ขณะออกจากห้องน้ำและชื่นชมรูปอยู่นั้น เนตราก็ชนเข้ากับใครบางคน โทรศัพท์หล่นจากมือ คนชนขอโทษเบาๆ เธอรีบคุกเข่าเก็บเครื่องมือสื่อสารชิ้นโปรด ลุกแล้วต้องรีบหลบนั่งต่อ เพราะคนกำลังเดินมาคือดุลยา
เนตราซุกแทบจะแนบหน้ากับแจกันประดับดอกไม้สดหน้าห้องน้ำ เธอให้คำตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่าจะหลบหน้าอีกฝ่ายทำไม
ดุลยาเข้าไปห้องหนึ่ง ไม่ทันไรก็มีผู้ชายอีกคนเดินตามไป เนตราอ้าปากค้าง ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่ชวินทร์ ทั้งสองหายไปสักครู่ ก่อนดุลยาเดินนวยนาดออกมา ผู้ชายคนนั้นตามออกมาแล้วยกมือเช็ดลิปติกที่ริมฝีปาก สีชมพูแบบเดียวแฟนชวินทร์!
เธอยกมือกุมหัวใจ หวังให้เต้นช้าลงสักหน่อย แต่เปล่าประโยชน์ มันยังรัวเป็นตีกลอง พร้อมสมองคิด ดุลยานอกใจชวินทร์
อย่าเลย...อาจเป็นการเข้าใจผิด มโนธรรมในด้านดีท้วงขึ้น แล้วลิปสติกบนปากผู้ชายอีกคนล่ะ เสียงไม่เบานักร้องค้านจากก้นบึ้งหัวใจ
เนตรารู้แน่อย่างหนึ่ง เธอเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นและไม่อาจบอกใครได้ ความลับอันจะนำความเจ็บปวดมาสู่ชวินทร์ แค่คิดว่าเขาจะเศร้า เธอกลับเศร้ายิ่งกว่า
“เป็นอะไรไป กินเยอะจนปวดท้องเหรอ” เธ
ปลายปีสามเนตราต้องไปฝึกงาน ทีแรกเธอจะไปฝึกงานที่เดียวกับปอ แต่ไกลบ้านมากคำนวณดูแล้วไม่คุ้มค่าใช้จ่าย เธอเลือกฝึกงานในแผนกบัญชีโรงงานแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมใกล้บ้านพี่ๆ ในแผนกใจดี โดยเฉพาะรุ่นพี่ที่ชื่อเก้ง เขาจบจากมหาวิทยาลัยทางภาคเหนือมาสองปี ถือเป็นน้องใหม่จึงเข้ากับเนตราได้ดี“คิ้วจะผูกเป็นโบว์ได้อยู่แล้ว ไป! ไปกินข้าวกัน”เขาเคาะโต๊ะทำงานเธอเบาๆ“อีกเดียวจะเสร็จแล้วค่ะ”เธอได้รับมอบหมายให้คีย์ข้อมูลจากแบบสอบถามความต้องการไปสัมมนานอกสถานที่ของแผนก“พอเถอะเซฟงานไว้ก่อน เดี๋ยวโต๊ะในโรงอาหารเต็มนะ วันนี้พี่จี๋เลี้ยงส้มตำด้วย”“เลี้ยงเนื่องในโอกาสอะไรคะ” มือกำลังพิมพ์งานชะงัก“วันเกิดแกน่ะ ไปเถอะอย่าให้ผู้ใหญ่รอ”เนตราเซฟงานปิดจอคอมพิวเตอร์ เดินตามเขาไป“รู้ไหมพี่จี๋ชมนะว่าในเด็กที่มาฝึกงานทั้งหมดเนี่ย ดาวขยันสุด”“อย่ายอกันสิพี่” เธอยกผมทัดหู พี่จี๋คือผู้จัดการแผนก“ดาวก็ทำงานเหมือนคนอื่นนั่นแหละค่ะ”
