"เงินพวกนั้นยังต้องใช้ ตอนนี้แตะไม่ได้"เจียงฉินกลอกตาของเธอ:"เงินเยอะขนาดนั้น! แกจะเก็บมันไว้เป็นสินสอดทองหมั้น?"เซียวตั๋วตอบไปเรียบๆ :"อืม ประมาณนั้น"เจียงฉินตกตะลึง:"เป็นสินสอดทองหมั้นจริงเหรอ?"ใบหน้าของเสิ่นม่านแดงก่ำ ก็นั่งบนโซฟาทันที พูดไปเรียบๆ :"ฉันก็หิวแล้ว ทำไมอาหารยังไม่เสร็จ""ใกล้แล้ว ใกล้แล้ว! พวกเธอสามคน สามปาก! แต่ไม่มีใครสละเวลามาช่วยฉัน!""ฉันช่วย!"เจียงฉินยกมือทันที และรีบเข้าไปในครัวฟู่ฉือโจวกลอกตาขึ้น:"แม่คุณ เธอนี่มาช่วยฉันเหรอ?ไม่มาสร้างเรื่องก็ดีแค่ไหนแล้ว!""ฟู่ฉือโจว! แกกล้ารังเกียจพี่สาวอย่างฉัน? เชื่อหรือไม่ว่าฉันจะฉีกหูแกออก!""ไม่กล้า ไม่กล้า ผมไปกล้าที่ไหน……"ในครัว ฟู่ฉือโจวและเจียงการทะเลาะไม่หยุดเสิ่นม่านนั่งบนโซฟาอย่างประหม่า เซียวตั๋วนั่งห่างจากเสิ่นม่านไม่มาก เขาเปิดระยะที่ปลอดภัยและให้โอกาสเสิ่นม่านหายใจเมื่อเห็นว่าเซียวตั๋วไม่ได้พูด เสิ่นม่านก็มองเซียวตั๋วโดยไม่รู้ตัว เห็นว่าเซียวตั๋วสวมเพียงชุดลำรองง่ายๆ ไหล่กว้างและเอวบางสัดส่วนร่างกายที่เพรียวบางและสมบูรณ์แบบ ชุดลำรองหลวมเผยให้เห็นกระดูกไหปลาร้าที่ละเอียดอ่อนของเขา ขาดชุดที่
เสิ่นม่านมองไปที่ห้องครัวโดยไม่รู้ตัว เซียวตั๋วสวมผ้ากันเปื้อนสีดํา และท่าทางการเจียวไข่ก็ดูสบายๆอาจรู้สึกถึงสายตาของเสิ่นม่าน เซียวตั๋วเงยหน้าขึ้น และก็ได้จ้องตาเธอเสิ่นม่านรีบมองไปที่อื่น แต่ก็สายเกินไป"ได้เวลากินแล้ว!"ฟู่ฉือโจวตะโกน จากนั้นเขาก็เดินออกมาคนเดียวพร้อมจานอาหารสําหรับสามคนในขณะที่ เซียวตั๋วถือจานในมือของเขาและวางไว้ตรงหน้าเสิ่นม่านฟู่ฉือโจวเห็นแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ:"เฮ้อ เมื่อไหรแกจะดูแลฉันที่เป็นเพื่อนแกดีแบบนี้บ้าง"เจียงฉินเถียง:"กับนาย? ชาติหน้า"เสิ่นม่านก้มหัวกินข้าว มีข้อความจากป๋อซือเหยียนก็ได้ส่งมาที่มือถือของเธอเสิ่นม่านมองเซียวตั๋ว เห็นว่าเซียวตั๋วไม่ได้มองไปทางเธอ ถึงได้กดดูข้อความ ป๋อซือเหยียน: เจอกันที่โรงแรมรอยัลตอนสองทุ่มเสิ่นม่านลังเลอยู่ครู่หนึ่งและคิดถึงความฝัน เธอส่งข้อความไปเสิ่นม่าน: ไม่ล่ะ เดี๋ยวฉันไปหาคุณที่ป๋อซือกรุ๊ปหลังจากส่งข้อความ เสิ่นม่านก็วางมือถือบนโต๊ะเสิ่นม่านวางตะเกียบในมือลงพูด :"ฉันกินอิ่มแล้ว ฉันมีธุระขอออกไปก่อน"เจียงฉินถาม:"ให้ฉันไปเป็นเพื่อนไหม?""ไม่ ฉันจะไปจัดการเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ"เสิ่นม่
