เยว่อวิ๋นผู้พ่ายแพ้ในศึกครั้งนี้ โซเซหนีเข้าป่าประหนึ่งทหารหนีทัพ นางลูบคลำแก้มที่ร้อนผ่าวของตนพลางบ่นอุบอิบ ทำไมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าท่านกุนซือที่เปรียบดุจบุปผาบนยอดเขาสูงในอดีต จะมีด้านที่เหมือนมนุษย์ปุถุชนแบบนี้ด้วยรอจนใบหน้าไม่เห่อร้อนสติที่เตลิดหายกลับคืน เยว่อวิ๋นก็พบว่าตนเองเดินเข้าป่าลึกมาจ
หลีจวินโหวกเหวกอยู่พักหนึ่ง ทว่าหูกลับไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าเลย ชายหนุ่มเข้าใจทันทีว่าหญิงสาวด้านบนยังไม่ได้จากไป เขาคาดเดาในใจว่าอีกฝ่ายคงกำลังชั่งน้ำหนักอยู่ว่าจะช่วยเหลือตนดีหรือไม่ เขาคิดแล้วจึงร้องตะโกนยื่นข้อเสนอต่อไม่หยุด“เฮ้ คนงาม... พี่สาว... เจ้ายังอยู่ไหม เอาอย่างนี้เรามาตกลงกันดีกว่า ถ้าเ
นางคิดว่า อย่างน้อยๆ ถ้าตนแบกคนผู้นี้ลงเขาในสภาพไร้สติน่าจะไม่หนวกหูกว่าเยว่อวิ๋นคิดแล้วจึงสะพายตะกร้าขึ้นหลัง จับร่างหลีจวินขึ้นพาดบ่า พลางออกแรงกระโดดขึ้นจากหลุม ขึ้นเขาคราวนี้นับว่าเสียเที่ยวโดยแท้จริง นอกจากจะไม่ได้สัตว์อะไรติดไม้ติดมือกลับบ้าน แล้วยังต้องมาลำบากแบกคนน่าสงสัยกลับไปอีกเยว่อวิ๋น
“วันนี้ต้าเป่าบอกว่าเจ้าเก็บปีศาจจิ้งจอกมาได้” ในกลางดึกที่เงียบสงัดไร้เสียงรบกวน จู่ๆ ไหน้ำส้มแซ่เซี่ยก็ได้เปิดบทสนทนาระหว่างสามีภรรยาขึ้นเยว่อวิ๋นมุมปากกระตุกเล็กน้อย คำพูดนี้ไฉนนางถึงรู้สึกราวกับตนเองเป็นคนใจโลเล ที่ทิ้งครอบครัวไปหลงใหลคนงามกันนี่ต้าเป่าเป็นเด็กช่างจดจำ เด็กน้อยเคยได้ยินผู้หญิง
“ท่านแม่” สองซาลาเปาน้อยเห็นมารดาก็วิ่งถลาเข้ามาหาทันที เยว่อวิ๋นรีบอ้าแขนกอดรับตัวพวกเขาไว้ พลางมองลานฝึกที่ตอนนี้ไม่ได้ว่างเปล่าเหมือนแต่ก่อนแล้ว“ชกเสาไม้เสร็จหรือยัง” หญิงสาวก้มลงถามร่างในอ้อมกอด“เสร็จแล้วขอรับ”“เสร็จแล้วเจ้าค่ะ”ตอนนี้ในลานมีเสาไม้พันเชือกสองเสา ทุกๆ เช้าหลังจากต้าเป่ากับเสี่
เยว่อวิ๋นพาเสี่ยวอวี้เดินทางเข้าตำบล โดยไม่ล่วงรู้เลยว่าที่หมู่บ้าน สามีกับบุตรชายของนางกำลังสุมหัวกัน คิดทำเรื่องพลิกฟ้าพลิกดินอยู่หญิงสาวนั่งกอดซาลาเปาน้อยของตนบนเกวียนเทียมวัวด้วยท่าทีผ่อนคลาย สายตาเหม่อมองสองฟากข้างไร้จุดหมาย เปิดปากตอบคำถามของเจ้าตัวเล็กทีละประโยคอย่างอ่อนโยน“ท่านแม่ ตอนขากลั