“ดาวดูๆ งานที่บริษัทไหนไว้”เนตราละสายตาจากบอร์ดประกาศใต้ตึกคณะ หันมาสนใจคนทัก“ดูไว้หลายที่ หาใกล้ๆ บ้านจะได้ประหยัดค่าเดินทาง โน้ตล่ะจะทำงานหรือว่าเรียนต่อโทเลย”นี่ก็ปีสี่เทอมสองแล้ว ทุกคนเริ่มคิดถึงอนาคต ฟลุ๊คกับปอตัดสินใจทำงานกับที่บ้านส้มสมัครคอร์สแต่งหน้าสั้นๆ แล้วหวังเก็บประสบการณ์จากการไปเป็นลูกมือช่างแต่งหน้าชื่อดัง แพรวจะกลับไปหางานที่บ้านต่างจังหวัด“ฉันกับแจงจะไปเรียนต่ออเมริกา”เธอก็เดาไว้เช่นนั้น ด้วยฐานะอย่างเขากับแฟนคงไม่เดือดร้อนเรื่องเงินกันหรอก“ดูๆ ยูที่สงบๆ ไว้ แต่แจงอยากเรียนในเมือง เลยต้องหาที่ตรงสเปคทั้งสองคน”“ขอให้โชคดีนะ ทั้งคู่เลย”เนตราอวยพรเพราะไม่รู้จะพูดอะไรดี รู้หรอกว่าคนแอบรักแตะต้องไม่ได้ แต่ได้ฟังจากปากว่าเขากำลังวางแผนทำอะไรเพื่อหญิงอื่น ในใจก็เจ็บแปลบปลาบ แย่จัง...เมื่อไรจะหายสักทีหนอ“ดาวอยากเรียนต่อไหม ที่บริษัทบ้านเรามีทุนให้พนักงานไปเรียนต่อนะ”อีกฝ่ายแนะนำอย่างหวังดี ด้วยไม่รู้ความนัย หรือรู้
สองวันหลังสอบวิชาสุดท้ายมีงานบายเนียร์ที่คณะ เนตรากับเพื่อนกลุ่มเดิมนั่งชมการแสดงของรุ่นน้องอยู่หน้าเวทีงานนี้สามารถดื่มสุราได้เต็มที่เพราะปีสามปีสี่บรรลุนิติภาวะแล้ว แต่เธอก็ไม่ดื่มด้วยกลัวเมาแล้วทำชุดสีเขียวมิ้นท์ที่เช่ามาเลอะชวินทร์เป็นตัวแทนรุ่นกล่าวขอบคุณน้องๆ เขาได้รับดอกไม้มากมาย และคนดึงตัวไปถ่ายรูปเต็มไปหมด“ถ่ายสักรูปไหมเป็นที่ระลึก”ฟลุ๊คที่นั่งเก้าอี้ข้างกันกระซิบ พยักพเยิดไปทางคนเนื้อหอม“อุตส่าห์แต่งตัวสวยมาทั้งที”เพื่อนก็แต่งหล่อมาไม่แพ้กันในเชิ๊ตสีฟ้ากับสูทเทา“ไม่ล่ะ แค่นี้ก็พอแล้ว”เนตราพยายามพยายามเก็บทุกอิริยาบถของชวินทร์ไว้ในความทรงจำ ก่อนเจ้าตัวจะบินลัดฟ้าไปอีกฟากทะเล นี่อาจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เจอเขา“ดาวอดทนเก่งจัง ถ้าเป็นฉันนะคงสารภาพรักไปนานแล้ว”คืนนี้ฟลุ๊คดื่มเหล้าผสมโค้ก หน้าเริ่มแดงนิดๆ เขาไม่ขับรถมา เผื่อใครจะไปต่อร้านอื่น กลับแท็กซี่สะดวกกว่า“ฉันขี้ขลาดเกินไปละมั้ง”“แต่ก็ดี จะได้ไม่ต้องไปเพิ่มสถิต
