สตีเฟนมองชายวัยกลางคนอย่างไม่เชื่อสายตา “พี่…พี่ชาย คุณต้องล้อเล่นกับฉันใช่ไหม?”ชายคนนั้นดูหงุดหงิดเล็กน้อยเมื่อเขาตอบกลับ “ไอ้น้อง ทำไมนายไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ นายเข้าสู่ชนชั้นสูงในเมืองริเวอร์วิลล์ได้ยังไง? พวกนายแอบย่องขึ้นมาบนเรือใช่ไหม?”“เรามีตั๋ว” สตีเฟนรีบหยิบตั๋วออกมาแล้วโบกมันต่อหน้าเขา “เราเพิ่งกลับมาที่เมืองนี้เมื่อวานนี้ ดังนั้นจึงมีอะไรมากมายที่เรายังไม่รู้ พี่ชาย เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ช่วยบอกเราหน่อยได้ไหม?”ชายวัยกลางคนพยักหน้า “นั่นคงเป็นเหตุผลว่าทำไมนายถึงไม่รู้เกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ ให้ฉันบอกนายเกี่ยวกับมัน เมื่อหลายปีก่อน ตอนที่แพทริค เรย์โนลด์ถูกไล่ออกจากเมืองริเวอร์วิลล์ ต่อมามีข่าวลือว่าเขาเดินทางตอนเหนือ”“หลังจากนั้น เขาเชื่อมโยงเข้ากับครอบครัวที่มีอำนาจที่น่าสะพรึงกลัว แปดปีต่อมา เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นนายพลระดับสูงให้แก่ตระกูล ตอนนี้เขาจึงถูกมองว่าเป็นกองกำลังทางตอนเหนือ”“หลังจากการขยายอำนาจและอิทธิพลของเขา เขาจึงกลับมาแก้แค้นพันธมิตรแห่งเมืองริเวอร์วิลล์”เมื่อถึงจุดนี้ ชายวัยกลางคนเริ่มทำเสียงจริงจังมากขึ้นหลังจากมองไปรอบ ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มี
ทุกเมืองล้วนมีฉากการต่อสู้ใต้ดินของตัวเอง ในระหว่างการแข่งขัน หากการคำนวณผิดไปเพียงเล็กน้อยอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ร้ายแรงได้ แทนที่จะเป็นเพียงการแสดง การต่อสู้ดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการต่อสู้จริง ซึ่งแต่ละหมัดจะได้รับการจัดการอย่างเต็มกำลังถ้าเฮ็คเตอร์สามารถรักษาสถิติชนะสามสิบหกนัดติดต่อกันในฉากการต่อสู้ใต้ดินได้ ก็ถือว่าเขามีพรสวรรค์เป็นอย่างมากถ้าหากว่าพวกเขาได้พบกันก่อนหน้านี้ มาร์คัสและเจดอาจจะมีความประทับใจในตัวเขาอยู่มากแต่ทว่า นับตั้งแต่ที่พวกเขาได้เห็นการต่อสู้ของไทร์ ทำให้พวกเขาไม่ได้นึกถึงนักสู้ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้มากนัก“จากที่ฉันได้ยิน ถือว่านายเป็นนักสู้ผู้เชี่ยวชาญจริง ๆ” มาร์คัสกล่าว “แต่ว่านายอย่าพึ่งดูถูกคนที่แพทริค เรย์โนลด์จ้างมาจากทางตอนเหนือจะดีกว่า นายอาจไม่เคยเห็นอิทธิฤทธิ์นั้นในช่วงชีวิตของนายเลยก็ได้”“คุณดูถูกฉันเหรอ” เฮคเตอร์ขมวดคิ้วขณะมองมาคัสด้วยแววตาโกรธจัด “ฉันแค่ใจดีเตือนนายไว้ล่วงหน้า”เทอร์รี่เองก็รู้สึกไม่มีความพอใจเช่นกัน หลังจากที่ใช้เงินไปสามสิบล้านเหรียญเพื่อจ้างเฮคเตอร์ เขารู้สึกผิดหวังมากกับปฏิกิริยาของมาร์คัสและคนอื่น ๆ ในตอนแรกที่เขาคิดว่า
ในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที สมาชิกพันธมิตรเกือบสิบคนได้ย้ายไปอยู่ฝั่งของแพทริค เรย์โนลด์เป็นที่เรียบร้อย แต่ละคนสรรหาคำพูดที่ดูถูกตนเองมากกว่าคำพูดของคนก่อนหน้าเมื่อเห็นว่าสมาชิกพันธมิตรเกือบครึ่งปิดเปือนคำพูดเพื่อย้ายไปยังฝ่ายศัตรู มาร์คัส คอลลินส์และเทอร์รี่ แซนเดอร์มีท่าทีไม่พอใจอย่างยิ่ง“ตระกูลวอลเลซ ขอยอมจำนนต่อมิสเตอร์เรย์โนลด์เช่นกัน”“มิสเตอร์เรย์โนลด์เป็นคนใจดี ได้โปรดปล่อยให้ตระกูลวอลเลซมีชีวิตอยู่ต่อไปด้วย”ทันใดนั้น เจมส์ วอลเลซ ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่สามของตระกูลวอลเลซก็เริ่มเดินไปตามทิศทางของแพทริค เรย์โนลด์ด้วย มาร์คัส คอลลินส์ และเทอร์รี่ แซนเดอร์เดือดดาลในทันทีนอกจากข้อเท็จจริงที่ว่ากองกำลังอื่น ๆ ภายในกลุ่มพันธมิตรแห่งเมืองริเวอร์วิลล์ได้ยอมจำนนต่ออิทธิพลของแพทริคเรย์โนลด์แล้ว เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้สำหรับ หนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ ที่จะทำเช่นเดียวกัน ที่สำคัญกว่านั้น ครอบครัววอลเลซเพิ่งถูกทุบตีอย่างรุนแรงเมื่อไม่กี่วันก่อนเป็นเรื่องน่ารังเกียจสำหรับเจมส์ วอลเลซที่จะทรยศต่อคนที่มีนามสกุลเดียวกับตนเอง ด้วยการร่วมมือกับแพทริค เรย์โนลด์ ส่อให้เห็นว่า พฤติกรรมของเจมส์ วอล
ใบหน้าของเทอร์รี่ แซนเดอร์เริ่มมืดมนในทันที "มิสเตอร์ วอร์ด เราตกลงราคากันตั้งแต่แรก แล้วไม่ใช่เหรอ? มันไม่สมเหตุสมผลไปหน่อยเหรอ ที่นายจะเรียกร้องราคาที่สูงขึ้นอย่างกระทันหัน?”เฮคเตอร์ วอร์ดสูดลมหายใจ “เมื่อฉัน เฮคเตอร์ วอร์ดเป็นผู้นำแล้ว แน่นอนว่าฉันสามารถจัดการมันได้อย่างแม่นยำ ด้วยเหตุนี้ ฉันเพียงผู้เดียวช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับนักสู้ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากได้ เพียงแค่การเพิ่มเงินฉันขอมากไปเหรอ?”บางทีอาจเป็นเพราะว่า เฮคเตอร์ วอร์ด มีภูมิหลังของศิลปะการต่อสู้เส้าหลินกังฟู ที่ควบคู่ไปกับสถิติการชนะการแข่งขันฉากต่อสู้ใต้ดินสามสิบหกนัดติดต่อกัน นั่นทำให้เขามั่นใจในความสามารถของตัวเองมากอันที่จริง ระดับของความมั่นใจของเขาเกินคำว่าอวดดีและยังมั่นใจในตัวเองสุด ๆในขณะเดียวกัน เทอร์รี่ แซนเดอร์เองก็นึกไม่ถึงว่าเฮคเตอร์ วอร์ดจะเรียกร้องราคาที่สูงขึ้นอย่างไร้ยางอาย ทั้ง ๆที่พวกเขาได้ตกลงราคาไปแล้วก่อนหน้านี้ในขณะที่เทอร์รี่ แซนเดอร์ลังเล มาร์คัส คอลลินส์ก็เริ่มพูดขึ้น “นายแน่ใจใช่ไหม ว่านายจะเอาชนะคน ๆ นั้นได้?”“ถ้าฉันทำไม่ได้ ฉันคงไม่พูดมันอย่างมั่นใจ” เฮคเตอร์ วอร์ดกล่าว
