ธีรดนย์ฟื้นในเช้าตรู่วันใหม่หลังจากหลับไปหนึ่งคืน คุณดนุพลอยู่รอจนหลานชายฟื้น ไม่ได้ปล่อยนภณต์กับนิชาดาคอยเพียงเท่านั้น แม้จะไม่ได้เลี้ยงดูผูกพันแต่อย่างไรก็เป็นหลานชายเพียงคนเดียว ท่านเอ็นดูมากพอสมควรอยากฝากผีฝากไข้ ฝากบริษัท แต่ก็รู้ว่าทางฝ่ายแม่ของธีรดนย์ตัดขาดกับทางท่านไปแล้ว ไม่อยากให้หลานชายญาติดีด้วย ยังดีที่ธีรดนย์ไม่ดูดายปล่อยมือจากบริษัทของท่าน“ปู่เสียใจ ลุงแกมันไม่มีความคิด แกถึงได้ทั้งต้องมาเหนื่อยขึ้นลงเหนือกรุงเทพฯ แล้วยังต้องมาเจ็บหนักแบบนี้ ปู่ละอายใจจริงๆ”ธีรดนย์โทรไปบอกท่านก็รีบมาให้เร็วที่สุด แต่ก็ยังช้าไปจนหลานต้องเจ็บตัวหมอมาตรวจอาการของธีรดนย์แล้วเห็นว่าร่างกายปกติ ทั้งสมองก็ไม่ได้รับการกระทบกระเทือน จึงอนุญาตให้ญาติเข้ามาเยี่ยมได้ ซึ่งนิชาดายืนอยู่กับนภณต์ด้านหลังมุมหนึ่ง เปิดโอกาสให้ปู่ของเขาพูดคุยก่อนธีรดนย์มองมือของปู่ที่วางบนบ่าตนแล้วก็รู้สึกดีเหมือนเช่นทุกครั้ง แม้ท่านจะไม่เคยโอบกอดทว่าก็มักจะตบบ่า หรือวางมือบนบ่าอย่างไว้เนื้อเชื่อใจ ขอบใจและฝากฝังเสมอ เมื่อเจอท่านครั้งแรกตอนเรียนมหาวิทยาลัยหลังจากได้รับรู้เรื่องบิดาเสียและหุ้นที่ตนได้รับเพราะท่านส่งคนม
นิชาดาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนอนพักในห้องของตน บ้านหลังนี้เป็นทาวน์โฮมที่นภณต์ดาวน์และผ่อนหลังจากที่เขาเริ่มทำงานมีเงินเดือนมั่นคง ก่อนหน้านี้พี่ชายทำบริษัทพัฒนาเกมเล็กๆ กับเพื่อนรายได้ไม่แน่นอน ต่อมาก็สมัครงานบริษัทใหญ่ได้ตอนที่เธอกำลังเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย‘พี่มีงานกับเงินเดือนประจำมั่นคงแล้ว เราเลิกอยู่บ้านเช่าดีกว่า’บ้านเช่าที่เช่าตั้งแต่สมัยยายกับแม่ยังอยู่ค่อนข้างเก่า ทั้งคู่อาศัยต่อมานาน เมื่อนภณต์ตัดสินใจนิชาดาก็ไม่ขัด‘หมอกเห็นร้านไก่ทอดที่เพิ่งเปิดหน้าหมู่บ้านรับสมัครเด็กเสิร์ฟ ให้หมอกทำนะพี่เมฆ จะได้เก็บเงินไว้จ่ายค่าเทอม’เธอขอเพราะเห็นว่าใกล้บ้าน ก่อนหน้านี้นภณต์ไม่เคยอนุญาตให้ทำ ทว่าพี่ชายก็ไม่เห็นด้วย‘เงินเรียนมหา’ ลัยของหมอกพี่แบ่งส่วนนึงไว้อยู่ ไม่ต้องห่วงหรอก’หญิงสาวรู้สึกตัวอีกครั้งตอนห้าโมงเย็น กวาดตามองห้องนอนที่ไม่ได้อยู่สองเดือนกว่าอย่างคิดถึง บ้านหลังนี้เป็นที่ที่อบอุ่น น่าอยู่ เป็นที่พักพิงใจที่ดีที่สุด แต่ก็อดหวนนึกถึงห้องนอนในบ้านไม้หลังน้อยกลางป่าซึ่งตนมักหลับอย่างสบายในอ้อมกอดอุ่นไม่ได้ เสียงนกยามเช้า เสียงลมพัดใบไม้ยามค่ำคืน เสียงฝนหนาเม็ดและกลิ่น
