ขณะออกจากห้องน้ำและชื่นชมรูปอยู่นั้น เนตราก็ชนเข้ากับใครบางคน โทรศัพท์หล่นจากมือ คนชนขอโทษเบาๆ เธอรีบคุกเข่าเก็บเครื่องมือสื่อสารชิ้นโปรด ลุกแล้วต้องรีบหลบนั่งต่อ เพราะคนกำลังเดินมาคือดุลยา
เนตราซุกแทบจะแนบหน้ากับแจกันประดับดอกไม้สดหน้าห้องน้ำ เธอให้คำตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่าจะหลบหน้าอีกฝ่ายทำไม
ดุลยาเข้าไปห้องหนึ่ง ไม่ทันไรก็มีผู้ชายอีกคนเดินตามไป เนตราอ้าปากค้าง ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่ชวินทร์ ทั้งสองหายไปสักครู่ ก่อนดุลยาเดินนวยนาดออกมา ผู้ชายคนนั้นตามออกมาแล้วยกมือเช็ดลิปติกที่ริมฝีปาก สีชมพูแบบเดียวแฟนชวินทร์!
เธอยกมือกุมหัวใจ หวังให้เต้นช้าลงสักหน่อย แต่เปล่าประโยชน์ มันยังรัวเป็นตีกลอง พร้อมสมองคิด ดุลยานอกใจชวินทร์
อย่าเลย...อาจเป็นการเข้าใจผิด มโนธรรมในด้านดีท้วงขึ้น แล้วลิปสติกบนปากผู้ชายอีกคนล่ะ เสียงไม่เบานักร้องค้านจากก้นบึ้งหัวใจ
เนตรารู้แน่อย่างหนึ่ง เธอเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นและไม่อาจบอกใครได้ ความลับอันจะนำความเจ็บปวดมาสู่ชวินทร์ แค่คิดว่าเขาจะเศร้า เธอกลับเศร้ายิ่งกว่า
“เป็นอะไรไป กินเยอะจนปวดท้องเหรอ” เธ
ปลายปีสามเนตราต้องไปฝึกงาน ทีแรกเธอจะไปฝึกงานที่เดียวกับปอ แต่ไกลบ้านมากคำนวณดูแล้วไม่คุ้มค่าใช้จ่าย เธอเลือกฝึกงานในแผนกบัญชีโรงงานแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมใกล้บ้านพี่ๆ ในแผนกใจดี โดยเฉพาะรุ่นพี่ที่ชื่อเก้ง เขาจบจากมหาวิทยาลัยทางภาคเหนือมาสองปี ถือเป็นน้องใหม่จึงเข้ากับเนตราได้ดี“คิ้วจะผูกเป็นโบว์ได้อยู่แล้ว ไป! ไปกินข้าวกัน”เขาเคาะโต๊ะทำงานเธอเบาๆ“อีกเดียวจะเสร็จแล้วค่ะ”เธอได้รับมอบหมายให้คีย์ข้อมูลจากแบบสอบถามความต้องการไปสัมมนานอกสถานที่ของแผนก“พอเถอะเซฟงานไว้ก่อน เดี๋ยวโต๊ะในโรงอาหารเต็มนะ วันนี้พี่จี๋เลี้ยงส้มตำด้วย”“เลี้ยงเนื่องในโอกาสอะไรคะ” มือกำลังพิมพ์งานชะงัก“วันเกิดแกน่ะ ไปเถอะอย่าให้ผู้ใหญ่รอ”เนตราเซฟงานปิดจอคอมพิวเตอร์ เดินตามเขาไป“รู้ไหมพี่จี๋ชมนะว่าในเด็กที่มาฝึกงานทั้งหมดเนี่ย ดาวขยันสุด”“อย่ายอกันสิพี่” เธอยกผมทัดหู พี่จี๋คือผู้จัดการแผนก“ดาวก็ทำงานเหมือนคนอื่นนั่นแหละค่ะ”
