แชร์

บทที่ 4

ผู้เขียน: เจินเหยียน
มือข้างหนึ่งค่อยๆ ยื่นออกมาจากช่องประตู บีบคอฉันเอาไว้

พละกำลังยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ยิ่งหายใจลำบากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน

ฉันพยายามหยุดการสั่นสะท้านไปทั้งตัวเอาไว้เต็มที่ ใช้มือเท้าจับและทุบตีคนคนนั้น แต่ระยะห่าง ความสูงที่แตกต่าง ไม่อนุญาตให้ทำได้เลยสักนิด

สุดท้าย ฉันก็คลำเจอโทรศัพท์มือถือในกระเป๋า

จึงทุ่มแรงทั้งหมดทุบลงไปบนข้อมือที่บีบคอฉันเอาไว้

ต่อมาเสียงเจ็บปวดก็ดังขึ้น พันธการบริเวณลำคอก็ถูกปลดเปลื้องเช่นกัน

คนที่ซ่อนตัวอยู่หลังประตู เดินออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม

ดวงหน้าหยิ่งยโส คว้าผมฉันเอาไว้อย่างโหดร้าย เอ่ยปากข้างหูฉัน

“เซอร์ไพรส์! อาจารย์หลิน”

เลือดในกายฉันแข็งค้าง

เสียงนี้ ฉันคุ้นเคยยิ่ง แทบจะสลักไว้ในเลือดเนื้อ

“ซ่งฉู่เหอ เดนมนุษย์อย่างแก ยังจะกล้ามาอีก!”

ฉันขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ถลึงตามองเขา ไม่สนใจความเจ็บปวดที่หนังศีรษะถูกกระชาก ยกมือขึ้นตบหน้าเขา

ซ่งฉู่เหอสีหน้าเคร่งขรึมทันที เสียง”พลั่ก”จากการเหวี่ยงฉันลงไปบนพื้นดังขึ้น

เขากระชากเส้นผมฉัน ลากไปบนพื้น แล้วโยนไปข้างเตียงเหมียวเหมี่ยวเหมือนกับโยนสิ่งมีชีวิตที่ตายไปแล้ว...

ฉันนอนอยู่บนพื้น มองเขาเข้าไปใกล้เหมียวเหมี่ยว
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ดอกไม้โคลนตม   บทที่ 5

    ฉันไม่ฟังเหมียวเหมี่ยวแจ้งตำรวจไปแล้ว คำฟ้องก็มอบให้ศาลไปแล้วในสถานีตำรวจ ตำรวจถามฉันว่า เก็บหลักฐานเอาไว้ไหมฉันส่ายหน้า“พยานบุคคล พยานวัตถุ เสื้อผ้าที่สวมใส่วันนั้น รวมถึงของเหลวที่ตกค้างในร่างกายล้วนไม่มีหรือ”ไม่มีกล้องวงจรปิดที่เป็นพยานวัตถุเพียงอย่างเดียวเสื้อผ้า...วันนั้นตอนถูกค้นพบ มีเสื้อผ้าเหลืออยู่เสียที่ไหนของเหลวตกค้าง ฉันนึกถึงใบหน้าลำพองใจของซ่งฉู่เหอแล้ว ก็ทำได้แค่ส่ายหน้าต่อไปตำรวจขมวดคิ้วมองฉัน ไม่ได้บอกว่าลูกสาวคุณถูกคนพบหรือ คำให้การของผู้เห็นเหตุการณ์ก็ช่วยเหลือได้เช่นกัน”...ก่อนมาสถานีตำรวจ ฉันไปหาผู้เห็นเหตุการณ์คนนี้มาแล้ว พี่ชายแรงงานอพยพคนหนึ่งมองดูแล้วซื่อตรงหลังรู้วัตถุประสงค์การมาเยือนของฉัน สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไป ปฏิเสธเรื่องออกจากบ้านในคืนนั้นไม่หยุด ภรรยาเขาที่อยู่อีกด้านช่วยเอ่ยสนับสนุนตาม บอกว่าผู้ชายของเธออยู่เป็นเพื่อนเธอทั้งคืนแต่เขาเป็นความหวังสุดท้ายของฉันแล้วฉันคุกเข่าลงตรงหน้าเขา ขอร้องให้เขาช่วยเหมียวเหมี่ยวพี่ชายก็คุกเข่าเช่นกัน โขกศีรษะติดกันห้าหกครั้ง เขาบอกว่า พี่สาว คุณอย่าทำให้ผมลำบากใจเลย ครอบครัวผมคนแก่และเด็กส

