5.00 น. ตอนนี้ก็เข้าสู่เช้าของวันใหม่แล้วงานที่ฉันได้รับมอบหมาย ฉันทำเสร็จเรียบร้อยแล้วและได้จัดเตรียมความคืบหน้าไว้ให้กับเวณถัดไปแล้วด้วยค่ะ...อ้อลืมบอกไปก่อนเริ่มงานฉันได้เข้าไปหากะทิ ร่างกายของเธอดีขึ้นมากแล้วอีกวันสองวันก็กลับบ้านได้แล้วค่ะ แต่ถ้าเป็นสภาพจิตใจอาจจะต้องใช้เวลาอีกสักหน่อย...“อ้าว อ้อมผ่าตัดเสร็จแล้วหรอเป็นไงบ้าง” พี่พยาบาลอีกคนเอ่ยถามพี่อ้อมขึ้น หลังจากที่เธอเดินเข้ามาในห้อง“เรียบร้อยดีค่ะ คุณหมอของเราเก่งอยู่แล้ว” เธอตอบกลับพี่พยาบาลคนเดิมด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแต่ก็ดูเหนื่อยๆ ในเวลาเดียวกันกันเฮ้ย เขาจะเป็นยังไงบ้างนะจะได้พักบ้างรึยังนะ...ฉันเดินออกมาสูดอากาศด้านนอก สายตาก็หันไปเห็นคุณเบลซกำลังเดินเข้าไปในห้องรับรองฝั่งตรงข้าม ปกติแล้วห้องนี้จะเป็นห้องที่ไว้รับรองแขกวีไอพี แต่ถ้ามีเคทที่ใหญ่ๆ เข้ามาคุณเบลซจะใช้ห้องนี้เป็นห้องทำงานชั่วคราวฉันเดินเข้าไปในห้องครัว เพื่อต้มนมอุ่นๆ ซึ่งเป็นของโปรดของเขา เขามักจะดื่มนมอุ่นๆ เวลาที่เครียด หรือเหนื่อยมากๆ ฟังดูแปลกๆใช่ไหมคะ นั่นแหละค่ะคุณเบลซก็อกกกกกกๆ...“ใคร” เสียงเข้มดังมาจากข้านใน นี่ฉันคิดถูกหรือคิดผิดเนี่ย“ดะ
[DARLA’S PART]23.45 น.“อื้อออออ...” ฉันครางออกมาทั้งๆ ที่ยังหลับตาอยู่ เพราะรู้สึกเจ็บที่หน้าอกเหมือนกับว่ามีคนกำลังบีบเค้นมันอยู่......แต่จะบ้าหรอนี้ฉันอยู่คนเดียวนะ หรือว่าเป็นความฝัน ‘อะ เจ็บ...’ ฉันร้องออกมาในใจทันทีที่รองหยิกแขนของตัวเองเบาๆ ฉันเจ็บแสดงนี้เป็นเรื่องจริงหรอ... ‘ดะ เดี๋ยว นะ...’“อืออออ ปะ ปล่อย นะ...” ฉันพูดออกไปพร้อมกับร้องดิ้นอยู่บนเตียง...“ซู่...ดา”“ปะ ปล่อย ฉัน ฮือออออ” หลังจากใด้ยินเสียงของคนที่กำลังทำอนาจารฉันอยู่เต็มสองหู ฉันก็สติแตกแทบจะบ้าตากถ้าไม่ได้ยินประโยคถัดมาที่เขาพูด...“ดา ดาหลา พี่เอง” เขาเอ่ยขึ้นอีกครั้งก่อนจะเปลี่ยนจากจับหน้าอกของฉัน เป็นกอดเอวฉันไว้แทน...“พี่เบลซ ดาตกใจหมดเลยค่ะ” ฉันพูดออกมาก่อนจะหันหลังกลับไปกอดเขาเอาไว้เเน่น...“โอ้ เด็กดีของพี่ ไม่ร้องนะครับ” เขาก็กอดฉันยิ่งกว่าเดิม พร้อมกับมืออีกข้างที่ยังคงลูบหัวฉันอย่าอ่อนโยน“ว่าเเต่พี่เข้ามาในห้องดาได้ไงคะ...”“...” แสงไงสลัวๆ ในห้องกลับไม่ได้ทำให้ใบหน้าหล่อเหลาของผู้ชายตรงหน้าฉันดูลดน้อยลงเลย แต่มันกลับยิ่งทำให้ดูมีเสน่ห์หน้าหลงไหลยิ่งขึ้นไปอีก (ดาหลาคลั่งรักแหละดูออก!)“...ดาจ
