เขาไม่พูดอะไรหันหลังเดินหายไปจากห้องราวสามนาทีแล้วเดินกลับมาพร้อมกับน้ำหนึ่งแก้วในมือยื่นให้ฉันดื่ม"นอน"ทำเสียงเข้มสั่งอีกรอบ"เปลี่ยนใจแล้ว อยากอาบน้ำ" ว่าแล้วฉันก็ลุกขึ้นจากเตียงอย่างทุลักทุเลแล้วมองไปรอบๆ"..." ได้ยินเสียงถอนหายใจเบาๆ ก่อนที่ฝ่ามือหนาจะฉุดฉันให้เดินตามไปยังห้องน้ำ "รอตรงนี้ไม่ต้องล็อกประตู"แล้วเขาก็หายไปซักพักก่อนจะกลับมาพร้อมกับผ้าเช็ดตัวและเสื้อผ้าสองชิ้น เป็นเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นของเขา"ขอบคุณค่ะ มีแปรงฟันด้วยมั้ย~""..." ผู้ชายหน้าหล่อเดินหายไปอีกครั้งและกลับมาพร้อมกับสิ่งที่ฉันต้องการ"พี่ไปนอนเลย~""อืม รีบอาบ อย่าล็อกประตู""ทำไมคะ อย่าแอบเข้ามาตอนอาบน้ำนะ" ฉันพูดแล้วยกมือขึ้นมาปิดหน้าอกตัวเอง"เธอเมา มันอันตราย""อ่อ ค่า~"พออาบน้ำเสร็จฉันก็เดินหอบเสื้อผ้าออกมา เห็นพี่ทศกัณฐ์นั่งเล่นมือถืออยู่ ตอนนี้อาการเมาหายไปบ้างแล้ว"นินนอนข้างนอกนะ ดึกแล้วคงกลับไม่ไหว""มานอนนี่""..." อยู่ๆ หัวใจก็เต้นตึกตักขึ้นมาตอนที่เขาเอามือตบลงบนฟูกข้างๆ ตัวเอง"อย่าดื้อ" เขาพูดแล้วจ้องฉันสีหน้าดุๆ "มา...""ค่ะ" ฉันขยับขึ้นไปนั่งบนเตียงช้าๆ หยิบมือถือขึ้นมาทักหาเพื่อนในไลน์ก
EPISODE 19หลายวันต่อมาหลังจากวันนั้นฉันก็คุยกับพี่ทศกัณฐ์มากขึ้นผ่านข้อความ แต่ก็ยังไม่ได้เจอหน้าเขาซักทีเพราะช่วงนี้ที่คณะเขามีกิจกรรมหลายอย่างพอคุยกับพี่ทศกัณฐ์แบบนี้ ผู้ชายลึกลับคนนั้นก็ไม่ทักมาหาฉันอีกเลย ราวกับเขาเป็นกามเทพให้ฉันอย่างนั้นแหละ"สวัสดีครับน้องๆ ตอนนี้เราเดินทางมาถึงครึ่งทางแล้วนะครับ เหลืออีกไม่กี่กิจกรรมน้องๆ ก็จะผ่านและได้รุ่นกันแล้ว..." พี่วินัยปีสองยืนอยู่หน้าแถว พูดถึงอะไรต่างๆ นานาเกี่ยวกับกิจกรรมเพื่อใช้เป็นแรงกดดันในคำว่า 'รุ่น' ของพวกเขา"ต่อไปพี่จะแจกภารกิจให้น้องๆ แต่ละคน ซึ่งเป็นภารกิจที่ไม่เหมือนกัน น้องๆ ต้องทำให้สำเร็จเพื่อให้คะแนนกิจกรรมสะสมผ่านและได้หัวเข็มขัดคณะของเรา" ว่าแล้วพี่ๆ ปีสองก็พากันแจกกระดาษที่ถูกพับและเย็บเอาไว้เหมือนมันลับมากๆ"ห้ามแกะอ่านจนกว่าจะถึงห้อง และต้องทำให้สำเร็จ ถ้าทำสำเร็จพี่ๆ ที่มอบหมายภารกิจให้จะเซ็นให้ในสมุดกิจกรรมของน้องที่พี่วินัยเก็บไว้ให้เล่มนี้" พี่วินัยพูดไปก็ชูสมุดนั้นให้ดู พี่ปีสองคนอื่นก็ยื่นกระดาษที่พับไว้มาให้ตามรหัสแต่ละคนจากนั้นก็ปล่อยแถวและให้แยกย้ายกลับห้องกลับบ้านของตัวเอง"เวลาห้าวันต้องทำภารกิจให้ส
