ครู่ใหญ่ผ่านไป ภายในรถมีเพียงความเงียบ กระทั่งมาถึงถนนเส้นที่บริษัทลูกค้าตั้งอยู่แต่นภณต์ก็หักเลี้ยวเข้าไปจอดร้านริมถนนซึ่งมีพื้นที่จอดรถค่อนข้างแคบ
“ก๋วยเตี๋ยวต้มยำสูตรโบราณร้านนี้ดังมากเลยนะครับ อร่อย ราคาดีไม่แพง ร้านอาจจะเล็กไปหน่อยเพราะขายมาหลายรุ่นแล้ว ว่าแต่เจ้านายสะดวกไหมครับ หรือไม่ถูกใจผมพาไปร้านในห้างใกล้ๆ นี่ก็ได้”
“ฉันยังไงก็ได้ เลี้ยวเข้ามาแล้วยังจะถามอีก”
เธอบ่นให้ได้ยิน หากชายหนุ่มก็เพียงยักไหล่
“ถ้าโอเคงั้นก็เชิญครับ”
กันยกรไม่เรื่องมากในการกิน ร้านริมทางทั่วไปเธอก็นั่งมาบ่อยแล้วสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ตอนไปเรียนต่างประเทศเธอต้องใช้เงินอย่างประหยัดกินง่ายกว่าอยู่เมืองไทยมาก
ภายในร้านเป็นพัดลม ชายหนุ่มถอดเสื้อสูทไว้ในรถ ทว่า หญิงสาวเพิ่งมาถอดในตอนที่กินก๋วยเตี๋ยวไปได้ไม่นานก็เริ่มเหงื่อซึม เธอซับเหงื่อตลอดเวลาจนทิชชูกองโต แต่ก๋วยเตี๋ยวอร่อยถูกปากมากจึงเป็นที่พอใจของกันยกรมากกว่าจะบ่น นภณต์เป็นคนจ่ายเงินโดยเธอเองก็ไม่เรื่องมากดึงดันจ่ายเอง
กลับมาขึ้นรถอีกครั้ง ชายหนุ่มก็ขอแวะซื้อกาแฟและเผื่อเธอด้วย กันยกรมองลาเต้ที่อีกฝ่ายยื่นมาให้ด้วยสายตาแปลกใจ
“ลาเต้ครับ”
“คุณไม่ได้ถามฉัน”
นภณต์เพียงยิ้มบางแล้วขยับแก้วมาใกล้เธอกว่าเดิม มือบางจึงยื่นไปรับแล้วจิบเล็กน้อย ไม่ได้ถามเขาต่อ ว่ารู้ได้ยังไงว่าเธอดื่ม ลาเต้ เพราะของเขาเองยังซื้อเป็นอเมริกาโน
ไม่นานนักสองหนุ่มสาวก็มาถึงบริษัทลูกค้าซึ่งเป็นสำนักงานตึกเดี่ยวที่ดูมีดีไซน์เก๋แปลกตา ตั้งในพื้นที่ที่มีมูลค่าที่ดินสูงมากในเมืองหลวงเช่นนี้ กันยกรคิดว่าเจ้าของบริษัทน่าจะเป็นรุ่นพี่หรือเพื่อนของภพดนัย
“เดี๋ยวครับเจ้านาย”
ลงจากรถแล้วกำลังจะเดินต่ออยู่ๆ นภณต์ก็เอ่ยขึ้นแล้วกลับไปยังรถ หญิงสาวหันมองก็เห็นเขาเปิดประตูหลังหยิบสูทของเธอ กันยกรลืมสูทไปเลยเพราะชายหนุ่มถือให้เธอตอนออกจากร้านก๋วยเตี๋ยวแล้วเอาไปวางที่เบาะหลัง ทว่าพอจะยื่นมือไปรับเขากลับเป็นฝ่ายคลุมให้เธอ ลมหายใจกันยกรสะดุดไปชั่วอึดใจกับการกระทำของอีกฝ่าย เธอขยับแขนเพื่อใส่เสื้อให้เรียบร้อยแล้วชายหนุ่มก็ช่วยถือกระเป๋าให้ ทว่าเมื่อจะเอากระเป๋าคืนกลับมานภณต์กลับไม่ปล่อยโดยง่าย หญิงสาวเงยหน้ามองก็เห็นสายตาคมเข้มกวาดมองตนราวสำรวจ คิ้วเข้มขมวดทั้งยังเอ่ยราวไม่ชอบใจนัก
“ผมคิดว่า...ชุดโป๊ไปนะครับเจ้านาย ถ้าจะเข้าไปพบลูกค้า”
เสื้อสายเดี่ยวสีดำกับกางเกงขายาวสีน้ำตาลดูเข้ากันดี สวมสูทสีเดียวกันทับแล้วดูไม่น่าเกลียดแต่อย่างใด แม้จะไม่พอใจที่เขาตำหนิชุดของเธอ แต่ที่ทำให้เคืองมากกว่าคือสายตาอีกฝ่ายต่างหาก มองจนทั่วตัวอย่างนี้ทำเอาเธอร้อนวูบวาบขึ้นมา มือบางคว้ากระเป๋าตนแล้วหันหน้าหนี ทว่าเขากลับคว้าไหล่ให้หันกลับไป
“เอ๊ะ...”
