ครู่ใหญ่ผ่านไป ภายในรถมีเพียงความเงียบ กระทั่งมาถึงถนนเส้นที่บริษัทลูกค้าตั้งอยู่แต่นภณต์ก็หักเลี้ยวเข้าไปจอดร้านริมถนนซึ่งมีพื้นที่จอดรถค่อนข้างแคบ
“ก๋วยเตี๋ยวต้มยำสูตรโบราณร้านนี้ดังมากเลยนะครับ อร่อย ราคาดีไม่แพง ร้านอาจจะเล็กไปหน่อยเพราะขายมาหลายรุ่นแล้ว ว่าแต่เจ้านายสะดวกไหมครับ หรือไม่ถูกใจผมพาไปร้านในห้างใกล้ๆ นี่ก็ได้”
“ฉันยังไงก็ได้ เลี้ยวเข้ามาแล้วยังจะถามอีก”
เธอบ่นให้ได้ยิน หากชายหนุ่มก็เพียงยักไหล่
“ถ้าโอเคงั้นก็เชิญครับ”
กันยกรไม่เรื่องมากในการกิน ร้านริมทางทั่วไปเธอก็นั่งมาบ่อยแล้วสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ตอนไปเรียนต่างประเทศเธอต้องใช้เงินอย่างประหยัดกินง่ายกว่าอยู่เมืองไทยมาก
ภายในร้านเป็นพัดลม ชายหนุ่มถอดเสื้อสูทไว้ในรถ ทว่า หญิงสาวเพิ่งมาถอดในตอนที่กินก๋วยเตี๋ยวไปได้ไม่นานก็เริ่มเหงื่อซึม เธอซับเหงื่อตลอดเวลาจนทิชชูกองโต แต่ก๋วยเตี๋ยวอร่อยถูกปากมากจึงเป็นที่พอใจของกันยกรมากกว่าจะบ่น นภณต์เป็นคนจ่ายเงินโดยเธอเองก็ไม่เรื่องมากดึงดันจ่ายเอง
กลับมาขึ้นรถอีกครั้ง ชายหนุ่มก็ขอแวะซื้อกาแฟและเผื่อเธอด้วย กันยกรมองลาเต้ที่อีกฝ่ายยื่นมาให้ด้วยสายตาแปลกใจ
“ลาเต้ครับ”
“คุณไม่ได้ถามฉัน”
นภณต์เพียงยิ้มบางแล้วขยับแก้วมาใกล้เธอกว่าเดิม มือบางจึงยื่นไปรับแล้วจิบเล็กน้อย ไม่ได้ถามเขาต่อ ว่ารู้ได้ยังไงว่าเธอดื่ม ลาเต้ เพราะของเขาเองยังซื้อเป็นอเมริกาโน
ไม่นานนักสองหนุ่มสาวก็มาถึงบริษัทลูกค้าซึ่งเป็นสำนักงานตึกเดี่ยวที่ดูมีดีไซน์เก๋แปลกตา ตั้งในพื้นที่ที่มีมูลค่าที่ดินสูงมากในเมืองหลวงเช่นนี้ กันยกรคิดว่าเจ้าของบริษัทน่าจะเป็นรุ่นพี่หรือเพื่อนของภพดนัย
“เดี๋ยวครับเจ้านาย”
ลงจากรถแล้วกำลังจะเดินต่ออยู่ๆ นภณต์ก็เอ่ยขึ้นแล้วกลับไปยังรถ หญิงสาวหันมองก็เห็นเขาเปิดประตูหลังหยิบสูทของเธอ กันยกรลืมสูทไปเลยเพราะชายหนุ่มถือให้เธอตอนออกจากร้านก๋วยเตี๋ยวแล้วเอาไปวางที่เบาะหลัง ทว่าพอจะยื่นมือไปรับเขากลับเป็นฝ่ายคลุมให้เธอ ลมหายใจกันยกรสะดุดไปชั่วอึดใจกับการกระทำของอีกฝ่าย เธอขยับแขนเพื่อใส่เสื้อให้เรียบร้อยแล้วชายหนุ่มก็ช่วยถือกระเป๋าให้ ทว่าเมื่อจะเอากระเป๋าคืนกลับมานภณต์กลับไม่ปล่อยโดยง่าย หญิงสาวเงยหน้ามองก็เห็นสายตาคมเข้มกวาดมองตนราวสำรวจ คิ้วเข้มขมวดทั้งยังเอ่ยราวไม่ชอบใจนัก
“ผมคิดว่า...ชุดโป๊ไปนะครับเจ้านาย ถ้าจะเข้าไปพบลูกค้า”
เสื้อสายเดี่ยวสีดำกับกางเกงขายาวสีน้ำตาลดูเข้ากันดี สวมสูทสีเดียวกันทับแล้วดูไม่น่าเกลียดแต่อย่างใด แม้จะไม่พอใจที่เขาตำหนิชุดของเธอ แต่ที่ทำให้เคืองมากกว่าคือสายตาอีกฝ่ายต่างหาก มองจนทั่วตัวอย่างนี้ทำเอาเธอร้อนวูบวาบขึ้นมา มือบางคว้ากระเป๋าตนแล้วหันหน้าหนี ทว่าเขากลับคว้าไหล่ให้หันกลับไป
“เอ๊ะ...”