[DARLA’S PART]“พี่เบลซพูดแบบนั้นออกไปได้ไงคะ? ...” ฉันเอ่ยถามคุณเบลซออกไปก่อนจะเดินเข้าไปหาเขาที่นั่งทำท่าสบายใจอยู่ที่โซฟา ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องระหว่างเราหรอกนะ…แต่ฉันก็ไม่อยากเป็นคนเห็นแก่ตัว เพราะถ้าคนอื่นรู้ความสัมพันธ์นี้คุณเบลซมีแต่จะเสียกับเสีย ฉันไม่อยากให้คนอื่นมองเขาไม่ดี และอีกอย่างฉันยังไม่พร้อมที่จะเสียเขาไปในตอนนี้“พี่พูดอะไรหรอ?” คุณเบลซเอ่ยบอกกับฉัน“อย่ามาทำเป็นจำไม่ได้นะคะ” ฉันเอ่ยตอบเขาออกไปอย่างงอลๆ ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าคนที่ฉลาดๆ อย่างเขาจะไม่รู้ว่าฉันหมายความว่าอะไร“หืม…”“ว๊ายยยยยยย!!!” ฉันร้องออกมาเสียงหลงทันทีที่ผู้ชายตรงหน้าดึงฉันลงไปนั่งบนตักของเขา“หึ…ไหนพูดอีกที” เขากระซิบที่ข้างหูฉันอย่างแผ่วเบา มันทำให้ฉันเสียวสันหลังอย่างไงห็ไม่รู้“พะ พี่เบลซจะทำอะไรคะ”“พี่ก็แค่อยากให้หนูมาพูดใกล้ๆ พี่จะได้เข้าใจ”“…”“ดาคิดอะไรทะลึ่งอยู่รึป่าวล่ะครับ…หือ?”“ปะ ป่าวสักหน่อยดายังไม่ได้คิดอะไรเลย…” ฉันเอ่ยบอกกับเขาออกไปก่อนจะหันหน้าหนีไปทางอื่นด้วยความเขินอาย…“หรอคับ? ...”“ก็ใช่สิคะ ฮึ่ยไม่คุยด้วยแล้วค่ะ” พูดจบฉันทำท่าจะลุกออกจากตักของเขา…“จะหนีพี่
[BLAZ’S PART]1 เดือนต่อมา…“ดา…พรุ่งนี้ไปกระบี่กับพี่นะครับ” ผมเอ่ยเรียกยัยตัวเล็กที่ง่วนอยู่กับการทำอาหารอย่างขมักเขม้น วันนี้เป็นวันหยุดของผมกับดา ซึ่งวันหยุดของผมส่วนใหญ่ก็จะหมดไปกับการตรวจเอกสารต่างๆ เกี่ยวกับคาสิโนของป๊าผมที่ฮ่องกง ผมคงจะลืมเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับป๊า ม๊าผมสินะ…ป๊าผมเป็นเจ้าของคาสิโนที่มีสาขาอยู่หลายประเทศทั่วโลก ซึ่งศูนย์ใหญ่จะอยู่ที่ฮ่องกง ดังนั้นเอกสารต่างๆ รวมถึงรายรับ-รายจ่ายจะถูกสรุปรวบรวม และส่งมาให้ผมตรวจสอบในทุกๆ เดือน และแน่นอนพ่อของผมเป็นมาเฟียส่วนม๊าของผมนั่นท่านเป็นหมอ เป็นลูกสาวเพียงตนเดียวขอตระกูลวงค์อัครหิรัญ ทำให้ม๊าของผมต้องเป็นผู้สืบทอดธุรกิจทุกอย่างของพวกท่านเพียงคนเดียวจากที่ดูประวัติคร่าวๆ ของป๊ากับม๊าผมแล้วทั้งสองเหมือนจะอยู่กันคนละโลกเลยด้วยซ้ำ แต่ทั้งคู่ก็ได้มาเจอกันเรื่องราวความรักของพวกท่านผมไม่เคยถามหรอก เพราะผมก็ได้เห็นกับตาอยู่แล้วว่าพวกท่านรักกันมากแค่ไหน ซึ่งมันก็ทำให้ผมอิจฉามาก ผมบอกไว้กับตัวเองเลยว่าผมต้องดูแล รัก และทะนุถนอมดาหลาให้มากว่าคู่ของป๊ากับม๊าของผมและด้วยความที่ท่านสองคนรักกันปานจะกลืนกินนี้นี่เองทำให้ในตอนนี้ผมต้อง
