Share

บทที่ 28

last update Last Updated: 2024-12-12 20:35:49

     

       จางเสี่ยวเหล่ยเดินตามหลังเจ้านายทั้งสองมองดูองค์รัชทายาทผู้สูงส่งถึงกับลดตัวลงไปแย่งถังหูลู่ไม้หนึ่งกับเด็กน้อย ทำเอาเขาแทบทนดูไม่ได้ จะหยอกเย้าคุณชายจ้าวก็ให้มันมีขอบเขตหน่อยเถิดพ่ะย่ะค่ะองค์รัชทายาท

       เฉินซือหยางไม่สนสายตาที่มองมาของกงกงคนสนิทเลยแม้แต่น้อย แต่พอเห็นน้ำตาของจ้าวลี่หมิงหยดแหมะ จมูกเล็กแดงเรื่ออย่างน่าสงสาร เขาก็อดใจอ่อนยวบยาบไม่ได้

       “ตอนนี้เราหายแล้ว เพื่อตอบแทนถังหูลู่ของเจ้าเราซื้อน้ำตาลปั้นให้ดีหรือไม่”

       “หยางหยางพูดจริงหรือ”

       “จริงสิ”

       เฉินซือหยางพาเด็กน้อยไปที่ร้านขายน้ำตาลปั้นตามสัญญา จ้าวลี่หมิงมองน้ำตาลปั้นรูปสิงสาราสัตว์ต่างๆ มากมายละลานตาก็ยิ่งถูกอกถูกใจ ดวงตาเป็นประกาย ลืมถังหูลู่ไม้นั้นไปจนหมดสิ้น

       “ชีชีอยากได้รูปอะไรหรือ”

       “เอาหยางหยาง” จ้าวลี่หมิงบอกเสียงใส เฉินซือหยางยีหั

Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 29

    เสียงพูดคุยดังเซ็งแซ่ผสานกับเสียงหัวเราะดังก้องกังวานลอยเข้าหูเฉินซือหยางที่เพิ่งกลับจากประชุมเช้า ณ ตำหนักเฉียนชิง ชายหนุ่มหันไปมองตามเสียงเอะอะมะเทิ่งนั่น ภาพปรากฏชัดในครรลองสายตาคือ เหล่าองค์ชายองค์หญิงซึ่งกำลังเล่นสนุกกันในอุทยานหลวง มีองค์ชายรองบุตรของหลี่ลู่เหม่ย องค์ชายสามบุตรของเสียนเฟย องค์หญิงใหญ่บุตรของหลี่ลู่อิง และองค์ชายสี่บุตรของซูเฟยในวัยไล่เลี่ยกับจ้าวลี่หมิง เฉินซือหยางมองคนเหล่านั้นเพียงหางตาในระหว่างเดินผ่านอุทยานหลวงเพื่อกลับตำหนักอี้ชิ่ง จู่ๆ องค์ชายรองเฉินจวินเฉิงก็เดินนำองค์ชายองค์หญิงทั้งหลายมาขวางทางเดินเขา “พี่ชายเพิ่งกลับจากว่าราชการแทนเสด็จพ่อหรือพ่ะย่ะค่ะ” เฉินจวินเฉิงทักทายด้วยใบหน้าใสซื่อ ไม่คิดจะลดตัวคารวะบุคคลที่เขาเรียกขานว่า 'พี่ชาย' เลยแม้แต่น้อย “ใครคือพี่ชายเจ้า” เฉินซือหยางมองอีกฝ่ายอย่างเฉยชา ดวงหน้าซึ่งถอดเค้ามาจากหลี่ลู่เหม่ยนั่นดูขัดตาเขาชอบกล

    Last Updated : 2024-12-13
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 30

    ขณะที่เฉินซือหยางกำลังถกปัญหาเรื่องขาหมูไม่ใช่ผักให้จ้าวลี่หมิงฟังอยู่นั้น เว่ยอันที่ได้รับคำสั่งจากองค์รัชทายาทให้มาตรวจสอบห้องด้านข้างก็ได้รู้อะไรดีๆ เข้าโดยไม่คาดคิด ห้องด้านข้างหอฟู่กุ้ย เสนาบดีกรมคลังต่งเซินกับเสนาบดีกรมกลาโหมกำลังร่ำสุราปรึกษาหารือเรื่องในที่ประชุมเมื่อเช้านี้เสียงเบา “ข่าวการศึกจากทางเหนือที่แม่ทัพจ้าวส่งมาไม่นับว่าร้ายแรงนัก ข้าคิดว่าการจัดเตรียมเสบียงกองทัพในครั้งนี้คงไม่ใช่เรื่องใหญ่ ท่านเสนาบดีคิดเห็นเช่นไร” “ตอนนี้ไม่ร้ายแรงใช่ว่าต่อไปจะไม่ร้ายแรงเสียเมื่อไหร่” ต่งเซินกระดกสุราไปค่อนข้างมากเผลอหลุดปากบอกอีกฝ่ายเป็นนัย เสนาบดีกรมกลาโหมได้ฟังดังนั้นก็รู้สึกสนใจทันที เพราะการจัดหาเสบียงอาหาร เครื่องนุ่งห่ม และอาวุธยุทโธปกรณ์ในการรบย่อมผ่านมือเขาทั้งสิ้น เบี้ยหวัดเล็กๆ เหล่านี้ย่อมมียักย้ายเข้าพกเข้าห่อเป็นธรรมดา ยิ่งสถานการณ์การรบร้ายแรงเท่าไหร่ งบประมาณการจัดหาเ

