Beranda / ระบบ / ซูเหยาเมื่อฉันกลายเป็นแม่เลี้ยงผู้โหดร้าย / ตอน ความบังเอิญหรือเป็นลิขิตแห่งโชคชะตา (2)

Share

ตอน ความบังเอิญหรือเป็นลิขิตแห่งโชคชะตา (2)

“คุณไปตามทุกคนมากินข้าวเถอะค่ะ หลังจากนั้นคุณกับฉันก็ไปหาหมอเฉินที่โรงพยาบาลกัน วันนี้ฉันเตรียมแบบเสื้อมาสามแบบเอาไว้ให้คุณหมอเลือกด้วย” ซูเหยาพูดขึ้น

“ตายแล้ว!” แต่แล้วอยู่ๆ เธอก็ร้องขึ้นด้วยความตกใจอีกครั้ง ซึ่งมู่หานและเด็กทั้งสี่ต่างหันหน้ามามองเธอเป็นตาเดียว

“มีอะไรหรือครับ ใครตายอย่างนั้นเหรอ” มู่หานที่กำลังจะเดินไปตามคนในครอบครัวถามขึ้นด้วยความตกใจ

“คุณคะ ตอนที่พี่ซิวหลานมาฉันมัวแต่รับเงินด้วยความดีใจจนลืมเอาแบบชุดให้พี่ซิวหลานดูเลย” ซูเหยาพูดขึ้นอย่างเสียดาย

“ผมก็นึกว่าเรื่องอะไร เราก็ไปหาเขาที่บ้านก็ได้นี่ครับ บ้านเขาก็อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่ นั่งรถลากไปสักพักก็ถึง” มู่หานที่ได้ยินภรรยาพูดเขาก็รีบกล่าวออกมา

“มันก็จริง แต่ฉันไม่น่าลืมเลยจริงๆ แต่ปกติพี่ซิวหลานก็ไม่เคยลืมเรื่องนี้นะคะ สงสัยคงจะดีใจที่ได้สมุนไพรตัวนั้นไป”  ซูเหยาพูดให้สามีฟัง

“ภรรยาครับ ผมว่าเราก็ควรเอ่อ..ก็ควร” มู่หานไม่กล้าพูดออกมาตรงๆ แต่ใบหน้าสีคล้ำของเขาเริ่มจะกลายเป็นสีแดงจางๆ ให้

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ซูเหยาเมื่อฉันกลายเป็นแม่เลี้ยงผู้โหดร้าย   ตอน เด็กคนนั้นไปอยู่ที่ไหน (1)

    “ร่างนี้ใช่ลูกสะใภ้ของนายหรือเปล่า” เสียงเจียงเฟยถามกับสหายเก่าแก่ เมื่อพวกเขาทั้งสามได้เข้ามาอยู่ในห้องรักษาศพ“เป็นหล่อนจริงๆ มันเกิดอะไรขึ้นกับหล่อนกัน แล้วหล่อนตายเมื่อไหร่” เฒ่าฮานพูดขึ้นด้วยความรู้สึกหดหู่ที่เห็นสภาพศพแม่ของหลานชาย“คนที่เห็นเหตุการณ์บอกว่าหล่อนน่าจะอดอาหารตายครับ พวกเขาบอกว่าเคยเห็นหล่อนมาคุ้ยเศษอาหารบ่อยๆสภาพหล่อนเหมือนกับคนสติไม่ดี พวกเขาก็เลยไม่มีใครใส่ใจ ตอนที่พวกผมไปเจอหล่อนก็นอนนิ่งไปแล้ว” เจียงซวนกล่าวขึ้นด้วยความเสียใจที่พวกเขาเจอหล่อนช้าเกินไป“มันเป็นโชคชะตาของหล่อนเองไม่ต้องเสียใจไปหรอก ว่าแต่คนแถวนั้นมีใครเห็นเด็กมากับหล่อนหรือเปล่า” เฒ่าฮานถาม เขาแค่หวังว่าหลานชายน่าจะอยู่กับแม่“ไม่ครับ คนที่อยู่แถวนั้นบอกว่าเห็นหล่อนคนเดียวมาโดยตลอด และหล่อนก็พูดจาไม่รู้เรื่องด้วย” เจียงซวนพูดออกมาตามความจริงที่ได้รู้“นายก็ใจเย็นลงอีกหน่อยเถอะ หากว่าผู้หญิงคน

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-16
  • ซูเหยาเมื่อฉันกลายเป็นแม่เลี้ยงผู้โหดร้าย   ตอน เด็กคนนั้นไปอยู่ที่ไหน (2)

