Share

เจ้ายอมรับได้หรือไม่ (3)

เซี่ยต้าจวงเห็นว่านางมุ่งมั่นไม่ยอมแพ้ จึงเป็นฝ่ายประณีประนอม “ได้ ต่อไปเจ้ามีเรื่องอะไรให้ช่วยก็มาบอกข้าแล้วกัน”

เยว่อวิ๋นยิ้มรับ นางส่งต้าจวงจากไป ก่อนจะหมุนตัวกลับเข้าบ้านเพื่อจัดการสิ่งของที่ซื้อมา

ในห้องครัว สองพี่น้องกำลังช่วยกันจัดเรียงข้าวของอย่างขมักเขม้น มองบรรดาเครื่องปรุงที่ถูกวางไว้อย่างเป็นระเบียบ ในใจเยว่อวิ๋นยิ่งอดนึกเอ็นดูไชเท้าสองหัวของตนไม่ได้ ช่างเป็นเด็กที่รู้ความจริงๆ

หญิงสาวพับแขนเสื้อ ยกข้าวสารที่ซื้อมาเทลงถัง ไม่นานถังเปล่าก็บรรจุแน่นไปด้วยเมล็ดข้าวสีขาวสะอาดตา จากนั้นจึงเริ่มนำซีอิ้ว เกลือ แป้ง รวมถึงเนื้อทั้งหลายออกมาจัดเข้าที่ ต้าเป่ากับเสี่ยวอวี้มองห้องครัวที่อุดมสมบูรณ์แล้วอ้าปากค้าง

“ท่านพี่ ข้าฝันไปหรือเปล่าเจ้าคะ” เสี่ยวอวี้หันไปถามพี่ชายเบาๆ ต้าเป่าส่ายหน้าไม่พูดอะไร แต่คิดในใจว่า ถ้าเป็นฝันจริงเขาจะไม่ยอมตื่นโดยเด็ดขาด

สามแม่ลูกใช้เวลาอยู่ในครัวพักใหญ่ จึงสามารถจัดการข้าวของที่ซื้อมาได้หมด เยว่อวิ๋นที่เหน็ดเหนื่อยจนเหงื่อโทรมกายหันไปมองหน้าลายประหนึ่งแมวป่าของเด็กสองคนข้างกาย ก่อนจะหัวเราะขบขันออกมา

มองแสงแดดที่เริ่มอ่อนลงแล้ว เยว่อวิ๋นจึงตัดสินใจพาเ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   เจ้ายอมรับได้หรือไม่ (4)

    ชายหนุ่มคิดแล้วค่อยผ่อนคลายความระแวดระวัง เยวอวิ๋นที่กำลังไล้ปลายมีดผ่านตามคางและแก้มชายหนุ่ม สัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายลดการป้องกันลงแล้ว ก็ผงกศีรษะขึ้นลงอย่างพอใจนางรำคาญเจ้าสิ่งนี้บนใบหน้าเขามานานแล้ว จะป้อนอาหารหรือยาก็ล้วนลำบาก ต้องมานั่งทำความสะอาดทีหลังให้วุ่นวายอีกอย่าง…หากวัดจากความชอบที่มีต่อบัณฑิตหนุ่มรูปงามเช่นเซี่ยฉงอวิ๋นกับบรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาหุ่นหมีหน้าโหดหนวดเคราเฟิ้ม นางค่อนข้างจะโอนเอียงไปทางฝ่ายแรกมากกว่านิดหน่อยไม่สิอาจมากๆ เลยก็ว่าได้ ไม่อย่างนั้นนางคงไม่รู้สึกว่าเจ้าสิ่งดำๆ บนใบหน้าเซี่ยฉงอวิ๋นดูรกตาขนาดนี้หรอก“วันนี้ข้าพบสะใภ้ใหญ่และเซี่ยหยวนชางตอนไปตลาดด้วย” เยว่อวิ๋นเล่าเรื่องราวทั้งตอนเช้าที่พบคนบ้านใหญ่ กับตอนขากลับที่นางปะทะกับอู๋ซื่อและหลัวซื่อให้อีกฝ่ายฟัง นางไม่ได้เรียกขานพี่สะใภ้หรือน้องสี่ แต่กับเอ่ยชื่อพวกเขาออกมาตรงๆ แสดงท่าทีที่มีต่อคนเหล่านั้นให้เห็นอย่างชัดเจนเซี่ยฉงอวิ๋นขบคิดอยู่ชั่วครู่ ในใจพลันกระจ่างว่าภรรยาในนามของตนต้องการสื่อสิ่งใด ชายหนุ่มเผยรอยยิ้มบางเบา นางช่างเป็นคนตรงไปตรงมาเหมือนคนผู้นั้นเหลือเกิน“เจ้าสามารถทำในสิ่งที่เจ้าต้องการได้

    Last Updated : 2025-04-21
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ศิษย์คารวะอาจารย์ (1)