ผู้คนต่างหวาดกลัวเจค มอร์ริส หลังจากที่ได้เห็นเขาเพียงแค่นัดเดียว เมื่อเขาเรียกหาคู่ต่อสู้ แต่ดูเหมือนไม่มีใครอยากขึ้นเวที แม้ว่าจะมีเสียงพูดคุยกันในส่วนของพันธมิตรก็ตาม ทุกสิ่งกลายเป็นเรื่องน่าอึดอัดใจ"เกิดอะไรขึ้น? คนขี้ขลาดไร้ประโยชน์แห่งเมืองริเวอร์วิลล์กลัวการขึ้นมาบนนี้เหรอ?” เจค มอร์ริสเริ่มหงุดหงิดเมื่อดูเหมือนว่า ไม่มีใครก้าวออกมา จากการยั่วยุในคำพูดของเขาในขณะเดียวกัน มาร์คัส คอลลินส์และเจด ลอเรลก็เริ่มรู้สึกตื่นตระหนก เมื่อไทร์ ซัมเมอร์ ยังคงไม่ปรากฏตัว และไม่มีสมาชิกพันธมิตรคนใดกล้าพอที่จะท้าทายเจค มอร์ริสในสนามต่อสู้ ใบหน้าของมาร์คัส คอลลินส์กลายเป็นสีแดงด้วยความอับอาย เนื่องจากที่เขาเป็นผู้นำกลุ่มพันธมิตรแห่งเมืองริเวอร์วิลล์"ก้าวออกมา ทำไมไม่มีใครก้าวขึ้นมาบนเวที? มัวรออะไรกันอยู่? เมืองริเวอร์วิลล์ไม่ควรจะมีคนขี้ขลาด”เมื่อสตีเฟน โคล ซึ่งนั่งอยู่แถวหลังเห็นสิ่งนี้ เขารู้สึกว่าใบหน้าของเขาร้อนขึ้นเช่นกัน ด้วยกำปั้นที่กำแน่น เขากระวนกระวายจนอยากจะขึ้นไปอัดเจค มอร์ริสบนเวที“ไม่มีใครในฝั่งพันธมิตรสามารถเอาชนะเจค มอร์ริสได้” ไทร์ ซัมเมอร์กล่าว เมื่อได้ฟัง สตีเฟน
ทันทีที่ฝ่ามือของเจค มอร์ริสตบหัวของเสือดำจนได้ยินไปถึงกระดูกที่กำลังแตกแคร็ก!พยัคฆ์ดำจ้องตรงไปข้างหน้า ขณะที่เลือดเริ่มเข้าตา จากนั้นเลือดก็เริ่มไหลออกมาจากรูจมูกและมุมปากของเขาเช่นกันพลั่กราชามวยแห่งเรือดอกไม้พ่ายแพ้!นี่มัน…ทุกคนตกอยู่ในความเงียบที่น่าขนลุกอีกครั้ง อันที่จริง ผู้ชมหลายคนอาจรู้สึกขนลุกไปทั้งตัวและศีรษะ ราชามวยแห่งเรือดอกไม้จะแพ้ได้ยังไง? อันที่จริงมันเป็นความพ่ายแพ้ที่ชัดเจนมาก เจค มอร์ริสเตะพยัคฆ์ดำอีกครั้ง ดูเหมือนว่าเขากำลังเตะสุนัขที่ตายแล้วออกจากเวที หัวใจของสมาชิกชั้นสูงทุกคนของเมืองริเวอร์วิลล์เริ่มเต้นแรง “เจค มอร์ริสมีพลังมากเกินไป”มาร์คัส คอลลินส์และเจด ลอเรลตกตะลึง ในขณะเดียวกันใบหน้าของสตีฟ แฮมเมอร์ก็ซีดเซียว ราชามวยแห่งเรือดอกไม้ คือไพ่ใบลับของเขา ซึ่งเขาเตรียมการอย่างลับ ๆ มาเป็นเวลาสองปี หากแพทริค เรย์โนลด์ไม่ปรากฏตัว สตีฟตั้งใจจะใช้ พยัคฆ์เสือดำ เพื่อการกลับมาของเขา เพื่อที่เขาจะได้ครอบครองอำนาจในการเป็นผู้นำกลุ่มพันธมิตรแห่งเมืองริเวอร์วิลล์จากทั้งสี่ตระกูลที่โดดเด่นแต่แล้วการใช้ไพ่ตายก็ต้องล้มเหลวในที่สุด ในขณะนั้น เจค มอร์ริสกล
ทันใดนั้น ทุกสายตาจับจ้องไปที่ไทร์ ซัมเมอร์ เจคอบตัวสั่นและรีบเรียกตามหลังของไทร์ ซัมเมอร์ ทันที “นายกำลังจะทำอะไรไทร์ ซัมเมอร์? นายเป็นบ้าเหรอ?”