หนาว หนาวถึงกระดูกที่นี่คือที่ไหนฉันพยายามลืมตา แต่น้ำทะเลซัดเข้าสู่นัยน์ตาฉันฉันหรี่ตา ในความเลือนราง ฉันเห็นซ่งฉู่เหอจูงโซ่เหล็กเส้นหนึ่งแสดงอยู่บนเวทีซึ่งรายล้อมไปด้วยผู้คนปลายโซ่เหล็กเส้นนั้นล่ามเฉินเหมี่ยว ลูกสาวของฉันเอาไว้สวมเดรสตัวยาวที่กระทั่งร่างกายก็ปิดไม่ได้เอาไว้ คลานอยู่บนพื้นเหมือนสุนัขตัวหนึ่ง ฉันใจร้อนดั่งถูกไฟเผา คิดจะพุ่งเข้าไป ตอนนี้กลับค้นพบว่าตัวเองถูกขังอยู่ในภาชนะสุญญากาศหนึ่ง ระดับเพิ่มขึ้นไม่หยุดตามองซ่งฉู่เหอใช้ลูกธนูแทงเข้าไปในร่างกายเหมียวเหมี่ยว แต่กลับความสามารถไม่เพียงพอ“เข็มนี้ สามารถรับประกันได้ว่าหนูทดลองจะว่านอนสอนง่ายแน่นอน” ซ่งฉู่เหอสาธิตให้ด้านล่างเวทีดูสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าว่า เหมียวเหมี่ยวไม่ดิ้นรนอีก ปล่อยให้จัดการแต่โดยดี“ตอนนี้เริ่มการเสนอราคา ผู้ที่เสนอราคาสูงสามารถทดสอบด้วยตัวเองได้”ซ่งฉู่เหอโบกมือ เด็กสาวอายุใกล้เคียงกันห้าหกคนถูกพาขึ้นมาบนเวทีอย่างหยาบคายทั่วร่างเต็มไปด้วยบาดแผล ไม่มีส่วนใดที่สมบูรณ์เลยสักนิดฉันอดกลั้นต่อความเจ็บปวด หยิบปิ่นปักผมที่ซ่อนไว้ในเสื้อผ้า เจาะอ่างกระจกทีละเล็ก ทีละน้อยในที่สุดเ
ซ่งฉู่เหอออกคำสั่งให้เหมียวเหมี่ยวลงมือฆ่าฉันเขายืนอยู่อีกด้าน แววตาเปี่ยมไปด้วยความสนุกสนานเหมียวเหมี่ยวมือถือกริช ห่างจากฉันน้อยลงเรื่อยๆ ในตอนที่คมมีดแทงลงมา มือที่ถือมีดกลับเปลี่ยนทิศทางกะทันหันเหมียวเหมี่ยวใช้ร่างกายสกัดกั้นคนตรงหน้า หันกลับมาเอ่ยเสียงเบาว่า ”แม่คะ รีบหนีเร็วเข้า”การเปลี่ยนแปลงอันไม่คาดคิดตรงหน้าทำให้ซ่งฉู่เหอขัดใจ เขาถือมีดยาว เร่งฝีเท้าฟันลงมาฉันเหวี่ยงเหมียวเหมี่ยวไปอีกด้าน ถึงพอจะหลบไปได้ซ่งฉู่เหอโจมตีอีกครั้ง เท้าเหยียบลงบนกระโปรงตัวยาวของเหมียวเหมี่ยว มือซ้ายคว้าหมับเข้าที่ผมของเธอ ”หนีสิ หนีไปสิ”ตอนนี้เขาบ้าคลั่งสุดขีดฉันยืนอยู่ที่เดิม รอระยะห่างระหว่างเขากับเหมียวเหมี่ยวและฉันหดสั้นลงเรื่อยๆ รอถึงตอนที่ห่างกันหนึ่งช่วงแขน ก็พลิกมือแทงปิ่นปักผมในมือเข้าไปในดวงตาซ่งฉู่เหอเขากุมตาซ้าย จ้องมองด้วยความโกรธสถานที่จัดงานสับสนวุ่นวาย ที่หนีเอาชีวิตรอด ก็หนีเอาชีวิตรอด ที่ถอนตัว ก็ถอนตัวมีเพียงพวกเราสามคนที่ยืนอยู่บนเวทีเงียบๆ“หลินซูเสีย เธอแม่ง...”ซ่งฉู่เหอกดปุ่มกดในมือ กรงเหล็กร่วงลงมาจากด้านบน ขังพวกเราเอาไว้ในนั้นหนีไม่พ้นแล้วหรือฉ
