สถานที่: คฤหาสน์คุโรซาวะ – เวลา 14:48 น.บ่ายวันหนึ่ง ที่ควรสงบเหมือนทุกวันในรั้วคฤหาสน์มาเฟีย…แต่ทันใดนั้น—เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มก็ดังขึ้นจากรั้วหน้าวรู๊มมมมมมมมมมมมมมมม—!!เสียงท่อแต่งของมอเตอร์ไซค์สไตล์คัสตอมกระแทกโสตประสาทอย่างจังรถยนต์กันกระสุนของแก๊งคุโรซาวะที่จอดอยู่เรียงรายถึงกับสั่นสะเทือนเล็กน้อยตามจังหวะเบรกหัวทิ่มของขบวนชายหนุ่มที่ขี่นำ ถอดหมวกกันน็อกอย่างช้าๆผมสีเงินซีดถูกลมตีปลิวพลิ้วเบาๆ เหมือนฉากเปิดตัวของวายร้ายที่สาวๆ พร้อมจะตกหลุมรักในทันทีนัยน์ตาสีอำพันทอแสงแหลมคม—เหมือนเหยี่ยวที่มองเป้าหมายแม้จะอยู่ไกลหลายไมล์ซัน… เดินอย่างไม่เร่งรีบ ท่ามกลางสายตาระแวดระวังของบอดี้การ์ดเกือบสิบชีวิตเขายกมือขึ้นเหมือนจะบอกว่า ‘ใจเย็น’แต่รอยยิ้มบางบนใบหน้านั้น… กลับให้ความรู้สึกเหมือนกำลังบอกว่า ‘ถ้ายิงมา… ฉันจะสวนหมด’เสียงกระซิบของคนเฝ้าระวังดังในวิทยุ:“บุคคลตรงหน้า…คือ ‘วายุ ซัน’ หัวหน้าแก๊งวายุ ย้ำ—หัวหน้าแก๊งวายุ กำลังเข้าพื้นที่!!”💥 [Flashback สั้น]📍 หลายปีก่อน - ในวงล้อมการฝึกงานของโลกใต้ดินเรย์จิ และ ซัน เคยยืนเคียงข้างกัน—ไม่ใช่เพราะศรัทธา แต่เพราะผลประโยช
ในร้านราเมนญี่ปุ่นบรรยากาศอบอุ่นกลางเมือง โต๊ะไม้สีเข้มเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ กลิ่นน้ำซุปทงคตสึหอมฉุยลอยอ้อยอิ่งไปทั่วโต๊ะริมหน้าต่างที่ห่างจากลูกค้าคนอื่น ถูกจองไว้ล่วงหน้าโดยชายในชุดดำขรึม ผู้ที่ใครในร้านต่างเหลียวมองอย่างไม่กล้าเข้าใกล้—แต่เขาไม่ได้มาคนเดียว“นี่มันอะไรกันฟะ…”ฉันมองกระจกในร้านราเมนร้านโปรดของตัวเอง พลางพึมพำเบาๆฉันนั่งอยู่ริมหน้าต่างโต๊ะสองที่ (บวกอีกหนึ่งจานชามสำหรับหมา)ใส่เสื้อฮู้ดตัวเก่ง ผูกผมลวกๆ แบบเนิร์ดประจำตัวแต่ปัญหาคือ—ไอ้คนตรงข้ามฉันน่ะ… แม่งแต่งตัวหล่อจัดเต็มระดับพระเอกซีรีส์มาเฟียเวอร์ชั่นดาร์ก!!เรย์จิในชุดเชิ้ตดำ กางเกงสเลคเรียบกริบ เสื้อนอกตัวบางพาดไหล่นั่งไขว่ห้าง… กำลังเปิดเมนูราเมนเหมือนกำลังประชุมกับแก๊งมาเฟียในร้านชิลล์ๆและที่ข้างเก้าอี้ของฉัน—เจ้าหมาชิบะอินุตัวกลมที่ชื่อ ไทกะนั่งอย่างสง่างาม (?) พิงขาฉันอยู่มีจานอาหารหมาพิเศษของทางร้านอยู่ตรงหน้าพร้อมถ้วยน้ำ และพนักงานสาวที่ถ่ายรูปรัวๆ เพราะ “คุณหมาน่ารักมากกกก!”“โฮ่ง~”มันหันมามองฉันแล้วกระดิกหาง เหมือนจะบอกว่า“เธอนี่โชคดีจริงๆ ที่มีเจ้าของอย่างเรย์จิ พามาเดทด้วย!”เงียบบบบ!!
ลมบนยอดเขายังคงพัดเอื่อยเบา เย็นเฉียบแต่ไม่หนาวเกินใจจะทนแสงไฟจากเมืองเบื้องล่างยังส่องสว่างราวกับโลกทั้งใบไม่มีคำว่าหลับใหลมือของเขายังคงกุมมือฉันไว้แน่น—อุ่น... และมั่นคงและฉัน... ก็ยังยืนอยู่ตรงนี้ไม่ถอย... ไม่หนีทั้งที่ควรจะวิ่งหนีไปให้ไกลแต่กลับอยากอยู่ใกล้เขาอีกนิดเดียวแค่... อีกนิดเดียวก็ยังดี“หนาวเหรอ?”เสียงเขาดังขึ้นเบาๆ ข้างหูฉันสะดุ้งเล็กน้อย สั่นนิดหน่อย ไม่แน่ใจว่าหนาว หรือหัวใจมันเต้นแรงจนร่างกายเบาหวิว“อืม… นิดหน่อย” ฉันตอบกลับเสียงเบาทันใดนั้น—ฟึ่บเขาถอดเสื้อสูทนอกของตัวเอง แล้วเอามาคลุมบ่าฉันไว้อย่างเงียบๆ ไม่ได้พูดอะไร… แค่ทำแค่นั้น…แค่นั้นจริงๆแต่กลับทำให้ใจฉัน... เหมือนจะหลอมละลาย ฉันหันไปมองเขาช้าๆ แล้วก็พบว่าเขามองฉันอยู่ก่อนแล้ว…สายตาคมคู่นั้น ไม่แข็ง ไม่เย็นชา และไม่น่ากลัวเหมือนตอนเจอกันครั้งแรกมันดูอ่อนโยน...และจริงใจจนฉันรู้สึกว่าโลกทั้งใบเงียบไปเลยเรายืนใกล้กันแค่คืบเดียว ไม่รู้ว่าฉันขยับไปหาเขา หรือเขาขยับเข้ามาใกล้ฉันแต่เมื่อระยะห่างนั้นแคบลงจนได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้น...ตุบๆ อยู่ข้างหูเขาก็เอ่ยออกมาช้าๆ นุ่มนวลและจริงจัง“ขอโทษนะ…
หลังจากคืนนั้น...ฉันกับอัยย์ก็ไม่ได้กลับไปที่คอนโดของตัวเองอีกเลยเรย์จิเหมือนตัดสินใจไปแล้วแบบไม่ถามใครเขาสั่งลูกน้องหน้าโหดของเขา—ซึ่งโหดจนแค่เดินเฉียดก็กลั้นหายใจแล้ว ไปขนของทั้งหมดของฉันกับอัยย์มาไว้ที่คฤหาสน์หลังโตของเขาเรียบร้อยฉัน... นอนกับเรย์จิในห้องนอนขนาดใหญ่ที่มีเจ้าหมาไทกะตัวแสบจอมขโมยหมอนนอนด้วยส่วนอัยย์—นางก็โดนจัดให้นอนห้องติดกับไอ้คิน (แบบบังเอิญ... ที่ตั้งใจมากกกก)และจากประสบการณ์การสังเกตมาหลายวันฉันขอยืนยัน ณ จุดนี้ว่าสองคนนี้... ต้องมีซัมติงกันแน่นอน!!! 😏ชีวิตในคฤหาสน์...หรูหราอย่างกับหลุดเข้ามาอยู่ในซีรีส์เกาหลีตระกูลมาเฟียระดับเวิลด์คลาสฉันกับอัยย์แทบไม่ต้องทำอะไรเดินไปทางไหนก็มีแม่บ้านคอยรับใช้ หันไปอีกมุมก็เจอบอดี้การ์ดที่หน้าตาเหมือนหลุดออกมาจากเกม GTA คอยยืนขรึมๆ กันเป็นแพ็คฉันใช้ชีวิตอย่างกับ ‘ควีนแห่งโลกมาเฟีย’ในห้องนอนมีเครื่องเกมทุกเครื่องที่เคยฝันถึงคอมพิวเตอร์สเปกเทพสำหรับทำงานชุดนอนผ้านุ่มระดับพรีเมียม และหมอนที่นุ่มกว่าชีวิตฉันทั้งชีวิตรวมกัน...คือถ้าจะให้ออกจากที่นี่ตอนนี้คงต้องลากฉันไปทั้งเตียงแต่ในวันที่ชีวิตกำลังชิลๆ อย่างบ้าคล
