราะเขาไม่อาจทนเห็นลูกชายที่เหมือนภรรยาไปทุกกระเบียดนิ้วอย่างมาไคล์ได้อีกต่อไปอีกทั้งพลังอำนาจที่มีคำกล่าวเล่าขานว่ายิ่งใหญ่นักหนา มันว่างเปล่าไปหมดเลย เมื่อไม่มีภรรยาอยู่ข้างกาย..ดยุคคนเก่าแห่งทารอนหายไปอย่างไร้ร่องรอย โดยไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย ตระกูลทารอนถูกส่งมอบมาให้มาไคล์ และเขามีสตรีที่ผูกพันยิ่งกว่าสตรีใด นั่นก็คือท่านอาจารย์มอนเน่สตรีใบหน้าธรรมดาๆ นางมิได้งดงามจับใจเหมือนกับเลดี้ชนชั้นสูงในจักรวรรดิ แต่ทว่าท่านอาจารย์มอนเน่ก็อยู่เคียงข้างมาไคล์ทุกช่วงเวลาของชีวิต นางพร่ำสอนเขาเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ในจักรวรรดิ เรื่องการนำพาทารอนให้กลับไปยิ่งใหญ่ และสอนเรื
ฉันเหนื่อยกับการทำงานมากจนรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองหมดแรงที่จะตื่นขึ้นไปทำงานวัยผู้ใหญ่ที่ฉันคิดเอาไว้มันไม่ใช่แบบนี้เลยนี่หว่า ทำไมเป็นผู้ใหญ่ต้องเหนื่อยขนาดนี้ด้วยฟะ!!เหมือนกับว่าชีวิตจะต้องนอน ตื่นขึ้นไปทำงาน เหนื่อย หมดแรง นอน ตื่นไปทำงาน หมดแรง ร้องไห้...วนลูบแบบนี้ไม่มีที่สิ้นสุดจนวันหยุดฉันได้พบเจอกับนิยายเรื่องหนึ่ง ฉันเคยรู้ว่าการนอนจะทำให้พลังชีวิตของตัวเองกลับมา แต่มันไม่ใช่เลยเพราะเมื่อได้อ่านนิยายเรื่องนั้นมันทำให้ฉันมีแรงต่อสู้กับการทำงานตัวร้ายที่ทำเพื่อพระเอกของเรื่องและนางเอกแทบเป็นแทบตายคนนั้น..ชื่อว่ามาไคล์ท่านมาไคล์ในนิยายเป็นตัวร้ายที่ค่อนข้างน่าสงสาร เขาไม่มีใคร ไม่มีครอบครัว..แถมยังถูกองค์รัชทายาทพระเอกของเรื่องใส่ร้ายอีกต่างหากหลังจากนั้นชีวิตของฉันก็มีเป้าหมาย หลังจากทำงานกลับมาฉันจะมารอคอยคุณนักเขียนอัพนิยายทุกเย็น ก่อนนอนจะตามอ่านเรื่องของท่านมาไคล์ซ้ำๆฉันหวังว่าท่านมาไคล์ในตอนจบจะได้ออกไปจากเรื่องของพระเอกและนางเอก เขาอาจจะกลับไปใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลทารอนของเขาหรือไม่ก็ไปอยู่ที่อื่นซะ หนีไปให้ไกลจากสองคนนั่นแต่ตอนสุดท้าย ท่านมาไคล์กลับตายด้วยฝีมือของค
มาไคล์พาตัวเองกลับมาที่คฤหาสน์ทารอน เขาเดินไปที่เรือนเล็กด้านหลังที่ถูกปิดตายเอาไว้เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบเจอภาพวาดของสตรีผู้หนึ่ง ปลายนิ้วของมาไคล์แตะลงไปเบาๆ บนภาพวาดนั้นด้วยหัวใจที่เจ็บปวด“ข้าขอโทษครับท่านอาจารย์ ข้าเผลอลืมเลือนท่านไปชั่วขณะ ข้ากลับมาหาท่านแล้วนะครับ ได้โปรดอย่างโกรธข้าเลย”ด้านหลังภาพวาดขนาดใหญ่นั้นคือร่างกายอันไร้วิญญาณของสตรีผู้หนึ่ง นางมีเรือนผมสีทองสว่างและกำลังนอนนิ่งในโล่งแก้วที่ดูผิวเผินเหมือนกับว่านางยังมีชีวิตอยู่ แต่ทว่านางได้ลาลับจากโลกใบนี้ไปสิบปีแล้วสิบปีที่ยาวนานมากเหลือเกินของมาไคล์ เป็นสิบปีที่เขาเฝ้าพยายามตามหาทุกหนทางที่จะสามารถทำให้สตรีผู้นี้ฟื้นคืนชีพขึ้นมา“อีกไม่นานอเดเรียน่าจะรักฮาร์วีเมื่อถึงเวลานั้น ข้าจะนำเลือดหัวใจของนางมาฟื้นคืนชีพให้ท่านนะครับ..”..........งานวันที่สองของพระราชวัง ซึ่งเป็นงานวันชาติที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้กับวีรบุรุษสงครามวันนี้องค์รัชทายาทฮาร์วีเสด็จมาร่วมงานพร้อมๆ กับว่าที่พระชายาอเดเรีย พิธีอภิเษกได้กำหนดวันขึ้นมาแล้วเหลือเพียงรอคอยเวลาเท่านั้น อเดเรียก็จะได้เป็นพระชายาของฮาร์วีเขาจับมือพร้อมกับมองหน้าของอ