“ดาวดูๆ งานที่บริษัทไหนไว้”เนตราละสายตาจากบอร์ดประกาศใต้ตึกคณะ หันมาสนใจคนทัก“ดูไว้หลายที่ หาใกล้ๆ บ้านจะได้ประหยัดค่าเดินทาง โน้ตล่ะจะทำงานหรือว่าเรียนต่อโทเลย”นี่ก็ปีสี่เทอมสองแล้ว ทุกคนเริ่มคิดถึงอนาคต ฟลุ๊คกับปอตัดสินใจทำงานกับที่บ้านส้มสมัครคอร์สแต่งหน้าสั้นๆ แล้วหวังเก็บประสบการณ์จากการไปเป็นลูกมือช่างแต่งหน้าชื่อดัง แพรวจะกลับไปหางานที่บ้านต่างจังหวัด“ฉันกับแจงจะไปเรียนต่ออเมริกา”เธอก็เดาไว้เช่นนั้น ด้วยฐานะอย่างเขากับแฟนคงไม่เดือดร้อนเรื่องเงินกันหรอก“ดูๆ ยูที่สงบๆ ไว้ แต่แจงอยากเรียนในเมือง เลยต้องหาที่ตรงสเปคทั้งสองคน”“ขอให้โชคดีนะ ทั้งคู่เลย”เนตราอวยพรเพราะไม่รู้จะพูดอะไรดี รู้หรอกว่าคนแอบรักแตะต้องไม่ได้ แต่ได้ฟังจากปากว่าเขากำลังวางแผนทำอะไรเพื่อหญิงอื่น ในใจก็เจ็บแปลบปลาบ แย่จัง...เมื่อไรจะหายสักทีหนอ“ดาวอยากเรียนต่อไหม ที่บริษัทบ้านเรามีทุนให้พนักงานไปเรียนต่อนะ”อีกฝ่ายแนะนำอย่างหวังดี ด้วยไม่รู้ความนัย หรือรู้
สองวันหลังสอบวิชาสุดท้ายมีงานบายเนียร์ที่คณะ เนตรากับเพื่อนกลุ่มเดิมนั่งชมการแสดงของรุ่นน้องอยู่หน้าเวทีงานนี้สามารถดื่มสุราได้เต็มที่เพราะปีสามปีสี่บรรลุนิติภาวะแล้ว แต่เธอก็ไม่ดื่มด้วยกลัวเมาแล้วทำชุดสีเขียวมิ้นท์ที่เช่ามาเลอะชวินทร์เป็นตัวแทนรุ่นกล่าวขอบคุณน้องๆ เขาได้รับดอกไม้มากมาย และคนดึงตัวไปถ่ายรูปเต็มไปหมด“ถ่ายสักรูปไหมเป็นที่ระลึก”ฟลุ๊คที่นั่งเก้าอี้ข้างกันกระซิบ พยักพเยิดไปทางคนเนื้อหอม“อุตส่าห์แต่งตัวสวยมาทั้งที”เพื่อนก็แต่งหล่อมาไม่แพ้กันในเชิ๊ตสีฟ้ากับสูทเทา“ไม่ล่ะ แค่นี้ก็พอแล้ว”เนตราพยายามพยายามเก็บทุกอิริยาบถของชวินทร์ไว้ในความทรงจำ ก่อนเจ้าตัวจะบินลัดฟ้าไปอีกฟากทะเล นี่อาจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เจอเขา“ดาวอดทนเก่งจัง ถ้าเป็นฉันนะคงสารภาพรักไปนานแล้ว”คืนนี้ฟลุ๊คดื่มเหล้าผสมโค้ก หน้าเริ่มแดงนิดๆ เขาไม่ขับรถมา เผื่อใครจะไปต่อร้านอื่น กลับแท็กซี่สะดวกกว่า“ฉันขี้ขลาดเกินไปละมั้ง”“แต่ก็ดี จะได้ไม่ต้องไปเพิ่มสถิต
