“โอ๊ย ฉันเจ็บนะ”ธีรดนย์ฉุดคนตัวเล็กที่เดินอืดอาดเข้าบ้านแล้วรั้งไปทิ้งลงบนโซฟาพลางโยนกระเป๋าอีกฝ่ายไปบนโต๊ะเตี้ยใกล้ๆ“เธอกล้ามากนะหมอกที่พูดว่าชอบคนอื่นต่อหน้าฉันเต็มปากเต็มคำ ทั้งมีรูปมัน ทั้งนั่งหน้ารถคู่กับมัน มีอะไรมากกว่านี้อีกไหม จับมือถือแขน กอดจูบ หรือนอนกับไอ้พีหรือยัง’‘ฉันไม่ชอบให้เมียฉันเป็นตุ๊กตาหน้ารถใคร’พลันประโยคที่ตนจดจำไม่ได้ก็แวบขึ้นมา นิชาดาไม่รู้ว่ายังมีความทรงจำอื่นที่เธอลืมเลือนอยู่อีกหรือไม่ แต่คำพูดดูถูกของชายหนุ่มทำให้เธอเคืองมากกว่ากลับไปคิดเรื่องความทรงจำ“อย่ามากล่าวหาฉันนะ”“ฉันกล่าวหาเหรอ เธอบอกเองว่าชอบไอ้พีไม่ใช่หรือไง”“ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่มีวันทำเรื่องน่าเกลียดอย่างที่คุณคิด นอกจากหลุดพ้นจากคุณไปได้”ร่างสูงใหญ่โถมลงมาทับเธอทั้งตัวเมื่อเอ่ยจบ มือบางถูกกดลงข้างตัวแนบโซฟา“ฝันไปเถอะ พี่เธอยกเธอให้ฉันแทนใช้หนี้คืน เธอต้องอยู่กับฉันตลอดไป”“คุณมีผู้หญิงตั้งมากมาย แต่ละคนคงเด็ดดวงทั้งนั้น ฉันไม่มีทางเทียบติดอยู่แล้ว ยังไงคุณก็ต้องเบื่อฉันสักวัน”นิชาดาสวนขึ้นอย่างเชื่อมั่นในนิสัยของอีกฝ่าย“เสียใจ ฉันมันคนขี้หวง อย่าหวังว่าเธอจะหลุดพ้นไปจากฉันได้”จบปร
“ไม่อยากไปเหรอ”ธีรดนย์ถามหน้าตาย“ถ้าเธอไม่ไปด้วย ฉันอาจจะหาสาวคนอื่นมานอนเป็นเพื่อนก็ได้นะ”“มันก็เรื่องของคุณ”นิชาดาสวนขึ้นอย่างไม่แคร์ ทำเอาชายหนุ่มถึงกับตาดุวาบ ก่อนจะพูดเสียงดัง“ไม่ใช่ว่าฉันพิศวาสเธอนักหรอกนะ แต่ไม่ไว้ใจต่างหาก ฉันไม่อยู่ที่นี่ เธอกับไอ้พีจะไปทำอะไรลับหลังฉันหรือเปล่าก็ไม่รู้”“ฉันไม่ทำอะไรทั้งนั้นแหละ อย่ามาใส่ความกันได้ไหม”แต่ละคำที่อีกฝ่ายเอ่ย พาให้เธอหงุดหงิดได้ตลอด“ใส่ความที่ไหน มันมีมูล ดูอย่างวันนี้สิ ทั้งที่ป่วยเธอยังพยายามไปทำงานจนได้ เพราะว่าต้องไปถ่ายงานที่คาเฟ่ใช่ไหมล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะถูกใจไอ้พี อยากเจอหน้ามัน เธอจะกระเสือกกระสนไปทำงานทำไม”“โอ๊ย เชิญมโนไปคนเดียวเถอะ จะคิดยังไงก็ช่างคุณ ฉันเบื่อจะเถียงด้วยแล้ว”นิชาดาหมดความอดทน ผลักอกหนาแล้วลุกพรวดขึ้นจะเดินหนีแต่กลับถูกรั้งแขนรวบตัวขึ้นอุ้ม“สะบัดหน้าใส่ฉันอีกแล้วนะ ทั้งดื้อทั้งเถียง สงสัยวันนี้จะไม่อยากนอน”ธีรดนย์ไม่ได้พูดอย่างขุ่นเคือง ทว่ากลับยิ้มกริ่ม“งั้นก็มาสนุกกันสักยกสองยกก่อนอาบน้ำก็แล้วกัน”“คุณดนย์ ไม่นะ...”แม้จะแย้งพร้อมดิ้นขยับขาไปมาแต่ก็ไม่หล่นจากอ้อมแขนกำยำ เมื่อเข้าไปในห้องนอน
