เถ้าแก่ต้วนดวงตาเป็นประกาย เขาเป็นพ่อค้า หากเห็นสินค้าใหม่ๆ มีเหรอที่เขาจะไม่สนใจ “ลุงอยากจะสั่งอย่างละห้าสิบชิ้น จัดหาให้ลุงได้ไหม”“ได้ค่ะ แต่ต้องขอเวลาหน่อยนะคะ รอหนูจัดการเรื่องงานของตัวเองก่อน อีกสามวันหนูจะให้พี่หย่งเสียนเอามาส่งให้”ชุยเหมยฮวาตอบรับ หากให้เธอเปิดร้านขายเองเธอคงไม่เอา ของพวกนี้ซื้อมาขายไปในอนาคตต้องมีคนทำมาขายเช่นกัน เมื่อตกลงกันแล้วทั้งสองจึงแยกตัวกันออกมา เซียวหย่งเซียนยกจักรยานอีกคันขึ้นเขา เขาไม่อยากให้ภรรยาลำบากต้องปั่นกลับบ้านด้วยตัวเอง ชุยเหมยฮวาจึงทำตามอย่างว่าง่ายเมื่อเข้ามาในหมู่บ้าน และเป็นอย่างที่คิดจริงๆ คราวนี้ชาวบ้านที่เห็นจักรยานอีกคันผูกติดหน้ารถสามล้อ ทั้งหมดได้แต่มองตาแทบถลน“โอ้โห วันนี้ซื้อจักรยานมาอีกคันแล้วเหรอ” ลุงชางชาวบ้านคนหนึ่งถามด้วยรอยยิ้ม“ใช่ค่ะ วันนี้ฉันกับพี่หย่งเสียนติดต่อการค้ากับเถ้าแก่ต้วน ท่านให้เงินพิเศษมา ฉันเลยซื้อจักรยานมาอีกคันไว้ใช้งานค่ะลุง” ชุยเหมยฮวาตอบกลับด้วยรอยยิ้มเช่นกัน“โชคดีของเจ้าใหญ่เซียวนะที่แต่งเราเข้าบ้าน” เขาดีใจด้วยจริงๆ กับหลานชายคนนี้ ดีแล้วบ้านใหญ่เซียวจะมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น“เย็นนี้ฉันจะทำผัดไ
เย็นวันนี้ชุยเหมยฮวาก่อไฟตั้งเตาหน้าบ้านเพื่อทำผัดไทยแจกจ่ายให้กับชาวบ้านได้ลองชิม เธอให้สามีอย่างเซียวหย่งเสียนช่วยเจียวกากหมูให้ โดยมีทุกคนในครอบครัวช่วยกันคนละไม้คนละมือ ไม่นานกลิ่นหอมของผัดไทยโดยซอสสุดพิเศษของชุยเหมยฮวาจึงตลบอบอวลเชิญชวนให้น้ำลายไหลลอยฟุ้งไปทั่วชาวบ้านหลายคนมาเมียงมองดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันที่บ้านใหญ่เซียว แต่มีบางคนที่ชุยเหมยฮวาบอกล่วงหน้าไว้แล้วมายืนต่อแถวเพื่อรับผัดไทยไปกิน“เข้าแถวนะคะ รับรองได้ทุกคน วันนี้ฉันให้กินฟรีเพื่อสอบถามรสชาติว่าอร่อยหรือเปล่า อีกสองวันฉันจะทำขายที่ปากทางเข้าหมู่บ้านและตลาดนัดวันเสาร์อาทิตย์ หากใครอยากซื้อกินไปซื้อได้นะ รับรองราคาไม่แพงอย่างที่คิด”ชุยเหมยฮวาพูดเสียงสดใส เธอตักผัดไทยใส่ห่อ โดยให้สามีโรยกากหมูไว้ด้านบน ส่วนแม่สามีเอาผักอีกห่อหนึ่งส่งมาให้ เมื่อได้ทั้งสองอย่างจึงยื่นส่งให้ชาวบ้านที่มารอรับโดยเซียวจ้ายซวนและชุยหลายช่วยกันแจกจ่าย ส่วนชุยซีหานยืนดูความเป็นระเบียบของชาวบ้านเมื่อแต่ละคนรับมาต่างก็หาที่นั่งแถวนั้นเพื่อชิมอาหารที่ชื่อว่าผัดไทยของบ้านเซียว แต่พอได้ลองชิมเข้ามาและรู้รสชาติทำให้ทุกคนตาโต ไม่คิดว่าอาหารที่ไม่มีเนื้