เสียงน้ำที่ขุ่นจัดหยุดลงเมื่อมือหนาเลื่อนมาติดกระดุมด้านหน้าสูทของเธอ แม้ในใจบอกให้ถอยหลบทว่ากันยกรกลับยืนนิ่ง สบตาชายหนุ่มอีกครั้งก็เห็นเขาพยักหน้าพอใจ
“แบบนี้ค่อยเรียบร้อยหน่อย”
ริมฝีปากอิ่มกำลังจะเผยอขึ้นบ่นเขาที่มายุ่มย่ามกับเสื้อผ้าของตน ทว่าเสียงเรียกของทีมงานก็ดังขึ้นมาก่อน
“ผู้จัดการ พี่เมฆ เชิญทางนี้ครับ”
“ไปเถอะครับ ยังไงคืนนี้ก็เป็นคืนวันศุกร์ ผมอยากเลี้ยงขอบคุณทีมงาน”
ลูกค้าซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นมหาวิทยาลัยเดียวกันกับภพดนัยพอใจระบบภายในของบริษัทซึ่งทางทีมออกแบบให้มาก และใช้เวลาเพียงสามอาทิตย์ก็ปิดจ๊อบได้อย่างสวยงาม อีกฝ่ายก็เลยต้องการเลี้ยงขอบคุณ ซึ่งกันยกรนั้นปฏิเสธอย่างเกรงใจลูกค้าจึงคะยั้นคะยอซ้ำอีก
“ยังไงผมก็สัญญาว่าจะเลี้ยงเหล้าไอ้โดมหลังจบงานอยู่แล้ว ถือโอกาสเลี้ยงทีมงานทุกคนไปด้วยเลย เชิญทุกคนนะครับ”
“ใช่ งานนี้ปิดจ๊อบลงได้เพราะทุกคน ไม่ใช่เพราะผมคนเดียว ถ้าจะเลี้ยงก็ควรเลี้ยงทุกคน ไม่ใช่ผม ผมเองก็อยากขอบคุณทุกคนเหมือนกัน ไปด้วยกันทั้งหมดนี่แหละ”
เมื่อรองประธานบริษัทพูดมีหรือที่พนักงานจะกล้าปฏิเสธ กันยกรแอบถอนหายใจ ถ้าเธอไม่ไปด้วยก็คงทำให้ลูกค้ากับพนักงานรู้สึกไม่ดีนัก หญิงสาวจึงตอบรับอย่างจำใจ
กันยกรเลือกนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับภพดนัย ซึ่งลูกค้านั่งหัวโต๊ะแล้วก็เป็นนภณต์ที่มานั่งข้างเธอเพราะพนักงานคนอื่นเว้นที่ไว้ราวไม่กล้านั่งใกล้ หญิงสาวจิบเครื่องดื่มทีละนิดเพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศ คนอื่นๆ จะได้สนุกสนานกันโดยไม่เกร็งเพราะเธอ และสังเกตเห็นว่า ภพดนัยต้องรับโทรศัพท์และตอบข้อความบ่อยครั้งเดาได้ไม่ยากว่าคงเป็นเกวลิน ในเมื่อทีมงานหลายคนถ่ายภาพจะโพสต์ขอบคุณลูกค้ารวมถึงท่านรองด้วย น้องสาวของเธอคงได้เห็นอยู่บ้างผ่านโซเชียลที่มีคนแท็กสามี
กันยกรกลับบ้านอาทิตย์ละหนึ่งวันคือวันเสาร์ ไปทานข้าวเย็นแล้วก็กลับมานอนคอนโดเช่นเคย เจอหน้าเมื่อไรเกวลินก็มองอย่างจับผิดทุกครั้ง หญิงสาวแทบไม่อยากกลับ แต่เพราะไม่อยากทำให้บิดาขุ่นใจจึงลดการปะทะโดยไปทานข้าวเย็นอาทิตย์ละครั้ง รู้ดีว่าแม่เลี้ยงก็ไม่ได้อยากให้ตนไปเหยียบที่บ้านด้วยซ้ำ
อยู่ๆ ก็มีสายเข้ามาที่โทรศัพท์มือถือของเธอ เพราะห้องที่มาดื่มนั้นเป็นห้องวีไอพี เสียงเพลงไม่ดังจนเกินไป และรู้สึกได้ถึงความสั่นจากกระเป๋าที่วางบนตักกันยกรจึงหยิบมาดูแล้วเห็นว่าเป็นเบอร์ของ เกวลิน ชั่งใจว่าจะรับดีหรือไม่เล็กน้อย หากสุดท้ายก็เลือกที่จะรับเพราะถือว่าตนบริสุทธิ์ใจ หญิงสาวขอตัวออกมาด้านนอกแล้วเดินไปยังจุดที่ไม่ค่อยมีเสียงเพลงรบกวน ซึ่งใกล้บริเวณที่จัดไว้ให้สูบบุหรี่ เธอไม่ได้ออกไปเพราะไม่ค่อยชอบกลิ่น
“ว่าไง”
‘เมื่อไรคุณโดมจะกลับคะ’
“เขาบอกเธอว่าเมื่อไรก็เมื่อนั้นแหละ ฉันจะไปรู้ได้ยังไง”
‘แล้วพี่กันย์จะกลับเมื่อไร’
“คงอีกไม่นาน”
‘พี่กันย์รอให้คุณโดมกลับก่อนนะ ถ้าพี่กันย์กลับก่อนก็ไม่เห็นน่ะสิ ว่ามีผู้หญิงคนอื่นเข้ามาเกาะแกะเขาหรือเปล่า’
“นี่ยายเก๋ หวงนักก็ตามมารอเขาที่นี่สิ ฉันง่วงฉันก็จะกลับ ไม่รอเฝ้าสามีให้เธอหรอก”
‘ก็คุณโดมไม่ยอมบอกว่าที่ไหน แล้วลูกค้าก็เป็นเพื่อนเขาด้วย เก๋ให้รีบกลับก็บอกว่าน่าเกลียด กลับก่อนดูไม่ดี’
“...แถวคอนโดเก่า หาเจอไม่ยาก แต่จะออกมาจริงเหรอ”
เธอบอกชื่อไปเพราะคิดว่าไม่ใช่เรื่องที่ต้องปิดบัง
‘ขอดูก่อนค่ะ ถ้าดึกเกินไปคุณโดมยังกลับก็คงไป’
“ดึกมากก็ให้คนขับรถมารับสามีเธอดีกว่า ไม่ต้องออกมาเองหรอก”
หญิงสาวแนะนำอย่างหวังดีอีกฝ่ายก็ตอบรับเสียงแข็ง ขณะเดียวกันเจ้าของร่างสูงกำยำก็เดินผ่านมา ทั้งคู่สบตากันแวบหนึ่งก่อนชายหนุ่มจะออกไปตรงที่สูบบุหรี่ กันยกรไม่ได้มองตาม เธอวางสายแล้วตั้งใจจะกลับเข้าไปที่ห้อง เดินยังไม่ถึงโซนวีไอพีก็เห็นภพดนัยกำลังเดินมาทางนี้
