สมาชิกรังหมาป่าใช้เวลาสามวันในการแข่งขันการจัดอันดับ หลังจากนั้นแม็กซ์ ชีเวอร์ได้ส่งอันดับล่าสุดไปยังโทรศัพท์ของไทร์ผ่านวีแชท “อันดับหนึ่ง: แมทธิว คอลลินส์” “อันดับสอง: เจมี่ ซันเดอร์” “อันดับสาม: สตีเฟน โคล” “อันดับสี่: แอชบลัด” “อันดับห้า: ทรอย เยเกอร์” “อันดับหก...” การจัดอันดับได้บันทึกรายละเอียดและทักษะที่มีความสามารถของทุกคนเอาไว้ รวมถึงประสบการณ์ที่ผ่านมาทั้งหมดของพวกเขา วาเนสซ่า แฮร์รีส หนึ่งในสมาชิกหญิงจากสองคนของรังหมาป่าอยู่ในอันดับที่เจ็ด ในขณะที่สมาชิกหญิงอีกคนคือ ฟีโอน่า เจนนิ่งส์ อยู่ที่อันดับที่สิบสี่มาร์ติน เจคแมน ผู้พิทักษ์ด้วยแขนเดียวอยู่ในอันดับที่สิบสอง เห็นได้ชัดว่ามาร์ตินได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากหลังจากที่เขาสูญเสียแขนข้างหนึ่งไป ด้วยรูปลักษณ์ ความแข็งแกร่งและพรสวรรค์ในการเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ ถ้าเป็นก่อนหน้านี้เขาอาจจะติดหนึ่งในหก แต่ตอนนี้เขาอยู่อันดับที่สิบสอง แม้ว่าไทร์จะรู้สึกสงสาร แต่เขาเชื่อว่านี่เป็นวาสนาในคราเคราะห์ หลังจากสูญเสียแขนไป แต่เส้นทางใหม่ที่เปิดกว้างอาจจะรอมาร์ตินอยู่ก็ได้ สักวันหนึ่งเขาจะสามารถกลับไปสู่จุดสูงสุดได้อย่
ทันใดนั้น วินนี่เฟรด ซี รู้สึกราวกับว่าท้องฟ้ากลายเป็นสีเทา โลกของอินเทอร์เน็ตน่ากลัวเกินไป ตอนนี้เธอสามารถเข้าใจความรู้สึกของเหล่าคนดัง ที่ชื่อเสียงของพวกเขาถูกทำลายในเวลาเพียงชั่วข้ามคืนด้วยเรื่องอื้อฉาวและถูกทิ้งให้จมอยู่กับความสิ้นหวัง ตอนนี้วินนี่เฟรดเองก็ประสบในสิ่งเดียวกัน เนื้อหาของบทความนี้เป็นความจริงบางส่วนและเป็นเท็จบางส่วน แม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นการใส่ร้าย แต่เรื่องราวของวินนี่เฟรดนอนกับขอทานเมื่อหกปีก่อนและมีลูกก่อนแต่งงานนั้นเป็นความจริง ดังนั้นข่าวนี้จึงสามารถเผยแพร่ทางออนไลน์ได้ การล้างชื่อของเธอ คงจะยากกว่าการได้ขึ้นสวรรค์ในตอนนี้ เฮนรี่ วอคเกอร์รีบไปที่ออทัมน์ฟิลด์ด้วยความตื่นตระหนก และได้พบกับวินนี่เฟรด “มิสซี นี่จะต้องเป็นฝีมือของเฟเธอร์กรุ๊ปแน่นอน ใครจะรู้ว่าพวกเขาจะไร้ยางอายและใส่ร้ายคุณด้วยวิธีนี้” วินนี่เฟรดสูดหายใจเข้าก่อนถามว่า “มิสเตอร์...วอคเกอร์ เราจะแก้ปัญหานี้ได้ไหม?” เฮนรี่ขมวดคิ้วอย่างหนักและตอบว่า “ผลกระทบมันยิ่งใหญ่เกินไป ถึงแม้ว่าเราต้องการชี้แจงในการหมิ่นประมาทโดยเจตนา แต่มันก็ยากที่เราจะพลิกสถานการณ์ได้และมันอาจจะแย่ลงถ้าหากสิ่งนี้ยังคงร้