🌙 ค่ำคืนนั้น... อากาศเย็นลงเล็กน้อยลมพัดเอื่อยๆ ผ่านม่านหน้าต่างที่เปิดอยู่อัยย์เดินกลับขึ้นห้องเงียบๆ หลังเพิ่งคุยกับมินาเอะเสร็จ...เรื่องแม่ของเรย์จิ ที่ทำเพื่อนของเธอเครียดจนน้ำตาแทบจะไหลและพอคุยจบแล้ว… อัยย์ก็เผลอบ่นออกมาทั้งเหนื่อย ทั้งหิว ทั้งง่วง ในคราวเดียวกันแต่เพียงไม่ถึงสิบนาทีต่อมา—เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอย่างแผ่วเบาก็อก... ก็อก...อัยย์ชะงัก เงยหน้าจากมือถือ แล้วเดินไปเปิดประตูด้วยความสงสัย...และภาพที่เธอเห็นตรงหน้าก็ทำให้เธอต้องหยุดนิ่งไปทันทีคิน ยืนอยู่ตรงนั้นในมือถือกล่องข้าวสีเรียบๆ กล่องหนึ่ง“นี่นาย… มาทำไม” เธอขมวดคิ้ว แต่ถามเสียงเบากว่าปกติ“เธอบ่นว่าหิว” คินพูดเสียงเรียบ แล้วยื่นกล่องข้าวให้เธอ“ฉันแค่…จำได้เฉยๆ”อัยย์ชะงักไปไม่ใช่เพราะคำพูดของเขาหวานหรือทำให้ใจละลายแต่เพราะคำพูดของเขา... ไม่เคยหวานเลยและนั่นแหละ...ที่ทำให้หัวใจของเธอสะดุดมากกว่าเดิม🥣สุดท้าย—เธอก็ต้องยอมให้เขาเข้ามานั่งในห้องและตอนนี้ทั้งสองคนก็กำลังนั่ง ‘กินข้าวด้วยกัน’ แบบงงๆคินนั่งพิงขอบโซฟาด้วยท่าทางสบายๆมือหนึ่งถือแก้วกาแฟร้อน อีกมือวางไว้บนเข่าข้างหน้าเขามีกล่องขนมเล็
แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า ลอดผ่านผ้าม่านผืนบางเข้ามาในห้องอย่างเงียบเชียบ บรรยากาศเย็นสบายชวนให้อยากหลับต่อแต่สิ่งที่ทำให้อัยย์ต้องค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา...คือวงแขนของใครบางคนที่ยังโอบรอบเอวเธอไว้แน่นไม่ปล่อยร่างกายของเธอแนบชิดอยู่ในอ้อมอกของเขา แผ่นอกอุ่นแน่นที่เธอนอนซุกหน้าอยู่…กลิ่นกายเขาอ่อนๆ ยังคงติดอยู่ที่ปลายจมูกและที่สำคัญที่สุดคือ—ทั้งเธอและเขา… เปลือยเปล่าใต้ผ้าห่มผืนนั้นอัยย์ตัวแข็งทื่อทันทีหัวใจเต้นแรงเหมือนจะหนีออกจากอกแขนแกร่งของคินพาดอยู่บนเอวเธอมือของเขายังกุมมือเธอไว้แน่น…แน่นในแบบที่เหมือนกลัวว่าเธอจะหายไป ถ้าเผลอหลับอีกครั้งเสียงลมหายใจของเขาสม่ำเสมอ ช้า… อบอุ่น… และใกล้มาก มากจนเธอได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้นเบาๆ เคล้าไปกับของตัวเองอัยย์รู้สึกเหมือนทั้งร่างจะระเบิด ไม่ใช่เพราะตกใจแต่เพราะความเขินมันพุ่งจนแทบกลายเป็นไอ!!!นี่เรานอนแบบนี้กับเขาทั้งคืนเลยเหรอ!?โอ๊ยยยย… แค่คิดก็หน้าร้อนจนแทบระเบิดเป็นพลุ!เธอค่อยๆ เงยหน้าขึ้นสายตาเธอเลื่อนขึ้นไปมองใบหน้าของเขา ใบหน้าหล่อเข้มที่ดูสงบขณะหลับ ขนตาเรียงสวย ริมฝีปากนิ่งเฉย และแววตาที่ยังปิดอยู่เขาหล่อชะมัด...ยิ่งนอน
บ้านไม้โบราณหลังใหญ่ ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนชาเขียวขจี แม้จะผ่านกาลเวลามาหลายสิบปี แต่ทุกเส้นสายของสถาปัตยกรรมยังถูกดูแลไว้ราวกับหยุดเวลาเอาไว้ที่วันแรกกลิ่นหอมอ่อนๆ ของใบชาถูกต้มจนเดือดเบาๆ คลุ้งไปทั่วห้องชายชราร่างผอม ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยนั่งอยู่หลังชุดน้ำชา มือที่เคยแน่นิ่งกลับสั่นเล็กน้อยขณะรินชา แต่เสียงของเขายังคงราบเรียบ แม้จะฟังดูคล้ายกับมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่“...