“งั้นเหรอ แต่ที่รินบอกฉันมันไม่ใช่อย่างนี้นี่”ดวงหน้าสวยที่ยังมีคราบน้ำตาหลงเหลือเงยขึ้นมามองเขาทันใด สีหน้าเหวอของเจ้าตัวดูน่าเอ็นดูจนเขาอดใจไม่อยู่ จูบกลีบปากสีหวานไปครั้งหนึ่ง“ทำไมต้องโกหกหืม บอกตรงๆ ว่าเป็นเพราะภัทรก็ได้ ยังไงมันก็เป็นอุบัติเหตุ”“หมอกไม่อยากปัดความรับผิดชอบค่ะ ยังไงก็ถือว่าหมอกดูแลของไม่ดี”หญิงสาวเอ่ยอุบอิบ ธีรดนย์จึงจับโยกศีรษะเล็กโยกไปมา แม้จะแปลกใจกับการกระทำของอีกฝ่ายที่ยอมรับผิดเพียงคนเดียวทั้งที่ไม่ผิดอะไร แต่ก็ยิ่งทำให้เขาคิดว่าเมียตัวเองน่ารักอีกเป็นสิบเท่าตัว“เอาเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปที่ร้านกัน”“เอาไปซ่อมน่ะเหรอคะ หมอกต้องไปด้วยเหรอ”“ไปเลือกตัวใหม่”คิ้วเรียวงามขมวดจนเป็นปม ธีรดนย์จึงเกลี่ยเบาๆ ด้วยปลายนิ้วชี้หยอกเย้า“คิ้วจะพันกันอยู่แล้ว ของเก่าพัง ก็ซื้อใหม่สิ มันอาจจะยังใช้ได้แต่ต้องให้ร้านดูก่อน ถ้าซ่อมก็คงต้องใช้เวลา แต่หมอกต้องทำงาน คราวนี้ไปเลือกเองเลย เอาแบบที่ชอบ”“อย่าเลยค่ะ หมอกใช้มือถือไปก่อนก็ได้”หญิงสาวรีบปฏิเสธอย่างเกรงใจธีรดนย์จับมือบางขึ้นมา ปลายนิ้วไล้หลังมือนุ่มแผ่วเบา“ฉันจะซื้อของให้เมียเท่าไรก็ได้ เพราะฉันอยากจ่าย หมอกไม่ต้อ
กลับมาถึงสำนักงานกัญญาก็เข้ามากระซิบกระซาบถามไถ่เพราะเห็นเธอถือถุงกระดาษร้านกล้อง ขณะที่ธีรดนย์ขับรถไปดูงานอื่นในไร่“นี่อย่าบอกนะว่านายพาเธอไปซื้อกล้องใหม่น่ะ”อีกฝ่ายตาวาววับอย่างสนอกสนใจ“ว้าว สายเปย์มาก ฉันพอจะรู้ว่านายจ่ายให้ผู้หญิงที่ควงเยอะเหมือนกันนะ แต่ไม่คิดว่าจะป๋าขนาดนี้”นิชาดาได้แต่ยิ้มบาง แม้จะตงิดใจนิดๆ ที่อีกฝ่ายพูดถึงผู้หญิงของธีรดนย์ แต่ก็พยายามไม่ใส่ใจมาก แล้วก็ขอตัวไปเก็บของและแก้บทที่ตนเขียนเอาไว้ก่อนหน้านี้ อยากเริ่มถ่ายงานให้ได้เร็วๆนั่งปรับบทไม่นานก็ลงตัว จากนั้นก็โทรหาส้มนัดแนะเพื่อจะถ่ายงานวันพรุ่งนี้ตั้งแต่เช้าตรู่ นิชาดาวางแพลนตื่นมาถ่ายสต๊อกช็อตเวลาที่ฟ้ามืดจนสว่างในไร่ด้วย และมีมุมสวยเก็บภาพไร่ชาแบบกว้างเอาไว้ในใจแล้ว“คุยกับส้มแล้วเหรอจ๊ะ”มธุรินที่นั่งทำงานอยู่ในนี้ด้วยถามขึ้น เพราะห้องไม่ได้กว้างและโต๊ะไม่ไกลกันมากจึงพูดคุยกันง่าย“ว่าจะถ่ายพรุ่งนี้น่ะค่ะ”“ให้พี่นัดคุณพีให้ด้วยเลยดีไหม ถ่ายทั้งวันวันเดียวไปเลย”“จะดูกะทันหันไปไหมคะ กลัวทางนั้นจะเตรียมตัวไม่ทัน”“คุณพีบอกว่าพร้อมถ่ายอยู่แล้วนี่นา ของก็พร้อมแล้ว แต่หมอกเลือกมุมสวยๆ กับตั้งกล้องเอง ถ่า