เสียงน้ำที่ขุ่นจัดหยุดลงเมื่อมือหนาเลื่อนมาติดกระดุมด้านหน้าสูทของเธอ แม้ในใจบอกให้ถอยหลบทว่ากันยกรกลับยืนนิ่ง สบตาชายหนุ่มอีกครั้งก็เห็นเขาพยักหน้าพอใจ
“แบบนี้ค่อยเรียบร้อยหน่อย”
ริมฝีปากอิ่มกำลังจะเผยอขึ้นบ่นเขาที่มายุ่มย่ามกับเสื้อผ้าของตน ทว่าเสียงเรียกของทีมงานก็ดังขึ้นมาก่อน
“ผู้จัดการ พี่เมฆ เชิญทางนี้ครับ”
“ไปเถอะครับ ยังไงคืนนี้ก็เป็นคืนวันศุกร์ ผมอยากเลี้ยงขอบคุณทีมงาน”
ลูกค้าซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นมหาวิทยาลัยเดียวกันกับภพดนัยพอใจระบบภายในของบริษัทซึ่งทางทีมออกแบบให้มาก และใช้เวลาเพียงสามอาทิตย์ก็ปิดจ๊อบได้อย่างสวยงาม อีกฝ่ายก็เลยต้องการเลี้ยงขอบคุณ ซึ่งกันยกรนั้นปฏิเสธอย่างเกรงใจลูกค้าจึงคะยั้นคะยอซ้ำอีก
“ยังไงผมก็สัญญาว่าจะเลี้ยงเหล้าไอ้โดมหลังจบงานอยู่แล้ว ถือโอกาสเลี้ยงทีมงานทุกคนไปด้วยเลย เชิญทุกคนนะครับ”
“ใช่ งานนี้ปิดจ๊อบลงได้เพราะทุกคน ไม่ใช่เพราะผมคนเดียว ถ้าจะเลี้ยงก็ควรเลี้ยงทุกคน ไม่ใช่ผม ผมเองก็อยากขอบคุณทุกคนเหมือนกัน ไปด้วยกันทั้งหมดนี่แหละ”
เมื่อรองประธานบริษัทพูดมีหรือที่พนักงานจะกล้าปฏิเสธ กันยกรแอบถอนหายใจ ถ้าเธอไม่ไปด้วยก็คงทำให้ลูกค้ากับพนักงานรู้สึกไม่ดีนัก หญิงสาวจึงตอบรับอย่างจำใจ
กันยกรเลือกนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับภพดนัย ซึ่งลูกค้านั่งหัวโต๊ะแล้วก็เป็นนภณต์ที่มานั่งข้างเธอเพราะพนักงานคนอื่นเว้นที่ไว้ราวไม่กล้านั่งใกล้ หญิงสาวจิบเครื่องดื่มทีละนิดเพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศ คนอื่นๆ จะได้สนุกสนานกันโดยไม่เกร็งเพราะเธอ และสังเกตเห็นว่า ภพดนัยต้องรับโทรศัพท์และตอบข้อความบ่อยครั้งเดาได้ไม่ยากว่าคงเป็นเกวลิน ในเมื่อทีมงานหลายคนถ่ายภาพจะโพสต์ขอบคุณลูกค้ารวมถึงท่านรองด้วย น้องสาวของเธอคงได้เห็นอยู่บ้างผ่านโซเชียลที่มีคนแท็กสามี
กันยกรกลับบ้านอาทิตย์ละหนึ่งวันคือวันเสาร์ ไปทานข้าวเย็นแล้วก็กลับมานอนคอนโดเช่นเคย เจอหน้าเมื่อไรเกวลินก็มองอย่างจับผิดทุกครั้ง หญิงสาวแทบไม่อยากกลับ แต่เพราะไม่อยากทำให้บิดาขุ่นใจจึงลดการปะทะโดยไปทานข้าวเย็นอาทิตย์ละครั้ง รู้ดีว่าแม่เลี้ยงก็ไม่ได้อยากให้ตนไปเหยียบที่บ้านด้วยซ้ำ
อยู่ๆ ก็มีสายเข้ามาที่โทรศัพท์มือถือของเธอ เพราะห้องที่มาดื่มนั้นเป็นห้องวีไอพี เสียงเพลงไม่ดังจนเกินไป และรู้สึกได้ถึงความสั่นจากกระเป๋าที่วางบนตักกันยกรจึงหยิบมาดูแล้วเห็นว่าเป็นเบอร์ของ เกวลิน ชั่งใจว่าจะรับดีหรือไม่เล็กน้อย หากสุดท้ายก็เลือกที่จะรับเพราะถือว่าตนบริสุทธิ์ใจ หญิงสาวขอตัวออกมาด้านนอกแล้วเดินไปยังจุดที่ไม่ค่อยมีเสียงเพลงรบกวน ซึ่งใกล้บริเวณที่จัดไว้ให้สูบบุหรี่ เธอไม่ได้ออกไปเพราะไม่ค่อยชอบกลิ่น
“ว่าไง”
‘เมื่อไรคุณโดมจะกลับคะ’
“เขาบอกเธอว่าเมื่อไรก็เมื่อนั้นแหละ ฉันจะไปรู้ได้ยังไง”
‘แล้วพี่กันย์จะกลับเมื่อไร’
“คงอีกไม่นาน”
‘พี่กันย์รอให้คุณโดมกลับก่อนนะ ถ้าพี่กันย์กลับก่อนก็ไม่เห็นน่ะสิ ว่ามีผู้หญิงคนอื่นเข้ามาเกาะแกะเขาหรือเปล่า’
“นี่ยายเก๋ หวงนักก็ตามมารอเขาที่นี่สิ ฉันง่วงฉันก็จะกลับ ไม่รอเฝ้าสามีให้เธอหรอก”
‘ก็คุณโดมไม่ยอมบอกว่าที่ไหน แล้วลูกค้าก็เป็นเพื่อนเขาด้วย เก๋ให้รีบกลับก็บอกว่าน่าเกลียด กลับก่อนดูไม่ดี’
“...แถวคอนโดเก่า หาเจอไม่ยาก แต่จะออกมาจริงเหรอ”
เธอบอกชื่อไปเพราะคิดว่าไม่ใช่เรื่องที่ต้องปิดบัง
‘ขอดูก่อนค่ะ ถ้าดึกเกินไปคุณโดมยังกลับก็คงไป’
“ดึกมากก็ให้คนขับรถมารับสามีเธอดีกว่า ไม่ต้องออกมาเองหรอก”
หญิงสาวแนะนำอย่างหวังดีอีกฝ่ายก็ตอบรับเสียงแข็ง ขณะเดียวกันเจ้าของร่างสูงกำยำก็เดินผ่านมา ทั้งคู่สบตากันแวบหนึ่งก่อนชายหนุ่มจะออกไปตรงที่สูบบุหรี่ กันยกรไม่ได้มองตาม เธอวางสายแล้วตั้งใจจะกลับเข้าไปที่ห้อง เดินยังไม่ถึงโซนวีไอพีก็เห็นภพดนัยกำลังเดินมาทางนี้