ตอนที่ได้สติขึ้นมาอีกครั้ง ฉันกับเหมียวเหมี่ยวนอนอยู่ที่โรงพยาบาลแล้วไวรัสในตัวเหมียวเหมี่ยว ก็ค้นเจอสูตรยารักษาที่คิดค้นพัฒนาในที่พักของซ่งฉู่เหอเช่นกันตามที่หัวหน้ากัวบอกเล่า ตอนพวกเขาไปถึง ฉันกับเหมียวเหมี่ยวหมดสติอยู่บนดาดฟ้าเรือ เหยียนเคอกับซ่งฉู่เหอตายอยู่ในห้องโถงและโรงงานใหม่ของซ่งฉู่เหอก็ถูกทำลาย ในนั้นค้นพบอวัยวะในร่างกายคนจำนวนมาก และเด็กสาวที่หายตัวไปพฤติกรรมเลวร้ายเจ้าสัวที่เคยทำการซื้อขายกับเขาล้วนถูกจับกุมจิ้นเฉิงกลับคืนสู่ความสงบสุขในวันวานฉันไปวางช่อดอกไม้ลงหน้าป้ายหลุมศพที่สลักชื่อเหยียนเคอเป็นเพื่อนเหมียวเหมี่ยวมีบางเรื่อง ไม่ใช่ตายแล้วจะสามารถแก้ไขได้ มีบางเรื่องก็ไม่ใช่เรื่องที่จะผ่านไปได้ง่ายๆแต่ ฉันมองเหมียวเหมี่ยวอย่างอ่อนโยน “ลูกสาวของฉันปลอดภัย มีความสุขก็พอ”
วันที่ลูกสาวออกจากโรงพยาบาล ผู้ชายที่ข่มขืนเธอถูกปล่อยตัวโดยไร้ความผิด เพราะหลักฐานไม่เพียงพอในเลนส์กล้องสื่อ ซ่งฉู่เหอ ผู้ชายซึ่งทำลายชีวิตที่เหลือของลูกสาวฉัน ยิ้มแสร้งมีศีลธรรม สีหน้าท่าทางดั่งสุภาพชน“สาธารณชนย่อมแยกแยะถูกผิด ตัดสินด้วยความยุติธรรม ผู้หญิงที่ละโมบในทรัพย์สินเงินทองเฉกเช่นเฉินเหมี่ยว ผมเชื่อว่าทุกคนล้วนรู้ดีว่าเป็นอย่างไร แต่ว่านะ หากว่าเงินเธอไม่พอล่ะก็ ผมยังคงยอมช่วยอยู่ดี ฮ่าๆ... “แต่พวกเราทั้งครอบครัวไม่เคยเอาเงินของเขาสักเฟินเดียว...เดิมเหมียวเหมี่ยวหมั้นหมายเอาไว้แล้ว วันรุ่งขึ้นหลังเกิดเรื่อง ก็ถูกบอกเลิกอีกฝ่ายเอ่ยคำพูดเหมือนวันนั้น“ไม่บริสุทธิ์แล้ว เธอนึกว่า...ฉันจะยังชอบเธออีกเหรอห๊ะ”“ไม่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยดีๆ ไปทำเรื่องชั้นต่ำ ถุย ยัยคนหน้าไม่อาย หากลูกชายฉันแต่งกับเธอ นั่นน่ะโชคร้ายจริงๆ”“ฉันเห็นแต่แรกแล้วว่าเธอไม่ใช่พวกสงบเสงี่ยม เต็มไปด้วยกลิ่นอายผู้หญิงขี้อ่อย”ดูสิ คำซุบซิบนินทาของคนอื่นมักจะคมมีดที่ทิ่มแทงได้ลึกที่สุดเหมียวเหมี่ยวอยากไกล่เกลี่ยเพื่อยุติความขัดแย้ง คืนนั้นเธอกอดฉันร้องไห้โฮ ถามฉันว่าตัวเองทำผิดใช่หรือไม่ทำไม
ซ่งฉู่เหอหายตัวไป ในวันที่สามของการชักนำความคิดเห็นส่วนใหญ่ของผู้คนและประโคมเรื่องราวให้ทุกคนรับรู้หายตัวไปอย่างน่าประหลาดสถานที่สุดท้ายซึ่งกล้องวงจรปิดถ่ายเขาได้ ก็คือละแวกบ้านฉันนั่นคือซอยเล็กๆ ที่เหมียวเหมี่ยวพยายามดิ้นรนคลานออกมาปากซอยตอนเย็นของหลายอาทิตย์ก่อน ฉันได้รับโทรศัพท์สายหนึ่ง โรงพยาบาลเป็นผู้โทรมาอีกฝ่ายพูดว่าเหมียวเหมี่ยว ลูกสาวของฉันถูกค้นพบหมดสติอยู่ที่ปากซอย เปลือยเปล่าทั้งร่าง ส่วนล่างฉีกขาดรุนแรงทำให้เลือดออกมา รวมถึงไตหายไปข้างหนึ่ง...