"นั่นสิ รีบไล่นางออกไปเถอะ จะได้ไม่มีผู้ใดก่อกวน"เหล่าแขกในงานประมูลต่างพากันขับไล่นาง ก็ดีจะได้ตัดคู่แข่งไปได้หนึ่งคนเสี่ยวลู่ยิ้มพิมพ์ใจ ท่าทางใจเย็น สง่างามแฝงไว้ด้วยเสน่ห์แบบหญิงสาว น้ำเสียงของนางใสหวานราวกับนกขมิ้นจากหุบเขา "แขกหมายเลขยี่สิบแปดไม่ได้ติดค้างเงินลานประมูล ตามกฎ งานประมูลไม่มีสิทธิ์ไล่ผู้ใด""เห็นๆ กันอยู่ว่าเมื่อครู่นางไม่มีเงินห้าสิบล้านตำลึงมาจ่าย""แต่สหายของนางจ่ายแทนนางแล้ว พวกเราลานประมูลดูแค่เงิน ไม่สนว่าผู้ใดจ่ายแทนนาง"เสี่ยวลู่พูดเช่นนี้ เป็นการแสดงออกอย่างชัดเจนแล้วว่าพวกเขาไม่มีทางไล่กู้ชูหน่วนออกไป จากมุมของพวกเขา ไม่มีความจำเป็นจะต้องไล่นางออกไปจริงๆ อย่างไรนางก็ไม่ได้ติดค้างเงินสักแดงเดียวกู้ชูหน่วนมองไปทางองค์หญิงตังตัง คลี่ยิ้มหยอกเย้า "พวกเจ้ารีบร้อนจะไล่ข้าไปเช่นนี้ คงไม่ใช่เพราะจ่ายไม่ไหวหรอกนะ"องค์หญิงตังตังยกป้ายขึ้นมา เอ่ยเสียงดังลั่นทันที "ยี่สิบเอ็ดล้านตำลึง"นางแพศยา สายตาเช่นนั้นคืออะไรเห็นได้ชัดเลยว่านางกำลังโอหังอวดดี"สามสิบล้านตำลึง"เฮือก…ทุกคนกระอักเลือดอีกครั้งยี่สิบเอ็ดล้านตำลึงเพิ่มเป็นสามสิบล้านตำลึง นางจริงจั
กู้ชูหน่วนหรี่ตาลงเล็กน้อย พินิจดูปรมาจารย์ฟงตาเฒ่าจากที่ไหน คิดจะมาแย่งตำรารวมสูตรปรุงยากับนางหรือนางเอ่ยพร้อมยกป้าย "แปดสิบล้านตำลึง""แปดสิบห้าล้านตำลึง""เก้าสิบล้านตำลึง"เฮือก...ทุกคนต่างก็ตะลึงงันตำรารวมสูตรปรุงยาเล่มเดียวราคาขึ้นไปถึงเก้าสิบล้านตำลึง...นี่เป็นราคาที่สูงลิ่วเลยทีเดียว แม้จะเป็นฮ่องเต้หรือเชื้อพระวงศ์ ก็ยากจะมีเงินมากขนาดนี้ได้ปรมาจารย์ฟงยิ้มด้วยความเมตตา พลางลูบเคราสีขาวมัวของเขา "นังหนูเข้าใจการปรุงยาหรือไม่""ไม่เข้าใจ""เช่นนั้นข้างกายเจ้ามีผู้ที่ปรุงยาได้หรือ""ไม่มี""หากเป็นเช่นนี้ นังหนูต้องการจะประมูลตำรารวมสูตรปรุงยาเพื่อนำไปมอบให้ใครอย่างนั้นหรือ""ก็ไม่ใช่ ข้าเห็นว่าบันทึกหนังแกะของโบราณงามดี ข้าอยากประมูลมา ตอนอารมณ์ดีก็นำมาหนุนนอนเป็นหมอน"ซี้ดดด...ทั่วทั้งงานเริ่มชุลมุนวุ่นวายหญิงผู้นี้บ้าไปแล้วหรืออย่างไรจะนำตำรารวมสูตรปรุงยาไปทำหมอนเช่นนั้นรึนั่นมีมูลล่าถึงเก้าสิบล้านตำลึงเชียวนะอีกอย่าง ผู้ใดบ้างที่จะไม่เห็นตำรารวมสูตรปรุงยาเป็นสมบัติล้ำค่าแม้แต่ปรมาจารย์ฟงก็มีท่าทีประหลาดใจกับคำตอบเช่นนี้ของกู้ชูหน่วน"นังหนู ห