สตีเฟน โคล และ พอล โคล ต่างก็ตกตะลึงเช่นกัน“ไอ้ขี้ขลาดไร้ประโยชน์ นายกำลังจะทำอะไร? พวกเขากำลังเรียกหามิสเตอร์ ซัมเมอร์ ไม่ใช่นาย กลับมาที่นี่เดี๋ยวนี้”แม้ว่าสตีเฟน โคลและพอล โคลจะไม่ค่อยชอบขี้หน้าไทร์ ซัมเมอร์ แต่พวกเขาก็ไม่ต้องการให้ไทร์ตายโดยเปล่าประโยชน์แต่ทว่า ไทร์ ซัมเมอร์ ไม่สนใจคำพูดของพวกเขาและยังคงเดินไปข้างหน้าถึงเวลานั้น ทุกคนในห้องรับรอง ก็เริ่มพูดคุยกันอย่างเผ็ดร้อน พวกเขาตอบสนองในลักษณะเดียวกับที่ สตีเฟน โคลและมาร์คัส คอลลินส์ทำในครั้งแรกเมื่อเขาพบไทร์ ซัมเมอร์ เมื่อผู้คนเห็นว่าเขามีร่างกายที่บางและใบหน้าที่มีเสน่ห์ พวกเขาเริ่มดูถูก“ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร? เขาขึ้นไปที่นั่นเพื่ออะไร?”"นั่นสิ หรือเขาจะเป็นมิสเตอร์ ซัมเมอร์? ล้อกันเล่นใช่ไหม?” “ดูจากร่างกายของเขาแล้ว เขาอาจจะไม่สามารถต้านทานการจู่โจมของเจค มอร์ริสได้แม้แต่ครั้งเดียว”ไทร์ ซัมเมอร์ ไม่ตอบสนองต่อความคิดเห็นที่เฉียบขาดจากผู้คนรอบตัวเขาในไม่ช้าเขาก็เด
อันที่จริง เจค มอร์ริสมีพลังมาก ไม่ว่าจะเป็นความเร็วหรือความแข็งแกร่ง เขาได้มาถึงระดับความเชี่ยวชาญขั้นสูงสุดแล้ว แต่ทว่า โชคไม่ดีที่ไทร์ ซัมเมอร์เป็นคู่ต่อสู้ของเขาไทร์ ซัมเมอร์ คือไอ้โรคจิตบ้าคลั่งของแท้!"ช้าเกินไป!" ไทร์ ซัมเมอร์พ่นลมออกมาเบา ๆแม้จะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเหนือมนุษย์ แต่เจค มอร์ริส ก็ยังเรียกได้ว่า ช้าเกินไปสำหรับไทร์ ซัมเมอร์ไทร์ ซัมเมอร์คว้าเจค มอร์ริสด้วยข้อนิ้วของเขาแล้วบิดแรงด้วยมือข้างเดียว แคร็ก! เช่นเดียวกับที่เจค มอร์ริสหักแขนของเฮคเตอร์ วอร์ด ในก่อนหน้านี้ ข้อมือของเจคแตกออกเป็นสองส่วน ในขณะที่กระดูกของเขามองเห็นได้บางส่วน ก่อนที่เจค มอร์ริสจะตอบสนอง มือที่ว่างของไทร์ ซัมเมอร์ก็ซัดเข้าไหล่ของเจค มอร์ริสแคร็ก!เจครู้สึกราวกับว่ากระแสไฟฟ้าไหลผ่านข้อมือไปถึงหัวไหล่ของเขา หลังจากเสี้ยววินาที เขาก็รู้สึกเจ็บปวดไปทั่วแขนกระดูกทั้งหมดในแขนของเขาถูกบดขยี้!อ๊าก!เจค มอร์ริสร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดอย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่จุดจบของความทุกข์ทรมานของเขาไทร์ ซัมเมอร์ดึงแขนที่หักของเจค ต่อกลับเข้าไป ก่อนที่จะเหวี่ยงเขาด้วยกำลังเต็มที่ ขึ้นเหนือศีรษะขอ
เมื่อไทร์ได้ยินข่าวนี้ สีหน้าของเขาไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ราวกับว่าเขารู้มาตลอด “ต้องทำขนาดนั้นเลยเหรอ?” ไทร์พึมพำกับตัวเองก่อนจะตอบว่า “ผ่อนคลาย ทำสิ่งที่พวกนายต้องทำต่อไป แค่ทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น” “แต่บราเธอร์ไทร์” เดรก ทัคเกอร์กล่าว “ฉันจะจัดการเอง” ในตอนท้ายของการโทร เดรกไม่กล้าพูดอะไรอีก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงวางสายเท่านั้น ในยุคนี้ ที่วิธีการกระจายข้อมูลได้รับการพัฒนาเป็นอย่างดี ข้อมูลต่าง ๆ สามารถแพร่กระจายไปทั่วประเทศได้ทันที