11.30 น.Krabi International Airport“หิวรึยังครับ?” พี่เบลซพูดขึ้นหลังจากรับกระเป๋าเดินทางมาเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะจูงมือพาฉันเดินไปยังรถที่จอดรออยู่ ซึ่งเป็นรถของทางโรงแรม ตามที่ฉันกับพี่เบลซตกลงกันทริปนี้ทั้งทริปฉันฉันจะเป็นคนแพลนเอง แต่ยกเว้นเรื่องโรงแรงนะคะเขาขอจัดการเรื่องนี้เองแน่นว่าฉันไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้วขอเพียงแต่มีเขาอยู่ ไม่ว่าจะที่ไหนฉันก็อยู่ได้หมดแหละทริปนี้เรามากันสองคนค่ะ ถามว่าแปลกไหมมันก็แปลกอยู่นะ เพราะปกติถ้าพี่เบลซมาทำงานก็ควรจะพาพี่มาวิน(พี่มาวินเป็นมือขวาของพี่เบลอค่ะ) มาด้วยสิ แต่ครั้งนี้ไม่…เรามากันสองคน“หนูยังไม่ค่อยหิวเลยค่ะ”“งั้นเราไปทานข้าวที่รีสอร์ทนะครับ”“ค่ะ”“ไปรีสอร์ทเลย” พี่เบลซเอ่ยบอกกับฉันก่อนที่เขาจะหันไปพูดกับคนขับรถ “ได้ครับคุณเบลซ”@AYA Resort“ว๊าววววว สวยจัง” “หึ ชอบไหม”“ชอบค่ะ”รีสอร์ทได้รับการออกแบบให้กลมกลืนกับชธรรมชาติอันสมบูรณ์บนพื้นที่ที่โอบล้อมไปด้วยภูเขา น้ำทะเลอันดามันสีเขียวมรกต และหาดทรายที่ทอดยาว รวมทั้งบรรยากาศที่เงียบสงบมีความเป็นส่วนตัว ไม่อยากจะคิดเลยว่าค่าห้องที่นี่จะแพงหูฉี่ขนาดไหน“สวัสดีค่ะคุณเบลซ สวัสดีค่ะคุณดาห
“คุณดาหลานั่งเหยียดขาราบไปกับพื้นเรือนะคะ แล้วใช้ไม้พายสลับซ้ายขวาไปเรื่อยๆ” พี่พนักงานกำลังอธิบายวิธีการพายเรือคายัค“ค่ะ”“ถ้าหากคุณดาหลาต้องการพายเรือถอยหลัง ก็ให้จุ่มไม้พายด้านใดด้านหนึ่งไปข้างหลัง แล้วผลักพายไปข้างหน้าโดยทำสลับกันซ้ายขวาเช่นกัน แต่จะต้องใช้การบิดเอวและลำตัว เพื่อให้พายง่ายขึ้นด้วยนะคะ”“ค่ะ” ฉันตอบพี่เขาไปด้วยรอยยิ้ม ถึงแม้ว่าสมองของฉันยังคงงงๆ กับการสลับตัวซ้ายขวา ไปข้างหน้าไปข้างหลัง“ถ้าต้องการเบรกหรือชะลอความเร็วให้คุณดาจุ่มไม้พายด้านใดด้านหนึ่งลงในน้ำ จากนั้นให้ผลักไม้พายไปข้างหน้าโดยทำสลับกันซ้ายขวาไปเรื่อยๆ เรือก็จะชะลอความเร็วลง คุณดาหลาสงสัยตรงไหนไหมคะ” ถ้าฉันบอกว่าสงสัยทุกตรงเลยพี่เขาจะว่าฉันไหมนะ“เข้าใจค่ะ” ฉันตอบพี่เขากลับไปด้วยรอยยิ้ม พี่เขาก็ยิ้มตอบฉันมาเช่นกัน รู้สึกผิดยังไงไม่รู้แต่เอาเป็นว่าทฤษฎีฉันอาจจะไม่เข้าใจไปปฏิบัติเลยก็แล้วกัน“ถ้าคุณดาหลาต้องการเลี้ยวซ้ายให้จุ่มไม้พายลงน้ำทางด้านขวา โดยมือซ้ายอยู่ในระดับแก้ม จากนั้นให้ผลักแขนซ้ายไปข้างหน้าแล้วใช้แขนขวากวาดพายมาด้านหลังจนสุด ตามด้วยยกขึ้น และทำซ้ำแบบนี้อย่างต่อเนื่องเพื่อให้เรือเลี้ยวไปทา
“มีเรื่องอะไรจะคุยกับกู” เบลซเอ่ยถามเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเขาทันทีที่เดินเข้ามาถึงยังห้องทำงานของอีกฝ่ายเสียงเรียบ เขากำลังจะจู๋จี๋กับสาวอันเป็นที่รักของเขาอยู่แล้วเชียวอยู่ดีๆดีนก็ส่งคนไปตามเขามาพบ แน่นอนว่าเขาก็ไม่เคยปฏิเสธเพื่อน