ครึ่งชั่วโมงต่อมา"ยัยนิน" นิเนยสะกิดแขนฉันแล้วมองไปทางจุดที่มีนักกีฬาพักอยู่ เห็นพี่ทศกัณฐ์กำลังยืนอยู่กับผู้หญิงหน้าตาดีคนหนึ่งที่อยู่ในชุดนักศึกษากระโปรงสั้นจนแทบจะเห็นอะไรต่อมิอะไรเธอถือขวดน้ำเอาไว้ในมือเหมือนตั้งใจจะเตรียมมาให้เขานั่นแหละ"..." ฉันมองไปตรงนั้น เขาก็หันมาพอดี จึงรีบเบือนหน้ากลับมาแล้ววิ่งต่ออย่างไม่ใส่ใจนักฉันจะคิดว่าไม่มีอะไรแล้วกัน เขามีคนชอบเยอะแยะแค่นี้คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร อีกอย่างฉันไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะไปว่าอะไรเขาได้ ถึงเขาจะทำดีด้วยแต่มันก็ยังไม่ได้ชัดเจน"นิ่งไว้แก สวยๆ ไม่ต้องโวยวาย" ใบเฟิร์นวิ่งมาขนาบข้างฉันพร้อมกับทำท่าทางสะบัดผมแบบตัวร้ายในละครปึก!อยู่ๆ ฉันก็ชนเข้ากับใครบางคนเพราะมัวแต่ก้มหน้าวิ่งไปตามลู่ แทบไม่ได้มองขึ้นมาเลย จนเกือบจะเสียหลักล้มไปด้านหลัง โชคดีที่เขาคว้าตัวเอาไว้แต่ยิ้มกวนประสาทใส่แบบไม่รู้สึกผิดอีก"หลับตาวิ่งทำไม" เขาพูดแล้วค่อยๆ ปล่อยให้ฉันยืนเป็นอิสระ ท่ามกลางสายตาของใครหลายคนที่อยู่บริเวณนั้น"ลืมตาแล้วค่ะ แต่พี่มาเดินตัดหน้านินเอง" ฉันตอบแล้วเบี่ยงตัวจะเดินออกไปอีกทางแต่อีกคนก็ดึงชายเสื้อออกกำลังกายของฉันเอาไว้"ใส่ร้าย
EPISODE 20"ซื้อไปกินที่ห้องได้มั้ย อยากอาบน้ำ" พี่ทศกัณฐ์หันมาถามก่อนที่จะไปถึงรถแล้วทำขยับเสื้อของตัวเองที่มันชุ่มเหงื่อ"ห้องนินหรือห้องพี่""แล้วแต่" เขาพูดแล้วกดปลดล็อกประตูเราจึงเดินขึ้นรถไป"ห้องพี่ก็ได้ค่ะ เพราะพี่อยากอาบน้ำ" ฉันบอกแล้วหันไปยิ้มให้เขารู้สึกดีจัง ตื่นเต้นด้วยตอนนี้เหมือนเรากลับมาคบกันเลย แต่ไม่รู้จะใช่หรือเปล่า"งั้นให้เธอไปเอาเสื้อผ้าก่อน" พี่ทศกัณฐ์พูดเสียงเรียบมองไปด้านหน้าขับรถอย่างตั้งใจ"ไปเอาทำไมคะ" ฉันถามด้วยความตกใจและหันไปมองเขา"เผื่อมันดึกไง ขี้เกียจมาส่ง" เขาพูดแล้วหันมามองฉันบ้างเหมือนมันเป็นเรื่องปกติ "หรือไม่อยากไปแล้ว มีเรื่องจะคุยไม่ใช่เหรอ""..." ฉันเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะพยักหน้าตอบไปด้วยความใจกล้า "ไปก็ไป"เขายิ้มเล็กๆ ขับรถไปส่งซื้อของกินหลายๆ อย่างและไปเอาเสื้อผ้าที่คอนโดของฉันก่อนจะกลับมาที่คอนโดของเขา"พี่ธีจะรู้มั้ย"ฉันเดินตรงไปที่ระเบียงทันทีเมื่อมาถึงห้องของพี่ทศกัณฐ์ วันนั้นมาครั้งหนึ่งแล้วแต่ก็ไม่ได้มาชื่นชมตรงนี้คอนโดพี่ทศกัณฐ์ราคาแพงมาก วิวก็สวยและรู้มาจากพี่นธีว่าพ่อกับแม่เขาซื้อไว้ให้ตั้งแต่มาเรียนที่นี่ฝั่งระเบียงมองเห็นเง