ชุยเหมยฮวาหลังจากเข้ามาในห้องนอนพร้อมกับสามี เธอจึงพาเขาเข้ามิติเหมือนทุกครั้ง เธอยังคงต้องเตรียมของสำหรับเปิดร้าน และหาพวกลูกชิ้นเพื่อนำมาขาย ดีหน่อยที่ร้านอาหารของเธอมักจะทำเตรียมไว้ก่อนแล้ว จึงไม่ยุ่งยากเท่าที่ควร“พี่จะไปอาบน้ำก่อนก็ได้นะ หนูขอเตรียมของอีกเล็กน้อย”ขณะที่พูดเธอกำลังใส่ส่วนผสมเพื่อทำเป็นไส้ขนมจีบ เธออยากเตรียมไว้ หากวันไหนพ่อและแม่สามีว่างจะได้ให้ท่านช่วยกันขายรวมถึงพี่ใหญ่และพ่อของเธอด้วย เพราะยังไงเธอต้องทำทีเข้าไปซื้อวัตถุดิบในอำเภออยู่แล้วหรือไม่ก็บอกว่าเธอผสมไว้ตอนกลางคืน เช้ามาค่อยให้ทุกคนช่วยกันห่อ เธอคิดว่าขนมจีบต้มไส้เน้นๆ น่าจะขายได้ อาหารที่ขายค่อยสลับหมุนเวียนกันไป ไม่ว่าอาหารสำเร็จรูปแบบไหนหากใส่ไว้ในมิติไม่มีทางเน่าเสีย ทุกอย่างยังคงสภาพเดิม“ให้พี่ช่วยไหมครับ” เซียวหย่งเสียนเอ่ยถาม“ไม่เป็นไรค่ะ เหลือไม่มากแล้ว หนูตั้งใจจะไปว่ายน้ำออกกำลังกายด้วย ร่างนี้เดินนิดหน่อยก็เหนื่อยแล้ว”ชุยเหมยฮวาเงยหน้ามาบอกด้วยรอยยิ้ม แต่ไม่คิดว่าจะเห็นหูสามีนั้นแดงก่ำเมื่อเธอบอกว่าจะไปว่ายน้ำ“พี่จะไปว่ายน้ำด้วยไหมเดี๋ยวหนูจะเอากางเกงว่ายน้ำออกมาให้”เธอยังคงถาม เพราะไม
สายวันต่อมาชุยเหมยฮวาแทบจะลุกขึ้นไม่ไหว ใครจะคิดว่าสามีปกติที่สุดแทนจะเย็นชา แต่กลับกลายร่างเป็นหมาป่าจอมหิวโหย กินไม่รู้จักพอแบบเมื่อคืน เซียวหย่งเสียนทำหน้าสำนึกผิดที่ไม่รู้จักหักห้ามใจของตนเองทั้งๆ ที่เขาและเธอเพิ่งจะมีความสัมพันธ์กันครั้งแรกตอนที่โดนเล่นงานและโดนจัดฉาก ต่อให้รู้ว่าไม่ได้เกิดอะไรขึ้นแต่เพื่อชื่อเสียงของชุยเหมยฮวาอีกทั้งพ่อเขาและพ่อของเธอเป็นเพื่อนกันจึงไม่อยากให้เสียชื่อเสียง เลยต้องส่งแม่สื่อไปสู่ขอ“พี่ขอโทษครับ หนูไม่โกรธพี่นะ พี่ห้ามตัวเองไม่ได้จริงๆ ใครใช้หนูร่างหนูนุ่มนิ่มน่าฟัดขนาดนั้นล่ะ”ชุยเหมยฮวาหมั่นไส้จนต้องหาหมอนปาใส่คนหน้ามึน แทนที่จะสารภาพผิดดีๆ กลับโยนความผิดให้เธอเสียอย่างนั้น นี่เธอคิดถูกหรือคิดผิดกันแน่“พี่หย่งเสียน พี่จะคิดว่าหนูใจง่ายไหม เจอหน้าพี่ไม่กี่วันกลับยอมพี่อย่างง่ายดาย”แม้ว่ายุคที่เธอจากมากการมีวันไนต์สแตนด์ไม่ใช่เรื่องแปลก หรืออยู่ก่อนแต่งก็มีให้เห็นเกลื่อนไปหมด แต่ยุคนี้หากมีความสัมพันธ์กันก่อนแต่งงานจะโดนมองว่าใจง่ายหรือเปล่า เธอมัวแต่คิดจนลืมไปว่าร่างนี้และเซียวหย่งเสียนแต่งงานกันมาสามเดือนแล้วเซียวหย่งเสียนยิ้มเอ็นดู ก่อนจะน