“หมอกดูหน้าซีดๆ นะ ไม่สบายหรือเปล่า”เพราะไม่รู้ว่าตนจะได้มากรุงเทพฯ อีกครั้งเมื่อไร สุดท้าย นิชาดาก็นัดเจอพี่ชายที่ร้านอาหารในล็อบบี้ด้านล่าง เธอติดต่อนภณต์ตอนสายๆ ด้วยแท็บเล็ต อีกฝ่ายรับปากจะมาหาทันทีที่รู้ว่าเธอมากรุงเทพฯ หลังเลิกงานพี่ชายก็ตรงมาพบทันควัน หญิงสาวโผเข้าหาอกกว้างแสนคุ้นเคยเมื่อพบหน้าด้วยความคิดถึงและกลั้นน้ำตาตนเอาไว้เต็มที่“ต้องตื่นเช้าเดินทางเมื่อวันก่อนน่ะค่ะ แถมนอนแปลกที่ก็ไม่ค่อยหลับด้วย”“ไอ้ดนย์มันไม่ปล่อยให้ได้นอนเต็มอิ่มมากกว่ามั้ง”นิชาดาพูดไม่ออก หน้าร้อนวูบขณะพี่ชายยื่นมือข้ามโต๊ะอาหารมาวางบนศีรษะเธอโยกไปมา“หน้าแดงขนาดนี้ พี่พูดถูกล่ะสิ”นภณต์ยิ้มบางอย่างเอ็นดู หากเป็นอย่างนี้หมายความว่า ธีรดนย์ชอบพอน้องสาวของเขาไม่น้อยเลย ถ้าไม่ถูกใจคนอย่างเพื่อนเขาไม่แตะต้องซ้ำแน่นอน“พี่รู้จักไอ้ดนย์ดี มันน่ะตัวดีเลยเรื่องนี้ แถมยังสาวติดเพียบมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว”“เลิกพูดเรื่องนี้เถอะค่ะ”คนอายเอ่ยขออุบอิบ“เอาเถอะ พี่ก็หวังให้เป็นแบบนี้อยู่แล้ว”พี่ชายโยกศีรษะเธออีกครั้งก่อนจะยอมตกลง“ไอ้ดนย์มันเอ็นดูหมอกก็ดีแล้ว ยังไงหมอกก็เป็นเมียจดทะเบียน อนาคตเกิดอะไรขึ้นหมอก
“รู้จักด้วยเหรอเดช”“นภณต์ที่เพิ่งเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการฝ่ายคนใหม่ของทีมโปรแกรมเมอร์ไงครับพ่อ พอดีเด็กคนนี้เคยมาฝึกงานกับเรา ผมก็เลยเคยเห็น”คุณดนุพลนายใหญ่ของบริษัทไอทีใหญ่แถวหน้าของเมืองไทยพยักหน้ารับ ไม่ได้มีท่าทางรังเกียจหลานสะใภ้หรือใส่ใจมากนักด้วยเป็นเรื่องส่วนตัวของหลานชาย“อืม ก็ดีนะ ถือว่าเป็นคนกันเอง”ธีรดนย์กับครอบครัวบิดาค่อนข้างห่างเหิน ทว่าชายหนุ่มได้รับหุ้นส่วนหนึ่งต่อจากบิดาที่บอกกับปู่ก่อนจากไปหลังจากป่วยหนักว่ายกหุ้นทั้งหมดให้เขา นับแต่ธีรดนย์ยังเรียนมหาวิทยาลัย แม้จะไม่เกี่ยวข้องกันมานานมากแล้วทว่าบิดาของเขาไม่ได้แต่งงานใหม่ ชายหนุ่มเองก็รู้ว่าบิดาตนเป็นใครเพราะท่านมาพบเขาที่เชียงรายโดยไม่ให้มารดาหรือยายรู้ ในตอนที่ชายหนุ่มเรียนพิเศษหรือหลังเลิกเรียนบางวัน เนื่องจากบิดาเคยมาหาที่ไร่แล้วถูกไล่กลับ ซึ่งตอนนั้นธีรดนย์โตพอที่จะจดจำได้แล้วส่วนทางคุณนายแสงหล้ายายของเขานั้นไม่ชอบใจนักที่ ธีรดนย์ยอมรับหุ้นมา ท่านไม่ต้องการให้หลานชายเกี่ยวข้องกับฝ่ายพ่ออีก แม้แต่ก่อนจะมาครั้งนี้ท่านก็ยังบ่นไม่เลิก‘เมื่อไรจะขายไปสักทีหุ้นของบ้านนั้นน่ะ จะได้ไม่ต้องขึ้นลงเชียงรายกรุงเทพฯ