บุคคลสำคัญของเมืองคานห์มีการติดต่อทางธุรกิจกับเมืองไพร์มไม่น้อยและหลายคนยังเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ ดังนั้น เมื่อข่าวการเสียชีวิตของกษัตริย์แห่งเซาท์ริเวอร์แพร่กระจายไปทั่วเมืองไพร์ม เมืองคานห์ก็จะได้รับข่าวคราวเช่นกัน หลังจากการโทรครั้งแรกจากเดรก ไทร์ยังได้รับสายจากบุคคลอื่น เช่น โนอาห์ ลี, แซคเคอรี่ สมิธ, โดนัลด์ ลูอิส, และเจด ลอเรล อย่างต่อเนื่อง แต่ละคนต่างก็ดูวิตกกังวลและเป็นห่วงไทร์ เหตุการณ์นี้ร้ายแรงเกินไป เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการตายของราชาแห่งเซาท์ริเวอร์ คาร์สัน ยอร์ก ไทร์ได้ให้คำตอบกับบุคคลสำคัญในเมืองคานห์เหล่านี้แบบเดี
ถึงตอนนี้ มีเพียงคาร์สัน ยอร์ก ไทร์ ซัมเมอร์และเจมสัน ซิงค์ ซึ่งรับผิดชอบการเทไวน์ข้าง ๆ พวกเขาเท่านั้น ที่ถูกทิ้งไว้ในห้องอาหาร “ไทร์ อย่าไปสนใจเธอเลย ผู้หญิงคนนั้นเป็นแบบนั้นเสมอมา คุณป้าเควลซ์ของคุณจะให้ความกระจ่างแก่เธอเอง ถ้าเธอพยายามจะรบกวนคุณอีก ผมจะเป็นคนดูแลเธอเอง” คาร์สันกล่าว ไทร์ยิ้มและตอบ “ไม่เป็นไรคุณลุงยอร์ก” “มาเถอะ วันนี้เราใช้โอกาสดี ๆ นี้เพื่อดื่มกัน” คาร์สันหันไปหาเจมสัน “เจมสัน ไปที่ห้องเก็บไวน์และหยิบไวน์ขวดเก่าที่ฉันเก็บไว้มา คืนนี้ไทร์และฉันจะดื่มจนกว่าเราจะเมากันไปข้างหนึ่ง” เจมสันพยักหน้าทันทีก่อนจะรีบไปที่ห้องเก็บไวน์ เมื่อเขาจากไป มีเพียงคาร์สันและไทร์เท่านั้นที่ถูกทิ้งไว้ในห้องอาหาร ในขณะนั้น คาร์สันที่ยิ้มแย้มแจ่มใสในตอนแรก ใบหน้าของเขาแสดงถึงความจริงจังออกมาชั่วครู่ก่อนที่รอยยิ้มของเขาจะกลับคืนมา เพียงชั่วพริบตานั้น ไทร์ก็เข้าใจความหมายของเขาทันที คาร์สันขยับแก้วไวน์ต่อหน้าเขา เขาใช้ไวน์หนึ่งหยดจากแก้วของเขาเขียนลงบนโต๊ะอย่างรวดเร็วว่า 'หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง' ขณะที่เขาเขียน เขาพูดต่อว่า “ไทร์ ผมต้องขอบคุณคุณ ที่รักษาป้าเควลซ์ของคุณให้หายดี
ไทร์ ซัมเมอร์และคอนนี่ ยอร์กจึงนั่งลงด้วยกัน ในขณะที่พ่อบ้านเจมสันยืนอยู่ข้าง ๆ พวกเขาเพื่อรินเครื่องดื่ม “พี่ชายที่รัก คุณแม่ของฉันดีกับคุณมาก ฉันมักจะขอให้เธอทำอาหารเหล่านี้ แต่เธอไม่ทำอาหารให้ฉันเลย เมื่อคุณอยู่ที่นี่ เธอกำลังแสดงทักษะการทำอาหารทั้งหมดของเธอให้คุณเห็น ในที่สุดฉันก็สามารถได้ทานอาหารเหล่านี้” จะว่าไปแล้ว คอนนี่ไม่ได้สนใจภาพลักษณ์ของเธอเลย เธอคว้าปีกไก่จากบนโต๊ะแล้วเคี้ยวมันทันที สีหน้าของคาร์สัน ยอร์กมืดลงในทันทีและเขาก็ตะคอกเธอ “ดูเธอทำ แขกของเธอยังไม่ได้เริ่มรับทานเลย แต่เธอกำลังกินอาหารด้วยมือเปล่า วางมันลงเดี๋ยวนี้ มารยาทของเธออยู่ไหนหมด?” เธอไม่สะทกสะท้านกับคำดุว่าของพ่อของเธอ คอนนี่ยังคงเคี้ยวไก่ของเธอต่อไป เธอคว้าอีกอันหนึ่งใส่ในชามของไทร์ และเคี้ยวในขณะที่เธอพูดว่า “พี่ชายที่รัก คุณก็กินด้วยสิ ฝีมือการทำอาหารของคุณแม่ของฉันยอดเยี่ยมมาก” ไทร์รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย พฤติกรรมของหญิงสาวคนนี้แตกต่างจากใบหน้าที่งดงามของเธอ คาร์สันไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรกับลูกสาวของเขา ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่ถอนหายใจ “ไทร์ คุณไม่ต้องไปสนใจเธอ เธอไม่เป็นกุลสตรีเอาซะเลย” เขาส่งสายตา
ไทร์ ซัมเมอร์รู้สึกหนาวไปที่กระดูกสันหลังของเขา ผู้หญิงสมัยนี้ตรงไปตรงมาขนาดนี้ได้ยังไง? อันที่จริง ตั้งแต่ที่ วินนี่เฟรดเข้ามาในชีวิตเขา ไทร์ก็ไม่ได้สนใจผู้หญิงคนอื่นอีกเลย แต่ถ้าเขาได้พบกับคอนนี่ ยอร์กก่อนวินนี่เฟรด บางทีเขาอาจจะถูกดึงดูดโดยผู้หญิงที่สวยและงดงามคนนี้แทน ถึงแม้ว่า ไทร์จะได้พบกับหญิงสาวผู้มั่งคั่งและเจ้าหญิงผู้งดงามมากมายและเขายังได้พบกับคนดังระดับโลกมานับไม่ถ้วน แต่ก็ไม่มีใครที่สวยได้เท่าคอนนี่ผู้นี่ ผู้หญิงคนนี้เป็นผลงานชิ้นเอกที่แกะสลักและสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันโดยพระเจ้า อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ไทร์มีเพียงแค่วินนี่เฟรดเท่านั้น รถคาดิลแลคของเขามุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์ยอร์ก ในขณะที่ เจย์ เบลด ถูกทิ้งให้ยืนแข็งทื่ออยู่เช่นนั้น เขายังคงตะลึงงันในขณะที่เขาจ้องไปที่รถคาดิลแลคที่พุ่งออกไปด้วยดวงตาที่แดงก่ำ เปลวเพลิงแห่งความโกรธแผดเผาหัวใจของเขา ลูกน้องของเข้าเดินเข้ามาหาเขาและถามด้วยความเป็นห่วงว่า “บราเธอร์เจย์ คุณโอเคไหม?” ผัวะ… เจย์ปล่อยหมัดเข้าที่ท้องของลูกน้อง ชายผู้นั้นรู้สึกได้ถึงตะคริวที่หน้าท้องและเขาก็ล้มลงกับพื้นแล้วจับหน้าท้องเอาไว้ด้วยความเจ็บปวด “แม่ง
เมื่อพูดถึงคาร์สัน ยอร์ก ใบหน้าของเจย์ เบลดก็กระตุกเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะเป็นนายน้อยซาร์แห่งเมืองไพร์ม แต่เขาก็ต้องเกรงกลัวคาร์สัน ยอร์ก ที่เป็นราชาแห่งเซาท์ริเวอร์อยู่มาก ในเวลานี้ เขาตาบอดอย่างสิ้นเชิงเพราะความรักที่เขามีต่อคอนนี่ ยอร์ก เขาเห็นไทร์เป็นคู่ต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา เมื่อคาร์สันเชิญไทร์ไปทานอาหารเย็น เจย์รู้สึกว่าตำแหน่งของเขาถูกคุกคาม เมื่อจิตนาการถึงคอนนี่และไทร์ ที่กำลังมีความสุขอยู่ด้วยกัน มันบีบคั้นหัวใจของเขาและจุดประกายความโกรธของเขา เขาไม่สามารถทนเห็นมันได้ “ไทร์ ซัมเมอร์! ฉันไม่สนใจว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าแกยังกล้าที่จะเข้ามาเหยียบเมืองไพร์มอีก ฉันจะฆ่าแก!” เมื่อมองดูท่าทางที่คุกคามของเจย์ ไทร์กลับคิดว่ามันไร้สาระ “ฉันไม่ได้สนใจมิสยอร์กของนาย ขอร้องเถอะเจย์ อย่ามายุ่งกับฉัน” ไทร์ไม่สนใจคนเหล่านี้ในขณะที่เขากลับไปที่รถคาดิลแลคของเขา พวกเขาโชคดีที่เป็นคนของคาร์สัน ยอร์ก ถ้าไม่เช่นนั้น ไทร์จะไม่เมตตาพวกเขาอย่างแน่นอน “ฉันไม่สน ว่าแกจะสนใจเธอหรือเปล่า แต่เธอต้องการแต่งงานกับแก และนั่นคือความกังวลของฉัน! ฉันจะให้โอกาสแกเป็นครั้งสุดท้าย กลับเมือง
“นายบอกว่า ระหว่างนายกับคอนนี่ ยอร์ก ไม่มีอะไรไม่ใช่เหรอ? ทำไมพ่อของเธอถึงชวนนายไปที่นั่น? ไม่น่าแปลกใจที่นายจะมั่นใจมาก ๆ ว่าบริษัทต่าง ๆ ในเมืองไพร์มจะต้องมาอ้อนวอนเรา ใครจะรู้ว่านายกำลังคิดที่จะทยานขึ้นไปด้วยความช่วยเหลือจากตระกูลยอร์ก” ไทร์ ซัมเมอร์ขมวดคิ้ว วินนี่เฟรดแสดงออกถึงพฤติกรรมแปลก ๆ ไม่เหมือนวินนี่เฟรดคนเดิม เธอกลายเป็นคนไร้เหตุผล บางทีคอนนี่ ยอร์กอาจจะโดดเด่นเกินไป ด้วยหน้าตาที่ดูดีและภูมิหลังของตระกูลที่โดดเด่นของเธอ ที่ทำให้วินนี่เฟรดต้องเป็นกังวลอยู่ตลอดเวลา สิ่งนี้เกิดขึ้น เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งห่วงใยผู้ชายของเธออย่างแท้จริง ซึ่งหมายความว่าไทร์ ซัมเมอร์ มีจุดที่ลบไม่ออกอยู่ในหัวใจของวินนี่เฟรด ซี “ฉันจะโกรธถ้าเธอยังเป็นแบบนี้ต่อไป วินนี่เฟรด” วินนี่เฟรดถอนหายใจและเปลี่ยนทัศนคติของเธอในทันใด เธอหัวเราะ "ฉันแค่ล้อเล่น! แต่ว่าแบลร์กับฉัน เราจะไม่ไปกับนาย คาร์สัน ยอร์ก อาจจะต้องการเชิญนายคนเดียวเท่านั้น” “เขาไม่ใช่คนแบบนั้น” ไทร์ตอบตามสัญชาตญาณ แต่แล้ว จู่ ๆ ความตระหนักก็แวบเข้ามาในใจของเขา เฉกเช่นแสงแวววาบจากสวรรค์ หรือเพื่อให้แม่นยำยิ่งขึ้น สัมผัสที่หก ที
เสียงฟ้าร้องดังก้องอยู่ข้างนอก ท่าทางของวินนี่เฟรดมืดมนลง ไทร์ถึงกับพูดไม่ออก เขายกมือขึ้นตามสัญชาตญาณด้วยเสียงฟ้าร้องฉับพลันและเขาก็เอามือลงหลังจากนั้น ในขณะนั้น เกรแฮม เดวิสโทรมา เพื่อแจ้งว่าลูกค้าจากเมืองไพร์มมาถึงแล้วและกำลังรออยู่ที่ชั้นล่าง วินนี่เฟรดจ้องเขม็งไปที่ไทร์ก่อนจะเดินออกจากออฟฟิศไป ไทร์นั่งลงบนเก้าอี้ของวินนี่เฟรด จากนั้นเขาหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาและโทรไปหาฮวน เยตส์ ในอีกด้านหนึ่งของการโทรวิดีโอ ฮวนกำลังมีช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการผ่อนคลาย ในที่ดินของเขาที่แฟนทั้งสองคนมอบให้แก่เขา “ฮวน ภรรยาของฉันมีอาการหึงหวง ฉันควรจะทำยังไงดี?" ไทร์ถาม บนหน้าจอ ฮวนตกใจเล็กน้อย “นายท่าน ท่านลืมคำแนะนำของผมไปแล้วเหรอ?” “ไสหัวไปซะ” ถ้าหากพวกเขาอยู่ใกล้กัน ไทร์จะทำให้ฮวนต้องพ่ายแพ้อย่างที่เขาจะไม่มีวันลืม เมื่อเห็นท่าทางบูดบึ้งของไทร์ ฮวนรู้ดีว่าเขาควรจะเข้าข้างเจ้านายของเขาและหุบปาก “นายท่าน ถ้าเธอหึงหวง แสดงว่าเธอห่วงใย ยิ่งความหึงหวงมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งห่วงใยมากเท่านั้น! ท่านจะต้องพูดจาหวาน ๆ กับเธอ แล้วสาบานด้วยชีวิตของท่านว่าท่านไม่ได้ทำอะไรผิดต่อเธอ หลังจ