“เห็นผู้หญิงสูงประมาณร้อยหกสิบห้า ใส่ชุดสูทกับกางเกงขายาวสีครีมไหมครับ”
เขาถามกับผู้หญิงที่ออกมาจากห้องน้ำอีกฝ่ายก็ส่ายหน้า ทำให้ชายหนุ่มเหลือบมามองทางด้านนี้ กันยกรรีบหลบเข้าไปทางเดิม
ภพดนัยตามหาเธออยู่อย่างนั้นหรือ
หญิงสาวไม่อยากคุยกับชายหนุ่มตามลำพัง หรือแม้เห็นว่าเธอออกมานานแล้วคิดจะมาดูด้วยความหวังดีกันยกรก็ไม่ชอบ เธอโตแล้ว ดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องให้เขามาตามคอยเช็กว่าเธอไปไหนทำอะไร เพราะไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว
“คุณกันย์”
เสียงเรียกดังมาใกล้กันยกรจำต้องเดินกลับไปใกล้ประตูที่จะออกไปสูบบุหรี่อย่างหงุดหงิด กำลังคิดว่าจะออกไปดีหรือไม่ประตูก็เปิด นภณต์ก้าวเข้ามาและมองเธอพร้อมคิ้วเข้มขยับสูง ปลายหางตากันยกรเห็นว่าภพดนัยเดินเลี้ยวมาแล้วหญิงสาวรีบดันคนตรงหน้าหลังชิดกำแพง ยืดกายขึ้นพร้อมแขนเรียวยกคล้องลำคอหน้า ใบหน้าแหงนเงยขึ้นสูง แนบริมฝีปากตนกับปากได้รูป
กลิ่นบุหรี่จากลมหายใจอีกฝ่ายทำให้เธอขัดใจเล็กน้อย ทว่าหญิงสาวก็ขยับกลีบปากอิ่มบดเบียดกับปากแกร่ง นภณต์นิ่งงันเพียงชั่วอึดใจเขาก็โต้กลับ ลิ้นอุ่นสอดแทรกเข้ามาฉับพลันในยามที่เธอเผยอปาก แขนกำยำกอดรัดตัวเธอให้แนบกับกายแกร่งมากขึ้นพร้อมลิ้นพัวพันรุกเร้าอย่างเร่าร้อน
กันยกรตัวอ่อนยวบ หายใจหายคอไม่ทัน หูอื้อมึนเบลอจนแทบลืมไปแล้วว่าตนจูบนภณต์เพื่อต้องการไล่ภพดนัยทางอ้อม กระทั่งอีกฝ่ายถอนริมฝีปากแล้วกระซิบชิดปากตนนั่นแหละเธอจึงรู้สึกตัวลืมตาโพลง
“คิดถึงกันก็บอกตรงๆ ก็ได้นะครับ บอกแล้วว่าผมยินดีบริการเจ้านายเสมอ”
=====
กันย์รุกก่อนซะแล้ว 5555 ^^"
กันยกรกัดฟันและพยายามฝืนยิ้มหวาน ทว่าสายตาแอบเหล่ไปมองว่าภพดนัยยังอยู่หรือไม่ เมื่อไม่เห็นอีกฝ่ายเธอก็ทุบอกหนาอย่างแรง“บ้าน่ะสิ ใครคิดถึงคุณ”เอ่ยเสียงเข้มแล้วก็ผลักเขา หากชายหนุ่มยังกอดเธออยู่“อ้อ ใช้ผมเป็นไม้กันหมานี่เอง”“ย่ะ รู้แล้วก็ปล่อยได้แล้ว”เธอไม่ปฏิเสธอีกฝ่ายจึงลดแขนลง ร่างอรชรรีบถอยห่างพลางสูดหายใจเข้าลึกดึงสติของตัวเอง พร้อมเรียกกำลังที่อ่อนลงไปก่อนหน้านี้ แล้วสะบัดหน้าเดินหนีนภณต์กลับไปที่ห้องวีไอพี ตั้งใจว่านั่งต่ออีกสักครึ่งชั่วโมงก็จะขอตัวกลับ ไม่สนใจว่าชายหนุ่มมองตามตนด้วยสายตาแบบไหน“ขึ้นแท็กซี่ไปด้วยกันนะคะพี่เมฆ จะกลับไปเอารถที่บริษัทใช่ไหมคะ น้องต้องผ่านทางนั้นเหมือนกันค่ะ”เพราะนั่งอยู่ข้างนภณต์กันยกรจึงได้ยินที่หญิงสาวซึ่งนั่งถัดจากเขาคุยด้วย วันนี้นภณต์มากับทีม ส่วนเธอขับรถมาเองเพราะรู้เส้นทางที่มาบริษัทลูกค้าแล้ว หญิงสาวไม่ได้คิดอะไรมากกระทั่งขอตัวกลับ ในทีมมีผู้หญิงสองคน อีกคนขอตัวออกมาพร้อมกับเธอโดยมีแฟนมารับ กันยกรยืนรอเป็นเพื่อนอีกฝ่ายอยู่บริเวณด้านหน้าพักหนึ่งกระทั่งแฟนเจ้าตัวขับรถมาถึง“ขอบคุณกันย์มากค่ะ”เธอพยักหน้ารับพลางบอกว่าไม่เป็นไรอีกฝ่ายก็ขึ้
“เฮ้อ ใช้เราเป็นเครื่องมือ สมใจก็ถีบหัวส่ง ใจร้ายจังเลยนะครับเจ้านาย”ดวงตาคู่เรียวงามค้อนขวับ อีกฝ่ายก็เหลือบมองพลางกระตุกยิ้มมุมปากอย่างยียวนชวนโมโห“ไม่พอใจคุณก็ปฏิเสธได้นี่ มาจูบตอบทำไม หรือคิดจะไปบอกคุณโดมว่าไม่มีอะไร ฉันมันผู้หญิงมักง่ายจูบคนไปทั่วเองก็ได้ ฉันไม่แคร์หรอก”เธอเสียงแข็ง แล้วภายในรถก็เงียบไปชั่วอึดใจก่อนเสียงทุ้มจะเอ่ย“คุณไม่ได้เป็นอย่างนั้นหรอกครับเจ้านาย”“หึ คุณจะรู้อะไร ฉันไปเรียนเมืองนอกตั้งสามปี อาจจะผ่านอะไรต่อมิอะไรมาตั้งเยอะก็ได้”“พิสูจน์กันไหมครับ”กันยกรถึงกับอึ้งกับคำท้าของเขาแล้วกอดอกเมินหน้าหนี“ทำไมฉันต้องทำอะไรบ้าๆ แบบนั้นด้วย”“คุณไม่กล้าล่ะสิ กลัวผมรู้ว่าคุณไม่เคยมีใคร นอกจากผม”“ไม่จริงสักหน่อย”เธอหันไปเถียงเสียงขุ่น ทว่าอีกฝ่ายยิ้มนิดๆ แล้วหันไปมองถนนด้านหน้าแล้วหักเลี้ยว กันยกรสูดหายใจเข้าออกแรงอย่างหงุดหงิด“คุณติดใจผม ลืมผมไม่ลง ไม่งั้นคงไม่โสดมาถึงตอนนี้หรอก”“จอดเลยนะ ฉันไม่อนุญาตให้คุณไปส่งฉัน จอดเดี๋ยวนี้”กันยกรขึ้นเสียงยิ่งกว่าเดิมและครั้งนี้ชายหนุ่มยอมหยุดรถชิดริมทาง ทว่าเขายังไม่ลงจากรถโดยง่าย“อ้อ หรือว่า ที่คุณยังไม่มีใครเพราะหวั