ทางด้านนอกนางหลินหลานเมื่อไม่เห็นว่าลูกชายและลูกสะใภ้ออกมาจากห้อง เธอจึงลงมือทำอาหารเช้าด้วยตัวเอง แต่ดีที่เมื่อวานยังมีน้ำแกงปลาที่ลูกสะใภ้ทำไว้ เช้านี้เธอจึงทำอาหารง่ายๆ กินกับสามีก่อนที่ทั้งสองคนจะไปทำงานที่ไร่ตามปกติเพื่อไปดูหน้าดินว่าสามารถหว่านเมล็ดพืชพันธุ์ได้หรือยัง เมื่อเสร็จงานแล้วเจอเข้ากับสองพ่อลูกบ้านชุยขี่จักรยานมาพอดี ชุยหลายจึงลงมาเดินพร้อมกับทั้งสองคนโดยให้ลูกชายขี่จักรยานไปรอที่บ้านใหญ่เซียวชาวบ้านเห็นว่าชุยซีหานมีจักรยานคันใหม่ก็ได้แต่มองกันด้วยความอิจฉา แต่พอเห็นบ้านรองเซียวเดินมาได้แต่หัวเราะขบขัน ที่ก่อนหน้านี้พากันรังเกียจชุยเหมยฮวา แต่ดูตอนนี้สิ ทั้งบ้านใหญ่เซียวและบ้านชุยต่างก็มีรถคันใหม่ไว้ใช้ อีกทั้งชุยเหมยฮวากำลังเปิดร้านขายอาหารในตลาดนัดและเช่าที่ตรงปากทางหมู่บ้านขายของอีก คราวนี้จากครอบครัวที่ยากจนคงพลิกผันมาเป็นคนมีเงินในเร็วๆ นี้แน่ๆชุยเหมยฮวาหลังจากที่โดนสามีจับกินอีกครั้ง เธอจึงรีบแต่งตัวและพาสามีออกมาจากมิติทันที หญิงสาวเดินเข้าครัวเมื่อเห็นว่าแม่สามีต้องทำอาหารกินเองจึงหันไปมองสามีตาขวาง“เพราะพี่คนเดียวเลย หนูจึงตื่นไม่ทันมาทำอาหารเช้าให้พ่อกับแ
เมื่อสองสามีภรรยามาถึงในอำเภอจึงไปติดต่อสำนักงานขายเพื่อขอเช่าโกดังแต่ไม่มีแบบเช่า ชุยเหมยฮวาจึงตัดสินใจซื้อแทน เพราะหากจะให้เธอมาทำการค้าเปิดร้านเองเธอยังไม่มีเวลา และยังไม่สะดวกที่จะเปิดร้านเอง คนที่เธอนึกถึงคือเถ้าแก่ต้วน หลังจากทำการซื้อขายโกดังเสร็จสิ้น สองสามีจึงขี่สามล้อมาหาเถ้าแก่ต้วนที่ร้าน“อ้าววันนี้ลมอะไรหอบมาหาลุงกันล่ะ” เถ้าแก่ต้วนหรือต้วนซาเอ่ยด้วยรอยยิ้ม“พอดีว่าฉันกับพี่หย่งเสียนจะมาคุยเรื่องการค้ากับลุงค่ะ ลุงสนใจจะซื้อสินค้ามาขายหน้าร้านไหม ฉันกับพี่หย่งเสียนจะเป็นคนกลางติดต่อให้เอง ส่วนนี่คือรายการสินค้าทั้งหมดที่ฉันหาได้”ชุยเหมยฮวาเลือกที่จะเปิดประเด็นทันที เธอมีเวลาไม่มาก หากไม่ต้องการทำการค้าด้วยกันอย่างมาเธอก็หาลู่ทางเปิดร้านเอง เธอคิดว่าของพวกนี้จะขายได้สักกี่ปีกัน วันหนึ่งหากเธอตายไปครอบครัวและคนข้างหลังหรือแม้แต่ลูก ๆ ของเธอไม่มีมรดกตกทอดแต่ถ้าเธอทำร้านอาหาร ภัตตาคารหรือว่าทำแฟรนไชส์ ในอนาคตยังเป็นธุรกิจเล็ก ๆ ให้ลูกของเธอได้สานต่อ แต่ตอนนี้เธอต้องการเก็บเงินให้ได้มากที่สุดเถ้าแก่ต้วนตาเป็นประกายขึ้นมา เรื่องนี้เขากลุ้มใจอยู่ว่าจะคุยกับสองสามีภรรยายังไงเร
“ขอบใจทั้งสองคนมากนะที่เข้าใจ ส่วนเรื่องการค้าของพวกเราลุงจะเก็บไว้เป็นความลับก่อน แต่ถ้ามีใครมาสอบถามอีก ลุงจะบอกเพียงแค่การค้าเล็กน้อยไปก็แล้วกัน แต่ตามความคิดลุง ทั้งสองคนระวังตัวไว้บ้างก็ดี ดูเหมือนใครหลายคนจะอิจฉาริษยาทั้งสองคนไม่น้อย”เถ้าแก่ต้วนเอ่ยเตือน เขาเป็นพ่อค้ามาเกือบทั้งชีวิตจะไม่รู้ลักษณะท่าทางของชายหนุ่มที่มาถามเรื่องราวของสองคนนี้ได้ยังไง