"เรื่องที่นินจะบอกคือเรื่องรับน้อง" ฉันพูดแล้วหยิบกระดาษแผ่นนั้นมาให้เขาดูพี่ทศกัณฐ์รับกระดาษแผ่นนั้นไปอ่านก่อนจะขมวดคิ้วเข้าหากันเป็นเชิงว่าไม่ชอบใจ แล้วเขาก็วางมันทิ้งไว้บนโต๊ะเงียบๆ"เขาคงชอบพี่มากๆ เลยว่ามั้ย ไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นนิน รู้จุดอ่อนซะด้วยสิหรือเขาคิดว่าเราสนิทกัน" ฉันพูดเสียงเบาอย่างท้อแท้"ไม่มีสมอง" พี่ทศกัณฐ์พูดออกมาอย่างรำคาญเพิ่งรู้ว่าด่าคนได้เจ็บขนาดนี้ เห็นไม่พูดมาก"ใจเย็นๆ น้า" พยายามพูดให้เขาอารมณ์ดีขึ้น"รับน้องแบบนี้แล้วรุ่นน้องจะได้อะไร" เขาพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจังและไม่ชอบใจจริงๆ"พี่เฮดว้ากว่าต้องทำยังไงดีคะ"ฉันยิ้มแล้วเอียงคอถามออกไป"ถ้าเป็นคณะฉันคนคนนี้จะไม่ได้ร่วมกิจกรรมรับน้องแน่""..." ฉันพยักหน้าได้แต่เงียบฟังเขาอย่างนั้นเพราะรู้ว่าตอนนี้พี่ทศกัณฐ์ต้องกำลังหงุดหงิดอยู่ฉันหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมาเก็บไว้ตอนที่เราทานข้าวกันเสร็จแล้ว"นินเก็บห้องให้นะ" พูดจบก็เดินไปเก็บของให้เขา ที่จริงมันก็ไม่ได้รกมากหรอก แต่บางอย่างมันก็ไม่เข้าที่เข้าทางเพราะเขาเป็นผู้ชายคงจะไม่ถนัดเรื่องแบบนี้นัก"มานี่ พรุ่งนี้ค่อยเก็บ" พี่ทศกัณฐ์ตบเบาะโซฟาข้างๆ ตัวเขาแล้วหันมามอ
EPISODE 21"ได้พี่ไง น้องญานิน เอามั้ย..."พูดจบอีกฝ่ายก็เป็นคนฉกริมฝีปากฉันไปจูบราวกับใจร้อน โดยที่ฉันไม่ทันได้คิดหาคำตอบ หนังที่เปิดอยู่ไม่มีความหมายอะไรกับเราทั่งคู่เลยแม้แต่น้อยพี่ทศกัณฐ์บดเบียดริมฝีปากของฉันอย่างคนเอาแต่ใจ แทรกลิ้นสากเข้ามาฉกชิมความหวานและตวัดเล่นกับลิ้นเล็กของฉันอยู่เนิ่นนานจนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว"อื้อ~" ฉันตีแผ่งอกของเขาและพยายามดันตัวออกเพื่อหาอากาศหายใจเจ้าของจูบเอาแต่ใจนั้นผละออกแค่ครู่เดียวให้ฉันสูดอากาศเข้าเต็มปอดก่อนจะบดขยี้ริมฝีปากนั้นอีกครั้งตอนที่เราคบกันมันยังไม่เคยลึกซึ้งขนาดนี้เลย เหมือนเขากำลังสั่งสอนบทเรียนการจูบแบบผู้ใหญ่ให้กับฉันอย่างนั้นแหละ"พะ...พอก่อนค่ะ" ฉันดันหน้าเขาออกแล้วหายใจหอบ "นินจะตายแล้วหายใจไม่ออก""..." พี่ทศกัณฐ์หัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากมาจูบแก้มที่กำลังแดงระเรื่อของฉัน "แค่นี้อย่าเพิ่งตาย ไปตายกับอย่างอื่นดีกว่า""ห้ามคิดไม่ดี" ฉันยกนิ้วชี้ขึ้นมาแตะที่ริมฝีปากของเขาเบาๆ เป็นเชิงห้ามปราม"คิดไปแล้ว แต่ถ้าไม่ให้ก็ไม่บังคับ" เขาพูดจบก็เลื่อนมือไปหยิบมือถือเครื่องราคาแพงของตัวเองมา แล้วยื่นให้ฉัน "จัดก