“ชุดนี้ทำให้ฉันอยากจับเธอเปลือยเร็วๆ รู้หรือเปล่า”ร่างสูงใหญ่ขยับบดเคล้าร่างอรชรพลางมือก็เคลื่อนไหวราวปลาหมึก ทั้งลูบไล้ทั้งพยายามปลดซิปด้านหลังชุดราตรีสีครีมที่พอดีสัดส่วนเนื้อตัวของภรรยาสาวทำเอาธีรดนย์มองอีกฝ่ายเมื่อไรก็เห็นแต่เรือนร่างเปลือยเปล่า ร่ำๆ อยากถอดด้วยมือตนเองตั้งแต่เจ้าตัวใส่ออกมาจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าของร้านที่เขาพาไปแต่งตัวแล้ว ผิวขาวจัดของหญิงสาวเข้ากับสีชุดและยิ่งดูบอบบองละมุนละไมขึ้นไปอีกริมฝีปากอุ่นจูบเม้มแล้วขบย้ำนิดที่กลีบปากล่างให้เธอต้องเผยอปาก จากนั้นลิ้นอุ่นก็รุกเข้ามาพัวพันลิ้นเล็กพาให้เคลิบเคลิ้มได้ไม่ยากนักนิชาดาค่อยๆ ผ่อนลมหายใจทั้งที่ใจเต้นรัวเร็วขึ้นเพราะปลายนิ้วที่พรมไล้แผ่นหลังตามรอยแยกของซิป ขณะเดียวกันก็อ่อนใจที่ตนโอนอ่อนต่อสัมผัสของธีรดนย์โดยไม่ยากเย็นอีกเช่นเคย แทบจะลืมไปแล้วว่าโกรธที่ชายหนุ่มโกหกตนจนตกเป็นของอีกฝ่าย“คุณอาบน้ำแล้วนี่คะ”เมื่อปากอุ่นเปลี่ยนไปจูบซับปลายคางไล้ต่ำมายังลำคอ ขณะที่ชายหนุ่มยกเธออุ้มตัวลอยปล่อยให้ชุดหลุดลงปลายเท้าพามายืนชิดอ่างอาบน้ำนิชาดาก็ถามเสียงเบา“เรายังไม่เคยใช้อ่างอาบน้ำด้วยกันเลย ไหนๆ ก็จะกลับพรุ่งนี้แล้ว ม
“รออยู่นี่นะ ไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็น่าจะเสร็จแล้วล่ะ”ธีรดนย์พาเธอมานั่งในร้านกาแฟซึ่งอยู่ติดกับตึกของบริษัทชายหนุ่ม รถไปรับทั้งสองคนแวะมาที่นี่ก่อนไปส่งยังสนามบินเพราะเขาต้องเข้ามาเอาเอกสารเกี่ยวกับการถือหุ้นที่เพิ่งจัดการเรียบร้อย จากเมื่อคืนที่ได้ยินชายหนุ่มคุยกับปู่ของเขาเหมือนธีรดนย์จะเพิ่งซื้อหุ้นเพิ่มมานั่งดื่มชาร้อนกับขนมเค้กที่สั่งครู่หนึ่งก็มีเบอร์ที่ไม่รู้จักโทรเข้ามาหากหญิงสาวก็กดรับ“สวัสดีค่ะ”“สวัสดีครับ ผมเป็นเพื่อนร่วมงานของนภณต์นะครับ ตอนนี้ นภณต์เกิดอุบัติเหตุ ผมสอบถามเบอร์ติดต่อญาติกับทางฝ่ายบุคคลมาน่ะครับ ก็เลยโทรมาแจ้งให้คุณทราบ”“คะ! เกิดอะไรขึ้นกับพี่เมฆคะ”นิชาดาถามกลับด้วยความตระหนก ใจสั่นทั้งยังวูบโหวงขึ้นทันใด ร่างอรชรลุกขึ้นยืนทันที“ออกไปคุยงานกับลูกค้าแล้วรถชนน่ะครับ ผมอยู่ด้วยแต่ไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่นภณต์ค่อนข้างหนัก รถชนฝั่งเขานั่งพอดี ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนครับ พอจะมาได้ไหม ต้องเซ็นเอกสารผ่าตัดน่ะครับ”“ไปได้ค่ะ ฉันอยู่กรุงเทพฯ อยู่ใกล้บริษัทของพี่เมฆพอดีค่ะ ฉันจะรีบไป”“อ๋อ งั้นดีเลยครับ พอดีหัวหน้าของเรากำลังจะมาที่นี่ คุณไปรออยู่หน้าบริษัทก็ได้ครับ รถห
“มีคนพาตัวหมอกไปเหรอ”ธีรดนย์ดึงให้นภณต์มาคุยกับตนตามลำพัง เขาชักไม่ไว้ใจแม้แต่คนที่ขับรถรับส่งตนเพราะก็เป็นคนของบริษัท อาจถูกซื้อตัวได้ ไม่อย่างนั้นจะมีคนรู้ได้อย่างไรว่าเขาพานิชาดามาที่นี่ด้วย“ใช่ หมอกส่งทางที่ถูกพาไปมาให้ มึงขับรถให้กูหน่อย กูไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น”“มึงสงสัยคุณเดช?”