“เราจะทำให้เต็มที่ครับ”เป็นอีกครั้งที่นภณต์เป็นคนพรีเซนต์และตอบคำถามผู้บริหารทุกอย่างแทนเธอเกี่ยวกับเกมใหม่ที่แผนกคิดขึ้นมา เธอกับชายหนุ่มรวมถึงหัวหน้าของทีมเป็นตัวแทนแผนกเข้าประชุมตั้งแต่นำเสนอ จนถึงตอนนี้ผ่านขั้นตอนการดีไซน์ภาพมาถึงสร้างแอนิเมชันตัวละครและเอฟเฟกต์ และการเขียนโปรแกรมของเกมก็ดำเนินไปบางส่วนแล้ว ซึ่งเป็นเกมที่จำลองสถานการณ์เสมือนจริงในแบบอิงประวัติศาสตร์ไทยที่ทางบริษัทคาดหวังไว้มาก“ครับ ผมเชื่อใจนภณต์กับทีมงาน ถ้ามีปัญหาอะไรติดขัด หรือต้องการอะไรเพิ่มแจ้งผ่านคุณกันย์ได้เลยนะครับ”ภพดนัยฝากฝัง เขาเชื่อใจนภณต์ในเรื่องงานมากเพราะ อีกฝ่ายมีฝีมือจริงๆ ทั้งหมดเป็นทีมงานเดิม ทำงานมาตั้งแต่ผู้บริหารคนก่อน แม้ว่าประธานบริษัทจะเป็นชื่อบิดาของชายหนุ่มทว่างานในบริษัทนี้เขาเป็นคนดูและมีสิทธิ์ตัดสินใจแทนอย่างเต็มที่ ยกเว้นประชุมบอร์ดบริหารบิดาของชายหนุ่มจึงเป็นผู้เข้าประชุม“แล้วก็มีอีกเรื่องที่ต้องรบกวนคุณกันย์”ผู้เป็นท่านรองพูดขึ้นหลังจบเนื้อหาการประชุม“เราจะมีสัมมนากันเดือนหน้า ผมไม่ค่อยถนัดเรื่องนี้ อยากให้คุณกันย์ช่วยเลือกดูว่าเราจะไปที่ไหนดี แล้วบอกกับเลขาผมได้เลยครับ”“ได
“คุณ”ร่างสูงกำยำรีบเข้ามาช่วยพยุงให้ลุกขึ้น แม้จะไม่ได้เจ็บมากแต่กันยกรก็รู้สึกแปลบๆ ที่หัวเข่า“อยู่ๆ โผล่มาได้ยังไงเนี่ย”“ผมมาเดินดูไร่ชา แล้วฝนตกก็เลยจะรีบวิ่งกลับน่ะสิ”นภณต์ตอบ ฝนตกหนักทำเอาทั้งคู่เปียกโชกในเวลาไม่นาน“ไม่คิดว่าจะมาเจอคุณพอดี เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”“เจ็บเข่าน่ะ”กันยกรตอบด้วยความเซ็ง“งั้นผมขี่ไปส่งคุณที่บ้านพักแล้วกัน”ชายหนุ่มบอกแล้วยกจักรยานขึ้น กันยกรเห็นว่าฝนตกหนักมาก เธอจึงไม่ปฏิเสธ เมื่ออีกฝ่ายประจำที่ด้านหน้าเธอก็นั่งซ้อนด้านหลังโดยง่ายในตอนแรกที่นภณต์ขี่จักรยานนั้นเธอพยายามจับที่ท้ายเบาะเท่านั้น ทว่าเพราะถนนลื่นทั้งยังเป็นเนินขึ้นลงทำให้ทรงตัวได้ยาก เพื่อไม่ให้ตกลงไปสุดท้ายแขนเรียวก็จำต้องกอดเอวหนา แม้จะรู้สึกแปลกๆ หากก็ไม่ใช่ความรู้สึกไม่ดีแต่อย่างใด“คุณพักหลังนี้ใช่ไหมครับ”“ใช่”อีกฝ่ายมาหยุดลงหน้าบ้านพักของเธอ ทว่าแทนที่เขาจะแยกไปบ้านพักตัวเองกลับขยับเข้ามาโอบไหล่เธอ“อะไรของคุณ”กันยกรจะสะบัดตัว หากเสียงทุ้มดังชิดข้างหู ดูเผินๆ เหมือนชายหนุ่มก้มลงจุมพิตศีรษะของเธอ“ท่านรองเปิดม่านหน้าต่างมองอยู่”เพราะบ้านพักของเธออยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ้านพักของภพดนั
“คุณไม่ได้น่ารังเกียจอะไรหรอก”กันยกรบอกเมื่ออีกฝ่ายหันกลับมา“แค่ระหว่างเราเป็นเจ้านายกับลูกน้อง ไม่มีอะไรลึกซึ้งกว่านั้น ถึงฉันจะไม่ได้ยึดติดเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ไม่ใช่คนรักสนุกจนไม่แคร์อะไร”“ผมเองก็ไม่ได้นอนกับใครง่ายๆ แต่กับคุณ ผมอยากลบความทรงจำแย่ๆ”‘มันไม่ได้แย่’เธอเกือบจะหลุดปากบอกไปแล้วแต่ก็นึกอายที่จะพูด“เรามาสร้างความทรงจำที่ดีใหม่กันนะครับ”อยู่ๆ กันยกรก็รู้สึกเขินขึ้นมา หญิงสาวกัดริมฝีปากที่เกือบจะหลุดยิ้มของตนขณะร่างสูงกำยำโน้มมาอยู่เหนือร่างตน ปลายนิ้วอุ่นไล้กรอบใบหน้าพาให้ขนลุกไปจนถึงลำคอ ก่อนใบหน้าคมคายจะลดมาชิด“อยากให้ผมบริการแบบไหนครับเจ้านาย”เขาเอ่ยเย้า“ถ้าไม่รู้ว่าต้องทำอะไร ก็ไม่ต้องทำ”เธอตอบเสียงขุ่นเพราะหน้าร้อนจัดกับคำถามของชายหนุ่ม แล้วก็ได้ยินเขาหัวเราะในลำคอราวนึกสนุกก่อนริมฝีปากได้รูปจะแตะไล้ปากเธอผะแผ่วก่อนค่อยๆ เม้มกลีบปากจูบซับ กันยกรหลับตาลงปล่อยความรู้สึกให้ล่องลอยไปกับปากอุ่นและปลายนิ้วแกร่งที่เริ่มลูบไล้ทุกสัดส่วนทั่วกายสาวหญิงสาวผ่อนลมหายใจยาว รับรู้ถึงเรือนกายแกร่งแนบชิดและขยับไล้กับร่างตน มือหนาข้างหนึ่งสอดเข้ามาเกาะกุมทรวงอวบเคล้าคลึงทั้ง