ไม่คิดเลยนะ ว่าแกจะยอมกลับมาเหยียบที่นี่อีก”น้ำเสียงแหบพร่า แฝงทั้งแปลกใจและไม่ไว้ใจ ขณะที่ชายอีกคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม ยกถ้วยชาขึ้นมาหมุนเบาๆ ในมือเขาเป็นชายหนุ่มในชุดเชิ้ตสีดำสนิท ติดกระดุมเรียบร้อยถึงลำคอ ราวกับจงใจปิดทุกความรู้สึกไว้ใต้ความสุภาพแต่แค่สบตา... ก็รู้ได้ทันทีว่า‘สุภาพ’ ไม่ได้แปลว่า ‘ปลอดภัย’ดวงตาสีเทาน้ำเงิน ของเขาดูจะขัดกับบรรยากาศสงบสุขของห้องเพราะในแววตาคู่นั้น... มีรอยยิ้มแต่เป็นรอยยิ้มที่เหมือนงูเห่า—เงียบ แต่พร้อมฉกเสมอซันชายหนุ่มผู้หายสาบสูญจากวงการมาเฟียไปนานเกินกว่าที่ใครจะคาดเดาวันนี้... เขากลับมาแล้วพร้อมกับลมหายใจของสายลมแปลกประหลาด ที่ไม่ได้หอบเพียงความคิดถึง...แต่หอบภัยมาด้วย
เสียงแจ้งเตือนดัง ติ๊ง! ขึ้นจากโทรศัพท์มือถือของฉันในช่วงดึกของคืนหนึ่ง…📱 [ขอแสดงความยินดี! คุณแมตช์กับคู่เดตของคุณแล้ว!]ห้ะ…?ฉันขมวดคิ้วมองหน้าจอด้วยความงุนงง ก่อนจะเบิกตากว้าง“เดี๋ยววว!! แอปเดตออนไลน์บ้าอะไรเนี่ย!?”“เซอร์ไพรส์!!”เสียงเพื่อนรักตัวดี ‘อัยย์’ ดังขึ้นจากข้างๆ พร้อมกับรอยยิ้มภูมิใจที่ทำให้ฉันอยากกระโดดงับหัวมัน!“แกทำอะไรฟะ!?” ฉันถามเสียงหลง มองมันอย่างไม่อยากเชื่อ“ก็สมัครแอปเดตออนไลน์ให้แกไง! ฉันเห็นแกไม่มีแฟนมานานละ ชีวิตมีแต่มังงะกับเกม! ถึงเวลาต้องออกไปเจอผู้ชายจริง ๆ บ้างแล้ววว~” อัยย์ยิ้มกว้างอย่างภาคภูมิใจ“ไอ้บ้าาา! แล้วใครอนุญาตให้แกใช้ชื่อฉันหาแฟนฟะ!?” ฉันแย่งมือถือมาดู แล้วก็ต้องช็อกอีกรอบเพราะ ‘คู่แมตช์’ ของฉัน…เป็นผู้ชายที่ใช้โปรไฟล์ ‘R’ ใส่สูทดำทั้งตัว หน้าตาหล่อโคตร แต่แผ่รังสีโคตรน่ากลัว! 😱“เฮ้ยๆ ทำไมไอ้นี่มันดูอันตรายๆ วะ…” ฉันเริ่มเหงื่อตก“แกดูหน้าเขาดิ! นี่มันพวกเจ้าพ่อมาเฟียหรือไง!?”“เฮ้ออ แกนี่ก็คิดมาก!” อัยย์กลอกตา“ผู้ชายที่ดูดาร์กๆ นี่แหละ มีเสน่ห์! ลองคุยหน่อยเหอะ ฉันแอบดูละ โปรไฟล์เขาโคตรสมบูรณ์แบบ!”“สมบูรณ์แบบบ้านแกดิ! ฉันไม่—”ต
บ้านไม้โบราณหลังใหญ่ ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนชาเขียวขจี แม้จะผ่านกาลเวลามาหลายสิบปี แต่ทุกเส้นสายของสถาปัตยกรรมยังถูกดูแลไว้ราวกับหยุดเวลาเอาไว้ที่วันแรกกลิ่นหอมอ่อนๆ ของใบชาถูกต้มจนเดือดเบาๆ คลุ้งไปทั่วห้องชายชราร่างผอม ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยนั่งอยู่หลังชุดน้ำชา มือที่เคยแน่นิ่งกลับสั่นเล็กน้อยขณะรินชา แต่เสียงของเขายังคงราบเรียบ แม้จะฟังดูคล้ายกับมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่“...