  • ดอกไม้โคลนตม   บทที่ 6

    ตั้งแต่ที่ออกมาจากสถานีตำรวจ ฉันก็รู้แล้วว่าคดีความครั้งนี้ พวกเราจะไม่ชนะ...วันนี้เป็นวันที่เหมียวเหมี่ยวออกจากโรงพยาบาล กระทั่งเส้นทางกลับโรงพยาบาล ฉันก็ไม่กล้าจะก้าวไปสักก้าว จนกระทั่งได้รับโทรศัพท์จากโรงพยาบาล เขาบอกว่า ลูกสาวคุณฆ่าตัวตาย หลอดเลือดแดงใหญ่ขาด เพิ่งช่วยคนกลับมาได้ฉันห้อตะบึงกลับไปเหมียวเหมี่ยวซึ่งอยู่บนเตียงคนไข้เหมือนตุ๊กตาผ้าเก่าๆ“ฉันไม่บริสุทธิ์แล้ว ฉันไม่ใช่คนสุขภาพแข็งแรงแล้ว”“แม่คะ หนูทำผิดใช่ไหม”“คุณควรจะฟังคำของแม่ใช่ไหมคะ”เธอเอ่ยสองสามประโยคซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวกับมีอาการผิดปกติทางจิตวาจาปลอบประโลมมาถึงริมฝีปาก จะทำอย่างไร ฉันก็ส่งเสียงไม่ออกพยาบาลที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์มือถือมา สิ่งที่ปรากฏในครรลองสายตาก็คือรูปเหมียวเหมี่ยวในซอยคืนนั้นความเห็นสกปรกโสมมมากมายบนฟอรั่มและเว็บไซต์ต่างๆ ถึงขั้นมีโรคจิตที่สอบถามที่อยู่ของพวกเราด้วย!ฉันกำโทรศัพท์มือถือแน่น ไม่ขยับเขยื้อน“อาจารย์หลิน ชอบเซอร์ไพรส์นี้ไหมครับ ผมเคยบอกแล้วว่าให้คุณอยู่นิ่งๆ หน่อย หรือจะบอกว่าคุณอยากให้เฉินเหมี่ยวตายจริงๆ”“ให้โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้าย มิฉะนั้น จุดจบของเฉินเหม

  • ดอกไม้โคลนตม   บทที่ 7

    หลังจากซ่งฉู่เหอหายตัวไปชั่วโมงที่ 72 ตำรวจก็เคาะประตูบ้านฉันฉันรู้ว่า พวกเขาสงสัยฉันจะแก้แค้นเพื่อลูกสาวง่ายมาก และเป็นเหตุผลที่มีพลังในการโน้มน้าวมากตอนนั้นฉันกำลังตุ๋นน้ำแกงเนื้อ กลิ่นหอมโชยไปทั่ว สุนัขในละแวกใกล้บ้านล้วนถูกดึงดูดมา ต่อสู้กันเพื่อกัดเศษกระดูกที่ตกลงไปบนพื้นเมื่อเข้าประตูมา ตำรวจที่เป็นผู้นำก็เดินเร็วมาทางฉัน “สวัสดีครับ ผมกัวเทา หัวหน้าทีมสืบสวนที่หนึ่ง คุณคือหลินซูเสียใช่ไหมครับ”ฉันเหลือบตามองเขาแวบหนึ่ง เอ่ยเสียงแหบแห้งว่า ”หัวหน้ากัวมาหาฉันมีธุระอะไรหรือ”ไม่รอให้เขาเอ่ยปาก ฉันก็ตักน้ำแกงเนื้อจากในหม้อหลายชามยื่นให้ตำรวจกับเพื่อนบ้านที่มาดูเรื่องสนุก ”ลองชิมดู ฉันตุ๋นคืนหนึ่งเลย”พี่สาวซึ่งเป็นเพื่อนบ้านมองตำรวจตรงหน้า และมองน้ำแกงเนื้อในมือฉัน สุดท้ายก็ทนกลิ่นหอมเย้ายวนใจไม่ไหว ดื่มลงไปคำใหญ่“ซ่งฉู่เหอหายตัวไป พวกเราตรวจพบว่าเขาปรากฏตัวในละแวกบ้านคุณเป็นครั้งสุดท้าย”“ก็คือซ่งฉู่เหอ ผู้ต้องสงสัยว่าล่วงละเมิดทางเพศกับปลูกถ่ายอวัยวะผิดกฎหมาย” สุดท้าย เขาก็เสริมประโยคหนึ่งเมื่อได้ยินคำว่าผู้ต้องสงสัย หน่วยตาก็แดงระเรื่อขึ้นมาทันทีนานขนาดนี้แล้ว