"แต่ร้อยห้าสิบล้านก็มากเกินไป หากของประมูลชิ้นต่อไปนางยังคงต้องการประมูลอีกละก็ พวกเรา...""ต่อให้ต้องสิ้นเนื้อประดาตัว ก็จะสนองความพอใจของนาง""ขอรับ..."ในโถงงานประมูล ดวงตาที่ใสเป็นประกายของเสี่ยวลู่เบ่งบานไปด้วยรอยยิ้มชวนหลง"หมายเลขยี่สิบแปดเสนอราคาหนึ่งร้อยห้าสิบล้านตำลึง ยังมีผู้ใดจะเพิ่มอีกหรือไม่ หากไม่มี ตำรารวมสูตรปรุงยาก็จะตกเป็นของแขกผู้มีเกียรติหมายเลขยี่สิบแปด"ล้อกันเล่นใช่ไหมผู้ใดจะกล้าเสนอราคาต่อตำรารวมสูตรปรุงยาเป็นเพียงแค่ส่วนที่เหลืออยู่เท่านั้น ไม่ใช่ฉบับสมบูรณ์เสียหน่อย อีกทั้งยังผ่านมาเป็นสองพันกว่าปีแล้ว ต่อให้ตำรารวมสูตรปรุงยาจะยอดเยี่ยมเพียงใด แต่ผ่านมาเนิ่นนานขนาดนั้น ผู้ใดจะล่วงรู้ได้ว่าสมุนไพรหลายชนิดสูญพันธ์ไปแล้วหรือไม่แล้วผู้ใดจะรู้ได้ว่าตำรารวมสูตรปรุงยาจะดีจริงอย่างที่เล่าขานกันหรือไม่ปรมาจารย์ฟงอยากจะเพิ่มราคาต่อ แต่หนึ่งร้อยห้าสิบล้านตำลึงทำให้เขาลังเลอีกทั้งเห็นตอนที่กู้ชูหน่วนขานราคาหนึ่งร้อยห้าสิบล้านตำลึงออกมา ไม่มีสีหน้าท่าทางประหม่าใดๆ เลยแม้แต่น้อย สายตาแน่วแน่ สงบนิ่ง ดวงตาที่ใสสว่างคู่นั้นยิ่งแฝงไว้ด้วยแววตาเจ้าเล่ห์คนเช่นน
จ่ายเงินไปแล้ว ตำรารวมสูตรปรุงยาย่อมตกเป็นของกู้ชูหน่วนทุกคนต่างก็มองตำรารวมสูตรปรุงยาในมือของนางตาละห้อย ภายในดวงตาเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาและเกลียดชังกู้ชูหน่วนกวาดสายตามองทุกคนในลานประมูลรอบหนึ่ง ความรู้สึกรีบร้อนอยากจะเปิดตำรารวมสูตรปรุงยาดูพลันดับสลายไปในพริบตานางยกไปไว้ด้านหลัง ทำเป็นหมอนวางไว้ที่ท้ายทอย ก่อนจะตะโกนออกมาด้วยความสบายตัว "สายตาข้าหลักแหลมใช้ได้เลย บันทึกหนังแกะเล่มนี้นำมาทำเป็นหมอนช่างสบายยิ่งนัก""……"เสียของทำเสียของอย่างแรงตำรารวมสูตรปรุงยาถูกนางประมูลไป ช่างเปล่าประโยชน์ยิ่งนักองค์หญิงตังตังด่าด้วยความเกรี้ยวกราด "เจ้า...เหตุใดถึงได้หน้าไม่อายเพียงนี้"กู้ชูหน่วนตอบอย่างมาดมั่น "ข้าใช้เงินของข้า ซื้อของที่ต้องการ หน้าไม่อายเช่นไร หากเจ้าอยากได้ เช่นนั้นเจ้าก็แค่เพิ่มราคา หรือข้าไปบังคับไม่ให้เจ้าเพิ่มราคาประมูลต่อแล้วหรือ""องค์หญิง ช่างเถอะ ของประมูลชิ้นต่อไป หากพวกเราชอบ นางก็ชอบ พวกเราเสนอราคาสูงๆ ประมูลมาเลย อย่าให้นางสมหวังก็พอ นางใช้เงินไปตั้งร้อยห้าสิบล้านตำลึงแล้ว ในตัวจะต้องมีเงินอยู่ไม่มากแล้วเป็นแน่" เสี่ยวลวี่กอดขานางเอาไว้แน่นปรนน
อี้เฉินเฟยยิ้มอย่างสง่าผ่าเผย สายตาที่มองไปทางกู้ชูหน่วนเต็มไปด้วยความมั่นใจ "ไม่จำเป็นต้องประมูล ขอเพียงแค่พวกเราต้องการ ย่อมมีคนนำคัมภีร์ซือจิงฉบับสมบูรณ์มาให้พวกเราแน่ จะเสียเงินโดยไม่จำเป็นไปใย""ห้ะ..."ผู้ใดจะใจกว้างถึงขั้นมอบซือจิงฉบับสมบูรณ์ให้พวกเขาหรือว่า...อาจารย์รู้อยู่แล้วว่าผู้ใดจะประมูลได้คงไม่ใช่ว่าอาจารย์อี้รู้ว่าแม่นางกู้จะประมูลอีก จึงตั้งใจจะออกเงินแทนนางอีกหรอกนะนี่แตกต่างจากการประมูลเองตรงไหน"คัมภีร์ซือจิงบทกวีฟงหย่าซ่งฉบับสมบูรณ์ ราคาเริ่มประมูลสามล้านตำลึง"สามล้านตำลึงอีกแล้ว...