Share

หว่านหนิง

Author: จันทร์ส่องแสง
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56

"ชายารอง"

"ฮองเฮาตั้งใจไว้แล้วว่า ชายารองคนนี้จะต้องปรนนิบัติเจ้าได้ไม่มีบกพร่อง"ฮ่องเต้สนับสนุนอีกแรง ลี่หยางอยากจะบอกเหลือเกินว่าแม้จะตายลงตอนนี้เขาก็ไม่ต้องการใคร จะหาวิธีเช่นไรในการปฏิเสธ

"เจ้ายังหนุ่มแน่นเรื่องแบบนี้น่าเห็นใจไม่น้อย สมัยฝ่าบาทยังอายุเท่าเจ้ามีสามตำหนักอีกทั้งสนมมากมาย แม้จะเป็นแค่องค์ชายแต่ก็จำเป็นที่จะต้องใส่ใจเรื่องผู้สืบสกุล"ลี่หยางก้มหน้านิ่ง คนเดียวที่คิดถึงตอนนี้คือหว่านหนิง

“ถึงแม้ลี่หยางต้องสิ้นลมลงในตอนนี้ ก็ไม่รับชายารอง”ฮ่องเต้โต๊ะตบดังลั่น แต่ ฮองเฮาที่คาดการณ์ไว้แล้วกลับนิ่งเฉย ปล่อยให้ฮ่องเต้แสดงความไม่พอใจที่ลี่หยางขัดบัญชาฮองเฮา

“เจ้าห้า..แยกแยะไม่ออกหรือไรว่าสิ่งไหนควรทำ สิ่งไหนไม่ควรทำ”

“ลี่หยางขอบพระทัยฝ่าบาทและฮองเฮาที่ทรงห่วงใย แต่เรื่องนี้ลี่หยางจำต้องให้ หว่านหนิงช่วยตัดสินใจ ในเมื่อนางแต่งเข้าตำหนักร้อยดาวแล้วนางเองก็เป็นเจ้าของตำหนักร้อยดาวกึ่งหนึ่ง”

“เจ้าเกรงกลัวนางถึงเพียงนั้นเชียวหรือ”ฮองเฮาพูดเพื่อให้ฮ่องเต้ไม่พอใจในตัวหว่านหนิง

“แต่เดิมลี่หยาง ไม่เคยมีใครสนใจ โดดเดี่ยวอยู่ภายในตำหนักร้อยดาวเพียงลำพังมาบัดนี้ นางเสียสละตัวนางเข้ามาอยู
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ตำหนักร้อยดาวชายากาวใจ   ติดเบ็ด

    ลี่หยาง เร่งฝีเท้าเข้ามาในตำหนักร้อยดาวด้วยความเร่งรีบ หว่านหนิงจัดเครื่องเสวยบนโต๊ะลี่หยางสวมกอดจากด้านหลังแนบแน่น“หว่านหนิง ข้าถูกบีบบังคับอีกแล้ว”หว่านหนิงยังไม่หันหน้ามารอยยิ้มฉาบทาบนใบหน้า ทอดเสียงอ่อนโยนปลอบประโลม“เรื่องใดกันองค์ชายอย่าได้กังวล”“ฮองเฮาต้องการให้ข้า แต่งชายารอง”หว่านหนิงหันหน้ามาสบตาคนร่างสูงที่ เอาแต่กอดอยู่อย่างนั้น“องค์ชายอยากมีชายารองหรือไม่”“ข้า ไม่ต้องการใครนอกจากเจ้าหว่านหนิง และไม่มีทางให้ใครมาอยู่ตำหนักร้อยดาว...ของเรา”หว่านหนิงอมยิ้ม“องค์ชาย เลิกกังวลได้แล้ว หากองค์ชายอยากมีชายารองหว่านหนิงไม่เคยขัดข้องหว่านหนิงรู้ว่าองค์ชายรักหว่านหนิงเพียงใด แต่หากว่าชายารองจะทำให้องค์ชายมีความเป็นอยู่ในวังหลวงมั่นคงขึ้นกว่าเดิม หว่านหนิงก็ไม่ขัดขวาง แต่หากว่าองค์ชายไม่อยากจะมีชายารอง หว่านหนิงจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้ชายารองเข้ามาในตำหนักร้อยดาว”ไม่พูด แต่กับกดริมฝีปากบนปากนุ่ม อย่างออ่นโยนเหมือนเป็นการขอบใจที่หว่านหนิงทำเพื่อเขาทุกอย่างไม่ว่าจะเจ็บช้ำใจหรือรู้สึกตกต่ำเพียงใดเมื่ออยู่กับหว่านหนิงลี่หยางรู้สึกเป็นสุขและผ่อนคลาย“ฝ่าบาทกับฮองเฮากังวลว่าข้าจะไ