“ไม่ขายเหล้า แต่แค่เปิดเพลงก็ได้ พ่อมึงไม่มาจับหรอก กูมีเงิน”เขาเปิดกระเป๋าหยิบแบล็คการ์ดออกมาชู“เอาไปรูดเลยน้อง ชาร์ตเท่าไรก็ได้”“กลับเหอะโน้ต เดี๋ยวไปต่อที่คอนโดกูกัน”“ไม่เอา กูอยากได้ที่กว้างๆ”เขาปฎิเสธคำชวนเพื่อนพลางกระดกเหล้าในแก้วไปอีกอึก“จะได้เต้นให้หมดแรงไปเลย”“มึงดูมันหน่อยละกัน พวกกูกลับล่ะ ง่วง”ฟลุ๊คตัดบท กล่าวลา ปอรุนหลังให้เนตราเดินนำไป เพราะตาเธอยังมองชวินทร์อย่างกังวล พวกเธอกลับแท็กซี่ ส้มกับแพรวขึ้นคันเดียวกัน เธอไปกับปอ ฟลุ๊คนั่งอีกคันคนเดียว บ้านปอถึงก่อนเธอหลังเพื่อนลงจากรถ เนตราดูข้อความในไลน์ เพื่อนที่ยังอยู่ในร้านถ่ายคลิปชวินทร์ที่ตะโกนแข่งกับเสียงเพลงในร้าน ซึ่งกำลังเปิดเพลงใจนักเลงในอกแปลบปลาบ ลืมภาพเหตุในสวนไม่ได้สักที ขนาดเธอเป็นคนอื่นยังรู้สึกขนาดนี้ แล้วคนที่เกี่ยวข้องโดยตรงอย่างเขาล่ะ คลิปที่สองชวินทร์โวยวายใส่คนถ่ายว่าถ่ายทำไม“เมาเหมือนหมา”เพื่อนพิมพ์ความเห็น&ldq
“ไม่หมดขวด ไม่เลิก”ชวินทร์วางขวดว๊อดก้าดังปึงลงบนโต๊ะรับแขก รินใส่แก้วหนึ่งของเขา ส่วนอีกแก้วเนตรารีบฉวยมาใส่น้ำแร่ที่หาได้ในตู้เย็น“ดื่มเป็นเพื่อนกันดิ ถ้าจะอ้วกก็ไปห้องน้ำโน่น”“ไม่เอาอ่ะ มันทรมาน รู้ไหมคราวนั้นฉันแฮงค์เป็นวันๆ”“ไม่หัดดื่มไว้ เดี๋ยวก็โดนใครเขามอมเหล้าหรอก”เขากระดกเหล้าเพียวเข้าคอ“ใครอยากจะมอมฉันกัน เขาคงชอบคนสวยๆ มากกว่า”เธอจิบน้ำโซดาซ่านลิ้น“คนเรารสนิยมต่างกัน”“ยังไงคนสวยก็วินอยู่แล้ว”พยายามไม่ประชด แต่ปลายเสียงก็ยังฟังแล้วประชดอยู่ดี“อยู่กับคนสวยแล้วปวดหัว”ชวินทร์รินอีก เขายกแก้วคลึงไปมา“หมายถึงแฟนนายนะเหรอ”เขาหัวเราะหึ ดื่มเหล้า แล้วเริ่มรินใหม่“เหล้ามันไม่ได้ช่วยอะไรหรอกนะ”เธอติง เพราะเห็นเขาจัดการกับเจ้าของเหลวในขวดอย่างรวดเร็วเหมือนดื่มน้ำเปล่า“อย่างน้อยก็ช่วยให้หลับ”“พอตื่นขึ้นมาก็
“นายเรียกร้องความยุติธรรมผิดคนแล้ว โน่นต้องไปขอกับแฟนนาย เฮ้ย! เดี๋ยวก่อนโน้ต!”เนตราร้องห้ามลั่นเมื่อเขาหยิบมือถือมากดเลขหมาย นี่มันตีไหนแล้ว ใครจะมารับโทรศัพท์“ฮัลโหลแจง มาพูดกันให้รู้เรื่อง ที่นอกใจครั้งนี้โน้ตให้อภัย”ปลายสายพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาขมวดคิ้ว“อย่าเพิ่งวางสายนะแจง ถ้าไม่คุยกันให้รู้เรื่องโน้ตนอนไม่หลับ”ปลายสายตัดไป เขาพยายามกดใหม่ก็โอนเข้าสัญญาณตอบรับ“โธ่เว้ย!”