“เพราะเธอเป็นน้องไอ้เมฆ”“คุณขัดใจกับพี่เมฆ ก็เลยเกลียดจนไม่อยากข้องเกี่ยวด้วยสินะคะ”“ฉันแค่อยากรู้ว่า ทำไมฉันเลือกเธอ”ชายหนุ่มบอกเสียงเรียบ“พี่เมฆยืมเงินคุณไปใช้หนี้พนัน แล้วก็ยกฉันให้คุณค่ะ”นิชาดาตอบทันควัน อารมณ์น้อยใจถาโถมทำให้พูดออกไป ไม่ชอบเลยที่เขาทำเสียงเฉยชากับตนอย่างนี้ชายหนุ่มไม่พูดอะไร ทว่าดวงตาคู่คมเข้มกวาดตามองใบหน้าเธอทั้งยังเนื้อตัวจนนิชาดาชักขุ่นใจที่ถูกมองราวประเมินราคาขณะนั้นมีเสียงเคาะประตู และก็เป็นคุณดนุพลมาเยี่ยม หญิงสาวจึงถอยกลับไปนั่งห่างๆ ไม่รบกวนปู่กับหลาน แล้วธีรดนย์ก็บอกว่าหมอน่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้วันพรุ่งนี้ ซึ่งเขาจะบินกลับเชียงรายเลย“ทำไมรีบกลับ พักอีกหน่อยไม่ดีกว่าเหรอ”“ผมไม่เป็นไรมากหรอกครับ เลยกำหนดกลับแล้วยายโทรมาถาม แถมผู้จัดการไร่กับผู้ช่วยก็โทรมาปรึกษางานตลอด ก็เลยกลับเลยดีกว่าครับ”“แล้วบอกยายแกไปว่าไง”“ยังไม่ได้บอกอะไรครับ แค่บอกว่ามีธุระต่อนิดหน่อย ก็เลยเลื่อนวันกลับ”“เห็นแก คุณนายแสงหล้าคงสาปแช่งปู่แน่”ถึงจะพูดเหมือนไม่อยากมีปัญหา ทว่าคุณดนุพลเป็นห่วงหลานมากกว่าจะเกรงกลัวคุณนายแสงหล้า“ถึงกลับไปแล้วก็อย่าเพิ่งโหมงานล่ะ”ท่านบอกก
“คุณดนย์เป็นอะไรคะ”นิชาดาถามแล้วรีบเข้าไปพยุงร่างสูงใหญ่เมื่อหลังจากก้าวลงรถชายหนุ่มก็เหมือนจะเซจนต้องพิงตัวรถ“ผมช่วยพยุงไหมครับนาย”ต่อภพที่ขับรถมาส่งและอ้อมไปขนกระเป๋าเดินทางด้านหลังรีบเดินมาดูทันที“ขนของไปเหอะมึง”ธีรดนย์บอกเสียงเรียบทว่าแววตานั้นดุเข้มทำเอาคนสนิทถึงกับเกาหัว“ไม่เป็นไรจ้ะเต้ย ฉันพยุงเอง”นิชาดารีบบอกเพราะเธอก็ประคองชายหนุ่มอยู่ และแขนกำยำก็เคลื่อนมาโอบไหล่ก่อนแล้ว“คุณตัวนิดเดียว นายตัวใหญ่อย่างกับ...อะไร จะไหวเหรอครับ”ต่อภพรีบเปลี่ยนคำพูดเพราะกลัวถูกเท้าลอย“เสือกจังนะมึง”คนถูกด่าหุบปากฉับ“ครับนาย”เขาเอ่ยรับแล้วกลับไปขนกระเป๋าอย่างรู้หน้าที่ของตน“ค่อยๆ เดินนะคะ”หญิงสาวเงยหน้าขึ้นบอกคนตัวโต อีกฝ่ายเองก็ก้มลงมามองเช่นกัน แววในดวงตาคมเข้มดูนิ่งลึกจนเดาความคิดไม่ออก แต่เธอพยายามส่งยิ้มให้เขา ชายหนุ่มไม่ได้ยิ้มตอบแต่เงยขึ้นมองตรงแล้วก้าวเดินทำเอานิชาดาใจแป้วลงไปอีก“นอนพักหน่อยไหมคะ ออกมาจากโรงพยาบาลตั้งแต่เช้า คุณดนย์ยังไม่ได้พักเลย กินยาหลังอาหารแล้ว น่าจะพักสักหน่อยนะคะ”“อืม”ชายหนุ่มพยักหน้ารับ นิชาดาจึงประคองเขาพาไปยังห้องนอน ความจริงธีรดนย์เดินเองเสียม
