ทันทีที่มาถึงเซียวหย่งเสียนจ่ายเงินไปสี่เหมาเป็นค่าเกวียน ชุยเหมยฮวามองอย่างเสียดาย และคิดว่าอย่างน้อยเธอควรจะเอาจักรยานออกมาใช้สักคัน เพราะถ้าหากทำผัดไทยหรือขายอาหาร จะต้องเข้าอำเภอทุกเช้าเพื่อเอาวัตถุดิบออกมา ‘ใช่แล้ว ที่ร้านเธอมีซาเล้งอยู่ทั้งแบบจักรยานและใช้เครื่องยนต์’เซียวหย่งเสียนพาชุยเหมยฮวาดูสองข้างทางในอำเภอ เมื่อเห็นแววตาเธอตื่นเต้นไม่ต่างจากเด็กน้อย เขาจึงยิ้มขึ้นมา“อยากซื้ออะไรไหม”“ไม่ค่ะ เสียดายเงิน ตอนนี้เรายังไม่มีรายได้หนูไม่อยากเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ อีกทั้งของทุกอย่างทั้งของกินของใช้หนูมีหมดแล้ว”เธอเลี่ยงที่จะบอกว่าในมิติเพราะกลัวคนอื่นจะได้ยิน ชายหนุ่มจึงมองหน้าภรรยาด้วยความอบอุ่น เธอรู้คุณค่าของเงิน ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยและคิดถึงครอบครัวก่อนเสมอ“พี่หย่งเสียน ในนั้นมีจักรยานสามล้อแบบทั้งปั่นและใช้เครื่องยนต์ เราเอาแบบจักรยานออกมาใช้ได้ไหม แต่เราจะหาข้ออ้างบอกคนอื่นยังไงดี หนูไม่รู้ว่าจักรยานที่นี่ราคาแพงหรือเปล่า ในหมู่บ้านแทบจะไม่เห็นใครใช้เลย” ในหมู่บ้านเท่าที่เธอจำได้มีเพียงบ้านเศรษฐีก้าน และบ้านหัวหน้าหมู่บ้านเท่านั้น คนอื่นแทบไม่มีใครใช้เธอจึงคิดว่าเพราะม
เมื่อหาคำตอบได้แล้วชุยเหมยฮวาจึงพาสามีออกมาจากมิติพร้อมกับของที่จำเป็นใส่ไว้ด้านหน้าส่วนเธอมานั่งซ้อนท้ายแทน ความจริงในเมื่อเอาซาเล้งออกมาแล้วไม่จำเป็นต้องทำรถเข็นก็ได้ เอาไม้พวกนั้นมาทำโต๊ะและเก้าอี้เพิ่มแทน เพราะซาเล้ง เอ๊ย! สามล้อคันนี้สามารถขนของได้ระหว่างที่ขี่ในอำเภอมีหลายคนสนใจและอยากซื้อรถแบบนี้มาใช้บ้างแต่ไม่มีใครกล้าที่จะถาม สุดท้ายมีลุงเจ้าของร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าปั่นจักรยานตามมาเกือบถึงทางเข้าหมู่บ้าน“พ่อหนุ่ม หยุดก่อน!”“พี่หย่งเสียน ลุงคนนั้นเหมือนมีเรื่องจะคุยกับเรานะพี่”เซียวหย่งเสียนเหลียวหลังกลับไปมอง จากนั้นจึงชะลอรถและจอดนิ่งในที่สุด เมื่อลุงเจ้าของร้านคนนั้นตามมาทัน เขาจึงถามเรื่องที่ขี่รถตามเขามา“มีอะไรหรือเปล่าครับ ขี่รถตามผมกับภรรยามาทำไม” น้ำเสียงที่ถามสุดแสนจะเย็นชาและดุดัน สายตาชุยเหมยฮวาเธอคิดว่าสามีเธอพร้อมจะบวกทันทีถ้าเกิดอะไรขึ้น“ใจเย็นก่อนพ่อหนุ่ม ลุงมีร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า และร้านขายข้าวสารที่ขออนุญาตทางรัฐเรียบร้อยแล้วและร้านค้าอีกหลายร้าน ลุงสนใจรถที่พ่อหนุ่มใช้ เลยอยากจะถามว่าซื้อมาจากที่ไหน หรือสามารถเป็นคนกลางติดต่อซื้อขายให้ลุงได้หรือเปล่า