ครั้งนี้คงจะไม่ดึงราคาขึ้นไปสูงลิ่วอีกหรอกนะ"สี่ล้านตำลึง""ห้าล้านตำลึง""ห้าล้านห้าแสนตำลึง""หกล้านสองแสนตำลึง""เจ็ดล้านตำลึง""เจ็ดล้านหนึ่งแสนตำลึง"เพียงพริบตาเดียว คัมภีร์ซือจิงก็มีมูลค่าถึงเจ็ดสิบกว่าล้านตำลึงแล้วองค์หญิงตังตังมึนงงคัมภีร์รวมบทกวีเก่าๆ ไม่กี่เล่ม เหตุใดถึงมีราคามากเพียงนี้แม้นางจะเป็นองค์หญิงที่ได้รับความโปรดปรานมากที่สุดในยามนี้ แต่จะให้นางเอาเงินออกมามากมายขนาดนี้ในคราวเดียว นางทำไม่ลง คนเหล่านี้ไปเอาเงินมาจากไหนกัน เหตุใดแต่ละคนถึงไ
"สิบแปดล้านตำลึง"อัครเสนาบดีกู้โกรธเกรี้ยว "ลูกพ่อ หากเจ้ายังจะประมูลต่อ ต่อไปก็ไม่ต้องมาเรียกข้าว่าพ่อแล้ว เงินพวกนี้ เจ้าก็คิดหาหนทางไปจ่ายเองด้วย"ในห้องพิเศษที่ชั้นสอง เสี่ยวลวี่รินน้ำหนึ่งแก้วเข้ามา พูดอย่างไม่สบอารมณ์ "องค์หญิง บ่าวเพิ่งได้ยินมาว่า กู้ชูอวิ๋นคุณหนูรองแห่งจวนอัครเสนาบดีแอบชอบอาจารย์ซ่างกวาน เมื่อวานยังทำของกินเล่นไปให้อาจารย์ซ่างกวานด้วย แต่ถูกเขาปฏิเสธ นางร้อนรนจะประมูลคัมภีร์ซือจิงให้ได้เช่นนี้ คิดว่าคงจะนำไปมอบให้อาจารย์ซ่างกวานเป็นแน่""ว่าอย่างไรนะ เจ้าพูดอะไร กู้ชูอวิ๋น นังแพศยา กล้าเฝ้าฝันถึงอาจารย์ซ่างกวานเช่นนั้นหรือ""เพคะ บ่าวได้ยินหลายคนเขาพูดกัน""นางแพศยาผู้นี้ เหมือนกับกู้ชูหน่วนไม่มีผิด ไม่แปลกใจเลยที่เป็นพี่น้องพ่อเดียวกัน เชอะ พวกนางอยากได้คัมภีร์ซือจิงใช่หรือไม่ ข้าไม่มีทางให้พวกนางสมหวังหรอก"องค์หญิงตังตังยกป้าย "ยี่สิบห้าล้านตำลึง"ซี้ดดด...คนจำนวนไม่น้อยพากันมองไปทางองค์หญิงตังตังนางยกป้ายแย่งประมูลครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ไม่เคยได้เลยสักครั้งครั้งนี้หรือว่าจะเอาจริง จะประมูลไปให้ได้เลยใช่หรือไม่"ยี่สิบหกล้านตำลึง""ยี่สิบแปดล้
แม่เจ้า ต่อให้เป็นเงินที่แย่งชิงมา แต่ก็ต้องใช้เวลาไม่น้อยไม่ใช่หรือคัมภีร์ซือจิงมีมูลค่ามาก ถึงขั้นที่เรียกได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่าที่ไม่อาจประเมินค่าได้ แต่ร้อยห้าสิบล้านตำลึง จะมากเกินไปหรือเปล่าไฟโทสะที่อัดอั้นอยู่ในใจขององค์หญิงตังตังลุกโชนขึ้นเรื่อยๆ ทว่ากลับไม่กล้าเพิ่มราคาอีกแล้วกู้ชูหน่วนเงยหน้าขึ้นมาด้วยท่าทางได้ใจ พลางพูดหยอกเย้า "แขกผู้มีเกียรติชั้นบน เป็นอะไรไป ไม่มีเงินเลยไม่กล้าเพิ่มราคาแล้วหรือ ในเมื่อไม่มีเงิน ก็รีบไสหัวออกไปให้ไวจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องขายหน้าใคร ถึงอย่างไรก็ไม่มีของชิ้นไหนที่เจ้าประมูลได้อยู่แล้ว