ร่างสูงกำยำเคลื่อนขึ้นมามอบจูบสุดดื่มด่ำ ก่อนจะขยับกายขึ้นนั่ง กันยกรคิดว่าบทรักที่แท้จริงกำลังจะตามมาจึงเกร็งตัวรอทว่า อีกฝ่ายกลับจับเธอให้พลิกคว่ำหน้าลง กายแกร่งแนบลงมาชิดเสียดสีอกแกร่งกับแผ่นหลังบางพร้อมกัดใบหูของเธอเบาๆ หยอกเอิน“ผิวคุณเนียนนุ่มอย่างกับกำมะหยี่แน่ะ ได้เบียดแบบนี้แล้วผมแข็งไปหมด”ความกร้าวเบียดถูไถกับสะโพกเธอทำเอากันยกรขนลุกไปทั้งแผ่นหลัง หากก็กัดฟันต่อว่าเขาออกไป“ลามก”“แหงล่ะ ไม่ลามกจะทำให้คุณเสร็จได้ไง”“ทะลึ่ง”“หึๆๆ”ชายหนุ่มหัวเราะพอใจที่ได้ยั่วให้เธอโมโห แต่กันยกรกลับไม่ได้โกรธเคืองอีกฝ่าย กลับรู้สึกเร้าใจเร้าอารมณ์กับการกระตุ้นด้วยคำพูดของนภณต์ริมฝีปากอุ่นซุกไซ้ข้างซอกคอ พร้อมมือหนาก็สอดมาเคล้นหน้าอก ยิ่งเขาจูบเม้มคอกับบ่าเธอยิ่งตัวสั่น ครวญครางเสียงเบาด้วยความรัญจวนใจ รอยประทับค่อยๆ ต่ำลงไปตามสันหลังกันยกรก็เหมือนถูกไฟโหมท่วมกาย อาการร้อนรนมาพร้อมความซาบซ่านจนขยับสะโพกไล้กับชายหนุ่มโดยไม่รู้ตัว แล้วก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำดังในลำคอหนาราวพอใจ“คุณกันย์ใจร้อนหรือครับ”“คุณนี่”หญิงสาวขุ่นใจกับคนช่างหยอก แต่ก็ปฏิเสธไม่ออกว่าเธอกำลังเร่าร้อนสุดๆ โหยหารสรักที่ได้
จากหลังฝนหยุดตกในตอนดึกนภณต์ก็เปลี่ยนใส่ชุดเดิมของเขาแล้วกลับไปบ้านพัก ก่อนกลับชายหนุ่มยังอุตส่าห์กระซิบย้ำกับเธอ‘ความลับระหว่างเราจะเป็นความทรงจำสุดพิเศษของผมตลอดไป’“ผู้ชายบ้า นอนกับฉันแล้วมาบอกว่าจบกันแค่นี้ แล้วจะชวนให้นอนด้วยทำไมอีก”กันยกรบ่นพร้อมกับเหวี่ยงหมอนลงบนที่นอนมีเพียงเธอคนเดียวที่หวั่นไหวไปกับสัมผัสเร่าร้อนของร่างกายใช่ไหม เพราะเธออ่อนหัดเกินไปใช่ไหมหญิงสาวนึกน้อยใจคนที่แตะต้องเธออย่างใส่ใจ ปรนเปรอถึงใจถึงอารมณ์แล้วก็จากไป ในเมื่อเป็นอย่างนี้เธอก็จะไม่ยอมให้นภณต์รู้ว่าตัวเองใจอ่อนไปกับเขาแน่ ครั้งแรกจ้างชายหนุ่มด้วยเงิน ครั้งนี้เขาเป็นฝ่ายขอเธอก็ตกลง แต่กลับเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับรสเสน่หาของ อีกฝ่าย น่าอายจริงๆบอกตัวเองอย่างนั้นแล้วกันยกรก็พยายามข่มใจและความรู้สึกนึกคิดให้สงบลงเพื่อที่จะหลับตาลงให้ได้ต้องลืมความรู้สึกอ่อนไหวในคืนนี้ไปให้หมด ลืมเสียว่าเคยได้รับความสุขสมมากแค่ไหนจากฝีมือนภณต์สิ่งที่เห็นทำให้คนที่เพิ่งขี่จักรยานมาถึงร้านอาหารขมวดคิ้วมุ่น เจ้าของร่างสูงกำยำอุ้มร่างเล็กของเด็กผู้ชายอายุราวขวบกว่าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มซึ่งเธอไม่ค่อยได้เห็น ทั้งหนูน้อยยังกอดคอ
“ไอ้เวรเอ๊ย!”เขาสบถเสียงดังแล้ววิ่งพรวดไปหาทั้งสองคน ทว่ามีแท็กซี่จอดและพวกเขาขึ้นไปเสียก่อน นภณต์มองตามตลอดเวลาทั้งยังพยายามมองหาแท็กซี่เพื่อไล่ตาม จนเมื่อรถที่ทั้งคู่ขึ้นห่างไปไกลแล้วเขาจึงหารถได้“เหยียบเลยพี่ ตามแท็กซี่ข้างหน้าโน่นให้ทัน”แม้จะงุนงงหากคนขับก็กระชากรถออกทันใด นภณต์นั่งหน้าคู่คนขับเพื่อจะได้เห็นชัดๆ ใจเขาร้อนรนจนแทบนั่งนิ่งไม่ได้“เร็วอีกหน่อยครับพี่”เมื่อทำอะไรไม่ได้เขาก็เร่งคนขับอีกครั้ง และอีกฝ่ายก็จัดให้จนไล่ตามไปอยู่ด้านหลัง นภณต์เขม้นมองเพราะอยากจะเห็นว่าในรถเกิดอะไรขึ้นบ้างแต่ก็ไม่เห็น“ตามแฟนเหรอน้อง”“ครับ”นภณต์ไม่คิดมากหาคำตอบ เพราะใจเขาจดจ่ออยู่กับแท็กซี่คันหน้า“แฟนงอนแล้วหนีเหรอ”ชายหนุ่มเพียงส่ายหน้า ขณะนั้นก็เห็นแท็กซี่คันนั้นเลี้ยวเข้าไปในที่ที่ทำให้ต้องกัดฟันเข่นเขี้ยว“สารเลวเอ๊ย”“อ้าว พี่ก็เร่งให้แล้วนะน้อง”“ผมหมายถึงคันข้างหน้า เลี้ยวตามเข้าไปเลยพี่”นภณต์จ้องไม่วางตา คนขับก็พยายามตามติดไปจนเห็นว่าแท็กซี่คันนั้นเข้าไปจอดด้านในม่านของช่องหนึ่ง เขาก็ทุบมือลงบนคอนโซลแล้วเอ่ยขึ้น“ถ้าแท็กซี่คันนั้นออกมา พี่ขับไปจอดรอผมข้างหน้านะครับ”ขณะนั้นมีพนั