    เมื่อสิ่งที่ต่างฝ่ายต่างต้องการบรรลุผล การพูดคุยก็ง่ายดายขึ้นชั่วเวลาสั้นๆ เยว่อวิ๋นกับเซี่ยฉงอวิ๋นก็เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อกัน โดยเฉพาะเยว่อวิ๋น นางนึกไม่ถึงเลยว่าสามีที่ชาวบ้านมองว่าโง่เขลาของนาง จะเป็นคนมีความคิดลึกซึ้งเพียงนี้แล้วที่ผ่านๆ มาคืออะไร โรคโง่งมกำเริบเป็นบางเวลางั้นหรือ ไม่สิ ไม่ถูกต้อง ถ้าแค่กำเริบเป็นบางเวลา เขาคงไม่ปล่อยให้ตนเองกับลูกตกอยู่ในสภาพนี้เป็นแน่คาดว่าน่าจะเพิ่งฉลาดขึ้นหลังจากบาดเจ็บ ศีรษะกระแทกชีวิตเกือบสิ้นจึงได้เบิกเนตรเปิดปัญญาตื่นรู้ขึ้นมาเป็นแน่เยว่อวิ๋นคิดพลางปัดเศษหนวดเคราที่ตกปกคลุมใบหน้าอีกฝ่ายออกเบาๆ กิริยาเนิบช้าไม่คุ้นเคยทว่าไร้ความผิดพลาด เพราะอย่างน้อยๆ บนใบหน้าหล่อเหลาของคนตรงหน้าก็ไม่มีริ้วรอยมีดทิ้งไว้ให้เห็นอืม…ถึงจะป่วยจนซูบเซียวไปบ้าง ทว่าใบหน้านี้ก็ยังคงหล่อเหลาน่ามองไม่เปลี่ยนแปลงไม่เปลี่ยนแปลง…นี่ไม่ถูกต้อง!เห็นชัดว่าคนตรงหน้านางคือ “เซี่ยฉงอวิ๋น” แต่ก็หาใช่ “เซี่ยฉงอวิ๋น” ในความทรงจำ แล้วเหตุใดใบหน้านี้จึงมีความคล้ายคลึงกันถึงเพียงนี้เล่า!เห็นรูปโฉมดุจพานอัน[1] ในตำนานที่แสนคุ้นเคย แวบแรกของเยว่อวิ๋นคือความยินดีที่ไม่อาจกล่า

    Last Updated : 2025-04-21
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ศิษย์คารวะอาจารย์ (2)

    หญิงสาวฝืนบังคับมุมปากที่บิดเบี้ยวของตนให้กลับมาเป็นปกติ ก่อนจะถาม “หมอจาง ท่านกำลังทำอะไร”หมอจางโขกศีรษะรัวๆ ตอบด้วยน้ำเสียงขึงขัง “อาจารย์ ท่านไม่เพียงจะมอบตำราสมุนไพรให้ศิษย์ ยังต้องการสอนศิษย์ทำน้ำยาล้างแผลอีก บุญคุณนี้ใหญ่หลวงยิ่ง ต่อไปภายหน้าศิษย์จะต้องกตัญญูต่อท่าน ไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่นอน”เรื่องตำรานางแค่คิดว่าการยืมเงินเขาเปล่าๆ มันดูไม่ค่อยดีนัก เลยคิดว่าจะเขียนวิธีการใช้สมุนไพรที่มีฤทธิ์ขัดแย้งร่วมกันอย่างไรให้เขาเป็นการตอบแทนเท่านั้น ส่วนเรื่องน้ำเกลือล้างแผลนั้นก็ไม่ใช่ความลับอันใด เด็กน้อยอย่างต้าเป่าหรือใครก็ทำได้ด้วยซ้ำ ไหนเลยจะรู้ว่าหมอจางจะคิดเข้าข้างตัวเองแบบนี้เขาอายุเกินครึ่งร้อยแล้ว แต่กลับมาโขกศีรษะบอกจะกตัญญูต่อนาง ช่างกล้าพูดเสียเหลือเกิน ดูจากความห่างของอายุ เกรงว่าอีกสิบปียี่สิบปีจะเป็นนางที่ต้องเป็นฝ่ายไปเก็บกวาดทำความสะอาดเซ่นไหว้หลุมศพให้เขาเสียด้วยซ้ำหมอจางไม่รับรู้ถึงความรังเกียจของเยว่อวิ๋นสักนิด เขายังคงโขกศีรษะพร่ำพรรณาอย่างมีความสุข “อาจารย์ไม่ต้องห่วง ข้าจางถิงแห่งสกุลจางแม้ขาดอะไรแต่ไม่เคยขาดเงิน ศิษย์จะไม่ทำให้ท่านอับอายขายหน้า วันนี้เพียงโข

    Last Updated : 2025-04-21
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ข่าวลือ (1)