เมื่อชุยเหมยฮวาและเซียวหย่งเสียนมาถึงบ้าน ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมกับสองพ่อลูกบ้านชุยที่มาช่วยทำโต๊ะและรถเข็นให้ชุยเหมฮวา แต่พอมองเห็นทั้งสองคนกลับมาพร้อมกับรถสามล้อทั้งสี่จึงอ้าปากตกใจ“เจ้าใหญ่ ไปเอารถใครมาลูก” เซียวจ้ายซวนถามลูกชายด้วยความตกใจ“ของเสี่ยวฮวาครับพ่อ วันนี้เธอพาผมไปรู้จักคนที่เธอค้าขายด้วย เขาเลยให้รถคันนี้มาเป็นค่าตอบแทน เธอขายให้ได้หลายคัน อีกทั้งเขารู้ว่าเสี่ยวฮวากำลังจะขายอาหารเลยให้มาเพื่อใช้ขนของและเวลาออกไปซื้อของทุกเช้า ของหน้ารถพวกนี้เขาก็ลดราคาให้ครับพ่อ”เซียวหย่งเสียนพูดอย่างไหลลื่น เขาไม่คิดว่าการโกหกเรื่องนี้จะผิดมาก เขาโกหกเพื่อความสบายใจของทุกคน“จริงเหรอลูก ต้องขอบคุณคนนั้นเยอะๆ ดูท่าแล้วรถคันนี้ท่าจะแพงน่าดู” นางหลินหลานหันไปทางเข้าหมู่บ้านเพื่อขอบคุณถึงคนที่ช่วยเหลือลูกสะใภ้และลูกชายของเธอชุยเหมยฮอวายิ้มกว้างให้สามีและรู้สึกขอบคุณที่เขาช่วยโกหกให้เธอ“ใช่ค่ะแม่ ก่อนกลับมามีเถ้าแก่ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้ายังปั่นจักรยานตามมาเพื่อให้หนูเป็นคนกลางซื้อรถคันนี้ให้ เขาให้ราคาเจ็ดร้อยห้าสิบหยวน หนูได้ราคาเท่าไหร่ส่วนต่างเป็นของหนูกับพี่หย่งเสียนทั้งหมด เถ้าแก
“ไม่นึกมาก่อนนะว่าบ้านเซียวจะมีเงินมากขนาดนี้ ถึงขั้นซื้อสามล้อราคาแพงมาใช้ ไม่ใช่ไปทำอะไรผิดกฎหมายมาหรอกใช่ไหม”ด้วยความอิจฉาทำให้นางกวงแม่ของโจเหม่ยอีถามเสียงดังเพื่อหักหน้าบ้านใหญ่เซียว ชุยเหมยฮวาจับมือสามีและส่ายหน้าให้เขาและทุกคน ก่อนจะต้องกลับแบบเผ็ดร้อนเช่นกัน คิดจะหาคุกให้เธอและครอบครัวเหรอ ฝันไปเถอะ“ป้าอิจฉาเหรอ อิจฉามากก็เอาหัวโหม่งพื้นตายไปเลย จะได้ไม่อยู่เป็นภาระคนอื่น บ้านสามีฉันจะมีหรือจะซื้ออะไรมาต้องไปรายงานสำนักทะเบียนหรือกรรมการหมู่บ้านก่อนไหม ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไปมันทั้งหมู่บ้านนี่แหละ เมื่อเช้าเกวียนที่เข้าอำเภอชาวบ้านไปกันตั้งหลายคนส่วนเรื่องที่กล่าวหาและคิดว่าฉันทำผิดกฎหมายก็อย่าเดามั่วเพราะถ้าเดาผิดขึ้นมาจะหน้าแตกหมอไม่รับเย็บ และที่สำคัญป้าไม่ใช่คนในครอบครัวฉัน ทำไมฉันต้องอธิบายให้ฟังด้วยล่ะ แบบนี้เขาเรียกว่าอะไรนะ อ๋อ...เขาเรียกยุ่งเรื่องชาวบ้านใช่ไหม”ชุยเหมยฮวาตอบกลับพร้อมทำหน้ายียวน หาเรื่องเองช่วยไม่ได้เธอและครอบครัวอยู่กันดีๆ ก็หาเหามาใส่หัวให้เธอ“นังเด็กปากเสีย ก็ไหนบอกว่าหล่อนเปลี่ยนเป็นคนดีแล้วไม่ใช่เหรอ ไม่เห็นจะดีตรงไหนเลยยังร้ายเหมือนเดิม” นางกวงย