  • ตำหนักร้อยดาวชายากาวใจ   ติดเบ็ด2

    “เป็นธรรมดาไท่จือมิใช่แต่เพียงตำแหน่งไท่จือเท่านั้นที่สูงส่งความรักของฝ่าบาทก็สูงส่งและได้รับไปมากกว่าองค์ชายทั้งหลาย องค์ชายต้องหาทางให้ฝ่าบาท เห็นใจและสงสารจนยกฮุ่ยเชียนให้องค์ชาย ฝ่าบาทเป็นคนที่ค่อนข้างขี้สงสาร”องค์ชายสิบสี่มองหว่านหนิงอย่างไม่เชื่อสายตาชายาของพี่ห้าคนนี้จะด้วยหวังดีหรือหวังร้าย ทั้งเขาและนางก็ได้รับผลประโยชน์ไปด้วยกันทั้งสองฝ่าย แต่จะว่าไปเป็นเขาที่ได้รับผลประโยชน์มากกว่านาง ทำไมนางถึงยอมง่ายดาย หากจะมองเพียงผิวเผินก็คงเป็นเพราะความหึงหวงตามนิสัยผู้หญิงจึงวางแผนการเสียรัดกุมเช่นนี้ แน่แล้วว่าวันนั้นนางเห็นฮุ่ยเชียนเข้ามาในตำหนักจันทราของเขา“ลี่จาง ข้าเข้ามาก่อนเจ้ามีสิ่งที่จะขอเสด็จพ่อก่อนเจ้า”“พี่แปดเชิญท่านก่อนเลย ลี่จางไว้ให้ท่านทูลเสด็จพ่อให้เรียบร้อยก่อน”ลี่กวงยิ้มอย่างผู้ชนะ ที่เห็นลี่จางยอมให้เขา“เสด็จพ่อ นางกำนัลข้างกายเสด็จแม่ (เรียกว่าเสด็จแม่ แต่ฮองเฮาไม่ใช่แม่ของลี่กวง ลี่กวงเป็นลูกของนางสนมคนโปรดอีกคนแต่ถูกฮองเฮานำมาเลี้ยงไว้ตามธรรมเนียมทำให้ใกล้ชิดกับฮ่องเต้และเป็นหนึ่งในสององค์ชายนอกจากองค์ชายสิบสี่ที่ฮ่องเต้รัก) ฮุ่ยเชียนลูกถูกใจนางยิ่งนัก”ฮ่อง

  • ตำหนักร้อยดาวชายากาวใจ   องค์หญิงจากแคว้นเหว่ย

    องค์หญิงจากแคว้นเหว่ยเสด็จเยือนในฐานะทูตของแคว้น ใบหน้าผุดผาดงดงามแต่ท่าทีกับเหมือนบุรุษผู้องอาจ รวบผมขึ้นสูงในแบบบุรุษขึ้นคร่อมอยู่บนหลังม้าด้วยท่าทีผึ่งผายกระโดดลงจากหลังม้าสายตาเหลือบมอง เห็นลี่หยางนั่งร่างอักษรบนศาลาหลานฮวาด้วยท่าทีมุ่งมั่นสะดุดตาขององค์หญิงแคว้นเหว่ยไม่น้อย รอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปาก ความประทับใจแรกการมาในครั้งนี้เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์กับแคว้นจ้าว แต่จะเป็นแบบไหนในเมื่อตอนนี้แคว้นหานรุกรานแคว้นเหว่ย อันฝูจึงอาสาฮ่องเต้ผู้เป็นบิดานำความมาแจ้งกับแคว้นจ้าวเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์และใช้ความสัมพันธ์นี้ ในการต่อกรกับแคว้นหานผู้รุกรานใบหน้าหล่อเหลา และท่าทีสมชายชาตรี ไม่มีใครที่เห็นลี่หยางแลัวไม่หลงใหล ก็ในเมื่อหว่านหนิงทำให้ซากศพที่ไร้ความรู้สึกผู้นี้ กลายเป็นบุรุษที่มีท่าทีงดงามดุจเทพมาจุติ ใบหน้าที่เศร้าหมองหายไปเหลือเพียงแต่ความองอาจและสายตาที่มีแต่ความมุ่งมั่นเท่านั้นฝานกงกงยกน้ำชามาพอดี“องค์ชาย ฝานกงกงนำน้ำชายามบ่าย มาถวาย”“กงกง ลำบากท่านแล้ววางไว้ตรงนั้นเถิดลี่หยางจัดการเอง ไม่ต้องลำบากท่าน”“องค์ชายร่างอักษรเสีย ทั้งวันคงเมื่อยขบไม่น้อย”“หว่านหนิงมีวิธีผ่อนค