“เครื่องกระตุ้นหัวใจ! เร็วเข้า! เพิ่มแรงดันไฟ!” “คุณหมอคะ ผู้ป่วยมีเลือดออกเยอะมากค่ะ ที่ห้องเก็บเลือด เลือดกรุ๊ปเอเพิ่งถูกเบิกไปใช้หมดเมื่อกี้นี่เองค่ะ”มือของพยาบาลฝึกหัดเต็มไปด้วยเลือด กระทั่งในขณะที่พูดก็ตัวสั่นไปหมดภายในห้องผ่าตัดคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นเลือดเธอไม่เคยเห็นเลือดเยอะขนาดนี้มาก่อน ในตอนนี้ มีความคิดหนึ่งแวบขึ้นมาในหัวของเธอใครเป็นคนเบิกเลือดกรุ๊ปเอออกไปจากห้องเก็บเลือดกันนะ?ผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงมีสีหน้าที่ขาวซีด และริมฝีปากที่แห้ง ดวงตาของเธอเริ่มพร่ามัว “ป๋อซือเหยียน……”“อะไรนะคะ?”“ป๋อซือเหยียน……”ครั้งนี้พยาบาลฝึกหัดได้ยินแล้วว่า ชื่อของบุคคลที่ผู้หญิงคนนี้ซึ่งกำลังหายใจรวยรินอยู่บนเตียงกำลังเรียกหานั่นก็คือ ป๋อซือเหยียนป๋อซือเหยียน เป็นประธานบริษัทที่มีอำนาจและอิทธิพลที่สุดในเมืองไห่คุณหมอกระวนกระวาย เขากดเบอร์ผิดไปสามครั้งกว่าจะกดเบอร์ที่ถูกต้องได้ จากนั้นเขาก็รีบพูดกับคนที่อยู่ปลายสายว่า “ประธานป๋อ คุณผู้หญิงเลือดออกเยอะมาก แต่เลือดกรุ๊ปเอของเราเพิ่งจะถูกเบิกเอาไปใช้จนหมด ผมเลยอยากขอให้คุณมาหาคุณผู้หญิงเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เธอจะสิ้นใจ”น้ำเ
ป๋อซือเหยียนมองไปตามสายตาของเลขาหลี่สีแดงนั้นช่างโดดเด่นมากท่ามกลางฝูงชนเสิ่นม่านที่ใส่ชุดเดรสยาวสีไวน์แดง ทุกการเคลื่อนไหวและรอยยิ้มของเธอนั้นสามารถกระชากใจของผู้คนได้ ช่างภาพของสื่อต่างๆต่างก็มุ่งความสนใจไปที่การถ่ายรูปของเสิ่นม่าน ชั่วพริบตานั้น เธอเหมือนกับซุปเปอร์สตาร์ที่กำลังเดินอยู่บนพรมแดงเสิ่นม่านงั้นเหรอ?ป๋อซือเหยียนตกตะลึงอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่เขาจะจำได้ว่าเป็นเสิ่นม่านในอดีต เสิ่นม่านชอบแต่งหน้าเบาๆ ใส่กระโปรงที่สง่างาม นี่เป็นครั้งแรกที่ป๋อซือเหยียนเห็นเสิ่นม่านแต่งตัวแบบนี้สีหน้าของซูเฉี่ยนเฉี่ยนไม่ค่อยดีนัก เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นเสิ่นม่านเมื่อเทียบกับความงามอันน่าเย้ายวนของเสิ่นม่านแล้ว ซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็ดูจืดชืดไปเลยอย่างเห็นได้ชัด เหมือนกับนักศึกษาที่ไม่บรรลุนิติภาวะ “พี่เสิ่น.... สวยจังเลย”น้ำเสียงของซูเฉี่ยนเฉี่ยนมีความอิจฉาเล็กน้อยปนอยู่เมื่อเสิ่นม่านเห็นป๋อซือเหยียนกับซูเฉี่ยนเฉี่ยน เธอก็เดินตรงมาที่พวกเขาสองคนซูเฉี่ยนเฉี่ยนคิดว่าเสิ่นม่านที่ไม่รู่เรื่องอะไรคงจะรู้สึกกระอักกระอ่วนที่เห็นเธอควงแขนป๋อซือเหยียน แต่เธอกลับคิดไม่ถึงว่าเสิ่นม่าน