  • ดอกไม้โคลนตม   บทที่ 8

    ย้อนเวลากลับไปวันที่เหมียวเหมี่ยวฆ่าตัวตายลูกสาวซึ่งถือกำเนิดหลังตั้งครรภ์มาสิบเดือน เดิมควรจะใช้ช่วงวัยรุ่นที่เปี่ยมไปด้วยความมีชีวิตชีวาในรั้วโรงเรียน ตอนนี้กลับนอนเหมือนตุ๊กตาไม้อยู่บนเตียงคนไข้ในโรงพยาบาล ถูกคนข่มขู่ความโมโหและความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ผสมปนเปอยู่ในใจฉันหากเอ่ยขึ้นมา ต้นตอของทุกสิ่งล้วนมาเริ่มจากวันที่เหยียนเคอจงใจแนะนำเหมียวเหมี่ยวให้กับซ่งฉู่เหอเหยียนเคอจะไม่รู้การกระทำที่ใช้เงินในตอนนี้ของซ่งฉู่เหอได้อย่างไรฉวยโอกาสตอนฟ้ามืด ฉันแอบเข้าไปในบ้านของเหยียนเคอ วางยาคนให้หมดสติไป แล้วมัดเอาไว้ตอนตื่นขึ้นมา เขาเห็นฉัน ก้นบึ้งนัยน์ตาก็มีประกายสับสนพาดผ่าน ตะโกนเอ่ยอย่างไม่มั่นใจว่า ”แม้ว่าผมจะถอนหมั้น แต่ก็ไม่ถึงขนาดต้องมัดผมเอาไว้หรอกนะ!”ฉันเอ่ย เพียงแค่ถอนหมั้นหรือ“สรุปว่าแกทำอะไรกับเหมียวเหมี่ยวกันแน่ หรือว่าไม่ใช่แกคนเดียว”เขาอ้ำๆ อึ้งๆ ยังคงใช้คำโกหกมาปัดความรับผิดชอบ“ผมก็แค่พลเมืองทั่วไป จะทำอะไรได้ ผมก็ไม่อยากให้เกิดเรื่องขึ้นกับเฉินเหมี่ยวเช่นกันนะ!”พนักงานทั่วไปสามารถซื้อคฤหาสน์แถบชานเมืองได้พนักงานทั่วไปขับรถหรูราคาหลายล้านพนักงานทั่วไปม

  • ดอกไม้โคลนตม   บทที่ 9

    ไม่มีเวลาสนใจอะไรมากเกินไป ในวันศุกร์ที่ฝนตกหนัก ฉันลงมือปฏิบัติการ โดยนำกล้องปะปนเข้าไปในบาร์ทางเดินมุ่งหน้าไปยังโรงงานแปรรูปใต้ดิน เงียบสงบอย่างน่าประหลาด และราบรื่นประตูใหญ่ตรงหน้าขวางกั้นระหว่างโลกสองใบ หนึ่งคือโลกของปุถุชนคนธรรมดา หนึ่งคือโรงฆ่าชำแหละที่ไม่รู้จักกลิ่นคาวเลือดเข้มข้นโชยออกมาจากช่องประตู เข้ามาในจมูกฉันกำกล้องแน่น เพิ่มความกล้าให้ตัวเอง ผลักประตูบานนั้นให้เปิดออกสิ่งที่ปรากฏสู่ครรลองสายตาคือคนที่ถูกแขวนอยู่บนตะขอเหล็กแต่ละอัน เหมือนหมูและแกะที่ถูกชำแหละ รอการเชือดเลือดบนพื้นสะสมกลายเป็นแอ่งน้ำเล็กๆ หลายแอ่ง ทุกฝีก้าวที่เดิน ล้วนกระเซ็นถูกผิวหนังบนน่องฉันอดกลั้นต่ออาการคลื่นไส้และหัวใจที่เต้นอย่างบ้าคลั่ง เดินเข้าไปข้างในทีละก้าวๆ กล้องในมือก็บันทึกนรกบนดินแห่งนี้เอาไว้ด้วยทันใดนั้น เสียงเสียดสีแหลมแสบแก้วหูก็ดังขึ้นในห้องว่างที่ปิดสนิทแห่งนี้มือขาวซีดข้างหนึ่งก็พาดลงบนช่องอิฐ ปีนออกมาจากด้านหลังม่านทีละเล็ก ทีละน้อย“อาจารย์หลิน คุณรีบหน่อย หนี”สัตว์ประหลาดแปลกๆ ที่เหลือเพียงครึ่งท่อน ผมเผ้าสยาย ตะโกนเรียกชื่อฉัน คลานมาทางฉันอย่างยากลำบากเมื่อ

  • ดอกไม้โคลนตม   บทที่ 10

    ตอนนี้คือชั่วโมงที่ 72 ที่ซ่งฉู่เหอหายจตัวไปหัวหน้าใหญ่ทีมหน่วยสืบสวนที่หนึ่งกำลังดำเนินการสอบปากคำฉัน“การกินอาหารโดยใช้อวัยวะเดียวกันมาเสริมอวัยวะที่ขาดไป หมายความว่าอะไร” ดวงตาประหนึ่งสุนัขล่าเนื้อของหัวหน้ากัวพิจารณามองฉันขึ้นๆ ลงๆ“คนขาหัก ต้องกินกระดูกบำรุง หากว่าไตขาดไป กินสักเล็กน้อย ก็จะมีประโยชน์เหมือนกันใช่หรือไม่”“แน่นอนว่าการเลือกวัตถุดิบนี่ยิ่งต้องพิถีพิถัน ยกตัวอย่างเช่น คนคนหนึ่งขาดอะไรไป ก็ใช้ของอีกคนหนึ่งบำรุง”สิ้นเสียง ตำรวจในลานทั้งหมดก็เบนสายตามาที่ฉัน ทำท่าควักปืนออกมา“ใช่ไหม” หัวหน้ากัวให้ผู้ใต้บังคับบัญชาออกไป แล้วดื่มน้ำแกงในมือคำโต” แต่ทำไมผมรู้สึกว่านี่คือเนื้อหมูล่ะ”“เนื้อน่ะคือเนื้อหมู ส่วนอื่นๆ น่ะไม่เห็นแล้ว” หัวหน้ากัวได้ยินคำพูดนี้ ก็หยิบกระดูกบนพื้นขึ้นมาพิจารณาอย่างละเอียดเพียงเสี้ยวพริบตา ดวงหน้าก็พลันเคร่งขรึม ”หลินซูเสีย ตอนนี้ผมจะอาศัยการเป็นผู้สงสัยว่ากระทำการฆาตกรรมจับกุมคุณ”ฉันถอยหลังไปก้าวหนึ่ง มองหน้าเขาตรงๆ ”หัวหน้ากัว คุณคือตำรวจสืบสวนเก่า ฉันเชื่อว่าน่าจะสามารถประเมินเวลาการตายออกมาได้นะ”“คุณหมายความว่าอะไร”“นี่คือสิ่