  • ตำหนักร้อยดาวชายากาวใจ   ปกป้อง2

    ลี่หยางกับอันฝูจากไปฮ่องเต้ถอนใจยาว"ข้ารู้ดีฝานกงกง เจ้าห้าหมดศรัทธาในตัวข้าเพียงใด""ฝ่าบาทองค์ชายเป็นลูก สิ่งไหนดีที่สุดฝ่าบาทไม่ลังเลที่จะทำองค์ชายต้องเข้าใจ""ตามที่ข้าบัญชาให้มีการแต่งตั้งตงผินให้รั้งตำแหน่งแม่ทัพแทนแม่ทัพฉี ก็อาจทำให้เจ้าสิบสี่ลี่จางไม่พอใจเช่นกัน"ฝานกงกงยิ้ม"ข้ารู้แก่ใจดี มีแต่เจ้าห้าที่ไม่เคยคิดแย่งชิงจึงไม่เคยรับรู้ว่าไท่จือกับเจ้าสิบสี่แย่งชิงบุตรีของแม่ทัพฉีเพราะเหตุใด""องค์ชายห้าไม่พูดถึงเรื่องชายรองอีกเลยตั้งแต่วันที่ปฏิเสธฝ่าบาทกับฮองเฮา ไม่ยินดียินร้ายกับเรื่องที่ฝ่าบาทประทานบุตรีของใต้เท้าฉีให้องค์ชายสิบสี่ แต่กลับกลายเป็นไท่จือที่เคียดแค้นองค์ชายสิบสี่เหลือกำลัง แต่การที่ฝ่าบาทแต่งตั้งแม่ทัพคนใหม่ก็ทำให้ลดความบาดหมางในทั้งสององค์ชาย กระสุนนัดเดียวได้นกสองตัวองค์ชายสิบสี่แม้จะพูดว่าชอบพอกับบุตรีใต้เท้าฉีแต่เบื้องลึก ก็หวังให้ใต้เท้าฉีสนับสนุนไม่น้อย""ไท่จือดูเหมือนฉลาดกับแสดงสิ่งที่โง่เขลาออกมา เจ้าสิบสี่แม้จะทำเหมือนคนบ้าคลั่งในความรักแต่อย่าคิดว่าข้าไม่รู้เรื่องราวในตำหนักจันทราของเขาที่แอบซุกซ่อนนางกำนัลเสียมากมายไม่แพ้ไท่จือ แต่กลับทำตัวน่าสงสา

  • ตำหนักร้อยดาวชายากาวใจ   สว่างณ.กลางใจ

    "อิงไถ เชิญองค์หญิงที่ห้องเสวย"หว่านหนิงสั่งอิงไถด้วยน้ำเสียงปกติ อิงไถรีบรุดไปทันที"ท่านห้า มีของชอบของท่านห้าหลายอย่างในวันนี้"ลี่หยางสวมกอดจากด้านหลัง"ชอบทุกอย่าง ที่ชายาคนนี้ทำ"หว่านหนิงยิ้มหวาน"องค์ชายเปลี่ยนไปรู้ตัวหรือไม่"ถามขึ้นเบาๆ" ข้า เปลี่ยนอย่างนั้นหรือ"หว่านหนิงยิ้มพยักหน้าช้าๆ"ตรงไหน หากจะเปลี่ยนก็เปลี่ยนตรงที่ รักเจ้าเพิ่มขึ้นมาอีกคน แล้วก็ชีวิตนี้ขาดเจ้าไม่ได้"หว่านหนิงชะงักมือที่กำลังจัดโต๊ะเสวยอยู่"ไม่ต้องทำแล้วงานแบบนี้ เจ้าไม่ต้องทำไว้เป็นหน้าที่ของนางกำนัล ข้าทูลเสด็จพ่อหานางกำนัลมาเพิ่มให้เจ้าดีกว่า"หว่านหนิงหันมาสบตา"ไม่ดีกว่าองค์ชายไม่จำเป็น"ลี่หยางยิ้ม"กลัวว่าข้าจะ มีนอกมีในเช่นนั้นหรือเจ้าหึงข้าหรือไร""หว่านหนิงไม่ได้คิดเช่นนั้น เพียงแต่เราอยู่กันในแบบครอบครัวเล็กๆ แบบนี้ก็ดีแล้ว""แต่เจ้าเหนื่อยเกินไป กดคางลงบนไหล่บางจมูกโด่งเป็นสันคลอเคลียอยู่ที่แก้มเนียนฉวยโอกาสสูดดมกลิ่นหอมจากผิวแก้ม"องค์หญิงอันฝู คารวะองค์ชายห้าและพระชายา"อันฝูเดินนำอิงไถเข้ามาในห้องเสวย แกล้งทำเป็นไม่สนใจภาพบาดตาตรงหน้าทั้งๆที่ใจสั่นระรัวด้วยความอิจฉา"หว่านหนิง คารวะองค์หญิง

  • ตำหนักร้อยดาวชายากาวใจ   แผนการของอันฝู

    หว่านหนิง น้ำตารื้นขอบตากับคำพูดของลี่หยาง สมกับที่รอคอยสมกับที่ทุ่มเททุกอย่างเพื่อองค์ชายห้าลี่หยางผู้นี้ มารดามักจะพูดเสมอว่า นางเชื่อว่าลี่หยางแตกต่าง และหว่านหนิงจะทำให้เพชรเม็ดนี้จรัสแสงสุกสกาวได้ไม่อยาก ในตอนนี้เองที่หว่านหนิงคิดว่ามารดาพูดถูกอย่างที่สุด“หว่านหนิงเจ้าช่วยพูดกับองค์ชายให้หน่อยจะได้ไหม ข้าชักชอบที่นี่ตำหนักร้อยดาวแห่งนี้ อยากพำนักจนกว่าจะกลับแคว้นเหว่ย”น้ำเสียงออดอ้อน ลี่หยางขมวดคิ้ว“”หว่านหนิงเกรงว่าหว่านหนิงไม่กล้าขัดบัญชาองค์ชาย เพราะที่นี่ตำหนักร้อยดาวองค์ชายเปรียบเหมือนท่านเจ้าบ้าน” ลี่หยางยิ้มมุมปากอันฝูทำสีหน้าผิดหวังก็จะไม่ผิดหวังได้อย่างไรในเมื่อคิดว่าในเมื่อลี่หยางปิดประตูใส่ทางเดียวที่จะเปิดประตูได้คือหว่านหนิงแต่ทุกอย่างคาดการณ์ผิดหมด หว่านหนิงแสร้งทำเป็นไม่กล้าขัดลี่หยาง แต่ความจริงแล้วแม้คนตาบอดยังมองออกว่าลี่หยางเกรงใจหว่านหนิงให้เกียรตินางเพียงใดหากหว่านหนิงเต็มใจเอ่ยปากมีหรือลี่หยางจะไม่ยอม อันฝูเผลอกัดริมฝีปากตัวเองจนเจ็บอาหารเย็นผ่านไป ลี่หยางนอนหนุนตักหว่านหนิงอยู่บนแท่นนอน“ข้ากับเจ้าเราสองคนเห็นที่ต้องหลบเร้นกายออกจากวังหลวงที่วุ่นวายแห่งน