“ในเมื่อทุกอย่างเป็นเงินของสะใภ้ แม่สามีเช่นฉันไม่มีสิทธิ์ก้าวก่ายเช่นกัน เมียเจ้าใหญ่เองก็กตัญญู ตั้งแต่หายป่วยเธอทำอาหารดี ๆ ให้เรากินทุกมื้อ ฉันเป็นแม่สามีก็ไม่มีหน้าพูดเพื่อแย่งชิงของลูกสะใภ้ พ่อสามีคงเข้าใจนะ”“ดี ดีจริงๆ เจ้าใหญ่ดูเมียกับลูกแกนะ ไม่เห็นหัวขาว ๆ ของฉันเลย” พ่อเฒ่าเซียวเล่นงานใครไม่ได้จึงหันมาเล่นงานลูกชายตัวเอง“ครับพ่อ ตอนนี้ผมแยกบ้านออกมาแล้ว แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นบ้านใหญ่เซียว แต่ก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับบ้านรองเซียวที่ขึ้นเป็นผู้นำตระกูลนะครับ ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเราสองบ้านแทบไม่ยุ่งเกี่ยวกัน พ่อเองไม่ใช่เหรอที่ให้ผมลงชื่อหนังสือแยกบ้านและบอกว่าผมไม่ต้องส่งเสียอะไรให้พ่อกับแม่เพื่อแสดงความกตัญญู เพียงแค่ยกตำแหน่งผู้นำตระกูลเซียวให้กับบ้านรอง และผมก็ยินยอม ผมรู้ครับว่าวันนี้คงมีใครบอกพ่อว่าเจ้าใหญ่กับสะใภ้ขี่รถสามล้อกลับมารวมทั้งซื้อของมามากมายผมอายุครึ่งร้อยแล้วครับ ไม่รู้จะอยู่ได้อีกกี่ปี ผมไม่อยากสร้างปัญหาให้กับลูกเพื่อแย่งชิงของที่ไม่ใช่ของตนแล้วเอาไปให้บ้านรองหรอกนะครับ” เซียวจ้ายซวนกล่าว เขาไม่คิดว่าพ่อของตนจะกล้ามาที่นี่เพื่อมุ่งหวังทรัพย์สินและของที่ไม่
ชุยเหมยฮวากลอกตามองบน ‘แบบนี้ก็ได้เหรอ’“ปู่จะเชื่อหรือไม่ก็ตามใจ แต่ผมให้ไม่ได้จริง ๆ จะกล่าวหาว่าผมอกตัญญูก็ได้ ผมยินดีน้อมรับ เสี่ยวฮวาเป็นเมียผม หากผมไม่ปกป้องเมียแล้วจะให้ผมไปปกป้องใครวันนี้เธอพาผมไปรู้จักกับพ่อค้าที่เธอติดต่อเป็นคนกลางขายของให้กับร้านค้าต่างๆ หากปู่ไม่เชื่อก็ไปถามเถ้าแก่ต้วนเจ้าของร้านข้าวสารและเจ้าของร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าดูสิครับ” เขาไม่บอกว่าชุยเหมยฮวานั้นขายอะไรให้ ให้ไปสอบถามกันเอาเองก็แล้วกัน“จริงด้วย ตอนที่ฉันกลับเข้ามาในหมู่บ้าน ฉันเห็นหย่งเสียนและเหมยฮวาคุยกับใครคนหนึ่ง พอสองคนนี้รับคำดูเหมือนเถ้าแก่คนนั้นจะดีใจมากเลยล่ะ” ชาวบ้านคนที่เห็นสองเหตุการณ์ยกมือบอกเมื่อมีชาวบ้านเห็นเหตุการณ์และเป็นพยานให้ คนอื่นๆ มองหน้ากันเลิ่กลั่ก การที่พูดว่าเซียวหย่งเสียนแต่งงานกับตัวซวยนางร้ายประจำหมู่บ้านนั้นเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ แต่ตอนนี้เหตุการณ์เกิดความพลิกผัน กลับกลายเป็นความโชคดีไปแล้วพอเห็นว่ามีชาวบ้านมาช่วยยืนยัน ทำให้บ้านรองเซียวหน้าชา เพราะทุกคนในบ้านรองเซียวรังเกียจชุยเหมยฮวากันทั้งนั้นเซียวเจี้ยนซูได้แต่กำหมัดแน่น นี่เขาทำอะไรลงไป แทนที่ของพวกนี้จะเป็นของเข