“เห็นผู้หญิงสูงประมาณร้อยหกสิบห้า ใส่ชุดสูทกับกางเกงขายาวสีครีมไหมครับ”
เขาถามกับผู้หญิงที่ออกมาจากห้องน้ำอีกฝ่ายก็ส่ายหน้า ทำให้ชายหนุ่มเหลือบมามองทางด้านนี้ กันยกรรีบหลบเข้าไปทางเดิม
ภพดนัยตามหาเธออยู่อย่างนั้นหรือ
หญิงสาวไม่อยากคุยกับชายหนุ่มตามลำพัง หรือแม้เห็นว่าเธอออกมานานแล้วคิดจะมาดูด้วยความหวังดีกันยกรก็ไม่ชอบ เธอโตแล้ว ดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องให้เขามาตามคอยเช็กว่าเธอไปไหนทำอะไร เพราะไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว
“คุณกันย์”
เสียงเรียกดังมาใกล้กันยกรจำต้องเดินกลับไปใกล้ประตูที่จะออกไปสูบบุหรี่อย่างหงุดหงิด กำลังคิดว่าจะออกไปดีหรือไม่ประตูก็เปิด นภณต์ก้าวเข้ามาและมองเธอพร้อมคิ้วเข้มขยับสูง ปลายหางตากันยกรเห็นว่าภพดนัยเดินเลี้ยวมาแล้วหญิงสาวรีบดันคนตรงหน้าหลังชิดกำแพง ยืดกายขึ้นพร้อมแขนเรียวยกคล้องลำคอหน้า ใบหน้าแหงนเงยขึ้นสูง แนบริมฝีปากตนกับปากได้รูป
กลิ่นบุหรี่จากลมหายใจอีกฝ่ายทำให้เธอขัดใจเล็กน้อย ทว่าหญิงสาวก็ขยับกลีบปากอิ่มบดเบียดกับปากแกร่ง นภณต์นิ่งงันเพียงชั่วอึดใจเขาก็โต้กลับ ลิ้นอุ่นสอดแทรกเข้ามาฉับพลันในยามที่เธอเผยอปาก แขนกำยำกอดรัดตัวเธอให้แนบกับกายแกร่งมากขึ้นพร้อมลิ้นพัวพันรุกเร้าอย่างเร่าร้อน
กันยกรตัวอ่อนยวบ หายใจหายคอไม่ทัน หูอื้อมึนเบลอจนแทบลืมไปแล้วว่าตนจูบนภณต์เพื่อต้องการไล่ภพดนัยทางอ้อม กระทั่งอีกฝ่ายถอนริมฝีปากแล้วกระซิบชิดปากตนนั่นแหละเธอจึงรู้สึกตัวลืมตาโพลง
“คิดถึงกันก็บอกตรงๆ ก็ได้นะครับ บอกแล้วว่าผมยินดีบริการเจ้านายเสมอ”
=====
กันย์รุกก่อนซะแล้ว 5555 ^^"
กันยกรกัดฟันและพยายามฝืนยิ้มหวาน ทว่าสายตาแอบเหล่ไปมองว่าภพดนัยยังอยู่หรือไม่ เมื่อไม่เห็นอีกฝ่ายเธอก็ทุบอกหนาอย่างแรง“บ้าน่ะสิ ใครคิดถึงคุณ”เอ่ยเสียงเข้มแล้วก็ผลักเขา หากชายหนุ่มยังกอดเธออยู่“อ้อ ใช้ผมเป็นไม้กันหมานี่เอง”“ย่ะ รู้แล้วก็ปล่อยได้แล้ว”เธอไม่ปฏิเสธอีกฝ่ายจึงลดแขนลง ร่างอรชรรีบถอยห่างพลางสูดหายใจเข้าลึกดึงสติของตัวเอง พร้อมเรียกกำลังที่อ่อนลงไปก่อนหน้านี้ แล้วสะบัดหน้าเดินหนีนภณต์กลับไปที่ห้องวีไอพี ตั้งใจว่านั่งต่ออีกสักครึ่งชั่วโมงก็จะขอตัวกลับ ไม่สนใจว่าชายหนุ่มมองตามตนด้วยสายตาแบบไหน“ขึ้นแท็กซี่ไปด้วยกันนะคะพี่เมฆ จะกลับไปเอารถที่บริษัทใช่ไหมคะ น้องต้องผ่านทางนั้นเหมือนกันค่ะ”เพราะนั่งอยู่ข้างนภณต์กันยกรจึงได้ยินที่หญิงสาวซึ่งนั่งถัดจากเขาคุยด้วย วันนี้นภณต์มากับทีม ส่วนเธอขับรถมาเองเพราะรู้เส้นทางที่มาบริษัทลูกค้าแล้ว หญิงสาวไม่ได้คิดอะไรมากกระทั่งขอตัวกลับ ในทีมมีผู้หญิงสองคน อีกคนขอตัวออกมาพร้อมกับเธอโดยมีแฟนมารับ กันยกรยืนรอเป็นเพื่อนอีกฝ่ายอยู่บริเวณด้านหน้าพักหนึ่งกระทั่งแฟนเจ้าตัวขับรถมาถึง“ขอบคุณกันย์มากค่ะ”เธอพยักหน้ารับพลางบอกว่าไม่เป็นไรอีกฝ่ายก็ขึ้
“เฮ้อ ใช้เราเป็นเครื่องมือ สมใจก็ถีบหัวส่ง ใจร้ายจังเลยนะครับเจ้านาย”ดวงตาคู่เรียวงามค้อนขวับ อีกฝ่ายก็เหลือบมองพลางกระตุกยิ้มมุมปากอย่างยียวนชวนโมโห“ไม่พอใจคุณก็ปฏิเสธได้นี่ มาจูบตอบทำไม หรือคิดจะไปบอกคุณโดมว่าไม่มีอะไร ฉันมันผู้หญิงมักง่ายจูบคนไปทั่วเองก็ได้ ฉันไม่แคร์หรอก”เธอเสียงแข็ง แล้วภายในรถก็เงียบไปชั่วอึดใจก่อนเสียงทุ้มจะเอ่ย“คุณไม่ได้เป็นอย่างนั้นหรอกครับเจ้านาย”“หึ คุณจะรู้อะไร ฉันไปเรียนเมืองนอกตั้งสามปี อาจจะผ่านอะไรต่อมิอะไรมาตั้งเยอะก็ได้”“พิสูจน์กันไหมครับ”กันยกรถึงกับอึ้งกับคำท้าของเขาแล้วกอดอกเมินหน้าหนี“ทำไมฉันต้องทำอะไรบ้าๆ แบบนั้นด้วย”“คุณไม่กล้าล่ะสิ กลัวผมรู้ว่าคุณไม่เคยมีใคร นอกจากผม”“ไม่จริงสักหน่อย”เธอหันไปเถียงเสียงขุ่น ทว่าอีกฝ่ายยิ้มนิดๆ แล้วหันไปมองถนนด้านหน้าแล้วหักเลี้ยว กันยกรสูดหายใจเข้าออกแรงอย่างหงุดหงิด“คุณติดใจผม ลืมผมไม่ลง ไม่งั้นคงไม่โสดมาถึงตอนนี้หรอก”“จอดเลยนะ ฉันไม่อนุญาตให้คุณไปส่งฉัน จอดเดี๋ยวนี้”กันยกรขึ้นเสียงยิ่งกว่าเดิมและครั้งนี้ชายหนุ่มยอมหยุดรถชิดริมทาง ทว่าเขายังไม่ลงจากรถโดยง่าย“อ้อ หรือว่า ที่คุณยังไม่มีใครเพราะหวั