ทำได้เพียงแค่โก่งราคาไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้น"องค์หญิงตังตังที่เดิมอยากจะยอมแพ้ เมื่อได้ยินคำพูดของนางก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ พูดโดยไม่สนสิ่งใด "ร้อยหกสิบล้านตำลึง"นางเพิ่มราคาครั้งนี้ เพิ่มไปสิบล้านตำลึงในคราวเดียวเสี่ยวลวี่เป็นลมหมดสติไปเสียตรงนั้นหลังจากที่ตะโกนออกมา องค์หญิงตังตังก็รู้สึกเสียใจอยู่ไม่น้อยเงินมากมายขนาดนี้ นางไม่มีปัญญาจ่ายหากเสด็จแม่รู้ จะต้องเอ็ดนางตายแน่องค์หญิงตังตังหวังว่ากู้ชูหน่วนจะเพิ่มราคาอีก ทว่ากู้ชูหน่วนกลับยกนิ้วหัวแ
องค์หญิงตังตังราวกับถูกสาดด้วยน้ำเย็นยะเยือกทั้งอ่าง หนาววูบวาบตั้งแต่หัวจรดเท้าคำพูดนี้บ้าดีเดือดยิ่งนัก หากเป็นคนอื่นพูด คงต้องถูกประหารเก้าชั่วโคตรไปนานแล้ว แต่เป็นลานประมูลเฟิงเซียง ความหมายจึงแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง"พาตัวไป""ปล่อยข้า ข้าคือองค์หญิง พวกเจ้ากล้าทำเช่นนี้กับข้า ข้าจะให้เสด็จพี่ประหารพวกเจ้าเก้าชั่วโคตร ปล่อยข้า..."องค์หญิงแห่งรัชสมัยถูกจับไปจองจำต่อหน้าฝูงชนเพราะติดหนี้ เป็นเรื่องที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นในลานประมูลเฟิงเซียงผู้คนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัวลานประมูลเฟิงเซียงมากขึ้นกว่าเดิมสีหน้าของเสี่ยวลู่พลิกเปลี่ยนเร็วเสียยิ่งกว่าพลิกหน้าหนังสือ ท่าทางจองหองเย็นชาเมื่อครู่นี้ พลันเปลี่ยนเป็นใบหน้ายิ้มกว้างในชั่วพริบตา รอยยิ้มนี้หวานจนแทบจะสังหารคนได้"ตอนนี้พวกเราจะเริ่มประมูลของชิ้นถัดไปกันต่อ ของประมูลชิ้นต่อไปคือยาอายุวัฒนะซึ่งเป็นยาเม็ดขั้นสาม ทุกคนต่างก็รู้กันดี ไม่ว่าจะชายหญิงผู้เฒ่าหรือเด็ก ขอเพียงแค่กินยาอายุวัฒนะเข้าไป ไม่เพียงแต่ทำให้เยาว์วัยลงไปมากกว่าสิบห้าปี ทั้งยังเพิ่มความยืนยาวให้อายุได้มากกว่าสิบปี ยาอายุวัฒนะขั้นสาม อย่าว่าแต่แคว้นเย่ ต่อให้
"เจ้าคิดว่าอย่างไรเล่า"เซียวอวี่เชียนถอนหายใจยาวเหยียดตอนนั้นเทพสงครามฉุนเฉียวเช่นนั้น เขาคิดว่ายัยขี้เหร่จะต้องไม่ได้มีจุดจบที่ดีแน่หลายวันที่ผ่านมานี้ เขาพยามคิดหาหนทางหนีออกไปจากจวนแม่ทัพเพื่อไปเยี่ยมยัยขี้เหร่ที่จวนหานอ๋อง แต่ช่วยไม่ได้ที่ถูกปิดตายอยู่ในห้อง ไม่ว่าเขาจะคิดหาทนทางเพียงไรก็หนีออกไปไม่ได้"ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว"เขาพูดพลางเหลือบไปมองหน้าท้องของนางปราดหนึ่งนี่ก็ผ่านไปหลายวันแล้ว เหตุใดท้องของนางยังแบนราบเช่นนี้ หรือสารอาหารจะไม่เพียงพอแต่สีหน้าของนางดูเหมือนจะดีกว่าแต่ก่อนเยอะ แม้แต่ราศีที่เปล่งออกมาก็เปลี่ยนไป ไม่เหมือนคนที่ใช้ชีวิตอย่างตรอมตรมเลยสักนิด"เหลือเวลาอีกเท่าไหร่กว่าจะถึงพิธีแต่งงานของเจ้า""งานประชุมสวินหลงเสร็จสิ้นก็ต้องจัดแล้ว แต่เจ้าวางใจ ข้าไม่มีทางแต่งกับนางเด็ดขาด"กู้ชูหน่วนแค่นหัวเราะ "แน่นอนว่าแต่งกับนางไม่ได้"ผู้ที่มารยาร้อยเล่มเกวียน ประพฤติไม่ชอบอย่างกู้ชูอวิ๋น จะแต่งมาทำอะไร"ยัยขี้เหร่ เจ้าไม่อยากให้ข้าแต่งกับนางจริงๆ ใช่หรือไม่"เอิ่ม......เซียวอวี่เชียนจะตื่นเต้นขนาดนี้ไปทำไมในฐานะเพื่อน นางย่อมไม่อยากให้เซียวอวี่เชียนแต
"ทูลพระชายา นายท่านไปพำนักที่เรือนชิวเฟิงชั่วคราว อีกสองสามวันก็จะกลับมาแล้ว"เรือนชิวเฟิง ?ไปที่นั่นทำไม"เขาได้รับบาดเจ็บหรือ" กู้ชูหน่วนถามอย่างระแวดระวัง"หามิได้ นายท่านไม่ได้ไปที่เรือนชิวเฟิงมาระยะหนึ่งแล้ว จึงอาจอยากอยู่ที่นั่นสักสองสามวัน ข้าน้อยก็ไม่ทราบแน่ชัด หน้าที่ของข้าน้อยคือปกป้องคุ้มครองพระชายา"กู้ชูหน่วนกึ่งเชื่อกึ่งสงสัย รู้สึกอยู่ตลอดว่าความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นงานประชุมสวินหลงที่สำนักบัณฑิตหลวงจะจัดผลัดออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า กระทั่งผลัดมาจนถึงวันนี้นางเงยหน้าขึ้นไปมองฟ้าเจ็ดวันก่อน นางรับปากเสี่ยวลู่ ลานประมูลเฟิงเซียงไว้แล้วว่าวันนี้จะไปตามเวลาที่นัด แต่หากไปลานประมูลเฟิงเซียง เช่นนั้นก็ไปร่วมงานประชุมสวินหลงไม่ได้ระหว่างที่นางกำลังลังเลว่าจะไปร่วมงานประมูลเฟิงเซียงหรืองานประชุมสวินหลงดี บ่าวรับใช้ก็เข้ามารายงานกะทันหัน"พระชายา ลานประมูลเฟิงเซียงส่งข่าวมาว่า ยกเลิกงานประมูลวันนี้ เลื่อนไปจัดในอีกสิบวันให้หลัง ลานประมูลขอเชิญท่านไปเข้าร่วมในอีกสิบวันข้างหน้า"บังเอิญเพียงนี้เลยรึหรือลานประมูลเฟิงเซียงจะรู้ว่าวันนี้นางอยากไปร่วมงานประชุมสวินหลง
ครั้งนี้ นางใช้โชคเข้าปะทะชีพจรยุทธ ทุกครั้งที่ใกล้จะทะลวงชีพจรยุทธได้สำเร็จ นางจะคว้ายาชำระไขกระดูกจำนวนมากมากินเพื่อเพิ่มพลังงานเช่นเดียวกับครั้งก่อนๆ ทุกครั้งที่นางเพิ่งจะเปิดรอยแยกได้ ก็จะปิดลงทันที กู้ชูหน่วนไม่ยอมแพ้ นางทะลวงครั้งแล้วครั้งเล่าไม่รู้ว่าใช้เวลานานเท่าไหร่ ในที่สุดนางก็เปิดชีพจรยุทธได้สำเร็จ"เฮือก......"เลือดสดอีกคำไหลหยดออกมา คนอื่นทะลวงชีพจรยุทธแล้วจะรู้สึกสบายไปทั้งตัว มีพลังงานเต็มเปี่ยม แต่นางกลับเหมือนหนีความตายมาได้ และเกือบเอาชีวิตนางไปกู้ชูหน่วนคราบเลือดติดมุมปาก แต่นางก็แย้มรอยยิ้มที่ชั่วร้ายออกมานางพยายามใช้โชคหมุนเวียนพลังงานภายในร่างกาย เปลวไฟกลุ่มหนึ่งในตันเถียนของนางกำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และร่างกายของนางก็เบาขึ้นกว่าเดิมมากนางมีพลังภายในแล้ว...... แม้ว่าพลังภายในจะอ่อนแอมากก็ตาม......