    “เอาไว้ให้เป็นตัวเลือกสุดท้ายก็แล้วกัน ฉันว่าตอนนี้เราลองมาดูการทำงานของอาเจ๋อก่อนว่าจะมีความคืบหน้าแค่ไหน” เจียงหยู่พูดขึ้น เจียงหรานเองก็ไม่มีความคิดคัดค้านอะไรทางด้านนายหญิงเซียง ตอนนี้เธอได้มายังบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ห่างจากบ้านเดิมของซูเหยาไปไม่ไกลนัก“เธอว่ายังไงนะ กลุ่มเจียงเฟยกำลังตามหาตัวซูเหยาอย่างนั้นเหรอ หาทำไมพวกนั้นได้บอกหรือเปล่า” ฮุ่ยเฟินถามขึ้นน้ำเสียงติดกังวล“ไม่ได้บอกค่ะ แต่ฉันคิดว่าคนที่พวกนั้นตามหาน่าจะเป็นเด็กชายที่ซูเหยาพามาด้วยในตอนนั้นมากกว่า” นายหญิงเซียงตอบคำถามหลังจากที่เธอวิเคราะห์แล้ว“หรือว่าจะเกี่ยวกับเรื่องทายาทของตระกูลเทียนกัน ฉันเคยได้ยินมาว่าหลานชายตระกูลเทียนได้ถูกแม่แท้ๆ พาหนีหายไป นับเวลาจากตอนนั้นถึงตอนนี้ก็ได้สามปีแล้ว” ฮุ่ยเฟินพูดขึ้นอีกครั้งเมื่อเขาได้ยินสิ่งที่นายหญิงเซียงตอบ“พาหนีอย่างนั้นเหรอคะ มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ ตัวเองเป็นสะใภ้ของตระกูลใหญ่แต่ว่าพาลูกหนี” นายหญิงพูดขึ้นอย่างสงสัย“เร

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-16
  • ซูเหยาเมื่อฉันกลายเป็นแม่เลี้ยงผู้โหดร้าย   ตอน ซูเหยาผู้ก่อเรื่องโดยไม่รู้ตัว (1)

    สามวันต่อมาวันนี้เป็นครบกำหนดที่ซูเหยาได้นัดเอาชุดไปส่งให้กับหมอเฉินและพยาบาลอัน ซึ่งเป็นวันที่มู่หานไม่ได้ไปด้วย เนื่องจากเป็นวันที่จะต้องเก็บเกี่ยวข้าวสาลีที่สุกแล้ว“ภรรยาครับคุณจะต้องระวังตัวให้ดีนะครับ” มู่หานกล่าวย้ำกับภรรยาเป็นรอบที่สามด้วยความเป็นห่วง“คุณสามีคะ ฉันทราบแล้วค่ะ แล้วอีกอย่างฉันไม่ได้ไปคนเดียวสักหน่อย พี่สะใภ้ก็ไปด้วยตั้งสองคน” ซูเหยากล่าวขึ้นอย่างจนใจจะว่าไปตั้งแต่วันที่มู่หานกล่าวคำสัญญาออกมาวันนั้น เธอกับเขาก็ยังไม่ได้นอนด้วยกันสักครั้ง เนื่องจากเจ้าลูกชิ้นลูกเล็กเกิดอาการงอแงเมื่อรู้ว่าเธอจะไม่นอนด้วยทำให้เธอและมู่หานจึงคิดว่ารอไปอีกสักหน่อยให้ลูกปรับตัวได้ก่อนค่อยว่ากันอีกที มู่หานก็ได้แต่อดกินเนื้อหงส์ต่อไป พอซูเหยาคิดถึงเรื่องนี้เธอก็อดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้“ภรรยาครับก็ผมเป็นห่วงคุณนี่นา เสร็จแล้วก็รีบกลับบ้านเลยนะ” มู่หานกล่าวออกมาอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะใส่หมวกและเสื้อแขนยาวตามที่ซูเหยาแนะนำ“พี่ชายพวกเราก็ไปกันเถอะครับหากไปสายมากกว่านี้ก็จะถูกหักแต้มเอาไ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-16
  • ซูเหยาเมื่อฉันกลายเป็นแม่เลี้ยงผู้โหดร้าย   ตอน ซูเหยาผู้ก่อเรื่องโดยไม่รู้ตัว (2)