    แน่นอนว่าเยว่อวิ๋นไม่คิดอธิบายความหมายของประโยคที่กล่าวให้เซี่ยหว่านหรูฟัง พอเอ่ยจบก็เดินจากมาทันทีเซี่ยหว่านหรูยังคงงุนงง นางยืนขบคิดอยู่เป็นนาน ถึงเข้าใจความหมายของอีกฝ่าย สะใภ้รองตัวดีกล้ามาว่านางเป็นบ้างั้นหรือพอคิดได้อ้าปากหมายจะพูด ก็เห็นว่าบนทางเดินนั้นมีเพียงนางที่ยืนอยู่ ไหนเลยจะมีเงาร่างของเยว่อวิ๋นให้เห็น“ฝากไว้ก่อนเถอะ”คิดถึงภาพพูดคุยสนิทสนมของหมอจางกับเยว่อวิ๋นที่เห็นก่อนหน้านี้ เซี่ยหว่านหรูก็แสยะยิ้มออกมาคราหนึ่งคอยดูเถอะ!หลังจากเยว่อวิ๋นผละจากน้องสามีสมองมีปัญหาได้ หญิงสาวก็รีบสาวเท้ากลับสู่กระท่อมของตนเองในทันทีเดิมทีก่อนหน้านี้เยว่อวิ๋นยังคิดก่นด่าเซี่ยฉงอวิ๋น ว่าโง่เง่าถูกหลอกใช้แล้วยังคิดช่วยผู้อื่นนับเงินอยู่อีก ทว่าเวลานี้เมื่อตระหนักได้ว่าเซี่ยฉงอวิ๋นอาจเป็นท่านกุนซือที่มาเกิดใหม่ของนาง ความผิดที่นางเคยวางไว้บนศีรษะของสามีคนนี้ ก็ถูกทุ่มกลับไปยังฝ่ายแม่เฒ่าเซี่ยกับครอบครัวจนหมดสิ้นท่านกุนซือของนางเป็นปัญญาชนผู้สง่างามมาแต่ไหนแต่ไร ไม่ผิดตรงไหนถ้าเขาจะเคารพผู้อาวุโสรักใคร่เอ็นดูผู้เยาว์ ที่ผิดก็คือครอบครัวใหญ่ต่างหาก บนล่างล้วนเลวร้ายไม่แตกต่าง มารดาลำเอี

    Last Updated : 2025-04-21
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ข่าวลือ (2)

    ขณะเดียวกันภรรยาผู้เชื่อฟังที่นอนอยู่ด้านข้างก็ได้แต่ถอนหายใจโล่งอก พลางค่อยๆ ปิดเปลือกตาลงช้าๆ ขณะนอนเอนกายลงท่ามกลางความมืดค่ำคืนแห่งความสงบมีสายลมเย็นพัดผ่าน ไอน้ำค้างยามราตรีของฤดูใบไม้ร่วงอาจไม่เหน็บหนาวเท่าฤดูเหมันต์ ทว่าด้วยกระท่อมที่แทบไม่สามารถป้องกันลมเบาๆ เมื่อรวมเข้ากับผ้าห่มที่ไร้คุณภาพ จึงแทบไม่มีประโยชน์ในการให้ความอบอุ่นแม้แต่น้อยเยว่อวิ๋นที่กำลังสลึมสลือในความมืดพลันหดคอเล็กน้อยเมื่อสัมผัสได้ถึงลมเย็น นางพยายามยกผ้าห่มขึ้นคลุมกายจนมิดชิดกว่าเดิม จากนั้นไม่นานเสียงลมหายใจสม่ำเสมอก็ดังขึ้นเบาๆพอได้ยินเสียงลมหายใจ เซี่ยฉงอวิ๋นก็รู้ทันทีว่าคนข้างๆ นั้นไปเข้าเฝ้าโจวกง[1]เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มจึงผ่อนคลายตัวเองลงกว่าเดิมทว่าเขาวางใจเร็วเกินไปหากเป็นเยว่อวิ๋นในอดีต ลมหนาวแค่นี้ไหนเลยจะระคายผิว ทว่าร่างนี้กินไม่เคยอิ่มแถมทำงานหนักไม่หยุด มองดูภายนอกคล้ายแข็งแรง ข้างในกลับแฝงไปด้วยโรคภัย เพียงน้ำค้างของยามราตรีก็ทำให้นางรู้สึกหนาวจนถึงกระดูกได้แล้วส่วนเซี่ยฉงอวิ๋น แม้อยู่ในยามเจ็บป่วยอ่อนแอไปบ้าง ทว่าพื้นฐานร่างกายกลับไม่เลวเลย ยิ่งสองสามวันมานี้ได้กินอาหารดีๆ กับย

    Last Updated : 2025-04-21
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ข่าวลือ (3)

    ส่วนทางจี้จิ่งชวนนั้นยิ่งไม่มีปัญหา ทุกสองสามวันเยว่อวิ๋นจะไปตรวจดูอาการแผลของเขา จากนั้นก็ใช้ช่วงเวลานี้แนะนำวิชาแพทย์แห่งหุบเขาโอสถกับหมอจางไปด้วย“รอหาฤกษ์ดีสักวันตั้งโต๊ะคารวะน้ำชาเถอะ” ในเมื่อนางรับอีกฝ่ายเป็นศิษย์แล้ว ก็ควรทำทุกอย่างให้ครบถ้วน วันหน้าจางถิงจะได้สามารถเซ่นไหว้บูชาเหล่าผู้อาวุโสแห่งเขาโอสถได้จางถิงรับคำน้ำเสียงยินดี พลางคิดว่าจะไปปรึกษาหลี่เจิ้งของหมู่บ้านเพื่อหาวันที่ฤกษ์ดี แล้วจ้างคนมาทำอาหารจัดงานเลี้ยงเชิญผู้อาวุโสมาร่วมเป็นพยานสักสองสามโต๊ะเยว่อวิ๋นสั่งการเสร็จก็ไม่รอให้หมอจางคิดจบ นางบอกลาเขาแล้วเดินจากมาทันที ยามที่เดินออกมาถึงลานหน้าบ้าน สายตาก็เห็นหญิงสาวกลุ่มหนึ่งทำท่าทางลับๆ ล่อๆ แอบมองมาจากนอกรั้วหมู่บ้านเซี่ยไม่ได้ใหญ่มากจำนวนคนที่อาศัยก็ไม่เยอะนัก เวลามีอะไรเกิดขึ้นในหมู่บ้าน จึงรู้กันทั่วถึงกันได้ไวมากเรื่องที่จี้จิ่งชวนกับลู่จิ่วมารักษาร่างกายที่บ้านหมอจาง แรกเริ่มนอกจากพวกเยว่อวิ๋นก็มีเพียงเซี่ยหว่านหรูที่รู้ ทว่าหลังๆ มานี้ บาดแผลจี้จิ่งชวนดีขึ้นมากเยว่อวิ๋นจึงยอมให้ลู่จิ่วกับบ่าวที่มารับใช่เพิ่มยกเขาออกมานอนข้างนอกได้รูปโฉมของจี้จิ่งชวนมิใช