การเปิดชีพจรยุทธบ่งชี้ว่านางสามารถฝึกวิชายุทธได้แล้วกู้ชูหน่วนหายใจออกมายาวและเปิดตำรารวมสูตรปรุงยาอีกครั้งยายกระดับเป็นยาที่ช่วยเพิ่มพลังภายในอย่างรวดเร็วและทะลวงผ่านหนึ่งขั้นได้กู้ชูหน่วนรู้สึกสนใจขึ้นมา"ชิงเฟิง"ชิงเฟิงทำหน้าบูดบึ้ง "พระชาย
บ่าวรับใช้ในจวนอ๋องกำลังช่วยกันดับไฟ ผมของกู้ชูหน่วนถูกระเบิดจนยุ่งเหยิง ราวกับรังไก่ ชิงเฟิงจัดให้นางไปอยู่ในห้องที่ตกแต่งอย่างสวยงามอีกห้องหนึ่งภายในห้อง กู้ชูหน่วนมองกล่องยาชำระไขกระดูกขนาดใหญ่ตรงหน้า ทั้งกังวลและโล่งใจกังวลคือยาชำระไขกระดูกยังห่างไกลจากผลลัพธ์ที่นางต้องการโล่งใจคือในที่สุดก็ทำสำเร็จแล้ว"ชิวเอ๋อร์ ไปเฝ้าหน้าประตู ห้ามให้ใครเข้ามา รวมถึงท่านอ๋องด้วย""คุณหนู ท่านจะทำอะไรอีกแล้วหรือเจ้าคะ?"ชิวเอ๋อร์กลัวจนตัวสั่น ชีวิตของคุณหนูเกือบจะจบสิ้นแล้ว นางคงไม่คิดที่จะปรุงยาอีกแล้วใช่หรือไม่"เจ้ารู้อะไร รีบออกไปเถิด""แต่ว่า......"ก่อนที่ชิวเอ๋อร์จะพูดจบ กู้ชูหน่วนก็ผลักนางออกไป แล้วนั่งขัดสมาธิบนเตียง หยิบยาชำระไขกระดูกในกล่องตรงหน้ามากินหนึ่งเม็ดความร้อนไหลขึ้นมาจากตันเถียน แต่ชีพจรยุทธไม่เปิดออกเสียทีกู้ชูหน่วนกินอีกหลายเม็ด ความร้อนในตันเถียนรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เส้นลมปราณทั้งเจ็ดและแปดเส้นรู้สึกสบาย แต่ชีพจรยุทธยังคงไม่เปิดออกนางขมวดคิ้ว "ใช้สมุนไพรที่คล้ายกันมาทดแทน ผลลัพธ์ก็ยังแตกต่างกันมาก ยาชำระไขกระดูกนี้แย่เกินไป"กู้ชูหน่วนกัดฟัน กลืนยาชำระไขกระ
"พระชายา โปรดอย่าทำให้ข้าน้อยลำบากใจเลย ข้าน้อยก็แค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น"เมื่อเห็นว่ากู้ชูหน่วนตั้งใจจะออกไป ชิงเฟิงก็ตกใจและเอ่ยว่า "พระชายา ท่านต้องการไปหายาใช่หรือไม่? หรือว่าท่านจะให้ใบสั่งยาแก่ข้าน้อย แล้วให้ข้าน้อยปหายามาให้""ก็ได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี""ขอรับ"ความเร็วของชิงเฟิงและคนอื่นๆ นั้นรวดเร็วมาก แต่หลังจากกลับมา คำตอบของพวกเขาก็เหมือนกับที่ชิวเอ๋อร์พูดไม่มีผิดเพี้ยน"พระชายา ข้าน้อยได้ไปหาหมอหลวงทุกคนในสำนักหมอหลวงแล้ว พวกเขาไม่เคยได้ยินชื่อสมุนไพรในใบสั่งยาของท่านเลย และไม่สามารถหายาเหล่านั้นมาให้ท่านได้"ด้วยความกลัวว่ากู้ชูหน่วนจะโกรธ ชิงเฟิงจึงหยุดชะงักแล้วเอ่ยต่อทันทีว่า "ข้าน้อยได้พาหมอหลวงจากสำนักหมอหลวง รวมถึงหมอที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงมาด้วย พระชายาสามารถสอบถามพวกเขาได้โดยตรงเลย"เมื่อโบกมือ หมอจำนวนมากก็เดินเข้ามาทีละคน และทำความเคารพนาง "คารวะพระชายา ขอพระองค์ทรงพระเจริญ พันปี พันๆ ปี""พอเถอะ ข้าขอถามพวกท่าน พวกท่านไม่เคยได้ยินชื่อซานหลิง ซูเหอเซียง การบูร จริงๆ หรือ?""ทูลพระชายา พวกข้าประกอบอาชีพหมอมาหลายสิบปี บรรพบุรุษของพวกข้าก็เป็นหมอเช่นกัน พวกข้าไ