เธอเพิ่งจะอายุ 20 ปีแท้ๆเพิ่งจะเริ่มต้นช่วงเวลาที่ดีที่สุดตอนที่ฉันไปถึงโรงพยาบาล เธอนอนอยู่ตรงนั้นเงียบๆ คนเดียว ทั่วร่างเต็มไปด้วยสายระโยงระยางสีหน้าซีดขาวเหมือนของเล่นที่พังไปแล้วชิ้นหนึ่ง พร้อมที่จะพังทลายได้ตลอดเวลาฉันนั่งยองๆ อยู่มุมกำแพง ปิดเสียงร่ำไห้เจ็บปวดเอาไว้เป็นแม่เองที่ไม่ได้ปกป้องลูกให้ดี...เหมียวเหมี่ยวหลับไปสี่วัน ถึงได้ลืมตาแววตาที่เธอมองฉันไร้ซึ่งความมีชีวิตวันที่เจ็ด เธอเอ่ยปากพูดประโยคหนึ่ง“ซ่งฉู่เหอ”“ซ่งฉู่เหอเป็นคนทำ”...ซ่งฉู่เหอเป็นแฟนหนุ่มของหัวหน้าเหมียวเหมี่ยวอายุมากก
อาทิตย์ที่สองของการนอนโรงพยาบาล นิ้วมือของเหมียวเหมี่ยวถึงฟืนคืนความรู้สึกเรื่องแรกที่เธอทำคือแจ้งตำรวจไม่รอให้ตำรวจมาถึง เหมียวเหมี่ยวก็ดึงมือฉัน เอ่ยเสียงสั่นเทาเธอเอ่ยว่า”แม่คะ ในซอยนั่นมี...กล้องวงจรปิด”หายใจลำบาก ฉันรู้ว่าลูกสาวต้องใช้ความกล้าหาญมากเพียงในการเอ่ยประโยคนี้ออกมาไม่กล้ารีรอ หลังปลอบประโลมไปหลายประโยค ฉันก็เรียกรถไปที่นั่นทันทีแต่รอจนถึงสถานที่แห่งนี้ พนักงานรักษาความปลอดภัยไม่อาศัยข้ออ้างว่าไม่สะดวก ก็ปิดประตูไม่พบหน้าจนกระทั่งฉันนำเงินที่เหลือแค่สองพันหยวนในกระเป๋ายัดใส่มือเขา ถึงสามารถเดินเข้าไปในห้องควบคุมกล้องวงจรปิดได้พนักงานรักษาความปลอดภัยจ้องการกระทำของฉันอย่างใกล้ชิด ราวกับกลัวว่าจะเกิดข้อผิดพลาดอะไรจากความประมาทกล้องวงจรปิดระยะหนึ่งเดือนนี้ ล้วนมือทุกวัน แต่ดันขาดคืนวันที่เกิดเรื่องขึ้นกับเหมียวเหมี่ยวไป!ในตรอกซอยสะอาดราวกับเคยถูกทำความสะอาดไป หาร่องรอยและคราบเลือดการฉีกทิ้งไม่เจอเลยสักนิดเดียวฉันทรุดตัวนั่งลงบนพื้น ”คลิปกล้องวงจรปิดล่ะ คลิปกล้องวงจรปิดในคืนวันนั้นล่ะ!”“พี่สาว วันนั้นกล้องวงจรปิดบังเอิญเสียพอดี คุณดูสิ ผมก็ให้คุณดู
มือข้างหนึ่งค่อยๆ ยื่นออกมาจากช่องประตู บีบคอฉันเอาไว้พละกำลังยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ยิ่งหายใจลำบากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกันฉันพยายามหยุดการสั่นสะท้านไปทั้งตัวเอาไว้เต็มที่ ใช้มือเท้าจับและทุบตีคนคนนั้น แต่ระยะห่าง ความสูงที่แตกต่าง ไม่อนุญาตให้ทำได้เลยสักนิดสุดท้าย ฉันก็คลำเจอโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าจึงทุ่มแรงทั้งหมดทุบลงไปบนข้อมือที่บีบคอฉันเอาไว้ต่อมาเสียงเจ็บปวดก็ดังขึ้น พันธการบริเวณลำคอก็ถูกปลดเปลื้องเช่นกันคนที่ซ่อนตัวอยู่หลังประตู เดินออกมาพร้อมกับรอยยิ้มดวงหน้าหยิ่งยโส คว้าผมฉันเอาไว้อย่างโหดร้าย เอ่ยปากข้างหูฉัน“เซอร์ไพรส์! อาจารย์หลิน”เลือดในกายฉันแข็งค้างเสียงนี้ ฉันคุ้นเคยยิ่ง แทบจะสลักไว้ในเลือดเนื้อ“ซ่งฉู่เหอ เดนมนุษย์อย่างแก ยังจะกล้ามาอีก!”ฉันขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ถลึงตามองเขา ไม่สนใจความเจ็บปวดที่หนังศีรษะถูกกระชาก ยกมือขึ้นตบหน้าเขาซ่งฉู่เหอสีหน้าเคร่งขรึมทันที เสียง”พลั่ก”จากการเหวี่ยงฉันลงไปบนพื้นดังขึ้นเขากระชากเส้นผมฉัน ลากไปบนพื้น แล้วโยนไปข้างเตียงเหมียวเหมี่ยวเหมือนกับโยนสิ่งมีชีวิตที่ตายไปแล้ว...ฉันนอนอยู่บนพื้น มองเขาเข้าไปใกล้เหมียวเหมี่ยว
ฉันไม่ฟังเหมียวเหมี่ยวแจ้งตำรวจไปแล้ว คำฟ้องก็มอบให้ศาลไปแล้วในสถานีตำรวจ ตำรวจถามฉันว่า เก็บหลักฐานเอาไว้ไหมฉันส่ายหน้า“พยานบุคคล พยานวัตถุ เสื้อผ้าที่สวมใส่วันนั้น รวมถึงของเหลวที่ตกค้างในร่างกายล้วนไม่มีหรือ”ไม่มีกล้องวงจรปิดที่เป็นพยานวัตถุเพียงอย่างเดียวเสื้อผ้า...วันนั้นตอนถูกค้นพบ มีเสื้อผ้าเหลืออยู่เสียที่ไหนของเหลวตกค้าง ฉันนึกถึงใบหน้าลำพองใจของซ่งฉู่เหอแล้ว ก็ทำได้แค่ส่ายหน้าต่อไปตำรวจขมวดคิ้วมองฉัน ไม่ได้บอกว่าลูกสาวคุณถูกคนพบหรือ คำให้การของผู้เห็นเหตุการณ์ก็ช่วยเหลือได้เช่นกัน”...ก่อนมาสถานีตำรวจ ฉันไปหาผู้เห็นเหตุการณ์คนนี้มาแล้ว พี่ชายแรงงานอพยพคนหนึ่งมองดูแล้วซื่อตรงหลังรู้วัตถุประสงค์การมาเยือนของฉัน สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไป ปฏิเสธเรื่องออกจากบ้านในคืนนั้นไม่หยุด ภรรยาเขาที่อยู่อีกด้านช่วยเอ่ยสนับสนุนตาม บอกว่าผู้ชายของเธออยู่เป็นเพื่อนเธอทั้งคืนแต่เขาเป็นความหวังสุดท้ายของฉันแล้วฉันคุกเข่าลงตรงหน้าเขา ขอร้องให้เขาช่วยเหมียวเหมี่ยวพี่ชายก็คุกเข่าเช่นกัน โขกศีรษะติดกันห้าหกครั้ง เขาบอกว่า พี่สาว คุณอย่าทำให้ผมลำบากใจเลย ครอบครัวผมคนแก่และเด็กส
ตอนที่ได้สติขึ้นมาอีกครั้ง ฉันกับเหมียวเหมี่ยวนอนอยู่ที่โรงพยาบาลแล้วไวรัสในตัวเหมียวเหมี่ยว ก็ค้นเจอสูตรยารักษาที่คิดค้นพัฒนาในที่พักของซ่งฉู่เหอเช่นกันตามที่หัวหน้ากัวบอกเล่า ตอนพวกเขาไปถึง ฉันกับเหมียวเหมี่ยวหมดสติอยู่บนดาดฟ้าเรือ เหยียนเคอกับซ่งฉู่เหอตายอยู่ในห้องโถงและโรงงานใหม่ของซ่งฉู่เหอก็ถูกทำลาย ในนั้นค้นพบอวัยวะในร่างกายคนจำนวนมาก และเด็กสาวที่หายตัวไปพฤติกรรมเลวร้ายเจ้าสัวที่เคยทำการซื้อขายกับเขาล้วนถูกจับกุมจิ้นเฉิงกลับคืนสู่ความสงบสุขในวันวานฉันไปวางช่อดอกไม้ลงหน้าป้ายหลุมศพที่สลักชื่อเหยียนเคอเป็นเพื่อนเหมียวเหมี่ยวมีบางเรื่อง ไม่ใช่ตายแล้วจะสามารถแก้ไขได้ มีบางเรื่องก็ไม่ใช่เรื่องที่จะผ่านไปได้ง่ายๆแต่ ฉันมองเหมียวเหมี่ยวอย่างอ่อนโยน “ลูกสาวของฉันปลอดภัย มีความสุขก็พอ”