    Last Updated : 2025-04-21
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ลูกถูกตีที่กายแต่ใจแม่ปวดกว่าเป็นสิบเท่า (1)

    ต้าหวางที่ถูกเยว่อวิ๋นเลือก เล่าทวนคำพูดโต้เถียงกันของของเถี่ยตั้นกับต้าเป่าทุกถ้อยคำอย่างไม่มีตกหล่นที่แท้ข่าวลือเรื่องเยว่อวิ๋นกับหมอจางที่คนบ้านใหญ่พยายามสาดโคลนนั้นไม่มีคนเชื่อ เพราะสองฝ่ายนั้นดูต่างกันจนเกินไป ทว่าข่าวลือเรื่องนางกับจี้จิ่งชวนกลับเป็นเรื่องที่น่าเชื่อกว่าในสายตาคนอื่นเนื่องจากไปตรวจอาการของจี้จิ่งชวนแต่ละครั้ง ในบ้านไม่เพียงมีหมอจางแต่ยังมีลู่จิ่วกับบ่าวคนอื่นอีก เยว่อวิ๋นจึงไม่เคยคิดว่าจะมีใครนำเอานางกับจี้จิ่งชวนไปผูกติดกันได้แม้เรื่องนี้จะถูกพูดปากต่อปาก แต่ใครเล่าจะกล้าเอ่ยต่อหน้าเจ้าตัว เพียงแต่เถี่ยตั้นนั้นเป็นหนึ่งในกลุ่มเพื่อนนิสัยเสียของเซี่ยเสี่ยวเกอ ในอดีตก็ชอบรวมหัวกันกลั่นแกล้งสองพี่น้องฝาแฝด พอมาวันนี้เห็นต้าเป่าใส่ชุดใหม่มาเก็บฟืนเป็นจุดสนใจของเด็กๆ ด้วยกันก็ไม่พอใจหาเรื่องพูดจาถากถางกระทั่งลามไปถึงเรื่องเยว่อวิ๋นมีความสัมพันธ์กับบุรุษแปลกหน้าในบ้านหมอจางต้าเป่าเองก็อยู่ด้วยตอนที่เยว่อวิ๋นช่วยเหลือนายบ่าวสกุลจี้ ย่อมรู้ดีว่าเรื่องพวกนี้ไม่เป็นความจริง เขาที่ยามปกติมักเมินเฉยต่อการกลั่นแกล้งจึงลุกขึ้นมาแก้ต่างแทนมารดาอย่างเอาเป็นเอาตายเถี่ยตั้น

    Last Updated : 2025-04-21
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ลูกถูกตีที่กายแต่ใจแม่ปวดกว่าเป็นสิบเท่า (2)

    เยว่อวิ๋นด่าพลางยิ้มเย็นว่ากันว่าเด็กคือสีขาวบริสุทธ์ คำพูดสีดำชั่วร้ายเหล่านี้มาจากไหนไม่ต้องคิดก็รู้ได้“ภรรยาฉงอวิ๋นเจ้าก็พูดแรงเกินไป เถี่ยตั้นเป็นแค่เด็กคนหนึ่งเขาไม่รู้ความจึงพูดไปเรื่อย เจ้าเป็นผู้ใหญ่จำต้องถือสาเรื่องเล็กน้อยกับเด็กน้อยไร้เดียงสาด้วยหรือ” หลัวซื่อโวยวาย นางรู้ดีว่าคำพูดที่บุตรชายด่าออกมาทั้งหมด เป็นเพราะจดจำมาจากนางในยามปกติทั้งสิ้น“แล้วอย่างไร” เยวอวิ๋นเลิกคิ้วสูงถามต่อ “บุตรชายเจ้าชี้หน้าร้องด่าข้าเป็นรองเท้าขาด คำว่านางแพศยาก็กล้าพูด กระทั้งถึงขั้นแช่งให้ฟ้าผ่าข้าตาย นี่คือคำพูดของเด็กไร้เดียงสาที่เจ้าว่าหรือ”เยว่อวิ๋นพูดจบก็ก็เดินไปหยุดตรงหน้าหลัวซื่อช้าๆ เถี่ยตั้นที่อยู่ข้างมารดาสบตานางอย่างตื่นตระหนก เห็นเพียงแววตาเย็นชาที่ปรายมองราวกับเขาเป็นสิ่งของไร้ชีวิต “ยะ อย่าเข้ามานะนางปีศาจ!”“อย่านะ! เจ้าจะทำอะไรลูกข้า” หลัวซื่อร้องเสียงสั่น นางมีลูกชายสองคน ไม่ว่าคนไหนก็ล้วนเป็นแก้วตาดวงใจของนางทั้งสิ้นเถี่ยตั้นเห็นผู้หญิงตรงหน้ารุกไล่ขึ้นมาเรื่อยๆ ในดวงตาเริ่มเผยความหวาดหวั่น จากแรกๆ ที่ยังโวยวายก่นด่าไม่หยุด ก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นขอความช่วยเหลือจากมารดาแทน