“อย่าแรงมากนะคะ”คำเตือนหญิงสาวราวคำบอกชี้ทางสว่างจากนางฟ้าในความรู้สึกนภณต์ เขาจูบแก้มนุ่มแล้วไล้ไปจูบริมฝีปากอิ่มสีอ่อนซ้ำอีกพลางจัดการปราการส่วนล่างของทั้งคู่ แล้วเชื่อมกายแกร่งเข้ากับความนุ่มอบอุ่นช้าๆกันยกรกัดริมฝีปากกับความเสียดเสียวที่ได้รับ ก่อนจะครางผะแผ่วตามแรงรักเน้นแนบแน่นที่ส่งมาจากสะโพกแกร่ง ชายหนุ่มทำตามคำขอกระนั้นก็ยังรัญจวนใจอย่างรุนแรง มือบางเกาะขอบสระไม่ให้ตนทรุดลงไปหรืออาจลื่นขึ้นมา หากก็มีแขนกำยำโอบกายเธอประครองไว้ด้วยริมฝีปากอุ่นจูบเม้มคอกับบ่าของเธอไม่หยุด สัมผัสรุกเร้าเอื่อยเฉื่อยอัดเต็มไปด้วยอานุภาพแห่งเสน่หา สองร่างโยกคลอนไปด้วยกันคลอกับระลอกคลื่นที่กระเพื่อมไหวตามแรงขยับ อารมณ์เร่าร้อนเดือดพล่านไปพร้อมกับความลุ้นระทึกใจกับบทรักแปลกใหม่ กระตุ้นทั้งสองให้ยิ่งเร้าใจมากกว่าเดิมเสียงหวานครางพร่าเบาในลำคอด้วยพยายามสะกดตัวเองไม่ให้ส่งเสียงดังเกินไปนัก ขณะที่ชายหนุ่มก็หอบแรง ลมหายใจร้อนหนักๆ เป่าแก้มกับลำคอเธอตลอดเวลา ทำให้ผิวที่เย็นจัดหวิววาบจนกันยกรรู้สึกราวตัวเองกำลังไข้ขึ้น“เมฆคะ”เธอเร่งชายหนุ่มเมื่อกระแสแปลบปลาบกำลังแผ่ซ่านรวดเร็ว และอีกฝ่ายก็เน้นส่งสะโพก
‘ตอนนี้บ้านเรากำลังมีปัญหาหลายอย่าง กันย์คิดว่าจัดงานคงไม่หมาะเท่าไร คุณพ่อไม่โกรธใช่ไหมคะ ที่กันย์เลือกทำแบบนี้’‘อืม พ่อเข้าใจ อีกอย่างจัดงานแต่งใหญ่โตแล้วยังไง ไม่ได้รับประกันว่าชีวิตคู่จะมีความสุขสักหน่อย ถ้าลูกไม่น้อยใจว่าพ่อไม่จัดงานให้ใหญ่และทุกคนรับรู้กันทั่วเมืองเหมือนยายเก๋ พ่อยังไงก็ได้’กันยกรกราบขอบพระคุณบิดาพร้อมกับนภณต์ หลังจากพูดคุยกันเรื่องสินสอดทองหมั้นแล้วเธอบอกว่าตั้งใจเพียงแค่จะจดทะเบียนสมรสกับนภณต์เท่านั้นท่านก็อนุญาต‘จะจดเมื่อไรก็บอก พ่อจะไปเซ็นเป็นพยานให้เอง’ส่วนคุณการันต์คิดเพียงว่ากันยกรมีความสุขก็พอใจแล้ว เมื่อท่านไม่สามารถดูแลบุตรสาวให้มีความสุขได้ตั้งแต่เด็กจนโต หากเวลานี้เจ้าตัวกำลังจะสร้างชีวิตครอบครัวของตัวเองอย่างสมบูรณ์และเต็มไปด้วยความสุขท่านก็มีความสุขไปด้วยและทั้งสองก็ได้ฤกย์ยามกับวันดีแล้วก็จดทะเบียนสมรสในเดือนต่อมา นอกจากบิดาของกันยกรมาเป็นพยานแล้ว นิชาดาน้องสาวของนภณต์ก็บินมาจากเชียงรายด้วย‘พี่ชายคนเดียวแต่งงาน หมอกจะไม่มาได้ยังไงคะ’แม้จะเป็นเพียงการจดทะเบียนก็ถือว่าแต่งงาน แล้วจากนั้นคุณการันต์ก็พาทุกคนไปเลี้ยงอาหารที่โรงแรม ซึ่งมีธีรดนย์ส
นภณต์ดื่มด่ำรสชาติล้ำลึกแทบเหือดแห้ง เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเรือนร่างงามหอบหนักตัวอ่อนระทวยเขาก็โน้มไปจูบริมฝีปากสวยที่เผยอหายใจอย่างปลอบใจ มือหนาลูบเต้ากลมกลึงเคล้นหนักมือตามความต้องการอันร้อนแรงที่กำลังพุ่งสูงของตน พลางลุกขึ้นนั่งเพื่อปฏิบัติการรักให้ปลอดภัยกับลูกน้อยนภณต์เคลื่อนกายเชื่องช้าเข้าหาร่างนุ่มอุ่นที่บีบแน่นจนเขาต้องกัดฟันข่มใจตัวเองไม่ให้ทะยานกายรวดเร็วเต็มรักในคราวเดียว ชายหนุ่มหักห้ามร่างกายตัวเองยั้งสะโพกแกร่งยามโยกไหว ไม่ส่งแรงรักทุ่มทั้งตัวใส่ไปยังหญิงสาว เพียงคุกเข่ายันสะโพกขยับเอวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ถึงอย่างนั้นก็รับรู้ถึงความอิ่มเอมจากสัมผัสอ่อนโยนระหว่างร่างกายดวงตาคู่เรียวงามมองร่างสูงกำยำกำลังผลักเบียดสะโพกอย่างใส่ใจจนเห็นกล้ามเนื้อขึ้นเป็นมัดสวย แม้อีกฝ่ายจะกัดริมฝีปากแน่น หากแววตาที่ส่งมาถึงเธอก็เต็มไปด้วยความพอใจ และบทรักเชื่องช้าก็นำพาให้หญิงสาวผวาเฮือกอีกครั้งนภณต์พึงพอใจยามได้มองกันยกรหมดสิ้นเรี่ยวแรง นอนครวญครางระทดระทวยหรือดิ้นเร่าเพราะตนเอง เขาเบียดสะโพกไม่หยุด พลางปลายนิ้วโป้งก็บดแนบส่วนบอบบางทำเอาร่างสาวสั่นระรัว ส่งเสียงห้ามเครือพร่า“คุณเมฆ ฉั