นิ้วเรียวสวยของกู้ชูหน่วนพลิกดูตำรารวมสูตรปรุงยาที่ขาดวิ่นอย่างต่อเนื่อง นางมองอย่างตั้งใจจนลืมตัว และไม่รู้ว่าตัวเองกลับมาที่จวนหานอ๋องตั้งแต่เมื่อใด"เย่จิ่งหานล่ะ?" กู้ชูหน่วนเงยหน้าขึ้นถามทันทีชิงเฟิงเม้มปาก การต่อสู้ดุเดือดขนาดนั้น พระชายาของเขาไม่รู้จริงๆ หรือว่าแกล้งไม่รู้กันแน่?"นายน้อยแห่งเผ่าเทียนเฝินมาชิงแผนที่ไข่มุกสีเขียว นายท่านต่อสู้กับเขา และยามนี้ยังอยู่ในป่าไผ่ นายท่านให้ข้าพาพระชายากลับจวนก่อน""อย่างนั้นหรือ สามหมื่นล้านตำลึง ล่อตาล่อใจโจรจริง ๆ แผนที่ไข่มุกสีเขียวต้องได้รับการปกป้องอย่างดี อาจจะเป็นทรัพย์สมบัติทั้งหมดของจวนหานอ๋องก็ได้นะ" นายน้อยแห่งเผ่าเทียนเฝินบาดเจ็บไม่ใช่หรือ? เย่จิ่งหานน่าจะรับมือได้เมื่อเห็นกู้ชูหน่วนพูดเรื่องเหล่านี้อย่างจริงจัง คิ้วเข้มของชิงเฟิงก็ขมวดแน่นสิ่งที่นางควรเป็นห่วงไม่ใช่นายท่านหรอกหรือ?"ข้าจะกลับไปศึกษาตำรารวมสูตรปรุงยา บอกบ่าวรับใช้ว่าห้ามใครรบกวนหากไม่มีคำสั่งจากข้า""ขอรับ"ภายในห้อง กู้ชูหน่วนจรดพู่กันเขียนตำรับยาหลายแผ่นอย่างคล่องแคล่ว แล้วส่งให้ชิวเอ๋อร์ "ไปร้านขายยา ซื้อยาตามตำรับที่ข้าให้มา กลับมามากหน่อย"
กู้ชูหน่วนรับจดหมายเชิญ แล้วเกี่ยวคางของนางอย่างเย้าแหย่ "เมื่อมีสาวงามมาเชิญ เราจะกล้าไม่มาได้อย่างไร วางใจได้ งานประมูลเฟิงเซียงสิ้นเดือนนี้ พวกเราจะไปให้ตรงเวลาแน่นอน""เช่นนั้น เสี่ยวลู่จะรอแขกผู้มีเกียรติทั้งสองท่านอยู่ที่งานประมูลเฟิงเซียง"หลังออกจากงานประมูลเฟิงเซียง เย่จิ่งหานก็ยังคงทำหน้าเย็นชาตลอดเวลาระหว่างทางกลับ พวกเขานั่งรถม้าประจำตัวของเย่จิ่งหาน กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่ารถม้าทำจากวัสดุอะไร ภายนอกดูธรรมดา แต่ภายในกลับมีพื้นที่กว้างขวางมาก สามารถดื่มชา เล่นหมากรุก หรือนอนพักผ่อนได้ อีกทั้งยังป้องกันลูกธนูพิษและอาวุธทุกชนิดได้ เมื่อสัมผัสกับรถม้า จะมีเพียงเสียงโลหะกระทบกันเท่านั้นตลอดทาง เสียงการต่อสู้ดังขึ้นเป็นระยะๆ ไม่ขาดสาย พร้อมกับเสียงร้องคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดพื้นดินสั่นสะเทือนเป็นครั้งคราว ไม่รู้ว่าข้างนอกต่อสู้กันดุเดือดเพียงใดกู้ชูหน่วนรู้ว่าคนเหล่านี้ส่วนใหญ่มาเพื่อแย่งชิงแผนที่ไข่มุกสีเขียวของเย่จิ่งหานแต่เมื่อมองไปที่เย่จิ่งหาน เขานั่งจิบชาอ่านหนังสืออย่างสง่างามริมหน้าต่างรถม้า ราวกับไม่รับรู้ถึงการต่อสู้ภายนอกกู้ชูหน่วนเปิดม่านรถม้าดู ข้างนอกมีแต่แ