  • ดอกไม้โคลนตม   บทที่ 11

    ในศาล เหยียนเคอซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็นถูกเข็นออกมาเสี้ยววินาทีที่เห็นฉัน ฉันรับรู้ได้อย่างว่องไวว่า เขาแย้มรอยยิ้มเยาะที่สังเกตเห็นได้ยากออกมาพริบตานั้น ความรู้สึกกระวนกระวายเริ่มไต่ขึ้นมาตามกระดูกสันหลัง“ผู้ถูกฟ้องหลินซูเสีย คุณต้องสงสัยว่ากระทำการลักพาตัวผู้ฟ้องร้องเหยียนเคอ หลักฐานแน่ชัดแล้ว ยังมีอะไรจะอธิบายอีกไหม”“ฉันยอมรับว่าลักพาตัวเหยียนเคอ แต่ก็ต้องการจะฟ้องร้องเหยียนเคอและซ่งฉู่เหอเจ้านายของเขาว่าลักพาตัว ค้าขายอวัยวะมนุษย์ และเกี่ยวข้องกับการฆ่าคนจำนวนมาก!”ด้านล่างเวทีโกลาหลระลอกหนึ่ง“หลักฐานส่งมอบเรียบร้อยแล้ว กรุณาเปิดในศาลด้วยค่ะ”ตอนที่มองไปทางเหยียนเคอ เขายังคงยิ้ม ท่าทางกุมชัยชนะเอาไว้ความรู้สึกไม่สบายใจรุนแรงขึ้นตอนที่ฉันมองไปทางคลิปวิดีโอที่ฉายบนหน้าจอขนาดใหญ่ ก็ทรุดตัวลงบนพื้นทันทีไม่เหมือนกับที่ฉันส่งไป สิ่งที่ฉายในหน้าจอมีเพียงภาพการลักพาตัวและข่มขู่เหยียนเคอของฉัน เสียงในนั้นของฉันพูดว่าจะฆ่าเขา ฆ่าซ่งฉู่เหอฉันเริ่มลนลาน มองไปทางหัวหน้ากัวอย่างขอความช่วยเหลือ “พวกคุณหาโรงงานที่อยู่ใต้บาร์พบแล้วสินะ ศพเยอะขนาดนั้น จะต้องมีอยู่แน่นอน”หัวห

  • ดอกไม้โคลนตม   บทที่ 12

    วันที่สามของการกลับบ้าน หัวหน้ากัวหลบเลี่ยงผู้คน แอบเข้ามาในยามวิกาลประโยคแรกที่เขาเอ่ยตอนเจอหน้ากันคือ ”ผมรู้ว่าสิ่งที่คุณพูดล้วนเป็นความจริง”หัวหน้ากัวหยิบถุงหลักฐานออกมาจากอ้อมแขน ”ผมค้นพบสิ่งนี้ในโรงงาน ผ่านการตรวจสอบแล้ว เป็นนิ้วก้อยมือซ้ายของหลิวหรูจริงๆ”“เช่นนั้นทำไมตอนนั้นคุณถึงไม่พูด”“ซ่งฉู่เหออิทธิพลยิ่งใหญ่แค่ไหน ผมเชื่อว่าคุณรู้ดีแก่ใจ”ใช่แล้ว ผิดยังสามารถพูดให้เป็นถูกได้ นิ้วก้อยนิ้วเดียวจะสามารถพิสูจน์อะไรได้“พวกเราตรวจพบผู้ซื้อที่เคยทำการซื้อขายกับซ่งฉู่เหอ รวมถึงฐานะของประชาชนที่หายตัวไปส่วนหนึ่งด้วย แต่ตอนนี้ทางตำรวจต้องการความช่วยเหลือจากคุณ หากว่าไม่สามารถหาโรงงานใหม่เขาพบได้วันหนึ่ง ก็ไม่สามารถจับกุมเขาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้วันหนึ่ง”“คุณอยาก...ให้ฉันช่วยคุณอย่างไร”“วันศุกร์หน้า มีผู้ซื้อสั่งจองสินค้าใหม่ ในมือเขาไม่มีแหล่งสินค้า ทำได้แค่ลงมือจากที่อื่น พวกเราคิดอยากจะ” เขาชะงัก” ใช้เฉินเหมี่ยวเป็นเหยื่อล่อ”“ไม่มีทาง! ลูกสาวฉันไตหายไปข้างหนึ่งแล้ว ฉันไม่อาจจะและไม่มีทางให้เธอไปเสี่ยงอีก!”“อาจารย์หลิน คุณได้โปรดคิดถึงเด็กคนอื่นๆ จับเขาไม่ได้วั