“น้องสาวกับแม่เลี้ยงคุณใจร้ายมาก ทำกันขนาดนี้ได้ยังไง ยังดีที่ลูกของเราปลอดภัย”นภณต์ทายาตรงมุมปากรวมถึงแขนและเข่าของเธอพลางบ่นอุบเพราะกันยกรมีรอยชกช้ำแทบจะทั้งตัว โดยที่แขนกับเข่านั้นหนักที่สุดกันยกรซึ่งนั่งพิงหัวเตียงถอนหายใจยาว ทั้งคู่ไปหาหมอมาแล้ว ทั้งตรวจร่างกายและฝากท้องเรียบร้อย เธอโล่งใจมากที่ลูกปลอดภัยดีไม่ได้รับการกระทบกระเทือนใด“ยายเก๋เสียใจมากก็เลยควบคุมตัวเองไม่ได้ ส่วนอาภัสจะสติแตกตามไปด้วยไม่แปลกหรอกค่ะ ท่านรักยายเก๋มาก เป็นฉันก็คงทำใจไม่ได้เหมือนกัน”นภณต์จับมือเธอขึ้นกุมพลางลูบแผ่วเบา ขณะสายตามองมาอย่างแสนรักและกันยกรก็รับรู้ได้“คุณเก่งมากเลยครับที่อยู่กับสองแม่ลูกใจร้ายนั้นมาได้โดยไม่เสียคน ไม่หนีออกจากบ้าน แถมยังการเรียนดีมากอีก ผมนับถือจิตใจของคุณจริงๆ”ชายหนุ่มเอ่ยจากใจอย่างชื่นชม“ฉันต้องใช้ความอดทนมากค่ะตอนที่ยังเด็ก อยากหนีออกจากบ้านตั้งแต่พ่อบอกว่าจะแต่งงานด้วยซ้ำ แต่คุณแม่เคยพูดกับฉันตอนที่ท่านป่วยหนักก่อนเสีย ว่าไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น ห้ามฉันออกจากบ้านเด็ดขาด แต่ฉันก็ออกมาอยู่ข้างนอกตอนเรียนมหา’ ลัยนะคะ ตอนนั้นฉันคิดว่าดูแลตัวเองได้แล้ว มีจุดมุ่งหมายในใจ ไม่ใ
“คุณเมฆเป็นคนรักของกันย์ค่ะ”กันยกรขอคุยกับบิดาภายในห้องทำงานของท่านพร้อมกับนภณต์ แม้ท่านจะบอกให้เธอไปหาหมอก่อนแล้วค่อยคุยวันหลัง ทว่าหญิงสาวบอกว่าเป็นเรื่องสำคัญบิดาจึงตกลง“ฉันก็พอเดาได้ ถามเมฆเขาไปแล้วเหมือนกัน ว่ามารู้จักคบหากับแกได้ยังไง”คุณการันต์บอกเสียงเรียบทำให้กันยกรรีบหันมองคนที่นั่งข้างตน ว่าบอกอะไรกับบิดาไปบ้าง ทว่าชายหนุ่มยิ้มบาง“ตกลงเรื่องที่แกจะคุยมันเรื่องอะไร”เหมือนบิดาต้องการเข้าเรื่องให้เร็วที่สุดกันยกรสีหน้าไม่ค่อยดีนักจนนภณต์สังเกตได้ เข้าใจว่าหญิงสาวกลัวที่จะบอกบิดาว่าท้อง ไม่อย่างนั้นคงไม่ให้เขามาด้วยเพื่ออยู่เคียงข้าง“ผมผิดเองครับ”ชายหนุ่มเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาเอง กันยกรหันมองเขาอย่างงุนงง ทว่าพออีกฝ่ายพูดต่อเธอก็เผยอปากค้าง“คุณกันย์ท้องครับ”มือบางรีบคว้ามือหนาไว้แต่พูดไม่ออกแล้วหันไปมองบิดาช้าๆ เมื่อท่านเอ่ยเสียงเบา“ท้องเหรอ?”สีหน้าของบิดาที่สงบนิ่ง ทว่าแววตาเอ่อคลอด้วยน้ำทำให้เธอขอบตาร้อนผ่าวไปด้วยส่วนนภณต์มองสองพ่อลูกอย่างไม่เข้าใจว่าเหตุใดทั้งสองจึงมีสีหน้าท่าทางเสียใจ เขาคิดว่าจะถูกด่าที่ชิงสุกก่อนห่าม หรือไม่ก็ไม่ระวังจนทำให้กันยกรท้องก่อนแต่งให
คืนวันเสาร์กันยกรพักที่บ้านเพราะบิดาคิดว่าเธออาจระบมที่ถูกทำร้ายจนไข้ขึ้น‘บ้านมีคนอยู่เยอะ ช่วยกันดูแลได้ กลับไปนอนไข้ขึ้นคนเดียวแกจะทำยังไง’เพิ่งเกิดเรื่องหมาดๆ กันยกรจึงไม่อยากขัดใจบิดา รู้ว่าท่านค่อนข้างเครียด เธอเองมารู้เรื่องสูญเสียหลานยังเสียใจ บิดาของเธอคงเสียใจมากไม่น้อยไปกว่าแม่เลี้ยงกับน้องสาว ใบหน้าท่านจึงได้ดูไม่ดีนักในตอนที่เธอถามถึงเกวลินหญิงสาวปวดระบมไปทั้งตัว และเรื่องลูกของเกวลินก็ทำให้เธอนึกถึงตัวเองขึ้นมา เผชิญเรื่องยุ่งมาหลายวันทำให้กันยกรมีความเครียดสะสม แม้จะกินยาไม่เคยขาดแต่ก็อดกังวลไม่ได้หลังจากถูกทำร้าย ตอนที่ถูกผลักล้มเธอเอาลำตัวด้านข้างและแขนลง ไม่ใช่ส่วนก้นหรือสะโพกกระแทกพื้นตรงๆ แต่กันยกรก็นึกเป็นห่วงลูกมากจนนอนพลิกไปมา‘มารับฉันที่บ้านได้ไหมคะ’หญิงสาวส่งข้อความไปหานภณต์และชายหนุ่มก็โทรกลับมาทันที‘ได้ครับ ว่าแต่มีอะไรหรือเปล่า’กันยกรเม้มริมฝีปากก่อนจะพูดออกไป“ฉันท้องค่ะ”เสียงปลายสายเงียบไปครู่หนึ่งราวใช้เวลาประมวลข้อมูลนาน ทำเอากันยกรใจเต้นแรงขณะรอฟังว่าชายหนุ่มจะพูดอะไร‘ยะฮู้!!’เสียงตะโกนดังมาทำเอาเธอสะดุ้ง‘จริงเหรอครับ คุณไม่ได้อำผมนะ แต่จะว่า