สบถอย่างเดียวไม่พอ ยังปามือถือลงพื้น เนตราคอย่น กลัวอารมณ์ร้ายจะมาตกแก่คน คราวนี้เขายกขวดเหล้าขึ้นดื่มอักๆ“พอแล้วโน้ต เดี๋ยวก็ตายหรอก”เคยได้ยินข่าวคนตายเพราะตับแข็งจากเหล้าบ่อย สงสัยวันนี้จะได้เห็นคนตายทันทีเพราะดื่มมันมากไป“แจงทิ้งฉันแล้วว่ะดาว”พอเอาเหล้าออกจากปากเพื่อนก็เริ่มคร่ำครวญ“เขาบอกเมื่อกี้ว่า ...เราเลิกกัน”“ถ้าฉันมีแฟนแล้ว มันโทรหาทั้งที่เมาๆ กลางดึก ฉันก็ขอเลิกเหมือนกัน รำคาญ ขัดเวลานอน”เธอพยา
“โน้ต หยุดเถอะ”เธอห้ามเบาไม่ต่างกับกระซิบ บริเวณเขาสัมผัสทุกที่ก่อให้เกิดความซ่านกระสัน บางอย่างในตัวเธอเรียกร้อง ลุกขึ้นร่ายรำ บางอย่างที่เป็นสัญชาตญาณอยู่คู่มนุษย์มานานแสนนาน“อย่าทิ้งผมไป”คนพูดพึมพำกับหน้าอกสล้าง ขนาดกำลังพอดี ซึ่งถันเต็มเต่ง ปลายชูชัน ชวินทร์ทักทายมันด้วยชิวหาอ่อนนุ่ม แม้จะมีผ้าบังไว้อีกชั้น แต่เนตราก็รู้สึกแนบชิด จนอกเต้นร่า ขยับตามจังหวะปากเขาเธอรู้สึกถึงบางสิ่งโป่งพอง ขยับขยายใต้สะโพกตน เนตราหน้าแดงเมื่อคิดได้ว่านั่นคืออวัยวะส่วนใดในตัวเขา“โน้ต...”การพูดเรียกสติเขา กลับยิ่งทำให้เจ้าตัวเตลิด มือแข็งแรงกระชากชุดชีฟองบอบบางจนขาด เผยให้เห็นอกอิ่ม ขาวนวล เต็มตา“อุ๊ย!”ริมฝีปากชวินทร์งับเนื้อเน้นๆ ของเธออย่างมันเขี้ยว ทิ้งรอยแสดงความเป็นเจ้าของเนตราเพริศกับความรู้สึกใหม่ จนแหงนหน้าขึ้นกลั้นเสียง มือก็จิกบ่าเขา หูได้ยินเสียงแควกขาดของผ้า ก่อนพบว่าตนเหลือเพียงชั้นในตัวเดียวปกปิดส่วนสงวน“แจงสวยเหมือนเดิม”“ฉันไม่ใช่แจง
“เฮ้ย! ดาว ตื่น!”เนตราบิดกาย ค่อยๆ ปรือเปลือกตาขึ้น ใครนะ ใครกัน มาปลุกให้ตื่นจากฝันแสนสุข“ลุกขึ้นมาคุยกันเร็ว!” คนในฝันยืนกอดอกจังก้ากลางห้องนั่งเล่น“หือ...” เธอครางพลางลุกขึ้น ผ้าที่คลุมไว้เลื่อนหลุด เสียดสีจนปลายปทุมตั้งเต้า“จัดการตัวเองซะ”ชวินทร์หันหลังให้ เธอมองของสงวนที่อวดสัดส่วนแอร่มแล้วอ้าปากค้าง ไม่ใช่ความฝัน เธอกับชวินทร์ทำมันลงไปแล้วจริงๆ ...เซ็กส์เนตราหยิบเสื้อเชิ้ตกางเกงวอร์มที่เขาวางให้บนโต๊ะ รีบสวมมือสั่น ชวินทร์เปลือยครึ่งบน ข้างล่างสวมกางเกงตัวเดิมกับเมื่อคืน แผ่นหลังเต็มไปด้วยรอยข่วนแดงเป็นทางยาว ยิ่งตอกย้ำความจริงที่เกิดขึ้น“เธอแต่งตัวเสร็จหรือยัง”“เสร็จแล้ว”เขาจึงหันหน้ากลับมา ทั้งสองจ้องหน้ากันนิ่ง เหมือนเกมที่ตัดสินแพ้ชนะจากใครจะหมดความอดทน จนต้องพูดก่อน“เมื่อคืนฉันเมามาก จำอะไรไม่ได้เลย นึกว่าเธอกลับไปแล้วซะอีก”ทั้งสีหน้าและแววตาหมางเมินอย่างเห็นได้ชัด“ทำไมเธอยังอยู่”