    ซูเหยากับพี่สะใภ้ที่ยังเดินไปไม่ไกลก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของเด็กหญิงเช่นกัน แต่ว่าพวกเธอก็ไม่คิดหันกลับไปมอง เลี้ยงลูกมายังไงก็ได้แบบนั้นแทนที่จะสั่งสอนเด็กให้ดีๆ กับไปพูดกรอกหูเรื่องราวที่มันไม่เข้าท่า จะอิจฉาหรืออะไรก็ตาม แต่คนเป็นแม่ก็ควรจะหยุดนิสัยตนให้ได้ไม่ใช่เหรอ หว่านพืชเช่นไรย่อมให้ผลเช่นนั้นถ้าหากซูเหยายังยืนอยู่ตรงนั้นอีกสักพัก เธอจะได้รู้ว่าเรื่องราวบางอย่างกำลังดำเนินมาเร็วกว่าที่คิดวันนี้ซูเหยามีนัดกับคุณหมอคนสวยที่บ้าน เธอจึงได้พาพี่สะใภ้ทั้งสองไปที่นั่น ระหว่างเดินเท้าซูเหยาก็สังเกตผู้คนที่เดินอยู่รอบตัวเธอไปด้วยว่าตอนนี้เขาแต่งกายกันแบบไหน มีใครที่ต้องการอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ และเธอรู้สึกว่าตอนนี้เธอได้เจอเป้าหมายเข้าให้แล้ว“พี่สะใภ้เดินทางไปที่บ้านหมอเฉินก่อนเลยนะคะ ฉันขอตัวสักครู่” ซูเหยาบอกพี่สะใภ้ทั้งสองที่แม้ว่าจะสงสัยพฤติกรรมของน้องสามี แต่พวกเขาก็ไม่คิดถามอะไรให้มากความ“คุณยายคะ เป็นอะไรหรือเปล่าท่าทางยายดูแย่มากเลย” ซูเหยาพูดขึ้นเมื่อเธอได้เข้าไปปร

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-16
  • ซูเหยาเมื่อฉันกลายเป็นแม่เลี้ยงผู้โหดร้าย   ตอน แม่เตือนแล้วไม่ฟังก็ต้องเจ็บแบบนี้แหละ (1)

    “ปากดีแบบนี้ ฉันอยากรู้แล้วสิว่าหากมาอยู่ใต้ร่างฉันจะร้องดังสักแค่ไหน พวกเราลุย” เสียงหนึ่งในชายดวงตาโปนพูดขึ้นพลางเลียริมฝีปากของมันอย่างทุเรศซูเหยากับผู้คุ้มกันลับทั้งห้าที่เตรียมตัวพร้อมอยู่แล้ว เมื่อพวกมันบุกเข้าไปที่ซูเหยา เธอก็หลบได้อย่างสวยงามและซูเหยาก็ใช้อาวุธที่จับอยู่ในมือจิ้มไปที่คนแรกที่บุกเข้ามาจากนั้นร่างของอันธพาลชั่วก็กระตุกไปตามแรงช็อต ซูเหยาที่เห็นว่ามีคนกำลังเข้ามาหาเธอจากด้านข้าง และระบบก็ส่งเสียงเตือนให้ระวังด้านหลังด้วยทางด้านข้างเธอจึงได้หันไปถีบไอ้คนที่เข้ามาใกล้ตัวก่อน หลังจากนั้นก็เอาที่ช็อตไฟฟ้าจิ้มไปที่คนด้านหลังพลั่ก!! ผลัวะ!! เสียงหมัดกระทบเนื้อได้ดังเฉียดหูของเธอไปทันที ก่อนที่จะมีคนเข้ามาหาเธอจากอีกด้าน ในระหว่างที่เธอหันไปช็อตไฟฟ้าคนด้านหลังแต่ซูเหยายังไม่มีเวลาสนใจคนมาช่วย เนื่องจากเธอเองก็กำลังเสยปลายคางคนที่กำลังจะเข้ามาจับตัวเธอ เมื่อซูเหยาจัดการเสยคนชั่วไปแล้วเจียงหรานก็ตามเข้าไปซ้ำมันอีกที ดังนั้นตอนนี้รอบตัวของ ซูเหยาพวกอันธ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-16
  • ซูเหยาเมื่อฉันกลายเป็นแม่เลี้ยงผู้โหดร้าย   ตอน แม่เตือนแล้วไม่ฟังก็ต้องเจ็บแบบนี้แหละ (2)

    เขาคิดว่าทักษะแบบนั้นมันธรรมดาเกินไปกับการช่วยชีวิตอันมีค่าของตน ซูเหยารู้สึกตกใจที่สหายของจ้าวเจียงถามหาสามี แต่เธอยังคงใบหน้านิ่งเอาไว้ก่อนแม้ใจจะเต้นกระหน่ำก็ตาม“ฉันขอถามได้ไหมคะ คุณถามหาเขาคนนั้นทำไม” ซูเหยาลองถามออกไป พร้อมจ้องหน้าคนที่คุยกับเธออย่างไม่เกรงกลัว“สหายคนนั้นเคยเป็นคนช่วยชีวิตผมนานมาแล้ว ผมต้องการตอบแทนเพียงเท่านั้น” เฉินเหวินคิดว่าหากไม่บอกความจริงผู้หญิงคนนี้คงจะไม่บอกอะไรเขาแน่ๆผู้หญิงคนนี้มีบางอย่างที่แตกต่างจากหญิงสาวทั่วไป หากเป็นผู้หญิงคนอื่นเพียงแค่เขาปรายตามองก็หน้าแดงหลบหน้าหลบตาให้จ้าละหวั่นแต่เธอคนนี้กลับจ้องหน้าเขาโดยไร้อาการเขินอาย หรือว่าเขาหน้าตาไม่ดีกัน เฉินเหวินคิดอย่างรู้สึกเริ่มขาดความมั่นใจในตัวเอง“เขาเป็นสามีของฉันค่ะ ถ้าหากคุณอยากพบก็ไปหาเขาที่หมู่บ้านตงไห่ เขาชื่อมู่หาน” ซูเหยาตอบตามตรง เนื่องจากเธอมั่นใจว่าชายคนนี้ไม่ได้โกหก“ห๊ะ!! สามีคุณ คุณเป็นภรรยาของเขาที่มีข่าวลือว่าร้ายกาจ โง่และขี้เกียจคนนั้นนะเหรอ” เฉิน