  • ตำหนักร้อยดาวชายากาวใจ   เบื้องหลัง

    “ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรต้องห่วง องค์ชายวางใจเถิดหว่านหนิงรออยู่นี่ไม่นานองค์ชายก็จะกลับมา” น้ำเสียงอ่อนโยนไม่แสดงอารมณ์ที่สะกดกลั้นไว้ออกมา ใจหาย ..ใจหายเหลือเกิน“เจ้ากลับไปอยู่กับ ท่านแม่ของเจ้าที่ตระกูลจงข้าจึงจะเบาใจ”“องค์ชายเห็นดีเช่นนั้นหว่านหนิงย่อมไม่อาจขัด แต่องค์ชายไปรบแรมปีเห็นทีที่นี่จะขาดคนดูแล รกเรื้อจนน่าใจหาย”กอดหว่านหนิงไว้แน่น“ที่ไหนที่ไม่มีเจ้าที่นั่นก็น่าใจหายไปเสียทั้งหมด ข้าขอให้เจ้ารอ ข้าจะเร่งทำการรบให้เสร็จสิ้นโดยเร็วรอข้า ชายาข้าข้าจะรีบกลับมาโดยเร็ว เราจะกลับมาที่ตำหนักร้อยดาวพร้อมกัน ”หว่านหนิงกอดตอบ..ตำหนักฮองเฮา..“ลี่หยางรั้งตำแหน่งหวังอ๋องส่วนเจ้าสิบสอง เป็นต้าหวัง สิบสี่เจ้าไม่มั่นเอาใจเสด็จพ่อเที่ยวเล่นไปวันๆ เห็นหรือยังลี่หยางอาศัยความใกล้ชิด แซงหน้าเจ้าไปจนได้ทั้งๆ ที่ไม่เคยอยู่ในสายตาเสด็จพ่อแต่เดิมครั้งนี้กลับรั้งตำแหน่งหวังอ๋อง หากวันไหนเปลี่ยนใจ หมดความอดทนกับไท่จือที่ไม่ได้เรื่องคนนั้นเห็นที่ตำแหน่งไท่จือคงจะตกเป็นของลี่หยางอย่างเสียไม่ได้”“เสด็จแม่ ลี่หยางไปรบแรมปี การรบพุ่งใช่จะกำหนดได้หรือไรว่าจะไปจะมาตอนไหน ระหว่างนี้เรื่องกำจัดไท่จือลูกรั

  • ตำหนักร้อยดาวชายากาวใจ   องค์ชายน้อยในวันนั้น

    “องค์ชายอย่าถือว่าเป็นบุญคุณ ข้ารักเคารพพี่สาวจินเฟย เกินกว่าจะละเลยท่าน”ลี่หยาง รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้โดดเดี่ยวอย่างที่คิดมาตลอด ตลอดเวลาที่เขาใช้ชีวิตเพียงลำพังในตำหนักร้อยดาว หว่านหวงลู่แวะเวียนไปเยื่ยมเยือนมิได้ขาด เขากลับคิดว่าเป็นเพียงฝันไป และระหว่างนั้นที่เขาคิดว่าไม่เหลือใคร หว่านหวงลู่กลับทุ่มเทเวลาที่มีอยู่สั่งสอนหว่านหนิงเพื่อให้มาเป็นชายาที่สมบูรณ์แบบของเขา ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหว่านหนิงถึงไม่เคยปริปากเรื่องที่จะตอกย้ำความโดดเดี่ยวและความทุกข์เข็ญของเขาเลย นางกลับพยายามที่จะทำให้เขาเห็นว่ามีนางเคียงข้าง และช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ อีกทั้งยังช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและฝ่าบาทดีขึ้นทำให้องค์ชายที่ไร้ตัวตน กลับกลายมาเป็นหวังอ๋อง“ลี่หยาง มีตาหามีแววน่าจะรู้เสียตั้งนานว่าท่านน้าไม่เคยทอดทิ้ง”หว่านหวงลู่ ปาดน้ำตา“ที่ผ่านมา เรื่องภายในข้าไม่อาจข้องแวะ หากเรื่องนั้นไม่ทำให้องค์ชายถึงแก่ชีวิต ข้ารอเวลาที่หว่านหนิงจะเติบโต พร้อมที่จะดูแลองค์ชายตามคำสัญญา”“ท่านน้าบุญคุณครั้งนี้ลี่หยางซาบซึ้งใจยิ่งนัก ท่านน้าบอกข้ามาจะให้ข้าตอบแทนเช่นไร”“ตอบแทนข้า มีเพียงสิ่งเดียว ท่านต้องรักและดีกับ

