หลัวซื่อเพิ่งจะได้สติรู้สึกตัวจากความเจ็บปวดที่ถูกตี ก็โดนคำว่ายอมเสียเปรียบของเยว่อวิ๋นปลุกเร้าโทสะจนกระอักเลือดออกมาในลำคอนางข่มสิ่งคาวหวานกลืนลงคอ พลางสะบัดมือออกจากการพยุงของบุตรชายอย่างฉุนเฉียวจริงอยู่ที่นางมีใจปกป้องพวกเขา ทว่าการออกไปเองกับถูกผลักออกไปมันต่างกัน ยิ่งมองเห็นต้าเป่าอายุน้อยตั
“เห็นแบบนี้ข้าก็อดคิดไม่ได้ นางรักครอบครัวขนาดนี้ จะทำตัวแย่ๆ เหมือนในข่าวลือได้อย่างไร”คำพูดถูกกล่าวไปมา ชักจูงความกังขาแก่ผู้คน หลายคนมองเยว่อวิ๋นแล้วเริ่มฉุกคิด ไม่เชื่อว่านางจะเป็นเหมือนในข่าวลือที่ได้ยินมาเยว่อวิ๋นลอบฟังการสนทนาของคนเหล่านั้นอย่างพอใจ นางมองไปที่ร่างของใครบางคนที่ปะปนอยู่ในกล
เซี่ยฉางถูกเสียงร้องไห้ของเยว่อวิ๋นกับต้าเป่าทำให้หวาดผวา ชายวัยกลางคนไม่กล้าชักช้า รีบหันไปสอบถามเอากับสือโถทันทีสือโถเดิมก็มีใจเอียงเอนอยากช่วยเหลือบ้านลูกพี่ลูกน้องอยู่แล้ว จึงนำประโยคคำพูดที่เถี่ยตั้นกับหม่าตั้นด่าว่าเยว่อวิ๋นมาย้อนให้ฟังอย่างละเอียด รวมถึงข่าวลือซุบซิบที่ตัวเขาเองเคยได้ยินหลาย
“น้องสาวของฉงอวิ๋นนี่ใช้ไม่ได้เลยจริงๆ”“นางไม่ถามไถ่ก็รีบปัดสวะพ้นตัว ใจดำเหลือเกิน”“แต่เดิมครอบครัวสี่ก็ล้วนไม่ใช่คนดีอะไรอยู่แล้ว อย่าลืมสิว่าฉงอวิ๋นดีต่อพวกเขาแค่ไหน พอหมดประโยชน์แล้วพวกนั้นทำกับเขาอย่างไร”“ชู่ อย่าเสียงดังไป เรื่องนี้ข้าว่าไม่ต้องรอให้ผู้ใหญ่สอบถาม ก็มั่นใจได้ว่าเป็นฝีมือนางแ
ฟังแล้วมุมปากเยว่อวิ๋นพลันบิดค้างไปวูบหนึ่ง บ้านเจ้างั้นหรือ นั่นจะรวมถึงสามีนางด้วยไหม คิดแล้วหญิงสาวจึงส่งเสียงเรียกเตือนสติลูกศิษย์วัยเกินครึ่งร้อยของตนเบาๆ“จางถิง” แก่แล้วไฉนยังทำตัวเลือดร้อนอยู่อีกกัน เกิดเป็นลมเป็นแร้งไปจะทำอย่างไรนางยังไม่อยากเป็นอาจารย์คนแรกในประวัติศาสตร์ ที่ต้องตั้งป้ายบ
ที่ผู้ใหญ่บ้านเชื่อคำพูดของหมอจาง ก็เพราะพวกเขาคุ้นเคยกับลายมือหมอจางดี เขากับหลี่เจิ้งและชาวบ้านล้วนไปรักษากับอีกฝ่ายมานับครั้งไม่ถ้วน เป็นไปไม่ได้ที่จะจำตัวอักษรในใบสั่งยาไม่ได้เมื่อไม่ใช่หมอจาง ก็ต้องเป็นภรรยาฉงอวิ๋นเขียนเอง เพราะลายมือชื่อที่ลงไว้เป็นลายมือเดียวกับที่เขียนในตำรา นอกจากตัวคนเขีย