เพราะต้องไปโรงพักให้ปากคำและข้อมูลกับตำรวจ ทั้งมีงานล้นมือนภณต์จึงลืมไปเสียสนิทว่ากันยกรมีเรื่องที่จะบอกกับเขา หญิงสาวเองก็กังวลเรื่องปัญหาของภพดนัยที่จะกระทบไปถึงทางบ้าน รวมถึงบริษัททำให้ไม่ได้ใส่ใจเรื่องของตัวเองเช่นกัน แม้ตอนเช้าจะมีมึนหัวบ้างทว่าพอต้องทำงานก็ลืมไปเลยเวลานี้ปัญหาของภพดนัยทำให้งานภายในบริษัทสะดุด หลายฝ่ายต้องพยายามติดต่อและตามงานกันเอง และก็มีประชุมผู้บริหารเพื่อหาทางออกโดยจำเป็นต้องแต่งตั้งคนขึ้นมาแทนชายหนุ่ม เนื่องจากเวลานี้แม้จะประกันตัวออกมาแล้วทว่าก็คงหยุดมาทำงานไปพักใหญ่ หรืออาจไม่มาทำเลย ซึ่งคดีความต้องใช้เวลาไกล่เกลี่ยกับผู้เสียหายอย่างกันยกรและนภณต์ที่ยืนยันว่าจะเอาผิดภพดนัยให้ได้ผู้บริหารทุกฝ่ายรวมถึงผู้ถือหุ้นใหญ่อย่างคุณการันต์มาด้วยตัวเอง ทว่าบิดาของภพดนัยส่งตัวแทนซึ่งเป็นเลขาประจำตัวมาแทน ใช้เวลาประชุมเครียดอยู่นานเพราะหาคนที่เหมาะสมซึ่งทุกฝ่ายยอมรับได้ยาก แม้มีความเป็นไปได้ที่กันยกรจะเข้ามานั่งตำแหน่งแทนในเมื่อบิดาเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ นอกนั้นเป็นหุ้นเล็กที่ยากจะปล่อยให้กุมอำนาจเหนือหุ้นใหญ่ได้ ทว่าเธอเข้ามาทำงานไม่นานทำให้ผู้บริหารบางคนยังไม่มั
กันยกรยิ้มบางก่อนจะน้ำตาเอ่อคลอหลังจากได้ยินในสิ่งที่คุณหมอสาวพูด‘คุณตั้งครรภ์แปดสัปดาห์แล้วค่ะ’ความรู้สึกในตอนนี้แม้จะอึ้งอย่างคาดไม่ถึงอยู่บ้าง ทว่าภายในอกกลับอัดแน่นด้วยความอิ่มอกอิ่มใจจนขอบตาร้อนผ่าวเมื่อเช้าก่อนจะไปทำงานเธอมีอาการเหมือนเดิมและเพลียหนักกว่าปกติจนสุดท้ายก็โทรไปบอกพิมพ์พรรณว่าลาช่วงเช้าเพราะจะไปหาหมอ อีกฝ่ายจึงซักอย่างห่วงใยแต่เธอบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก อาจจะนอนน้อย ก็เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมานภณต์แทบไม่ยอมปล่อยให้เธอได้นอนพักเต็มตา‘ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีน่ะ แกสะดวกมาที่คอนโดไหม’‘เป็นอะไร มีปัญหาอะไรหรือเปล่า’ภาวินีเพื่อนสนิทคนเดียวของเธอถาม น้ำเสียงห่วงใยชัดเจน กันยกรโทรหาอีกฝ่ายเพราะติดต่อกันมาตลอดตั้งแต่สมัยเรียนหรือแม้แต่ตอนไปเรียนต่อต่างประเทศ เธอสนิทกับภาวนีเพราะเป็นเพื่อนคนเดียวที่คุยกันมากที่สุดตั้งแต่สมัยเรียน และเหมือนจะเป็นคนเดียวที่ไม่ได้รู้สึกอิจฉาเธอ อีกฝ่ายเป็นคนพูดตรงและแสดงออกตรงไปตรงมาทุกเรื่อง ที่สำคัญมีพี่สาวเป็นหมอกันยกรไม่ได้บอกนภณต์เพราะรู้ว่าชายหนุ่มยุ่งกับงาน เนื่องจากเพิ่งกลับเข้าไปทำงานในอาทิตย์นี้‘ไม่สบายน่ะ’‘งั้นเดี๋ยวฉันไปรับ’อีกฝ่ายรับป
“ผมรักคุณ พูดอีกครั้งก็ได้ครับ”นภณต์บอกโดยง่ายและรู้ว่าหญิงสาวไม่ได้โกรธเขา ทั้งคู่สบตากันนิ่งต่างรับรู้ได้ถึงความผูกพันผ่านการใส่ใจกันและกัน แล้วริมฝีปากก็ค่อยเคลื่อนแนบสนิทตามอารมณ์วาบหวาม บดเบียดจูบเร้าเร่าร้อนจนต่างก็หอบแรง“ผมหิว ไม่อยากรอแล้ว”ชายหนุ่มพึมพำใกล้ริมฝีปากสีหวานพลางมองอย่างหลงใหล“เพิ่งกินไปเองนี่นา”กันยกรแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ แม้จะรู้ความหมายดี“คุณก็รู้ว่าผมหิวอย่างอื่น”พร้อมบอกริมฝีปากได้รูปก็จูบแก้มนุ่ม แตะแผ่วลงมาซุกไซ้ลำคอบาง“อยากกินผิวนุ่มๆ ตัวหอมๆ”ก่อนจะเลื่อนไปกระซิบชิดใบหูเล็ก“กับรสชาติหวานๆ ของคุณ”มือบางยกขึ้นปิดปากได้รูปเพราะอาย“หยุดพูดได้แล้ว”“ไม่ให้พูด แต่อนุญาตให้กินใช่ไหมครับ”กันยกรยิ้มแล้วมองไปทางอื่น ชายหนุ่มก็จับมือบางมาจุมพิตแล้วก้มลงมอบจูบแสนหวานให้หญิงสาว เกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กจนเจ้าตัวครางในลำคอ แล้วจึงผละมาพรมจูบผ่านคางเล็กมาจนถึงกลางอก สองมือเคล้นหน้าอกอวบ ขณะที่เข่าเริ่มแทรกระหว่างขาเรียวดันให้หญิงสาวขยับเปิดทางอกสาววูบวาบด้วยความร้อนระอุเมื่อชายหนุ่มเริ่มลงมือปลุกปั่นร่างกาย มือหนาสอดเข้ามาอ้อมไปด้านหลังปลดตะขอก่อนจะเลื่อนมาเคล้าค