“ไม่ขายเหล้า แต่แค่เปิดเพลงก็ได้ พ่อมึงไม่มาจับหรอก กูมีเงิน”เขาเปิดกระเป๋าหยิบแบล็คการ์ดออกมาชู“เอาไปรูดเลยน้อง ชาร์ตเท่าไรก็ได้”“กลับเหอะโน้ต เดี๋ยวไปต่อที่คอนโดกูกัน”“ไม่เอา กูอยากได้ที่กว้างๆ”เขาปฎิเสธคำชวนเพื่อนพลางกระดกเหล้าในแก้วไปอีกอึก“จะได้เต้นให้หมดแรงไปเลย”“มึงดูมันหน่อยละกัน พวกกูกลับล่ะ ง่วง”ฟลุ๊คตัดบท กล่าวลา ปอรุนหลังให้เนตราเดินนำไป เพราะตาเธอยังมองชวินทร์อย่างกังวล พวกเธอกลับแท็กซี่ ส้มกับแพรวขึ้นคันเดียวกัน เธอไปกับปอ ฟลุ๊คนั่งอีกคันคนเดียว บ้านปอถึงก่อนเธอหลังเพื่อนลงจากรถ เนตราดูข้อความในไลน์ เพื่อนที่ยังอยู่ในร้านถ่ายคลิปชวินทร์ที่ตะโกนแข่งกับเสียงเพลงในร้าน ซึ่งกำลังเปิดเพลงใจนักเลงในอกแปลบปลาบ ลืมภาพเหตุในสวนไม่ได้สักที ขนาดเธอเป็นคนอื่นยังรู้สึกขนาดนี้ แล้วคนที่เกี่ยวข้องโดยตรงอย่างเขาล่ะ คลิปที่สองชวินทร์โวยวายใส่คนถ่ายว่าถ่ายทำไม“เมาเหมือนหมา”เพื่อนพิมพ์ความเห็น&ldq
“ไม่หมดขวด ไม่เลิก”ชวินทร์วางขวดว๊อดก้าดังปึงลงบนโต๊ะรับแขก รินใส่แก้วหนึ่งของเขา ส่วนอีกแก้วเนตรารีบฉวยมาใส่น้ำแร่ที่หาได้ในตู้เย็น“ดื่มเป็นเพื่อนกันดิ ถ้าจะอ้วกก็ไปห้องน้ำโน่น”“ไม่เอาอ่ะ มันทรมาน รู้ไหมคราวนั้นฉันแฮงค์เป็นวันๆ”“ไม่หัดดื่มไว้ เดี๋ยวก็โดนใครเขามอมเหล้าหรอก”เขากระดกเหล้าเพียวเข้าคอ“ใครอยากจะมอมฉันกัน เขาคงชอบคนสวยๆ มากกว่า”เธอจิบน้ำโซดาซ่านลิ้น“คนเรารสนิยมต่างกัน”“ยังไงคนสวยก็วินอยู่แล้ว”พยายามไม่ประชด แต่ปลายเสียงก็ยังฟังแล้วประชดอยู่ดี“อยู่กับคนสวยแล้วปวดหัว”ชวินทร์รินอีก เขายกแก้วคลึงไปมา“หมายถึงแฟนนายนะเหรอ”เขาหัวเราะหึ ดื่มเหล้า แล้วเริ่มรินใหม่“เหล้ามันไม่ได้ช่วยอะไรหรอกนะ”เธอติง เพราะเห็นเขาจัดการกับเจ้าของเหลวในขวดอย่างรวดเร็วเหมือนดื่มน้ำเปล่า“อย่างน้อยก็ช่วยให้หลับ”“พอตื่นขึ้นมาก็
“นายเรียกร้องความยุติธรรมผิดคนแล้ว โน่นต้องไปขอกับแฟนนาย เฮ้ย! เดี๋ยวก่อนโน้ต!”เนตราร้องห้ามลั่นเมื่อเขาหยิบมือถือมากดเลขหมาย นี่มันตีไหนแล้ว ใครจะมารับโทรศัพท์“ฮัลโหลแจง มาพูดกันให้รู้เรื่อง ที่นอกใจครั้งนี้โน้ตให้อภัย”ปลายสายพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาขมวดคิ้ว“อย่าเพิ่งวางสายนะแจง ถ้าไม่คุยกันให้รู้เรื่องโน้ตนอนไม่หลับ”ปลายสายตัดไป เขาพยายามกดใหม่ก็โอนเข้าสัญญาณตอบรับ“โธ่เว้ย!”สบถอย่างเดียวไม่พอ ยังปามือถือลงพื้น เนตราคอย่น กลัวอารมณ์ร้ายจะมาตกแก่คน คราวนี้เขายกขวดเหล้าขึ้นดื่มอักๆ“พอแล้วโน้ต เดี๋ยวก็ตายหรอก”เคยได้ยินข่าวคนตายเพราะตับแข็งจากเหล้าบ่อย สงสัยวันนี้จะได้เห็นคนตายทันทีเพราะดื่มมันมากไป“แจงทิ้งฉันแล้วว่ะดาว”พอเอาเหล้าออกจากปากเพื่อนก็เริ่มคร่ำครวญ“เขาบอกเมื่อกี้ว่า ...เราเลิกกัน”“ถ้าฉันมีแฟนแล้ว มันโทรหาทั้งที่เมาๆ กลางดึก ฉันก็ขอเลิกเหมือนกัน รำคาญ ขัดเวลานอน”เธอพยา