เนื่องจากการต่อรองราคาในการประมูลนี้ ป๋อซือเหยียนจึงมุ่งความสนใจไปที่เสิ่นม่าน และไม่ได้สังเกตเห็นถึงการกระทำของซูเฉี่ยนเฉี่ยนเลยเมื่อการประมูลสิ้นสุดลง เสิ่นม่านกำลังเตรียมตัวที่จะกลับ แต่ก็ดันมาเจอกับป๋อซือเหยียนกับซูเฉี่ยนเฉี่ยนพอดี“เสิ่นม่าน เธอไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ก็อย่ามาสร้างปัญหาเพิ่ม”ป๋อซือเหยียนพูดอย่างไม่ให้เกียรติเสิ่นม่านเลยแม้แต่น้อยซูเฉี่ยนเฉี่ยนที่อยู่ข้างๆพูดขึ้นมาว่า “ใช่ค่ะ พี่เสิ่น พี่ทำแบบนี้ทำให้ประธานป๋อขาดทุนไปห้าหมื่นล้านเลยนะคะ”เสิ่นม่านหัวเราะเบาๆ "น้องซู เธอเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า ที่ดินนี้ฉันเป็นคนซื้อนะ เกี่ยวอะไรกับป๋อซือเหยียน?"ซูเฉี่ยนเฉี่ยนโพล่งออกมา "แต่นั่นคือห้าหมื่นล้านนะ....."“ก็แค่ห้าหมื่นล้านเอง สำหรับพวกเรามันก็แค่เงินที่เอาไว้สร้างกระท่อม ไม่ต้องพูดถึงคุณหนูเสิ่นเลย”ไม่ไกลออกไป มีเสียงของฟู่ฉือโจวก็ดังขึ้นมา "ใช่ไหม คุณหนูเสิ่น?"เสิ่นม่านเหลือบมองเซียวตั๋วที่อยู่ข้างๆฟู่ฉือโจวและพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย "มันก็แค่ห้าหมื่นล้านเอง ก็เหมือนซื้อของเล่นแหละ"ในชั่วพริบตา สีหน้าของซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็เปลี่ยนไปทันทีห
ภายในห้องนี้เงียบไปชั่วขณะ หลังจากนั้นไม่นาน เซียวตั๋วก็พูดด้วยรอยยิ้มที่ดูฝืนๆ “คุณผู้หญิงป๋อ อย่ากล่าวหาคนดีๆสิครับ”“ใช่ พวกเราเป็นนักธุรกิจจริงๆ!”ฟู่ฉือโจวพูดกับเสิ่นม่านอย่างจริงจัง“จะใช่นักธุรกิจจริงหรือไม่ก็ตาม ฉันไม่สนใจ แต่ฉันคิดว่าป๋อซือเหยียนน่าจะสนใจพอสมควร”เสิ่นม่านพูดอย่างใจเย็น "ฉัน เป็นเพียงคุณหนูผู้ร่ำรวยที่ไม่รู้อะไร แต่ป๋อซือเหยียนไม่ใช่ ถ้าฉันบอกป๋อซือเหยียนในสิ่งที่ฉันเพิ่งพูดไป ฉันไม่รู้ว่าเขาจะสนใจหรือไม่”“คุณนี่ช่างเป็นผู้หญิงที่เจ้าเล่ห์นักนะ!”ฟู่ฉือโจวไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้เสิ่นม่านมองเซียวตั๋วอย่างจริงจัง “ฉันไม่เบี้ยวหรอก ถ้าคุณให้ฉันยืมเงินสี่หมื่นล้าน ฉันจะคืนให้คุณพร้อมดอกเบี้ยหลังจากนี้สามปี”ฟู่ฉือโจวเบิกตากว้าง “ล้อเล่นอะไรอยู่ สี่หมื่นล้าน คุณรู้ไหมในสามปีข้างหน้าดอกเบี้ยจะเป็นเท่าไร? ถ้าคุณไม่สามารถคืนเงินได้ เราจะขาดทุนไปสี่หมื่นล้าน คุณคือภรรยาขิงป๋อซือเหยียน ถึงตอนนั้นใครจะกล้าทำอะไรคุณหละ?”“ฉันรู้ว่าดอกเบี้ยเท่าไหร่ ฉันสามารถเซ็นสัญญากับพวกคุณได้ ถ้าฉันไม่สามารถจ่ายคืนได้ ฉันจะยกบ้านและหุ้นของตระกูลเสิ่นให้กับพวกคุณ ฉันจะทำงานอ