    Last Updated : 2025-04-21

Latest chapter

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ต้องขแบคุณนางจริงๆ(8)

    หลังผ่านเหตุการณ์ปิดประตูทุบตีคน เยว่อวิ๋นก็กลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมตามปกติคล้ายลืมเลือนไปแล้วว่ามีเรื่องนี้อยู่ จนกระทั่งเซี่ยฉงอวิ๋นเอ่ยถามขึ้นระหว่างกินอาหาร“บ้านเดิมเจ้าไม่มาแล้วหรือ” คิดถึงการสนทนาของนางกับคนสกุลเยว่ที่บุตรชายถ่ายทอดให้ฟัง ดวงตาของเซี่ยฉงอวิ๋นก็ดำมืดขึ้นหลายส่วน“อืม” เยว่อวิ๋นตอบรับสั้นๆ พลางคีบเครื่องในหมูตุ๋นที่ฉีซื่อนำมาให้เข้าปากอย่างเอร็ดอร่อยเช้าวันนี้นางนึ่งหมั่นโถแป้งขาวหลายสิบลูก ทั้งยังต้มโจ๊กธัญพืชอีกหม้อหนึ่ง ของสองสิ่งนี้กินเข้ากันได้ดียิ่งกับเครื่องในหมูตุ๋น แม้แต่เซี่ยฉงอวิ๋นก็ยังกินได้มากกว่าเดิม ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสองฝาแฝด โดยเฉพาะเสี่ยวอวี้ที่กินจนริมฝีปากเลอะน้ำมันฉ่ำวาว“ท่านแม่อร่อยจังเลยเจ้าค่ะ” เสี่ยวอวี้น้อยกัดหมั่นโถที่มารดาฉีกผ่ากลางแล้วยัดชิ้นเครื่องในลงไปคำโต “กินอย่างนี้อร่อยเหมือนที่ท่านแม่บอกจริงๆ ด้วยเจ้าค่ะ”ต้าเป่าลอบมองมารดาที่เช็ดคราบบนใบหน้าน้องสาวแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยนพลางเม้มริมฝีปากแน่น ท่าทางสนิทสนมนั้นทำให้เขารู้สึกอิจฉาอย่างบอกไม่ถูก ทว่าด้วยนิสัยและความเป็นพี่ทำให้เขาไม่อาจออดอ้อนเกาะติดอีกฝ่ายได้เขาโตแล้วสิ่งที่ควรทำคื

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ต้องขอบคุณนางจริงๆ (7)

    “ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ดีแล้ว” แม่เฒ่าเยว่ขมวดคิ้วครุ่นคิดหนักขนาดเซี่ยฉงอวิ๋นป่วยล้มหมอนนอนเสื่อเป็นคนไร้ประโยชน์ นางเด็กนั่นยังหยิ่งผยองไม่สนใจทางบ้านเดิมเช่นนี้ แล้วถ้าสามีนางได้เป็นซิ่วไฉหรือขุนนางขึ้นมาจริงๆ นางจะไม่ลอยขึ้นฟ้าจนมองไม่เห็นศีรษะใครเลยอย่างนั้นหรือ“ฟังจากที่พวกเจ้าเล่ามา ในใจเด็กนั่นผูกความแค้นกับพวกเราเอาไว้แล้ว ถ้าหากสามีนางมีอำนาจขึ้นมาวันใดจริงๆ คนที่นางคิดจะเล่นงานคนแรกมีหรือจะไม่ใช่พวกเรา” แม่เฒ่าเยว่พูดจบก็ตวัดสายตามองไปยังลูกสะใภ้คนรองที่ยืนหน้าซีดอยู่มุมห้อง “สมเป็นตัวสารเลวที่เจ้าคลอดออกมาจริงๆ สกุลเยว่ของข้าช่างโชคร้ายที่มาเจอตัวอัปมงคลอย่างพวกเจ้าสองแม่ลูก”แม่เฒ่าเยว่ยังคงก่นด่าไม่หยุด ทว่าสะใภ้รองที่ปกติมักมีท่าทีเหมือนหนูเจอแมวยามนี้กลับไร้การตอบสนอง จนแม่เฒ่าเยว่ต้องไล่อีกฝ่ายให้ไปทำงานให้พ้นหูพ้นตาเสีย“ท่านแม่ ท่านว่านางเด็กนั่นจะมาพาแม่นางไปไหมเจ้าคะ” เห็นว่าน้องสะใภ้จากไปแล้ว จางชุ่ยจึงหันไปถามแม่สามีด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา“นางกล้าหรือ” แม่เฒ่าเยว่ตวาดพลางชักสีหน้า “หลิวซื่อเป็นสะใภ้ของข้า นางอยู่ก็เป็นคนสกุลเยว่ตายก็ต้องเป็นผีสกุลเยว่ ข้ายังไม่ตายใครห

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ต้องขอบคุณนางจริงๆ (6)