“ไม่เจอกันกี่ปีนะ หกปีแล้วใช่ไหม นายเป็นยังไงบ้าง”ฟลุ๊คถามไถ่เริ่มต้นบทสนทนา“ก็ดี ฉันดูแลกิจการครอบครัว”“ถามจริงกับดาวนี่ นายกะจริงจังกับเขานานขนาดไหน”นิ้วเรียวแกร่งที่กำลังจะกดปุ่มเลือกกาแฟจากตู้ชะงัก ดวงตาฟลุ๊คแสดงความไม่เชื่อใจฉายชัด“ถามอย่างนี้มีเคืองนะเว้ย มาต่อยกันดีกว่า”ชวินทร์มองหน้าอีกฝ่ายหมิ่นๆ“ไม่เอาล่ะ ขืนต่อยนายดาวจะพาลโกรธฉัน ฉันกับพวกสาวๆ เป็นห่วงดาว ถ้านายคิดจะเล่นๆ กับเขาก็พอได้แล้ว”เขาพุ่งตัวมา สองมือกระชากคอเสื้อฟลุ๊ค เพื่อนเนตราดาวเตี้ยกว่าเขานิดหน่อย จึงกลายเป็นต้องเขย่งเท้า“อย่าพูดหมาๆ แบบนี้อีก”ชวินทร์กัดฟันกรอด“พูดเรื่องจริงต่างหาก เมื่อหกปีก่อนตอนดาวเสียใจก็มีพวกฉันนี่แหละที่อยู่ปลอบใจ ตอนนั้นนายยังไปง้อแจงอยู่เลย” อีกฝ่ายไม่กลัวเขาเสียด้วย คิดว่าเป็นไงเป็นกัน ถ้าต้องมีเรื่องก็พร้อม“เออ เรื่องตอนนั้นฉันยอมรับผิด แต่ตอนนี้ไม่เหมือนตอนนั้น ฉันจริงใจกับดาว”“ฉ
ชวินทร์กลับบ้านตอนห้าโมงเย็น เพื่ออาบน้ำเปลี่ยนชุด เตรียมไปเฝ้าเนตรา คนรับใช้รีบรายงานเขาทันทีว่ารัชนีรออยู่ในห้องนั่งเล่น มีเรื่องสำคัญจะคุยกับเขา“อาการเขาเป็นยังไงบ้าง เด็กคนนั้นที่ชื่อดาวน่ะ”เนตราเล่าว่าโดนไล่ออก ชวินทร์ไปไล่เบี้ยกับฉัตรบรรณ พบว่าคำสั่งมาจากฉวีวรรณ ฉัตรบรรณรอคุยกับมารดาช่วงเช้า แต่ท่านก็เลี่ยงด้วยเหตุผลไม่สบายสองหนุ่มวิเคราะห์กันว่ามารดาทั้งสองรวมหัวกันเล่นงานเนตรา เขาไม่แปลกใจนักที่ท่านรู้เรื่องเธอเข้าโรงพยาบาล“ฟื้นแล้วครับ ยังปวดหัวนิดหน่อย เพราะซ้ำรอยแผลที่เคยแตกเดิม”รัชนีพยักหน้า“แน่ใจแล้วเหรอกับคนนี้น่ะ แม่เห็นเขาหาแต่เรื่องเดือดร้อน เสียชื่อเสียง”“แล้วคนยังไงละครับที่คุณแม่ชอบ แบบแจงหรือเจมี่”ดวงตาภายใต้คิ้วเข้มวาวขึ้นทันใด เมื่อนึกถึงสิ่งสองคนนั้นทำ“อย่าประชดแม่นะ”นางเอ็ด แต่ลูกชายไม่สน“ถ้าเป็นดาว เขาจะไม่ทำให้ใครเจ็บตัว ว่าร้ายใครก็ไม่เคย”“ลูกตีค่าผู้หญิงคนนี้สูงไปหรือเปล่า”