    Last Updated : 2024-12-14
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 31

    กู้ฟางเหนียงกลับเรือนหลักหลังจากปรนนิบัติแม่สามีเข้านอน ขณะเดินผ่านเรือนช่านไฉ่แสงไฟในห้องนอนของบุตรชายยังคงสว่างโร่กู้ฟางเหนียงหัวคิ้วขมวดมุ่น ดึกดื่นป่านนี้เหตุใดเสี่ยวชีถึงยังไม่หลับไม่นอน “เสี่ยวชี แม่เข้าไปได้หรือไม่” กู้ฟางเหนียงเคาะประตูห้องเบาๆ ก่อนจะผลักเข้าไปโดยไม่รอให้บุตรชายอนุญาต “ท่านแม่!” จ้าวลี่หมิงตกใจ เมื่อจู่ๆ มารดาก็เปิดประตูเข้ามา เด็กน้อยรีบซ่อนของไว้ใต้หมอนไม่ให้มารดาเห็นด้วยความอาย “ทำอะไรอยู่หรือ” กู้ฟางเหนียงนั่งลงบนเตียงเล็ก มือบางลูบศีรษะบุตรชายถามไถ่ด้วยน้ำเสียงรักใคร่อ่อนโยน สายตาเหลือบมองหมอนหยกใบเล็กที่บุตรชายใช้ซ่อนของบางสิ่ง แต่ไม่อาจรอดพ้นสายตาแหลมคมของนางไปได้ “ชีชีนั่งเล่น ยังไม่ง่วงเลยขอรับ” “แล้วนั่นซ่อนอะไรไว้ แม่ดูได้หรือไม่” กู้ฟางเหนียงถามยิ้มๆ จ้าวลี่หมิงกระอึกกระอักอยู่เป็นครู่ มือเล็กบิดไปบิดมาค่อยหยิบของสิ่

    Last Updated : 2024-12-15
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 32

    แสงจันทร์สาดส่องลอดผ่านแมกไม้ในป่าทึบเผยให้เห็นชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งควบม้าฝีเท้าจัดตะบึงผ่านเส้นทางลับมุ่งสู่ชายแดนทางเหนือของแผ่นดินต้าเฉินโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดพัก คนทั้งกลุ่มเร่งเดินทางทั้งกลางวันกลางคืน เพื่อส่งสาส์นไปยังจุดหมาย ในระหว่างควบม้าเลาะขอบหน้าผาสูงชัน กลับถูกกลุ่มชายชุดดำลึกลับบุกเข้ามาโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัว ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างดุเดือดเลือดพล่าน กระบี่แหลมคมฟาดฟันกันแบบถึงเลือดถึงเนื้อ กลุ่มชายฉกรรจ์บนหลังม้าพลาดท่าเสียทีให้กับเหล่าชายชุดดำ ด้วยชัยภูมิที่เสียเปรียบทำให้กลุ่มชายบนหลังม้าล้มตายดุจใบไม้ร่วง สุดท้ายเหลือเพียงชายหนุ่มผู้กุมสาส์นลับอาศัยจังหวะชุลมุนหลบหนีเข้าป่าไปพร้อมกับบาดแผลฉกรรจ์ “ตามไป!” หัวหน้าชายชุดดำสั่งเสียงเข้ม เร่งฝีเท้าไล่ตามไป คนทั้งกลุ่มไล่ล่าชายผู้กุมสาส์นลับจนอีกฝ่ายจนมุมตรงริมหน้าผาสูงชัน เหล่าชายชุดดำตีวงโอบล้อมเพื่อป้องกันอีกฝ่ายหลบหนีไปได้ “ส่งสาส์นลับมาให้ข้า” “เจ้าอย่าหวังเลย

    Last Updated : 2024-12-16
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 33