Latest chapter

  • ตำหนักร้อยดาวชายากาวใจ   ตบท้าย

    เกี้ยวสีแดงถูกหามส่งเข้าวังในตอนเย็นย่ำวันหนึ่ง หว่านหวงลู่รู้ดีว่าไม่ต้องมาส่งหว่านหนิง สิ่งที่หว่านหนิงต้องการคือการเข้าไปในตำหนักร้อยดาวแบบเงียบๆ ก็ในเมื่อลี่หยางมิได้เป็นที่สนใจ และไม่ได้มีพิธีรีตองอะไร“คุณหนู ข้าเห็นทีต้องกลับแล้วเช่นกัน ท่านนั่งรออยู่ในห้องบรรทมขององค์ชายห้า เพียงครู่คาดว่า องค์ชายคงเสด็จในไม่ช้าเพราะมิได้มีการเลี้ยงฉลอง งานแต่งอย่างที่ควรจะเป็น “แม่สื่อที่มีหน้าที่เดินนำเกี้ยว ตามธรรมเนียมเอ่ยขึ้นเมื่อมาถึงตำหนักร้อยดาว“ท่านป้ากลับไปเถิดข้าทำใจไว้แล้ว ว่าต้องเป็นแบบนี้ หลายอย่างไม่เกินคาดหมายนัก”แม่สื่อยิ้มเจื่อนๆ ก่อนจะถอยออกไปทันทีหว่านหนิงยืนนิ่งหน้าตำหนักรกร้างไม่มีการเลี้ยงฉลองไม่มีแม้กระทั่งการคารวะบรรพบุรุษ หรือญาติผู้ใหญ่มีเพียงส่งตัวหว่านหนิงเข้ามาในตำหนักร้อยดาวเพียงลำพัง“ท่านแม่ หว่านหนิงจะพยายามให้ถึงที่สุด”สูดลมหายใจเข้าลึกๆผลักบานประตูเข้าไปช้าๆ ภาพเบื้องหน้าคนผู้หนึ่งในอาภรณ์สีแดงรูปร่างสูงโปร่ง แต่ซูบผอมปากคอคิ้วคางแม้จะรับกับใบหน้าคิ้วดกดำผิวขาวจนกลายเป็นซีด ริมฝีปากบางแต่ทว่าซีดขาว หากมีสีเลือดกว่านี้ บุรุษผู้นี้อาจจะนับได้ว่าหล่อเหลาเราเ

  • ตำหนักร้อยดาวชายากาวใจ   จบ

    หว่านหนิงในอาภรณ์เต็มพระยศในแบบของฮองเฮา ยืนเคียงข้างลี่หยางฮ่องเต้รูปงามแต่ใจเดียวสมกันราวกิ่งทองใบหยกมือข้างขวาถูกมือของลี่หยางเกาะกุมไว้ จุดธูปเทียนบูชาสวรรค์และบรรพบุรุษ เตรียมที่จะขึ้นนั่งบัลลังก์มังกร ฉีกวนลี่ยืนอยู่ข้างหน้าสวมมงกุฎสีทองอร่ามลงบนศีรษะของลี่หยาง“นับแต่นี้เจ้าคือฮ่องเต้แคว้นจ้าวองค์ใหม่ ลี่หยางฮ่องเต้พ่อหวังว่าเจ้าจะทำนุบำรุงศาสนาและปกป้องดูแลราษฎรดุจลูกหลานของเจ้า”ฝานกงกง ยื่นตราประทับของฮ่องเต้ ให้ฉี่กวนลี่ที่มอบมันให้กับลี่หยางหน้ามุขสูง ทั้งสองคนลี่หยางและหว่านหนิงยืนเคียงข้างกันเสียงแซ่ซ้องจากราษฎรดังไปทั่วลานกว้าง ลี่หยางยิ้มกว้าง ชีวิตเขาแม้ผ่านความลำเค็ญมากมายเพียงใดแต่เมื่อมองย้อนกลับไปกลับคิดว่ามันเป็นเพียงเรื่องราวที่เป็นบทเรียนสอนใจเท่านั้นต่อจากนี้ ชีวิตขององค์ชายห้าผู้อับเฉามีพร้อมแล้วซึ่งความสุขและครอบครัวในวันนั้นลี่หยางนั่งซุกอยู่ในมุมมืด เดียวดายเหน็บหนาวความมืดปกคลุมไปทั่วบริเวณท้องไส้ปั่นป่วนด้วยความหิว ในคืนไหว้พระจันทร์ที่หลายคนต่างสนุกสนาน แต่เขากลับเดียวดาย ครึ่งหลับครึ่งตื่นเด็กหญิงตัวอ้วนป้อมยกมืออุ่นขึ้นลูบใบหน้าเบาๆ แล้ววางขนมไหว้พระ