เยว่อวิ๋นไม่รู้ความคิดของคนเหล่านี้ หากนางรู้คงปรบมือให้พวกเขาแล้วเอ่ยพร้อมรอยยิ้มว่า ‘ยินดีด้วย พวกเจ้าเดาถูกแล้ว’ เป็นแน่ถูกแล้ว นางจงใจพูดทำลายชื่อเสียงเซี่ยหว่านหรู ก็แล้วอย่างไรเล่า ในเมื่ออีกฝ่ายป่าวประกาศไปทั่วว่านางคบชู้ แล้วทำไมนางจะโยนคำว่าบ้าผู้ชายใส่ศีรษะอีกฝ่ายบ้างไม่ได้ล่ะโดนตบแก้มซ้
นับว่าเป็นความโชคดีของสวีเหยา ที่เสียงคำรามของนางถูกข่มกลั้นไว้แค่ในลำคอ เพราะถ้าไม่อย่างนั้นเยว่อวิ๋นได้ยินคงหันกลับมาประเคนฝ่าเท้าให้นางอีกทีเป็นแน่เห็นว่าไม่มีละครสนุกๆ ให้ดูแล้ว บรรดาชาวบ้านมุงก็พากันแยกย้ายสลายตัว ในลานบ้านที่เงียบสงัดจึงเหลือเพียงแม่ลูกสกุลจางกับสวีเหยาและเซี่ยหว่านหรูหลัวซื
ทว่าสวีเหยากลับไม่ได้ทำอะไรเยว่อวิ๋นอย่างที่ทุกคนคาดเดา นางเพียงพุ่งไปคุกเข่าเบื้องหน้าเยว่อวิ๋น ก่อนจะก้มลงโขกศีรษะให้ฝ่ายหลังสุดแรง“เยว่อวิ๋น ขอร้องเจ้าแล้ว ยอมให้ข้าเป็นอนุของพี่ชายอวิ๋นเถอะ ขอแค่เจ้ายอมรับปาก ข้าสาบานจะปรนนิบัติรับใช้เจ้ากับพี่ชายอวิ๋นจนชีวิตหาไม่”สวีเหยาพร่ำขอร้องไปพลางโขกศีร
อีกด้าน เยว่อวิ๋นกำลังฝังเข็มให้เซี่ยฉงอวิ๋นอยู่เช่นกัน ทว่าฝั่งนี้กลับดูสบายกว่าทางหลีจวินอย่างเห็นได้ชัด“หลีจวินนี่เด็กจริงๆ เขาแกล้งเอะอะใส่หมอจางทุกครั้งแบบนี้สนุกนักหรือไง” เยว่อวิ๋นฟังเสียงร้องโหยหวน พลางขมวดคิ้วบ่นเบาๆถึงอย่างไรหมอจางก็เป็นลูกศิษย์นาง เจ้าหนุ่มนั่นไม่รู้จักเคารพผู้อาวุโสเอา
ได้ยินอีกฝ่ายสาธยายความผิดของฟางฮัวทีละข้อชัดถ้อยชัดคำ เยว่อวิ๋นได้แต่นิ่งเงียบพูดไม่ออก นี่เขาพิการออกไปไหนไม่ได้จริงหรือส่วนฟางฮัวผู้นี้คงรังเกียจว่าชีวิตตนสงบสุขเกินไปสินะ ถึงได้พยายามรนหาที่ซะเหลือเกินเซี่ยฉงอวิ๋นเห็นภรรยาไม่คิดจะพูดแทนฟางฮัวอีกก็พอใจอย่างมาก เขาเอื้อมมือดึงคนเข้ามากอดขณะเอ่ยเ