บทล่าสุด

  • ดอกไม้โคลนตม   บทที่ 18

    ตอนที่ได้สติขึ้นมาอีกครั้ง ฉันกับเหมียวเหมี่ยวนอนอยู่ที่โรงพยาบาลแล้วไวรัสในตัวเหมียวเหมี่ยว ก็ค้นเจอสูตรยารักษาที่คิดค้นพัฒนาในที่พักของซ่งฉู่เหอเช่นกันตามที่หัวหน้ากัวบอกเล่า ตอนพวกเขาไปถึง ฉันกับเหมียวเหมี่ยวหมดสติอยู่บนดาดฟ้าเรือ เหยียนเคอกับซ่งฉู่เหอตายอยู่ในห้องโถงและโรงงานใหม่ของซ่งฉู่เหอก็ถูกทำลาย ในนั้นค้นพบอวัยวะในร่างกายคนจำนวนมาก และเด็กสาวที่หายตัวไปพฤติกรรมเลวร้ายเจ้าสัวที่เคยทำการซื้อขายกับเขาล้วนถูกจับกุมจิ้นเฉิงกลับคืนสู่ความสงบสุขในวันวานฉันไปวางช่อดอกไม้ลงหน้าป้ายหลุมศพที่สลักชื่อเหยียนเคอเป็นเพื่อนเหมียวเหมี่ยวมีบางเรื่อง ไม่ใช่ตายแล้วจะสามารถแก้ไขได้ มีบางเรื่องก็ไม่ใช่เรื่องที่จะผ่านไปได้ง่ายๆแต่ ฉันมองเหมียวเหมี่ยวอย่างอ่อนโยน “ลูกสาวของฉันปลอดภัย มีความสุขก็พอ”

  • ดอกไม้โคลนตม   บทที่ 17

    ซ่งฉู่เหอออกคำสั่งให้เหมียวเหมี่ยวลงมือฆ่าฉันเขายืนอยู่อีกด้าน แววตาเปี่ยมไปด้วยความสนุกสนานเหมียวเหมี่ยวมือถือกริช ห่างจากฉันน้อยลงเรื่อยๆ ในตอนที่คมมีดแทงลงมา มือที่ถือมีดกลับเปลี่ยนทิศทางกะทันหันเหมียวเหมี่ยวใช้ร่างกายสกัดกั้นคนตรงหน้า หันกลับมาเอ่ยเสียงเบาว่า ”แม่คะ รีบหนีเร็วเข้า”การเปลี่ยนแปลงอันไม่คาดคิดตรงหน้าทำให้ซ่งฉู่เหอขัดใจ เขาถือมีดยาว เร่งฝีเท้าฟันลงมาฉันเหวี่ยงเหมียวเหมี่ยวไปอีกด้าน ถึงพอจะหลบไปได้ซ่งฉู่เหอโจมตีอีกครั้ง เท้าเหยียบลงบนกระโปรงตัวยาวของเหมียวเหมี่ยว มือซ้ายคว้าหมับเข้าที่ผมของเธอ ”หนีสิ หนีไปสิ”ตอนนี้เขาบ้าคลั่งสุดขีดฉันยืนอยู่ที่เดิม รอระยะห่างระหว่างเขากับเหมียวเหมี่ยวและฉันหดสั้นลงเรื่อยๆ รอถึงตอนที่ห่างกันหนึ่งช่วงแขน ก็พลิกมือแทงปิ่นปักผมในมือเข้าไปในดวงตาซ่งฉู่เหอเขากุมตาซ้าย จ้องมองด้วยความโกรธสถานที่จัดงานสับสนวุ่นวาย ที่หนีเอาชีวิตรอด ก็หนีเอาชีวิตรอด ที่ถอนตัว ก็ถอนตัวมีเพียงพวกเราสามคนที่ยืนอยู่บนเวทีเงียบๆ“หลินซูเสีย เธอแม่ง...”ซ่งฉู่เหอกดปุ่มกดในมือ กรงเหล็กร่วงลงมาจากด้านบน ขังพวกเราเอาไว้ในนั้นหนีไม่พ้นแล้วหรือฉ