“เราจะทำให้เต็มที่ครับ”เป็นอีกครั้งที่นภณต์เป็นคนพรีเซนต์และตอบคำถามผู้บริหารทุกอย่างแทนเธอเกี่ยวกับเกมใหม่ที่แผนกคิดขึ้นมา เธอกับชายหนุ่มรวมถึงหัวหน้าของทีมเป็นตัวแทนแผนกเข้าประชุมตั้งแต่นำเสนอ จนถึงตอนนี้ผ่านขั้นตอนการดีไซน์ภาพมาถึงสร้างแอนิเมชันตัวละครและเอฟเฟกต์ และการเขียนโปรแกรมของเกมก็ดำเนินไปบางส่วนแล้ว ซึ่งเป็นเกมที่จำลองสถานการณ์เสมือนจริงในแบบอิงประวัติศาสตร์ไทยที่ทางบริษัทคาดหวังไว้มาก“ครับ ผมเชื่อใจนภณต์กับทีมงาน ถ้ามีปัญหาอะไรติดขัด หรือต้องการอะไรเพิ่มแจ้งผ่านคุณกันย์ได้เลยนะครับ”ภพดนัยฝากฝัง เขาเชื่อใจนภณต์ในเรื่องงานมากเพราะ อีกฝ่ายมีฝีมือจริงๆ ทั้งหมดเป็นทีมงานเดิม ทำงานมาตั้งแต่ผู้บริหารคนก่อน แม้ว่าประธานบริษัทจะเป็นชื่อบิดาของชายหนุ่มทว่างานในบริษัทนี้เขาเป็นคนดูและมีสิทธิ์ตัดสินใจแทนอย่างเต็มที่ ยกเว้นประชุมบอร์ดบริหารบิดาของชายหนุ่มจึงเป็นผู้เข้าประชุม“แล้วก็มีอีกเรื่องที่ต้องรบกวนคุณกันย์”ผู้เป็นท่านรองพูดขึ้นหลังจบเนื้อหาการประชุม“เราจะมีสัมมนากันเดือนหน้า ผมไม่ค่อยถนัดเรื่องนี้ อยากให้คุณกันย์ช่วยเลือกดูว่าเราจะไปที่ไหนดี แล้วบอกกับเลขาผมได้เลยครับ”“ได
“คุณ”ร่างสูงกำยำรีบเข้ามาช่วยพยุงให้ลุกขึ้น แม้จะไม่ได้เจ็บมากแต่กันยกรก็รู้สึกแปลบๆ ที่หัวเข่า“อยู่ๆ โผล่มาได้ยังไงเนี่ย”“ผมมาเดินดูไร่ชา แล้วฝนตกก็เลยจะรีบวิ่งกลับน่ะสิ”นภณต์ตอบ ฝนตกหนักทำเอาทั้งคู่เปียกโชกในเวลาไม่นาน“ไม่คิดว่าจะมาเจอคุณพอดี เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”“เจ็บเข่าน่ะ”กันยกรตอบด้วยความเซ็ง“งั้นผมขี่ไปส่งคุณที่บ้านพักแล้วกัน”ชายหนุ่มบอกแล้วยกจักรยานขึ้น กันยกรเห็นว่าฝนตกหนักมาก เธอจึงไม่ปฏิเสธ เมื่ออีกฝ่ายประจำที่ด้านหน้าเธอก็นั่งซ้อนด้านหลังโดยง่ายในตอนแรกที่นภณต์ขี่จักรยานนั้นเธอพยายามจับที่ท้ายเบาะเท่านั้น ทว่าเพราะถนนลื่นทั้งยังเป็นเนินขึ้นลงทำให้ทรงตัวได้ยาก เพื่อไม่ให้ตกลงไปสุดท้ายแขนเรียวก็จำต้องกอดเอวหนา แม้จะรู้สึกแปลกๆ หากก็ไม่ใช่ความรู้สึกไม่ดีแต่อย่างใด“คุณพักหลังนี้ใช่ไหมครับ”“ใช่”อีกฝ่ายมาหยุดลงหน้าบ้านพักของเธอ ทว่าแทนที่เขาจะแยกไปบ้านพักตัวเองกลับขยับเข้ามาโอบไหล่เธอ“อะไรของคุณ”กันยกรจะสะบัดตัว หากเสียงทุ้มดังชิดข้างหู ดูเผินๆ เหมือนชายหนุ่มก้มลงจุมพิตศีรษะของเธอ“ท่านรองเปิดม่านหน้าต่างมองอยู่”เพราะบ้านพักของเธออยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ้านพักของภพดนั
“คุณไม่ได้น่ารังเกียจอะไรหรอก”กันยกรบอกเมื่ออีกฝ่ายหันกลับมา“แค่ระหว่างเราเป็นเจ้านายกับลูกน้อง ไม่มีอะไรลึกซึ้งกว่านั้น ถึงฉันจะไม่ได้ยึดติดเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ไม่ใช่คนรักสนุกจนไม่แคร์อะไร”“ผมเองก็ไม่ได้นอนกับใครง่ายๆ แต่กับคุณ ผมอยากลบความทรงจำแย่ๆ”‘มันไม่ได้แย่’เธอเกือบจะหลุดปากบอกไปแล้วแต่ก็นึกอายที่จะพูด“เรามาสร้างความทรงจำที่ดีใหม่กันนะครับ”อยู่ๆ กันยกรก็รู้สึกเขินขึ้นมา หญิงสาวกัดริมฝีปากที่เกือบจะหลุดยิ้มของตนขณะร่างสูงกำยำโน้มมาอยู่เหนือร่างตน ปลายนิ้วอุ่นไล้กรอบใบหน้าพาให้ขนลุกไปจนถึงลำคอ ก่อนใบหน้าคมคายจะลดมาชิด“อยากให้ผมบริการแบบไหนครับเจ้านาย”เขาเอ่ยเย้า“ถ้าไม่รู้ว่าต้องทำอะไร ก็ไม่ต้องทำ”เธอตอบเสียงขุ่นเพราะหน้าร้อนจัดกับคำถามของชายหนุ่ม แล้วก็ได้ยินเขาหัวเราะในลำคอราวนึกสนุกก่อนริมฝีปากได้รูปจะแตะไล้ปากเธอผะแผ่วก่อนค่อยๆ เม้มกลีบปากจูบซับ กันยกรหลับตาลงปล่อยความรู้สึกให้ล่องลอยไปกับปากอุ่นและปลายนิ้วแกร่งที่เริ่มลูบไล้ทุกสัดส่วนทั่วกายสาวหญิงสาวผ่อนลมหายใจยาว รับรู้ถึงเรือนกายแกร่งแนบชิดและขยับไล้กับร่างตน มือหนาข้างหนึ่งสอดเข้ามาเกาะกุมทรวงอวบเคล้าคลึงทั้ง