  • ตำหนักร้อยดาวชายากาวใจ   วันที่หิมะหยุดโปรยปราย

    ลี่หยาง สืบเสาะหาสมุนไพรนานาชนิดมาบำรุงร่างกายให้หว่านหนิงทั้งสมุนไพรสำหรับช่วยให้การคลอดไหลลื่น และสุมนไพรบำรุงร่างกายทั้งทารกในครรภ์และตัวหว่านหนิงเอง อาหารทุกอย่างล้วนถูกลี่หยางชิมเสียก่อน ท่องจำเรื่องราวอาหารคาวหวานที่หว่านหนิงกินว่าสิ่งใดทำให้แพ้ท้อง สิ่งไหนที่หว่านหนิงไม่ชอบ วันว่าง ก็จะฝึกการนั่งการนอนและการหายใจ ตำราต่างๆ มากมายนำมากองรวมกัน ลี่หยางใช้เวลาทั้งหมดในการอ่านตำราเกี่ยวกับการตั้งครรภ์“ลี่เจินส่งสาสน์เรื่องการสถาปนาฮ่องเต้ของเแค้วนเหว่ย”“ส่งของกำนัลยังแคว้นเหว่ย ความจริงข้าอยากให้ไท่จือเดินทางเข้าร่วมงานพิธีในครั้งนี้ หากแต่ไท่จือเฟยใกล้จะคลอดเต็มที คงไม่เหมาะนักที่จะให้ไท่จือเดินทางแรมเดือน”“ฝานกงกง อาสาเดินทางนำของกำนัล ร่วมแสดงความยินดีกับองค์ชายสิบสองลี่เจิน”ฉีกวนลี่พยักหน้าเห็นด้วย“ลูกคิดว่ารอให้ไท่จือเฟยคลอดองค์ชาย จึงจะส่งสาสน์ให้ลี่เจินและอันฝูร่วมเฉลิมฉลองแสดงความยินดีอีกครั้ง ลูกเองก็คิดถึงลี่เจินไม่น้อยอยู่ต่างแคว้นต้องปรับตัว คงลำบากมากหน่อย”“ลี่เจินไม่นานก็จะขึ้นนั่งบัลลังก์ เป็นเขาที่จัดการบางอย่างได้ดีกว่าที่ข้าคิดไว้”ฉีกวนลี่ชื่นชมลี่เจิน ออกนอก

  • ตำหนักร้อยดาวชายากาวใจ   ค่อนข้างเสียใจ

    "หญิงผู้หนึ่งที่ยอมแต่งกับองค์ชายที่มีดวงพิฆาตไม่สนใจเสียงร่ำลืออีกทั้งพยายามฉุดดึงและสร้างองค์ชายที่แข็งแกร่งยอมทนลำบากเพื่อรอวันที่สวยงามวันที่ฟ้าสดใส แต่เมื่อวันนั้นมาถึงกลับต้องถูกปล่อยให้เดียวดายในตำแหน่งที่สูงส่ง"องครักษ์วิ่งเข้ามาข้างใน"ฝ่าบาทไท่จือเฟยเป็นลมหมดสติ อยู่ข้างๆ ที่ไท่จือคุกเข่าอยู่"ฉีกวนลี่ลุกขึ้นยืน ฝานกงกงถลาออกไปด้านนอกพบลี่หยางกำลังเขย่าร่างไร้สติของหว่านหนิง ปากก็ร้องเรียกหาหมอหลวง หยาดฝนยังโปรยปรายไม่หยุดลี่หยางและหว่านหนิงเปียกปอนร่มที่ถือมาถูกกางกันฝนให้ลี่หยางแต่ตัวเองยอมเปียกฝน ลี่หยางพยายามจะลุกขึ้นยืนทั้งที่ปวดหัวเข่าเพราะคุกเข่าอยู่เสียนาน"พาไท่จือเฟยเข้าไปข้างในตำหนักก่อน"ฉีกวนลี่พูดขึ้นดังๆ ลี่หยางมองสบตาฉีกวนลี่สายตาเจ็บซ้ำ ฝานกงกงช่วยพยุงทั้งสองคนให้ลุกขึ้นพาเข้าไปด้านใน"ตามหมอหลวง"ฉี่กวนลี่ออกคำสั่งด้วยเสียงอันดังฝานกงกง เตรียมอาภรณ์ชุดใหม่ให้ลี่หยาง"ให้ห้องเครื่องต้มน้ำขิงแล้วนำมาที่นี่ทันที"ตำหนักฮ่องเต้บังเกิดความวุ่นวายไม่น้อย หมอหลวงถือหลวมยาเข้ามา ลี่หยางถลาเข้าไปข้างๆหว่านหนิง"ไท่จือเฟยเป็นอย่างไรบ้าง แล้วลูกของข้าล่ะ"ฉีกวนลี่หันขวั