  • ดอกไม้โคลนตม   บทที่ 16

    หนาว หนาวถึงกระดูกที่นี่คือที่ไหนฉันพยายามลืมตา แต่น้ำทะเลซัดเข้าสู่นัยน์ตาฉันฉันหรี่ตา ในความเลือนราง ฉันเห็นซ่งฉู่เหอจูงโซ่เหล็กเส้นหนึ่งแสดงอยู่บนเวทีซึ่งรายล้อมไปด้วยผู้คนปลายโซ่เหล็กเส้นนั้นล่ามเฉินเหมี่ยว ลูกสาวของฉันเอาไว้สวมเดรสตัวยาวที่กระทั่งร่างกายก็ปิดไม่ได้เอาไว้ คลานอยู่บนพื้นเหมือนสุนัขตัวหนึ่ง ฉันใจร้อนดั่งถูกไฟเผา คิดจะพุ่งเข้าไป ตอนนี้กลับค้นพบว่าตัวเองถูกขังอยู่ในภาชนะสุญญากาศหนึ่ง ระดับเพิ่มขึ้นไม่หยุดตามองซ่งฉู่เหอใช้ลูกธนูแทงเข้าไปในร่างกายเหมียวเหมี่ยว แต่กลับความสามารถไม่เพียงพอ“เข็มนี้ สามารถรับประกันได้ว่าหนูทดลองจะว่านอนสอนง่ายแน่นอน” ซ่งฉู่เหอสาธิตให้ด้านล่างเวทีดูสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าว่า เหมียวเหมี่ยวไม่ดิ้นรนอีก ปล่อยให้จัดการแต่โดยดี“ตอนนี้เริ่มการเสนอราคา ผู้ที่เสนอราคาสูงสามารถทดสอบด้วยตัวเองได้”ซ่งฉู่เหอโบกมือ เด็กสาวอายุใกล้เคียงกันห้าหกคนถูกพาขึ้นมาบนเวทีอย่างหยาบคายทั่วร่างเต็มไปด้วยบาดแผล ไม่มีส่วนใดที่สมบูรณ์เลยสักนิดฉันอดกลั้นต่อความเจ็บปวด หยิบปิ่นปักผมที่ซ่อนไว้ในเสื้อผ้า เจาะอ่างกระจกทีละเล็ก ทีละน้อยในที่สุดเ

  • ดอกไม้โคลนตม   บทที่ 15

    ฉันบุกเข้าไปในบ้านเหยียนเคอ ตบหน้าเขาไปทีหนึ่ง“เหมียวเหมี่ยวใกล้จะตายแล้ว แกพอใจแล้วสินะ!”“เป็นคู่รักที่รู้จักและรักกันมาตั้งแต่เด็กยี่สิบปี เหยียนเคอ แกใจดำมากจริงๆ”เขามองฉันอย่างเหลือเชื่อ ”เป็นไปไม่ได้ ซ่งฉู่เหอเคยรับปากผมว่า ไม่มีทางทำร้ายเธอจนตาย”“ซ่งฉู่เหอ ซ่งฉู่เหอ แกมันเป็นสุนัขตัวหนึ่งของซ่งฉู่เหอ ทำไมเขาจะต้องฟังแกด้วยห๊ะ!”“ตั้งแต่เล็กจนตัว ฉันถามตัวเองว่าปฏิบัติต่อแกไม่เลว เหมียวเหมี่ยวยิ่งรักและให้ความสำคัญกับแกยิ่งกว่า ทุกเรื่องล้วนยึดแกเป็นหลัก แล้วแกล่ะ หันกลับมาทำร้ายเธอ เหยียนเคอ ฉันผิดหวังในตัวแกมากจริงๆ”เหยียนเคอตะลึงค้างอยู่ที่เดิม ผ่านไปเนิ่นนาน จึงก้มหน้าพูดว่าอยากจะไปเยี่ยมเฉินเหมี่ยวกลับไปถึงโรงพยาบาล เหยียนเคอยืนอยู่นอกห้องพักผู้ป่วย ไม่กล้าเข้าไป มองดูเหมียวเหมี่ยวอยู่แบบนั้นจนกระทั่งพยาบาลเข้าไปเปลี่ยนยา เขาถึงได้เบนสายตากลับมา ยื่นแฟลชไดร์ฟอันหนึ่งให้ฉัน“คลิปที่คุณบันทึกในโรงงานครั้งที่แล้วล้วนอยู่ในนี้”“ผมผิดต่อเหมียวเหมี่ยว ถูกเงินทำให้โลภจนลืมศีลธรรม ผมจะชดใช้ให้เธอ”“สิ่งที่แกติดค้างเธอ ชาตินี้แกก็คืนไม่หมด”...ฉันมอบแฟลชไดร์ฟให้ห

  • ดอกไม้โคลนตม   บทที่ 14

    วิ่งวุ่นไปห้าโรงพยาบาลติดต่อกัน อีกฝ่ายถึงได้ยอมรับเหมียวเหมี่ยวเข้าโรงพยาบาลลูกสาวที่อยู่ข้างมีเกล็ดบางๆ ชั้นหนึ่งปกคลุมไปทั่วตัว ทุกครั้งที่เล็บซึ่งแปรเปลี่ยนเกา ก็จะมีเกล็ดหลุดร่วง รวมถึงเลือดทะลักออกมาฉันรู้ว่าเหมียวเหมี่ยวเจ็บ แต่เธออดกลั้นไม่พูดออกมา เพื่อไม่ให้ฉันเป็นห่วงฉันมองลูกสาวที่หลบอยู่ในมุมมืด แล้วหลับตาลงอย่างสิ้นหวังเธอเริ่มกลัวแสงสว่าง ต่อไป ฉันไม่กล้าจะคิดเลยแม้แต่น้อยโรงพยาบาลระดมผู้เชี่ยวชาญ เริ่มต้นศึกษาวิจัยอาการป่วยของเหมียวเหมี่ยวแต่วันแล้ววันเล่า ยังคงไม่มีมาตรการใดๆเมื่อเห็นเหมียวเหมี่ยวอาการรุนแรงยิ่งขึ้น หัวใจฉันก็เจ็บปวดจนเลือดไหลซิบๆเหมียวเหมี่ยวที่ให้น้ำเกลืออยู่ กลับยังคงปลอบโยนฉัน“แม่คะ หนูรู้สึกว่าตัวเองดีขึ้นมากแล้ว ความอยากอาหารก็ดีมากนะคะ”“แม่รีบไปซื้อเกี๊ยวร้านที่พวกเราไปกินด้วยกันเมื่อก่อนเถอะค่ะ หนูหิวแล้ว”...รอตอนที่ฉันกลับมา หัวหน้ากัวก็นั่งอยู่หน้าเตียงคนไข้เหมียวเหมี่ยวแล้ว“เหมียวเหมี่ยว เธอ...”ฉันส่ายหน้า”ฝีมือซ่งฉู่เหอ”หัวหน้ากัวถอนหายใจ วางมือลงบนไหล่ฉัน ”เรื่องนั้น ผมยังหวังว่าคุณจะลองพิจารณาดู หายตัวไปอีกคน