ร่างสูงกำยำเคลื่อนขึ้นมามอบจูบสุดดื่มด่ำ ก่อนจะขยับกายขึ้นนั่ง กันยกรคิดว่าบทรักที่แท้จริงกำลังจะตามมาจึงเกร็งตัวรอทว่า อีกฝ่ายกลับจับเธอให้พลิกคว่ำหน้าลง กายแกร่งแนบลงมาชิดเสียดสีอกแกร่งกับแผ่นหลังบางพร้อมกัดใบหูของเธอเบาๆ หยอกเอิน“ผิวคุณเนียนนุ่มอย่างกับกำมะหยี่แน่ะ ได้เบียดแบบนี้แล้วผมแข็งไปหมด”ความกร้าวเบียดถูไถกับสะโพกเธอทำเอากันยกรขนลุกไปทั้งแผ่นหลัง หากก็กัดฟันต่อว่าเขาออกไป“ลามก”“แหงล่ะ ไม่ลามกจะทำให้คุณเสร็จได้ไง”“ทะลึ่ง”“หึๆๆ”ชายหนุ่มหัวเราะพอใจที่ได้ยั่วให้เธอโมโห แต่กันยกรกลับไม่ได้โกรธเคืองอีกฝ่าย กลับรู้สึกเร้าใจเร้าอารมณ์กับการกระตุ้นด้วยคำพูดของนภณต์ริมฝีปากอุ่นซุกไซ้ข้างซอกคอ พร้อมมือหนาก็สอดมาเคล้นหน้าอก ยิ่งเขาจูบเม้มคอกับบ่าเธอยิ่งตัวสั่น ครวญครางเสียงเบาด้วยความรัญจวนใจ รอยประทับค่อยๆ ต่ำลงไปตามสันหลังกันยกรก็เหมือนถูกไฟโหมท่วมกาย อาการร้อนรนมาพร้อมความซาบซ่านจนขยับสะโพกไล้กับชายหนุ่มโดยไม่รู้ตัว แล้วก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำดังในลำคอหนาราวพอใจ“คุณกันย์ใจร้อนหรือครับ”“คุณนี่”หญิงสาวขุ่นใจกับคนช่างหยอก แต่ก็ปฏิเสธไม่ออกว่าเธอกำลังเร่าร้อนสุดๆ โหยหารสรักที่ได้
“ห้าหมื่น หนึ่งคืนแล้วจบกัน ไม่มีพันธะผูกพัน บังเอิญเจอกันก็ไม่ต้องทักทาย”นี่คือข้อเสนอที่เอ่ยจากเจ้าของริมฝีปากอิ่มสวยสีแดงกระชากใจ และชายหนุ่มที่นั่งดื่มข้างๆ ตนตรงเคาน์เตอร์บาร์มาเกือบสองชั่วโมงก็พยักหน้าตกลงหลังจากครุ่นคิดไม่กี่อึดใจร่างอรชรอ้อนแอ้นในชุดลูกไม้สีครีมเข้ารูปลุกขึ้นคว้ากระเป๋าสะพายพร้อมเสื้อสูทสีน้ำตาลเข้มเข้ากันที่ถอดไว้ก่อนหน้านี้ ร่างสูงกำยำจึงลุกตามหญิงสาวเดินนำหน้าอีกฝ่ายผ่านกลุ่มคนที่กำลังยกย้ายส่ายสะโพกอย่างเมามัน เธอไม่ได้ดื่มจนเมามายและมีสติดีครบถ้วนจึงก้าวเดินได้อย่างมั่นคง เมื่อมีผู้ชายซึ่งเมาและเต้นสนุกสนานเข้ามาชนราวอยากทำความรู้จักแขนกำยำก็ขยับมาโอบไหล่บาง ดวงตาคู่เรียวเหลือบมองคนที่เข้ามาประชิดอย่างไม่พอใจ แต่เห็นว่าเป็นชายหนุ่มที่ตนออกปากซื้อเขาจึงเดินต่อ ทว่าเมื่อออกมาด้านนอกก็สะบัดไหล่ตนออก“คุณมีรถไหม”ชายหนุ่มที่ยืนล้วงกระเป๋ามองเธอนิ่งพยักหน้า“ขับรถตามมาก็แล้วกัน”บอกสั้นๆ หญิงสาวก็ตรงไปยังที่จอดรถของตน ไม่ได้หันกลับไปมองอีกฝ่ายว่าตามมาหรือไม่ แต่คิดว่าหากอยากได้เงินเขาย่อมตามเธอมา‘ขอเวลาหน่อยเถอะครับ ผมจะรีบเคลียร์ให้ภายในอาทิตย์หน้า’เธอได
ประตูห้องพักในโรงแรมถูกเปิดโดยพนักงานบริการ กันยกรเดินเข้ามาก่อนตามด้วยเจ้าของร่างสูงกำยำ“ฉันเข้าห้องน้ำก่อน”เมื่อพนักงานออกไปเธอก็จับประตูห้องน้ำเปิดเข้าไปทันที รู้สึกใจเต้นแรงจนต้องพิงประตูแล้วสูดหายใจเข้าปอดลึกไม่เสียใจ กันยกรบอกตัวเอง สิ่งที่ตนกำลังจะทำเหมือนคนโง่ ทว่าเธอต้องการความแข็งแกร่ง อยากเปลี่ยนตัวเองให้เป็นผู้หญิงแกร่งที่สวย เชิด เลิศ ไม่แคร์สิ่งใด‘แกมันดูเหนียมไปหน่อยยายกันย์ ผู้หญิงที่ไม่เคยอย่างแกน่ะ มันขาดเสน่ห์ ไร้เซ็กซ์แอพพีลก็ตรงนี้แหละ’ภาวินีเพื่อนสนิทบอกเธอในตอนที่ถูกแฟนบอกเลิกเป็นคนที่สาม นับแต่เรียนมหาวิทยาลัย กันยกรก็คบหากับคนที่เข้ามาจีบตนเพราะคิดว่าตนเองโตพอที่จะทำความรู้จักความรัก แต่กลับถูกคนที่คบด้วยบอกเลิกหลังจากเวลาผ่านไปพักหนึ่งเสมอ‘ฉันยังไม่พร้อมนี่นา’‘แล้วแกจะพร้อมเมื่อไร สมัยนี้เขาไม่ถือเรื่องพวกนี้กันแล้ว ของแบบนี้มันต้องลองก่อนว่าไปกันรอดไหม เจอหน้าก็ชวนนอนก่อนเลยย่ะ’‘แหม พูดเหมือนตัวเองเจอหน้าคนที่ชอบแล้วชวนนอนก่อนงั้นแหละยายนีนี่’‘ว่าไม่ได้นะจ๊ะ ถ้าโดนจริงๆ ก็อาจจะขอลองก่อนว่าเด็ดไหม’เพื่อนรักกระซิบข้างหูแล้วขยิบตาให้เธอจึงตีไหล่อีกฝ่า
ร่างสูงกำยำเคลื่อนขึ้นมามอบจูบสุดดื่มด่ำ ก่อนจะขยับกายขึ้นนั่ง กันยกรคิดว่าบทรักที่แท้จริงกำลังจะตามมาจึงเกร็งตัวรอทว่า อีกฝ่ายกลับจับเธอให้พลิกคว่ำหน้าลง กายแกร่งแนบลงมาชิดเสียดสีอกแกร่งกับแผ่นหลังบางพร้อมกัดใบหูของเธอเบาๆ หยอกเอิน“ผิวคุณเนียนนุ่มอย่างกับกำมะหยี่แน่ะ ได้เบียดแบบนี้แล้วผมแข็งไปหมด”ความกร้าวเบียดถูไถกับสะโพกเธอทำเอากันยกรขนลุกไปทั้งแผ่นหลัง หากก็กัดฟันต่อว่าเขาออกไป“ลามก”“แหงล่ะ ไม่ลามกจะทำให้คุณเสร็จได้ไง”“ทะลึ่ง”“หึๆๆ”ชายหนุ่มหัวเราะพอใจที่ได้ยั่วให้เธอโมโห แต่กันยกรกลับไม่ได้โกรธเคืองอีกฝ่าย กลับรู้สึกเร้าใจเร้าอารมณ์กับการกระตุ้นด้วยคำพูดของนภณต์ริมฝีปากอุ่นซุกไซ้ข้างซอกคอ พร้อมมือหนาก็สอดมาเคล้นหน้าอก ยิ่งเขาจูบเม้มคอกับบ่าเธอยิ่งตัวสั่น ครวญครางเสียงเบาด้วยความรัญจวนใจ รอยประทับค่อยๆ ต่ำลงไปตามสันหลังกันยกรก็เหมือนถูกไฟโหมท่วมกาย อาการร้อนรนมาพร้อมความซาบซ่านจนขยับสะโพกไล้กับชายหนุ่มโดยไม่รู้ตัว แล้วก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำดังในลำคอหนาราวพอใจ“คุณกันย์ใจร้อนหรือครับ”“คุณนี่”หญิงสาวขุ่นใจกับคนช่างหยอก แต่ก็ปฏิเสธไม่ออกว่าเธอกำลังเร่าร้อนสุดๆ โหยหารสรักที่ได้
“คุณไม่ได้น่ารังเกียจอะไรหรอก”กันยกรบอกเมื่ออีกฝ่ายหันกลับมา“แค่ระหว่างเราเป็นเจ้านายกับลูกน้อง ไม่มีอะไรลึกซึ้งกว่านั้น ถึงฉันจะไม่ได้ยึดติดเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ไม่ใช่คนรักสนุกจนไม่แคร์อะไร”“ผมเองก็ไม่ได้นอนกับใครง่ายๆ แต่กับคุณ ผมอยากลบความทรงจำแย่ๆ”‘มันไม่ได้แย่’เธอเกือบจะหลุดปากบอกไปแล้วแต่ก็นึกอายที่จะพูด“เรามาสร้างความทรงจำที่ดีใหม่กันนะครับ”อยู่ๆ กันยกรก็รู้สึกเขินขึ้นมา หญิงสาวกัดริมฝีปากที่เกือบจะหลุดยิ้มของตนขณะร่างสูงกำยำโน้มมาอยู่เหนือร่างตน ปลายนิ้วอุ่นไล้กรอบใบหน้าพาให้ขนลุกไปจนถึงลำคอ ก่อนใบหน้าคมคายจะลดมาชิด“อยากให้ผมบริการแบบไหนครับเจ้านาย”เขาเอ่ยเย้า“ถ้าไม่รู้ว่าต้องทำอะไร ก็ไม่ต้องทำ”เธอตอบเสียงขุ่นเพราะหน้าร้อนจัดกับคำถามของชายหนุ่ม แล้วก็ได้ยินเขาหัวเราะในลำคอราวนึกสนุกก่อนริมฝีปากได้รูปจะแตะไล้ปากเธอผะแผ่วก่อนค่อยๆ เม้มกลีบปากจูบซับ กันยกรหลับตาลงปล่อยความรู้สึกให้ล่องลอยไปกับปากอุ่นและปลายนิ้วแกร่งที่เริ่มลูบไล้ทุกสัดส่วนทั่วกายสาวหญิงสาวผ่อนลมหายใจยาว รับรู้ถึงเรือนกายแกร่งแนบชิดและขยับไล้กับร่างตน มือหนาข้างหนึ่งสอดเข้ามาเกาะกุมทรวงอวบเคล้าคลึงทั้ง
“คุณ”ร่างสูงกำยำรีบเข้ามาช่วยพยุงให้ลุกขึ้น แม้จะไม่ได้เจ็บมากแต่กันยกรก็รู้สึกแปลบๆ ที่หัวเข่า“อยู่ๆ โผล่มาได้ยังไงเนี่ย”“ผมมาเดินดูไร่ชา แล้วฝนตกก็เลยจะรีบวิ่งกลับน่ะสิ”นภณต์ตอบ ฝนตกหนักทำเอาทั้งคู่เปียกโชกในเวลาไม่นาน“ไม่คิดว่าจะมาเจอคุณพอดี เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”“เจ็บเข่าน่ะ”กันยกรตอบด้วยความเซ็ง“งั้นผมขี่ไปส่งคุณที่บ้านพักแล้วกัน”ชายหนุ่มบอกแล้วยกจักรยานขึ้น กันยกรเห็นว่าฝนตกหนักมาก เธอจึงไม่ปฏิเสธ เมื่ออีกฝ่ายประจำที่ด้านหน้าเธอก็นั่งซ้อนด้านหลังโดยง่ายในตอนแรกที่นภณต์ขี่จักรยานนั้นเธอพยายามจับที่ท้ายเบาะเท่านั้น ทว่าเพราะถนนลื่นทั้งยังเป็นเนินขึ้นลงทำให้ทรงตัวได้ยาก เพื่อไม่ให้ตกลงไปสุดท้ายแขนเรียวก็จำต้องกอดเอวหนา แม้จะรู้สึกแปลกๆ หากก็ไม่ใช่ความรู้สึกไม่ดีแต่อย่างใด“คุณพักหลังนี้ใช่ไหมครับ”“ใช่”อีกฝ่ายมาหยุดลงหน้าบ้านพักของเธอ ทว่าแทนที่เขาจะแยกไปบ้านพักตัวเองกลับขยับเข้ามาโอบไหล่เธอ“อะไรของคุณ”กันยกรจะสะบัดตัว หากเสียงทุ้มดังชิดข้างหู ดูเผินๆ เหมือนชายหนุ่มก้มลงจุมพิตศีรษะของเธอ“ท่านรองเปิดม่านหน้าต่างมองอยู่”เพราะบ้านพักของเธออยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ้านพักของภพดนั