ดูแล้วไม่ใช่คนดีเลย“ขอบคุณมากนะคะ หากลุงต้วนต้องการสั่งสินค้าให้คนไปตามที่ร้านตรงปากทางเข้าหมู่บ้านได้เลยนะคะ พี่หย่งเสียนจะเป็นคนมาเปิดโกดังให้เอง”จากนั้นสองสามีจึงกล่าวลา เพราะต้องไปเอาของออกจากมิติ หลังจากนี้การค้ากับเถ้าแก่ต้วนเธอจะให้สามีเป็นคนจัดการ ไม่ใช่ไม่อยากให้พี่ใหญ่มาช่วย แต่ถ้ายังสลัดแม่เลี้ยงอย่างนางเมิ่งเสียและลูกๆ ให้พ้นทางไม่ได้ เธอยังไม่ไว้ใจอะไรทั้งนั้นหลังจากที่มาจัดการที่โกดังเสร็จแล้ว สองสามีภรรยาจึงเอาของใส่สามล้อและขี่เข้าหมู่บ้านเพื่อเตรียมตัวและเตรียมของทุกอย่างสำหรับขายในวันพรุ่งนี้วันต่อมา ทั้งบ้านเซียวและบ้านชุยต่างก็ตื่นเช้า เพราะต้องการมาช่วยชุยเหมยฮวาจัดร้านในวันแรก ชุยซีหานช่วยน้องสาวเข็นรถไปจอด
“ขอบใจแบบไม่ต้องกอดก็ได้มั้ง” เซียวหย่งเสียนมองด้วยสายตาเย็นชา เป็นพี่แล้วยังไง แล้วผู้ชายไหมล่ะ“อย่าบอกนะพี่หวงน้องสาวผมกับผมเนี่ยนะ” ตายๆๆ ดูแล้วพี่หย่งเสียนน้องเขยเขาจะอาการหนัก“เออ ฉันหวง หรือนายจะมีปัญหา” เซียวหย่งเสียนยอมรับว่าเขาหวงจริงๆ ไม่ว่ากับใครเขาก็หวงอาการของเซียวหย่งเสียนทำให้ทุกคนส่ายหน้าและหัวเราะชอบใจ บทจะหวงก็หวงจนอาการหนัก ชุยเหมยฮวาจึงเข้าห้ามทัพระหว่างพี่ชายกับสามี โดยการส่งผ้ากันเปื้อนให้กับทุกคน“นี่คือผ้ากันเปื้อนและหมวกค่ะ จะได้ถูกหลักอนามัย ตอนนี้ชาวบ้านและเด็กๆ เริ่มเดินทางไปโรงเรียนและไปทำงานแล้วหนูว่าทุกคนเร่งมือกันดีกว่านะ ผัดไทยไม่ใช่อาหารเช้าคิดว่าขายได้ไม่ดีเท่าช่วงเที่ยงหรือว่าช่วงเย็น”ชุยเหมยฮวารีบจัดร้านของเธอก่อนจะไปช่วยแม่สามีและพี่ชายจัดร้านต่อ ชุยหลายช่วยลูกชายเสียบลูกชิ้น เพราะคิดว่าขายเป็นไม้ดีกว่า เขาเลือกที่จะขายไม้ละสองเหมาสามไม้ห้าเหมาโดยมีผักและน้ำจิ้มให้ด้วย สาเหตุที่ขายราคานี้ เพราะราคาต้นทุนที่ลูกสาวบอกไม่ได้มากมายเลย หักค่าน้ำมันแล้วก็ไม่เท่าไหร่ กำไรมากพอตัวอีกทั้งน้ำจิ้มราดมีทั้งของเด็กและผู้ใหญ่รสชาติอร่อยมาก หากขายไม่ได้เขาย
ถ้าจะไม่พูดถึงเซียวหมิงหย่วนก็คงไม่ได้ ตอนนี้เธอเองก็แต่งงานกับลู่จื่อฉี และกำลังท้องลูกคนแรก แต่กว่าที่ทั้งสองคนจะตกลงปลงใจกันได้ ชุยเหมยฮวาเธอทั้งช่วยเข็นช่วยดันไม่น้อยเพราะลู่จื่อฉีมักคิดว่าตัวเองไม่เหมาะสม อีกทั้งอาสะใภ้รองคอยกีดกันอยากให้ลูกสาวได้คนที่มีหน้ามีตากว่านี้ ส่วนเซียวเจี้ยนซูก็แต่งกับพนักงานของร้านเหมยฮวา เธอและสามีเคยบอกว่าจะให้สูตรอาหารเพื่อให้ทั้งสองคนได้มีกิจการเป็นของตัวเอง แต่สองพี่น้องบอกว่าแค่นี้พวกเขาก็พอใจแล้วส่วนไร่ผลไม้ของสองตระกูลเริ่มผลิดอกออกผล