“ไหน โชว์ฝีมือหน่อย อยากรู้ว่าเมียฉันเด็ดแค่ไหน”นิชาดาอาย หน้าแดงตัวแดงไปหมดเพราะฤทธิ์ความใคร่ ทั้งสายตาคมเข้มยังกวาดมองเธอจนทั่วตัว ยิ่งหน้าอกกับส่วนนั้นเขายิ่งมองสลับขึ้นลงอย่างโจ่งแจ้ง“เร็วสิ ฉันแข็งไปหมดแล้ว”หญิงสาวดูลังเลธีรดนย์ก็เอ่ยเร่งเมื่อไม่อยากให้สามีขุ่นเคือง แล้วชายหนุ่มก็มาถึงจุดที่ต้องระบายออกเพียงเท่านั้น นิชาดาจึงเดินหน้า โน้มหน้าลงไปจุมพิต ริมฝีปากได้รูปบดเบียดเล็กน้อย พร้อมกับมือไล้บนอกแกร่ง แกะกระดุมเสื้อไปเรื่อยๆ แล้วดึงชายเสื้อออกนอกกางเกง ลูบหน้าท้องแกร่งกับอกหนาก็รู้สึกได้ถึงแรงหอบหายใจและหัวใจที่เต้นแรงของ อีกฝ่ายจากนั้นจึงถอนจูบมามองขณะปลดเข็มขัดกับกระดุมกางเกงยีน มือสั่นหน่อยๆ แต่ก็บังคับตัวเองให้นิ่งเข้าไว้ ร่างกายอีกฝ่ายแสดงออกอย่างชัดเจนทำให้เธอรู้สึกราวหน้าตัวเองแทบจะไหม้ กลั้นใจดึงบอกเซอร์ชายหนุ่มลง สะโพกเธอก็ถูกยกให้ประชิดทันที“มาเถอะ ฉันไม่อยากรอแล้ว ไม่ต้องถอดแล้ว”เสียงเข้มต่ำบอกทั้งเขายังกดเอวเธอให้บดลงไปหา หน้าท้องกับกลางร่างเสียดสีความกร้าวแกร่งน่าเกรงขามทำเอานิชาดาสยิวไปทั้งตัว อารมณ์กฤษณาสุดลึกในกายเรียกร้องต้องการบางสิ่งบางอย่าง เธอทำตาม
“คุณหลอกฉันอีกแล้ว”นิชาดาผลักอกกว้างอย่างแรง แต่ก็ถูกกอดเอาไว้แน่น เธอจึงทุบตีบ่ากับอกหนาระบายอารมณ์หวาดหวั่นที่อัดแน่นของตน“คนบ้า ทำไมชอบหลอกกันนักนะ ทำไมต้องโกหกว่าจำไม่ได้ด้วย ฮือๆๆ”ธีรดนย์ถอนหายใจยอมให้อีกฝ่ายลงมือทำร้ายครู่หนึ่งก็จับมือบางสองข้างรวบเอาไว้“วันแรกๆ ฉันเบลอจริงๆ ผ่านไปสักพักก็ค่อยๆ จำได้”“เมื่อไรคะ คุณจำฉันได้เมื่อไร น่าจะบอกฉันบ้าง ปล่อยให้ฉันกลัวอยู่ตั้งนาน”นิชาดาอดเคืองไม่ได้ เธอกังวลจนนอนหลับไม่เต็มอิ่ม ทั้งที่ร่างกายอยากพักผ่อนเพราะเพลียกับอาการแพ้ท้อง แม้จะไม่หนักแต่ก็มีอาการวิงเวียนบ่อยๆชายหนุ่มมองคนที่พูดเสียงเครือทั้งยังหน้างออย่างแง่งอน ทำให้เขาโกรธไม่ลงที่เจ้าตัวโวยวายใส่ อีกอย่างก็พอจะเข้าใจอารมณ์ในตอนนี้ของนิชาดา“กลัวฉันทิ้งเธอกับลูกเหรอ”ดวงตาคู่กลมโตขยายขึ้น ทั้งริมฝีปากอิ่มก็เผยออย่างน่าจูบ ธีรดนย์จึงโน้มลงไปจุ๊บกลีบปากสีหวานบางเบา“คุณรู้เหรอคะ”หญิงสาวเอ่ยเบาหวิวด้วยความคาดไม่ถึงมือหนาลูบผมยาวสลวยแล้วเกลี่ยบางส่วนที่ยุ่งเหยิงข้างแก้มนวลเนียนไปทัดใบหู ขณะดวงตาคู่คมเข้มมองดวงหน้าหวานอย่างอ่อนโยน“ฉันสังเกตเห็นอาการหมอกก่อนเราไปกรุงเทพฯ แถมตั้
ใบหน้าคมเข้มโน้มลงจูบหน้าผากสวยแผ่วเบาไม่รบกวนการนอนกลางวันของหญิงสาว การได้นอนกอดนิชาดาทุกคืนเป็นความเคยชินเสียแล้ว หากไม่มีร่างนุ่มนิ่มหอมกรุ่นแนบอกก็ยากจะหลับตาลง เหมือนเช่นตอนอยู่โรงพยาบาลหากจะให้เรียกความรู้สึกที่มีต่อภรรยาสาวในตอนนี้ธีรดนย์ก็ยังระบุไม่ได้ แต่เธอคือทุกอย่างสำหรับเขา เมีย แม่ของลูก คนที่เขาอยากอยู่ใกล้แนบชิดตลอดเวลา