“วันก่อนฉันว่าจะถามคุณน่ะค่ะ ว่าเป็นยังไงบ้าง เรื่องที่ว่ามีคนจะทำร้ายคุณน่ะ รู้ตัวไหมว่าเป็นใคร”พนักงานสาวเอ่ยทักแล้วถามอย่างเป็นกันเอง หลังจากที่เธอสั่งกาแฟของตนเองกับมธุรินซึ่งไปเข้าห้องน้ำ“ทำร้ายฉันเหรอ ฉันไม่รู้เหมือนกัน แล้วก็ขอโทษนะฉันนึกไม่ออกเรื่องของเธอ”“คุณจำฉันไม่ได้เหรอ ฉันเจอคุณวันที่มาสมัครงานที่นี่ไง ฉันขับรถผ่านตรงถนนไปท้ายไร่ ตอนที่คุณวิ่งหนีใครสักคนก็ไม่รู้ บอกว่ามีคนจะทำร้าย”ภาพเธอวิ่งบนถนนอย่างเหนื่อยหอบแวบเข้ามาในหัว แล้ว นิชาดาก็ปวดหัวจี๊ดขึ้นมาจนต้องยกมือขึ้นกุม“พอดีฉันเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย ก็เลยจำไม่ค่อยได้เท่าไร”เธอบอกอีกฝ่ายก็มีสีหน้าตกใจเล็กน้อย“จริงเหรอ อ้อ ได้ข่าวอยู่เหมือนกันว่าคนในไร่ตกไปริมทางบนเขา เป็นคุณเหรอคะ”ข่าวในไร่อาจจะมีคนพูดบ้าง แต่ในเมื่อคนส่วนใหญ่ของไร่ยังไม่รู้จักเธอ ก็ไม่แปลกที่พวกเขาจะไม่รู้ว่าเกิดเรื่องกับใคร อีกอย่างดูเหมือนธีรดนย์กับวัชพลจะไม่ค่อยอยากให้รู้กันมากนัก“จ้ะ แต่ไม่เป็นอะไรมาก ดีขึ้นแล้ว”“งั้นเรื่องที่บอกว่ามีคนจะทำร้ายคุณก็จำไม่ได้ด้วยใช่ไหม”อีกฝ่ายดูห่วงใย ขณะที่นิชาดาพยายามคิดต่อ แต่กลับนึกไม่ออก ทว่าในเมื่อเธ
“อยากให้พี่เมฆมาร่วมงานจัง”นิชาดาบอกพี่ชายเกี่ยวกับงานแต่งของตัวเอง อีกฝ่ายแสดงความดีใจที่เธอกับธีรดนย์ได้ลงเอยกันแล้วก็อวยพรให้ครองคู่อย่างมีความสุข แต่ชายหนุ่มไม่สะดวกจะมาที่ไร่ หลังจากแต่งตัวเรียบร้อยรอเวลาไปงานเธอจึงโทรหาพี่ชายอีกครั้ง อยากได้กำลังจากเขา‘พี่ก็เสียดายที่ไปไม่ได้ แต่ไม่สะดวกจริงๆ ตอนนี้พี่ยังไม่อยากให้เจ้านายพี่รู้ว่าหมอกอยู่ไหน’หญิงสาวจำเรื่องที่พี่ชายอยากให้เธอมาอยู่ที่นี่เพื่อหลีกเลี่ยงเจ้านายของเขาได้ ทั้งไร่นี้ยังมีงานประจำที่เหมาะกับเธอหลังจากต้องออกจากงานมาพักหนึ่ง หากได้ทำงานก็นับว่ามีความมั่นคงขึ้น เธอจึงตกปากรับคำมาสมัครงานที่นี่ แม้จะต้องอยู่ห่างจากพี่ชายครั้งแรกก็ลองมาใช้ชีวิตด้วยตัวเองดูบ้าง‘ยังไงไอ้ดนย์มันก็รับปากพี่แล้วว่าจะดูแลหมอก ต่อไปนี้หมอกก็ใช้ชีวิตที่นั่นอย่างสบายใจเถอะนะ เรื่องหนี้สินอะไรพวกนั้นก็ไม่ต้องไปคิดถึงมันอีกแล้ว’“หนี้?”“หมอก”เสียงของธีรดนย์ที่แต่งตัวทีหลังเธอดังขึ้น หญิงสาวจึงยังไม่ถามไถ่พี่ชายต่อ เธอหันไปมองชายหนุ่มขณะฟังเสียงของนภณต์‘ถึงจะต้องแต่งเพราะหนี้ แต่พี่ก็มั่นใจในตัวไอ้ดนย์ มันดีพอสำหรับหมอกแน่นอน’เหมือนบางอย่างพุ