    สามวันให้หลังทุกอย่างถูกจัดเตรียมพร้อมสรรพ ทัพใหญ่สามสิบหมื่นนำโดยเจิ้งกั๋วกงพร้อมด้วยแม่ทัพซ้ายขวาและรองแม่ทัพผู้ติดตาม เคลื่อนพลออกจากเมืองผิงอานในยามซื่อที่ท้องฟ้าแจ่มใส แต่กลับสร้างความหม่นหมองให้กับใครหลายๆ คนโดยเฉพาะญาติมิตรของพลทหารรวมถึงคนตระกูลจ้าวด้วย “หยางหยาง ท่านพ่อจะกลับมาหาชีชีใช่หรือไม่” จ้าวลี่หมิงถามเสียงเครือ มองส่งจ้าวมู่ในอ้อมแขนของเฉินซือหยางบนกำแพงเมืองหลวงไกลจนลับตา “เจิ้งกั๋วกงแค่ไปปฏิบัติหน้าที่ อีกไม่นานจะต้องกลับมาแน่ เจ้าอย่ากังวลใจไปเลย” เฉินซือหยางกอดปลอบคนในอ้อมแขน มือหนากำตราพยัคฆ์ที่ได้รับมาจากจ้าวมู่แน่น ความเย็นเฉียบของมันช่วยปัดเป่าความหนักอึ้งซึ่งทับถมอยู่ในใจให้เบาบางลง “องค์รัชทายาทจะเสด็จกลับเลยหรือไม่เพคะ” กู้ฟางเหนียงถามเสียงเบา ดวงตายังคงแดงระเรื่อจากการที่ต้องลาจากสามี “เราคงต้องกลับเลย ยังมีเรื่องที่เราต้องทำอีกมากไท่เว่ยฮูหยินมีอะไรอย่างนั้นหรือ”

    Last Updated : 2024-12-17
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 34

    บรรยากาศในวังหลวงหนักอึ้งกดทับผู้คน จนนางกำนัลและขันทีในตำหนักหยางซินไม่กล้าแม้กระทั่งหายใจแรงด้วยเกรงว่าจะกระทบกระเทือนถึงพระอาการของฝ่าบาท เฉินซือหยางมีสีหน้าเครียดขึงเฝ้าดูอาการของเฉินเทียนอี้ไม่ห่าง ไม่ยอมหลับยอมนอนติดต่อกันนานสามวันสามคืน ทั้งประชุมเช้า ทั้งราชกิจต่างๆ ล้วนถูกเลื่อนออกไปแบบไม่มีกำหนด ประตูตำหนักหยางซินถูกปิดเงียบ แต่ไม่อาจปกปิดอาการประชวรที่กำลังทรุดหนักของเฉินเทียนอี้ฮ่องเต้ได้มิด เมื่อรวมกับภาวะสงครามที่ด่านชายแดน ราชสำนักจึงระส่ำระสายราวกับมังกรไร้เศียร หลี่ไทเฮาจึงถือโอกาสนี้เข้าควบคุมสถานการณ์ในราชสำนัก ภายในตำหนักฉือซวน กลิ่นกำยานกรุ่นกำจายนำพากลิ่นอายแปลกประหลาดบางอย่างปกคลุมไปทั่วทั้งตำหนัก “เหนียงเหนียง ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้วเพคะ” หม่าหมัวมัวกระซิบบอกเสียงเบา หลี่ย่าเสียงกระหยิ่มยิ้มย่องสั่งการเสียงเหี้ยม “ลงมือซะ!” ตำหนักอี้ชิ่งเงียบเหงาเ

    Last Updated : 2024-12-18
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 35

    “องค์รัชทายาทจะทรงทำอย่างไรดี ตอนนี้หลี่ไทเฮาสั่งการให้ทหารปิดล้อมตำหนักหมดแล้วนะพ่ะย่ะค่ะ” จางกงกงรายงานด้วยน้ำเสียงหนักอึ้ง ตอนที่ได้รับรายงานว่าตำหนักอี้ชิ่งถูกค้นและยัดข้อกล่าวหาว่าสมคบคิดกับคนเถื่อนขายชาติ ทำเอาเขาตกใจขวัญแทบบิน เหตุใดอยู่ดีๆ ถึงถูกกล่าวหาเช่นนี้เล่า ในเมื่อผู้ลงมือกระทำแท้จริงแล้วเป็นฝ่ายหลี่ไทเฮาเสียมากกว่า ช่างกลับขาวเป็นดำได้อย่างหน้าด้านๆ “คนของฝ่ายเราล่ะ” เฉินซือหยางถามเสียงเครียดไม่นึกว่าเสด็จย่าของเขาจะทนไม่ไหวถึงขั้นปลอมหลักฐานขึ้นมาใส่ความเขาเช่นนี้ ชิงลงมือก่อนย่อมได้เปรียบสินะ “คนของเราถูกจับกุมตัวไว้หมดเลยพ่ะย่ะค่ะ ส่วนขุนนางฝั่งเราขอเปิดประชุมด่วนเพื่อยื่นหนังสือให้สามตุลาการ[1] ตรวจสอบร่วมกับไทเฮา ช่วยให้เราพอมีเวลาหาหลักฐานมาล้มล้างข้อกล่าวหา” “ไม่ทันการณ์แล้ว ไทเฮาลงมือหนักถึงขั้นนี้ย่อมต้องสานแหฟ้าตาข่ายดิน[2] ดักข้าเอาไว้ คาดว่าจดหมายลับฉบับนั้นคงเป็นลายมือพร้อมตราประท