“ไม่เลยลูก พ่อต้องขอโทษลูกด้วยที่ครั้งนั้นพ่อคิดอะไรง่ายไปหน่อย เพราะต้องการคนมาช่วยดูแลลูกพ่อจึงแต่งเมิ่งเสียเข้ามา”ครั้งนั้นหากเขาไม่พลาดพลั้งเพราะเมาและเธอท้องด้วยนิสัยเช่นนั้นของเมิ่งเสีย เขาคงยอมเป็นคนเลวไม่ยอมแต่งเธอเข้ามาแน่“ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะพ่อ แต่หนูขอถามหน่อยได้ไหม ทำไมเผยหรานและจิงหนานสองคนนี้จึงหน้าตาไม่เหมือนพ่อเลยล่ะ หรือว่าหน้าตาไปทางปู่ชุยค่ะ”ในเมื่อพ่อเปิดประเด็นมา ชุยเหมยฮวาจึงถามในสิ่งที่สงสัย เธอไม่รู้หรอกนะว่าใครจะคิดยังไง แต่เธอมีแอบคิดเมื่อเห็นน้องสาวต่างแม่ครั้งแรกอย่างชุยเผยหราน ความคิดนี้จึงผุดเข้ามาในสมองทันที แม้จะยังไม่เห็นหน้าตาน้องชายอีกคนก็ตาม แต่ในความทรงจำของร่างเดิมทั้งสองคนนี้ไม่มีใครเหมือนพ่อเธอสักคน“จริงด้วยพ่อ ผมเองก็เคยคิดนะ แต่ไม่กล้าถามเพราะเรื่องของผู้ใหญ่ แต่พอยิ่งโตผมยิ่งสงสัยเพราะหน้าตาของทั้งสองคนไม่เหมือนพ่อเลยสักคน” ชุยซีหานคิดไม่ต่างกับน้องสาว“อย่าว่าอย่างนู้นอย่างนี้เลยนะอาหลาย ฉันเองไม่ได้อยากยุ่งเพราะไม่อยากผิดใจกับนาย เราสองคนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ยังไม่มีครอบครัว การที่นายบอกฉันว่านายพลาดในครั้งนั้นและเมิ่งเสียท้องนายจึงแต่ง
ชุยหลายสงสารลูกทั้งสองคนมาก ไม่คิดว่าความผิดพลาดของตนจะทำให้ลูกๆ มีปมในใจไม่ต่างกัน “พ่อขอโทษนะ เจ้าใหญ่ เสี่ยวฮวา”“ไม่เป็นไรค่ะพ่อ ไม่ว่าเรื่องนี้ผลจะออกมาเป็นยังไง หนูและพี่ใหญ่ยังเป็นลูกของพ่อเสมอ เรามาคุยเรื่องค้าขายกันดีกว่า”ชุยเหมยฮวาไม่อยากให้พ่อคิดมาก ในเมื่อผิดพลาดมานานแล้ว ตอนนี้เพียงสังเกตการณ์ก็พอว่านางเมิ่งเสียจะเป็นยังไง หากรู้ว่าเธอและครอบครัวของสามีทำการค้า แต่ไม่คิดที่จะส่งเสียบ้านเดิม เพียงแค่ให้อาหารทั้งสามมื้อเท่านั้น“พี่ใหญ่กับพ่อทำตัวให้เหมือนปกติเช่นเดิม เมื่อไหร่ที่หลุดพ้นจากเมิ่งเสีย หนูอยากให้พ่อและพี่ใหญ่เลี้ยงไก่ไข่อย่างที่หนูบอก อีกทั้งเมื่อไหร่ที่เก็บเงินได้ค่อยเช่าซื้อที่ดินทำกินเพิ่ม เหมือนกับบ้านใหญ่เซียวบ้านสามีของหนู หนูสัญญาว่าพวกเราทุกคนจะต้องมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่านี้ค่ะ”ชุยเหมยฮวาพูดอย่างมั่นใจ แม้ว่าเธอไม่ได้มีของมากมายเหมือนนิยายที่เธอเคยอ่าน แต่ด้วยความสามารถทำอาหารและขนมของเธอบวกกับมีร้านอาหารติดมาในมิติ แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เธอและครอบครัวทั้งสองสุขสบายทุกคนมองหน้าเธอด้วยรอยยิ้มและขอบคุณ มีแต่เซียวหย่งเสียนที่มองเธอด้วยสายตาหวานฉ่ำโ