“เชอะ สำออยอะไรอีก”เธอเคยพบเจอเหตุการณ์ไม่ต่างจากนี้จริงๆ หลายสิ่งหลายอย่างค่อยๆ เป็นรูปเป็นร่างทีละนิดละน้อย“หมอกเป็นอะไรเหรอ หรือเหนื่อย ถ้าไม่ค่อยโอเคเรากลับกันเลยก็ได้ ที่นี่ไม่มีอะไรแล้วล่ะ”เสียงทุ้มของสามีกระซิบใกล้ ทว่าเธอกลับได้ยินเสียงเข้มดุแทรกเข้ามาด้วย‘อย่าลืมว่าเธอมาที่นี่เพราะอะไร ลูกหนี้ต้องเชื่อฟังเจ้าหนี้ ฉันจะไม่แต่งกับเธอก็ยังได้ รู้เอาไว้ด้วย...’ประโยคนั้นค่อยๆ เลือนหายไป เป็นเสียงของธีรดนย์ ต่างกันเพียงโทนน้ำเสียง หญิงสาวหันมองใบหน้าคมเข้มมองคนเป็นสามีก็เห็นแววตาของความห่วงใย พลางมือก็เช็ดเหงื่อตรงขมับให้“ฮึ น่ารำคาญ ตบแต่งเอาอกเอาใจกันจนขนาดนี้แล้วยังไม่พอใจอีกเหรอยะ กลับเถอะแม่ภัทร ไม่งั้นฉันคงได้หมั่นไส้คนจนความดันขึ้นนอนไม่หลับ”คุณนายแสงหล้าสะบัดหน้าเดินหนีเช่นเคย ภัทรดาสีหน้าไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ยังหันมามองเธอ“ยินดีด้วยนะคะคุณดนย์ คุณหมอก”“ขอบคุณค่ะ”นิชาดาตอบรับตามมารยาทก่อนที่อีกฝ่ายจะตามไปประคองผู้สูงวัย แม้คุณนายแสงหล้ายังแข็งแรงคล่องแคล่วก็ตาม“ไปขึ้นรถเราเถอะ”ธีรดนย์ไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจเท่าใดนักที่ยายของเขาขุ่นเคือง ทั้งยังเป็นห่วงภรรยาสาวมากกว
นิชาดาปัดป้องรุนแรงขึ้น มือทั้งผลัก จิกข่วน ตบตีริมฝีปากได้รูป แก้มสากกับบ่าหนา ไม่อยากยอมจำนนเช่นที่ชายหนุ่มปรามาศ ทว่าใบหน้าคมเข้มกลับไม่ยอมห่าง ลำคอเธอทั้งแสบร้อนทั้งซ่านสยิวเพราะการจูบไซ้ซอกซอนอันดุดัน แล้วอกอวบหยุ่นข้างหนึ่งก็ถูกรวบเข้าอุ้งปากร้อนเมื่อชุดสวยถูกเลื่อนลงต่อไปกองที่เอว“อื้อ”เธอได้เพียงส่งเสียงคัดค้านในลำคอ มือสองข้างถูกกดลงแนบที่นอนเพราะอีกฝ่ายจับไว้ด้วยความรำคาญ ใบหน้าคมเข้มกับปากอุ่นได้รูปฝังคลุกเคล้าทรวงงามสองข้างได้อย่างอิสระ แรงเม้มและดูดกลืนเต็มปากเต็มคำไม่มีผ่อนปรนร่างอรชรขยับไปมาพยายามต่อต้านแต่กลับอ่อนแรงลงเรื่อยๆ นิชาดาเริ่มหายใจลำบาก แยกไม่ออกว่าตนเองกำลังตกอยู่ในอารมณ์ใด โมโหชายหนุ่มหรือเร่าร้อนไปกับสัมผัสบนหน้าอกตน มือเธอแทบไม่ขยับเมื่อชายหนุ่มปล่อยแล้วลูบผ่านสีข้างต่ำไปหาสะโพกผาย เคล้นขยำจุดไฟเสน่หามาให้ และเมื่อมืออุ่นเคลื่อนเข้ามาด้านในขาเรียวก็ขยับชิดหลบเลี่ยง ทว่าชายหนุ่มก็วนเวียนลูบไล้ให้เธอตัวอ่อนขาอ่อนระทวย“ไงจ๊ะ หมอกจ๋า อยากให้ผัวรักหรือยัง”ธีรดนย์ถามเย้าอย่างเป็นต่อ ดวงตาคมเข้มเงยขึ้นมองคนที่ขบกัดริมฝีปากตัวเองอย่างพยายามสะกดใจแล้วก็ยิ้มม
“ดูดสิเด็กดี”“นี่แน่ะ”เธอส่งเสียงอู้อี้ประท้วงทั้งยังกัดปลายนิ้วแกร่งแทน อีกฝ่ายรีบดึงออกพร้อมกัดฟันเข่นเขี้ยว“ชอบดุๆ เหรอ ได้เลย เดี๋ยวพี่จัดให้”หลังคำประชดเขาก็ยกร่างอรชรขึ้นมานั่งบนตักตน ดวงหน้าสวยสะบัดไปด้านหลัง ผมยาวสลวยยุ่งเหยิงแทบไม่เป็นทรงหากกลับชวนมองพลางคิดก็ซุกหน้าลงฟัดอกอวบขาวไรเคราสั้นๆ ครูดไปมาพร้อมปากอุ่นดูดกลืนร้อนแรง ทั้งจูบทั้งเม้มไม่ปรานีจนนิชาดารู้สึกราวหน้าอกตนเองเห่อร้อนและสยิวซ่านไม่น้อยเช่นกัน