นี่เป็นการเลียนแบบตัวตนของวินนี่เฟรดก่อนหน้านี้อย่างสมบูรณ์ เป้าหมายของพวกเขาคือ ปล่อยให้ฮิลารี ไวท์ฉวยโอกาสจากวินนี่เฟรดในขณะที่มวลชนกำลังเหยียบย่ำวินนี่เฟรด ในเวลาเดียวกัน ฮิลารียังจงใจเปิดเผยความจริงที่ว่าเธอกับวินนี่เฟรดเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน ก่อนที่จะแสร้งทำเป็นเป็นห่วงเธอ โดยบอกว่าเธอรู้สึกสงสารวินนี่เฟรด เอฟเฟกต์มีผลตามที่แฟรงกี้ แทนเนอร์และคนอื่น ๆ คาดหวัง ในไม่ช้า หลายคนก็เริ่มเปรียบเทียบฮิลารีกับวินนี่เฟรด เป็นอีกคืนหนึ่งที่กระทู้กำลังวิพากษ์วิจารณ์วินนี่เฟรดอย่างท่วมท้น ในขณะเดียวกัน เมื่อเหยียบย่ำวินนี่เฟรดไปได้ ฮิลารีก็ถูกยกขึ้นไปบนยอดเขาทันที ภายในสำนักงาน ใบหน้าของวินนี่เฟรดซีดเซียวอย่างน่ากลัว ราวกับว่าหินก้อนใหญ่กดทับหัวใจของเธอเอาไว้และพบว่ามันหายใจลำบาก “มิสซี คุณเป็นเพื่อนร่วมชั้นกับฮิลารี ไวท์คนนั้นจริง ๆ เหรอ? นี่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนการของเฟเธอร์กรุ๊ป ที่ต้องการให้ฮิลารี ไวท์เหยียบย่ำคุณอย่างนั้นเหรอ?” เฮนรี่ วอคเกอร์ถาม ไทร์ ซัมเมอร์ให้เวลาเฮนรี่ วอคเกอร์สามวัน และวันนี้ก็เป็นวันที่สองแล้ว อย่างไรก็ตาม แม้แต่ราชาสื่อใหม่ของเมืองคานห์ ก็ยังไม่รู้ว
วินนี่เฟรด ซี ตกตะลึงในทันที เธอจ้องไปที่เฮนรี่ วอคเกอร์อย่างไม่เชื่อสายตาและถามขึ้นว่า “มิสเตอร์วอคเกอร์ เกิดอะไรขึ้น? ทำไมคุณถึงสร้างเรื่องโกหกและเปลี่ยนข้อเท็จจริงเพื่อใส่ร้ายฉัน?” ถึงอย่างไร เฮนรี่ยังคงดูสงบเสงี่ยมในขณะที่เขาอธิบาย “มิสซี นี่เป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับเราที่จะตอบโต้ วิธีนี้เรียกว่า 'การหาทางออกจากทางตัน'” วินนี่เฟรดยังคงสงสัย เธอไม่เข้าใจสิ่งที่เฮนรี่พยายามจะทำ เฮนรี่กล่าวว่า “ชาวเน็ตนั้นขี้ลืมมาก เมื่อใดก็ตามที่มีหัวข้อใหม่ ๆ ไม่นานพวกเขาก็จะลืมในสิ่งที่เคยเกิดขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องนี้ไม่ได้ใหญ่โตเท่ากับการซุบซิบนินทาคนดัง เพราะคนที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ล้วนมาจากชุมชนแฟชั่น ดังนั้นผมจงใจใส่ร้ายคุณโดยบอกว่าคุณขโมยการออกแบบของฮิลารี ไวท์ในช่วงสมัยเรียนของคุณ ความโกลาหลและความน่าสนใจของข่าวนี้จะสามารถแซงหน้าข่าวเชิงลบของคุณได้อย่างแน่นอน” วินนี่เฟรดดูเหมือนจะเข้าใจ “คุณวอคเกอร์ นี่คือเอฟเฟกต์คอยล์สปริงที่คุณเคยพูดถึงก่อนหน้านี้หรือเปล่า?” "ถูกต้อง" เฮนรี่พยักหน้า “ยิ่งเราถูกกดดันมากเท่าไหร่ การสวนกลับก็จะยิ่งได้ผลมากขึ้นเท่านั้น ตอนนี้ เราได้เปลี่ยนความสนใ