เพราะเขาทราบดีว่าคงต้องเป็นเรื่องสำคัญไม่งั้นไอ้เพื่อนรักของเขาไม่ทำแบบนี้แน่ๆ“นี่ประวัติไอ้มาร์โค” ดีนเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงและใบหน้าจริงจัง พร้อมกับยื่นซองเอกสารให้ชายหนุ่มตรงหน้า“…”“จากที่ลูกน้องกูสืบมาไอ้มาร์โคมันมีฝาแฝดที่แยกกันแทบไม่ออก และที่น่าสนใจมากกว่านั้นมันเป็นนักฆ่า”“มันชื่ออะไร” เบลซเอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงจริงจัง“มาร์คัส”“…”“ตามข้อมูลมันเป็นนักฆ่ามือต้นๆของอิตาลี งานที่มันทำไม่มีพลาดเลยสักงาน ไม่มีใครตามหาร่องรอยของมันเจอ แถมมันยังฉลาดเป็นกรด” “นักฆ่าไร้เงา ตามหาร่องรอยไม่เจอ แล้วมึงรู้ข้อมูลของมันได้ไง”“เพราะเอวาน คอนซีเยเรของป๊ากูเป็นคนสืบ มันทำงานไม่เคยพลาด”“…”“ไอ้สองคนพี่น้องมีประวัติในบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้า ก่อนที่มันสองคนพี่น้องจะถูกรับเลี้ยง หลังจากนั้นก็ไม่มีประวัติมันอีกเลย”“…”“และสายกูรายงานว่าไอ้มาร์โคมาไทยรอบนี้มันไม่ไ
[DARLA’S PART]เช้าวันใหม่คงมาพร้อมกับการเริ่มต้นใหม่ของใครหลายคน แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของใครอีกหลายคนเช่นกันเคยได้ยินคนเขาพูดกันว่าถ้าเราสนุกกับสิ่งที่เรากำลังทำ หรือมีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่วันเวลามักจะผ่านไปไวเสมอจริงๆวันเวลามันไม่ได้เดินไวเกินกว่าที่ควรจะเป็นหรอก มันก็หมุนตามเข็มเวลาปกตินั่นแหละ แต่คงเป็นที่ตัวเราที่ไม่เอาตัวเองเข้าไปจดจ่อกับเวลา เราถึงได้คิดไปเองว่าเวลามันเดินผ่านไปไวจัง เหมือนกับฉันวันนี้ที่ทำงานจนลืมเวลา ผ่านไปแป๊บเดียวก็ได้เวลาออกเวรแล้ว“พี่เบลซหนูออกเวรก่อนนะคะ” ฉันเดินเข้ามาในห้องพักชั้นบนสุดของโรงพยาบาลแห่งนี้ ก็เห็นชายหนุ่มอันเป็นที่รักกำลังนั่งจดจ่อกับการอ่านเอกสารของเขาอยู่อย่างขะมักเขม้น“เดี๋ยวพี่ให้แจ็คไปส่งนะครับ วันนี้พี่มีผ่าตัดหลายเคส” พี่เบลซพูดจบก็ละจากเอกสารตรงหน้า ก่อนจะเดินมาหยุดตรงหน้าฉัน พร้อมกับมือหน้าที่ลูบแก้มฉันอย่างเอ็นดู“ไม่เป็นไรค่ะดากลับเองได้แค่นี้เอง”“อย่าดื้อเด็กดี” ชายตรงหน้าเอ่ยบอกกับฉันเสียงดุ ก่อนที่มือของเขาจะลากมาวางไว้ที่ท้ายทอยของฉัน“ก็ได้ค่ะ“หนูกลับก่อน อือ” พูดจบเขาก็ดึงฉันเขามาจูบอย่างอ่อนโย
“อ่ะแฮ่ม!!!” “พะ พี่เบลซ” ฉันร้องเรียกเขาด้วยความตกใจ ถึงฉันกับพี่มาร์คัสจะไม่ได้ทำอะไรผิดก็ตาแต่ฉันก็ยังกลัวว่าเขาสองคนจะมีเรื่องกันอย่างวันนั้นอีก “ปล่อยมือออกจากเมียกูได้แล้วมั้ง” พี่เบลซเอ่ยบอกกับร่างสูงอีกคน ก่อนจะเดินเข้ามาจับมือหนาออกจาหัวของฉัน “หึ!” “ดาเข้าไปช่วยแม่กับยายเตรียมอาหารเถอะครับ ตรงนี้แดดมันแรงเกินไป” พี่เบลซเอ่ยบอกกับฉันด้วยรอยยิ้ม “พี่สองคนจะไม่ทะเลอะกันแน่หรอคะ” ฉันเอ่ยถามร่างสูงทั้งสองตรงหน้าออกไปด้วยความกังวล ทุกครั้งที่พวกเขาเจอไม่เคยมีครั้งไหนที่พวกเขาจะคุยกันดีๆได้เลย “ไม่มีอะไรหรอครับ เข้าไปข้างในก่อนนะดา” พี่มาร์คัสเอ่ยบอกกับฉันเสียงเรียบ “แน่นะคะ” ฉันถามทั้งสองคนออกไปอีกครั้ง “ครับ/ครับ” “ก็ได้ค่ะ” ฉันตอบรับทั้งสองอย่างว่าง่ายก่อนจะเดินเข้ามาในตัวบ้าน...[BLAZ’S PART] “รอบนี้ไม่ต่อยกูหรอวะ” ไอ้มาร์คัสเอ่ยถามผมขึ้นด้วยน้ำเสียงกวนๆ “เมียคุมความประพฤติกูอยู่” ผมตอบกลับมันไปเสียงเรียบ “หึ มีอะไรอยากคุยกับกูก็ว่ามา”
ก๊อกๆๆ !!!!“เดี๋ยวแม่ไปเปิดเองลูก” “เชิญค่ะ” แม่ดาราเดินไปเปิดประตูให้กับคนที่มาใหม่ ก่อนที่ท่านจะดูตกใจเล็กน้อย “คุณท่าน คุณผู้หญิง...สวัสดีค่ะ” แม่ฉันร้องออกมาด้วยความตกใจ ก่อนจะยกมือไหว้ทั้งสองที่มาใหม่อย่างอ่อนโยน “ไม่ต้องมากพิธีหรอกดา เราเข้าไปข้างในกันเถอะฉันไม่ได้มาที่นี่ในฐานะเจ้านาย ฉันมาในฐานะยาย ฉันมาขอโทษแทนหลานชายตัวดีของฉันที่ทำผิดไว้กับลูกสาวของเธอ” เสียงคุณท่านเอ่ยถามแม่ของฉันเสียงอ่อน ก่อนที่แม่ของฉันจะเปิดประตูเพื่อตอนรับผู้ที่มาใหม่ทั้งสอง “ใช่ค่ะตามที่คุณแม่ท่านบอก ดาราไม่ใช่คนงานในบ้านเราแล้ว แต่เป็นแม่ของผู้หญิงที่ลูกชายเรารักมากที่สุด” คุณสัณห์แม่ของพี่เบลซพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “คุณท่าน คุณสัณห์สวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้ทั้งสองอย่างนอบน้อม ก่อนจะก้มหน้าให้กับพวกท่านอย่างไม่กล้าสบตา “สวัสดีจ่ะหนูดา แม่ขอโทษแทนลูกแม่ด้วยนะดาหลา” คุณสัณห์หันมาบอกกับกับฉันเสียงอ่อน ก่อนที่ท่านจะลูบหัวฉันอย่างเอ็นดู “ถ้าต่อไปนี้ตาเบลซรังแกหนูอีกบอกยายเลยนะ เดี๋ยวยายจัดการให้เอง” คุณท่านเอ่ยบอกกับด้วยใบหน้า
[BLAZ’S PART]“ดา ดาครับ” ผมเอ่ยเรียกร่างบางที่หมดสติไปในอ้อมกอดของผม ผมอุ้มเธอไว้แนบอกก่อนจะพาเธอออกมาด้านนอก ก่อนที่จะผมวางเธอลงบนเตียงซึ่งห้องนี้อยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องพักฟื้นของตาทอง “คุณหมอเบลซมีอะไรให้ฉันช่วยไหมค่ะ” เสียงพยาบาลเดินตามเข้ามาช่วยผม ก่อนที่เธอจะเอ่ยถามผมขึ้น “ไปตามหมอจากแผนกสูติมาที” ผมเอ่ยบอกกับพยาบาลตรงหน้าเสียงเรียบ “ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะคุณหมอเบลซ” หลังจากที่พยาบาลเดินออกไปผมจึงเริ่มตรวจร่างกายเบื้องต้นให้กับร่างบางตรงหน้า เธอหมดสติไปมาจากการที่เธอพักผ่อนไม่เพียงพอ ตั้งแต่เมื่อคืนที่ตาของเธอหมดสติไปจนถึงตอนนี้ก็ปาเข้าไปบ่ายสามของอีกวันเธอยังไม่ได้นอนพักเลย รวมถึงเธอมีความเครียด ความวิตกกังวลสะสมอยู่มากทีเดียวและมีเรื่องหนึ่งที่ยังคงกวนใจผมอยู่ถึงร่างบางตรงหน้าผมจะไม่มีอาการอะไรที่ผิดปกติแสดงออกมาให้ผมเห็น แต่ผมมี...