  • ตำหนักร้อยดาวชายากาวใจ   ยอม

    “ข้า..ข้า..ข้ากำลังจะเป็นพ่อเจ้าได้ยินไหม ลูกของเรา”หว่านหนิงยิ้มบางๆ ยกมือขึ้นลูบที่ท้องอย่างทะนุถนอมตอนที่55ยอม"เจ้าเป็นสิ่งมีค่าที่สุดเท่าที่ข้าเคยมีบัดนี้กับให้สิ่งมีค่าที่สุดแกข้าเพิ่มเติม อย่างนี้จะไม่ให้รักเจ้าได้อย่างไร"กอดประคองหว่านหนิงแน่น"ท่านพี่ท่านกับลูกก็คือสิ่งเดียวที่ข้าหวงแหนที่สุด"ลี่หยางกลับพูดน้อยลงกว่าเดิม เขามีเรื่องให้ทำมากมายแต่รอยยิ้มกลับเพิ่มมากขึ้น เฝ้ามองหว่านหนิงทุกอย่างก้าว จะนั่งหรือเดินต้องคอยประคอง ดังกลัวว่าจะหกล้ม“กุ้ยอิงกับอิงไถต่อแต่นี้อย่าให้ไท่จือเฟยทำงานใดใดในตำหนักร้อยดาว พวกเจ้าต้องมั่นดูแลอย่าให้ไท่จือเฟยต้องลงมือทำสิ่งใดไม่อย่างนั้นข้าคงต้องสั่งลงโทษเจ้าทั้งสอง อีกไม่นานข้าจะหานางกำนัลที่ไว้ใจได้สักหลายคนหน่อยมาคอยดูแล ไท่จือเฟย”หว่านหนิงยิ้ม“ข้าให้หมอหลวงส่งยาบำรุงที่ดีที่สุดมาที่ตำหนักร้อยดาวข้าตั้งใจเคี่ยวยาให้เจ้าด้วยตัวเอง”“ท่านพี่จะทรงลำบากไปไย”“เพื่อเจ้า เรื่องเล็กน้อยเพียงนี้ เมื่อเทียบกับสิ่งที่เจ้าทำเพื่อข้าอีกทั้งยังอุ้มท้องลูกของข้า ทนลำบากอยู่หลายเดือนเรื่องที่ข้าทำจึงถือว่าเล็กน้อยเหลือเกิน”"อีกอย่างข้าเห็นท่าน หาซื้อผ

  • ตำหนักร้อยดาวชายากาวใจ   ไร้คำกล่าว

    “องค์ชายน้อยอยู่ในครรภ์ของเจ้าแล้วตอนนี้ ข้าจะทูลให้เสด็จพ่อยกเลิกกฎการมีชายารองและแต่งตั้งสนมมากมายให้เกิดเรื่องวุ่นวายเหมือนที่ผ่านมาเสียที”หว่านหนิงซุกหน้าลงบนอกกว้างที่บัดนี้กับอบอุ่นมิได้เย็นชาเหมือนที่ผ่านมา อ้อมกอดที่กระชับแน่นทั้งคืนไม่เขินอายหรือแอบประคองกอดเหมือนเมื่อครั้งแต่งเข้าตำหนักร้อยดาวใหม่ๆ“หว่านหนิงไม่ขอสิ่งใดขอเพียงได้เคียงข้างเช่นนี้ทุกค่ำคืน” หว่านหนิงตกใจใน คำพูดของตัวเองไม่น้อย ก่อนหน้านั้นยังคิดว่าการแต่งเข้าตำหนักร้อยดาวเป็นการตกนรกหรือไร แต่มาวันนี้กลับรู้สึกว่าตำหนักร้อยดาวแห่งนี้เป็นดั่งสวรรค์ เมื่อมีลี่หยางประคองกอดอยู่อย่างนี้ทุกค่ำคืนทั้งคืนหว่านหนิงสวมเสื้อคุลมมังกรสีน้ำเงินเข้มให้ลี่หยาง ใบหน้าหล่อเหลาช่างดูเหมาะกับเสื้อคลุมมังกรเหลือเกิน เหล่าขุนนางราชสำนักคุกเข่าส่งเสียงแซ่ซ้องสรรเสริญ“ไท่จือทรงพระเจริญ พันปี”หว่านหนิงยิ้มอย่างเป็นสุข ลี่หยางหันสบตากับหว่านหนิง ส่งยิ้มกว้างกว่าทุกครั้งที่หว่านหนิงเคยเห็นมา“เจ้าคิดว่าได้อย่างนั้นหรือ การที่เจ้าจะตัดสินใจสิ่งใดโดยใช้ความรู้สึกของตัวเองตัดสิน”“เสด็จพ่อ ฝ่าบาทลูกเห็นทีจะ ขอสละตำแหน่งไท่จือ”หว่านหนิ

  • ตำหนักร้อยดาวชายากาวใจ   ขึ้นสวรรค์เสียที

    “สวีเยียน เชื่อข้าเถอะ ลี่จางคือลูกของเราเป็นเจ้าสิบสี่ เจ้าคิดหรือว่าหากเขาไม่ใช่ลูกข้าข้ายังจะให้เขามีชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้หรือ ข้าไม่ไว้ใจเจ้าแต่ทว่าเลือดย่อมข้นกว่าน้ำ เลือดของเจ้าสิบสี่ถูกนำมาพิสูจน์ความเป็นพ่อลูกกับข้าตั้งแต่ลืมตามาดูโลกคิดหรือไรว่าหากข้ารู้ว่าเขาไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของข้าแล้วเขาจะมีชีวิตยืนยาวเพียงนี้”ลี่จางทรุดกายลงกับพื้นก้มหน้าร้องไห้เหมือนคนเสียสติ เสียงร้องโหยหวน ด้วยดวงใจที่แหลกสลาย ลี่เจินเข้าไปพยุงแต่ลี่จางกลับสะบัดตัวหนี ภาพตรงหน้า สะเทือนใจไม่น้อย ฮองเฮาสวีเยียนเองก็ไม่ต่างจากลี่จาง ทรุดกายลงกับพื้นหมดเรี่ยวแรงดวงตาเหม่อลอยพร่ำพูดแต่คำพูดเดิมๆ“ไม่จริง ไม่จริง ไม่ใช่ ไม่จริง”น้ำตาไหลนองเต็มตาแต่ปราศจากเสียงสะอื้นฉีกวนลี่หลับตาลงช้าช้าไล่หยาดน้ำตา ให้ไหลคืนลงในอกกล้ำกลืนอย่างที่สุด หากจะโทษใครสักคน ให้โทษตัวเขาที่มีใจเดียวรักมั่นแต่จินเฟยคนเดียวไม่มีสายตาไว้มองใคร ความรักนั้นยังถูกถ่ายทอดไปยังลี่หยางรักเขายิ่งแแก้วตาทำทุกวิถีทางให้ลี่หยางรอดพ้นเงื้อมมือฮองเฮา แม้จะแสร้งไม่รักแต่กลับซ่อนไม่มิด หันมองลี่หยาง ที่จับตัวหวานหนิงมาสำรวจว่าบาดเจ็บตรงไหนห