องค์หญิงโอเรียน่าค่อยๆ ปรือตาขึ้นมาเมื่อแสงของดวงตะวันสาดส่องเข้ามาในห้องนอน เธอปรายตามองไปรอบๆ ก็เห็นเหล่าอนุสามีมากมายที่กำลังนอนอยู่รอบๆ เตียงในสภาพเปลือยเปล่าอ่า..ช่างเป็นเช้าที่แสนสดใสซะจริงและเมื่อโอเรียน่ากำลังจะลุกขึ้นจากเตียงก็มีมือมาคว้าแขนของนางเอาไว้“องค์หญิง..จะไปจากกระหม่อมแล้วอย่างนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ”เธอยื่นมือไปสัมผัสเส้นผมที่นุ่มลื่นของบุรุษผู้นั้นเอาไว้ แม้จะจดจำชื่อของเขาไม่ได้ แต่ใบหน้าของเขานั้นถูกใจเธอยิ่งนัก..“ข้ามีงานที่ต้องทำ ที่ข้าลุกออกจากเตียงไม่ได้หมายความว่าข้าจะทอดทิ้งเจ้าสักหน่อย รอข้าอยู่ที่นี่หลังจากทำงานเสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”เธอจุมพิตลงไปบนหน้าผากของเขาเพื่อเป็นการกล่าวอำลา ส่วนอนุคนอื่นๆ ยังไม่ตื่น เพราะแบบนั้นโอเรียน่าถึงได้เดินด้วยฝีเท้าที่แผ่วเบาออกมาจากห้องนอนของตัวเอง“องค์หญิงเพคะ เมื่อวานว่าที่พระชายาเสด็จไปบรรทมที่ห้องขององค์รัชทายาท หม่อมฉันจึงเข้าไปในพระราชวังของว่าที่พระชายาอเดเรีย ไม่มีอะไรน่าสงสัยนอกจากบันทึกเล่มนี้..”สาวใช้ส่งสมุดบันทึกเล่มหนาให้กับโอเรียน่า เธอรับมาถือเอาไว้โดยไม่ได้ปิดดูเนื้อหาด้านในเลยแม้แต่น้อย“นำมันไปมอ
“ข้า..ไม่อยากถูกควบคุมจิตใจอีกแล้วค่ะ”วินเทอร์ยกมือขึ้นมาก่อนที่เขาจะรวบทารีน่าเข้ามาไว้ในอ้อมแขน เขาจุมพิตลงไปบนเรือนผมของเธอเบาๆ“ในอ้อมกอดของข้าจะไม่มีใครหน้าไหนมาทำร้ายเจ้าได้ทั้งนั้น”“แต่ข้าไม่อยากเป็นเพียงผู้ที่ต้องเฝ้าระวังอยู่ฝ่ายเดียว ข้าอยากจะโต้กลับไปบ้าง..”อีกฝ่ายคือองค์รัชทายาทก็จริง แต่เธอไม่ได้กลัวเขาเลยสักนิดเพราะทารีน่ามั่นใจว่าเธอสามารถโค่นเขาลงมาจากหอคอยสูงชันที่เขากำลังนั่งอยู่ได้“รินา นั่นมันอันตรายมากเลยรู้ไหม ไม่ใช่ว่าข้ากังวลจนเกินเหตุแต่หากว่าเจ้าจะโต้กลับละก็ พี่อยากให้เราวางแผนการอย่างรอบคอบมากกว่านี้”เธอหลับตาลงช้าๆ“ได้ค่ะ ข้าจะคิดอย่างรอบคอบในทุกย่างก้าวที่กำลังเดิน แต่ตอนนี้ท่านพี่ช่วยพาข้าไปหาคนผู้หนึ่งก่อนได้ไหมคะ”วินเทอร์พยักหน้า..ตอนนี้เขากำลังนั่งอยู่ในห้องรับรองของวิหารศักดิ์สิทธิ์และเบื้องหน้าของเขาคือคาดินันกาเล็ต ชายผู้ที่ทำให้เขารู้สึกพ่ายแพ้ทุกครั้งที่พบเจอกับดยุคทารอนเขายังไม่รู้สึกด้อยกว่าเท่ากับคาดินันกาเล็ตเลย อาจจะเพราะว่าทารีน่าและท่านกาเล็ตมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งมากเกินที่เขาเข้าใจ..เมื่อเห็นสีหน้าของท่านพี่วินเทอร์ไม่ค่อยสู้ด