ซ่งฉู่เหอออกคำสั่งให้เหมียวเหมี่ยวลงมือฆ่าฉันเขายืนอยู่อีกด้าน แววตาเปี่ยมไปด้วยความสนุกสนานเหมียวเหมี่ยวมือถือกริช ห่างจากฉันน้อยลงเรื่อยๆ ในตอนที่คมมีดแทงลงมา มือที่ถือมีดกลับเปลี่ยนทิศทางกะทันหันเหมียวเหมี่ยวใช้ร่างกายสกัดกั้นคนตรงหน้า หันกลับมาเอ่ยเสียงเบาว่า ”แม่คะ รีบหนีเร็วเข้า”การเปลี่ยนแปลงอันไม่คาดคิดตรงหน้าทำให้ซ่งฉู่เหอขัดใจ เขาถือมีดยาว เร่งฝีเท้าฟันลงมาฉันเหวี่ยงเหมียวเหมี่ยวไปอีกด้าน ถึงพอจะหลบไปได้ซ่งฉู่เหอโจมตีอีกครั้ง เท้าเหยียบลงบนกระโปรงตัวยาวของเหมียวเหมี่ยว มือซ้ายคว้าหมับเข้าที่ผมของเธอ ”หนีสิ หนีไปสิ”ตอนนี้เขาบ้าคลั่งสุดขีดฉันยืนอยู่ที่เดิม รอระยะห่างระหว่างเขากับเหมียวเหมี่ยวและฉันหดสั้นลงเรื่อยๆ รอถึงตอนที่ห่างกันหนึ่งช่วงแขน ก็พลิกมือแทงปิ่นปักผมในมือเข้าไปในดวงตาซ่งฉู่เหอเขากุมตาซ้าย จ้องมองด้วยความโกรธสถานที่จัดงานสับสนวุ่นวาย ที่หนีเอาชีวิตรอด ก็หนีเอาชีวิตรอด ที่ถอนตัว ก็ถอนตัวมีเพียงพวกเราสามคนที่ยืนอยู่บนเวทีเงียบๆ“หลินซูเสีย เธอแม่ง...”ซ่งฉู่เหอกดปุ่มกดในมือ กรงเหล็กร่วงลงมาจากด้านบน ขังพวกเราเอาไว้ในนั้นหนีไม่พ้นแล้วหรือฉ
หนาว หนาวถึงกระดูกที่นี่คือที่ไหนฉันพยายามลืมตา แต่น้ำทะเลซัดเข้าสู่นัยน์ตาฉันฉันหรี่ตา ในความเลือนราง ฉันเห็นซ่งฉู่เหอจูงโซ่เหล็กเส้นหนึ่งแสดงอยู่บนเวทีซึ่งรายล้อมไปด้วยผู้คนปลายโซ่เหล็กเส้นนั้นล่ามเฉินเหมี่ยว ลูกสาวของฉันเอาไว้สวมเดรสตัวยาวที่กระทั่งร่างกายก็ปิดไม่ได้เอาไว้ คลานอยู่บนพื้นเหมือนสุนัขตัวหนึ่ง ฉันใจร้อนดั่งถูกไฟเผา คิดจะพุ่งเข้าไป ตอนนี้กลับค้นพบว่าตัวเองถูกขังอยู่ในภาชนะสุญญากาศหนึ่ง ระดับเพิ่มขึ้นไม่หยุดตามองซ่งฉู่เหอใช้ลูกธนูแทงเข้าไปในร่างกายเหมียวเหมี่ยว แต่กลับความสามารถไม่เพียงพอ“เข็มนี้ สามารถรับประกันได้ว่าหนูทดลองจะว่านอนสอนง่ายแน่นอน” ซ่งฉู่เหอสาธิตให้ด้านล่างเวทีดูสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าว่า เหมียวเหมี่ยวไม่ดิ้นรนอีก ปล่อยให้จัดการแต่โดยดี“ตอนนี้เริ่มการเสนอราคา ผู้ที่เสนอราคาสูงสามารถทดสอบด้วยตัวเองได้”ซ่งฉู่เหอโบกมือ เด็กสาวอายุใกล้เคียงกันห้าหกคนถูกพาขึ้นมาบนเวทีอย่างหยาบคายทั่วร่างเต็มไปด้วยบาดแผล ไม่มีส่วนใดที่สมบูรณ์เลยสักนิดฉันอดกลั้นต่อความเจ็บปวด หยิบปิ่นปักผมที่ซ่อนไว้ในเสื้อผ้า เจาะอ่างกระจกทีละเล็ก ทีละน้อยในที่สุดเ