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-16
  • ซูเหยาเมื่อฉันกลายเป็นแม่เลี้ยงผู้โหดร้าย   ตอน ยิ่งให้มากยิ่งได้คืนเท่าทวี (1)

    “น้องสามีทำไมถึงได้มาบ้านคุณหมอช้าจัง เกิดอะไรขึ้นระหว่างทางหรือเปล่า” ฟางหรงถามซูเหยาหลังจากที่เธอทั้งสามเดินออกมาจากบ้านหมอเฉินได้สักพัก“มีปัญหานิดหน่อยค่ะ แต่ว่าแก้ไขแล้ว ไม่มีอะไรน่าห่วง” ซูเหยาพูดอย่างสบายๆ สำหรับเธอมันเป็นเรื่องเล็กน้อยจริงๆ นี่นา แต่สำหรับคนอื่นเธอไม่รู้ฟางหรงและลี่มี่ที่เห็นท่าทางการพูดของซูเหยาที่พูดออกมาอย่างง่ายๆ ก็เชื่อตามนั้น พวกเธอคิดว่าไม่มีอะไรที่ซูเหยาแก้ไม่ได้หรอกทั้งสามเมื่อเดินมาถึงบ้านของพยาบาลอัน หลังจากเคาะประตูบ้านรออยู่ไม่นานประตูบ้านก็เปิดออก“สวัสดีค่ะคุณซูเหยา วันนี้คุณหนูมีงานด่วนเข้ามา จึงได้ไปโรงพยาบาลกะทันหัน คุณหนูจึงได้ฝากเงินค่าชุดไว้กับฉันค่ะส่วนชุดคุณหนูบอกว่าให้ฉันเก็บไว้ได้เลย เธอมั่นใจว่าจะต้องใส่ได้อย่างแน่นอน” แม่บ้านที่เป็นคนมาเปิดประตูพูดขึ้น“ถ้าอย่างนั้นฉันคงรบกวนคุณป้าแล้วล่ะคะ ส่วนนี่เป็นของฝากให้คุณป้ากับคุณแม่ของพี่สาวอันนะคะ” ซูเหยาพูดขึ้นพร้อมกับส่งถุงเสื้อผ้าและถุงครีมบำรุงใบหน้าให้กับผู้สูงวัย

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-16
  • ซูเหยาเมื่อฉันกลายเป็นแม่เลี้ยงผู้โหดร้าย   ตอน ยิ่งให้มากยิ่งได้คืนเท่าทวี (2)

    “คุณยายมีใครไม่สบายหรือคะ แล้วได้พาไปหาหมอหรือยัง” ซูเหยาถามออกมาด้วยความอยากรู้ หากไม่เหนือบ่ากว่าแรงเธอก็ยินดีช่วย“เป็นเสียงคุณปู่ค่ะ ไอมาตลอดเลย บางครั้งก็เป็นเลือดด้วย” เด็กหญิงตัวเล็กพูดขึ้นน้ำตาคลอ เธอหวังว่าคุณน้าคนสวยจะสามารถช่วยปู่ของตนได้“คือ..เอ่อยายไม่มีเงินพาเขาไปหาหมอหรอก พ่อแม่ของเด็กๆ ก็ยังไม่ส่งเงินมาให้” หญิงชราพูดออกมาอย่างลำบากใจ“ฉันขอถามได้ไหมคะ พ่อแม่ของเด็กๆ ทำงานอะไรกัน แล้วอยู่ที่ไหน” ซูเหยาถามขึ้น ไม่ใช่ว่าเป็นอาจารย์หรอกนะหากว่าใช่ครอบครัวนี้คงจะน่าสงสารมาก“เป็นอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยในเมืองหลวง ตั้งแต่เกิดเรื่องพวกเราก็ขาดการติดต่อกัน” หญิงชราบอกซูเหยาตามตรงซูเหยาที่ได้ยินสิ่งที่คุณยายบอกเธอก็รู้สึกเห็นใจในโชคชะตาครอบครัวของคนตรงหน้า ที่อายุมากขนาดนี้จะต้องรับผิดชอบหลานสามชีวิตเรื่องของลูกชายกับสะใภ้ก็ไม่มีข่าว แต่ว่าเรื่องราวของครอบครัวนี้ทำไมถึงดูคุ้นเคยอย่างน่าประหลาดกัน หลานชายชื่อเสี่ยวหมิ่น“คุณยายคะ เราคุย