ทั้งเสน่หาทั้งผูกพันไม่มีสิ่งใดน้อยไปกว่ากันแม้ปกติไม่นอนกลางวันหากธีรดนย์ก็หลับตาลงพร้อมกอดร่างบอบบางด้วยหัวใจที่เต้นด้วยจังหวะมั่นคงเป็นสุขเพราะมีภรรยาสุดน่ารักและอิ่มเอิบที่กำลังจะได้เป็นพ่อคนหลังจากเปิดประตูบ้านให้ต่อภพเอาอาหารมาส่งและจัดเสร็จกระทั่งออกไป ร่างสูงใหญ่ก็เดินมาหาคนตัวเล็กที่นั่งก้มหน้าจ้องโน้ตบุ๊กอย่างเคร่งเครียดแล้วกอดพลางหอมแก้มนุ่ม“บอกว่าอย่าเพิ่งทำ ก็ดื้อทำงาน ไปกินข้าวกันได้แล้ว”“อีกแป๊บนึงนะคะ นิดเดียวก็เสร็จแล้ว”นิชาดาตื่นแล้วออกมาตัดวิดีโอต่อตรงโซฟาแม้ชายหนุ่มจะบอกว่าเอาไว้ทำที่ออฟฟิศ เพราะช่วงที่ธีรดนย์บาดเจ็บเธอไม่มีกะจิตกะใจทำงาน และตอนนี้อารมณ์ดีจนอยากจับงานขึ้นมา“ไม่ได้ นั่งก้มมองหน้าจอแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ต้องเปลี่
“ฉันทั้งหลงใหลและหลงรักเธอนะหมอก ถึงจะไม่เคยพูดแต่ฉันก็ไม่เคยอยากเอาใจใครเหมือนเธอ ฉันไปหาซื้อกล้องเอาไว้ง้อตั้งแต่เธอนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล ทำร้ายร่างกายไปแล้วเห็นเธอทรมานฉันก็ทำอีกไม่ลง ทำโทรศัพท์ของเธอพังก็รีบแวบเอาไปซ่อมที่ร้านในกรุงเทพฯ”ธีรดนย์สารภาพอย่างหมดเปลือก แม้รู้สึกเสียศักดิ์ศรีหน่อยๆ ที่เป็นฝ่ายพูดก่อน แต่เก็บไว้ก็จะทำให้ภรรยาสาวน้อยเนื้อต่ำใจทั้งยังวิตกกังวลอยู่ตลอดว่าเขาไม่ไยดีเจ้าตัว อีกฝ่ายกำลังท้องสุขภาพจิตควรดีเพื่อลูกน้อย“ฉันพูดหวานไม่เป็น แต่ก็พยายามเอาอกเอาใจ ง้อเธอในแบบของฉัน”ริมฝีปากอิ่มสวยค่อยๆ ระบายยิ้มหวานออกมาพร้อมน้ำตาซึม ได้ฟังคำบอกเล่าจากปากชายหนุ่มที่เหนือความคาดหมายของตนเอง นิชาดากลับรู้สึกว่าเขาดูน่ารักขึ้นเป็นกอง“หมอกเข้าใจแล้วค่ะ”นิชาดาพยักหน้าอย่างเข้าอกเข้าใจ ยกแขนเรียวขึ้นคล้องคอแกร่งแล้วเคลื่อนหน้าไปหอมแก้มสากเบาๆ“จูบปากสิจ๊ะ เดี๋ยวนี้จูบเก่งแล้วนี่นา”ธีรดนย์ส่งสายตาหวานฉ่ำพร้อมอ้อนเสียงทุ้มนุ่ม ทว่า หญิงสาวส่ายหน้า ปลายนิ้วเรียวแตะปากได้รูปปราม“ไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวคุณดนย์เลยเถิด”“งั้นก็กินข้าวให้อิ่ม แล้วมาออกกำลังก่อนนอนกัน”“เฮ้อ...”หญ
ปลายนิ้วแกร่งไล้แผ่วผิวตรงข้างเอวสูงขึ้นมาวนเวียนปลายยอดอกแล้วขยำเบาๆ ทำเอานิชาดาสะดุ้งเฮือกลืมตาขึ้นกลางดึก พร้อมกับที่ริมฝีปากอุ่นพรมไต่จากต้นแขนมายังไหล่มน ซอกคอจนถึงใบหูก่อนกระซิบ“หมอกจ๋า รักกันนะจ๊ะ”“คุณดนย์ นี่บ้านใหญ่นะคะ ลูกก็อยู่ด้วย”เธองัวเงียห้ามเสียงเบาเพราะเกรงจะทำให้ลูกชายตื่นและตนเองก็พึ่งหลับไปไม่นานหลังจากป้อนนมหนูน้อยจึงยังเพลียอยู่ ทั้งนอนไม่ค่อยเต็มอิ่มนักอยู่แล้ว ยังดีที่เวลากลางวันมีคุณนายแสงหล้ากับเหมยช่วยดูลูกพอให้ได้งีบบ้าง“น่านะ รับรองเบ๊าเบา ลูกไม่ตื่นแน่”สามียังกระซิบเสียงทุ้มนุ่ม