    “ไม่ได้ทำอะไรงั้นหรือ พวกเจ้ามาถึงก็อ้างความกตัญญูเรียกร้องให้ข้ามอบสิ่งของให้ พอข้าไม่ยอมก็คิดจะทำร้ายข้า นี่ยังเรียกว่าไม่ได้ทำอะไรอีกหรือ” เยว่อวิ๋นเอียงคอถามน้ำเสียงจริงจัง“แล้วจะทำไม ในเมื่อบ้านเราเลี้ยงดูเจ้ามาตั้งหลายสิบปี จะให้เจ้าแสดงความกตัญญูบ้างมันผิดตรงไหน อย่าลืมนะว่าถ้าไม่ใช่เพราะท่านแม่ข้ามีเมตตา ลูกกำพร้าไม่มีพ่ออย่างเจ้าจะเติบโตมาได้หรือเปล่าก็ยังไม่แน่” เยว่เจินเจินตวาด ดวงตานางมองเสื้อผ้าที่เยว่อวิ๋นสวมใส่อย่างขุ่นเคืองเยว่เจินเจินจำได้อย่างแม่นยำว่าตอนที่พวกตนส่งตัวนางเด็กนี่ออกมา ในห่อผ้าที่อีกฝ่ายนำติดตัวมามีแค่ชุดเก่าขาดวิ่นชุดเดียวเท่านั้น แต่ยามนี้เสื้อผ้าบนตัวอีกฝ่ายกลับดูใหม่กว่าชุดที่ตนเองจงใจเลือกสวมใส่มาเสียอีก นี่แสดงให้เห็นว่าชีวิตหลังแต่งงานของนางเป็นไปได้ด้วยดีเยว่อวิ๋นไหนเลยจะคาดคิดว่าจะถูกเกลียดชังเพียงเพราะตัวเองใส่เสื้อผ้าใหม่ นางเห็นสายตาอาฆาตที่เยว่เจินเจินมองมาก็คิดไปว่าอีกฝ่ายผูกใจเจ็บที่ถูกตัวเองทำร้ายเท่านั้น แน่นอนว่าหากนางล่วงรู้คงได้ถ่มน้ำลายใส่อาหญิงผู้นี้เป็นแน่“เลี้ยงดูข้า แน่ใจหรือว่าพวกเจ้าเลี้ยงดูข้าจริงๆ” เยว่อวิ๋นกล่าวทวนยิ้ม

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ต้องขอบคุณนางจริงๆ (5)

    “สะใภ้ใหญ่ที่เจ้าเล่ามาเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นหรือ” แม่เฒ่าเยว่ถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ เนื่องจากรู้นิสัยชอบพูดใส่สีตีไข่ของลูกสะใภ้คนโตดี“จริงสิเจ้าคะ ถ้าท่านแม่ไม่เชื่อจะไปถามอาฮัวดูก็ได้ นางมาเล่าให้ข้าฟังว่านางเป็นคนเห็นกับตาเลย” จางชุ่ยยืนยันหนักแน่น ในดวงตายังฉายแววอิจฉาไม่หาย“อาฮัวเล่าว่าเมื่อหลายวันก่อนนี้ ยายเด็กอวิ๋นจับหมูป่ามาได้ตัวหนึ่ง หนักเกือบสามร้อยจินแน่ะเจ้าค่ะ นางแบ่งขายเนื้อคนในหมู่บ้านได้เงินมาไม่น้อย แถมยังให้เนื้อบ้านลุงของสามีไปตั้งหลายจิน นางช่างมีน้ำใจดียิ่งนัก แต่กลับไม่เคยคิดถึงบ้านเดิมอย่างพวกเราหรือยายแท้ๆ อย่างท่านแม่เลยสักนิด” แม้จะพูดออกไปแบบนั้น ทว่าในใจจางชุ่ยก็พอรู้ดีว่าพวกตนปฏิบัติต่อหลานสาวบ้านรองคนนี้อย่างไร หากเยว่อวิ๋นยังคิดถึงอยู่ก็คงบ้าไปแล้วส่วนอาฮัวที่จางชุ่ยพูดถึงก็คือลูกสาวของบ้านฟางเพื่อนบ้านที่อยู่ถัดไปไม่ไกล อีกฝ่ายแต่งให้กับคนแซ่จ้าวในหมู่บ้านเซี่ยก่อนหน้าเยว่อวิ๋นไม่นาน โดยเมื่อวานนี้เจ้าตัวได้กลับมาเยี่ยมบ้านเดิม จางชุ่ยที่รู้จักกับอีกฝ่ายดีก็ได้พบและพูดคุยกันอยู่เป็นนาน“อาฮัวยังบอกอีกด้วยนะเจ้าคะ ว่านางเด็กนั่นมีเงินติดตัวไ

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ต้องขอบคุณนางจริงๆ (4)