“เถ้าแก่กู้”กู้เหยียนเซียวพยักหน้า เอ่ยเสียงขรึม “ข้าพาเจ้าไปดูอาการฮูหยินผู้เฒ่าจี้เอง”เฉียนซานมองตามหลังเจ้านายด้วยสายตาสงสัย ไหนนายท่านบอกว่ามีงานด่วนต้องรีบสะสาง ถ้าหมอเยว่มาไม่จำเป็นต้องเข้าไปรายงานอย่างไรเล่า เหตุใดยามนี้กลับเป็นฝ่ายเสนอตัวเองแทนแล้วล่ะต่อให้เฉียนซานฉลาดเฉลียวกว่านี้ ก็ไม่ม
เรื่องไม่เหตุสมผลเลยแม้แต่น้อย ทว่าเยว่อวิ๋นที่นานทีจะเกิดเมตตาจิตไม่ได้เปิดโปงอีกฝ่ายออกไป ที่นางมาถามข่าวกับเฉียนซานก็แค่อยากจะประเมินความร้ายแรงของเรื่องนี้เท่านั้น และก็จริงดังที่คาดไว้เสียด้วยหากหลีจวินเป็นเพียงทายาทตระกูลชั้นสูงที่มาเที่ยวเล่น ตำบลซานซีทั่วไป มีหรือที่คนในพื้นที่จะไม่รู้เรื่อ
ทว่าสวีเหยากลับไม่ได้ทำอะไรเยว่อวิ๋นอย่างที่ทุกคนคาดเดา นางเพียงพุ่งไปคุกเข่าเบื้องหน้าเยว่อวิ๋น ก่อนจะก้มลงโขกศีรษะให้ฝ่ายหลังสุดแรง“เยว่อวิ๋น ขอร้องเจ้าแล้ว ยอมให้ข้าเป็นอนุของพี่ชายอวิ๋นเถอะ ขอแค่เจ้ายอมรับปาก ข้าสาบานจะปรนนิบัติรับใช้เจ้ากับพี่ชายอวิ๋นจนชีวิตหาไม่”สวีเหยาพร่ำขอร้องไปพลางโขกศีร
อีกด้าน เยว่อวิ๋นกำลังฝังเข็มให้เซี่ยฉงอวิ๋นอยู่เช่นกัน ทว่าฝั่งนี้กลับดูสบายกว่าทางหลีจวินอย่างเห็นได้ชัด“หลีจวินนี่เด็กจริงๆ เขาแกล้งเอะอะใส่หมอจางทุกครั้งแบบนี้สนุกนักหรือไง” เยว่อวิ๋นฟังเสียงร้องโหยหวน พลางขมวดคิ้วบ่นเบาๆถึงอย่างไรหมอจางก็เป็นลูกศิษย์นาง เจ้าหนุ่มนั่นไม่รู้จักเคารพผู้อาวุโสเอา
ได้ยินอีกฝ่ายสาธยายความผิดของฟางฮัวทีละข้อชัดถ้อยชัดคำ เยว่อวิ๋นได้แต่นิ่งเงียบพูดไม่ออก นี่เขาพิการออกไปไหนไม่ได้จริงหรือส่วนฟางฮัวผู้นี้คงรังเกียจว่าชีวิตตนสงบสุขเกินไปสินะ ถึงได้พยายามรนหาที่ซะเหลือเกินเซี่ยฉงอวิ๋นเห็นภรรยาไม่คิดจะพูดแทนฟางฮัวอีกก็พอใจอย่างมาก เขาเอื้อมมือดึงคนเข้ามากอดขณะเอ่ยเ