“จะมีใครอีก ถ้าไม่ใช่ลุงกู”“กูบอกมึงแล้วว่าอย่าเพิ่งพาหมอกไปงาน ที่มึงซื้อหุ้นเพิ่มมาใครๆ ก็รู้ ตอนนี้หุ้นมึงมีน้อยกว่าแค่สิบหุ้น จะไม่ให้ท่านโมโหได้ไง”“นายมึงกลัวกูฮุบบริษัท แล้วจับหมอกไปทำห่าอะไร หมอกไม่รู้ไม่เห็นเรื่องพวกนี้สักหน่อย”“อย่างน้อยก็ขู่มึงได้ล่ะน่า ดูสิ น้องกูต้องพลอยมาเดือดร้อนเพราะความอยากอวดของมึง กูรู้นะว่ามึงตั้งใจพาหมอกไปให้ท่านเห็น”ธีรดนย์ถอนฉุน ก่อนจะเตะฝุ่นด้วยความโมโห เขาตั้งใจเยาะเย้ยให้ลุงหงุดหงิดจริงๆ ไม่ทันคิดว่าจะเกิดเรื่องกับนิชาดา“โธ่เว้ย!”“ตอนนี้รีบตามหมอกไปก่อน อยากเตะคนเดี๋ยวมึงก็ได้เตะ ได้ออกกำลังหนำใจแน่”นภณต์มั่นใจว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเข้าถึงน้องสาวเขาได้ หากดนุเดชตั้งใจพาตัวไป จากนั้นสองหนุ่มก็รีบรุดไปขึ้นรถของเขา“นี่ทางเข้าไปโกดังที่บริษัทซื้อไว้ แต่ไม่ค
“ยกเว้น หนูนิชาดาจะสำคัญน้อยกว่าบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ของเมืองไทย”ธีรดนย์มองรอบๆ อย่างรวดเร็ว ลุงของตนจงใจพูดท้าทายนั่นหมายความว่านิชาดาน่าจะอยู่ในนี้ด้วย เพียงแต่ไม่รู้ว่าถูกซ่อนไว้ซอกมุมไหนเท่านั้น“ผมต้องการเห็นหมอกและเธอปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน”เขาบอกออกไปอย่างหยั่งเชิง“แกไม่รับปากว่าจะเซ็นด้วยซ้ำ จะให้ฉันปล่อยคนง่ายๆ ได้ยังไง”“ลุงกลัวผมพาหมอกหนีออกไปได้เหรอ งั้นเด็กๆ ของลุงเป็นสิบนี่ก็เลี้ยงเสียข้าวสุกสิ”หลายคนขยับตัวอย่างไม่พอใจหลังธีรดนย์เอ่ยดูถูก ขณะที่ นภณต์แอบค่อนในใจ‘มันจะปากหมาหาเรื่องทำไมวะ กลัวไม่ได้เลือดหรือไง’ที่สำคัญนภณต์ห่วงความปลอดภัยของน้องสาวตนมากกว่า เขากับธีรดนย์ทนมือทนเท้าอยู่บ้าง แต่น้องสาวที่เขาทะนุถนอมบอบบางเกินไป ไม่เคยแม้แต่หลุดเข้าไปในวงโคจรเด็กเกเรในโรงเรียนดนุเดชพยักหน้าลูกน้องคนหนึ่งก็อ้อมไปด้านหลัง แล้วพา นิชาดาออกมาจากซอกหนึ่งที่มีตู้ใหญ่อยู่หลายใบ มาหยุดใกล้โซฟาที่ผู้เป็นนายนั่งอยู่นิชาดามองธีรดนย์กับพี่ชายตนด้วยพร้อมสีหน้าเศร้า หลังจากรู้ว่ามีคนตั้งใจดึงสามีให้ตามมาเธอก็เลิกส่งข้อความ เพราะเป็นห่วงว่าเขาจะถูกทำร้าย ทว่าอีกฝ่ายก็ตามมาถูกจนได้แถมพ่
ปลายนิ้วแกร่งไล้แผ่วผิวตรงข้างเอวสูงขึ้นมาวนเวียนปลายยอดอกแล้วขยำเบาๆ ทำเอานิชาดาสะดุ้งเฮือกลืมตาขึ้นกลางดึก พร้อมกับที่ริมฝีปากอุ่นพรมไต่จากต้นแขนมายังไหล่มน ซอกคอจนถึงใบหูก่อนกระซิบ“หมอกจ๋า รักกันนะจ๊ะ”“คุณดนย์ นี่บ้านใหญ่นะคะ ลูกก็อยู่ด้วย”เธองัวเงียห้ามเสียงเบาเพราะเกรงจะทำให้ลูกชายตื่นและตนเองก็พึ่งหลับไปไม่นานหลังจากป้อนนมหนูน้อยจึงยังเพลียอยู่ ทั้งนอนไม่ค่อยเต็มอิ่มนักอยู่แล้ว ยังดีที่เวลากลางวันมีคุณนายแสงหล้ากับเหมยช่วยดูลูกพอให้ได้งีบบ้าง“น่านะ รับรองเบ๊าเบา ลูกไม่ตื่นแน่”สามียังกระซิบเสียงทุ้มนุ่ม มือก็เคล้าคลึงทรวงอกที่อวบอัดขึ้นของตนทำเอานิชาดาอกใจสั่นไหวไม่น้อย จะว่าไปตนก็คิดถึงสัมผัสจากชายหนุ่มอยู่เหมือนกัน หากก็ยังกังวล“ได้ด้วยเหรอคะ”“เดี๋ยวทำให้ดู”พร้อมพูดชายหนุ่มก็เชยคางให้เธอหันกลับไปรับจูบนุ่มนวลก่อนจะค่อยเพิ่มแรงจูบเม้มและกัดกลีบปากอิ่มด้านล่างให้เธอเผยอรับลิ้นร้อน นิชาดาขยับตัวพลิกมาโอบรอบลำคอหนาตอบรับจูบลึกซึ้งอย่างไม่ยอมน้อยหน้าร่างสองสองขยับเสียดสีเบาๆ ในสัดส่วนที่แตกต่างหากสอดรับกันอย่างลงตัว ลูกชายตัวน้อยนั้นนอนในเปลสี่เหลี่ยมไม่ต้องเกรงว่าแรงเคลื่อ
“คุณดนย์คะ”กลางดึกคืนหนึ่งหลังจากมาพักโรงแรมได้สองวันนิชาดาก็รู้สึกปวดท้องแล้วเหมือนมีบางอย่างไหลออกมา หญิงสาวพึมพำเรียก ชายหนุ่ม เพียงแตะแขนอีกฝ่ายก็รู้สึกตัวแล้วขยับนั่งเปิดโคมไฟทันที“เจ็บท้องเหรอหมอก”“ค่ะ...น่าจะน้ำเดินแล้ว”เธอพูดจนแทบไม่มีเสียงเพราะเจ็บ“งั้นหมอกอยู่นิ่งๆ ก่อนนะ แป๊บเดียว”ร่างสูงใหญ่รีบลุกขึ้นใส่เสื้อโดยเร็วแล้วคว้ากระเป๋าที่เตรียมเอาไว้ก่อนมาประคองร่างที่อุ้ยอ้ายขึ้นของภรรยา“เดินพอไหวไหม”“ค่ะ”นิชาดายังพอไหวจึงกัดฟันค่อยๆ เดินไปพร้อมกับที่ชายหนุ่มพยุง ธีรดนย์ตั้งใจเลือกห้องพักใกล้ลิฟต์จึงไม่ต้องเดินไกลมากหญิงสาวนอนรอเพื่อให้ปากมดลูกเปิดและปวดท้องมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีสามีอยู่ข้างๆ เป็นทั้งคนปลอบใจให้กำลังใจและที่ระบายของตนเพราะบ่อยครั้งที่เธอมักจะจิกเล็บลงบนหลังมือหนาที่กุมมือตนไว้“อื้อ เจ็บจังค่ะ”ยิ่งเห็นดวงหน้าสวยซีดเผือด เหงื่อผุดพราย ทรมานด้วยความเจ็บปวดชายหนุ่มก็ทุรนทุรายตาม เพราะหญิงสาวนอนอยู่แบบนี้มาสามชั่วโมงแล้ว ก้มลงไปจูบหน้าผากมนเช็ดเหงื่อให้ก่อนจะกระซิบ“ฉันจะตามพยาบาลอีกรอบนะ”นิชาดาปล่อยให้ชายหนุ่มไปโดยไม่แย้ง เธอรู้สึกทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ไม่น
ไร่ชาดิฐวัฒน์ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสอากาศบริสุทธิ์แห่งขุนเขา นอนในบ้านท่ามกลางไร่ชาเขียวชอุ่ม มองเห็นเมฆลอยต่ำปกคลุมยอดเขา การเก็บชาก็ได้รับความนิยม มีคนจองคิวเต็มจำนวนในทุกวันนิชาดาที่ออกมาเก็บภาพบรรยากาศวันหยุดเพื่อโพสต์ในเว็บและโซเชียลต่างๆ ของไร่ยืนมองผู้คนที่มีความสุขกับการได้มาไร่นี้อย่างภูมิใจ ตอนนี้นอกจากเพจแล้วเธอเปิดแอคเคาต์โซเชียลของไร่เพิ่มขึ้นจนครบถ้วน เพราะโลกออนไลน์เป็นสิ่งที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดในยุคสมัยนี้“ชอบไหมเจ้า”ส้มที่เป็นคนถ่ายภาพให้เธอเปิดกล้องให้ดู