ถ้าจะไม่พูดถึงเซียวหมิงหย่วนก็คงไม่ได้ ตอนนี้เธอเองก็แต่งงานกับลู่จื่อฉี และกำลังท้องลูกคนแรก แต่กว่าที่ทั้งสองคนจะตกลงปลงใจกันได้ ชุยเหมยฮวาเธอทั้งช่วยเข็นช่วยดันไม่น้อยเพราะลู่จื่อฉีมักคิดว่าตัวเองไม่เหมาะสม อีกทั้งอาสะใภ้รองคอยกีดกันอยากให้ลูกสาวได้คนที่มีหน้ามีตากว่านี้ ส่วนเซียวเจี้ยนซูก็แต่งกับพนักงานของร้านเหมยฮวา เธอและสามีเคยบอกว่าจะให้สูตรอาหารเพื่อให้ทั้งสองคนได้มีกิจการเป็นของตัวเอง แต่สองพี่น้องบอกว่าแค่นี้พวกเขาก็พอใจแล้วส่วนไร่ผลไม้ของสองตระกูลเริ่มผลิดอกออกผล แต่บางอย่างก็ต้องรอให้เต็มวัยก่อนจะเก็บผลผลิตไปขายได้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ชุยเหมยฮวาพูดไว้ ชีวิตนี้ไม่จำเป็นต้องรวยล้นฟ้า ไม่มีหนี้สินมีเพียงกิจการเล็ก ๆ แค่นี้ก็พอแล้ว เพราะนี่คือความสุขที่แท้จริง“ในที่สุดสองแสบก็หลับเสียที”เซียวหย่งเสียนแทบจะปาดเหงื่อเมื่อต้องเอาลูกน้อยทั้งสองคนเข้านอน หน้าที่นี้เขาขอทำเองตั้งแต่ลูกเกิด ชายหนุ่มรู้สึกว่าแค่ภรรยาต้องอุ้มทองและเจ็บท้องคลอดก็พอแล้ว อะไรที่ทำได้เขายินดีที่จะทำ“เหนื่อยไหมคะ ทำงานเสร็จกลับมาบ้านยังต้องช่วยหนูเลี้ยงลูกอีก” ไม่ใช่ไม่เห็นใจสามีที่เหนื่อยจากงานแล้วต้อ
การใช้ชีวิตใจฐานะของพ่อและแม่ดำเนินไปอย่างมีความสุข แม้ว่าเซียวหย่งเสียนจะต้องไปดูร้านทั้งสองแทนภรรยาก็ตาม เมื่อเสร็จงานเขาก็จะรีบกลับมาหาลูกและภรรยา จนภาพพวกนี้ชินตากับลูกน้องและคนในครอบครัวเด็กน้อยทั้งสองคนเติบโตทุกวันจนอายุครบสามขวบ ความซนและความแสบไม่มีใครเกินใครเหมือนกับวันนี้“แม่ฮะ วันนี้พ่อจีบฉาว” เซียวคุนหยางหรือว่าหยางหยางวิ่งตัวกลมเข้ามาฟ้องแม่คนสวยของตัวเอง“หยุดเลยนะหยางหยาง พ่อยังไม่ได้ทำอย่างที่ลูกพูดสียหน่อย อยากให้พ่อโดนแม่ไล่มานอนนอกห้องหรือยังไง”คราวก่อนก็ทีหนึ่งแล้วช่างหาเรื่องให้เขาเสมอ ไม่รู้ได้ความแสบมายังไง“ไหนหยางหยางลองเล่าให้แม่ฟังสิครับ ว่าพ่อของลูกจีบสาวที่ไหน”“จีบที่ร้านที่อาเจี้ยนซูดูแลอยู่ฮะ ฉาวสวยมาก”ชุยเหมยฮวาหันมองหน้าสามีตาเขียว ก่อนจะมาตั้งใจฟังลูกชายเล่าต่อ“ฉาวชื่อ ป้าเจียงเย่วฮะ ป้าเอาบัญชีมาให้พ่อแทนลุงฉงซาน ฮ่า ๆ”นั่นปะไร เชื่อได้ที่ไหนกับความกวนของลูกชาย ไม่รู้ว่าทั้งสองคนเป็นพ่อกับลูกหรือว่าเป็นศัตรูคู่แค้นกันแน่“เป็นยังไงบ้างคะ วันนี้ร้านขนมตกแต่งเสร็จหรือยัง”นอกจากร้านอาหาร เธอเริ่มที่จะสร้างร้านขนมอีกด้วย ตอนนี้จึงเหลือเพียงตกแต่ง
บทส่งท้ายความสุขของครอบครัวเซียวหย่งเสียนมารอที่ห้องพักนานแล้ว ยังไม่เห็นภรรยารักตามเข้ามา ใจเขาเริ่มกระวนกระวายอีกครั้ง แต่ไม่นานพยาบาลและเจ้าหน้าที่เข็นคนป่วยเข้ามา“ตอนนี้คนไข้ยังไม่ตื่นนะคะ รออีกสักหน่อย แต่ปลอดภัยแล้วค่ะ” ดูจากสีหน้าของคนเป็นสามีพยาบาลวัยกลางคนจึงบอกด้วยรอยยิ้ม“ขอบคุณมากครับ”เซียวหย่งเสียนหันมาขอบคุณพยาบาล ก่อนจะเดินไปยืนข้างภรรยารักที่กำลังนอนอยู่ สายตาที่มองช่างอ่อนโยน ยากจะหาสิ่งใดเปรียบ จนนางหลินหลานอดที่จะปลื้มใจความรักของทั้งสองคนได้“เดี๋ยวแม่ขอไปดูหลานก่อนนะ แล้วจะรีบกลับมา ลูกจะไปด้วยไหม” ในเมื่อลูกสะใภ้ยังไม่ตื่น เจ้าหน้าที่คงยังไม่พาหลานทั้งสองคนมา เธอจึงขอไปดูด้วยตัวเองก่อน“ไม่ดีกว่าครับแม่ ผมขออยู่กับเสี่ยวฮวาดีกว่า เดี๋ยวตื่นขึ้นมาแล้วจะไม่เจอใคร”นางหลินหลานพยักหน้าให้ก่อนจะเดินออกจากห้องเพื่อไปดูหลานรักทั้งสองคน“หิวน้ำ” เสียงอันอิดโรยของชุยเหมยฮวาดังขึ้น ทำให้เซียวหย่งเสียนตื่นตัวอีกครั้งและรีบไปรินน้ำใส่แก้วแล้วนำมาป้อนภรรยารัก“ค่อย ๆ กินนะครับ เดี๋ยวสำลัก”“ขอบคุณมากค่ะ หนูอิ่มแล้ว”เซียวหย่งเสียนวางแก้วไว้ตรงโต๊ะ ก่อนจะเดินเข้ามาแทรกตัวข
เจ้าใหญ่ นั่งก่อนเถอะ เสี่ยวฮวาอยู่กับหมอแล้วไม่เป็นอะไรหรอก” นางหลินหลานอดที่จะบ่นลูกชายไม่ได้ เธอมองตามไปมาตอนนี้เริ่มจะหน้ามืดแล้วเหมือนกัน“ผมเป็นห่วงครับแม่ เสี่ยวฮวาเข้าไปนานแล้ว หมอยังไม่ออกมาบอกเลย ผม...ผมกลัว”แค่ได้ยินเสียงที่เจ็บปวดของภรรยารัก เขาแทบจะไม่อยากให้คลอดลูกแล้ว ถ้าเป็นไปได้เขาขอเจ็บแทบดีกว่า แค่เห็นน้ำตาเธอเขาก็ใจสลายแทน“เจ้าใหญ่มานั่งนี่”เธอกวักมือเรียกให้ลูกชายมานั่ง เซียวหย่งเสียนไม่อยากขัดจึงเดินมานั่งข้าง ๆ นางหลินหลานจึงจับมือลูกชายมาตบหลังมือเบา ๆ และพูดด้วยเสียงที่อ่อนโยน“ฟังแม่นะ ลูกผู้หญิงทุกคนเมื่อแต่งงานย่อมต้องเจอเหตุการณ์นี้ แม้ว่าจะเจ็บปวดสักแค่ไหน แต่เมื่อเห็นหน้าลูกย่อมหายเจ็บและรู้สึกว่าคุ้มค่ามากหากเทียบกับความเจ็บที่เจอมา เสี่ยวฮวาคนนี้ย่อมต้องผ่านมันไปได้ เธอรู้ดีว่ามีครอบครัวและสามีที่ดีเช่นลูกรออยู่ เธอไม่มีทางไปไหนแน่นอน”เซียวหย่งเสียนได้ยินคำพูดประโยคสุดท้ายของแม่ แผ่นหลังของชายหนุ่มเย็นไปหมด แม่พูดเช่นนี้เท่ากับท่านรับรู้มาตลอดว่าชุยเหมยฮวาไม่ใช่คนเดิม เขาจึงหันมองหน้าแม่อย่างตื่นตกใจ“แม่รู้...”“อย่าลืมว่าพ่อของลูกกับพ่อของเสี่ยวฮ
“ยินดีด้วยนะคะ คุณแม่ท้องได้สองเดือนแล้ว” คุณหมอกล่าวหลังจากตรวจเสร็จ ชุยเหมยฮวาและเซียวหย่งเสียนมองหน้ากันด้วยรอยยิ้ม ในที่สุดเจ้าตัวเล็กก็มาเสียทีตอนนี้ครอบครัวเขาสมบูรณ์แล้วจากนั้นคุณหมอจึงบอกวิธีการดูแลคนท้องให้กับสองสามีฟังอย่างละเอียด แต่มีเหรอที่เซียวหย่งเสียนจะไม่ถามเรื่องการแสดงความรักกับภรรยา“ยังคงปฏิบัติได้เหมือนเดิมค่ะ เพียงแค่รอให้พ้นช่วงสามเดือนแรกไปก่อน แต่หลังจากนั้นยังคงต้องระวังความรุนแรงสักเล็กน้อย จนกว่าจะใกล้กำหนดคลอด”คุณหมอใบหน้าเกิดริ้วแดง ไม่คิดว่าสามีคนไข้ท่านนี้จะถามออกมาตรงๆหลังจากรับยาบำรุงสองสามีภรรยาจึงกลับมาที่ร้านเพื่อบอกข่าวดีแก่ทุกคน“เสี่ยวฮวา น้องกำลังท้องอยู่นะ เดินเหินระวังด้วยสิ” เซียวหย่งเสียนปวดหัวมากกับความดื้อรั้นของภรรยารัก“พี่หย่งเสียน หนูท้องนะไม่ได้ป่วยพี่จะไม่ให้หนูทำอะไรเลยไม่ได้ ฮือ...พี่ไม่รักหนูแล้วใช่ไหม พี่เลยดุหนูตลอด หนูแค่เดินมาหาทุกคนเท่านั้นเอง” ชุยเหมยฮวาน้ำเสียงสะอื้นตอบกลับ เธอไม่รู้อารมณ์ตัวเองเหมือนกัน เพียงแค่โดนดุเล็กน้อยเธอก็น้ำตาซึมแล้ว“โอ๋ ๆ ไม่ร้องนะครับคนเก่ง ไม่ใช่พี่ไม่รักหนู แต่เพราะรัก พี่จึงเป็นห่วง ครั้
ชุยเหมยฮวายิ้มรับก่อนจะพูดด้วยเสียงที่อ่อนโยน “ไม่ใช่เพราะฉันคนเดียวหรอกป้า แต่ทุกคนต่างหากที่ร่วมด้วยช่วยกันจนมีวันนี้ ฉันเองก็ต้องขอบคุณพี่หย่งเสียนที่ยอมแต่งกับหญิงร้ายกาจเช่นฉัน พอวันหนึ่งที่ฉันคิดได้จึงรู้ว่าอะไรและใครสำคัญที่สุด ฉันเลยคิดที่จะเปลี่ยนตัวเองเพื่อคนที่รัก”ชาวบ้านได้แต่ยิ้มให้ จากนั้นชุยเหมยฮวาจึงเดินดูความเรียบร้อยในส่วนอื่น ๆ ก่อนจะเดินมาหาสามีที่ยังนั่งดื่มกินกับเจ้าบ่าวและกลุ่มของเพื่อนที่มาจากในอำเภอและในหมู่บ้าน“พี่หย่งเสียน หนูจะเข้าไปหาพี่สะใภ้ พี่เองก็อย่าแกล้งพี่ใหญ่มากล่ะ เดี๋ยวจะเมาแล้วไม่ได้เข้าหอ”“พี่ไม่แกล้งพี่สัญญา เพราะคืนนี้พี่ต้องเข้าหอด้วยเหมือนกัน”เมื่อเจอการหยอกล้อของสามีใบหน้าของหญิงสาวจึงแดงขึ้นเพราะความเขินอายและรีบเดินจากไปทันทีชุยเหมยฮวาอยู่เป็นเพื่อนพี่สะใภ้อีกสักพักก่อนจะกลับไปจัดการอาหารที่บ้านใหญ่เซียวเพราะเดี๋ยวจะมีชาวบ้านมาขนไปที่บ้านชุย เพื่อนำไปแจกจ่าย และรอสามีรักกลับมาเข้าหอกับเธอเหมือนพี่ชายและพี่สะใภ้วันเวลาผ่านไปจนวันที่รอคอยของชุยเหมยฮวาและเซียวหย่งเสียนมาถึงเสียที ภัตตาคารเซียวเหมยเปิดทำการแล้ว พิธีเปิดในวันนี้เซียวจ้า
หลังจากจัดการเรื่องต่าง ๆ เสร็จสิ้น ทุกคนจึงดำเนินชีวิตอย่างปกติเช่นทุกวัน เซียวเจี้ยนซูไปช่วยงานที่ร้านเหมยฮวา เซียวหมิงหย่วนไปช่วยที่ร้านขายข้าวเหนียวหมูทอดของพ่อแม่สามี ตอนนี้บ้านชุยก็สร้างเสร็จแล้ว สองพ่อลูกบ้านชุยจึงย้ายกลับบ้านของตัวเอง แม้จะย้ายเข้าบ้านใหม่แล้วแต่ทั้งสองบ้านยังไม่ได้เลี้ยงฉลอง ทุกคนจึงเห็นว่าควรจะจัดงานแต่งของชุยซีหานและฟางเซียนเสียทีจะได้เลี้ยงพร้อมกันทีเดียวตอนนี้น้ำซอสปรุงอาหารเริ่มทยอยส่งขายแล้ว พร้อมกับลูกชิ้นชนิดต่าง ๆ ของชุยซีหาน ผลตอบรับทั้งสองอย่างดีเกินคาด ส่วนที่ดินที่สองครอบครัวซื้อไว้ ส่วนหนึ่งปลูกผลไม้ ส่วนหนึ่งนำมาเลี้ยงไก่เลี้ยงหมู ซึ่งเป็นฟาร์มขนาดใหญ่ไม่น้อย ส่วนสองพี่น้องบ้านลู่ คนหนึ่งเป็นหัวหน้าคนงานในไร่โดยมีหวางห่าวสามีของกู้จิงคอยมาช่วยอีกแรง เวลาว่างก็จะมาช่วยที่ร้านเช่นเดิม อีกคนช่วยดูงานในโรงงานลูกชิ้นขนาดเล็กของบ้านชุย เพียงแค่นี้ค่าแรงทั้งสองคนแต่ละเดือนมากจนใครได้ยินก็ต่างตกใจในที่สุดวันแต่งงานของชุยซีหานและฟางเซียนมาถึง บรรยากาศในหมู่บ้านแทบจะติดผ้าสีแดงทั้งหมด วันนี้บ้านชุยและบ้านเซียวเลี้ยงฉลองนอกจากงานแต่งของชุยซีหานแล้วยังเล