“สงสารนางหรือ” ต้าเป่าที่ก้มหน้าได้ยินคำถามก็เงยหน้าขึ้นทันที“ไม่ขอรับ นางสมควรได้รับแล้ว” เขาจะสงสารนางได้อย่างไร สะใภ้ใหญ่จ้าวผู้นั้นมีเจตนาร้ายต่อมารดาเรื่องข่าวลือเสียหายคราวก่อนก็เป็นนางที่รับเงินสวีเหยามาใส่ร้ายท่านแม่ ตอนที่พวกเถี่ยโกว่มาเล่าเรื่องนี้ให้ฟังเขาก็จดชื่อนางไว้ในบัญชีแค้นแล้วต
ผู้ใหญ่บ้านเพิ่งพูดจบก็หันมาพบกับเยว่อวิ๋นยืนอุ้มเสี่ยวอวี้อยู่ ใบหน้าชายชราพลันเผยแววกระอักกระอ่วนให้เห็นวูบหนึ่ง คำพูดใดๆ ล้วนติดอยู่แค่ในลำคอแต่ยังโชคดีที่เยว่อวิ๋นนั้นสำเร็จวิชาขั้นสูงแล้ว คำพูดค่อนขอดลอยๆ ของผู้ใหญ่บ้านจึงไม่สามารถโจมตีทะลุผิวหน้าหนาๆ ของนางไปได้หญิงสาวเพียงยกมือลูบจมูกเบาๆ น
“แล้วกันไป ง่ายดายแบบนี้เลย แล้วชื่อเสียงลูกชายข้าล่ะ จ้าวฮวา คนเริ่มก่อนเป็นบ้านเจ้า ถึงตอนนี้ป้ายอุจจาระใส่ศีรษะต้าหว่างของข้าจนเหม็นแล้วคิดจะสะบัดก้นกันไปง่ายๆ งั้นหรือ ฝันไปเถอะยายแก่เจ้าเล่ห์!”“แล้วเจ้าจะเอาอย่างไร” ป้าจ้าวชักสีหน้าหงุดหงิด ต้าหว่างเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง โดนด่านิดด่าหน่อยจะเป็นอะไ
อีกทั้งสาเหตุที่นางขอให้เถี่ยโกว่กับต้าหว่างปิดบังเรื่องนี้ สาเหตุแท้จริงก็ไม่ใช่เพราะเรื่องสิ่งของเสียหน่อยสกุลฟางมีบุตรสาวถึงสามคน ส่วนบุตรชายกลับมีแค่คนเดียวเท่านั้น บิดามารดาของฟางฮัวจึงรักถนอมเขามาก ทว่าความรักที่มากเกินไปก็ใช่ว่าจะดี ฟางเฉาที่ถูกตามใจมาแต่เล็กก็เช่นกัน เขาโตมาจนอายุขนาดนี้กลั
หญิงที่อยู่นอนเกลือกกลิ้งอยู่บนพื้นกรีดร้องร่ำไห้สภาพน่าเวทนายิ่งนัก ทว่าหญิงสูงวัยผู้ลงมือกลับมิได้ผ่อนแรงลงแม้แต่น้อย ซึ่งเยว่อวิ๋นจะไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย ถ้าสตรีสองนางนี้ไม่ใช่คนที่นางกับเซี่ยฉงอวิ๋นพูดถึงเมื่อวานนี้ฟางฮัวกับแม่สามีของนางนั่นเอง…“นางแพศยา เจ้าแต่งมาเป็นสะใภ้บ้านจ้าวเรา กินดื่มล้
เรื่องไม่เหตุสมผลเลยแม้แต่น้อย ทว่าเยว่อวิ๋นที่นานทีจะเกิดเมตตาจิตไม่ได้เปิดโปงอีกฝ่ายออกไป ที่นางมาถามข่าวกับเฉียนซานก็แค่อยากจะประเมินความร้ายแรงของเรื่องนี้เท่านั้น และก็จริงดังที่คาดไว้เสียด้วยหากหลีจวินเป็นเพียงทายาทตระกูลชั้นสูงที่มาเที่ยวเล่น ตำบลซานซีทั่วไป มีหรือที่คนในพื้นที่จะไม่รู้เรื่อ