“เราจะทำให้เต็มที่ครับ”เป็นอีกครั้งที่นภณต์เป็นคนพรีเซนต์และตอบคำถามผู้บริหารทุกอย่างแทนเธอเกี่ยวกับเกมใหม่ที่แผนกคิดขึ้นมา เธอกับชายหนุ่มรวมถึงหัวหน้าของทีมเป็นตัวแทนแผนกเข้าประชุมตั้งแต่นำเสนอ จนถึงตอนนี้ผ่านขั้นตอนการดีไซน์ภาพมาถึงสร้างแอนิเมชันตัวละครและเอฟเฟกต์ และการเขียนโปรแกรมของเกมก็ดำเนินไปบางส่วนแล้ว ซึ่งเป็นเกมที่จำลองสถานการณ์เสมือนจริงในแบบอิงประวัติศาสตร์ไทยที่ทางบริษัทคาดหวังไว้มาก“ครับ ผมเชื่อใจนภณต์กับทีมงาน ถ้ามีปัญหาอะไรติดขัด หรือต้องการอะไรเพิ่มแจ้งผ่านคุณกันย์ได้เลยนะครับ”ภพดนัยฝากฝัง เขาเชื่อใจนภณต์ในเรื่องงานมากเพราะ อีกฝ่ายมีฝีมือจริงๆ ทั้งหมดเป็นทีมงานเดิม ทำงานมาตั้งแต่ผู้บริหารคนก่อน แม้ว่าประธานบริษัทจะเป็นชื่อบิดาของชายหนุ่มทว่างานในบริษัทนี้เขาเป็นคนดูและมีสิทธิ์ตัดสินใจแทนอย่างเต็มที่ ยกเว้นประชุมบอร์ดบริหารบิดาของชายหนุ่มจึงเป็นผู้เข้าประชุม“แล้วก็มีอีกเรื่องที่ต้องรบกวนคุณกันย์”ผู้เป็นท่านรองพูดขึ้นหลังจบเนื้อหาการประชุม“เราจะมีสัมมนากันเดือนหน้า ผมไม่ค่อยถนัดเรื่องนี้ อยากให้คุณกันย์ช่วยเลือกดูว่าเราจะไปที่ไหนดี แล้วบอกกับเลขาผมได้เลยครับ”“ได
“เฮ้อ ใช้เราเป็นเครื่องมือ สมใจก็ถีบหัวส่ง ใจร้ายจังเลยนะครับเจ้านาย”ดวงตาคู่เรียวงามค้อนขวับ อีกฝ่ายก็เหลือบมองพลางกระตุกยิ้มมุมปากอย่างยียวนชวนโมโห“ไม่พอใจคุณก็ปฏิเสธได้นี่ มาจูบตอบทำไม หรือคิดจะไปบอกคุณโดมว่าไม่มีอะไร ฉันมันผู้หญิงมักง่ายจูบคนไปทั่วเองก็ได้ ฉันไม่แคร์หรอก”เธอเสียงแข็ง แล้วภายในรถก็เงียบไปชั่วอึดใจก่อนเสียงทุ้มจะเอ่ย“คุณไม่ได้เป็นอย่างนั้นหรอกครับเจ้านาย”“หึ คุณจะรู้อะไร ฉันไปเรียนเมืองนอกตั้งสามปี อาจจะผ่านอะไรต่อมิอะไรมาตั้งเยอะก็ได้”“พิสูจน์กันไหมครับ”กันยกรถึงกับอึ้งกับคำท้าของเขาแล้วกอดอกเมินหน้าหนี“ทำไมฉันต้องทำอะไรบ้าๆ แบบนั้นด้วย”“คุณไม่กล้าล่ะสิ กลัวผมรู้ว่าคุณไม่เคยมีใคร นอกจากผม”“ไม่จริงสักหน่อย”เธอหันไปเถียงเสียงขุ่น ทว่าอีกฝ่ายยิ้มนิดๆ แล้วหันไปมองถนนด้านหน้าแล้วหักเลี้ยว กันยกรสูดหายใจเข้าออกแรงอย่างหงุดหงิด“คุณติดใจผม ลืมผมไม่ลง ไม่งั้นคงไม่โสดมาถึงตอนนี้หรอก”“จอดเลยนะ ฉันไม่อนุญาตให้คุณไปส่งฉัน จอดเดี๋ยวนี้”กันยกรขึ้นเสียงยิ่งกว่าเดิมและครั้งนี้ชายหนุ่มยอมหยุดรถชิดริมทาง ทว่าเขายังไม่ลงจากรถโดยง่าย“อ้อ หรือว่า ที่คุณยังไม่มีใครเพราะหวั
กันยกรกัดฟันและพยายามฝืนยิ้มหวาน ทว่าสายตาแอบเหล่ไปมองว่าภพดนัยยังอยู่หรือไม่ เมื่อไม่เห็นอีกฝ่ายเธอก็ทุบอกหนาอย่างแรง“บ้าน่ะสิ ใครคิดถึงคุณ”เอ่ยเสียงเข้มแล้วก็ผลักเขา หากชายหนุ่มยังกอดเธออยู่“อ้อ ใช้ผมเป็นไม้กันหมานี่เอง”“ย่ะ รู้แล้วก็ปล่อยได้แล้ว”เธอไม่ปฏิเสธอีกฝ่ายจึงลดแขนลง ร่างอรชรรีบถอยห่างพลางสูดหายใจเข้าลึกดึงสติของตัวเอง พร้อมเรียกกำลังที่อ่อนลงไปก่อนหน้านี้ แล้วสะบัดหน้าเดินหนีนภณต์กลับไปที่ห้องวีไอพี ตั้งใจว่านั่งต่ออีกสักครึ่งชั่วโมงก็จะขอตัวกลับ ไม่สนใจว่าชายหนุ่มมองตามตนด้วยสายตาแบบไหน“ขึ้นแท็กซี่ไปด้วยกันนะคะพี่เมฆ จะกลับไปเอารถที่บริษัทใช่ไหมคะ น้องต้องผ่านทางนั้นเหมือนกันค่ะ”เพราะนั่งอยู่ข้างนภณต์กันยกรจึงได้ยินที่หญิงสาวซึ่งนั่งถัดจากเขาคุยด้วย วันนี้นภณต์มากับทีม ส่วนเธอขับรถมาเองเพราะรู้เส้นทางที่มาบริษัทลูกค้าแล้ว หญิงสาวไม่ได้คิดอะไรมากกระทั่งขอตัวกลับ ในทีมมีผู้หญิงสองคน อีกคนขอตัวออกมาพร้อมกับเธอโดยมีแฟนมารับ กันยกรยืนรอเป็นเพื่อนอีกฝ่ายอยู่บริเวณด้านหน้าพักหนึ่งกระทั่งแฟนเจ้าตัวขับรถมาถึง“ขอบคุณกันย์มากค่ะ”เธอพยักหน้ารับพลางบอกว่าไม่เป็นไรอีกฝ่ายก็ขึ้