ม๊าเคยเล่าให้ผมฟังอยู่บ่อยๆ ว่าป๊าผมมีอาการแบบเดียวกันนี้ตอนที่ม๊าท้องผม มันทำให้ผมสงสัยว่าร่างบางตรงหน้ากำลังตั้งท้อง และผมเป็นคนแพ้ท้องแทนเธอ“สวัสดีค่ะคุณหมอเบลซ” หญิงสาววัยกลางคนเอ่ยถามผมขึ้นอย่างนอบ
“อ้วกกกกกก…” ผมโก่งคออ้วกออกมาจนแสบคอไปหมด ก่อนจะทรุดนั่งลงกับพื้นห้องน้ำอย่างหมดแรง“คุณเบลซเป็นไงบ้างลูก ไหวไหม” ยายมณีเอ่ยถามผมดังมาจากด้านนอก“ผมไม่เป็นไรครับยาย”“มีอะไรหรอคะยาย” เสียงดาหลาเอ่ยถามยายของด้วยความสงสัย“ก็คุณเบลซนะสิลูกอยู่ดีๆก็อาเจียนออกมา”“อาเจียนหรอคะ” ดาหลาเอ่ยถามยายของเธอกลับไปอีกครั้ง แต่น้ำเสียงของเธอมันเเสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าเธอเป็นห่วงผม“ใช่ลูก”“เมื่อกี้เขาก็ยังดีๆอยู่นี่คะ” เสียงดาหลาดังเข้ามาใกล้ขึ้น เหมือนเธอจะเดินเข้ามาหยุดอยู่หน้าห้องน้ำที่ผมอยู่“ก็นั่นสิลูก”แอ๊ดดดด !!!“คุณเบลซ” ยายมณีเอ่ยเรียกผมเสียงอ่อน ก่อนจะเดินเข้ามาผมอย่างเป็นห่วง“ผมไม่ได้เป็นอะไรจริงๆครับยาย” ผมเอ่ยบอกกับหญิงสูงวัยตรงหน้าพร้อมกับรอยยิ้ม ผมเลือกที่จะไม่พูดความจริงกับท่าน เพราะผมคงไม่กล้าบอกหรอกนะว่าผมเหม็นกลิ่นอาหารที่ท่านทำอะ“หน้าคุณซีดมากเลยนะคะ” เธอเอ่ยบอกกับผมเสียงอ่อน“^0^” ผมหันไปยิ้มหวานให้กับเธออีกครั้ง“คุณยิ้มอะไรคะ” เธอเอ่ยถามผมเสียงเรียบอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์กับท่าทางของผมสักเท่าไหร่“หนูเป็นห่วงพี่หรอครับ” ผมยิ้มหวานก่อนจะเอ่ยถามร่างบางตรงหน้าออกไปเสียงอ่อน“ป
“คุณเบลซคะลุกขึ้นเถอะค่ะ” น้าดาราเอ่ยบอกกับฉันเสียงอ่อน ก่อนจะเดินเข้ามาพยุงผมให้ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง“น้าดาครับ ตา ยายครับ ผมรักดาหลามาก…”“…”“ผมรักเธอมากจริงๆ”“…”“ในวันนี้ที่ไม่มีเธออยู่หัวใจของผมมันก็แตกสลายไม่เป็นชิ้นดี ผมขอ…” ผมเอ่ยบอกกับทั้งสามคนตรงหน้าเสียงสั่นน้ำตายังคงคออยู่เต็มดวงตา“…”“นะครับน้าดา ผมกลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้แล้ว แต่ผมขอทำปัจจุบันที่ยังเหลือใหม่ได้ไหมครับ”“ค่ะ น้าจะให้อภัยคุณ” น้าดาราเอ่ยบอกกับผมเสียงเรียบพร้อมกับจ้องมองมาที่ผมนิ่งๆ“ดา…” เสียงตาทองดุลูกสาวของท่านเสียงดัง“แต่ถ้าคุณเบลซทำให้ลูกสาวของน้าเจ็บปวด ไม่ว่าจะเป็นทางกาย และทางใจอีกเพียงครั้งเดียว คุณเบลซต้องเป็นคนเดินออกไปจากชีวิตของลูกสาวน้า