มือก็เคล้าคลึงทรวงอกที่อวบอัดขึ้นของตนทำเอานิชาดาอกใจสั่นไหวไม่น้อย จะว่าไปตนก็คิดถึงสัมผัสจากชายหนุ่มอยู่เหมือนกัน หากก็ยังกังวล“ได้ด้วยเหรอคะ”“เดี๋ยวทำให้ดู”พร้อมพูดชายหนุ่มก็เชยคางให้เธอหันกลับไปรับจูบนุ่มนวลก่อนจะค่อยเพิ่มแรงจูบเม้มและกัดกลีบปากอิ่มด้านล่างให้เธอเผยอรับลิ้นร้อน นิชาดาขยับตัวพลิกมาโอบรอบลำคอหนาตอบรับจูบลึกซึ้งอย่างไม่ยอมน้อยหน้าร่างสองสองขยับเสียดสีเบาๆ ในสัดส่วนที่แตกต่างหากสอดรับกันอย่างลงตัว ลูกชายตัวน้อยนั้นนอนในเปลสี่เหลี่ยมไม่ต้องเกรงว่าแรงเคลื่อ
“คุณดนย์คะ”กลางดึกคืนหนึ่งหลังจากมาพักโรงแรมได้สองวันนิชาดาก็รู้สึกปวดท้องแล้วเหมือนมีบางอย่างไหลออกมา หญิงสาวพึมพำเรียก ชายหนุ่ม เพียงแตะแขนอีกฝ่ายก็รู้สึกตัวแล้วขยับนั่งเปิดโคมไฟทันที“เจ็บท้องเหรอหมอก”“ค่ะ...น่าจะน้ำเดินแล้ว”เธอพูดจนแทบไม่มีเสียงเพราะเจ็บ“งั้นหมอกอยู่นิ่งๆ ก่อนนะ แป๊บเดียว”ร่างสูงใหญ่รีบลุกขึ้นใส่เสื้อโดยเร็วแล้วคว้ากระเป๋าที่เตรียมเอาไว้ก่อนมาประคองร่างที่อุ้ยอ้ายขึ้นของภรรยา“เดินพอไหวไหม”“ค่ะ”นิชาดายังพอไหวจึงกัดฟันค่อยๆ เดินไปพร้อมกับที่ชายหนุ่มพยุง ธีรดนย์ตั้งใจเลือกห้องพักใกล้ลิฟต์จึงไม่ต้องเดินไกลมากหญิงสาวนอนรอเพื่อให้ปากมดลูกเปิดและปวดท้องมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีสามีอยู่ข้างๆ เป็นทั้งคนปลอบใจให้กำลังใจและที่ระบายของตนเพราะบ่อยครั้งที่เธอมักจะจิกเล็บลงบนหลังมือหนาที่กุมมือตนไว้“อื้อ เจ็บจังค่ะ”ยิ่งเห็นดวงหน้าสวยซีดเผือด เหงื่อผุดพราย ทรมานด้วยความเจ็บปวดชายหนุ่มก็ทุรนทุรายตาม เพราะหญิงสาวนอนอยู่แบบนี้มาสามชั่วโมงแล้ว ก้มลงไปจูบหน้าผากมนเช็ดเหงื่อให้ก่อนจะกระซิบ“ฉันจะตามพยาบาลอีกรอบนะ”นิชาดาปล่อยให้ชายหนุ่มไปโดยไม่แย้ง เธอรู้สึกทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ไม่น
ไร่ชาดิฐวัฒน์ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสอากาศบริสุทธิ์แห่งขุนเขา นอนในบ้านท่ามกลางไร่ชาเขียวชอุ่ม มองเห็นเมฆลอยต่ำปกคลุมยอดเขา การเก็บชาก็ได้รับความนิยม มีคนจองคิวเต็มจำนวนในทุกวันนิชาดาที่ออกมาเก็บภาพบรรยากาศวันหยุดเพื่อโพสต์ในเว็บและโซเชียลต่างๆ ของไร่ยืนมองผู้คนที่มีความสุขกับการได้มาไร่นี้อย่างภูมิใจ ตอนนี้นอกจากเพจแล้วเธอเปิดแอคเคาต์โซเชียลของไร่เพิ่มขึ้นจนครบถ้วน เพราะโลกออนไลน์เป็นสิ่งที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดในยุคสมัยนี้“ชอบไหมเจ้า”ส้มที่เป็นคนถ่ายภาพให้เธอเปิดกล้องให้ดู ขณะที่นิชาดามากับมธุรินซึ่งยืนเป็นเพื่อนและคอยดูแลเธอที่ท้องแก่ใกล้คลอด