ไม่คิดเลยนะ ว่าแกจะยอมกลับมาเหยียบที่นี่อีก”น้ำเสียงแหบพร่า แฝงทั้งแปลกใจและไม่ไว้ใจ ขณะที่ชายอีกคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม ยกถ้วยชาขึ้นมาหมุนเบาๆ ในมือเขาเป็นชายหนุ่มในชุดเชิ้ตสีดำสนิท ติดกระดุมเรียบร้อยถึงลำคอ ราวกับจงใจปิดทุกความรู้สึกไว้ใต้ความสุภาพแต่แค่สบตา... ก็รู้ได้ทันทีว่า‘สุภาพ’ ไม่ได้แปลว่า ‘ปลอดภัย’ดวงตาสีเทาน้ำเงิน ของเขาดูจะขัดกับบรรยากาศสงบสุขของห้องเพราะในแววตาคู่นั้น... มีรอยยิ้มแต่เป็นรอยยิ้มที่เหมือนงูเห่า—เงียบ แต่พร้อมฉกเสมอซันชายหนุ่มผู้หายสาบสูญจากวงการมาเฟียไปนานเกินกว่าที่ใครจะคาดเดาวันนี้... เขากลับมาแล้วพร้อมกับลมหายใจของสายลมแปลกประหลาด ที่ไม่ได้หอบเพียงความคิดถึง...แต่หอบภัยมาด้วย
แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า ลอดผ่านผ้าม่านผืนบางเข้ามาในห้องอย่างเงียบเชียบ บรรยากาศเย็นสบายชวนให้อยากหลับต่อแต่สิ่งที่ทำให้อัยย์ต้องค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา...คือวงแขนของใครบางคนที่ยังโอบรอบเอวเธอไว้แน่นไม่ปล่อยร่างกายของเธอแนบชิดอยู่ในอ้อมอกของเขา แผ่นอกอุ่นแน่นที่เธอนอนซุกหน้าอยู่…กลิ่นกายเขาอ่อนๆ ยังคงติดอยู่ที่ปลายจมูกและที่สำคัญที่สุดคือ—ทั้งเธอและเขา… เปลือยเปล่าใต้ผ้าห่มผืนนั้นอัยย์ตัวแข็งทื่อทันทีหัวใจเต้นแรงเหมือนจะหนีออกจากอกแขนแกร่งของคินพาดอยู่บนเอวเธอมือของเขายังกุมมือเธอไว้แน่น…แน่นในแบบที่เหมือนกลัวว่าเธอจะหายไป ถ้าเผลอหลับอีกครั้งเสียงลมหายใจของเขาสม่ำเสมอ ช้า… อบอุ่น… และใกล้มาก มากจนเธอได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้นเบาๆ เคล้าไปกับของตัวเองอัยย์รู้สึกเหมือนทั้งร่างจะระเบิด ไม่ใช่เพราะตกใจแต่เพราะความเขินมันพุ่งจนแทบกลายเป็นไอ!!!นี่เรานอนแบบนี้กับเขาทั้งคืนเลยเหรอ!?โอ๊ยยยย… แค่คิดก็หน้าร้อนจนแทบระเบิดเป็นพลุ!เธอค่อยๆ เงยหน้าขึ้นสายตาเธอเลื่อนขึ้นไปมองใบหน้าของเขา ใบหน้าหล่อเข้มที่ดูสงบขณะหลับ ขนตาเรียงสวย ริมฝีปากนิ่งเฉย และแววตาที่ยังปิดอยู่เขาหล่อชะมัด...ยิ่งนอน
🌙 ค่ำคืนนั้น... อากาศเย็นลงเล็กน้อยลมพัดเอื่อยๆ ผ่านม่านหน้าต่างที่เปิดอยู่อัยย์เดินกลับขึ้นห้องเงียบๆ หลังเพิ่งคุยกับมินาเอะเสร็จ...เรื่องแม่ของเรย์จิ ที่ทำเพื่อนของเธอเครียดจนน้ำตาแทบจะไหลและพอคุยจบแล้ว… อัยย์ก็เผลอบ่นออกมาทั้งเหนื่อย ทั้งหิว ทั้งง่วง ในคราวเดียวกันแต่เพียงไม่ถึงสิบนาทีต่อมา—เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอย่างแผ่วเบาก็อก... ก็อก...อัยย์ชะงัก เงยหน้าจากมือถือ แล้วเดินไปเปิดประตูด้วยความสงสัย...