ขณะที่นิชาดามากับมธุรินซึ่งยืนเป็นเพื่อนและคอยดูแลเธอที่ท้องแก่ใกล้คลอด ความจริงธีรดนย์ไม่อยากให้หญิงสาวมาทำงานแต่นิชาดาไม่อยากอยู่เฉยๆ การได้ขยับตัวเดินไปเดินมาจะช่วยให้เธอคลอดธรรมชาติได้ง่ายขึ้น หากก็ต้องดูว่าเด็กกลับหัวด้วยหรือไม่เหมือนกัน“อืม ชอบจ้ะ ไปเก็บภาพมุมโน้น ให้เห็นคาเฟ่กับร้านอาหารด้วยนะจ๊ะ”“เจ้า”“พี่ไปกับส้มเองก็ได้ หมอกเข้าไปนั่งพักในคาเฟ่ดีกว่า”มธุรินเอ่ยปากเพราะดูท่าเหมือนภรรยาเจ้าของไร่จะเดินไปอีกไกลกับส้ม“ถ้าอย่างนั้นฝากพี่รินด้วยนะคะ แล้ว
“พอใจหรือยังเมียจ๋า”“อะไรคะ”“ก็รู้แล้วว่าฉันไม่ได้พลาดพลั้งเสียท่าคุณภัทร ฉันเป็นของหมอกคนเดียวมาตั้งแต่จดทะเบียนแล้วไงล่ะ”พร้อมกับถามใบหน้าคมเข้มก็ขยับมาชิด หน้าผากจรดแนบหน้าผากเธอ ส่งสายตาออดอ้อนก่อนจะดันตัวเธอให้ค่อยๆ ถอยไปชิดเตียง แต่เขาทิ้งตัวเองลงหงายหลังแล้วรั้งเธอให้นอนลงไปบนร่างแกร่งนิชาดายิ้มหวาน ไม่ได้ฝืนตัวเพราะตัวเองก็ไม่ได้ขุ่นเคืองอะไร เพียงแค่สงสัยเพราะธีรดนย์ไม่ได้กลับบ้านดึกนัก ยกเว้นช่วงก่อนจัดงานแต่ง“พอใจค่ะ”เธอตอบเสียงเบาชายหนุ่มก็ยิ้มมุมปาก“ผัวเป็นคนดี ไม่วอกแวก รักเมียคนเดียว เมียไม่ให้รางวัลหน่อยเหรอจ๊ะ”คนใต้ร่างอ้อนเสียงทุ้ม แววในดวงตาคู่คมเข้มนั้นหวานฉ่ำจนนิชาดารู้สึกว่าหัวใจตนกำลังละลายไปกับความหวานที่ส่งมาให้“อืม”ปลายนิ้วเรียวไล้วนเหนืออกกว้างพลางทำท่าทีราวครุ่นคิด“อยากได้รางวัลเล็กหรือรางวัลใหญ่คะ”“ชุดใหญ่สิจ๊ะเมียจ๋า”นิชาดาไม่ตอบรับทว่ามือบางเปลี่ยนเป็นลูบแผงอกหนาของคนไม่ใส่เสื้อ แล้วเห็นชายหนุ่มสูดหายใจลึก ยิ่งมือเธอลากลงต่ำ อีกฝ่ายก็ถึงกับกลืนน้ำลายมือนุ่มไม่ได้ต่ำลงไปอย่างที่เขาคาดหวังหากไล้แผ่วเพียงตรงช่วงเอว แต่ชายหนุ่มก็พอใจเพราะร่างหอ
ร่างอรชรออกมายืนหน้าระเบียง มองพระจันทร์ดวงโตผ่านแมกไม้แล้วก็เอาโทรศัพท์ถ่ายก่อนจะอัปโซเชียล ก็มีคนทักและพิมพ์คอมเม้นต์ว่าคิดถึงหลายคน ปกตินิชาดาอัปเดตบ่อยทว่านับแต่มาอยู่ที่นี่ก็ห่างหายเพราะปัญหาต่างๆ ที่รบกวนจิตใจและทุ่มเทความตั้งใจกับงานใหม่ของตน ทั้งยังไม่ได้ตัดวิดีโอที่ถ่ายขณะเดินทางมาไร่ดิฐวัฒน์ด้วย ช่องของเธอพร้อมโซเชียลหยุดเคลื่อนไหวมาสามเดือนแล้ว มานึกขึ้นได้ในตอนนี้ คิดว่าน่าจะพอมีเวลาทำงานตัวเองในวันหยุดได้ เพราะตอนนี้งานในไร่ลงตัวและมีกำหนดปล่อยคลิป Vlog เดือนละครั้ง“จะว่าไป เราไม่เคยชมจันทร์ด้วยกันเลยนะ ออกมาก็น่าจะรอฉันก่อน”เสียงเข้มดังขึ้นและผ้าคลุมที่มาพร้อมการโอบกอดจากด้านหลัง ธีรดนย์คุยงานกับวัชพลนิชาดาก็แวบไปอาบน้ำก่อนแล้วจำได้ว่าเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงซึ่งตนเองยังไม่เคยได้มองดูอย่างจริงจังว่าจะสวยดวงโตแค่ไหน ทั้งยังมีเรื่องให้คิดอยากให้ธรรมชาติยามค่ำคืนช่วยบำบัดความตึงเครียด จึงออกมาหน้าระเบียงในตอนชายหนุ่มอาบน้ำธีรดนย์วางคางบนบ่าเธอ กรุ่นกลิ่นครีมอาบน้ำอบอวลพร้อมไออุ่นจากร่างสูงใหญ่โอบล้อมทำให้หญิงสาวเอนอิงอีกฝ่ายราวต้องการความอบอุ่น“ก็เพราะเอะอะคุณดนย์ก็อุ้มเ