ความจริงธีรดนย์ไม่อยากให้หญิงสาวมาทำงานแต่นิชาดาไม่อยากอยู่เฉยๆ การได้ขยับตัวเดินไปเดินมาจะช่วยให้เธอคลอดธรรมชาติได้ง่ายขึ้น หากก็ต้องดูว่าเด็กกลับหัวด้วยหรือไม่เหมือนกัน“อืม ชอบจ้ะ ไปเก็บภาพมุมโน้น ให้เห็นคาเฟ่กับร้านอาหารด้วยนะจ๊ะ”“เจ้า”“พี่ไปกับส้มเองก็ได้ หมอกเข้าไปนั่งพักในคาเฟ่ดีกว่า”มธุรินเอ่ยปากเพราะดูท่าเหมือนภรรยาเจ้าของไร่จะเดินไปอีกไกลกับส้ม“ถ้าอย่างนั้นฝากพี่รินด้วยนะคะ แล้ว
“พอใจหรือยังเมียจ๋า”“อะไรคะ”“ก็รู้แล้วว่าฉันไม่ได้พลาดพลั้งเสียท่าคุณภัทร ฉันเป็นของหมอกคนเดียวมาตั้งแต่จดทะเบียนแล้วไงล่ะ”พร้อมกับถามใบหน้าคมเข้มก็ขยับมาชิด หน้าผากจรดแนบหน้าผากเธอ ส่งสายตาออดอ้อนก่อนจะดันตัวเธอให้ค่อยๆ ถอยไปชิดเตียง แต่เขาทิ้งตัวเองลงหงายหลังแล้วรั้งเธอให้นอนลงไปบนร่างแกร่งนิชาดายิ้มหวาน ไม่ได้ฝืนตัวเพราะตัวเองก็ไม่ได้ขุ่นเคืองอะไร เพียงแค่สงสัยเพราะธีรดนย์ไม่ได้กลับบ้านดึกนัก ยกเว้นช่วงก่อนจัดงานแต่ง“พอใจค่ะ”เธอตอบเสียงเบาชายหนุ่มก็ยิ้มมุมปาก“ผัวเป็นคนดี ไม่วอกแวก รักเมียคนเดียว เมียไม่ให้รางวัลหน่อยเหรอจ๊ะ”คนใต้ร่างอ้อนเสียงทุ้ม แววในดวงตาคู่คมเข้มนั้นหวานฉ่ำจนนิชาดารู้สึกว่าหัวใจตนกำลังละลายไปกับความหวานที่ส่งมาให้“อืม”ปลายนิ้วเรียวไล้วนเหนืออกกว้างพลางทำท่าทีราวครุ่นคิด“อยากได้รางวัลเล็กหรือรางวัลใหญ่คะ”“ชุดใหญ่สิจ๊ะเมียจ๋า”นิชาดาไม่ตอบรับทว่ามือบางเปลี่ยนเป็นลูบแผงอกหนาของคนไม่ใส่เสื้อ แล้วเห็นชายหนุ่มสูดหายใจลึก ยิ่งมือเธอลากลงต่ำ อีกฝ่ายก็ถึงกับกลืนน้ำลายมือนุ่มไม่ได้ต่ำลงไปอย่างที่เขาคาดหวังหากไล้แผ่วเพียงตรงช่วงเอว แต่ชายหนุ่มก็พอใจเพราะร่างหอ
ร่างอรชรออกมายืนหน้าระเบียง มองพระจันทร์ดวงโตผ่านแมกไม้แล้วก็เอาโทรศัพท์ถ่ายก่อนจะอัปโซเชียล ก็มีคนทักและพิมพ์คอมเม้นต์ว่าคิดถึงหลายคน ปกตินิชาดาอัปเดตบ่อยทว่านับแต่มาอยู่ที่นี่ก็ห่างหายเพราะปัญหาต่างๆ ที่รบกวนจิตใจและทุ่มเทความตั้งใจกับงานใหม่ของตน ทั้งยังไม่ได้ตัดวิดีโอที่ถ่ายขณะเดินทางมาไร่ดิฐวัฒน์ด้วย ช่องของเธอพร้อมโซเชียลหยุดเคลื่อนไหวมาสามเดือนแล้ว มานึกขึ้นได้ในตอนนี้ คิดว่าน่าจะพอมีเวลาทำงานตัวเองในวันหยุดได้ เพราะตอนนี้งานในไร่ลงตัวและมีกำหนดปล่อยคลิป Vlog เดือนละครั้ง“จะว่าไป เราไม่เคยชมจันทร์ด้วยกันเลยนะ ออกมาก็น่าจะรอฉันก่อน”เสียงเข้มดังขึ้นและผ้าคลุมที่มาพร้อมการโอบกอดจากด้านหลัง ธีรดนย์คุยงานกับวัชพลนิชาดาก็แวบไปอาบน้ำก่อนแล้วจำได้ว่าเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงซึ่งตนเองยังไม่เคยได้มองดูอย่างจริงจังว่าจะสวยดวงโตแค่ไหน ทั้งยังมีเรื่องให้คิดอยากให้ธรรมชาติยามค่ำคืนช่วยบำบัดความตึงเครียด จึงออกมาหน้าระเบียงในตอนชายหนุ่มอาบน้ำธีรดนย์วางคางบนบ่าเธอ กรุ่นกลิ่นครีมอาบน้ำอบอวลพร้อมไออุ่นจากร่างสูงใหญ่โอบล้อมทำให้หญิงสาวเอนอิงอีกฝ่ายราวต้องการความอบอุ่น“ก็เพราะเอะอะคุณดนย์ก็อุ้มเ