ในบ่ายวันนั้น ความพยายามของเฮนรี่ ด้วยหัวข้อข่าวที่ใหญ่กว่าเริ่มแพร่ออกมาทีละข่าว ถ้าหากบทความเกี่ยวกับสถาบันการออกแบบลาเวนเดอร์โรสยังไม่แน่นหนาพอ การเปิดเผยในตอนต่อไปก็ถือว่ามีรากฐานที่ดีดั่งเช่นภูเขาที่แข็งแกร่ง และหลักฐานที่มิคาเอลรวบรวมมานั้นก็มากเกินพอ ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่ ฮิลารี ไวท์เพิ่งได้เข้าวิทยาลัยเอเวอรี่ เธอสามารถเกลี้ยกล่อมอาจารย์คนหนึ่งของสถาบันได้ เป็นเวลาสองปีเธอได้ล่อลวงเหล่าอาจารย์ของวิทยาลัยทั้งหมดแปดคน หลังจากนั้น เธอจึงสามารถเข้าสู่กุชชี่ผ่านสายสัมพันธ์ของอาจารย์เหล่านี้ เมื่ออยู่ในกุชชี่ เธอใช้มารยากับผู้บริหารระดับสูงโดยวิธีการเดียวกัน ด้วยร่างกายของเธอในการได้เลื่อนตำแหน่ง นอกจากนี้ ยังมีการเปิดเผยข่าวเกี่ยวกับฮิลารี ไวท์ที่ทำศัลยกรรมพลาสติกอีกด้วย ในที่สุด บัญชีเว่ยป๋อที่เป็นทางการของกุชชี่ในจักรวรรดิเซเลสเชียล ก็ได้โพสต์หลักฐานการไล่ฮิลารี ไวท์ ออกจากบริษัท ครั้งนี้ กุชชี่ได้ทุ่มเทความพยายามอย่างเต็มที่ในการเปิดเผยความลับที่สกปรกของฮิลารี ถึงแม้ว่าพวกเขาจะต้องสละตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงจากการถูกวิพากษ์วิจารณ์โดยการเสียที่นั่งให้กับผู้มาใหม่ก็ตา
ใบหน้าของฮิลารี ไวท์ตอนนี้ราวกับฉากสยองขวัญในภาพยนตร์ ราวกับว่าผู้คนกำลังกับมองเข้าไปในกระจกที่บิดเบี้ยว ฮิลารีไม่รู้ว่าใบหน้าของเธอบิดเบี้ยวเธอจึงพูดต่อไปว่า “สามี คุณกล้าดียังไงตีฉัน ใช่ ฉันยอมรับว่าฉันก็มีความผิดเหมือนกัน ดังนั้นตอนนี้เราหายกันตกลงไหม? สามี อย่าโกรธอีกเลย ได้ไหม?” ขณะที่เธอพูด ฮิลารีก็พุ่งเข้าใส่แฟรงกี้ แทนเนอร์ ในขณะนั้น แฟรงกี้รู้สึกตกใจกับใบหน้าอันน่าสะพรึงกลัวของฮิลารี สถานการณ์นี้คล้ายกับคนที่ จู่ ๆ ก็ได้เห็นปีศาจกลับคืนร่างเดิม “เธอเป็นคนหรือเป็นผี?” ในช่วงเวลาแห่งความสิ้นหวัง แฟรงกี้ส่งฮิลารีออกไปด้วยการเตะ เมื่อคนข้างนอกได้ยินเสียงความโกลาหล พวกเขาก็รีบผลักประตูเข้ามา เมื่อพวกเขาเห็นก็ต้องอ้าปากค้างทันที พนักงานหญิงถึงกับล้มลงกับพื้นด้วยความตกใจเมื่อเห็นใบหน้าที่ผิดรูปของฮิลารี “พนักงานรักษาความปลอดภัย พนักงานรักษาความปลอดภัย…” ในไม่ช้า พนักงานรักษาความปลอดภัยหน่วยก้านดีหลายคนก็พุ่งเข้ามาและดึงตัวฮิลารีที่ยังคงก่อกวนอยู่ “ลากเธอออกไปและทุบตีเธอให้ตาย” แฟรงกี้สั่ง เขาแทบจะกระอักเป็นเลือดด้วยความโกรธและรู้สึกเสียวซ่านที่หนังศีรษะ นี่มันอะไรกั