“ฉันเปล่า....”ภัทรดาส่ายหน้าพลางถอยหลังเสียงสั่นมากขึ้น“กลัวทุกคนจะรู้ว่าคุณมาถึงไร่หลังฉันเกิดอุบัติเหตุใช่ไหมคะ”นิชาดาจะไม่ไล่บี้อีกฝ่ายเลยหากเจ้าตัวไม่บอกว่าเธอใส่ร้าย“เธอเกิดเรื่องเมื่อไรฉันก็ไม่รู้ ฉันแค่มาทำงาน ไม่รู้อะไรทั้งนั้น”“ไม่เป็นไร ดูกล้องก่อนแล้วค่อยว่ากัน เพราะผมจำเวลาที่หมอกเกิดเรื่องได้ ถ้าคุณไม่รู้อะไรจริงก็รอให้การณ์กับตำรวจ”“คุณดนย์”คนที่หน้าซีดอยู่แล้วยิ่งตาโต พึมพำพลางถอยหลังช้าๆ“ภัทรไม่ได้ทำนะคะคุณดนย์ ไม่ใช่ภัทรนะ เมียคุณใส่ร้ายภัทร”“ถ้าไม่ได้ทำคุณก็ไม่ต้องกลัวอะไร ไม่ต้องห่วงไปหรอก ตำรวจก็แค่สอบถามเท่านั้น”ยิ่งธีรดนย์เอ่ยถึงตำรวจซ้ำอีกภัทรดายิ่งหวาดกลัวมากขึ้น หญิงสาวรีบหันหลังจะกลับไปขึ้นรถ“ไม่ ภัทรไม่ผิด ภัทรไม่ได้ทำอะไร อย่ามายุ่งกับภัทร”ภัทรดาเหมือนสติหลุดขยับพรวดออกไปราวต้องการหนี ขณะนั้นมีรถคันหนึ่งขึ้นเนินมา ซึ่งก่อนหน้านี้แต่ละคนก็ไม่ทันได้สังเกตสิ่งอื่นเช่นกันเพราะรถของภัทรดาจอดบังทางที่จะเห็นได้ และต่างก็กำลังสนใจเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่พอเห็นรถทั้งหมดก็ตะโกนรั้ง“คุณภัทร!”“กรี๊ดดด!”เอี๊ยด!!เสียงรถเบรกดังขึ้นอีกครั้ง ทว่าภัทรดาก็ถูกเ
“จะฆ่าหมอกหรือไง!”เสียงของธีรดนย์ดังสนั่นไร่ชา ยังดีแถบนี้เป็นจุดที่ยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามา จะมีก็เพียงคนทำงานอยู่ทางด้านโฮมสเตย์นิชาดารีบหันไปทางรถกระบะคันนั้นทันใด เธอยังใจสั่นและขาสั่นอยู่เลย หากไม่มีสามีประคองให้ลุกขึ้นคงยืนไม่ไหว แต่เมื่อได้รู้ว่าเจ้าของรถเป็นใครเธอก็อึ้งไปเลยทีเดียวเสียงเปิดปิดประตูรถก่อนร่างโปร่งของภัทรดาจะค่อยๆ เดินมาด้านหน้ารถ สีหน้าอีกฝ่ายซีดเผือด มือไม้สั่น“ภะ...ภัทรขอโทษค่ะ”ภัทรดามองธีรดนย์กับนิชาดาด้วยความรู้สึกผิดจากใจ“ภัทรไม่ทันเห็นน่ะค่ะ เพราะขึ้นเนินมาก็เลยเร่งเครื่องเต็มที่”นิชาดาฟังคำพูดอีกฝ่ายพร้อมจ้องอย่างสังเกตแววตากับสีหน้ามากกว่าเดิมเมื่อสติตนเองค่อยๆ เข้าที่เข้าทาง ขณะมีแขนกำยำตระกองกอดไว้อย่างปกป้องปลอบโยน“ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะคะคุณหมอก”“ถ้าฉันมาไม่ทันหมอกจะเป็นยังไง ขับรถในไร่ถึงจะขึ้นเนินก็ไม่ควรเร่งความเร็วขนาดนี้สิ มันอันตรายมากนะ”“ภัทรเสียใจ ภัทรไม่ได้ตั้งใจ เพิ่งเห็นคุณหมอกในระยะประชิดแล้วจริงๆ ค่ะ”เพราะเธอย่อตัวลงค่อยๆ ย่องพยายามให้ผีเสื้อไม่รู้สึกว่ามีบางอย่างเข้ามาใกล้ อาจเป็นไปได้ที่รถซึ่งขับขึ้นเนินมาจะไม่เห็น และ