“ฉันเปล่า....”ภัทรดาส่ายหน้าพลางถอยหลังเสียงสั่นมากขึ้น“กลัวทุกคนจะรู้ว่าคุณมาถึงไร่หลังฉันเกิดอุบัติเหตุใช่ไหมคะ”นิชาดาจะไม่ไล่บี้อีกฝ่ายเลยหากเจ้าตัวไม่บอกว่าเธอใส่ร้าย“เธอเกิดเรื่องเมื่อไรฉันก็ไม่รู้ ฉันแค่มาทำงาน ไม่รู้อะไรทั้งนั้น”“ไม่เป็นไร ดูกล้องก่อนแล้วค่อยว่ากัน เพราะผมจำเวลาที่หมอกเกิดเรื่องได้ ถ้าคุณไม่รู้อะไรจริงก็รอให้การณ์กับตำรวจ”“คุณดนย์”คนที่หน้าซีดอยู่แล้วยิ่งตาโต พึมพำพลางถอยหลังช้าๆ“ภัทรไม่ได้ทำนะคะคุณดนย์ ไม่ใช่ภัทรนะ เมียคุณใส่ร้ายภัทร”“ถ้าไม่ได้ทำคุณก็ไม่ต้องกลัวอะไร ไม่ต้องห่วงไปหรอก ตำรวจก็แค่สอบถามเท่านั้น”ยิ่งธีรดนย์เอ่ยถึงตำรวจซ้ำอีกภัทรดายิ่งหวาดกลัวมากขึ้น หญิงสาวรีบหันหลังจะกลับไปขึ้นรถ“ไม่ ภัทรไม่ผิด ภัทรไม่ได้ทำอะไร อย่ามายุ่งกับภัทร”ภัทรดาเหมือนสติหลุดขยับพรวดออกไปราวต้องการหนี ขณะนั้นมีรถคันหนึ่งขึ้นเนินมา ซึ่งก่อนหน้านี้แต่ละคนก็ไม่ทันได้สังเกตสิ่งอื่นเช่นกันเพราะรถของภัทรดาจอดบังทางที่จะเห็นได้ และต่างก็กำลังสนใจเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่พอเห็นรถทั้งหมดก็ตะโกนรั้ง“คุณภัทร!”“กรี๊ดดด!”เอี๊ยด!!เสียงรถเบรกดังขึ้นอีกครั้ง ทว่าภัทรดาก็ถูกเ
“จะฆ่าหมอกหรือไง!”เสียงของธีรดนย์ดังสนั่นไร่ชา ยังดีแถบนี้เป็นจุดที่ยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามา จะมีก็เพียงคนทำงานอยู่ทางด้านโฮมสเตย์นิชาดารีบหันไปทางรถกระบะคันนั้นทันใด เธอยังใจสั่นและขาสั่นอยู่เลย หากไม่มีสามีประคองให้ลุกขึ้นคงยืนไม่ไหว แต่เมื่อได้รู้ว่าเจ้าของรถเป็นใครเธอก็อึ้งไปเลยทีเดียวเสียงเปิดปิดประตูรถก่อนร่างโปร่งของภัทรดาจะค่อยๆ เดินมาด้านหน้ารถ สีหน้าอีกฝ่ายซีดเผือด มือไม้สั่น“ภะ...ภัทรขอโทษค่ะ”ภัทรดามองธีรดนย์กับนิชาดาด้วยความรู้สึกผิดจากใจ“ภัทรไม่ทันเห็นน่ะค่ะ เพราะขึ้นเนินมาก็เลยเร่งเครื่องเต็มที่”นิชาดาฟังคำพูดอีกฝ่ายพร้อมจ้องอย่างสังเกตแววตากับสีหน้ามากกว่าเดิมเมื่อสติตนเองค่อยๆ เข้าที่เข้าทาง ขณะมีแขนกำยำตระกองกอดไว้อย่างปกป้องปลอบโยน“ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะคะคุณหมอก”“ถ้าฉันมาไม่ทันหมอกจะเป็นยังไง ขับรถในไร่ถึงจะขึ้นเนินก็ไม่ควรเร่งความเร็วขนาดนี้สิ มันอันตรายมากนะ”“ภัทรเสียใจ ภัทรไม่ได้ตั้งใจ เพิ่งเห็นคุณหมอกในระยะประชิดแล้วจริงๆ ค่ะ”เพราะเธอย่อตัวลงค่อยๆ ย่องพยายามให้ผีเสื้อไม่รู้สึกว่ามีบางอย่างเข้ามาใกล้ อาจเป็นไปได้ที่รถซึ่งขับขึ้นเนินมาจะไม่เห็น และ