  • ตำหนักร้อยดาวชายากาวใจ   เหนือกว่า3

    “555 ฉีกวนลี่ผู้นี้ ปกป้องใครได้กัน แม้แต่สนมที่รักอย่างเช่นแม่ของเจ้ายังถูกแม่ข้าฮองเฮาส่งคนฆ่าวางเพลิง แม้จะเรียกตัวเองว่าพ่อแต่ปกป้องใครได้กัน เจ้าเองก็รู้ดีนี่ลี่หยางตลอดเวลาเขาเคยปกป้องเจ้าหรือไร”ฉีกวนลี่กัดฟันแน่น ทั้งๆ ที่ระแคะระคายมาบ้างแล้วว่าฮองเฮาเป็นคนส่งคนไปลอบสังหารสนมจินเฟยแต่ครั้งนี้ได้ยินกับหูจึงเกือบระงับความแค้นเคืองไว้ไม่ได้“ความผิดของข้าอย่างเดียว คือปล่อยให้เจ้าสองคนแม่ลูกมีชีวิต อยู่เสียนานคิดว่า อาจจะกลับตัวกลับใจได้”“ข้าเคยบอกแล้วว่าเป็นเพราะท่านฉีกวนลี่ ข้าเคยรักเคยเทิดทูนท่าน เหมือนที่ลูกพึงจะกระทำ หากท่านใส่ใจเราสองคนแม่ลูกสักนิดไม่เฉยชา เราสองคนอาจจะดีกับท่านอย่างจริงใจ”“จะให้ข้าดีกับพวกเจ้าอย่างจริงใจทั้งๆ ที่รู้ว่าฮองเฮาผิดต่อข้าเช่นนั้นหรือ”“เสด็จแม่จะไม่ผิดต่อท่าน หากท่านไม่มัวแต่อาลัยอาวรณ์คร่ำควรญกับการจากไปของสนมจินเฟย เสด็จแม่บอกว่าหัวใจของท่านอยู่ที่สนมจินเฟย ลี่หยางเป็นดั่งแก้วตาในเมื่ออยากให้ท่านตายคงต้องสังหารหัวใจและแก้วตาของท่านเสีย”“ทหารจับพวกมันไปขังไว้พรุ่งนี้ประหารเสียพร้อมกันให้หมด”องครักษ์นับรอยล้อม ลี่หยางและหว่านหนิงที่หันหลังชนกั

  • ตำหนักร้อยดาวชายากาวใจ   เหนือกว่า2

    “ละทิ้งความโกรธเกลียดไม่ได้ เจ้าจะมีความสุขได้เช่นไร”“ฝ่าบาทเดิมทีตำแหน่งฮองเฮาต้องได้ความรักมากกว่าผู้ใด แต่ฝ่าบาทกลับละเลยมอบความรักให้แต่จินเฟยเพียงคนเดียว แล้วจะให้สวีเยียนยิ้มและเป็นสุขได้อีกหรือ เช่นนั้นข้าจำต้องหาความสุขเพียงลำพัง”กระซิบเบาๆ ข้างหูหัวหน้าขันทีออกมายืนด้านหน้า ตรงช่องทางเดินที่สองข้างขนาบซ้ายขวาด้วยเหล่าขุนนาง“พิธีเริ่มได้….”ฉีกวนลี่เชิดหน้านั่งตัวตรง“บัดนี้ถึงเวลา ข้าฉีกวนลี่จะประกาศอาณัติจากสวรรค์ แม้จะรวดเร็วไปบ้างแต่เมื่อเป็นลิขิตจากสวรรค์จึงไม่อาจทัดทาน”เหล่าขุนนางต่างซุบซิบบ้างก็สงสัยว่ามีเรื่องใดกันที่เป็นอาณัติสวรรค์บ้างก็บอกเล่าสิ่งที่ระแคะระคายมาเมื่อไม่นานมานี้นอกกำแพงเมือง ลี่เจินและฝานกงกง ยืนอยู่หน้าประตูวัง และทหารที่ติดตามหลายร้อยคนเสียงอื้ออึงโกลาหล กระบี่ในมือปัดป้องลูกดอกที่ถูกยิงลงมาจากกำแพงเมือง ทหารหลายนายกำลังใช้เครื่องทุ่นแรงกระทุ้งบานประตูใหญ่ให้เปิดออก การบาดเจ็บล้มตายหลีกเลี่ยงไม่ได้แต่ทหารแปดกองธงหาได้มีแค่เพียงหยิบมือจำนวนมากมายคณานับกองหน้าล้มตายก็มีกองหนุนเข้ามาเสริม เลือดไหลนองพื้นดั่งสายน้ำสวีถงนำองครักษ์เสื้อแพรช่วยกันต้า

DMCA.com Protection Status