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-16

Bab terbaru

  • ซูเหยาเมื่อฉันกลายเป็นแม่เลี้ยงผู้โหดร้าย   ตอนพิเศษที่หก สามหนุ่มหล่อแห่งเมืองหลวงผู้แตกต่าง

    หนุ่มน้อยคนเล็กของครอบครัวเทียนที่ตอนนี้ได้ก้าวเท้าเข้าสู่การเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยปีหนึ่ง คณะบริหารธุรกิจตามที่ตัวเองต้องการ เช่นเดียวกับชายหนุ่มผู้เป็นลูกชายคนโตของซูหลงที่ต้องการจะเป็นพ่อครัวอันดับหนึ่งตามรอยเท้าของคนเป็นพ่ออีกหนึ่งก็คือบุตรชายคนโตของครอบครัวเจียงสามที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่สมาชิกครอบครัวนี้ก็มีเพียงเจียงเจ๋อที่มีครอบครัว ซึ่งตอนนี้เจียงฮวนได้มีน้องสาวน้องชายมาเพิ่มอีกอย่างละหนึ่งทั้งสามคนมีบุคลิกแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงแต่ก็ยังคงสนิทกัน เนื่องจากทั้งสามมีอายุไล่เลี่ยกันเกิดก่อนหลังห่างกันไม่มากทำให้ได้อยู่ปีเดียวกันเทียนหยุนนั้นเป็นเหมืนเมฆตามชื่อล่องลอยอย่างอิสระ แต่ในเรื่องความรับผิดชอบเขามีเต็มร้อยเนื่องจากได้รับการฝึกฝนมาจากผู้เป็นแม่และพ่อในการทำงานซูตงที่แม้จะมีบุคลิกหนาวเหน็บตามชื่อแต่เมื่อไหร่ที่ได้ทำอาหารหรือขนมชายหนุ่มผมยาวผู้นี้จะมีความอ่อนโยนดุจสายน้ำคนสุดท้ายเจียงฮวนชายหนุ่มผู้มีความนิ่งมาตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเขาก็มักจะทำตัวนิ่งอยู่เสมอต้นเสมอปลาย แต่เมื่อไหร่ก็ตามที

  • ซูเหยาเมื่อฉันกลายเป็นแม่เลี้ยงผู้โหดร้าย   ตอนพิเศษที่ห้า สองพี่น้องผู้โดดเดี่ยว2

    ชายหนุ่มที่โดนหญิงสาวคนนี้กอดขาของตนเขาก็ตกใจ แต่เมื่อเห็นอาการอันสั่นเทาของหญิงสาวฮุ่ยหมิ่นก็รู้สึกเห็นใจผู้หญิงคนนี้ไม่น้อย ทำให้เขาก้มตัวลงไปจับไหล่บางของหญิงสาวด้วยมือทั้งสองข้าง“สหายตอนนี้คุณปลอดภัยแล้ว” เสียงอันอ่อนโยนของชายหนุ่มปลอบหญิงสาวที่ยังไม่ยอมลืมตาด้วยความเห็นใจเมื่อหญิงสาวผมสั้นได้ยินเสียงอันทุ้มนุ่มที่อยู่เหนือศีรษะของตนหญิงสาวก็ตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ พร้อมกับลืมตามองสิ่งที่ตัวเองกอดอยู่ก็เห็นเป็นกางเกงสีเขียวของทหารฉินเซียวซานเมื่อเห็นแบบนี้หล่อนจึงได้ผละตัวออกทันทีก่อนที่ตัวเองเกือบจะนั่งลงไปกับพื้นหิมะโชคดีที่ว่าชายหนุ่มจับไหล่ของเธอเอาไว้ ทำให้หล่อนไม่นั่งจ้ำเบ้าลงไปบนพื้นอันเย็นเฉียบ“สหายระวัง” ฮุ่ยหมิ่นกล่าวออกมาเสียงดังด้วยความตกใจที่หญิงคนนี้อยู่ ๆ ก็ผละออกจากเขากะทันหันหญิงสาวผมสั้นเมื่อได้ยินเสียงของคนพูดหล่อนจึงได้แหงนหน้าของตนมองขึ้นไปด้านบน ทำให้ดวงตากลมโตของเธอสบกับดวงตาเรียวคมดุของคนเบื้องหน้าที่กำลังมองเธออยู่เช่นกันในช่วงเวลาที่คนทั้งสองกำลังสบตากั

  • ซูเหยาเมื่อฉันกลายเป็นแม่เลี้ยงผู้โหดร้าย   ตอนพิเศษที่ห้า สองพี่น้องผู้โดดเดี่ยว1