และภาพที่เธอเห็นตรงหน้าก็ทำให้เธอต้องหยุดนิ่งไปทันทีคิน ยืนอยู่ตรงนั้นในมือถือกล่องข้าวสีเรียบๆ กล่องหนึ่ง“นี่นาย… มาทำไม” เธอขมวดคิ้ว แต่ถามเสียงเบากว่าปกติ“เธอบ่นว่าหิว” คินพูดเสียงเรียบ แล้วยื่นกล่องข้าวให้เธอ“ฉันแค่…จำได้เฉยๆ”อัยย์ชะงักไปไม่ใช่เพราะคำพูดของเขาหวานหรือทำให้ใจละลายแต่เพราะคำพูดของเขา... ไม่เคยหวานเลยและนั่นแหละ...ที่ทำให้หัวใจของเธอสะดุดมากกว่าเดิม🥣สุดท้าย—เธอก็ต้องยอมให้เขาเข้ามานั่งในห้องและตอนนี้ทั้งสองคนก็กำลังนั่ง ‘กินข้าวด้วยกัน’ แบบงงๆคินนั่งพิงขอบโซฟาด้วยท่าทางสบายๆมือหนึ่งถือแก้วกาแฟร้อน อีกมือวางไว้บนเข่าข้างหน้าเขามีกล่องขนมเล็
หลังจากคืนนั้น...ฉันกับอัยย์ก็ไม่ได้กลับไปที่คอนโดของตัวเองอีกเลยเรย์จิเหมือนตัดสินใจไปแล้วแบบไม่ถามใครเขาสั่งลูกน้องหน้าโหดของเขา—ซึ่งโหดจนแค่เดินเฉียดก็กลั้นหายใจแล้ว ไปขนของทั้งหมดของฉันกับอัยย์มาไว้ที่คฤหาสน์หลังโตของเขาเรียบร้อยฉัน... นอนกับเรย์จิในห้องนอนขนาดใหญ่ที่มีเจ้าหมาไทกะตัวแสบจอมขโมยหมอนนอนด้วยส่วนอัยย์—นางก็โดนจัดให้นอนห้องติดกับไอ้คิน (แบบบังเอิญ... ที่ตั้งใจมากกกก)และจากประสบการณ์การสังเกตมาหลายวันฉันขอยืนยัน ณ จุดนี้ว่าสองคนนี้... ต้องมีซัมติงกันแน่นอน!!! 😏ชีวิตในคฤหาสน์...หรูหราอย่างกับหลุดเข้ามาอยู่ในซีรีส์เกาหลีตระกูลมาเฟียระดับเวิลด์คลาสฉันกับอัยย์แทบไม่ต้องทำอะไรเดินไปทางไหนก็มีแม่บ้านคอยรับใช้ หันไปอีกมุมก็เจอบอดี้การ์ดที่หน้าตาเหมือนหลุดออกมาจากเกม GTA คอยยืนขรึมๆ กันเป็นแพ็คฉันใช้ชีวิตอย่างกับ ‘ควีนแห่งโลกมาเฟีย’ในห้องนอนมีเครื่องเกมทุกเครื่องที่เคยฝันถึงคอมพิวเตอร์สเปกเทพสำหรับทำงานชุดนอนผ้านุ่มระดับพรีเมียม และหมอนที่นุ่มกว่าชีวิตฉันทั้งชีวิตรวมกัน...คือถ้าจะให้ออกจากที่นี่ตอนนี้คงต้องลากฉันไปทั้งเตียงแต่ในวันที่ชีวิตกำลังชิลๆ อย่างบ้าคล
ลมบนยอดเขายังคงพัดเอื่อยเบา เย็นเฉียบแต่ไม่หนาวเกินใจจะทนแสงไฟจากเมืองเบื้องล่างยังส่องสว่างราวกับโลกทั้งใบไม่มีคำว่าหลับใหลมือของเขายังคงกุมมือฉันไว้แน่น—อุ่น... และมั่นคงและฉัน... ก็ยังยืนอยู่ตรงนี้ไม่ถอย... ไม่หนีทั้งที่ควรจะวิ่งหนีไปให้ไกลแต่กลับอยากอยู่ใกล้เขาอีกนิดเดียวแค่... อีกนิดเดียวก็ยังดี“หนาวเหรอ?”เสียงเขาดังขึ้นเบาๆ ข้างหูฉันสะดุ้งเล็กน้อย สั่นนิดหน่อย ไม่แน่ใจว่าหนาว หรือหัวใจมันเต้นแรงจนร่างกายเบาหวิว“อืม… นิดหน่อย” ฉันตอบกลับเสียงเบาทันใดนั้น—ฟึ่บเขาถอดเสื้อสูทนอกของตัวเอง แล้วเอามาคลุมบ่าฉันไว้อย่างเงียบๆ ไม่ได้พูดอะไร… แค่ทำแค่นั้น…แค่นั้นจริงๆแต่กลับทำให้ใจฉัน... เหมือนจะหลอมละลาย ฉันหันไปมองเขาช้าๆ แล้วก็พบว่าเขามองฉันอยู่ก่อนแล้ว…สายตาคมคู่นั้น ไม่แข็ง ไม่เย็นชา และไม่น่ากลัวเหมือนตอนเจอกันครั้งแรกมันดูอ่อนโยน...และจริงใจจนฉันรู้สึกว่าโลกทั้งใบเงียบไปเลยเรายืนใกล้กันแค่คืบเดียว ไม่รู้ว่าฉันขยับไปหาเขา หรือเขาขยับเข้ามาใกล้ฉันแต่เมื่อระยะห่างนั้นแคบลงจนได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้น...ตุบๆ อยู่ข้างหูเขาก็เอ่ยออกมาช้าๆ นุ่มนวลและจริงจัง“ขอโทษนะ…