"อะไร" เขาเลื่อนหน้าเข้ามาดูหน้าต่างแชทนั้น"นางหาว่านินจะปลอมไลน์มาคุยกับนาง เพ้อเจ้อใหญ่แล้ว" ฉันพูดออกไปอย่างหงุดหงิดก่อนจะพิมพ์ตอบไปTOSSAKAN : แค่ทำตามคำขอของเด็กปีหนึ่งแล้วฉันต้องพิสูจน์ตัวเองอีกเหรอ มันใช่ธุระมั้ยรับบทเป็นพี่ทศกัณฐ์ที่กำลังหงุดหงิดอยู่FangFang: งั้นก็ถ่ายรูปห้องทศกัณฐ์มา แล้วจะเชื่อฉันอ้าปากค้างมองข้อความนั้นก่อนจะหันไปมองค้อนพี่ทศกัณฐ์ที่ทำเป็นไม่สนใจเท่าไหร่"เขาบอกว่าให้ถ่ายรูปห้องพี่ให้เขาดู ถึงจะเชื่อ""ไร้สาระ" พี่ทศกัณฐ์ทำหน้าหน่าย ก่อนจะขมวดคิ้วยุ่งๆ"แปลว่าเขาเคยมาห้องพี่" ฉันทุบกำปั้นลงกับแผ่งอกของเขาอย่างหงุดหงิด จนอีกคนหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วรวบข้อมือฉันเอาไว้"ฉันไม่เคยพาใครมา นอกจากแม่กับเด็กปีหนึ่งขี้หึงแถวนี้" คนตรงหน้าพูดแล้วอมยิ้มออกมา ขยี้ผมฉันจนยุ่งเหมือนหมั่นไส้"..." เขากำลังว่าฉันขี้หึงเหรอยอมรับก็ได้ว่าหึง หึงมาก! ต่อให้เป็นแฟนสมัยอนุบาลก็ยังหึง แต่ก็ทำได้แค่หงุดหงิดกับตัวเองเท่านั้นแหละ เพราะมันเป็นความคิดที่ดูงี่เง่าเกินไป..."เอามานี่" ว่าแล้วก็ดึงมือถือจากมือฉันไป เมื่อเห็นท่าไม่ดีTOSSAKAN: เธอไม่เคยมาห้องฉัน จะพิสูจน์ได้ยังไงFan
"ไปนอนแล้วมั้ยเธอไม่สนใจหนังเลย ดูจะสนใจฉันมากกว่า""นินก็ดูอยู่นี่ไงคะ" ฉันรีบหันไปมองหน้าจอโทรทัศน์ทันที ซบไหล่เขาเหมือนเดิมแล้วกดอกตัวเองเอาไว้และไม่รู้ว่าตัวเองเผลอหลับไปตอนไหนรู้อีกทีก็อยู่ในอ้อมแขนแข็งแรงที่กำลังอุ้มฉันเข้ามาในห้องนอนเขาวางฉันลงบนเตียงนุ่มๆ ก่อนจะเดินไปเข้าห้องน้ำและขยับมานอนข้างๆ กัน สอดแขนมาให้ฉันหนุนแถมยังใช้แขนอีกข้างกอดไว้อีกด้วยราวกับอยู่ในความฝันอย่างนั้นแหละ ฉันไม่คิดว่าจะมีวันนี้เลย ถ้าไม่นับที่เมาวันนั้นอะนะยิ่งเห็นเขาอยู่บนจอขนาดใหญ่ในมหาวิทยาลัยตอนรับน้องรวมก็คิดว่าฉันคงเอื้อมไม่ถึงเขาแล้ว มีแต่คนชอบเขาทั้งนั้น ส่วนฉันก็แค่แฟนเก่าที่บอกเลิกพี่ทศกัณฐ์แบบไม่ไยดีอีก...ดูเหมือนจะสวยและรวยมากถึงกล้าทำแบบนั้น ถ้าใครรู้เข้าคงได้เขม้นฉันตายตอนนี้เสียงหัวใจเขาเต้นแรงมากไม่ต่างจากฉันเลยมันกระทบกับแก้มฉันที่ซบอยู่บนแผงอกของเขาจนรู้สึกได้เป็นอย่างดีพี่ทศกันจุมพิตลงบนริมฝีปากของฉันแล้วค่อยๆ เลื่อนไปที่ซอกคอจนฉันรู้สึกสยิว"แกล้งหลับนี่อยากเจอลักหลับหรือเปล่า" อยู่ๆ เขาก็พูดขึ้นมาในความมืด"นินไม่ได้แกล้งหลับ แต่เพิ่งตื่นตอนพี่ทศกัณฐ์คิดไม่ดีต่างหาก" หลอกจ้
"ไงมึง วางแผนกันดิบดีสุดท้ายก็แพ้เมีย" เสียงของพี่ฮ้องเต้ดังขึ้น น้ำเสียงปนหัวเราะของเขาบ่งบอกว่ากำลังเยาะเย้ยพี่ทศกัณฑ์อยู่ตอนนี้ฉันยืนแอบอยู่ตรงมุมตึกซึ่งอยู่ห่างจากโต๊ะที่พวกเขานั่งไม่กี่เมตร ทำให้ได้ยินบทสนทนาชัดเจน"…" พี่ทศกัณฑ์เงียบกริบไม่รู้ว่าถ้าเขาไม่รู้ว่าฉันยืนอยู่ตรงนี้จะเป็นแบบนี้มั้ยอาจจะคุยโม้ก็ได้ใครจะไปรู้"มึงมันไม่ได้เรื่อง เป็นพี่ว้ากจนน้องปีหนึ่งปีสองกลัวแต่มาแพ้ให้เด็กอักษรคนเดียว เหอะ" พี่คิวพูดออกมาเหมือนเสียอารมณ์เพราะเป็นคนคิดแผนทั้งที"มึงก็รอรับชะตากรรมแบบกูได้เลย" พี่ทศกัณฑ์พูดเสียงเบาหวิว จนฉันแอบสงสารจับใจ"กูไม่มีทางกลัวเมียแบบมึงแน่นอน ผู้หญิงก็แค่ลูกไก่ในกำมือ จะบีบก็ตาย จะคลายก็รอด""มึงไม่กลัวเตยเลยเหรอ" พี่ทศกัณฐ์ถามซ้ำ"กลัวทำไม ยัยนั่นดิต้องกลัวฉันขาดฉันไปซักคนเตยคงอยู่ไม่ได้ ร้องไห้แงๆ"โอ้อวดนักนะ เดี๋ยวโดนดีแน่พี่คิว!"