“สงสารนางหรือ” ต้าเป่าที่ก้มหน้าได้ยินคำถามก็เงยหน้าขึ้นทันที“ไม่ขอรับ นางสมควรได้รับแล้ว” เขาจะสงสารนางได้อย่างไร สะใภ้ใหญ่จ้าวผู้นั้นมีเจตนาร้ายต่อมารดาเรื่องข่าวลือเสียหายคราวก่อนก็เป็นนางที่รับเงินสวีเหยามาใส่ร้ายท่านแม่ ตอนที่พวกเถี่ยโกว่มาเล่าเรื่องนี้ให้ฟังเขาก็จดชื่อนางไว้ในบัญชีแค้นแล้วต
ผู้ใหญ่บ้านเพิ่งพูดจบก็หันมาพบกับเยว่อวิ๋นยืนอุ้มเสี่ยวอวี้อยู่ ใบหน้าชายชราพลันเผยแววกระอักกระอ่วนให้เห็นวูบหนึ่ง คำพูดใดๆ ล้วนติดอยู่แค่ในลำคอแต่ยังโชคดีที่เยว่อวิ๋นนั้นสำเร็จวิชาขั้นสูงแล้ว คำพูดค่อนขอดลอยๆ ของผู้ใหญ่บ้านจึงไม่สามารถโจมตีทะลุผิวหน้าหนาๆ ของนางไปได้หญิงสาวเพียงยกมือลูบจมูกเบาๆ น
“แล้วกันไป ง่ายดายแบบนี้เลย แล้วชื่อเสียงลูกชายข้าล่ะ จ้าวฮวา คนเริ่มก่อนเป็นบ้านเจ้า ถึงตอนนี้ป้ายอุจจาระใส่ศีรษะต้าหว่างของข้าจนเหม็นแล้วคิดจะสะบัดก้นกันไปง่ายๆ งั้นหรือ ฝันไปเถอะยายแก่เจ้าเล่ห์!”“แล้วเจ้าจะเอาอย่างไร” ป้าจ้าวชักสีหน้าหงุดหงิด ต้าหว่างเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง โดนด่านิดด่าหน่อยจะเป็นอะไ
อีกทั้งสาเหตุที่นางขอให้เถี่ยโกว่กับต้าหว่างปิดบังเรื่องนี้ สาเหตุแท้จริงก็ไม่ใช่เพราะเรื่องสิ่งของเสียหน่อยสกุลฟางมีบุตรสาวถึงสามคน ส่วนบุตรชายกลับมีแค่คนเดียวเท่านั้น บิดามารดาของฟางฮัวจึงรักถนอมเขามาก ทว่าความรักที่มากเกินไปก็ใช่ว่าจะดี ฟางเฉาที่ถูกตามใจมาแต่เล็กก็เช่นกัน เขาโตมาจนอายุขนาดนี้กลั
หญิงที่อยู่นอนเกลือกกลิ้งอยู่บนพื้นกรีดร้องร่ำไห้สภาพน่าเวทนายิ่งนัก ทว่าหญิงสูงวัยผู้ลงมือกลับมิได้ผ่อนแรงลงแม้แต่น้อย ซึ่งเยว่อวิ๋นจะไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย ถ้าสตรีสองนางนี้ไม่ใช่คนที่นางกับเซี่ยฉงอวิ๋นพูดถึงเมื่อวานนี้ฟางฮัวกับแม่สามีของนางนั่นเอง…“นางแพศยา เจ้าแต่งมาเป็นสะใภ้บ้านจ้าวเรา กินดื่มล้
เรื่องไม่เหตุสมผลเลยแม้แต่น้อย ทว่าเยว่อวิ๋นที่นานทีจะเกิดเมตตาจิตไม่ได้เปิดโปงอีกฝ่ายออกไป ที่นางมาถามข่าวกับเฉียนซานก็แค่อยากจะประเมินความร้ายแรงของเรื่องนี้เท่านั้น และก็จริงดังที่คาดไว้เสียด้วยหากหลีจวินเป็นเพียงทายาทตระกูลชั้นสูงที่มาเที่ยวเล่น ตำบลซานซีทั่วไป มีหรือที่คนในพื้นที่จะไม่รู้เรื่อ