“ใครกันมาแต่ไก่โห่”บิดาตวาดด้วยอารมณ์กำลังขึ้น คนรับใช้หน้าเสีย“เขาบอกว่าเป็นลูกน้องเฮียไช้ค่ะ” ชื่อที่ได้ยินทำเอาชะงัก“คุณยังติดต่อกับไอ้เสี่ยนั่นอยู่เหรอ”ภรรยาเบ้ปากอย่างรังเกียจ“ไหนว่าคืนเงินที่ยืมมันหมดไปแล้วไง”สามีหลบตา เดินออกประตูไปหาแขกที่มิได้เต็มใจต้อนรับ“คุณเดี๋ยวก่อนสิ กลับมาพูดกันก่อน!”มารดาดุลยาร้องไล่หลัง“ใครมาหาพ่อคะแม่”“เสี่ยเจ้าของบ่อนที่พ่อแกไปยืมเงินไงล่ะ”นางตอบเสียงสะบัด“ไหนคุณพ่อบอกว่าเล่นพนันนิดๆ หน่อยๆ ไงคะ”บิดาเธอชอบแบบนี้ ท่านมีเพื่อนก้วนที่เล่นกันประจำ โดยเล่าว่ากินเงินกันขำๆ“นิดหน่อยกับผีล่ะสิ เป็นหนี้เสี่ยนั่นทีเป็นสิบล้าน ถามทีไรก็บอกแต่ว่าคืนแล้ว นี่ไม่รู้รอบใหม่เอามาอีกเท่าไร”ดุลยาอึ้งกับความจริงในฐานะครอบครัวที่ยอบแยบมากกว่าที่คิด“พ่อแกก็เป็นแบบนี้ บริหารงานรึก็ไปไม่รอด ญาติคนอื่นก็รอจะฮุบบริษัท”มาร
“แล้วนี่ละพี่”ผู้จัดการฝ่ายบุคคลเข้ามาพร้อมโทรศัพท์มือถือเครื่องคุ้นตา“ทั้งไลน์ที่ส่งให้คุณเจมี่ คุณแจง ทั้งรูปถ่าย”ฉัตรบรรณรับมาสไลด์ดูช้าๆ ชัดๆ พร้อมกับคิ้วที่ค่อยๆ ขมวดเข้าหากัน ภิรมย์เหงื่อแตกอ้าปากพะงาบๆ“อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะคะคุณแปง คือ...”“รูปนี้ของผมกับดาวมาอยู่ในกล้องพี่ได้ยังไง”ชายหนุ่มเปิดรูปที่เขาปลอบเนตรดาวในวันที่เธอร้องไห้“...พี่เซฟรูปมาจากที่เขาแชร์กันมา”โธ่เอ๋ย! เธอน่าจะตั้งรหัสโทรศัพท์ตั้งแต่แรก เป็นผลจากความกลัวจำไม่ได้ ประมาทว่าจะไม่มีใครยุ่งกับของตัว“แล้วในไลน์ล่ะ”ฉัตรบรรณกดไปดูแอปพลิเคชั่นแชทสุดฮิตในทันใด แชทกลุ่มเจมิลลากับดุลยาปักหมุดไว้บนสุด เขาไล่สายตาตามบทสนทนาทุกบรรทัด ดุลยาเป็นตัวเสี้ยม ภิรมย์เป็นลูกคู่ ช่วยกันวางแผนบงการให้เจมิลลาไปทำเรื่องต่างๆ“ยังมีที่ไปปั่นเฟซอีกค่ะ”เจ้านายกดปิดหน้าจอ เพราะข้อมูลเพียงแค่นี้ก็เพียงพอต่อการตัดสินใจแล้ว“พี่ไปเซ็นใบลาออกที่เอชอาร์ได
ชื่อสายเรียกเข้าจากจอมือถือทำดุลยาสะดุ้ง เธอสูดหายใจลึกรวบความกล้าส่งเสียงรับ“ไงคะโน้ต”“คุณแสบมากนะ ทำร้ายคนที่ผมรัก”...คนที่ผมรัก ยิ่งทำใจดุลยาร้อนรุ่ม แต่เธอไม่ใช่เด็กสาวอ่อนวัย จนกรีดร้องเก็บอารมณ์โกรธเกรี้ยวไว้ไม่อยู่“แจงไม่ได้ทำอะไรนะ แค่อยู่ในเหตุการณ์เฉยๆ เจมี่ต่างหากเป็นคนลงมือ เขาหึงคุณแปง”“แล้วใครล่ะที่คอยยุเขา คุณไม่ใช่เหรอ”“อย่ามากล่าวหากันนะ!”