ชุยเหมยฮวาแทบจะกระโดดปรบมือให้กับน้องสามีคนนี้เหลือเกิน เธอรู้มาตลอดว่าเนื้อแท้ของสองพี่น้องบ้านรองไม่ใช่คนเลว อาจจะหลงผิดไปบ้าง แต่ในเมื่อคิดปรับปรุงตัวเธอก็พร้อมจะให้อภัย ส่วนเรื่องของเซียวเจี้ยนซูจะโทษเขาฝ่ายเดียวคงไม่ถูก เพราะชุยเหมยฮวาคนเก่าเป็นฝ่ายตามตื๊อเขาเอง“ฉันรักพี่หย่งเสียนมาก่อน ในอดีตนังเหมยฮวาไม่ได้รักพี่หย่งเสียน มันรักพี่เจี้ยนซู มันไม่เหมาะที่จะเป็นเมียพี่” เจียวมิ่งยังคงดึงดัน แม้จะรู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดก็ตาม“เหมาะหรือไม่ ผมเป็นคนตัดสินใจไม่เกี่ยวกับคุณ ครั้งนี้ผมจะยอมจบเรื่องแต่โดยดี ถ้ามีครั้งต่อไป คุณได้เป็นภรรยาของชายคนใดคนหนึ่งแน่ ในเมื่อรู้จักผมดีไม่ใช่เหรอ ย่อมรู้ว่าผมพูดจริงทำจริง”พูดจบเขาจูงมือภรรยาและชวนทุกคนออกจากห้องเพื่อไปกินอาหารที่ร้านเป็นการตอบแทน“พี่หย่งเสียนมีงานให้เราสองคนทำบ้างไหม”เซียวเจี้ยนซูเอ่ยถามโดยมีเซียวหมิงหย่วนพยักหน้าตาม ตอนนี้ทั้งสองพี่น้องอยากทำงานเก็บเงินมาก เพราะเงินในบ้านที่เคยมีพ่อเอาไปเล่นการพนันแทบจะไม่เหลือแล้ว“ได้สิ พี่เจี้ยนซูฝึกงานกับพี่ฉงซานไปก่อนนะ ฉันกับพี่หย่งเสียนตั้งใจจะเปิดร้านอาหารอีกแห่ง ตอนนี้ซื้อที่
“ฉันจะเปิดเข้าไปดูถ้าเป็นพี่หย่งเสียนจริง ฉันยินดีที่จะหย่าให้ถ้าเขาอยากอยู่กับอดีตคนรัก เมื่อฉันมาทีหลัง ฉันพร้อมจะหลีกทาง” พูดจบก็เปิดประตูเข้าไป ภาพที่เห็นหากไม่รู้แผนการมาก่อนคงใจสลายไม่น้อย เพราะรูปร่างของชายหนุ่มที่นอนคว่ำหน้าไม่ต่างจากสามีของเธอ“พี่หย่งเสียน! พี่ทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง พี่ตื่นมาคุยกันให้รู้เรื่องนะ” ชุยเหมยฮวาเล่นเต็มที่ ทำเอาเซียวหมิงหย่วนอยากจะปรบมือให้พี่สะใภ้เสียเหลือเกินเจียวมิ่งแอบอมยิ้ม ก่อนจะแกล้งบิดขี้เกียจและทำเสียงงัวเงีย “ใครมารบกวนเราค่ะพี่หย่งเสียน” พอเห็นว่าเข้าตามแผนก็รีบปรับสีหน้าเป็นตกใจ และปลุกชายหนุ่มที่นอนข้างกัน“พี่หย่งเสียน ตื่นเถอะ ภรรยาพี่มา”“เกิดอะไรขึ้น ทำไมภรรยาผมมา ในเมื่อผมไม่มีภรรยาเสียหน่อย” ในเมื่อทุกอย่างลุล่วงเขาจึงแกล้งลืมตาและส่งเสียง ก่อนจะหันมาเจอหน้ากับทุกคน จึงทำให้เจียวมิ่งร้องลั่นห้อง“กรี๊ด! แกไม่ใช่พี่หย่งเสียน แกมาอยู่ในห้องนี้ได้ยังไง”“เอ้า... ผมนอนของผมอยู่ดี ๆ คุณนั่นแหละเป็นใคร มานอนแก้ผ้าทำไมในห้องผม หรือว่าคุณต้องการทำมิดีมิร้าย ต่อให้ผมหน้าตาแบบนี้แต่ผมก็เลือกนะ” ชายหนุ่มพูดตามความคิด ถ้าเขาเป็นพี่หย่งเสี