พลางมือหนายังเกาะกุมบีบเคล้นสะโพกผายไปด้วยอย่างไม่ให้โอกาสเธอคลายจากฤทธิ์ปรารถนาสิ่งที่ตนกำลังครอบครองเล่นงานหญิงสาวจนอารมณ์แทบระเบิด ร่างกายตื่นรับอย่างมากมายเรียกร้องให้เธอขยับตามครรลองธรรมชาติ และแม้จะเกร็งไม่ยอมขยับเขยื้อนทว่ากลับถูกบังคับจากมือหนาให้บดเคล้าสะโพกลงไปบนตักแกร่ง ยิ่งดิ้นหนีก็ยิ่งวาบหวามไปทั้งกาย“จะดื้อทำไม ยิ่งขย่มเธอยิ่งมันไม่ใช่หรือไง”ถ้อยคำดิบเถื่อนฟังแล้วยิ่งเหมือนเขาดูถูกเธอ นิชาดายิ่งกัดฟันทำตัวแข็งทื่อธีรดนย์ผ่อนร่างอรชรลงนอน อยากให้บทเรียนกับคนที่ไม่ยอมจำนนต่อบทสวาทของเขา มือหนาจับเอวบางแน่น สะโพกแกร่งเร่งกระชั้นดุเดือด ร่างเล็กที่สัดส่
นิชาดารีบเช็ดน้ำตาลุกขึ้นแต่งตัวใหม่และเก็บชุดแต่งงานของตัวเองอย่างเรียบร้อย ไม่ทำตัวฟูมฟายเรียกร้องความยุติธรรมอย่างไร้สาระ เพราะหากเห็นใจกันธีรดนย์คงไม่หลอกเธอ เขาคิดถึงแค่ผลประโยชน์ที่ต้องได้เท่านั้น เมื่อชายหนุ่มออกมาจากห้องน้ำเธอก็เดินสวนเข้าไปเพื่อทำธุระส่วนตัวของตนบ้างทั้งที่พยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองและตั้งใจว่าออกมาแล้วจะเคลียร์กับนิชาดา ทว่าเมื่อเห็นหน้าเชิดเรียบสนิทเมินตนของหญิงสาวแล้วอารมณ์ของธีรดนย์ก็พุ่งปรี๊ด ร่างสูงใหญ่หมุนตัวตามคนที่กำลังจะเข้าห้องน้ำ ผลักประตูไว้ก่อนที่จะปิดลง“เอ๊ะ”“เอ๊ะทำไม ไม่พอใจอะไร”เขาถามกลับอย่างตั้งใจรวนทั้งยังแทรกตัวเข้าไปในห้องน้ำหญิงสาวถอยหลังอย่างระวังตัว ถึงอย่างนั้นก็คิดว่ายากจะหลุดรอดไปได้“เข้ามาทำไม”“แล้วทำไมจะเข้าไม่ได้”“คุณดนย์”“อะไรจ๊ะเมียจ๋า เรียกผัว อยากให้อาบน้ำให้ใช่ไหม”พร้อมถามอย่างกวนโมโหชายหนุ่มก็เดินมาหา นิชาดาเองก็ถอยนี้ทั้งที่รู้ว่าธีรดนย์ไม่ปล่อยเธอไปแน่“บ้าน่ะสิ ออกไปนะ”“เป็นเมียอย่าริไล่ผัว”ร่างสูงใหญ่โถมเข้ามาขณะที่เธอถลาก้มลงจะหลบไปด้านหลังเขาซึ่งเป็นประตู แต่แน่นอนว่าไม่รอดจากวงแขนกำยำ“คุณดนย์ปล่อยฉัน”
ปลายนิ้วแกร่งไล้แผ่วผิวตรงข้างเอวสูงขึ้นมาวนเวียนปลายยอดอกแล้วขยำเบาๆ ทำเอานิชาดาสะดุ้งเฮือกลืมตาขึ้นกลางดึก พร้อมกับที่ริมฝีปากอุ่นพรมไต่จากต้นแขนมายังไหล่มน ซอกคอจนถึงใบหูก่อนกระซิบ“หมอกจ๋า รักกันนะจ๊ะ”“คุณดนย์ นี่บ้านใหญ่นะคะ ลูกก็อยู่ด้วย”เธองัวเงียห้ามเสียงเบาเพราะเกรงจะทำให้ลูกชายตื่นและตนเองก็พึ่งหลับไปไม่นานหลังจากป้อนนมหนูน้อยจึงยังเพลียอยู่ ทั้งนอนไม่ค่อยเต็มอิ่มนักอยู่แล้ว ยังดีที่เวลากลางวันมีคุณนายแสงหล้ากับเหมยช่วยดูลูกพอให้ได้งีบบ้าง“น่านะ รับรองเบ๊าเบา ลูกไม่ตื่นแน่”สามียังกระซิบเสียงทุ้มนุ่ม มือก็เคล้าคลึงทรวงอกที่อวบอัดขึ้นของตนทำเอานิชาดาอกใจสั่นไหวไม่น้อย