    หิมะตกหนักท่ามกลางฤดูหนาวอันโหดร้ายของปีที่ภัยพิบัติได้มาเยือนในเขตภาคเหนือของประเทศทำให้ทหารต้องเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อันห่างไกลการเดินทางไปช่วยเหลือประชาชนในครั้งนี้มู่ซือกับฮุ่ยหมิ่นที่ได้เลื่อนตำแหน่งไปด้วยกันเป็นทีมแรก ท่ามกลางหิมะกองสูงพวกเขาจะต้องเดินฝ่าเพื่อไปยังหมู่บ้านเบื้องหน้าที่มีคนติดต่อมาว่าได้ถูกหิมะถล่มหลังคา ทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บกันเป็นจำนวนมากและยังมีอีกหลายชีวิตที่ติดอยู่ภายใต้ซากหลังคาที่ถล่มทำให้หน่วยงานของพวกเขาจำเป็นต้องให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน แต่การเดินทางฝ่าหิมะไม่ใช่เรื่องง่ายในระหว่างที่ทหารในกลุ่มของสองพี่น้องกำลังเดินทางพวกเขาก็ได้ยินเสียงของสุนัขป่าเห่ากรรโชกเสียงดังเหมือนข่มขู่อะไรบางอย่างด้านหน้าห่างจากพวกเขาไม่มากนัก ทำให้คนในกลุ่มพากันเร่งฝีเท้าของพวกตนให้เร็วขึ้น ท่ามกลางฝูงหมาป่าหกตัวที่ล้อมหญิงสาวสองคน หนึ่งในนั้นเป็นคนที่สองพี่น้องย่อมจะต้องรู้จักเป็นอย่างดี“เจินเจินพวกเราจะทำยังไงกันดีจะไปตามคนมาช่วยดันจะมากลายเป็นอาหารหมาป่าเข้าเสียได้” เสียงหญิงสาวผมสั้นท่าทางทะมัดทะแมงกล่าวกับเพื

  • ซูเหยาเมื่อฉันกลายเป็นแม่เลี้ยงผู้โหดร้าย   ตอนพิเศษที่สี่ กลิ่นคาวเลือดก่อเกิดรัก 2

    ภายนอกถ้ำที่โจรทั้งหกนั่งรอบกองไฟที่พวกมันก่อ บัดนี้ได้มีทหารกลุ่มหนึ่งกำลังโอบล้อมพวกมันตามที่เทียนเฉินได้คาดการณ์เอาไว้“ผู้กองหานพวกเราจะรอถึงเมื่อไหร่ครับ” มู่ซือถามกับครูฝึกของตนด้วยความร้อนใจ เนื่องจากเป็นห่วงน้องชายที่อาสาเป็นตัวประกัน“เกือบได้เวลาแล้วนายก็ใจเย็นลงสักหน่อยเถอะ นายต้องเชื่อใจเทียนเฉินสิ” คนที่เป็นทั้งครูฝึกและกำลังจะเป็นน้องเขยของคนตรงหน้ากล่าว“ผมทราบครับแต่นั่นน้องชายผมนะครับ หากผมใจร้อนป่านนี้ผมบุกเข้าไปแล้ว” คนเป็นว่าที่พี่เมียแย้งพวกเขาซุ่มดูพวกมันมาจะครึ่งคืนแล้วไม่เห็นวี่แววว่าโจรร้ายพวกนี้จะหลับสักที หานจ้านจึงได้นึกถึงสมุนไพรที่มีฤทธิ์ทำให้คนสลบออกมา“มู่ซือนายเอาเจ้านี่ไปเผาให้ควันไปทางพวกมันนะรับรองพวกมันหลับแน่ ไม่หลับก็อาจจะสะลึมสะลือใช้ระวังหน่อยก็แล้วกันผลงานน้องสาวนายเลยนะ” คนเป็นหัวหน้ากลุ่มกล่าวออกมาด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจมู่ซือแม้อยากจะพูดอะไรแต่เวลานี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมดังนั้นเขาจึงได้นำสหายร่วมรบไปกับตนอีกสองคนเพื่อไปทำตามคำสั่ง

  • ซูเหยาเมื่อฉันกลายเป็นแม่เลี้ยงผู้โหดร้าย   ตอนพิเศษที่สี่ กลิ่นคาวเลือดก่อเกิดรัก 1