ฉันบุกเข้าไปในบ้านเหยียนเคอ ตบหน้าเขาไปทีหนึ่ง“เหมียวเหมี่ยวใกล้จะตายแล้ว แกพอใจแล้วสินะ!”“เป็นคู่รักที่รู้จักและรักกันมาตั้งแต่เด็กยี่สิบปี เหยียนเคอ แกใจดำมากจริงๆ”เขามองฉันอย่างเหลือเชื่อ ”เป็นไปไม่ได้ ซ่งฉู่เหอเคยรับปากผมว่า ไม่มีทางทำร้ายเธอจนตาย”“ซ่งฉู่เหอ ซ่งฉู่เหอ แกมันเป็นสุนัขตัวหนึ่งของซ่งฉู่เหอ ทำไมเขาจะต้องฟังแกด้วยห๊ะ!”“ตั้งแต่เล็กจนตัว ฉันถามตัวเองว่าปฏิบัติต่อแกไม่เลว เหมียวเหมี่ยวยิ่งรักและให้ความสำคัญกับแกยิ่งกว่า ทุกเรื่องล้วนยึดแกเป็นหลัก แล้วแกล่ะ หันกลับมาทำร้ายเธอ เหยียนเคอ ฉันผิดหวังในตัวแกมากจริงๆ”เหยียนเคอตะลึงค้างอยู่ที่เดิม ผ่านไปเนิ่นนาน จึงก้มหน้าพูดว่าอยากจะไปเยี่ยมเฉินเหมี่ยวกลับไปถึงโรงพยาบาล เหยียนเคอยืนอยู่นอกห้องพักผู้ป่วย ไม่กล้าเข้าไป มองดูเหมียวเหมี่ยวอยู่แบบนั้นจนกระทั่งพยาบาลเข้าไปเปลี่ยนยา เขาถึงได้เบนสายตากลับมา ยื่นแฟลชไดร์ฟอันหนึ่งให้ฉัน“คลิปที่คุณบันทึกในโรงงานครั้งที่แล้วล้วนอยู่ในนี้”“ผมผิดต่อเหมียวเหมี่ยว ถูกเงินทำให้โลภจนลืมศีลธรรม ผมจะชดใช้ให้เธอ”“สิ่งที่แกติดค้างเธอ ชาตินี้แกก็คืนไม่หมด”...ฉันมอบแฟลชไดร์ฟให้ห
วิ่งวุ่นไปห้าโรงพยาบาลติดต่อกัน อีกฝ่ายถึงได้ยอมรับเหมียวเหมี่ยวเข้าโรงพยาบาลลูกสาวที่อยู่ข้างมีเกล็ดบางๆ ชั้นหนึ่งปกคลุมไปทั่วตัว ทุกครั้งที่เล็บซึ่งแปรเปลี่ยนเกา ก็จะมีเกล็ดหลุดร่วง รวมถึงเลือดทะลักออกมาฉันรู้ว่าเหมียวเหมี่ยวเจ็บ แต่เธออดกลั้นไม่พูดออกมา เพื่อไม่ให้ฉันเป็นห่วงฉันมองลูกสาวที่หลบอยู่ในมุมมืด แล้วหลับตาลงอย่างสิ้นหวังเธอเริ่มกลัวแสงสว่าง ต่อไป ฉันไม่กล้าจะคิดเลยแม้แต่น้อยโรงพยาบาลระดมผู้เชี่ยวชาญ เริ่มต้นศึกษาวิจัยอาการป่วยของเหมียวเหมี่ยวแต่วันแล้ววันเล่า ยังคงไม่มีมาตรการใดๆเมื่อเห็นเหมียวเหมี่ยวอาการรุนแรงยิ่งขึ้น หัวใจฉันก็เจ็บปวดจนเลือดไหลซิบๆเหมียวเหมี่ยวที่ให้น้ำเกลืออยู่ กลับยังคงปลอบโยนฉัน“แม่คะ หนูรู้สึกว่าตัวเองดีขึ้นมากแล้ว ความอยากอาหารก็ดีมากนะคะ”“แม่รีบไปซื้อเกี๊ยวร้านที่พวกเราไปกินด้วยกันเมื่อก่อนเถอะค่ะ หนูหิวแล้ว”...รอตอนที่ฉันกลับมา หัวหน้ากัวก็นั่งอยู่หน้าเตียงคนไข้เหมียวเหมี่ยวแล้ว“เหมียวเหมี่ยว เธอ...”ฉันส่ายหน้า”ฝีมือซ่งฉู่เหอ”หัวหน้ากัวถอนหายใจ วางมือลงบนไหล่ฉัน ”เรื่องนั้น ผมยังหวังว่าคุณจะลองพิจารณาดู หายตัวไปอีกคน