ในร้านราเมนญี่ปุ่นบรรยากาศอบอุ่นกลางเมือง โต๊ะไม้สีเข้มเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ กลิ่นน้ำซุปทงคตสึหอมฉุยลอยอ้อยอิ่งไปทั่วโต๊ะริมหน้าต่างที่ห่างจากลูกค้าคนอื่น ถูกจองไว้ล่วงหน้าโดยชายในชุดดำขรึม ผู้ที่ใครในร้านต่างเหลียวมองอย่างไม่กล้าเข้าใกล้—แต่เขาไม่ได้มาคนเดียว“นี่มันอะไรกันฟะ…”ฉันมองกระจกในร้านราเมนร้านโปรดของตัวเอง พลางพึมพำเบาๆฉันนั่งอยู่ริมหน้าต่างโต๊ะสองที่ (บวกอีกหนึ่งจานชามสำหรับหมา)ใส่เสื้อฮู้ดตัวเก่ง ผูกผมลวกๆ แบบเนิร์ดประจำตัวแต่ปัญหาคือ—ไอ้คนตรงข้ามฉันน่ะ… แม่งแต่งตัวหล่อจัดเต็มระดับพระเอกซีรีส์มาเฟียเวอร์ชั่นดาร์ก!!เรย์จิในชุดเชิ้ตดำ กางเกงสเลคเรียบกริบ เสื้อนอกตัวบางพาดไหล่นั่งไขว่ห้าง… กำลังเปิดเมนูราเมนเหมือนกำลังประชุมกับแก๊งมาเฟียในร้านชิลล์ๆและที่ข้างเก้าอี้ของฉัน—เจ้าหมาชิบะอินุตัวกลมที่ชื่อ ไทกะนั่งอย่างสง่างาม (?) พิงขาฉันอยู่มีจานอาหารหมาพิเศษของทางร้านอยู่ตรงหน้าพร้อมถ้วยน้ำ และพนักงานสาวที่ถ่ายรูปรัวๆ เพราะ “คุณหมาน่ารักมากกกก!”“โฮ่ง~”มันหันมามองฉันแล้วกระดิกหาง เหมือนจะบอกว่า“เธอนี่โชคดีจริงๆ ที่มีเจ้าของอย่างเรย์จิ พามาเดทด้วย!”เงียบบบบ!!
สถานที่: คฤหาสน์คุโรซาวะ – เวลา 14:48 น.บ่ายวันหนึ่ง ที่ควรสงบเหมือนทุกวันในรั้วคฤหาสน์มาเฟีย…แต่ทันใดนั้น—เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มก็ดังขึ้นจากรั้วหน้าวรู๊มมมมมมมมมมมมมมมม—!!เสียงท่อแต่งของมอเตอร์ไซค์สไตล์คัสตอมกระแทกโสตประสาทอย่างจังรถยนต์กันกระสุนของแก๊งคุโรซาวะที่จอดอยู่เรียงรายถึงกับสั่นสะเทือนเล็กน้อยตามจังหวะเบรกหัวทิ่มของขบวนชายหนุ่มที่ขี่นำ ถอดหมวกกันน็อกอย่างช้าๆผมสีเงินซีดถูกลมตีปลิวพลิ้วเบาๆ เหมือนฉากเปิดตัวของวายร้ายที่สาวๆ พร้อมจะตกหลุมรักในทันทีนัยน์ตาสีอำพันทอแสงแหลมคม—เหมือนเหยี่ยวที่มองเป้าหมายแม้จะอยู่ไกลหลายไมล์ซัน… เดินอย่างไม่เร่งรีบ ท่ามกลางสายตาระแวดระวังของบอดี้การ์ดเกือบสิบชีวิตเขายกมือขึ้นเหมือนจะบอกว่า ‘ใจเย็น’แต่รอยยิ้มบางบนใบหน้านั้น… กลับให้ความรู้สึกเหมือนกำลังบอกว่า ‘ถ้ายิงมา… ฉันจะสวนหมด’เสียงกระซิบของคนเฝ้าระวังดังในวิทยุ:“บุคคลตรงหน้า…คือ ‘วายุ ซัน’ หัวหน้าแก๊งวายุ ย้ำ—หัวหน้าแก๊งวายุ กำลังเข้าพื้นที่!!”💥 [Flashback สั้น]📍 หลายปีก่อน - ในวงล้อมการฝึกงานของโลกใต้ดินเรย์จิ และ ซัน เคยยืนเคียงข้างกัน—ไม่ใช่เพราะศรัทธา แต่เพราะผลประโยช