“โน้ต หยุดเถอะ”เธอห้ามเบาไม่ต่างกับกระซิบ บริเวณเขาสัมผัสทุกที่ก่อให้เกิดความซ่านกระสัน บางอย่างในตัวเธอเรียกร้อง ลุกขึ้นร่ายรำ บางอย่างที่เป็นสัญชาตญาณอยู่คู่มนุษย์มานานแสนนาน“อย่าทิ้งผมไป”คนพูดพึมพำกับหน้าอกสล้าง ขนาดกำลังพอดี ซึ่งถันเต็มเต่ง ปลายชูชัน ชวินทร์ทักทายมันด้วยชิวหาอ่อนนุ่ม แม้จะมีผ้าบังไว้อีกชั้น แต่เนตราก็รู้สึกแนบชิด จนอกเต้นร่า ขยับตามจังหวะปากเขาเธอรู้สึกถึงบางสิ่งโป่งพอง ขยับขยายใต้สะโพกตน เนตราหน้าแดงเมื่อคิดได้ว่านั่นคืออวัยวะส่วนใดในตัวเขา“โน้ต...”การพูดเรียกสติเขา กลับยิ่งทำให้เจ้าตัวเตลิด มือแข็งแรงกระชากชุดชีฟองบอบบางจนขาด เผยให้เห็นอกอิ่ม ขาวนวล เต็มตา“อุ๊ย!”ริมฝีปากชวินทร์งับเนื้อเน้นๆ ของเธออย่างมันเขี้ยว ทิ้งรอยแสดงความเป็นเจ้าของเนตราเพริศกับความรู้สึกใหม่ จนแหงนหน้าขึ้นกลั้นเสียง มือก็จิกบ่าเขา หูได้ยินเสียงแควกขาดของผ้า ก่อนพบว่าตนเหลือเพียงชั้นในตัวเดียวปกปิดส่วนสงวน“แจงสวยเหมือนเดิม”“ฉันไม่ใช่แจง
“เฮ้ย! ดาว ตื่น!”เนตราบิดกาย ค่อยๆ ปรือเปลือกตาขึ้น ใครนะ ใครกัน มาปลุกให้ตื่นจากฝันแสนสุข“ลุกขึ้นมาคุยกันเร็ว!” คนในฝันยืนกอดอกจังก้ากลางห้องนั่งเล่น“หือ...” เธอครางพลางลุกขึ้น ผ้าที่คลุมไว้เลื่อนหลุด เสียดสีจนปลายปทุมตั้งเต้า“จัดการตัวเองซะ”ชวินทร์หันหลังให้ เธอมองของสงวนที่อวดสัดส่วนแอร่มแล้วอ้าปากค้าง ไม่ใช่ความฝัน เธอกับชวินทร์ทำมันลงไปแล้วจริงๆ ...เซ็กส์เนตราหยิบเสื้อเชิ้ตกางเกงวอร์มที่เขาวางให้บนโต๊ะ รีบสวมมือสั่น ชวินทร์เปลือยครึ่งบน ข้างล่างสวมกางเกงตัวเดิมกับเมื่อคืน แผ่นหลังเต็มไปด้วยรอยข่วนแดงเป็นทางยาว ยิ่งตอกย้ำความจริงที่เกิดขึ้น“เธอแต่งตัวเสร็จหรือยัง”“เสร็จแล้ว”เขาจึงหันหน้ากลับมา ทั้งสองจ้องหน้ากันนิ่ง เหมือนเกมที่ตัดสินแพ้ชนะจากใครจะหมดความอดทน จนต้องพูดก่อน“เมื่อคืนฉันเมามาก จำอะไรไม่ได้เลย นึกว่าเธอกลับไปแล้วซะอีก”ทั้งสีหน้าและแววตาหมางเมินอย่างเห็นได้ชัด“ทำไมเธอยังอยู่”