เพื่อความปลอดภัยของเหมียวเหมี่ยว ฉันล็อกเธอไว้ในบ้าน ไม่อนุญาตให้ออกไปข้างนอกแต่มีเสียงคำรามราวกับสัตว์ป่าออกมาจากปากเหมียวเหมี่ยวมาสองคืนติดแล้ว ผิวหนังถึงขั้นปรากฏเกล็ดสีเขียวขึ้นมาประตูตู้เย็นและลานในบ้านเริ่มปรากฏเนื้อดิบเย็นๆ ที่ถูกกินไปครึ่งหนึ่งหรือคอเป็ดไก่ที่ถูกกัดขาดบ่อยครั้งเพียงแต่ตัวเหมียวเหมี่ยวดันไม่รู้สึกถึงความผิดปกตินี้แม้แต่น้อยทั้งยังหยอกล้อกับฉันว่า ระยะนี้มักจะหิวมาก กินอย่างไรก็ไม่อิ่มฉันมองลูกสาวที่ประหลาดขึ้นเรื่อยๆ ในใจก็ผิดหวังยิ่งโทรหาหมายเลขโทรศัพท์ที่ซ่งฉู่เหอยัดใส่กระเป๋าฉันในวันนั้นเสียงหัวเราะแผ่วเบาดังลอยมาจากอีกฝ่ายระลอกหนึ่ง ”ดูท่าทาง ยาจะออกฤทธิ์แล้วสินะ”“แกทำอะไรกับเหมียวเหมี่ยวกันแน่?!” ซ่งฉู่เหอเอ่ยอย่างมีความสุขระคนหยอกล้อ ”คนรวยอยากลองการละเล่นใหม่ ฉันจึงลองใช้มันกับร่างลูกสาวเธอ ฉันบอกแล้วว่าเธอน่ะเล่นได้ไม่เบื่อที่สุด เป็นหนูทดลองที่ทำให้ผมพอใจมากที่สุด”เดนมนุษย์ ล้วนเป็นเดนมนุษย์กันทั้งนั้นตอนนี้ฉันเพิ่งจะเข้าใจว่า คนที่ถูกซ่งฉู่เหอเลือก อย่าได้คิดหนี และหนีไม่พ้นเช่นกันเขาจะมอบความหวังไว้ตรงหน้าคุณ จากนั้นก็ช่วงชิงมั
วันที่สามของการกลับบ้าน หัวหน้ากัวหลบเลี่ยงผู้คน แอบเข้ามาในยามวิกาลประโยคแรกที่เขาเอ่ยตอนเจอหน้ากันคือ ”ผมรู้ว่าสิ่งที่คุณพูดล้วนเป็นความจริง”หัวหน้ากัวหยิบถุงหลักฐานออกมาจากอ้อมแขน ”ผมค้นพบสิ่งนี้ในโรงงาน ผ่านการตรวจสอบแล้ว เป็นนิ้วก้อยมือซ้ายของหลิวหรูจริงๆ”“เช่นนั้นทำไมตอนนั้นคุณถึงไม่พูด”“ซ่งฉู่เหออิทธิพลยิ่งใหญ่แค่ไหน ผมเชื่อว่าคุณรู้ดีแก่ใจ”ใช่แล้ว ผิดยังสามารถพูดให้เป็นถูกได้ นิ้วก้อยนิ้วเดียวจะสามารถพิสูจน์อะไรได้“พวกเราตรวจพบผู้ซื้อที่เคยทำการซื้อขายกับซ่งฉู่เหอ รวมถึงฐานะของประชาชนที่หายตัวไปส่วนหนึ่งด้วย แต่ตอนนี้ทางตำรวจต้องการความช่วยเหลือจากคุณ หากว่าไม่สามารถหาโรงงานใหม่เขาพบได้วันหนึ่ง ก็ไม่สามารถจับกุมเขาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้วันหนึ่ง”“คุณอยาก...ให้ฉันช่วยคุณอย่างไร”“วันศุกร์หน้า มีผู้ซื้อสั่งจองสินค้าใหม่ ในมือเขาไม่มีแหล่งสินค้า ทำได้แค่ลงมือจากที่อื่น พวกเราคิดอยากจะ” เขาชะงัก” ใช้เฉินเหมี่ยวเป็นเหยื่อล่อ”“ไม่มีทาง! ลูกสาวฉันไตหายไปข้างหนึ่งแล้ว ฉันไม่อาจจะและไม่มีทางให้เธอไปเสี่ยงอีก!”“อาจารย์หลิน คุณได้โปรดคิดถึงเด็กคนอื่นๆ จับเขาไม่ได้วั