รอยยิ้มของซูเฉี่ยนเฉี่ยนแข็งทื่อภายในชั่วพริบตา“ทำไมหละคะ?”“วันนี้ประธานป๋อพาคุณผู้หญิงป๋อไปออกงานด้วยกัน ดังนั้นคุณหนูซูเลยไปงานด้วยไม่ได้”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนฝืนยิ้ม “ที่แท้ก็ต้องการพาคุณผู้หญิงไปด้วยกันนี่เอง....งั้นก็ดีเลยค่ะ เดิมทีฉันก็ไม่ได้อยากไปอยู่แล้ว...”“งั้นก็โอเคครับ”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนถือโทรศัพท์ที่วางสายไปแล้วเอาไว้ จากกนั้นก็กัดริมฝีปากของเธอรูมเมทที่อยู่ข้างหลังเขามองหน้ากัน“เฉี่ยนเฉี่ยน แฟนของเธอคงไม่ได้เทเธอใช่ไหม?”“ได้ยินมาว่าปาร์ตี้นี้เป็นปาร์ตี้นานาชาติ เธอบอกว่าแฟนเธอจัดปาร์ตี้นี้ขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อพาเธอไปทำความรู้จักกับนักธุรกิจต่างชาติไม่ใช่เหรอ?”เมื่อเห็นสายตาของคนอยู่ข้างหลังเธอที่กำลังสงสัย ซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็ฝืนยิ้ม “เขามีลูกค้าคนสำคัญมากคนหนึ่งที่ต้องพาไปด้วย ดังนั้นฉันไม่ควรสร้างปัญหาให้เขา”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนก้มศีรษะลงพร้อมมองดูชุดออกงานในมือของเธอที่ถืออยู่ สีหน้าของเธอดูเศร้าหมองเล็กน้อยป๋อซือเหยียนไม่ชอบเสิ่นม่านมาโดยตลอด แล้วจู่ๆทำไม......ซูเฉี่ยนเฉี่ยนกำชุดในมือของเธอแน่นขึ้นเห็นได้ชัดว่าซูเฉี่ยนเฉี่ยนตั้งหน้าตั้งตารองานปาร์ตี้คืนนี้มานานแล้ว
เสียงของซูเฉี่ยนเฉี่ยนดังมากจนบริเวณโดยรอบเงียบไปชั่วขณะเมื่อซูเฉี่ยนเฉี่ยนตั้งสติได้ สายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่เธอแล้วรวมทั้งป๋อซือเหยียนกับเสิ่นม่านด้วยสายตาของทุกคนในตอนนี้ ซูเฉี่ยนเฉี่ยนดูเหมือนผู้หญิงที่พูดจาป่าเถื่อนและไร้การศึกษาคนสวนสูงวัยหลังค่อมที่อยู่ตรงหน้าเธอก้มตัวลงไปเก็บดอกกุหลาบบนพื้นทีละดอก พร้อมกับกล่าวคำขอโทษออกมาจากปากอย่างต่อเนื่องเมื่อซูเฉี่ยนเฉี่ยนสังเกตได้ถึงสายตาของคนรอบๆข้าง สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันที เธอรีบเปลี่ยนท่าทีและพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด “ ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ ฉันรีบไปหน่อย คุณตาไม่เป็นไรนะคะ?”ฉากนี้เสิ่นม่านเฝ้าดูอยู่ในที่ที่ไม่ไกลออกไปแม้ซูเฉี่ยนเฉี่ยนจะแสดงออกว่าขอโทษ แต่มันก็สายเกินไป เมื่อเธอทำเช่นนี้ มีแต่จะทำให้คนอื่นคิดว่าเธอเสแสร้งในขณะนี้ ซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็สังเกตเห็นเสิ่นม่านที่ยืนอยู่ข้างๆป๋อซือเหยียน“เธอมาที่นี่ได้ไง?”ป๋อซือเหยียนขมวดคิ้วเสิ่นม่านดูกริยาท่าทางของป๋อซือเหยียนเหมือนคนที่ไม่รู้เลยว่าซูเฉี่ยนเฉี่ยนจะมางานนี้หรือว่าซูเฉี่ยนเฉี่ยนจะมาเอง?เสิ่นม่านเงียบไป ฉากนี้ไม่เหมือนกับในชาติก่อน เสิ่น