จะว่าไปตนก็คิดถึงสัมผัสจากชายหนุ่มอยู่เหมือนกัน หากก็ยังกังวล“ได้ด้วยเหรอคะ”“เดี๋ยวทำให้ดู”พร้อมพูดชายหนุ่มก็เชยคางให้เธอหันกลับไปรับจูบนุ่มนวลก่อนจะค่อยเพิ่มแรงจูบเม้มและกัดกลีบปากอิ่มด้านล่างให้เธอเผยอรับลิ้นร้อน นิชาดาขยับตัวพลิกมาโอบรอบลำคอหนาตอบรับจูบลึกซึ้งอย่างไม่ยอมน้อยหน้าร่างสองสองขยับเสียดสีเบาๆ ในสัดส่วนที่แตกต่างหากสอดรับกันอย่างลงตัว ลูกชายตัวน้อยนั้นนอนในเปลสี่เหลี่ยมไม่ต้องเกรงว่าแรงเคลื่อ
“คุณดนย์คะ”กลางดึกคืนหนึ่งหลังจากมาพักโรงแรมได้สองวันนิชาดาก็รู้สึกปวดท้องแล้วเหมือนมีบางอย่างไหลออกมา หญิงสาวพึมพำเรียก ชายหนุ่ม เพียงแตะแขนอีกฝ่ายก็รู้สึกตัวแล้วขยับนั่งเปิดโคมไฟทันที“เจ็บท้องเหรอหมอก”“ค่ะ...น่าจะน้ำเดินแล้ว”เธอพูดจนแทบไม่มีเสียงเพราะเจ็บ“งั้นหมอกอยู่นิ่งๆ ก่อนนะ แป๊บเดียว”ร่างสูงใหญ่รีบลุกขึ้นใส่เสื้อโดยเร็วแล้วคว้ากระเป๋าที่เตรียมเอาไว้ก่อนมาประคองร่างที่อุ้ยอ้ายขึ้นของภรรยา“เดินพอไหวไหม”“ค่ะ”นิชาดายังพอไหวจึงกัดฟันค่อยๆ เดินไปพร้อมกับที่ชายหนุ่มพยุง ธีรดนย์ตั้งใจเลือกห้องพักใกล้ลิฟต์จึงไม่ต้องเดินไกลมากหญิงสาวนอนรอเพื่อให้ปากมดลูกเปิดและปวดท้องมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีสามีอยู่ข้างๆ เป็นทั้งคนปลอบใจให้กำลังใจและที่ระบายของตนเพราะบ่อยครั้งที่เธอมักจะจิกเล็บลงบนหลังมือหนาที่กุมมือตนไว้“อื้อ เจ็บจังค่ะ”ยิ่งเห็นดวงหน้าสวยซีดเผือด เหงื่อผุดพราย ทรมานด้วยความเจ็บปวดชายหนุ่มก็ทุรนทุรายตาม เพราะหญิงสาวนอนอยู่แบบนี้มาสามชั่วโมงแล้ว ก้มลงไปจูบหน้าผากมนเช็ดเหงื่อให้ก่อนจะกระซิบ“ฉันจะตามพยาบาลอีกรอบนะ”นิชาดาปล่อยให้ชายหนุ่มไปโดยไม่แย้ง เธอรู้สึกทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ไม่น
ไร่ชาดิฐวัฒน์ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสอากาศบริสุทธิ์แห่งขุนเขา นอนในบ้านท่ามกลางไร่ชาเขียวชอุ่ม มองเห็นเมฆลอยต่ำปกคลุมยอดเขา การเก็บชาก็ได้รับความนิยม มีคนจองคิวเต็มจำนวนในทุกวันนิชาดาที่ออกมาเก็บภาพบรรยากาศวันหยุดเพื่อโพสต์ในเว็บและโซเชียลต่างๆ ของไร่ยืนมองผู้คนที่มีความสุขกับการได้มาไร่นี้อย่างภูมิใจ ตอนนี้นอกจากเพจแล้วเธอเปิดแอคเคาต์โซเชียลของไร่เพิ่มขึ้นจนครบถ้วน เพราะโลกออนไลน์เป็นสิ่งที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดในยุคสมัยนี้“ชอบไหมเจ้า”ส้มที่เป็นคนถ่ายภาพให้เธอเปิดกล้องให้ดู ขณะที่นิชาดามากับมธุรินซึ่งยืนเป็นเพื่อนและคอยดูแลเธอที่ท้องแก่ใกล้คลอด ความจริงธีรดนย์ไม่อยากให้หญิงสาวมาทำงานแต่นิชาดาไม่อยากอยู่เฉยๆ การได้ขยับตัวเดินไปเดินมาจะช่วยให้เธอคลอดธรรมชาติได้ง่ายขึ้น หากก็ต้องดูว่าเด็กกลับหัวด้วยหรือไม่เหมือนกัน“อืม ชอบจ้ะ ไปเก็บภาพมุมโน้น ให้เห็นคาเฟ่กับร้านอาหารด้วยนะจ๊ะ”“เจ้า”“พี่ไปกับส้มเองก็ได้ หมอกเข้าไปนั่งพักในคาเฟ่ดีกว่า”มธุรินเอ่ยปากเพราะดูท่าเหมือนภรรยาเจ้าของไร่จะเดินไปอีกไกลกับส้ม“ถ้าอย่างนั้นฝากพี่รินด้วยนะคะ แล้ว
“พอใจหรือยังเมียจ๋า”“อะไรคะ”“ก็รู้แล้วว่าฉันไม่ได้พลาดพลั้งเสียท่าคุณภัทร ฉันเป็นของหมอกคนเดียวมาตั้งแต่จดทะเบียนแล้วไงล่ะ”พร้อมกับถามใบหน้าคมเข้มก็ขยับมาชิด หน้าผากจรดแนบหน้าผากเธอ ส่งสายตาออดอ้อนก่อนจะดันตัวเธอให้ค่อยๆ ถอยไปชิดเตียง แต่เขาทิ้งตัวเองลงหงายหลังแล้วรั้งเธอให้นอนลงไปบนร่างแกร่งนิชาดายิ้มหวาน ไม่ได้ฝืนตัวเพราะตัวเองก็ไม่ได้ขุ่นเคืองอะไร เพียงแค่สงสัยเพราะธีรดนย์ไม่ได้กลับบ้านดึกนัก ยกเว้นช่วงก่อนจัดงานแต่ง“พอใจค่ะ”เธอตอบเสียงเบาชายหนุ่มก็ยิ้มมุมปาก“ผัวเป็นคนดี ไม่วอกแวก รักเมียคนเดียว เมียไม่ให้รางวัลหน่อยเหรอจ๊ะ”คนใต้ร่างอ้อนเสียงทุ้ม แววในดวงตาคู่คมเข้มนั้นหวานฉ่ำจนนิชาดารู้สึกว่าหัวใจตนกำลังละลายไปกับความหวานที่ส่งมาให้“อืม”ปลายนิ้วเรียวไล้วนเหนืออกกว้างพลางทำท่าทีราวครุ่นคิด“อยากได้รางวัลเล็กหรือรางวัลใหญ่คะ”“ชุดใหญ่สิจ๊ะเมียจ๋า”นิชาดาไม่ตอบรับทว่ามือบางเปลี่ยนเป็นลูบแผงอกหนาของคนไม่ใส่เสื้อ แล้วเห็นชายหนุ่มสูดหายใจลึก ยิ่งมือเธอลากลงต่ำ อีกฝ่ายก็ถึงกับกลืนน้ำลายมือนุ่มไม่ได้ต่ำลงไปอย่างที่เขาคาดหวังหากไล้แผ่วเพียงตรงช่วงเอว แต่ชายหนุ่มก็พอใจเพราะร่างหอ
ร่างอรชรออกมายืนหน้าระเบียง มองพระจันทร์ดวงโตผ่านแมกไม้แล้วก็เอาโทรศัพท์ถ่ายก่อนจะอัปโซเชียล ก็มีคนทักและพิมพ์คอมเม้นต์ว่าคิดถึงหลายคน ปกตินิชาดาอัปเดตบ่อยทว่านับแต่มาอยู่ที่นี่ก็ห่างหายเพราะปัญหาต่างๆ ที่รบกวนจิตใจและทุ่มเทความตั้งใจกับงานใหม่ของตน ทั้งยังไม่ได้ตัดวิดีโอที่ถ่ายขณะเดินทางมาไร่ดิฐวัฒน์ด้วย ช่องของเธอพร้อมโซเชียลหยุดเคลื่อนไหวมาสามเดือนแล้ว มานึกขึ้นได้ในตอนนี้ คิดว่าน่าจะพอมีเวลาทำงานตัวเองในวันหยุดได้ เพราะตอนนี้งานในไร่ลงตัวและมีกำหนดปล่อยคลิป Vlog เดือนละครั้ง“จะว่าไป เราไม่เคยชมจันทร์ด้วยกันเลยนะ ออกมาก็น่าจะรอฉันก่อน”เสียงเข้มดังขึ้นและผ้าคลุมที่มาพร้อมการโอบกอดจากด้านหลัง ธีรดนย์คุยงานกับวัชพลนิชาดาก็แวบไปอาบน้ำก่อนแล้วจำได้ว่าเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงซึ่งตนเองยังไม่เคยได้มองดูอย่างจริงจังว่าจะสวยดวงโตแค่ไหน ทั้งยังมีเรื่องให้คิดอยากให้ธรรมชาติยามค่ำคืนช่วยบำบัดความตึงเครียด จึงออกมาหน้าระเบียงในตอนชายหนุ่มอาบน้ำธีรดนย์วางคางบนบ่าเธอ กรุ่นกลิ่นครีมอาบน้ำอบอวลพร้อมไออุ่นจากร่างสูงใหญ่โอบล้อมทำให้หญิงสาวเอนอิงอีกฝ่ายราวต้องการความอบอุ่น“ก็เพราะเอะอะคุณดนย์ก็อุ้มเ