พี่ทศกัณฑ์!" ฉันเดินเข้าไปเงียบๆ แล้วเรียกพี่ทศกัณฑ์เสียงดัง จนพี่ๆ หันมามองกันพรึบ ส่วนพี่นธีขมวดคิ้วมองฉันอย่างไม่เข้าใจ พี่ชายทั้งคนอ่านออกแน่ๆ"ยะ…ญานิน มาได้ไง" เก่งมากคุณแฟน เสียงสั่นแบบไม่ต้องซ้อมมา"เดินมาค่ะ""น้องญาน
"…" เงียบอยู่นั่นแหละไม่คิดจะพูดอะไรเลยใช่มั้ย หรือว่าเขาไม่อยากคบฉันแล้ว แววตาของเขาที่มองเหมือนกำลังลังเลบางอย่างอยู่เลย"นินทำอะไรผิดหรือเปล่า ทำไมพี่ไม่บอกถ้านินผิดก็พร้อมจะแก้ไข แต่พี่ทศกัณฑ์ไม่ให้โอกาสนินได้รับรู้เลย อึก...อยู่ๆ ก็ไม่เห็นค่ากันแบบนี้""ญานิน…" เขาเรียกชื่อฉันเบาๆ ขณะที่ฉันเอาแต่ก้มหน้าร้องไห้"พี่เบื่อนินแล้วใช่มั้ย พี่ทศกัณฐ์ไม่รักนินแล้วใช่มั้ย...ฮึก""ไม่ใช่" เขาตอบแล้วค่อยๆ เอื้อมมือมากุมมือฉันพร้อมกับถอนหายใจเขาดันตัวฉันลงกับเตียงอีกรอบ ใช้นิ้วเรียวยาวลูบปัดน้ำตาออกจากพวงแก้มของฉันอย่างอ่อนโยน"ที่จริงแล้วแค่อยากจะทดสอบ แต่ตอนนี้พี่คงแพ้อีกแล้ว" เขาพูดแล้วจ้องตาฉันนิ่ง"หมายความว่ายังไง" คำพูดนั้นทำให้ดวงตาของฉันเบิกกว้างแล้วเปลี่ยนเป็นขมวดคิ้วชนกัน"…" เขาพ่นลมหายใจออกมาแล้วเบือนหน้าหนีเหมือนกำลังลำบากใจที่จะพูด "เพราะคิดว่าช่วงนี้เราชอบเอาแต่ใจ ก็เลยอยากดัดนิสัยนิดหน่อย จะได้หันมาง้อพี่บ้างไม่ใช่ตัวเองถูกทุกอย่าง" เขาอธิบายแบบเหนี่ยมอายนิดหน่อยนี่มันอะไรกันเนี่ย…"อย่าบอกว่าที่แกล้งยุ่งกับงานก็เพราะอยากลองดูการกระทำของนินด้วย""…" พยักหน้าเป็นคำตอบ"แล้
Tossakan talk"ไอ้เชี่ยมึงใจเย็น นิ่งไว้ๆ""ฮ่าๆ มึงท่องไว้พุทธโธๆ เดี๋ยวแม่งเสียแผนหมด"เสียงของไอ้เต้กับไอ้คิวที่เกลี้ยกล่อมให้ผมใจเย็น ทั้งที่ภาพตรงหน้าคือผู้ชายกำลังเกาะแกะแฟนผมอยู่แล้วพวกมันก็มาฉุดรั้งตัวผมที่แทบจะพุ่งตัวไปหาญานิน ขณะที่ไอ้นธีเอาแต่นั่งยิ้มน้อยๆ มองผมเหมือนดูหนังตลกตลกเชี่ยไรเดี๋ยวเมียมันเจอมั่งจะรู้สึก"ถ้ามึงเข้าไปตอนนี้น้องมันรู้แน่ว่ามึงไม่ได้ยุ่งกับโปรเจ็ค แต่มาตามดูน้องมันอะ" ไอ้คิวบอกแต่กลับยิ้มขำ "แล้วที่มึงทำมาทั้งหมดน้องก็จะคิดว่ามึงโกหก""เออ มึงต้องนั่งดูอย่างใจเย็น"ใจเย็นอะไรของมันวะ ตอนนี้เหมือนกองไฟในอกผมมันกำลังจะปะทุออกมาอยู่แล้ว"มึงจะทำเสียแผนนะเว่ย จากที่จะดัดนิสัยน้องกลายเป็นน้องได้ดัดนิสัยมึงแทน"'แผน' ที่ว่านั้นมันเริ่มจากปัญหาของผมนี่แหละเรื่องมันมีอยู่ว่าอาทิตย์ก่อนเราทะเลาะกันเรื่องญานินลืมมือถือไว้ในห้องก่อนออกไปเรียน โทรหาเท่าไหร่ก็ไม่ยอมรับสาย เราเลยทะเลาะกันใหญ่โตแต่สุดท้ายผมก็เป็นคนง้อญานินเพราะเรื่องมันมักจะจบแบบเดิมคือน้องมันถูกเสมอไม่ว่าเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ คนที่เป็นฝ่ายผิดสุดท้ายแล้วต้องเป็นผมเพราะญานินจะไม่ยอมง้อผมเลย
หลายเดือนต่อมาหลังจากเรื่องวุ่นวายทั้งหมดตอนนั้นจบลง ชีวิตของฉันก็กลับมาสงบสุขและคบกับพี่ทศกัณฐ์อย่างแฮปปี้ใช่ซะที่ไหนกัน!การคบกันมันก็ต้องมีทะเลาะกันเป็นเรื่องธรรมดาและทุกครั้งที่ทะเลาะกันนั้นพี่ทศกัณฐ์มักจะเป็นฝ่ายยอมฉันเสมอไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเพราะพี่ทศกัณฐ์รักฉันมากๆ ยังไงล่ะ!"เป็นอะไรหน้าบูดเป็นตูดหมามาเลย" เสียงของนิเนยทักขึ้นตอนที่ฉันกำลังเดินเข้ามาหย่อนตัวนั่งลงกับเก้าอี้ข้างๆ พอใบเฟิร์นได้ยินคำพูดของนิเนยก็เงยหน้าขึ้นมามองด้วยความสนใจตอนนี้เราอยู่ปีสองกันแล้วนะ เป็นรุ่นพี่แล้วและช่วงนี้ก็เป็นช่วงรับน้องทำให้ค่อนข้างเหนื่อยกับการจัดเตรียมกิจกรรมให้น้องๆ ทำส่วนพี่ทศกัณฐ์ก็อยู่ปีสี่แล้วเขาก็วุ่นวายกับการทำโปรเจ็คหลังจากที่เพิ่งฝึกงานสามเดือนจบแล้วก็เหลือเวลาอีกแค่เทอมกว่าในรั้วมหาวิทยาลัยทำให้ช่วงนี้เราแทบจะไม่มีเวลาได้ใกล้ชิดกัน"ไม่มีอะไร" ฉันตอบนิเนยแล้วหยิบเอกสารสำหรับวิชานี้ขึ้นมาเตรียมไว้บนโต๊ะเลคเชอร์"ทะเลาะกับพี่ยักษ์เหรอ" นิเนยถามแล้วกอดอกมองฉัน"..." พยักหน้าเป็นคำตอบ"เรื่อง?""เมื่อวานฉันเข้าคอนโดก่อน เพราะเขาบอกว่าจะเลิกดึก พอถามว่าจะให้ไปนั่งทำงานด้วยมั้ยก็
เช้าวันต่อมา"ได้เรื่องมั้ยครับ"เสียงของพี่ทศกัณฐ์ดังขึ้นจากปลายเตียงเหมือนกำลังคุยโทรศัพท์กับใครซักคนฉันจึงค่อยๆ ขยับเปลือกตาขึ้นมอง"มีหลักฐานครบแล้วใช่มั้ย""ดีเลย งั้นรบกวนคุณลุงจัดการให้ผมหน่อย""น้องดีขึ้นแล้วครับ ตรวจแล้วไม่เป็นอะไร มีรอยช้ำที่โดนตีนั่นแหละ...ผมรู้แล้วน่า ว่าที่หลานสะใภ้ลุงทั้งคนจะไม่ดูแลได้ไง"นี่กำลังพูดถึงฉันอยู่ใช่มั้ย แอบฟังเองก็เขินเองแล้วนะ"ครับ ขอบคุณครับ รอชมผลงานนะแล้วเดี๋ยวผมจะจัดการเรื่องทางนี้เอง" แล้วพี่ทศกัณฐ์ก็กดวางสายก่อนจะหันมามองทางฉันที่แกล้งขยับเปือกตาขึ้นมาเหมือนคนเพิ่งตื่นนอน "เช้าอยู่เลยรีบตื่นทำไม""นินปวดหัวค่ะ" ฉันตอบแล้วค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง "เหมือนจะเป็นไข้""..." พี่ทศกัณฐ์ลุกขึ้นจากปลายเตียงขยับมานั่งขอบเตียงข้างฉันแล้วเอาหลังมือมาอังหน้าผากไว้ "นอนพักก่อนเดี๋ยวกินข้าวกินยา""ค่ะ" ฉันพยักหน้าทำตามคำสั่งแล้วเขาก็หายออกไปจากห้องตอนนั้นทันทีไม่นานนักก็กลับเข้ามาพร้อมกับข้าวต้ม ยาและน้ำเปล่าหนึ่งแก้ว แกล้งป่วยซักเดือนดีมั้ยเนี่ยมีบุรุษพยาบาลส่วนตัวซะด้วย"เมื่อกี้คุยกับใครเหรอ" ฉันเอ่ยปากถามด้วยความสงสัยเพราะนอนคิดคนเดียวก็คงไม่รู้คำตอ
ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว ฉันตรวจ ใส่เฝือกอ่อนที่เท้าและรับยาเสร็จก็มาแจ้งความที่สถานีตำรวจกับพี่เนย์ต่อ มีรุ่นพี่ปีสองและพวกนิเนยอยู่เป็นเพื่อนรอให้พี่ทศกัณฑ์และพี่นธีมารับ"เป็นไงบ้าง" พี่นธีถามทันทีที่มาถึงส่วนพี่ทศกัณฑ์กำลังเดินเข้ามาท่าทางเงียบครึมเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่"ให้รายละเอียดกับตำรวจไว้แล้วค่ะ พรุ่งนี้ต้องมาอีก""เอาเรื่องให้ถึงที่สุดนะเว้ย ต้องไม่ยอมมันรอบนี้ต้องเอาให้มันจมดิน!" ใบเฟิร์นพูดและกำหมัดแน่นหมับ!อยู่ๆ ร่างของฉันถูกดึงไปกอดไว้ในอ้อมแขนขณะที่เจ้าของการกระทำนั้นไม่พูดอะไรเลยซักคำ ท่ามกลางสายตาของเพื่อนและรุ่นพี่รวมไปถึง...พี่เนย์ยังดีที่ตอนนี้นิเนยมันเอาเสื้อผ้ามาให้ฉันเปลี่ยนแล้วไม่อย่างนั้นคงดูตลกน่าดูหนุ่มวิศวะกอดกับหญิงสาวในชุดโบราณ"กลับเลยมั้ย" พี่ทศกัณฑ์ปล่อยฉันออกจากอ้อมแขนแต่ก็ไม่ได้เป็นอิสระซะทีเดียวเขายังโอบฉันไว้อย่างหลวมๆ"ค่ะ อยากอาบน้ำพักผ่อนแล้ว" ฉันพยักหน้าตอบรับแล้วหันไปขอบคุณพี่ๆพี่ทศกัณฐ์อุ้มฉันขึ้นออกมาจากตรงนั้นสีหน้าเขาดูไม่ค่อยดีเลยไม่รู้ว่าทำไม พอมานั่งในรถเขาก็ติดเครื่องแต่ก็ไม่ยอมขับออกไป สายตาของเขาหันไปมองพี่เนย์ที่กำ
"แกต้องได้รับบทเรียนที่ทำกับฉัน!"เสียงของคนด้านหลังดังขึ้นอย่างเยือกเย็น ฉันรู้สึกว่าเคยได้ยินมันมาก่อนหรือว่าจะเป็น..."ฟาง..."ฉันพูดชื่อของยัยนั่นแล้วได้ยินเสียงหัวเราะดังออกมาก่อนจะทำท่าตรงเข้ามาหาฉันอีก รีบหันไปขวามือที่จำได้ว่าตอนเข้ามันมีเก้าอี้อยู่ตัวหนึ่งตรงนั้นคิดว่าจะทำฉันได้คนเดียวเหรอ!หมับ! ปึก! ปึก! ปึก!ฉันคว้าเก้าอี้ขึ้นมาแล้วจับฟาดมันอย่างไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน แต่พอได้ยินเสียงมันร้องออกมาถึงได้รู้ว่ามันถูกจุด"โอ๊ย! กรี๊ด!! แก!" ยัยนั่นร้องเดือดดานเหมือนคนบ้า ฉันรีบหันหลังเข้าประตูคลำหากลอนจนเจอแล้วเปิดออก วิ่งตรงไปทางบันไดทันทีขณะที่ยัยนั่นก็ยังคงวิ่งตามออกมากัดไม่ปล่อยจริงๆ ยัยหมาบ้า!ตึก ตึก ตึกเสียงฝีเท้าของคนด้านหลังวิ่งตามมาขณะที่ขาฉันแทบจะพันกัน ทางผ่านมืดๆ ตรงหน้ายิ่งทำให้ฉันรู้สึกหวั่นใจปึกเพราะชุดหญิงโบราณที่ยาวจนถึงข้อเท้าทำให้ฉันสะดุดมันล้มลงกับพื้น จากที่เจ็บขมับและแผ่นหลังที่ถูกยัยนั่นเอาไม้ตี ตอนนี้มันยังต้องเจ็บที่ข้อเท้าอีกจากการสะดุดล้ม"กูควรตีมึงให้ตายไปซะ!!" คนด้านหลังพูดเสียงแหลมดังก้อง พอหันไปก็พบว่าไม้หน้าสามกำลังถูกง้างและเหวี่ยงมาที่