ดุลยาไม่เคยทำอะไรผิด ทุกอย่างเพราะสถานการณ์บังคับ หรือไม่ก็กดดันจนเธอต้องตัดสินใจทำอย่างนั้น หญิงสาวหาเหตุผลเข้าข้างตนเองได้เสมอ“ไปสอบสวนเจมี่โน่น”“ผมทำแน่”เขาย้ำเยือกเย็น แต่ดุลยาใจดีสู้เสือทำไม่กลัว“แล้วคุณจะได้รู้ว่าเจมี่เพ้อเจ้อขนาดไหน เขาน่ะเด็กเลี้ยงแกะตัวจริง เรียกร้องความสนใจ รู้เรื่องความแสบของเจมี่สมัยอยู่อเมริกาไหม”“ผมไม่อยากฟังจากคุณ จะคุยกับเจ้าตัวเอง”อย่างน้อยดุลยาก็ปล่อยพิษที่เรียกว่าความค้างคาใจไว้ให้เขาแล้ว
เนตรากะพริบตาปริบๆ เห็นเท้าตนกำลังยืนอยู่บนพื้นที่นุ่มมาก สีขาวและบางเบาเรี่ยข้อเท้า ราวอยู่บนเมฆ ลมอ่อนพัดโชย กลิ่นสดชื่นเหมือนฝนตกใหม่ เธอกำลังก้าวขาไปข้างหน้าเรื่อยๆ ตรงหน้าปรากฎคนคู่หนึ่ง“พ่อคะ...แม่”เธอวิ่งถลาเข้าไปหา เหมือนเวลาเด็กอนุบาลมีพ่อแม่มารับหลังเลิกเรียน ท่านทั้งสองโอบกอดเนตราอย่างอบอุ่น น้ำตาเธอไหลพรากอย่างไม่อาย“หนูคิดถึงพ่อแม่ที่สุด”หญิงสาวบอกอู้อี้กับปกเสื้อพ่อ ซึ่งชื้นด้วยน้ำตา จำได้ว่าตัวนี้สวมให้กับมือก่อนนำร่างท่านบรรจุโลง“พ่อกับแม่ไม่ได้ไปไหน เราอยู่กับลูกเสมอในความทรงจำ”แม่ยิ้มละไม มือลูบศีรษะเธอด้วยความรัก“หนูอยากอยู่กับพ่อแม่”การที่ได้เห็นทั้งสองแบบนี้ แสดงว่าชีวิตเธอดับไปแล้วแน่ และที่นี่คงเป็นสวรรค์ แม้ไม่มีนางฟ้า เทวดา ไม่มีทิพยวิมาน แต่ขอแค่มีพ่อแม่ลูก แค่นั้นก็พอแล้ว“ยังจ้ะดาว ยังไม่ถึงเวลาที่เราจะได้อยู่ด้วยกัน”เนตราเงยหน้ามองแม่แบบเหวอๆ ท่านยกนิ้วแตะริมฝีปาก“หนูต้องเจอเรื่องต่างๆ อีกเยอะแยะ เข้มแข็
จนสักพักคนเริ่มซา ดุลยาจึงเดินเชิดหน้ากลับไปลานจอดรถ ทิ้งให้ภิรมย์กับเจมิลลาอยู่บนชั้นสอง โดยไม่สนใจเลยฉัตรบรรณรู้เรื่องเนตรดาวจากผู้จัดการฝ่ายบุคคล แต่รู้แค่เพียงเธอตกบันได ยังไม่รู้เรื่องคำสั่งไล่ออก เพราะผู้จัดการเกรงอำนาจฉวีวรรณ เนื่องด้วยรู้ว่าเงินทุนในบริษัทมาจากมารดาเจ้านาย ฉวีวรรณคือผู้ชี้เป็นชี้ตายที่แท้จริงมีไม่กี่ครั้งในชีวิตที่หัวใจชวินทร์เต้นแรงจนรู้สึกเหมือนจะหลุดจากขั้ว ไม่ใช่ด้วยความยินดี แต่ด้วยความกลัว ฉัตรบรรณโทรมาบอกว่าเนตราตกบันไดศีรษะฟาดพื้น“แม่งเอ๊ย!”ชายหนุ่มสบถให้รถคันหน้าที่บีบแตรยามเขาขับแซง เนตราก็ซุ่มซ่ามเหลือเกิน หกล้มหัวฟาดถึงสองหน คราวนี้จะความจำเสื่อมอีกหรือเปล่า แต่ชวินทร์ไม่รอแล้ว ตั้งใจจับแต่งงานเสียเลย เธอจะได้ไม่อยู่ไกลสายตาจนเกิดเหตุแบบนี้ดุลยาขับรถไปจอดร้านอาหารแห่งหนึ่ง เธอเลือกร้านเงียบๆ ห่างไกลผู้คน กะเวลาสักประมาณยี่สิบนาทีแล้วก็โทรหาฉัตรบรรณ“ครับ คุณแจง”เขารับสายในทันทีทันใด เธอทำเสียงอ่อนๆ“คุณแปงว่าหรือเปล่าคะ แจงมีเรื่องจะสารภาพค่ะ”