    ยามเย็นย่ำท่ามกลางป่าใหญ่ที่ปราศจากเสียงร้องของสัตว์ เทียนเฉินผู้ที่ได้ปลอมตัวเป็นหนึ่งในตัวประกันที่ถูกผู้ร้ายค้าอาวุธเถื่อนจับตัวมาพร้อมกับกลุ่มคนอีกสี่คนหนึ่งในนั้นมีหญิงสาวใบหน้ากลมดวงตาเรียวเล็กอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย เทียนเฉินคิดว่าเด็กคนนี้บางทีน่าจะเป็นเด็กวัยมัธยมที่ถูกเจ้าชั่วพวกนี้จับมา“ลูกพี่อีกนานไหมกว่านายใหญ่จะมา” เสียงของหนึ่งในพ่อค้าอาวุธดังขึ้นขัดความคิดของเจ้าหน้าที่หนุ่มที่ตอนนี้แต่งตัวเหมือนคนทำงานในหน่วยงานวิจัยขององค์กรบางอย่างที่คนร้ายพวกนี้ต้องการตัว“นายก็รอหน่อยเถอะอีกไม่นานเจ้านายก็น่าจะมาแล้ว ว่าแต่ทำไมตัวประกันของเราถึงมีเด็กมาด้วยวะ” ชายหน้าบากที่ถูกเรียกว่าลูกพี่ถามกับลูกน้องที่มีอาวุธปืนอยู่ในมือหลังจากที่มองไปยังหญิงสาวร่างเล็กใบหน้ากลม“ก็ฉันเห็นว่าหล่อนอยู่กับเจ้าหน้าที่พวกนี้ก็เลยจับมาทั้งหมด แต่พี่ว่าหล่อนยังเป็นนักเรียนอยู่เหรอ หรือว่าจะปล่อยหล่อนไปเด็กขนาดนี้คงจะบอกตำรวจหรือทหารอะไรได้ไม่มากหรอก” คนพูดเป็นชายที่มีลูกสาวอยู่ในวัยมัธยมถามความเห็นกับลูกพี่ใหญ่“แกจะบ้าเหรอห

  • ซูเหยาเมื่อฉันกลายเป็นแม่เลี้ยงผู้โหดร้าย   ตอนพิเศษที่สาม แม่คุณจะรับฉันได้จริง ๆ เหรอ 2

    มิเชลรู้สึกว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นความฝันที่ไม่ใช่ความจริงหากเป็นความฝันหญิงสาวก็ไม่คิดอยากจะลืมตาตื่นชายหนุ่มที่ฉุดหญิงสาววิ่งมาไกลแล้วจึงได้รู้สึกเบาใจว่าไม่น่าจะมีคนตามพวกเขามาทัน เขาจึงได้ปล่อยข้อมือของหญิงสาวคนนี้ลง“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า” หลังจากที่เขาปล่อยมือของตนแล้วชายหนุ่มก็มองหน้าหญิงสาวที่ตอนนี้แม้จะยังสวมแว่นตาอยู่แต่ด้วยการที่พวกเขาวิ่งกันมาไกลก็ยังพอเห็นใบหน้าอันแดงเรื่อจากแสงไฟทำให้ใบหน้านั้นดูน่ารักเทียนเฟยรู้สึกตกใจความคิดของตัวเองอยู่ไม่น้อยนี่เขาชมคนอื่นนอกจากน้องสาวของตน ทางด้านหญิงสาวที่กำลังรู้สึกเขินอายได้มองเห็นอาการเลิ่กลั่กของชายหนุ่มมาดนิ่งหล่อนก็หลุดยิ้มออกมาก่อนที่จะตอบชายที่อยู่ในความทรงจำออกไป“ฉันไม่เป็นไรค่ะแค่รู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย” หญิงสาวรู้สึกเหนื่อยหอบตามที่ตนพูดไปจริง ๆ“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วครับ คุณพักอยู่ที่ไหนให้ผมไปส่งเถอะผู้หญิงเดินคนเดียวยามค่ำคืนน่าเป็นห่วง” เทียนเฟยกล่าวตามที่ตัวเองรู้สึก“คือฉันพักอยู่ที่...มันจะสะดวกสำหรับพี่หรือเปล่าคะ” หล่อนแทนตัว

  • ซูเหยาเมื่อฉันกลายเป็นแม่เลี้ยงผู้โหดร้าย   ตอนพิเศษที่สาม แม่คุณจะรับฉันได้จริง ๆ เหรอ 1

    “ผมขอโทษครับคุณได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า” เสียงอันอ่อนนุ่มของเทียนเฟยกล่าวกับหญิงสาวผมทองร่างบางสวมแว่นตากรอบหนาออกมาอย่างรู้สึกผิด“ฉันเองก็ต้องขอโทษคุณเช่นกันที่เดินมาชนคุณก่อน” หญิงสาวคนนั้นกล่าวออกมาด้วยความเสียใจไม่แพ้กันเทียนเฟยหลังจากที่เก็บหนังสือเรียนของตัวเองแล้ว เขาก็ได้มาช่วยหญิงสาวคนนี้เก็บของที่กระจัดกระจายเพื่อส่งคืนให้เจ้าของ“ขอบคุณค่ะรุ่นพี่” หญิงสาวผมทองกล่าวตอบชายหนุ่มเสียงเบาด้วยความอาย“ไม่เป็นไรครับผมเต็มใจ ถ้าหากว่าคุณไม่เป็นอะไรแล้วผมขอตัวก่อน” เทียนเฟยบอกกับหญิงสาวหลังจากที่เขาดูนาฬิกาที่ข้อมือแล้วใกล้ถึงเวลาเรียนของตนหญิงสาวผมทองจึงได้แต่มองตามทุกการก้าวเดินของชายหนุ่มต่างสัญชาติด้วยความประทับใจ ที่คนผู้นั้นอาจจะจำหล่อนไม่ได้จากเหตุการณ์หลายวันก่อนที่เธอได้ถูกคนรังแกในขณะที่เธอกำลังจะตอบโต้คนพวกนั้น แต่ว่าได้มีชายหนุ่มคนนี้เข้ามาช่วยเอาไว้ก่อนมิเชลไม่คาดคิดว่าวันนี้จะได้มาเจอกับชายหนุ่มคนนี้อีกครั้งด้วยความบังเอิญ เธอรู้ตัวเองดีว่าไม่เหมาะสมกับเขาไม่ว่าจะเป็นด้วยรูปลั