“ฉันเปล่า....”ภัทรดาส่ายหน้าพลางถอยหลังเสียงสั่นมากขึ้น“กลัวทุกคนจะรู้ว่าคุณมาถึงไร่หลังฉันเกิดอุบัติเหตุใช่ไหมคะ”นิชาดาจะไม่ไล่บี้อีกฝ่ายเลยหากเจ้าตัวไม่บอกว่าเธอใส่ร้าย“เธอเกิดเรื่องเมื่อไรฉันก็ไม่รู้ ฉันแค่มาทำงาน ไม่รู้อะไรทั้งนั้น”“ไม่เป็นไร ดูกล้องก่อนแล้วค่อยว่ากัน เพราะผมจำเวลาที่หมอกเกิดเรื่องได้ ถ้าคุณไม่รู้อะไรจริงก็รอให้การณ์กับตำรวจ”“คุณดนย์”คนที่หน้าซีดอยู่แล้วยิ่งตาโต พึมพำพลางถอยหลังช้าๆ“ภัทรไม่ได้ทำนะคะคุณดนย์ ไม่ใช่ภัทรนะ เมียคุณใส่ร้ายภัทร”“ถ้าไม่ได้ทำคุณก็ไม่ต้องกลัวอะไร ไม่ต้องห่วงไปหรอก ตำรวจก็แค่สอบถามเท่านั้น”ยิ่งธีรดนย์เอ่ยถึงตำรวจซ้ำอีกภัทรดายิ่งหวาดกลัวมากขึ้น หญิงสาวรีบหันหลังจะกลับไปขึ้นรถ“ไม่ ภัทรไม่ผิด ภัทรไม่ได้ทำอะไร อย่ามายุ่งกับภัทร”ภัทรดาเหมือนสติหลุดขยับพรวดออกไปราวต้องการหนี ขณะนั้นมีรถคันหนึ่งขึ้นเนินมา ซึ่งก่อนหน้านี้แต่ละคนก็ไม่ทันได้สังเกตสิ่งอื่นเช่นกันเพราะรถของภัทรดาจอดบังทางที่จะเห็นได้ และต่างก็กำลังสนใจเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่พอเห็นรถทั้งหมดก็ตะโกนรั้ง“คุณภัทร!”“กรี๊ดดด!”เอี๊ยด!!เสียงรถเบรกดังขึ้นอีกครั้ง ทว่าภัทรดาก็ถูกเ
“จะฆ่าหมอกหรือไง!”เสียงของธีรดนย์ดังสนั่นไร่ชา ยังดีแถบนี้เป็นจุดที่ยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามา จะมีก็เพียงคนทำงานอยู่ทางด้านโฮมสเตย์นิชาดารีบหันไปทางรถกระบะคันนั้นทันใด เธอยังใจสั่นและขาสั่นอยู่เลย หากไม่มีสามีประคองให้ลุกขึ้นคงยืนไม่ไหว แต่เมื่อได้รู้ว่าเจ้าของรถเป็นใครเธอก็อึ้งไปเลยทีเดียวเสียงเปิดปิดประตูรถก่อนร่างโปร่งของภัทรดาจะค่อยๆ เดินมาด้านหน้ารถ สีหน้าอีกฝ่ายซีดเผือด มือไม้สั่น“ภะ...ภัทรขอโทษค่ะ”ภัทรดามองธีรดนย์กับนิชาดาด้วยความรู้สึกผิดจากใจ“ภัทรไม่ทันเห็นน่ะค่ะ เพราะขึ้นเนินมาก็เลยเร่งเครื่องเต็มที่”นิชาดาฟังคำพูดอีกฝ่ายพร้อมจ้องอย่างสังเกตแววตากับสีหน้ามากกว่าเดิมเมื่อสติตนเองค่อยๆ เข้าที่เข้าทาง ขณะมีแขนกำยำตระกองกอดไว้อย่างปกป้องปลอบโยน“ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะคะคุณหมอก”“ถ้าฉันมาไม่ทันหมอกจะเป็นยังไง ขับรถในไร่ถึงจะขึ้นเนินก็ไม่ควรเร่งความเร็วขนาดนี้สิ มันอันตรายมากนะ”“ภัทรเสียใจ ภัทรไม่ได้ตั้งใจ เพิ่งเห็นคุณหมอกในระยะประชิดแล้วจริงๆ ค่ะ”เพราะเธอย่อตัวลงค่อยๆ ย่องพยายามให้ผีเสื้อไม่รู้สึกว่ามีบางอย่างเข้ามาใกล้ อาจเป็นไปได้ที่รถซึ่งขับขึ้นเนินมาจะไม่เห็น และ