ครู่ใหญ่ผ่านไป ภายในรถมีเพียงความเงียบ กระทั่งมาถึงถนนเส้นที่บริษัทลูกค้าตั้งอยู่แต่นภณต์ก็หักเลี้ยวเข้าไปจอดร้านริมถนนซึ่งมีพื้นที่จอดรถค่อนข้างแคบ“ก๋วยเตี๋ยวต้มยำสูตรโบราณร้านนี้ดังมากเลยนะครับ อร่อย ราคาดีไม่แพง ร้านอาจจะเล็กไปหน่อยเพราะขายมาหลายรุ่นแล้ว ว่าแต่เจ้านายสะดวกไหมครับ หรือไม่ถูกใจผมพาไปร้านในห้างใกล้ๆ นี่ก็ได้”“ฉันยังไงก็ได้ เลี้ยวเข้ามาแล้วยังจะถามอีก”เธอบ่นให้ได้ยิน หากชายหนุ่มก็เพียงยักไหล่“ถ้าโอเคงั้นก็เชิญครับ”กันยกรไม่เรื่องมากในการกิน ร้านริมทางทั่วไปเธอก็นั่งมาบ่อยแล้วสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ตอนไปเรียนต่างประเทศเธอต้องใช้เงินอย่างประหยัดกินง่ายกว่าอยู่เมืองไทยมากภายในร้านเป็นพัดลม ชายหนุ่มถอดเสื้อสูทไว้ในรถ ทว่า หญิงสาวเพิ่งมาถอดในตอนที่กินก๋วยเตี๋ยวไปได้ไม่นานก็เริ่มเหงื่อซึม เธอซับเหงื่อตลอดเวลาจนทิชชูกองโต แต่ก๋วยเตี๋ยวอร่อยถูกปากมากจึงเป็นที่พอใจของกันยกรมากกว่าจะบ่น นภณต์เป็นคนจ่ายเงินโดยเธอเองก็ไม่เรื่องมากดึงดันจ่ายเองกลับมาขึ้นรถอีกครั้ง ชายหนุ่มก็ขอแวะซื้อกาแฟและเผื่อเธอด้วย กันยกรมองลาเต้ที่อีกฝ่ายยื่นมาให้ด้วยสายตาแปลกใจ“ลาเต้ครับ”“คุณไม่ได้ถามฉ
แม้จะค่อนข้างกังวลใจเรื่องของนภณต์ ทว่าเอาเข้าจริงกันยกรก็แทบจะไม่เจอหน้าชายหนุ่ม เพราะพูดคุยเรื่องงานโดยผ่านเลขาเป็นคนประสานนอกจากต้องประชุมทีม และอีกฝ่ายก็ออกไปพบลูกค้ากับทีมเพื่อนำเสนองานเสมอ ดูเหมือนนภณต์จะเป็นหัวใจหลักของแผนกก็ว่าได้ พวกเขาทั้งรับงานว่าจ้างจากข้างนอกและออกแบบกับพัฒนางานของบริษัทเอง แต่ทุกอย่างก็ดำเนินไปได้ด้วยดี ไม่มีงานที่ดูคล้ายหรือซ้ำกันให้เป็นที่ครหา ได้รับความไว้ใจจากบริษัทอื่นอีกถึงห้าบริษัท“คุณนภณต์ขอพบค่ะคุณกันย์”ปากกาในมือซึ่งกำลังจะเซนต์เอกสารที่พึ่งอ่านทำความเข้าใจเนื้อหาเสร็จหล่นลง อยู่ๆ ก็ใจเต้นขึ้นมา นี่เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มมาขอเข้าพบเธอในห้องนับจากวันที่มาแนะนำตัว“เชิญค่ะ”หญิงสาวตอบรับแล้ววางสีหน้าให้นิ่ง ผ่านไปสามอาทิตย์นับแต่ชายหนุ่มไปส่งเธอที่ป้ายรถเมล์ แล้วจากนั้นเขาก็ดูจะยุ่งตลอดเวลา มีเพียงประชุมดูงานที่แก้ไปเท่านั้นที่เธอเจอเขา ซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่ได้แสดงท่าทางล้ำเส้นใดๆ ขณะที่กันยกรระวังตัวแจจนมากเกินไป“ขอโทษที่รบกวนครับ พอดีผมมีเรื่องด่วนต้องแจ้งให้ทราบ”เมื่อพิมพ์พรรณซึ่งเดินนำชายหนุ่มเข้ามาออกไปนภณต์ก็เอ่ยทันที เขาถือแฟ้มติดมือมาด้วย
“เป็นบ้าอะไรยายกันย์”เธอบ่นตัวเองก่อนจะสตาร์ตรถ แต่กลับสตาร์ตไม่ติด สตาร์ตซ้ำเท่าไรก็ไม่มีปฏิกิริยาทำเอาหญิงสาวทิ้งตัวลงกระแทกเบาะด้วยความเซ็ง“เป็นอะไรเนี่ย”ดูนาฬิกาก็เห็นว่าสองทุ่มครึ่งแล้ว หากจะโทรหาลุงคนขับรถของที่บ้านก็คงดึกเกินไป กันยกรไม่เคยดูแลเรื่องรถด้วยตัวเอง เธอแค่ขับได้ตามประสาลูกสาวคนมีเงินทั่วไป แม้บิดาจะไม่ใส่ใจกระนั้นก็ไม่เคยต้องลำบาก“ไว้โทรพรุ่งนี้แล้วกัน”ก๊อกๆๆหญิงสาวตกใจสะดุ้งโหยงที่อยู่ๆ กระจกด้านข้างก็มีคนมาเคาะ เมื่อหันมองก็เห็นว่าเป็นคนที่เพิกเฉยกันและกันมาตลอดทั้งอาทิตย์“รถสตาร์ตไม่ติดเหรอครับ”เธอได้ยินเขาถามแว่วๆ กันยกรหยิบของตนเองก่อนจะเปิดประตูลงไป ร่างสูงกำยำก็ขยับไปยืนห่างอย่างเว้นระยะ“ใช่ค่ะ สตาร์ตไม่ติด”“ผมช่วยดูให้ไหมครับ”คำถามดูง่ายและมีน้ำใจแต่อดไม่ได้เลยที่เธอจะสังเกตแววตาของเขา หากก็ดูไร้แววใดๆ“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันให้คนที่บ้านมาจัดการ”“อ้อ ครับ”ชายหนุ่มยิ้มบางรับพร้อมกับมองกระเป๋าของเธอ“จะลงไปชั้นหนึ่งเหรอครับ ติดรถผมลงไปก็ได้ จะได้ไม่ต้องลงลิฟต์ให้เสียเวลา”หญิงสาวอึกอักและดูไม่สบายใจขึ้นมาชัดเจน เธอเม้มริมฝีปากพลางส่ายหน้า