วินนี่เฟรด ซี สูดหายใจเข้า ภายใต้การสนับสนุนของไทร์ ซัมเมอร์ ในที่สุดเธอก็ยืดหลังตรงและก้าวขึ้นบนเวทีการแถลงข่าวเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการกล้องหลายตัวโฟกัสไปที่วินนี่เฟรด ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ตอนนี้เธอเป็นจุดสนใจมากเพียงใดวินนี่เฟรดยืนอยู่บนโพเดียมด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงามราวกับเทพธิดาของเธอ ที่ได้รับการเติมแต่งและด้วยการแต่งหน้าอันวิจิตรบรรจง ออร่าอันน่าหลงใหลที่เธอเปล่งออกมา สถานที่นั้นก็เงียบลงในทันที หลายคนหลงใหลในความงามและบุคลิคของวินนี่เฟรดในแวบแรกเสียงของเธอดังก้องออกมาอย่างไพเราะ“สวัสดีค่ะทุกท่าน ฉันคือประธานของออทัมน์ฟิลด์กรุ๊ป วินนี่เฟรด ซี และฉันก็เป็นหัวหน้านักออกแบบของบริษัทของเราอีกด้วย ฉันรู้สึกประทับใจมากที่ทุกคนสามารถเข้าร่วมงานเปิดตัวแบรนด์เสื้อผ้าแบรนด์แรกของเรา 'ออทัมน์ฟิลด์' ในครั้งนี้ ออทัมน์ฟิลด์ของเราได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อ…”วินนี่เฟรดกล่าวเปิดงานประมาณห้านาที ในช่วงเวลานี้ เธอได้แนะนำประวัติของออทัมน์ฟิลด์และประสบการณ์การพัฒนาของบริษัทตั้งแต่ก่อตั้งขึ้น หลังจากนั้นเธอได้นำเสนอแนวคิดการออกแบบแบรนด์และรูปแบบธุรกิจของบริษัทในที่สุด เมื่อทุกอย่างราบรื่น วินน
เกิดความโกลาหลขึ้นทันทีได้ยินคำเหล่านั้น สมองของวินนี่เฟรด ซีรู้สึกราวกับว่ามันกำลังจะระเบิดเมื่อเธอยืนอยู่บนเวที สมองของเธอกำลังยุ่งเหยิง มันคือไทร์ ซัมเมอร์ ที่เคยมีเพศสัมพันธ์กับเธอเมื่อหกปีก่อน มันจะเป็นขอทานคนนี้ได้ยังไง? เห็นได้ชัดว่ามีคนพยายามใส่ร้ายเธอโดยเจตนา วินนี่เฟรดรู้สึกราวกับว่าเธอถูกฟ้าผ่า เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมีใครร้ายกาจได้ถึงเพียงนี้และทำเรื่องเลวร้ายได้มากถึงขนาดนี้ วินนี่เฟรดอารมณ์ไม่คงที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อหกปีที่แล้ว แม้ว่าเธอจะรู้ว่ามีคนจงใจใส่ร้ายเธอ แต่เธอก็หยุดนิ่งอยู่กับที่ราวกับเครื่องจักรทำงานผิดปกติ ปฏิกิริยาของวินนี่เฟรดไม่เอื้ออำนวยอย่างยิ่ง เพราะภายใต้สถานการณ์ปกติ ปฏิกิริยาแรกของเธอควรจะเป็นการปฏิเสธข้อกล่าวหาถ้าหากว่ามันไม่ใช่ความจริง แต่ตอนนี้ที่ไม่มีการโต้แย้ง ดูเหมือนว่าวินนี่เฟรดจะยอมรับข้อกล่าวหาเกี่ยวกับตัวตนของขอทานอย่างเงียบ ๆ ทันใดนั้น กล้องหลายตัวก็เล็งไปที่วินนี่เฟรดเพื่อจับปฏิกิริยาของเธอ ขอทานยังคงตะโกนอย่างโกรธเคืองใส่วินนี่เฟรดอีกครั้ง “วินนี่เฟรด ซี หกปีที่แล้ว คุณบอกว่าคุณชอบผมเพราะผมหล่อและยืนกรานท