เนตรามองของในกล่องกระดาษสลับกับโต๊ะทำงานโล่งโจ้ง หกปีที่ผ่านมากับการทำงานที่นี่ เธอมีสมบัติน้อยชิ้นขนาดนี้เชียวหรือ แต่ที่น้อยกว่านั้นคือเพื่อนร่วมงาน เนตราเข้าใจว่าทุกคนเกรงอำนาจฉวีวรรณจึงได้แต่แอบดูเธอเก็บของอยู่ห่างๆ“รีบเก็บของเร็วจัง ฉันคิดว่าเธอจะย่องมาเก็บดึกๆ เสียอีก เหมือนที่ชอบย่องทำอะไรลับหลังคนอื่น”ตัวเป้งๆ มากันครบ ทั้งดุลยา ภิรมย์ เจมิลลา แขกไม่ได้รับเชิญทั้งนั้น“ไปแล้วขอให้ไปลับ อย่ากลับมานะ”ดุลยาส่งยิ้มหวานเคลือบยาพิษ“เราได้เจอกันอีกแน่ ในงานแต่งฉันกับโน้ต”ในเมื่ออีกฝ่ายแสดงตัวตัวแท้จริงว่า ...ฉันเป็นนางร้ายนะจ๊ะ เธอก็ไม่จำเป็นต้องทำตัวเป็นนางเอก จึงกวนกลับเสียเลย“คิดเหรอว่าจะได้แต่ง”“ไม่ได้คิดแต่มีคนมาขอแล้ว”ชวินทร์เคยพูดกับเธอแล้วนะ ถือว่าเนตราไม่ได้โกหก“หน้าด้าน! โกหก!”พอเอ่ยถึง “คนที่ว่า” อีกฝ่ายรู้ได้ทันทีว่าเป็นใคร ยิ่งเพิ่มความฉุนหนัก“ยังดีกว่าคนที่ชอบยุแยงคนอื่นไปทั่วอย่างเธอละ
“แจงทำผิดเหรอคะ”“แล้วทำไมไม่เล่าด้วยล่ะ ว่าสาเหตุที่เมาจนมีอะไรกับดาวมันมาจากที่คุณนอกใจผม”ชวินทร์เป็นสุภาพบุรุษพอที่จะไม่แฉฝ่ายหญิง แต่ดูที่เธอทำสิ“เราเลิกกันแล้วนะคะ โน้ตจะรื้อฟื้นเรื่องขึ้นมาทำไม”“หยุดปล่อยข่าวเรื่องดาวซะ ไม่อย่างนั้นผมจะจัดการคุณ”“โน้ตจะทำอะไรแจงเหรอคะ”เธอเหยียดยิ้มท้าทายให้กระจก“บริษัทที่อยากจะขายให้จีนใจจะขาดนั่น ถ้าเขารู้ปัญหาที่ซุกไว้จะเป็นยังไงนะ”ฉัตรบรรณเคยเล่าให้ฟังเรื่องกิจการบ้านดุลยา เพราะเจมิลลาเคยถูกขอให้ช่วยเหลือ แต่เขาแนะนำให้คู่หมั้นปฏิเสธ ด้วยไม่ไว้ใจในรายงานผลประกอบการประจำปีของบริษัท กลัวจะเป็นการตกแต่งตัวเลข“คุณจำได้ไหมว่าผมมีเพื่อคนจีนหลายคนสมัยเรียนโท บางคนก็กลับไปทำกิจการหนังสือพิมพ์ของที่บ้าน”“อย่ามาขู่แจงเลยค่ะ อยากทำอะไรก็ทำไป”ชวินทร์เคยอ่อนโยนมากกว่านี้ เขาทั้งรัก ทั้งหลงเธอ สาเหตุที่เลิกกันไปเพราะดุลยาเลือกนรธิป เธอเคยอยู่เหนือเขา แล้ววันนี้ชวินทร์กลับมาข