เชลดอน เฮย์ส และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองออกไปตามที่ได้รับคำสั่ง จากนั้น ความเงียบสงัดก็เกิดขึ้นภายในสำนักงาน ไม่เพียงแค่เชลดอนที่ประหลาดใจเท่านั้น แต่คอนนี่ ยอร์กซึ่งอยู่นอกสนามก็ตกใจกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นเช่นกัน จนถึงตอนนี้ เธอไม่เคยเห็นใครที่มีพลังมากพอที่จะส่งเจย์ เบลด บินออกไปได้ด้วยหมัดเพียงหมัดเดียว "คุณเป็นใคร?" เธอมองไทร์ ซัมเมอร์อย่างระมัดระวัง พูดตามตรง เธอสนใจไทร์ ที่หล่อเหลาได้ถึงเพียงนี้ "เธอเป็นใคร?" ไทร์ถามกลับ คอนนี่ตรงไปตรงมากับความตั้งใจของเธอ “ฉันคือ คอนนี ยอร์ก ลูกสาวของคาร์สัน ยอร์ก ธิดาของกษัตริย์แห่งเซาท์ริเวอร์ ฉันมาเพื่อตามหาไทร์ ซัมเมอร์ เพื่อแต่งงานกับเขา” อะไรนะ? ไทร์รู้สึกสับสนอย่างบอกไม่ถูก ลูกสาวของราชาแห่งเซาท์ริเวอร์ ต้องการแต่งงานกับเขา? นี่เป็นเรื่องตลกที่น่ารังเกียจแบบไหน? เดี๋ยวก่อน แล้วใครคือ ราชาแห่งเซาท์ริเวอร์ อีก? คาร์สัน ยอร์ค? ไทร์รับรู้ได้อย่างฉับพลัน เขาเป็นสามีของป้าเควลช์ไม่ใช่เหรอ? ผลงานชิ้นเอกของพระเจ้าคนนี้คือลูกสาวที่ไร้ค่าของเฮเธอร์ เควลซ์? "ออกไปเถอะ ฉันไม่เห็นด้วย” ไทร์ตอบอย่างตรงไปตรงมาหลังจา
อะไรนะ?” วินนี่เฟรดเกือบทำกาน้ำชาในมือของเธอหก เธอมองไปที่คอนนี่ ยอร์ก ด้วยความงุนงงและพยายามทำความเข้าใจกับคำที่เธอเพิ่งได้ยิน ผู้หญิงคนนี้กล้ามาก! เธอกล้าแสดงความรักในที่สาธารณชนกับชายที่แต่งงานแล้วต่อหน้าภรรยาของเขาได้ยังไง? ความไร้เดียงสาของคอนนี่มันไร้สาระเกินไป "มิสยอร์ก มันไม่ตลกนะคะ” ทัศนคติที่จริงใจของวินนี่เฟรดหายไปทันที ความประทับใจที่ดีของเธอที่มีต่อคอนนี่ลดลง ในทางกลับกัน คอนนี่พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “มิสวินนี่เฟรด ฉันมาที่นี่วันนี้ด้วยความตั้งใจจริง ฉันไม่ได้ล้อเล่นกับคุณ ฉันไม่มีวันเปลี่ยนใจที่จะแต่งงานกับไทร์ ซัมเมอร์ ช่วยหย่ากับเขาด้วย แน่นอน ฉันจะชดเชยความสูญเสียที่เกิดขึ้น หนึ่งร้อยล้านดอลลาร์เป็นยังไง? เพียงพอสำหรับคุณไหม?” วินนี่เฟรดกำลังต่อสู้เพื่อระงับความโกรธของเธอ แต่ข้อเสนอของคอนนี่ที่จะจ่ายให้เป็นฟางเส้นสุดท้าย เธอกำลังคิดอะไรอยู่? การจ่ายเงินให้เพื่อแลกกับสามี? “กรุณาเคารพการแต่งงานของเราด้วย มิสยอร์ก” น้ำเสียงของวินนี่เฟรดเย็นชา ถึงยังไงคอนนี่ก็ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง "มิสวินนี่เฟรด เหตุผลที่คุณปล่อยไทร์ไปไม่ได้ เป็นเพราะลูกสาวของคุณใช่ไหม? ไม่เ