หลายวันต่อมาหลายวันมานี้ทุกคณะล้วนมีการซ้อมใหญ่กันหมด ทำให้ฉันกับพี่ทศกัณฐ์แทบไม่ได้เจอกันช่วงกลางวันเลย แต่เขาก็จะรอรับฉันทุกวันที่คณะเพราะส่วนใหญ่แล้วฉันเลิกดึกกว่า"พรุ่งนี้ก็จะถึงวันงานแล้ว ตื่นเต้นจัง" เวลานี้เที่ยงคืนกว่าแล้วเราเพิ่งจะได้เข้านอนคอนโดที่ฉันเช่าไว้ไม่ต่างจากห้องร้างเลยล่ะ เพราะตั้งแต่คบกันเขาก็ไม่ให้ฉันไปนอนที่ห้องคนเดียวเลย"มีอะไรให้ตื่นเต้น" เขาพูดเสียงเหนื่อยล้า คงเพราะกิจกรรมที่คณะเขาหนักพอสมควร ขนาดฉันเป็นแค่รุ่นน้องยังเหนื่อยรุ่นพี่ที่ทำเพื่อน้องๆ จะเหนื่อยขนาดไหนกัน"พี่ทศกัณฐ์อยู่ปีสามแล้วก็พูดได้สิ นินเพิ่งเคยครั้งแรก" ฉันพูดเสียงอู้อี้แล้วซุกหน้าเข้าหาแผงอกกว้างอันอบอุ่น"พรุ่งนี้อาจจะเลิกดึกนะ กลับกับเพื่อนมารอที่ห้องเลย" ฝ่ามือหนาลูบศีรษะฉันอย่างอ่อนโยน"ได้ยินว่าพรุ่งนี้มอบเกียร์ใช่มั้ยคะ""อืม หลังจบงาน"คงเป็นธรรมเนียมที่คณะวิศวะทำมาทุกๆ ปีล่ะมั้ง เพราะเพื่อนๆ ที่คณะฉันก็รู้กันหมดฉันก็เพิ่งรู้มาเหมือนกัน"นินจะมารอที่ห้องนะ""ถึงห้องแล้วโทรบอก หรือไม่ก็แชทมา""ค่ะ"วันต่อมาช่วงเช้ามีการแข่งขันกีฬาและกรีฑาหลายประเภท ส่วนฉันผู้ที่ไม่ถนัดกีฬาซักอย่
“พี่คิดยังไงถึงสักชื่อนินเนี่ย ถ้าเกิดว่าเราเลิกกันแล้วกลับมาคบกันไม่ได้อีกจะทำไงคะ” ฉันถามแล้วดันตัวออกเพื่อก้มดูรอยสักนั้นให้ชัดยิ่งขึ้นใช้ปลายนิ้วสัมผัสมันเบาๆ ตรงตัวอักษรพวกนั้นอย่างหลงไหล รู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาเลย ฉันสำคัญกับพี่ทศกัณฐ์ถึงขั้นที่เขาสักชื่อฉันติดตัวไว้แบบนี้เลยเหรอ“ก็ไปลบออก แต่นั่นคงเป็นตัวเลือกสุดท้าย”“ไม่คิดว่าตัวเองจะเปลี่ยนใจจากนินบ้างเหรอ นินยังเด็กแต่พี่โตแล้ว” ฉันพูดแล้วแนบใบหน้าซบลงกับแผงอกเขาอีกครั้ง“เธอก็โตแล้วนี่ ฉันบอกแล้วว่าฉันมั่นคงและจริงจังกับรักของเราขนาดไหน""ขอบคุณนะคะ นินรักพี่ทศกัณฑ์จัง" ฉันกอดเขาอีกครั้งและเขาก็กอดตอบอย่างแนบแน่น"ไปอาบน้ำกันเถอะ"“ไหนๆ ก็ถอดเสื้อแล้วพี่ทศกัณฐ์อาบก่อนเลย” ฉันพูดแซวขำๆ แล้วดันตัวออกห่าง“…” พี่ทศกัณฐ์ยิ้มมุมปากก่อนจะรวบตัวฉันแล้วอุ้มพาดบ่าจนฉันตกใจกับการกระทำนั้น“กรี๊ด นินจะตก! พี่ทศกัณฐ์จะทำอะไรเนี่ย”“ไหนๆ ก็ถอดแล้วทำอย่างอื่นดีกว่า”พูดจบเขาก็อุ้มฉันเดินดุ่มๆ เข้ามาในห้องน้ำแล้ววางลงนั่งบนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า แล้วแทรกตัวเข้ามาอยู่กลางหว่างขาขอฉัน ดีนะที่มันเป็นกระโปรงอัดพลีทไม่อย่างนั้นกระโปรงคงได้