แสงแดดนวลอ่อนยามเช้า ส่องลอดผ้าม่านสีขาวบางเบาเข้ามาแตะผิวแก้มของฉันอย่างแผ่วเบา ราวกับจะปลุกให้ลืมตาตื่นขึ้นมาสู่เช้าวันใหม่ที่สงบ…...ถ้าหากมัน สงบจริง ๆ น่ะนะแต่ปัญหาคือ—ฉันไม่ได้ตื่นมาพร้อมนอนอยู่คนเดียวบนเตียง!!!!ฉันตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าอยู่ในอ้อมกอดของมาเฟียสุดหล่อ!!!ฉันรู้สึกตัวตื่นแบบงัวเงีย…สิ่งแรกที่ฉันเห็นทันทีที่ลืมตาคือ…ใบหน้าของเรย์จิอยู่ใกล้ฉันแบบระยะประชิด!!โคตรใกล้! ใกล้ชนิดที่ลมหายใจของเขาระบายมาโดนหน้า!กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวเขาทำฉันมึนไปสามวิจมูกโด่งเรียว… ขนตายาวระริก… และริมฝีปากที่แนบสนิทแต่ที่ช็อกกว่าคือ…แขนของเขา กำลังโอบเอวฉันแน่นแบบไม่ยอมปล่อย!!!!“ว๊ากกกกกกกก!!!!”ฉันร้องลั่นแบบไม่รู้ตัว พร้อมดิ้นพรวดถอยหนีจากอ้อมกอดตุ้บ!“โอ๊ยยยยยยยยยยย!!!! เจ็บบบบ!!!”ฉันลงไปกองอยู่บนพรมหนานุ่มข้างเตียง กุมก้นตัวเองด้วยสีหน้าสิ้นหวังพอเงยหน้ามองขึ้นไปบนเตียง—เรย์จิก็ลืมตาพอดีเขายกตัวลุกขึ้นช้า ๆ สายตายังดูง่วงนิดๆ แต่…ก็โคตรหล่อใบหน้าเงียบขรึมของเขาหันมามองฉันที่กำลังนั่งงออยู่ข้างเตียงด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง“หืม… ตื่นแล้วเหรอ?” เสียงทุ้มต่ำถามเบาๆ“นาย!!! นายกอดฉ
ในค่ำคืนที่ไม่สงบ (เลยสักนิด)“เฮ้ย!! ออกไปนะเว้ย!!”เสียงโวยวายของอัยย์ดังลั่นห้องขณะที่เธอยืนชี้นิ้วกราดใส่คนที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาเหมือนเดินเข้าห้องตัวเอง“นี่มันห้องฉัน!!”และไอ้คนหน้าด้านคนนั้น—ก็คือคิน มือขวาแห่งแก๊งคุโรซาวะ ผู้มีหน้าตาหล่อเนี๊ยบ กวนตีนขั้นโปร…ที่ตอนนี้กำลังยืนกอดอกในชุดเสื้อเชิ้ตพับแขนสุดเท่ แล้วกวาดตามองห้องอย่างสบายใจสุดชีวิต“จริงเหรอ?” คินเอียงคอนิดๆ“ประตูมันเปิดถึงกันง่ายขนาดนี้… แสดงว่าเป็นห้องคู่ของคนสนิทนะ”“ไม่มีคำว่า ‘คนสนิท’ โว้ย!!!”อัยย์หน้าแดงแปร๊ด! ทั้งเพราะโกรธและเพราะ—เขาอยู่ใกล้เกินไป!!“แต่นายท่านเรย์จิจัดห้องให้แบบนี้เองนะ” คินผลักแว่นขึ้นอย่างเท่ๆ ก่อนพูดต่อเสียงเรียบ“จะให้ฉันไปนอนโซฟาแข็งๆ ก็ใจร้ายไปหน่อยนะ”“ใจร้ายตรงไหน! นายมันมาเฟียนะเว้ย!!!”“ฉันเป็นบอดี้การ์ดของเธอด้วยนะ”เสียงนิ่งๆ แฝงความเจ้าเล่ห์ ทำเอาอัยย์อยากเอาหมอนฟาดหัวเขาให้รู้แล้วรู้รอด!แล้วเขาก็…เดินดุ่มๆ ไปวางหมอนอีกใบลงบนเตียงของเธอราวกับว่าเป็น ‘ห้องของตัวเอง’ ตั้งแต่ชาติปางก่อน!!!🛏️ สมรภูมิเตียงที่ไม่มีใครยอมใคร!?“หยุดเลยนะ!!”อัยย์รีบคว้าหมอนมากั้นไว้ตรงกลาง