    การปะทะกันระหว่างสะใภ้ครั้งนี้จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของอู่ซื่อ เนื่องจากรู้ดีว่าเป็นตัวเองที่ไร้เหตุผลก่อน ยามพ่อสามีกลับมากินอาหารเย็น อู่ซื่อจึงไม่ได้รื้อฟื้นเรื่องราวขึ้นมาอีกแต่อย่างใดเพียงแต่อู่ซื่อไม่เอ่ยถึง ไม่ได้หมายความว่าเจินซื่อจะปล่อยผ่าน พวกนางสะใภ้ทั้งสามล้วนทำหน้าที่ของตัวอย่างเต็มกำลังเรียกได้ว่าไม่มีใครติดค้างใคร ดังนั้นในหมู่พวกนางจึงไม่มีใครจำเป็นต้องมายอมลงให้แก่สะใภ้รองทั้งสิ้นหลังอาหารเย็นผ่านไปสามครอบครัวแยกย้ายกันแล้ว เจินซื่อก็พาสามีมาพูดคุยกับเซี่ยเหล่าซาน นางเล่าเรื่องการปะทะริมฝีปากของบ้านสองกับบ้านสามให้พ่อสามีฟังอย่างตรงไปตรงมา ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยความกังวลใจ“ท่านพ่อ แต่ไหนแต่ไรเมื่อก่อนยามมีปัญหา น้องสะใภ้สามก็มักจะเป็นฝ่ายยอมเสียเปรียบเรื่องราวจึงไม่ได้ลุกลามใหญ่โต แต่ตอนนี้น้องสะใภ้สามมีความคิดไม่ยอมถอยแล้ว ด้วยนิสัยน้องสะใภ้รองข้าเกรงว่านางจะยิ่ง...” เคยเอาเปรียบได้มาตลอด จู่ๆ กลับทำไม่ได้ นิสัยอย่างอู่ซื่อไม่ก่อเรื่องใหญ่น่ะสิแปลก“หากน้องสะใภ้รองจะแสดงความไม่พอใจใส่ข้ากับน้องสะใภ้สาม มันก็คงไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร เพียงแต่ข้ารู้สึกว่านางมักพุ่งเป้าไปท

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ต้องขอบคุณนางจริงๆ (3)

    คิดแล้วสวีเหยาก็หัวเราะอย่างพึงพอใจเยว่อวิ๋นบนรถม้าไม่รู้ความคิดของสวีเหยากับพวกเซี่ยซื่อ นางนั่งรถม้าของเซี่ยต้าจวงมาถึงหน้ารั้วก็กระโดดลงอย่างคล่องแคล่ว หลังจากนั้นไม่นานเซี่ยหู่ที่ได้ยินเสียงเรียกก็เปิดประตูออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“พี่สะใภ้”เยว่อวิ๋นขานรับเสียงอืม ก่อนจะเผยสีหน้าประหลาดใจ เมื่อเห็นกลุ่มคนที่เดินตามเซี่ยหู่ออกมา “เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ”มองดูผู้ใหญ่บ้านที่อยู่ด้านหลังกลุ่มคน เยว่อวิ๋นพลันขมวดคิ้วแน่น ใจเริ่มคาดเดาความเป็นไปได้“ไม่มีเรื่องอะไร ภรรยาฉงอวิ๋นไม่ต้องตกใจ พวกเราแค่มาเยี่ยมฉงอวิ๋นกันเฉยๆ”นางหนูนี่อะไรก็ดี เสียดายมือไวใจร้อนไปสักหน่อย ถ้าไม่พูดให้รู้เรื่องประเดี๋ยวนางเกิดเข้าใจผิดไล่ตีคนขึ้นมาจะทำอย่างไร คิดถึงภาพเซี่ยหยวนชางที่ถูกทุบตีจนหมดสภาพเมื่อคืนวาน เซี่ยฉางก็รีบเอ่ยอธิบายทันทีเยว่อวิ๋นฟังแล้วผงกศีรษะพลางกล่าวขอบคุณเหล่าคนที่มา ก่อนจะหันไปยกของบนเกวียนเข้าบ้าน เห็นดังนั้นเซี่ยหู่กับคนอื่นๆ ก็กุลีกุจอเข้ามาช่วยเหลือคนละไม้คนละมือโดยไม่ต้องบอกผู้มาส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านกับบรรดาญาติๆ ที่มีความสัมพันธ์อันดีกับเซี่ยฉงอวิ๋น เยว่อวิ๋นเองก็จดจำพวกเขาได้ เพร

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ต้องขอบคุณนางจริงๆ (2)

    เยว่อวิ๋นไม่ได้หันกลับมาจึงไม่เห็นท่าทีหม่นหมองของนายท่านกู้ แน่นอนว่าถึงเห็นนางก็มิได้ใส่ใจอยู่ดี เพราะพอรับถุงใส่ตั๋วเงินมาได้ นางก็พาสองซาลาเปากับชิงหลัวไปซื้อของละลายทรัพย์กันทันทีเพราะมีหลายเรื่องเข้ามา ทำให้กว่าจะทำการผ่าตัดเสร็จก็เสียเวลาไปไม่น้อย เยว่อวิ๋นมองดวงอาทิตย์ที่เริ่มตกคล้อย แล้วจึงตัดสินใจซื้อซาลาเปาให้ทุกคนกินรองท้องกันไปก่อนซาลาเปาแป้งขาวนุ่มไส้เนื้อแน่นมีควันลอยกรุ่นส่งกลิ่นหอมฉุยมองดูน่ากินยิ่งนัก แม้แต่ชิงหลัวเองยังกินลงไปถึงสองลูกด้วยกัน พอกินเสร็จได้สตินางก็แทบอยากตบปากตัวเองยิ่งนัก ซาลาเปาลูกละสองอีแปะสองลูกก็ปาเข้าไปสี่อีแปะแล้ว นี่นางเป็นผีหิวโหยหรือไรถึงได้สมาปามมื้อเดียวตั้งสี่อีแปะแบบนี้ทว่าคนที่คิดแบบนี้หาใช่นางคนเดียวไม่ ต้าเป่ามองมารดากับน้องสาวที่พริบตาก็เริ่มกินลูกที่สองแล้ว จึงลงมือกินซาลาเปาที่ถูกแบ่งเป็นสองซีกในมือของตนเองเงียบๆช่างเถอะ ดูจากปริมานการกินของน้องสาวกับท่านแม่แล้ว ซาลาเปาครึ่งลูกของเขาคงไม่พอให้พวกนางยัดซอกฟันด้วยซ้ำ เด็กชายพยายามปลอบใจตัวเองเห็นบุตรชายกินไปหนึ่งลูกแล้วก็ปฏิเสธไม่เอาอีก เยว่อวิ๋นที่กินลูกที่สามก็เข้าใจทันทีว่าโ