อี้เฉินเฟยพิจารณาความหมายในคำพูดของกู้ชูหน่วนอย่างถี่ถ้วนครู่หนึ่งเขาก็เข้าใจกระจ่างแจ้ง ยิ้มอย่างอ่อนโยน "สุภาพบุรุษไม่แย่งชิงสิ่งที่ผู้อื่นชื่นชอบ ในเมื่อแขกชั้นล่างชื่นชอบแผนที่ไข่มุกสีเขียวขนาดนี้ ข้าก็จะไม่แย่งแล้ว"กู้ชูหน่วนลูบปลายคาง คำพูดนี้ฟังดูคุ้นหูเหลือเกิน?แต่อี้เฉินเฟยก็มีสมองขึ้นมาบ้างแล้วสามพันล้าน......จุ จุ จุทรัพย์สมบัติของเย่จิ่งหานถูกสูบไปหมดแล้วใช่หรือไม่"สามพันล้านครั้งที่หนึ่ง สามพันล้านครั้งที่สอง สามพันล้านครั้งที่สาม ขอแสดงความยินดีกับแขกผู้มีเกียรติหมายเลขยี่สิบเก้า ได้รับแผนที่ไข่มุกสีเขียวไปครอง"ทุกคนต่างมองเย่จิ่งหานด้วยความอิจฉาในหมู่พวกเขาบางคนเคยคิดที่จะแย่งชิง แต่ฝ่ายตรงข้ามคือเทพสงครามแห่งแคว้นเย่ พวกเขาจะแย่งชิงได้อย่างไร?เด็กรับใช้ของอี้เฉินเฟยเสียดายแล้วเสียดายอีกสามพันล้านสูงเกินไป......น่าเสียดายที่อาจารย์อี้เตรียมการมานาน สุดท้ายก็ยังพลาดการประมูลเจ๋ออ๋องขมขื่นในใจ เดินออกงานประมูลอย่างอ้างว้างหางตาของซ่างกวานฉู่ฉายแววเย็นเยือก มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย้ายวนคนของเผ่าเทียนเฝินเอ่ยเสียงทุ้มต่ำ "ดำเนินการตามแผนเดิม ต้อง
"อะไรนะ เขาคือเทพสงคราม"ทุกคนต่างถอยหลังด้วยความหวาดกลัว พยายามรักษาระยะห่าง เพราะกลัวว่าเย่จิ่งหานจะลงมือกับพวกเขาหากเป็นคนอื่นที่เสนอราคานี้ พวกเขาคงจะประหลาดใจมาก แต่หากเป็นเทพสงครามที่เสนอราคา ก็ไม่มีอะไรน่าแปลกใจเพราะเทพสงครามคือบุคคลสำคัญของแคว้นเย่ ทั้งศักยภาพ ความมั่งคั่ง และอิทธิพลของเขายิ่งใหญ่กว่าฮ่องเต้เสียอีกเด็กรับใช้ของอี้เฉินเฟยเอ่ยว่า "อาจารย์อี้ เราจะเพิ่มราคาอีกหรือไม่?"อี้เฉินเฟยเงียบไป ราวกับกำลังชั่งน้ำหนักมูลค่าอยู่ครู่หนึ่ง เขาจึงยกป้ายขึ้น "หนึ่งพันเจ็ดร้อยล้าน"อะไรนะ......คนในห้องหมายเลขเจ็ดเป็นใครกัน?เพิ่มราคาครั้งละสองร้อยล้านเงินในสายตาพวกเขาเป็นเพียงตัวเลขหรืออย่างไร?เจ๋ออ๋องโยนป้ายทิ้งอย่างหมดแรงจะประมูลไปทำไม ประมูลไปก็เปล่าประโยชน์เขาไม่สามารถประมูลได้แม้แต่เศษเสี้ยวของพวกเขาในชั่วพริบตา เจ๋ออ๋องรู้สึกว่าตนแตกต่างจากพวกเขาอย่างมาก"สองพันล้าน" เย่จิ่งหานเอ่ยชิงเฟิงเหงื่อออกที่ฝ่ามือแม้นายท่านจะมีทรัพย์สมบัติจำนวนมาก แต่การสูญเสียสองพันล้านในคราวเดียวก็ต้องทำให้บาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอนซ่างกวานฉู่หน้าตายไร้อารมณ์ มองไม่ออ