  • ดอกไม้โคลนตม   บทที่ 13

    เพื่อความปลอดภัยของเหมียวเหมี่ยว ฉันล็อกเธอไว้ในบ้าน ไม่อนุญาตให้ออกไปข้างนอกแต่มีเสียงคำรามราวกับสัตว์ป่าออกมาจากปากเหมียวเหมี่ยวมาสองคืนติดแล้ว ผิวหนังถึงขั้นปรากฏเกล็ดสีเขียวขึ้นมาประตูตู้เย็นและลานในบ้านเริ่มปรากฏเนื้อดิบเย็นๆ ที่ถูกกินไปครึ่งหนึ่งหรือคอเป็ดไก่ที่ถูกกัดขาดบ่อยครั้งเพียงแต่ตัวเหมียวเหมี่ยวดันไม่รู้สึกถึงความผิดปกตินี้แม้แต่น้อยทั้งยังหยอกล้อกับฉันว่า ระยะนี้มักจะหิวมาก กินอย่างไรก็ไม่อิ่มฉันมองลูกสาวที่ประหลาดขึ้นเรื่อยๆ ในใจก็ผิดหวังยิ่งโทรหาหมายเลขโทรศัพท์ที่ซ่งฉู่เหอยัดใส่กระเป๋าฉันในวันนั้นเสียงหัวเราะแผ่วเบาดังลอยมาจากอีกฝ่ายระลอกหนึ่ง ”ดูท่าทาง ยาจะออกฤทธิ์แล้วสินะ”“แกทำอะไรกับเหมียวเหมี่ยวกันแน่?!” ซ่งฉู่เหอเอ่ยอย่างมีความสุขระคนหยอกล้อ ”คนรวยอยากลองการละเล่นใหม่ ฉันจึงลองใช้มันกับร่างลูกสาวเธอ ฉันบอกแล้วว่าเธอน่ะเล่นได้ไม่เบื่อที่สุด เป็นหนูทดลองที่ทำให้ผมพอใจมากที่สุด”เดนมนุษย์ ล้วนเป็นเดนมนุษย์กันทั้งนั้นตอนนี้ฉันเพิ่งจะเข้าใจว่า คนที่ถูกซ่งฉู่เหอเลือก อย่าได้คิดหนี และหนีไม่พ้นเช่นกันเขาจะมอบความหวังไว้ตรงหน้าคุณ จากนั้นก็ช่วงชิงมั

  • ดอกไม้โคลนตม   บทที่ 12

    วันที่สามของการกลับบ้าน หัวหน้ากัวหลบเลี่ยงผู้คน แอบเข้ามาในยามวิกาลประโยคแรกที่เขาเอ่ยตอนเจอหน้ากันคือ ”ผมรู้ว่าสิ่งที่คุณพูดล้วนเป็นความจริง”หัวหน้ากัวหยิบถุงหลักฐานออกมาจากอ้อมแขน ”ผมค้นพบสิ่งนี้ในโรงงาน ผ่านการตรวจสอบแล้ว เป็นนิ้วก้อยมือซ้ายของหลิวหรูจริงๆ”“เช่นนั้นทำไมตอนนั้นคุณถึงไม่พูด”“ซ่งฉู่เหออิทธิพลยิ่งใหญ่แค่ไหน ผมเชื่อว่าคุณรู้ดีแก่ใจ”ใช่แล้ว ผิดยังสามารถพูดให้เป็นถูกได้ นิ้วก้อยนิ้วเดียวจะสามารถพิสูจน์อะไรได้“พวกเราตรวจพบผู้ซื้อที่เคยทำการซื้อขายกับซ่งฉู่เหอ รวมถึงฐานะของประชาชนที่หายตัวไปส่วนหนึ่งด้วย แต่ตอนนี้ทางตำรวจต้องการความช่วยเหลือจากคุณ หากว่าไม่สามารถหาโรงงานใหม่เขาพบได้วันหนึ่ง ก็ไม่สามารถจับกุมเขาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้วันหนึ่ง”“คุณอยาก...ให้ฉันช่วยคุณอย่างไร”“วันศุกร์หน้า มีผู้ซื้อสั่งจองสินค้าใหม่ ในมือเขาไม่มีแหล่งสินค้า ทำได้แค่ลงมือจากที่อื่น พวกเราคิดอยากจะ” เขาชะงัก” ใช้เฉินเหมี่ยวเป็นเหยื่อล่อ”“ไม่มีทาง! ลูกสาวฉันไตหายไปข้างหนึ่งแล้ว ฉันไม่อาจจะและไม่มีทางให้เธอไปเสี่ยงอีก!”“อาจารย์หลิน คุณได้โปรดคิดถึงเด็กคนอื่นๆ จับเขาไม่ได้วั