“จะซื้ออะไรหนักหนา”เนตราบ่นคนหยิบอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งใส่ตะกร้าหิ้ว หลังพาไปโรงพยาบาลเขาเลี้ยวรถเข้าร้านสะดวกซื้อใกล้บ้านเธอ“อาหารอ่อนๆ ไง ปากตุ่ยอย่างนี้จะทำอะไรได้ กินอย่างนี้แหละ เอาเข้าไมโครเวฟง่ายดี หรือจะให้ฉันมาทำกับข้าวให้ล่ะ”เธอค้อน พอสารภาพรักแล้วชวินทร์ไม่อายเลยที่จะแสดงสิทธิ์ ในโรงพยาบาลก็ทีแล้ว นั่งเบียดชิดกระแซะ เข้าห้องไปฟังหมอซักอาการเธอด้วย“จะกินนมแบบไหน นมวัวหรือถั่วเหลือง เอาไว้แก้หิว”เขาเคาะนิ้วลังเลระหว่างแพ็คนมยูเอชที“ไม่ต้องซื้อของตุนเยอะหรอก พรุ่งนี้ฉันจะไปทำงานแล้ว”เธอหยิบนมถั่วเหลืองหนึ่งแพ็ค คิดได้ว่าที่มีในบ้านเหลือไม่กี่กล่อง สำรองเอาไว้นิดก็ดี“พักอีกก็ได้ เดี๋ยวฉันบอกแปงให้”ชวินทร์บอกเหมือนเรื่องเล็กน้อย แต่สำหรับเนตราแล้วไม่เล็กเลย“ฉันขาดงานมาหลายวันแล้ว ที่ออฟฟิศคงยุ่ง เกรงใจคุณแปง”“ที่พูดน่ะ ดูตัวเองด้วย ปากแตกอย่างนี้น่ะนะ แปงมันคงไม่ใจดำให้คนเจ็บทำงานหรอก”“ปากฉันเจ็
“โน้ต อย่านะ!”เนตรากอดแขนชวินทร์ไว้แน่น สุชัจจ์ได้ที ดีดตัวลุกขึ้นเหวี่ยงหมัดหวังโจมตีใบหน้า เธอมาขวางไว้จึงโดนลูกหลงเต็มๆ ร่วงลงไปกองกับพื้น“ดาว!”สองหนุ่มอุทานพร้อมกัน ชวินทร์อยู่ใกล้กว่า ปรี่เข้าประคองร่างเล็กที่ใบหน้าช้ำไปข้างหนึ่ง มีเลือดซึม บริเวณมุมปาก“พี่อาร์มพอก่อนค่ะ อย่าใช้กำลัง”ในปากเธอร้าวเหมือนจะแตก ส่วนที่โดนลูกหลงชาวาบแล้วค่อยทวีความปวด มือใหญ่คลำรอยบนแก้มทะนุถนอม ตาเข้ม กัดฟันกรอด ฮึดฮัดจะลุกขึ้นเอาคืน เนตราเกาะแขนเขาแน่นเป็นตุ๊กแก“พอแล้วโน้ต อย่ามีเรื่องกันอีกเลย โอ้ย!”เธอเสียงอู้อี้ แล้วยกมือลูบแก้ม เพราะแขนเขาไหวมากระทบส่วนที่ปวด ชวินทร์ชะงักกึก“เจ็บมากเหรอ เดี๋ยวพาไปโรงพยาบาลนะ ยัยบ้าเอ๊ย! เอาตัวมาขวางทำไม”ปากบ่น แต่สุชัจจ์เห็นความอาทรในดวงตาชายหนุ่ม“อย่ามาทำตัวอันธพาลแถวนี้”ประกอบกับท่าทีตัดพ้อของหญิงสาว เขาไม่ใช่คนโง่จนคิดไม่ออก“มาว่ากันได้ยังไง ฉันเอายามาให้นะ หมอนี่ต่างหากที่กวนตีนก