“โธ่ ไอ้เราก็กลัวว่าเรื่องคุณพีรพลจะทำให้นายกับเธอผิดใจกัน ที่ไหนได้ หวานจนท้องเสียอย่างนั้น”กัญญาแอบมากระแซะแล้วกระแทกไหล่เบาๆ กระเซ้าเธอในตอนบ่าย เมื่ออยู่กันตามลำพังในห้องครัวออฟฟิศ นิชาดาไม่ดื่มชากาแฟเมื่อรู้ว่าตนท้อง แล้วดื่มนมบ่อยขึ้นธีรดนย์จึงซื้อมาใส่ตู้เย็นไว้ให้ ขณะที่เพื่อนสาวเข้ามาชงกาแฟไว้เผื่อสำหรับทุกคนเช่นทุกวัน เพราะตอนเช้าหมดไปแล้ว“กุ๊กก็...ใครจะท้องแค่วันสองวัน”นิชาดาบ่นเพื่อนเสียงอุบอิบอย่างเขินอายข่าวภรรยาของนายท้องค่อยๆ กระจายออกไปทั่วไร่ภายในไม่กี่วัน แม้เธอจะไม่ได้บอกกัญญาตรงๆ เจ้าตัวก็รับรู้ แม้แต่วัชพลกับมธุรินก็ยังมาแสดงความยินดี“ว่าแต่เรื่องคุณพี นายไม่โกรธแล้วใช่ไหม”“อื้อ”นิชาดาพยักหน้ารับ“เพราะข้อความของเธอนั่นแหละ คุณดนย์เห็นก็เลยรู้ว่าเขาเข้าใจผิด”กัญญาตาโต ก่อนจะถาม“อย่าบอกนะว่าที่มีคนอ่านแล้วไม่ตอบน่ะเป็นนาย ฉันเข้าใจว่าหน้าจอเธอแตกเห็นไม่ชัด ก็เลยยังไม่ตอบเสียอีก”หญิงสาวยิ้มกับสีหน้าอิหลักอิเหลื่อของเพื่อนสาว“ใช่น่ะสิจ๊ะ ฉันต้องขอบใจเธอ เพราะถึงฉันพูดอะไรไปคุณดนย์ก็คงยังโกรธอยู่นั่นแหละ มีข้อความของเธอช่วยยืนยันปัญหาก็เลยจบ”เธอยิ้มให้แต่
“ฉันทั้งหลงใหลและหลงรักเธอนะหมอก ถึงจะไม่เคยพูดแต่ฉันก็ไม่เคยอยากเอาใจใครเหมือนเธอ ฉันไปหาซื้อกล้องเอาไว้ง้อตั้งแต่เธอนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล ทำร้ายร่างกายไปแล้วเห็นเธอทรมานฉันก็ทำอีกไม่ลง ทำโทรศัพท์ของเธอพังก็รีบแวบเอาไปซ่อมที่ร้านในกรุงเทพฯ”ธีรดนย์สารภาพอย่างหมดเปลือก แม้รู้สึกเสียศักดิ์ศรีหน่อยๆ ที่เป็นฝ่ายพูดก่อน แต่เก็บไว้ก็จะทำให้ภรรยาสาวน้อยเนื้อต่ำใจทั้งยังวิตกกังวลอยู่ตลอดว่าเขาไม่ไยดีเจ้าตัว อีกฝ่ายกำลังท้องสุขภาพจิตควรดีเพื่อลูกน้อย“ฉันพูดหวานไม่เป็น แต่ก็พยายามเอาอกเอาใจ ง้อเธอในแบบของฉัน”ริมฝีปากอิ่มสวยค่อยๆ ระบายยิ้มหวานออกมาพร้อมน้ำตาซึม ได้ฟังคำบอกเล่าจากปากชายหนุ่มที่เหนือความคาดหมายของตนเอง นิชาดากลับรู้สึกว่าเขาดูน่ารักขึ้นเป็นกอง“หมอกเข้าใจแล้วค่ะ”นิชาดาพยักหน้าอย่างเข้าอกเข้าใจ ยกแขนเรียวขึ้นคล้องคอแกร่งแล้วเคลื่อนหน้าไปหอมแก้มสากเบาๆ“จูบปากสิจ๊ะ เดี๋ยวนี้จูบเก่งแล้วนี่นา”ธีรดนย์ส่งสายตาหวานฉ่ำพร้อมอ้อนเสียงทุ้มนุ่ม ทว่า หญิงสาวส่ายหน้า ปลายนิ้วเรียวแตะปากได้รูปปราม“ไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวคุณดนย์เลยเถิด”“งั้นก็กินข้าวให้อิ่ม แล้วมาออกกำลังก่อนนอนกัน”“เฮ้อ...”หญ