“โธ่ ไอ้เราก็กลัวว่าเรื่องคุณพีรพลจะทำให้นายกับเธอผิดใจกัน ที่ไหนได้ หวานจนท้องเสียอย่างนั้น”กัญญาแอบมากระแซะแล้วกระแทกไหล่เบาๆ กระเซ้าเธอในตอนบ่าย เมื่ออยู่กันตามลำพังในห้องครัวออฟฟิศ นิชาดาไม่ดื่มชากาแฟเมื่อรู้ว่าตนท้อง แล้วดื่มนมบ่อยขึ้นธีรดนย์จึงซื้อมาใส่ตู้เย็นไว้ให้ ขณะที่เพื่อนสาวเข้ามาชงกาแฟไว้เผื่อสำหรับทุกคนเช่นทุกวัน เพราะตอนเช้าหมดไปแล้ว“กุ๊กก็...ใครจะท้องแค่วันสองวัน”นิชาดาบ่นเพื่อนเสียงอุบอิบอย่างเขินอายข่าวภรรยาของนายท้องค่อยๆ กระจายออกไปทั่วไร่ภายในไม่กี่วัน แม้เธอจะไม่ได้บอกกัญญาตรงๆ เจ้าตัวก็รับรู้ แม้แต่วัชพลกับมธุรินก็ยังมาแสดงความยินดี“ว่าแต่เรื่องคุณพี นายไม่โกรธแล้วใช่ไหม”“อื้อ”นิชาดาพยักหน้ารับ“เพราะข้อความของเธอนั่นแหละ คุณดนย์เห็นก็เลยรู้ว่าเขาเข้าใจผิด”กัญญาตาโต ก่อนจะถาม“อย่าบอกนะว่าที่มีคนอ่านแล้วไม่ตอบน่ะเป็นนาย ฉันเข้าใจว่าหน้าจอเธอแตกเห็นไม่ชัด ก็เลยยังไม่ตอบเสียอีก”หญิงสาวยิ้มกับสีหน้าอิหลักอิเหลื่อของเพื่อนสาว“ใช่น่ะสิจ๊ะ ฉันต้องขอบใจเธอ เพราะถึงฉันพูดอะไรไปคุณดนย์ก็คงยังโกรธอยู่นั่นแหละ มีข้อความของเธอช่วยยืนยันปัญหาก็เลยจบ”เธอยิ้มให้แต่
“ฉันทั้งหลงใหลและหลงรักเธอนะหมอก ถึงจะไม่เคยพูดแต่ฉันก็ไม่เคยอยากเอาใจใครเหมือนเธอ ฉันไปหาซื้อกล้องเอาไว้ง้อตั้งแต่เธอนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล ทำร้ายร่างกายไปแล้วเห็นเธอทรมานฉันก็ทำอีกไม่ลง ทำโทรศัพท์ของเธอพังก็รีบแวบเอาไปซ่อมที่ร้านในกรุงเทพฯ”ธีรดนย์สารภาพอย่างหมดเปลือก แม้รู้สึกเสียศักดิ์ศรีหน่อยๆ ที่เป็นฝ่ายพูดก่อน แต่เก็บไว้ก็จะทำให้ภรรยาสาวน้อยเนื้อต่ำใจทั้งยังวิตกกังวลอยู่ตลอดว่าเขาไม่ไยดีเจ้าตัว อีกฝ่ายกำลังท้องสุขภาพจิตควรดีเพื่อลูกน้อย“ฉันพูดหวานไม่เป็น แต่ก็พยายามเอาอกเอาใจ ง้อเธอในแบบของฉัน”ริมฝีปากอิ่มสวยค่อยๆ ระบายยิ้มหวานออกมาพร้อมน้ำตาซึม ได้ฟังคำบอกเล่าจากปากชายหนุ่มที่เหนือความคาดหมายของตนเอง นิชาดากลับรู้สึกว่าเขาดูน่ารักขึ้นเป็นกอง“หมอกเข้าใจแล้วค่ะ”นิชาดาพยักหน้าอย่างเข้าอกเข้าใจ ยกแขนเรียวขึ้นคล้องคอแกร่งแล้วเคลื่อนหน้าไปหอมแก้มสากเบาๆ“จูบปากสิจ๊ะ เดี๋ยวนี้จูบเก่งแล้วนี่นา”ธีรดนย์ส่งสายตาหวานฉ่ำพร้อมอ้อนเสียงทุ้มนุ่ม ทว่า หญิงสาวส่ายหน้า ปลายนิ้วเรียวแตะปากได้รูปปราม“ไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวคุณดนย์เลยเถิด”“งั้นก็กินข้าวให้อิ่ม แล้วมาออกกำลังก่อนนอนกัน”“เฮ้อ...”หญ