“โธ่ ไอ้เราก็กลัวว่าเรื่องคุณพีรพลจะทำให้นายกับเธอผิดใจกัน ที่ไหนได้ หวานจนท้องเสียอย่างนั้น”กัญญาแอบมากระแซะแล้วกระแทกไหล่เบาๆ กระเซ้าเธอในตอนบ่าย เมื่ออยู่กันตามลำพังในห้องครัวออฟฟิศ นิชาดาไม่ดื่มชากาแฟเมื่อรู้ว่าตนท้อง แล้วดื่มนมบ่อยขึ้นธีรดนย์จึงซื้อมาใส่ตู้เย็นไว้ให้ ขณะที่เพื่อนสาวเข้ามาชงกาแฟไว้เผื่อสำหรับทุกคนเช่นทุกวัน เพราะตอนเช้าหมดไปแล้ว“กุ๊กก็...ใครจะท้องแค่วันสองวัน”นิชาดาบ่นเพื่อนเสียงอุบอิบอย่างเขินอายข่าวภรรยาของนายท้องค่อยๆ กระจายออกไปทั่วไร่ภายในไม่กี่วัน แม้เธอจะไม่ได้บอกกัญญาตรงๆ เจ้าตัวก็รับรู้ แม้แต่วัชพลกับมธุรินก็ยังมาแสดงความยินดี“ว่าแต่เรื่องคุณพี นายไม่โกรธแล้วใช่ไหม”“อื้อ”นิชาดาพยักหน้ารับ“เพราะข้อความของเธอนั่นแหละ คุณดนย์เห็นก็เลยรู้ว่าเขาเข้าใจผิด”กัญญาตาโต ก่อนจะถาม“อย่าบอกนะว่าที่มีคนอ่านแล้วไม่ตอบน่ะเป็นนาย ฉันเข้าใจว่าหน้าจอเธอแตกเห็นไม่ชัด ก็เลยยังไม่ตอบเสียอีก”หญิงสาวยิ้มกับสีหน้าอิหลักอิเหลื่อของเพื่อนสาว“ใช่น่ะสิจ๊ะ ฉันต้องขอบใจเธอ เพราะถึงฉันพูดอะไรไปคุณดนย์ก็คงยังโกรธอยู่นั่นแหละ มีข้อความของเธอช่วยยืนยันปัญหาก็เลยจบ”เธอยิ้มให้แต่
“ฉันทั้งหลงใหลและหลงรักเธอนะหมอก ถึงจะไม่เคยพูดแต่ฉันก็ไม่เคยอยากเอาใจใครเหมือนเธอ ฉันไปหาซื้อกล้องเอาไว้ง้อตั้งแต่เธอนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล ทำร้ายร่างกายไปแล้วเห็นเธอทรมานฉันก็ทำอีกไม่ลง ทำโทรศัพท์ของเธอพังก็รีบแวบเอาไปซ่อมที่ร้านในกรุงเทพฯ”ธีรดนย์สารภาพอย่างหมดเปลือก แม้รู้สึกเสียศักดิ์ศรีหน่อยๆ ที่เป็นฝ่ายพูดก่อน แต่เก็บไว้ก็จะทำให้ภรรยาสาวน้อยเนื้อต่ำใจทั้งยังวิตกกังวลอยู่ตลอดว่าเขาไม่ไยดีเจ้าตัว อีกฝ่ายกำลังท้องสุขภาพจิตควรดีเพื่อลูกน้อย“ฉันพูดหวานไม่เป็น แต่ก็พยายามเอาอกเอาใจ ง้อเธอในแบบของฉัน”ริมฝีปากอิ่มสวยค่อยๆ ระบายยิ้มหวานออกมาพร้อมน้ำตาซึม ได้ฟังคำบอกเล่าจากปากชายหนุ่มที่เหนือความคาดหมายของตนเอง นิชาดากลับรู้สึกว่าเขาดูน่ารักขึ้นเป็นกอง“หมอกเข้าใจแล้วค่ะ”นิชาดาพยักหน้าอย่างเข้าอกเข้าใจ ยกแขนเรียวขึ้นคล้องคอแกร่งแล้วเคลื่อนหน้าไปหอมแก้มสากเบาๆ“จูบปากสิจ๊ะ เดี๋ยวนี้จูบเก่งแล้วนี่นา”ธีรดนย์ส่งสายตาหวานฉ่ำพร้อมอ้อนเสียงทุ้มนุ่ม ทว่า หญิงสาวส่ายหน้า ปลายนิ้วเรียวแตะปากได้รูปปราม“ไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวคุณดนย์เลยเถิด”“งั้นก็กินข้าวให้อิ่ม แล้วมาออกกำลังก่อนนอนกัน”“เฮ้อ...”หญ