“เธอจะโทรไปหาใครก็โทรเลย ฉันจะได้บอกทุกคนเรื่องของเรา”เขาแสยะยิ้ม“ไม่มีเรื่องของเรา”“เรื่องหัวหินแล้วก็เช้าวันนั้นที่ตลาด ไม่คิดเหรอว่ามันอาจจะช้าเกินไป”เนตราหน้าซีด ในสมองคำนวณสิ่งที่เกิดขึ้นประจำทุกเดือนอย่างกังวล“ปฏิเสธหมอนั่นไปซะ มันไม่ใช่คนใจดีพอจะเลี้ยงลูกคนอื่นหรอก”“พี่อาร์มไม่เลวเหมือนคุณ!”“พนันกันไหมล่ะ จะให้ผมบอกหรือให้ดาวบอก”เขากอดอกยียวน เมื่อรู้ว่าตนเองเป็นต่อ“ชั่วที่สุด”อยากบริภาษให้แรงกว่านี้ แต่สมองตื้อไปหมด“ผมยอมรับผลของการกระทำ ดาวล่ะ”อาจจะผิดจากที่คิดได้เมื่อครู่ แต่เขารู้สึกสบายใจได้เปลาะหนึ่ง เธอจะไม่ตอบตกลงแต่งงานกับสุชัจจ์ในเร็ววันนี้แน่“ออกไป ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ!”“บางทีดาวอาจจะได้เห็นทั้งหน้าผมทั้งหน้าลูกตลอดชีวิตเลยก็ได้”ชวินทร์หัวเราะ สตาร์ทรถออกไปอาการปวดหัวกลับมาอีกครา เธอเดินไปมาในบ้านเหมือนหนูติดจั่น ชวินทร์
การอาบน้ำนอกจากช่วยให้เนตราสดชื่น ยังขจัดเมฆหมอกที่รบกวนจิตใจในหลายวันนี้มลายหายไปด้วย เธอเข้าใจจุดประสงค์ของชวินทร์แล้วเขาต้องการปกป้องฉัตรบรรณ แต่อุบัติเหตุก็เกิดขึ้นถูกที่ถูกเวลา เขาจึงเล่นตามน้ำ สวมรอยว่าเป็นแฟนเธอ จนเลยเถิดถึงขนาดมีอะไรกัน ...นำความร้าวรานมาสู่เธออีกคราเสียงกดออดหน้าบ้านดึงสติกลับสู่ปัจจุบัน เธอรีบสวมชุดอยู่บ้านสบายๆ ออกมาดูแขกในยามสาย สุชัจจ์ยืนยิ้มพร้อมในมือมีถุงของใบเขื่อง“พี่เดาถูกจริงๆ ว่าดาวยังไม่กลับไปทำงาน”“ไม่เป็นไร คุณแปงบอกแล้วว่าสบายใจเมื่อไรค่อยไป”เนตราเคยโกหกเขาว่าเริ่มเบื่องานเพราะทำมาตั้งหกปีแล้ว เลยอยากใช้เวลาอยู่กับตัวเองเพื่อจะตัดสินใจว่าจะไปต่อหรือหางานใหม่“วันนี้พี่อาร์มไม่เข้าออฟฟิศเหรอคะ”สุชัชจ์ทำงานบริษัทรถยนต์อยู่ในตำแหน่งฝ่ายขายอาวุโส“จะเข้าบ่ายๆ นะจ๊ะ พี่เอาขนมจากญี่ปุ่นมาฝาก”ก่อนเกิดอุบัติเหตุ สุชัชจ์ไปญี่ปุ่นกับบริษัท เขายังไลน์มาถามเธอเลยว่าอยากได้เครื่องสำอางไหม“ขอบคุณค่ะ”แฟนเธอเป็นคนน
“ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณแปงค่ะ”เธอรวบรวมความกล้า เข้ามายืนตรงหน้าเจ้านาย“เรื่อง?”ฉัตรบรรณมองลอดแว่น นิ้วพรมไปตามคีย์บอร์ดโน้ตบุค“มีข่าวเรื่องฉัน คิดว่าคุณแปงคงจะรู้แล้ว”เจ้านายชะงัก“ผมไม่อยากสนใจเรื่องส่วนตัวของคุณ ถ้ามันไม่ได้มีญาติผมอย่างโน้ตมาเกี่ยวด้วย”ความเงียบเคลื่อนมาเป็นเจ้าเรือนในห้องนั้น ต่างคนมองตา เนตราใจเสีย หน้าเหลือสองนิ้ว เจ้านายรู้เรื่องแล้วจริงๆ ...