  • ดอกไม้โคลนตม   บทที่ 11

    ในศาล เหยียนเคอซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็นถูกเข็นออกมาเสี้ยววินาทีที่เห็นฉัน ฉันรับรู้ได้อย่างว่องไวว่า เขาแย้มรอยยิ้มเยาะที่สังเกตเห็นได้ยากออกมาพริบตานั้น ความรู้สึกกระวนกระวายเริ่มไต่ขึ้นมาตามกระดูกสันหลัง“ผู้ถูกฟ้องหลินซูเสีย คุณต้องสงสัยว่ากระทำการลักพาตัวผู้ฟ้องร้องเหยียนเคอ หลักฐานแน่ชัดแล้ว ยังมีอะไรจะอธิบายอีกไหม”“ฉันยอมรับว่าลักพาตัวเหยียนเคอ แต่ก็ต้องการจะฟ้องร้องเหยียนเคอและซ่งฉู่เหอเจ้านายของเขาว่าลักพาตัว ค้าขายอวัยวะมนุษย์ และเกี่ยวข้องกับการฆ่าคนจำนวนมาก!”ด้านล่างเวทีโกลาหลระลอกหนึ่ง“หลักฐานส่งมอบเรียบร้อยแล้ว กรุณาเปิดในศาลด้วยค่ะ”ตอนที่มองไปทางเหยียนเคอ เขายังคงยิ้ม ท่าทางกุมชัยชนะเอาไว้ความรู้สึกไม่สบายใจรุนแรงขึ้นตอนที่ฉันมองไปทางคลิปวิดีโอที่ฉายบนหน้าจอขนาดใหญ่ ก็ทรุดตัวลงบนพื้นทันทีไม่เหมือนกับที่ฉันส่งไป สิ่งที่ฉายในหน้าจอมีเพียงภาพการลักพาตัวและข่มขู่เหยียนเคอของฉัน เสียงในนั้นของฉันพูดว่าจะฆ่าเขา ฆ่าซ่งฉู่เหอฉันเริ่มลนลาน มองไปทางหัวหน้ากัวอย่างขอความช่วยเหลือ “พวกคุณหาโรงงานที่อยู่ใต้บาร์พบแล้วสินะ ศพเยอะขนาดนั้น จะต้องมีอยู่แน่นอน”หัวห

  • ดอกไม้โคลนตม   บทที่ 10

    ตอนนี้คือชั่วโมงที่ 72 ที่ซ่งฉู่เหอหายจตัวไปหัวหน้าใหญ่ทีมหน่วยสืบสวนที่หนึ่งกำลังดำเนินการสอบปากคำฉัน“การกินอาหารโดยใช้อวัยวะเดียวกันมาเสริมอวัยวะที่ขาดไป หมายความว่าอะไร” ดวงตาประหนึ่งสุนัขล่าเนื้อของหัวหน้ากัวพิจารณามองฉันขึ้นๆ ลงๆ“คนขาหัก ต้องกินกระดูกบำรุง หากว่าไตขาดไป กินสักเล็กน้อย ก็จะมีประโยชน์เหมือนกันใช่หรือไม่”“แน่นอนว่าการเลือกวัตถุดิบนี่ยิ่งต้องพิถีพิถัน ยกตัวอย่างเช่น คนคนหนึ่งขาดอะไรไป ก็ใช้ของอีกคนหนึ่งบำรุง”สิ้นเสียง ตำรวจในลานทั้งหมดก็เบนสายตามาที่ฉัน ทำท่าควักปืนออกมา“ใช่ไหม” หัวหน้ากัวให้ผู้ใต้บังคับบัญชาออกไป แล้วดื่มน้ำแกงในมือคำโต” แต่ทำไมผมรู้สึกว่านี่คือเนื้อหมูล่ะ”“เนื้อน่ะคือเนื้อหมู ส่วนอื่นๆ น่ะไม่เห็นแล้ว” หัวหน้ากัวได้ยินคำพูดนี้ ก็หยิบกระดูกบนพื้นขึ้นมาพิจารณาอย่างละเอียดเพียงเสี้ยวพริบตา ดวงหน้าก็พลันเคร่งขรึม ”หลินซูเสีย ตอนนี้ผมจะอาศัยการเป็นผู้สงสัยว่ากระทำการฆาตกรรมจับกุมคุณ”ฉันถอยหลังไปก้าวหนึ่ง มองหน้าเขาตรงๆ ”หัวหน้ากัว คุณคือตำรวจสืบสวนเก่า ฉันเชื่อว่าน่าจะสามารถประเมินเวลาการตายออกมาได้นะ”“คุณหมายความว่าอะไร”“นี่คือสิ่

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status