ในศาล เหยียนเคอซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็นถูกเข็นออกมาเสี้ยววินาทีที่เห็นฉัน ฉันรับรู้ได้อย่างว่องไวว่า เขาแย้มรอยยิ้มเยาะที่สังเกตเห็นได้ยากออกมาพริบตานั้น ความรู้สึกกระวนกระวายเริ่มไต่ขึ้นมาตามกระดูกสันหลัง“ผู้ถูกฟ้องหลินซูเสีย คุณต้องสงสัยว่ากระทำการลักพาตัวผู้ฟ้องร้องเหยียนเคอ หลักฐานแน่ชัดแล้ว ยังมีอะไรจะอธิบายอีกไหม”“ฉันยอมรับว่าลักพาตัวเหยียนเคอ แต่ก็ต้องการจะฟ้องร้องเหยียนเคอและซ่งฉู่เหอเจ้านายของเขาว่าลักพาตัว ค้าขายอวัยวะมนุษย์ และเกี่ยวข้องกับการฆ่าคนจำนวนมาก!”ด้านล่างเวทีโกลาหลระลอกหนึ่ง“หลักฐานส่งมอบเรียบร้อยแล้ว กรุณาเปิดในศาลด้วยค่ะ”ตอนที่มองไปทางเหยียนเคอ เขายังคงยิ้ม ท่าทางกุมชัยชนะเอาไว้ความรู้สึกไม่สบายใจรุนแรงขึ้นตอนที่ฉันมองไปทางคลิปวิดีโอที่ฉายบนหน้าจอขนาดใหญ่ ก็ทรุดตัวลงบนพื้นทันทีไม่เหมือนกับที่ฉันส่งไป สิ่งที่ฉายในหน้าจอมีเพียงภาพการลักพาตัวและข่มขู่เหยียนเคอของฉัน เสียงในนั้นของฉันพูดว่าจะฆ่าเขา ฆ่าซ่งฉู่เหอฉันเริ่มลนลาน มองไปทางหัวหน้ากัวอย่างขอความช่วยเหลือ “พวกคุณหาโรงงานที่อยู่ใต้บาร์พบแล้วสินะ ศพเยอะขนาดนั้น จะต้องมีอยู่แน่นอน”หัวห
ตอนนี้คือชั่วโมงที่ 72 ที่ซ่งฉู่เหอหายจตัวไปหัวหน้าใหญ่ทีมหน่วยสืบสวนที่หนึ่งกำลังดำเนินการสอบปากคำฉัน“การกินอาหารโดยใช้อวัยวะเดียวกันมาเสริมอวัยวะที่ขาดไป หมายความว่าอะไร” ดวงตาประหนึ่งสุนัขล่าเนื้อของหัวหน้ากัวพิจารณามองฉันขึ้นๆ ลงๆ“คนขาหัก ต้องกินกระดูกบำรุง หากว่าไตขาดไป กินสักเล็กน้อย ก็จะมีประโยชน์เหมือนกันใช่หรือไม่”“แน่นอนว่าการเลือกวัตถุดิบนี่ยิ่งต้องพิถีพิถัน ยกตัวอย่างเช่น คนคนหนึ่งขาดอะไรไป ก็ใช้ของอีกคนหนึ่งบำรุง”สิ้นเสียง ตำรวจในลานทั้งหมดก็เบนสายตามาที่ฉัน ทำท่าควักปืนออกมา“ใช่ไหม” หัวหน้ากัวให้ผู้ใต้บังคับบัญชาออกไป แล้วดื่มน้ำแกงในมือคำโต” แต่ทำไมผมรู้สึกว่านี่คือเนื้อหมูล่ะ”“เนื้อน่ะคือเนื้อหมู ส่วนอื่นๆ น่ะไม่เห็นแล้ว” หัวหน้ากัวได้ยินคำพูดนี้ ก็หยิบกระดูกบนพื้นขึ้นมาพิจารณาอย่างละเอียดเพียงเสี้ยวพริบตา ดวงหน้าก็พลันเคร่งขรึม ”หลินซูเสีย ตอนนี้ผมจะอาศัยการเป็นผู้สงสัยว่ากระทำการฆาตกรรมจับกุมคุณ”ฉันถอยหลังไปก้าวหนึ่ง มองหน้าเขาตรงๆ ”หัวหน้ากัว คุณคือตำรวจสืบสวนเก่า ฉันเชื่อว่าน่าจะสามารถประเมินเวลาการตายออกมาได้นะ”“คุณหมายความว่าอะไร”“นี่คือสิ่