  • ซูเหยาเมื่อฉันกลายเป็นแม่เลี้ยงผู้โหดร้าย   ตอนพิเศษที่สอง ผมชอบคุณ 2

    ส่วนมู่ฟางก็ได้เจอกับพี่ชายของตนที่มาพร้อมกับชายหนุ่มที่เธอเป็นคนตรวจร่างกายให้เป็นคนสุดท้ายก่อนพัก“สหายกับพี่ชายของฉันสนิทกันอย่างนั้นหรือคะถึงได้มาด้วยกัน” คนเป็นน้องสาวถามกับชายคนนี้ออกมาหลังจากที่เธอเดินมาหาพี่ชายของตนแล้ว“คือว่าใช่ครับพวกเราสนิทกันมาก” คนเป็นครูฝึกโอบไหล่นักเรียนของตนแน่นก่อนตอบหญิงสาวพร้อมรอยยิ้ม“ถ้าอย่างนั้นยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ฉันเป็นน้องสาวของพี่ชาย ชื่อมู่ฟาง” หญิงสาวที่อายุน้อยกว่ากล่าวพร้อมก้มหัวของ ตนลงทางด้านเทียนเฉินที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกับน้องสาวและว่าที่น้องเขย เขาก็ได้แต่นั่งยิ้มมองไปทางพี่สาวพี่ชายอย่างอารมณ์ดี“พี่ชายฉันสงสัยอยู่เล็กน้อยทำไมสหายทหารถึงเรียกพี่มู่ฟางว่าพี่สะใภ้กันคะ” เทียนผิงที่รู้สึกสงสัยจึงได้ถามกับพี่ชายของตนออกมาตงหยางกับสหายที่นั่งอยู่ด้วยกันอีกสองคนที่กำลังกินข้าวอยู่แสดงสีหน้าประหลาดออกมาพลางเฉไฉทำเป็นไม่ได้ยินคำถามนี้อย่างพร้อมเพรียง“คือว่าเรื่องมันเป็นแบบนี้ครับ...” เทียนเฉินเอามือป้องปากกระซิบไปที่หูของน้องน้

  • ซูเหยาเมื่อฉันกลายเป็นแม่เลี้ยงผู้โหดร้าย   ตอนพิเศษที่สอง ผมชอบคุณ 1

    ภายในโรงพยาบาลทหารที่เป็นสถานที่ทำงานของสองสาวเทียน มู่ ทั้งสองสาวต่างก็จัดว่าเป็นดอกไม้งามของโรงพยาบาลแห่งนี้ แต่ทุกคนต่างก็เป็นที่รู้กันดีว่าคุณหมอเทียนผิงนั้นมีคู่หมายเป็นผู้กองหน้าน้ำแข็งประจำหน่วยพยัคฆ์ทำให้หล่อนหมดความสนใจจากทหารคนอื่นไปทั้งหมด ยกเว้นมู่ฟางที่มักมีทหารหนุ่มต่างหาคนมาเป็นแม่สื่อ เพื่อต้องการติดต่อกับหญิงสาว แต่หญิงสาวคนนี้ก็ถูกคนเป็นพี่ชายหวงอยู่ไม่น้อย“อาซือ นายว่าฉันเป็นคนยังไงพอจะเป็นน้องเขยของนายได้หรือเปล่า” หนึ่งในสหายร่วมรบถามขึ้นกับเพื่อนของตนหลังฝึกซ้อมช่วงเย็น“ฉันเห็นนะไม่สำคัญหรอกเพราะคนที่จะต้องตัดสินใจคือน้องสาวของฉัน นายก็เห็นว่าวัน ๆ น้องของฉันทำแต่งานเคยมองใครที่ไหนกัน” คนเป็นพี่ชายพูดแบ่งรับแบ่งสู้“นายหวงน้องสาวก็บอกมาเถอะ แต่ว่านายก็เห็นพวกเราอยู่ทุกวัน นายไม่เลือกหนึ่งในพวกเราเป็นน้องเขยจริง ๆ เหรอ” สหายอีกคนที่อยู่ด้วยกันกล่าวพร้อมเสนอตัวเอง“พวกพี่ชายก็อย่าตื้อพี่ซือมากเลยครับ พี่สาวฟางของผมยังไม่ชอบใครต่างหาก ถ้าหากว่าเธอถูกใจพวกพ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status