แต่บางอย่างก็ต้องรอให้เต็มวัยก่อนจะเก็บผลผลิตไปขายได้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ชุยเหมยฮวาพูดไว้ ชีวิตนี้ไม่จำเป็นต้องรวยล้นฟ้า ไม่มีหนี้สินมีเพียงกิจการเล็ก ๆ แค่นี้ก็พอแล้ว เพราะนี่คือความสุขที่แท้จริง“ในที่สุดสองแสบก็หลับเสียที”เซียวหย่งเสียนแทบจะปาดเหงื่อเมื่อต้องเอาลูกน้อยทั้งสองคนเข้านอน หน้าที่นี้เขาขอทำเองตั้งแต่ลูกเกิด ชายหนุ่มรู้สึกว่าแค่ภรรยาต้องอุ้มทองและเจ็บท้องคลอดก็พอแล้ว อะไรที่ทำได้เขายินดีที่จะทำ“เหนื่อยไหมคะ ทำงานเสร็จกลับมาบ้านยังต้องช่วยหนูเลี้ยงลูกอีก” ไม่ใช่ไม่เห็นใจสามีที่เหนื่อยจากงานแล้วต้อ
การใช้ชีวิตใจฐานะของพ่อและแม่ดำเนินไปอย่างมีความสุข แม้ว่าเซียวหย่งเสียนจะต้องไปดูร้านทั้งสองแทนภรรยาก็ตาม เมื่อเสร็จงานเขาก็จะรีบกลับมาหาลูกและภรรยา จนภาพพวกนี้ชินตากับลูกน้องและคนในครอบครัวเด็กน้อยทั้งสองคนเติบโตทุกวันจนอายุครบสามขวบ ความซนและความแสบไม่มีใครเกินใครเหมือนกับวันนี้“แม่ฮะ วันนี้พ่อจีบฉาว” เซียวคุนหยางหรือว่าหยางหยางวิ่งตัวกลมเข้ามาฟ้องแม่คนสวยของตัวเอง“หยุดเลยนะหยางหยาง พ่อยังไม่ได้ทำอย่างที่ลูกพูดสียหน่อย อยากให้พ่อโดนแม่ไล่มานอนนอกห้องหรือยังไง”คราวก่อนก็ทีหนึ่งแล้วช่างหาเรื่องให้เขาเสมอ ไม่รู้ได้ความแสบมายังไง“ไหนหยางหยางลองเล่าให้แม่ฟังสิครับ ว่าพ่อของลูกจีบสาวที่ไหน”“จีบที่ร้านที่อาเจี้ยนซูดูแลอยู่ฮะ ฉาวสวยมาก”ชุยเหมยฮวาหันมองหน้าสามีตาเขียว ก่อนจะมาตั้งใจฟังลูกชายเล่าต่อ“ฉาวชื่อ ป้าเจียงเย่วฮะ ป้าเอาบัญชีมาให้พ่อแทนลุงฉงซาน ฮ่า ๆ”นั่นปะไร เชื่อได้ที่ไหนกับความกวนของลูกชาย ไม่รู้ว่าทั้งสองคนเป็นพ่อกับลูกหรือว่าเป็นศัตรูคู่แค้นกันแน่“เป็นยังไงบ้างคะ วันนี้ร้านขนมตกแต่งเสร็จหรือยัง”นอกจากร้านอาหาร เธอเริ่มที่จะสร้างร้านขนมอีกด้วย ตอนนี้จึงเหลือเพียงตกแต่ง
บทส่งท้ายความสุขของครอบครัวเซียวหย่งเสียนมารอที่ห้องพักนานแล้ว ยังไม่เห็นภรรยารักตามเข้ามา ใจเขาเริ่มกระวนกระวายอีกครั้ง แต่ไม่นานพยาบาลและเจ้าหน้าที่เข็นคนป่วยเข้ามา“ตอนนี้คนไข้ยังไม่ตื่นนะคะ รออีกสักหน่อย แต่ปลอดภัยแล้วค่ะ” ดูจากสีหน้าของคนเป็นสามีพยาบาลวัยกลางคนจึงบอกด้วยรอยยิ้ม“ขอบคุณมากครับ”เซียวหย่งเสียนหันมาขอบคุณพยาบาล ก่อนจะเดินไปยืนข้างภรรยารักที่กำลังนอนอยู่ สายตาที่มองช่างอ่อนโยน ยากจะหาสิ่งใดเปรียบ จนนางหลินหลานอดที่จะปลื้มใจความรักของทั้งสองคนได้“เดี๋ยวแม่ขอไปดูหลานก่อนนะ แล้วจะรีบกลับมา ลูกจะไปด้วยไหม” ในเมื่อลูกสะใภ้ยังไม่ตื่น เจ้าหน้าที่คงยังไม่พาหลานทั้งสองคนมา เธอจึงขอไปดูด้วยตัวเองก่อน“ไม่ดีกว่าครับแม่ ผมขออยู่กับเสี่ยวฮวาดีกว่า เดี๋ยวตื่นขึ้นมาแล้วจะไม่เจอใคร”นางหลินหลานพยักหน้าให้ก่อนจะเดินออกจากห้องเพื่อไปดูหลานรักทั้งสองคน“หิวน้ำ” เสียงอันอิดโรยของชุยเหมยฮวาดังขึ้น ทำให้เซียวหย่งเสียนตื่นตัวอีกครั้งและรีบไปรินน้ำใส่แก้วแล้วนำมาป้อนภรรยารัก“ค่อย ๆ กินนะครับ เดี๋ยวสำลัก”“ขอบคุณมากค่ะ หนูอิ่มแล้ว”เซียวหย่งเสียนวางแก้วไว้ตรงโต๊ะ ก่อนจะเดินเข้ามาแทรกตัวข
เจ้าใหญ่ นั่งก่อนเถอะ เสี่ยวฮวาอยู่กับหมอแล้วไม่เป็นอะไรหรอก” นางหลินหลานอดที่จะบ่นลูกชายไม่ได้ เธอมองตามไปมาตอนนี้เริ่มจะหน้ามืดแล้วเหมือนกัน“ผมเป็นห่วงครับแม่ เสี่ยวฮวาเข้าไปนานแล้ว หมอยังไม่ออกมาบอกเลย ผม...ผมกลัว”แค่ได้ยินเสียงที่เจ็บปวดของภรรยารัก เขาแทบจะไม่อยากให้คลอดลูกแล้ว ถ้าเป็นไปได้เขาขอเจ็บแทบดีกว่า แค่เห็นน้ำตาเธอเขาก็ใจสลายแทน“เจ้าใหญ่มานั่งนี่”เธอกวักมือเรียกให้ลูกชายมานั่ง เซียวหย่งเสียนไม่อยากขัดจึงเดินมานั่งข้าง ๆ นางหลินหลานจึงจับมือลูกชายมาตบหลังมือเบา ๆ และพูดด้วยเสียงที่อ่อนโยน“ฟังแม่นะ ลูกผู้หญิงทุกคนเมื่อแต่งงานย่อมต้องเจอเหตุการณ์นี้ แม้ว่าจะเจ็บปวดสักแค่ไหน แต่เมื่อเห็นหน้าลูกย่อมหายเจ็บและรู้สึกว่าคุ้มค่ามากหากเทียบกับความเจ็บที่เจอมา เสี่ยวฮวาคนนี้ย่อมต้องผ่านมันไปได้ เธอรู้ดีว่ามีครอบครัวและสามีที่ดีเช่นลูกรออยู่ เธอไม่มีทางไปไหนแน่นอน”เซียวหย่งเสียนได้ยินคำพูดประโยคสุดท้ายของแม่ แผ่นหลังของชายหนุ่มเย็นไปหมด แม่พูดเช่นนี้เท่ากับท่านรับรู้มาตลอดว่าชุยเหมยฮวาไม่ใช่คนเดิม เขาจึงหันมองหน้าแม่อย่างตื่นตกใจ“แม่รู้...”“อย่าลืมว่าพ่อของลูกกับพ่อของเสี่ยวฮ
“ยินดีด้วยนะคะ คุณแม่ท้องได้สองเดือนแล้ว” คุณหมอกล่าวหลังจากตรวจเสร็จ ชุยเหมยฮวาและเซียวหย่งเสียนมองหน้ากันด้วยรอยยิ้ม ในที่สุดเจ้าตัวเล็กก็มาเสียทีตอนนี้ครอบครัวเขาสมบูรณ์แล้วจากนั้นคุณหมอจึงบอกวิธีการดูแลคนท้องให้กับสองสามีฟังอย่างละเอียด แต่มีเหรอที่เซียวหย่งเสียนจะไม่ถามเรื่องการแสดงความรักกับภรรยา“ยังคงปฏิบัติได้เหมือนเดิมค่ะ เพียงแค่รอให้พ้นช่วงสามเดือนแรกไปก่อน แต่หลังจากนั้นยังคงต้องระวังความรุนแรงสักเล็กน้อย จนกว่าจะใกล้กำหนดคลอด”คุณหมอใบหน้าเกิดริ้วแดง ไม่คิดว่าสามีคนไข้ท่านนี้จะถามออกมาตรงๆหลังจากรับยาบำรุงสองสามีภรรยาจึงกลับมาที่ร้านเพื่อบอกข่าวดีแก่ทุกคน“เสี่ยวฮวา น้องกำลังท้องอยู่นะ เดินเหินระวังด้วยสิ” เซียวหย่งเสียนปวดหัวมากกับความดื้อรั้นของภรรยารัก“พี่หย่งเสียน หนูท้องนะไม่ได้ป่วยพี่จะไม่ให้หนูทำอะไรเลยไม่ได้ ฮือ...พี่ไม่รักหนูแล้วใช่ไหม พี่เลยดุหนูตลอด หนูแค่เดินมาหาทุกคนเท่านั้นเอง” ชุยเหมยฮวาน้ำเสียงสะอื้นตอบกลับ เธอไม่รู้อารมณ์ตัวเองเหมือนกัน เพียงแค่โดนดุเล็กน้อยเธอก็น้ำตาซึมแล้ว“โอ๋ ๆ ไม่ร้องนะครับคนเก่ง ไม่ใช่พี่ไม่รักหนู แต่เพราะรัก พี่จึงเป็นห่วง ครั้