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ต้องขอบคุณนางจริงๆ (1)

    พอได้ยินว่าตัวเองจะได้เป็นผู้ช่วยในการผ่าตัด หมอเฉินก็โยนเรื่องที่ถูกปิดบังทิ้งไปจากสมองทันที ชายชราวิ่งไปสั่งคนจัดเตรียมทุกอย่างด้วยท่าทีร่าเริง จนแม้แต่กู้เหยียนเซียวเองมองแล้วยังรู้สึกแสบนัยน์ตา“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าสวี่ซื่อจะต้องขัดขวาง” กู้เหยียนเซียวเห็นว่าไม่มีคนอยู่แล้วจึงถามขึ้น ยาที่ใช้หลอกทุกคนชามนั้นบอกชัดเจนว่าเยว่อวิ๋นล่วงรู้แผนการของสวี่ซื่อ“นางพุ่งเป้ามายังข้าอย่างเห็นได้ชัด เจ้ามองไม่ออกหรือ” ต่อให้ไม่พอใจที่นางเป็นหมอบ้านนอกไม่มีชื่อเสียง แต่ความมุ่งร้ายของสวี่ซื่อที่มีต่อนางก็มากเกินไปข้อมูลที่จี้จิ่งชวนเคยบอกเมื่อรวมกับคำบอกเล่าของกู้เหยียนเซียว ก็พอทำให้เยว่อวิ๋นพอจะคาดเดาฐานะคุณชายใหญ่ของอีกฝ่ายออก นางที่ตรวจอาการของฮูหยินผู้เฒ่าแล้ว ย่อมรู้ว่าการใช้ลูกเสือมาเป็นกระสายยาเป็นเรื่องหลอกลวง เป้าหมายที่แท้จริงน่าจะเป็นการชักนำเขาออกจากเมืองหลวงเพื่อสังหารเสียมากกว่าเยว่อวิ๋นเป็นแม่ทัพที่ชำนาญกลอุบายผู้หนึ่ง แค่ขบคิดเล็กน้อยก็เดาออกว่าเมื่อจี้จิ่งชวนตายไป ผลประโยชน์จะตกอยู่ที่ใคร เมื่อคิดย้อนไปอีกว่าจี้จิ่งชวนบอกเรื่องราวที่เขาประสบมาแค่กับฮูหยินผู้เฒ่า ไม่ได้ติดต่

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   คุณชายใหญ่ (4)

    “นางสารเลวเจ้าว่าใครเป็นอนุ!” คำเรียกขานว่าอนุนับเป็นคำต้องห้ามในใจสวี่ซื่อ เพราะมันทำให้นางหวนนึกถึงวันเวลาที่ทำได้แค่ก้มหน้ามองผู้อื่นด้วยความต่ำต้อย สวี่ซื่อเงยหน้าจ้องเขม็งไปที่เยว่อวิ๋น นึกอยากโผเข้าไปข่วนใบหน้าอีกฝ่ายสักหลายๆ ที“ชวนเอ๋อร์ เจ้าจะมองนางลบหลู่แม่อยู่อย่างนี้น่ะหรือ เจ้าก็รู้ถึงข้าจะไม่ใช่มารดาแท้ๆ แต่ก็ดูแลรักใคร่พวกเจ้าสองคนพี่น้องอย่างดีมิใช่หรือ” ถึงตอนนี้สวี่ซื่อพลันรู้สึกโชคดีที่ตนสร้างภาพเป็นมารดาผู้แสนดีเอาใจใส่พวกเขามาโดยตลอด เพราะอย่างน้อยนางก็สามารถใช้หลักเกณฑ์ความกตัญญุมาบีบเขาได้ทว่าสวี่ซื่อยังไม่ทันคิดดีใจจบ จี้จิ่งชวนก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน “อย่ามาเสแสร้งแสดงให้ข้าขำหน่อยเลย เจ้าหรือจะมาเทียบกับท่านแม่ของข้าได้ เจ้าก็แค่บุตรีอนุที่ถูกยกให้บิดาข้าเพื่อเชื่อมสัมพันธ์เท่านั้น ในขณะที่ท่านแม่ข้าเป็นบุตรสาวสายตรงของจวนอู่โหว ยามนางแต่งให้ท่านพ่อก็นั่งเกี้ยวแปดคนหามเข้าประตูใหม่ถูกต้องตามพิธีการทุกอย่าง แล้วเจ้าเล่ามีอะไรที่บ่งบอกฐานะบ้าง น่าขันนัก”สวี่ซื่อโมโหจนแผ่นอกสะท้อนขึ้นลง นางกุมหน้าอกนึกอยากก่นด่าเจ้าเด็กสารเลวเลี้ยงไม่เชื่องตรงหน้าแต่จนใจที่พูดไม่อ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status