มันจะไม่มีโอกาสเป็นครั้งที่สองสำหรับคุณอีก”“…”“จะรับปากน้าไหมคะ” น้าดาราเอ่ยถามผมเสียงเรียบ“ผมรับปากครับ มันจะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สองแน่นอนครับ” ผมเอ่ยบอกกับหญิงวัยกลางคนตรงหน้าด้วยความหนักแน่น เรื่องที่เคยเกิดขึ้นมันจะไม่มีวันเกิดขึ้นอีกเพียงครั้งเดียวมันก็มากเกินพอเเล้ว วันนี้ผมรู้ซึ้งแล้วว่าถ้าผมไม่มีดาหลาผมไม่สามารถอยู่บนโลกที่กว้างใหญ
[DARLA’S PART]16.30 น.“ยายคะต่อไปดาจะจัดการเรื่องอาหารการกินให้ยายเองนะคะ” ฉันเอ่ยบอกกับยายของตัวเองเสียงอ่อน ทันทีที่รถประจำทางจอดบริเวณหน้าทางเข้าสวนส้ม ฉันกับแม่ดาพายายไปโรงพยาบาลในตัวอำเภอ เพราะท่านบ่นเวียนหัวไม่หายสักทีฉันกลัวว่าจะเป็นหนังถ้าปล่อยไว้นาน เลนพาท่านไปหาหมอให้คุณหมอตรวจดูสักหน่อย“…” ยายมณีมองมาทางฉันด้วยแววตาเศร้าๆ ราวกับเด็กที่กับเด็กที่กำลังโดนบังคับยังไงยังงั้น ฉันส่งยิ้มหวานไปให้ท่านก่อนจะพูดต่อ“ของมันของทอดต้องค่อยๆลดแล้วนะคะ”“จ้าหลานรัก” ยายเอ่ยบอกกับฉันเสียงอ่อน ก่อนที่ท่านจะส่งยิ้มมาให้ฉันอย่างเอ็นดู“งั้นเราเริ่มเลยนะคะ หนูขอยึดกล้วยทอดก่อนเลยค่ะ” ฉันดึงถุงกล้วยทอดออกจากมือของยายเบาๆ“เอ้า…เริ่มเลยเลอะยายหนู” ยายเอ่ยถามฉันออกมาเสียงอ่อน พร้อมกล้วยทอดในมือฉันตาละห้อย ถึงยังไงฉันก็ไม่ใจอ่อนหลอกนะเพื่อสุขภาพที่ดีของฉัน“ป้ายหายไปแล้ว สงสัยพ่อจะได้คนงานใหม่แล้วนะจ๊ะแม่” แม่ของฉันพูดขึ้นพร้อมกับมองไปยังรั้วตรงหน้าที่ปกติมันมีป้ายประกาศติดอยู่ ซึ่งฉันเป็นคนเอามาติดเองกับมือก่อนจะออกไปโรงพยาบาล“ดีแล้วลูกตาแก่จะได้มีลูกมือ กลางคืนก็จะได้มีคนช่วยเดินเวรด้วย”“ท
[BLAZ’S PART]23.00 น.@คฤหาสน์ตระกูลอัครหิรัญ“อือ...” ผมครางออกมาเบาๆ ไอ้ดีนกับไอ้จีหิ้วแขนทั้งสองข้างของบนไว้บนบ่าหนาของพวกมัน พร้อมกับเดินตามป๊าเข้าไปในบ้าน “...” ทุกสายตาจับจ้องมาที่ผมทันทีที่เดินเข้ามายังห้องนั่งเล่น อยู่กันครบเลยทุกคนคงจะอยู่รอผมกลับมาสินะ เพราะตั้งวันนั้นที่น้าดาราหายตัวไปผมก็ไม่ได้กลับมาที่นี่อีกเลย “ตาเบลซ” ม๊าของผมร้องเรียกผมด้วยความตกใจ ท่านเดินเข้ามาหาผมก่อนจะเช็ดคราบน้ำตาออกจากใบหน้าของผม ก็อย่าที่ผมเคยบอกผมไม่เคยเสียน้ำตาให้ใครเห็นมาก่อนมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ม๊าผมจะตกใจ “ดีน จี วางตาเบลซตรงนี้ลูก” ม๊าผมหันไปบอกกับไอ้ดีนและไอ้จีให้วางผมลงบนโซฟาที่ห่างไปไม่ไกล ก่อนที่ท่านจะลงมานั่งข้างๆผม “เล่ามาว่ามันเกินเรื่องอะไรขึ้น” ถามผมถามขึ้นเสียงแข็ง “...”“ดีน”“ผมไม่รู้รายละเอียดอะไรมากครับ...ผมรู้แค่ว่าไอ้มาร์คัสพาดาหลาหนีไปครับ” ไอ้ดีนเอ่ยตอบคุณตาของผมเสียงเรียบ“แล้วจีรู้อะไรบ้างไหมลูก” คุณตาหันไปถามจีซัสอีกคน“จีรู้เท่าเฮียดีนครับตา”“เจ้าเบลซล่ะอะไรจะสารภาพไหม” คุณตาหันกลับมาถามผมเสียงเรียบ พร้อ