ชุยเหมยฮวายิ้มรับก่อนจะพูดด้วยเสียงที่อ่อนโยน “ไม่ใช่เพราะฉันคนเดียวหรอกป้า แต่ทุกคนต่างหากที่ร่วมด้วยช่วยกันจนมีวันนี้ ฉันเองก็ต้องขอบคุณพี่หย่งเสียนที่ยอมแต่งกับหญิงร้ายกาจเช่นฉัน พอวันหนึ่งที่ฉันคิดได้จึงรู้ว่าอะไรและใครสำคัญที่สุด ฉันเลยคิดที่จะเปลี่ยนตัวเองเพื่อคนที่รัก”ชาวบ้านได้แต่ยิ้มให้ จากนั้นชุยเหมยฮวาจึงเดินดูความเรียบร้อยในส่วนอื่น ๆ ก่อนจะเดินมาหาสามีที่ยังนั่งดื่มกินกับเจ้าบ่าวและกลุ่มของเพื่อนที่มาจากในอำเภอและในหมู่บ้าน“พี่หย่งเสียน หนูจะเข้าไปหาพี่สะใภ้ พี่เองก็อย่าแกล้งพี่ใหญ่มากล่ะ เดี๋ยวจะเมาแล้วไม่ได้เข้าหอ”“พี่ไม่แกล้งพี่สัญญา เพราะคืนนี้พี่ต้องเข้าหอด้วยเหมือนกัน”เมื่อเจอการหยอกล้อของสามีใบหน้าของหญิงสาวจึงแดงขึ้นเพราะความเขินอายและรีบเดินจากไปทันทีชุยเหมยฮวาอยู่เป็นเพื่อนพี่สะใภ้อีกสักพักก่อนจะกลับไปจัดการอาหารที่บ้านใหญ่เซียวเพราะเดี๋ยวจะมีชาวบ้านมาขนไปที่บ้านชุย เพื่อนำไปแจกจ่าย และรอสามีรักกลับมาเข้าหอกับเธอเหมือนพี่ชายและพี่สะใภ้วันเวลาผ่านไปจนวันที่รอคอยของชุยเหมยฮวาและเซียวหย่งเสียนมาถึงเสียที ภัตตาคารเซียวเหมยเปิดทำการแล้ว พิธีเปิดในวันนี้เซียวจ้า
หลังจากจัดการเรื่องต่าง ๆ เสร็จสิ้น ทุกคนจึงดำเนินชีวิตอย่างปกติเช่นทุกวัน เซียวเจี้ยนซูไปช่วยงานที่ร้านเหมยฮวา เซียวหมิงหย่วนไปช่วยที่ร้านขายข้าวเหนียวหมูทอดของพ่อแม่สามี ตอนนี้บ้านชุยก็สร้างเสร็จแล้ว สองพ่อลูกบ้านชุยจึงย้ายกลับบ้านของตัวเอง แม้จะย้ายเข้าบ้านใหม่แล้วแต่ทั้งสองบ้านยังไม่ได้เลี้ยงฉลอง ทุกคนจึงเห็นว่าควรจะจัดงานแต่งของชุยซีหานและฟางเซียนเสียทีจะได้เลี้ยงพร้อมกันทีเดียวตอนนี้น้ำซอสปรุงอาหารเริ่มทยอยส่งขายแล้ว พร้อมกับลูกชิ้นชนิดต่าง ๆ ของชุยซีหาน ผลตอบรับทั้งสองอย่างดีเกินคาด ส่วนที่ดินที่สองครอบครัวซื้อไว้ ส่วนหนึ่งปลูกผลไม้ ส่วนหนึ่งนำมาเลี้ยงไก่เลี้ยงหมู ซึ่งเป็นฟาร์มขนาดใหญ่ไม่น้อย ส่วนสองพี่น้องบ้านลู่ คนหนึ่งเป็นหัวหน้าคนงานในไร่โดยมีหวางห่าวสามีของกู้จิงคอยมาช่วยอีกแรง เวลาว่างก็จะมาช่วยที่ร้านเช่นเดิม อีกคนช่วยดูงานในโรงงานลูกชิ้นขนาดเล็กของบ้านชุย เพียงแค่นี้ค่าแรงทั้งสองคนแต่ละเดือนมากจนใครได้ยินก็ต่างตกใจในที่สุดวันแต่งงานของชุยซีหานและฟางเซียนมาถึง บรรยากาศในหมู่บ้านแทบจะติดผ้าสีแดงทั้งหมด วันนี้บ้านชุยและบ้านเซียวเลี้ยงฉลองนอกจากงานแต่งของชุยซีหานแล้วยังเล