แต่รู้แค่ไหนกันล่ะ“ถ้าดาวไม่สะดวกเล่าก็ไม่เป็นไร”ฉัตรบรรณยกมือขึ้นประสานวางเหนือโน้ตบุคที่ปิดลง ห้วงเวลาแห่งความยากลำบากมาถึง สมองสรรหาคำพูดอย่างหนักเพื่ออธิบายเรื่องเมื่อหกปีที่แล้ว“ฉันเคยนอนกับคุณโน้ตค่ะ”เนตราเม้มริมฝีปาก รอฟังว่าเขาจะถามอะไรต่อ ฉัตรบรรณเพียงมองเธอนิ่ง“แต่ฉันไม่ได้แย่งคุณโน้ตมาจากคุณแจงนะคะ มันเป็นอุบัติเหตุ เราเมาทั้งคู่”ให้เป็นเหตุผลนี้จะดีกว่า เขาเมาสุรา แค่เธอเมารัก“แล้วเราก็ไม่ได้คบกันด้วย”
“เล่ามาเถอะค่ะเจ้ ก่อนที่คุณแปงรู้เองแล้วมันจะเป็นเรื่อง”เนตราเลือกเจ้านายมาอ้าง ปลายสายทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอก่อนร่าย“ดาวเคยแย่งคุณโน้ตมาจากแฟนเก่าเขาใช่ไหม”“พี่ไปเอาข่าวมาจากไหน”เธอตาโต ในอกบีบรัดแน่นแทบระเบิด“ลือกัน ตั้งแต่เมื่อคืน เจ้ก็ฟังเขามาอีกที”มือกำแน่นเล็บจิกกลางฝ่ามือ จนน่ากลัวจะเป็นแผล“แล้วจริงไหม...หือ”เธอวางโทรศัพท์ลง สูดลมหายใจลึกๆ สะกดกลั้นอารมณ์พลุ่งพล่าน ไม่นึกเลยว่าผลการกระทำในคืนนั้นจะมาหลอกหลอนเพียงนี้ ข่าวแพร่มาที่ทำงานได้อย่างไร“บอกป้าหวานให้ชงกาแฟเข้มๆ ให้ผมถ้วยหนึ่ง”ฉัตรบรรณละจากการคุยมือถือ สั่งเธอก่อนเดินเข้าห้องไป แม่บ้านเอาของที่สั่งมาเสิร์ฟ ปรายตาดูเธอที่หน้าเครียดอยู่ กำลังจะขยับปาก เจ้านายก็เปิดประตูเรียก“ดาวมานี่หน่อย”ท้ายทอยเธอชาวาบ เลือดในกายแข็งไปหมด ฉัตรบรรณรู้เรื่องข่าวแล้วหรืออย่างไร“ช่วยดูให้หน่อยว่างานสัปดาห์นี้มีอะไรเลื่อนไปได้บ้าง ผมจะไปพัทยาเย็นวันศุก
ร่างในเสื้อคอปาดแขนยาวขาว กระโปรงทรงดินสอสีแดง เดินมาหยุดตรงหน้าโต๊ะเนตรา“คุณแปงอยู่ไหม”เจมิลลาสวมแว่นกันแดดสีชา เสียงนิ่ง ยากจะเดาความรู้สึก“กำลังคุยกับฝ่ายดีเวลล็อปเปอร์อยู่ค่ะ คงสักพักถึงจะเสร็จ”“แล้วคุณดาวไม่ประชุมด้วยเหรอคะ”ศีรษะปกคลุมด้วยผมย้อมสีน้ำตาลทองยาวถึงกลางหลัง ชะเง้อไปมองทางห้องทำงานคนรัก“เรื่องระบบฉันไม่ค่อยรู้เรื่อง เดี๋ยวคุณแปงก็ย่อให้ฟังอีกที แล้วค่อยทำรายงานการประชุมส่ง ระหว่างนี้รอรับโทรศัพท์ดีกว่าค่ะ”เธอผายมือไปทางชุดรับแขกขนาดกะทัดรัดหน้าห้อง“เชิญคุณเจมี่นั่งรอก่อนนะคะ”“อยากคุยกับคุณดาวมากกว่า”“คะ”“ดื่มกาแฟ คุยกันตามประสาผู้หญิงน่ะค่ะ”เจมิลลายิ้ม เดินไปนั่งที่ชุดรับแขก คนรักของฉัตรบรรณเป็นคนน่ารัก และเนตรารู้จักเพียงผิวเผิน ขนาดจะมาจิบกาแฟเม้าท์มอยนี่ก็ไม่เคย“มาสิคะ”อีกฝ่ายเร่ง เลื่อนแว่นคาดศีรษะ พยักหน้าไปยังเก้าอี้ตัวข้างกัน“คุณ