[DARLA’S PART]19.00 น.@สวนส้มตาทอง “แม่คะ ที่นี่คือที่ไหนหรอคะ” ฉันเอ่ยถามแม่ออกไปด้วยความสงสัย พร้อมกับรถหรูของมาร์คัสเลี้ยวเข้ามาในบริเวณของ ‘สวนส้มตาทอง’ ฉันไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน “บ้านเราน่ะลูก” แม่เอ่ยบอกกับฉันเสียงอ่อน พร้อมกับสายตาของท่านที่มองออกไปยังบ้านหลังใหญ่ตรงหน้า “ถึงแล้วครับ” มาร์คัสเอ่ยบอกฉันกับแม่ พร้อมกับรถหรูของเขาที่หยุดลงบริเวณหน้าบ้านทรงไทยประยุกต์ 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ตรงหน้า “วันนี้ผมส่งตรงนี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวผมจัดการอะไรเรียบร้อยแล้วผมจะมาเยี่ยมใหม่” ร่างสูงเอ่ยบอกกับพวกเราทั้งสองเสียงเรียบ “น้าขอบคุณมากนะ ถ้าไม่ได้มาร์คัสเราสองคนคงแย่” “ผมยินดีครับคุณน้า แต่ว่าอย่าลืมที่ผมบอกนะครับ” มาร์คัสย้ำกับแม่ของฉันอีกครั้ง ซึ่งเขาทั้งสองคนคุยอะไรกันฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน “น้าไม่ลืมค่ะ” แม่ตอบกลับร่างสูงตรงหน้าพร้อมกับรอยยิ้ม ก่อนที่ท่านจะลงจากรถหรูคันนี้ไป “ดาขอบคุณพี่มาร์คัสมากนะคะ ช่วยดาไว้ตั้งหลายครั้ง” ฉันเอ่ยขอบคุณร่างสูงตรงหน้าเสียงอ่อน ฉันจินตนาการไม่ออกเลยว่
@เพนท์เฮ้าส์มาร์คัส“เชิญครับลูกสาวของคุณน้าอยู่ด้านใน” มาร์โคบอกกับหญิงวัยกลางคนตรงหน้า “…” เธอพยักหน้าให้เขาเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไปยังห้องตรงหน้าตามคำเชิญของเขา ตลอดเวลาที่เดินเข้ามายังเพนท์เฮ้าส์หรูหลังนี้ ในหัวเธอเต็มไปด้วยคำถาม ‘ลูกสาวของเธอรู้จักกับคนพวกนี้ได้อย่างไร’ ถึงพวกเขาจะแต่งกายดูดี ของที่เขาใช้แต่ละอย่างราคาก็แพงแสนแพง แต่ถึงอย่างงั้นกูเถอะเขาก็ดูไม่ค่อยน่าไว้ใจสักเท่าไหร่“ดาหลา” ดาราร้องเรียกร่างบางที่นอนหลับใหลอยู่บนเตียงกว้าง เธอวิ่งเข้าไปหาลูกสาวของเธอทันที ก่อนที่จะชะงักไปเล็กน้อยที่เห็นผู้ชายอีกคนหน้าตาคล้ายกับผู้ชายคนเดิมที่ไปรับเธอ เดินออกมาจากประตูบานใหญ่ข้างๆ “คุณ!” “สวัสดีครับคุณน้าผมมาร์คัสเป็นฝาแฝดกับมัน” ร่างสูงพูดขึ้นก่อนจะชี้ไปยังชายหนุ่มอีกคนที่อยู่ด้านหลังของเธอ“ค่ะ ฉันดาราเป็นแม่ของเธอนะคะ” ดาราเอ่ยบอกกับมาร์คัสก่อนที่เธอจะนั่งลงข้างร่างบางที่นอนหลับไหล มือบางของเธอลูบลงไล้ไปตามใบหน้าของลูกสาวอย่างอ่อนโยนด้วยความคิดถึงและเป็นห่วงร่างบางตรงหน้าจับใจ อุณหภูมิจากร่างบางที่ส่งมายังฝ่ามือของเธอทำให้เธอรับรู้ได้ทันทีว่าร่