ชุยเหมยฮวาแทบจะกระโดดปรบมือให้กับน้องสามีคนนี้เหลือเกิน เธอรู้มาตลอดว่าเนื้อแท้ของสองพี่น้องบ้านรองไม่ใช่คนเลว อาจจะหลงผิดไปบ้าง แต่ในเมื่อคิดปรับปรุงตัวเธอก็พร้อมจะให้อภัย ส่วนเรื่องของเซียวเจี้ยนซูจะโทษเขาฝ่ายเดียวคงไม่ถูก เพราะชุยเหมยฮวาคนเก่าเป็นฝ่ายตามตื๊อเขาเอง“ฉันรักพี่หย่งเสียนมาก่อน ในอดีตนังเหมยฮวาไม่ได้รักพี่หย่งเสียน มันรักพี่เจี้ยนซู มันไม่เหมาะที่จะเป็นเมียพี่” เจียวมิ่งยังคงดึงดัน แม้จะรู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดก็ตาม“เหมาะหรือไม่ ผมเป็นคนตัดสินใจไม่เกี่ยวกับคุณ ครั้งนี้ผมจะยอมจบเรื่องแต่โดยดี ถ้ามีครั้งต่อไป คุณได้เป็นภรรยาของชายคนใดคนหนึ่งแน่ ในเมื่อรู้จักผมดีไม่ใช่เหรอ ย่อมรู้ว่าผมพูดจริงทำจริง”พูดจบเขาจูงมือภรรยาและชวนทุกคนออกจากห้องเพื่อไปกินอาหารที่ร้านเป็นการตอบแทน“พี่หย่งเสียนมีงานให้เราสองคนทำบ้างไหม”เซียวเจี้ยนซูเอ่ยถามโดยมีเซียวหมิงหย่วนพยักหน้าตาม ตอนนี้ทั้งสองพี่น้องอยากทำงานเก็บเงินมาก เพราะเงินในบ้านที่เคยมีพ่อเอาไปเล่นการพนันแทบจะไม่เหลือแล้ว“ได้สิ พี่เจี้ยนซูฝึกงานกับพี่ฉงซานไปก่อนนะ ฉันกับพี่หย่งเสียนตั้งใจจะเปิดร้านอาหารอีกแห่ง ตอนนี้ซื้อที่
“ฉันจะเปิดเข้าไปดูถ้าเป็นพี่หย่งเสียนจริง ฉันยินดีที่จะหย่าให้ถ้าเขาอยากอยู่กับอดีตคนรัก เมื่อฉันมาทีหลัง ฉันพร้อมจะหลีกทาง” พูดจบก็เปิดประตูเข้าไป ภาพที่เห็นหากไม่รู้แผนการมาก่อนคงใจสลายไม่น้อย เพราะรูปร่างของชายหนุ่มที่นอนคว่ำหน้าไม่ต่างจากสามีของเธอ“พี่หย่งเสียน! พี่ทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง พี่ตื่นมาคุยกันให้รู้เรื่องนะ” ชุยเหมยฮวาเล่นเต็มที่ ทำเอาเซียวหมิงหย่วนอยากจะปรบมือให้พี่สะใภ้เสียเหลือเกินเจียวมิ่งแอบอมยิ้ม ก่อนจะแกล้งบิดขี้เกียจและทำเสียงงัวเงีย “ใครมารบกวนเราค่ะพี่หย่งเสียน” พอเห็นว่าเข้าตามแผนก็รีบปรับสีหน้าเป็นตกใจ และปลุกชายหนุ่มที่นอนข้างกัน“พี่หย่งเสียน ตื่นเถอะ ภรรยาพี่มา”“เกิดอะไรขึ้น ทำไมภรรยาผมมา ในเมื่อผมไม่มีภรรยาเสียหน่อย” ในเมื่อทุกอย่างลุล่วงเขาจึงแกล้งลืมตาและส่งเสียง ก่อนจะหันมาเจอหน้ากับทุกคน จึงทำให้เจียวมิ่งร้องลั่นห้อง“กรี๊ด! แกไม่ใช่พี่หย่งเสียน แกมาอยู่ในห้องนี้ได้ยังไง”“เอ้า... ผมนอนของผมอยู่ดี ๆ คุณนั่นแหละเป็นใคร มานอนแก้ผ้าทำไมในห้องผม หรือว่าคุณต้องการทำมิดีมิร้าย ต่อให้ผมหน้าตาแบบนี้แต่ผมก็เลือกนะ” ชายหนุ่มพูดตามความคิด ถ้าเขาเป็นพี่หย่งเสี