“ดาวซื้อไอ้นั่นมาหรือยัง”ฉัตรบรรณยืนอยู่หลังโต๊ะทำงาน ยกนิ้วขึ้น ทำท่าจะพูดอะไรแต่ติดอยู่ที่ริมฝีปาก ชวินทร์นั่งเก้าอี้ตัวตรงข้ามบนตักมีโน้ตบุค แสดงกราฟข้อมูล“สายชาร์ตไอแพ็ดอันใหม่ซื้อให้แล้วค่ะ อยู่ในลิ้นชักโต๊ะอันกลาง”เธอเอาแฟ้มงานต้องอนุมัติด่วนมาให้เขาเซ็น“บ่ายสองวันนี้...เลื่อนสัมภาษณ์นะคะ ฉันเลยจองสปาที่คุณเจมี่เคยแนะนำไปไว้ให้ เธอดีใจมาก เดี๋ยวจะให้คนเอาแบล๊คไทน์ออกงานคืนนี้ไปให้ที่นั่นเลยค่ะ จะได้ไปรับคุณเจมี่ทันเวลา”เนตราเอ่ยชื่อสื่อออนไลน์ยักษ์ใหญ่ในต้นประโยค แล้วจบท้ายด้วยเรื่องเกี่ยวข้องเจมิลลา...คู่หมั้นเขา“เลขาฯมึงรู้งานดีจังว่ะแปง”ชวินทร์ชมเหมือนเยาะ เพราะมีเสียงหึตามมาด้วย“แหงล่ะ เลขาฯดีๆ ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ”ฉัตรบรรณเปิดลิ้นชักหาของที่ต้องการ แล้วก็เจอจริงๆ“ว่างๆ ขอยืมตัวไปใช้ตอนทำโปรเจ็คบ้างสิ”ตาคมปลาบราวกับจะเฉือนเธอเป็นชิ้นๆ“เรื่องอะไร เลขาฯก็หาเองสิ”“เรื่องอย่างนี้มันต้
เนตรากะพริบตาปริบๆ ไล่ความง่วงงุนจากนิทรารมย์ออก กายค่อยขยับคลายความเมื่อยขบแดดยามเช้าส่องลอดกระจกหน้าต่างเข้ามา เธอเผลอหลับกลางห้องรับแขก ท่ามกลางอัลบั้มรูปที่เปิดกางหกปี...เธอเคยคิดว่าตัวเองก้าวผ่านเรื่องเขามาแล้ว แต่ชวินทร์ยังตามตอแยเธอไม่เลิก หลอกหลอนทั้งในความจริงและความฝันใครล่ะจะคิดว่าเธอ ชวินทร์ ดุลยา จะมาเจอกันที่บริษัทของฉัตรบรรณเนตราได้งานเลขาฯด้วยฉัตรบรรณให้โอกาสเด็กจบใหม่อย่างเธอ แรกๆ งานเต็มไปด้วยความขัดข้อง แต่หลายปีถัดไปอะไรก็เข้าที่เข้าทางฉัตรบรรณเป็นเจ้านายที่ดีและเนตราก็รักงานที่ทำอยู่ กระทั่งฉัตรบรรณไปเจรจาเป็นพันธมิตรกับนรธิปคนทั้งบริษัทดีใจมากที่ได้สัญญาธุรกิจนี้ เพราะบริษัทฉัตรบรรณเป็นสตาร์ทอัพแอปพลิเคชันเกี่ยวร้านอาหารการได้พันธมิตรที่แข็งแกร่งและมีเครือข่ายธุรกิจมากมาย เป็นการประชาสัมพันธ์บริษัทให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นวันเซ็นสัญญามีนักข่าวมาทำข่าวเยอะ และที่สำคัญคือการปรากฏตัวของดุลยา...ในฐานะคนรักของนรธิป เนตราจำได้ในวินาทีนั้นเอง นรธิปคือคนที่จูบกับดุลยาในคืนงานเลี้ยงอำลาหลังจากที