    Last Updated : 2024-12-19
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 36

    ข่าวเรื่ององค์รัชทายาทสมคบคิดกับเผ่าคนเถื่อน วางแผนลอบปลงพระชนม์ฝ่าบาท และทำร้ายไทเฮาแพร่สะพัดไปทั้งเมืองหลวง ผู้คนต่างโจษจันกันไปทั่วถึงความชั่วช้าเลวทรามที่องค์รัชทายาทได้กระทำไว้ ราษฎรต่างพากันสาปแช่งเจ้าสุนัขป่าเลี้ยงไม่เชื่องแว้งกัดได้แม้กระทั่งบิดาแท้ๆ ของตน พวกขุนนางต่างเรียกร้องให้มีการสืบหาที่ประทับลับที่ใช้ซ่อนตัวฝ่าบาท แต่ไม่ว่าจะเสาะหาอย่างไรก็ไม่อาจค้นพบได้โดยง่าย การหายตัวไปของเฉินเทียนอี้ รวมทั้งภัยสงครามที่คืบคลานเข้ามาทำเอาราชสำนักเกิดความปั่นป่วนวุ่นวาย อัครเสนาบดีหลี่จึงเชิญหลี่ไทเฮาขึ้นดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนอีกครั้ง และยังหารือเรื่องแต่งตั้งองค์รัชทายาทพระองค์ใหม่โดยเร็ว แต่เนื่องจากพระราชลัญจกรหายไปพร้อมกับฝ่าบาท ทำให้การแต่งตั้งองค์รัชทายาทถูกเก็บค้างเอาไว้ชั่วคราว รอให้เจอตัวฝ่าบาทเมื่อไหร่ค่อยตัดสินใจกันอีกที ซึ่งเรื่องนี้สร้างความไม่พอใจให้กับฝ่ายของหลี่ไทเฮาเป็นอันมาก เพราะผู้ที่ถูกเสนอชื่อแต่งตั้งเป็นองค์รัชทายาทพระองค์ใหม่คือ องค์ชายรองเฉินจวินเฉิง แต่กลับถู

    Last Updated : 2024-12-20

Latest chapter

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 69

    ตลาดเช้าในเมืองผิงอานยังคงคึกคัก ผู้คนเดินเบียดเสียดกันเนืองแน่นดูสินค้าบนแผงลอยข้างทางที่มีมากมายดูละลานตาไปหมด ทั้งผลท้ออวบอิ่มฉ่ำน้ำ ปลาสดๆ หลากหลายชนิด ผักสดใหม่ที่เพิ่งเก็บมาจากสวนล้วนมีให้เลือก เสี่ยวเอ้อร้านน้ำชา ร้านขายผ้า และโรงเตี๊ยมต่างออกมายืนเรียกลูกค้ากันเสียงดังเซ็งแซ่ด้วยความขยันขันแข็งเป็นภาพที่ทุกคนเห็นจนชินตา ท่ามกลางความครึกครื้นอาชาฝีเท้าจัดสีชาดดุจโลหิตตัวหนึ่งวิ่งฝ่าฝูงชนในตลาดดุจลมพายุ ทำเอาผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์หลบหนีกันจ้าละหวั่น “หลีกทาง!” จ้าวลี่หมิงตะโกนก้องควบม้าเหงื่อโลหิตสีแดงเพลิงมุ่งหน้าสู่ตำหนักอี้ชิ่ง ชายหนุ่มกำหมัดแน่นมาตลอดทางด้วยความโมโห ป้ายหยกประจำตัวองค์รัชทายาทสีเขียวอร่ามตรงชายพกส่องแสงแยงตาทหารเฝ้าประตูตำหนักจนดวงตาแทบมืดบอด ประกอบกับใบหน้าบึ้งตึงของว่าที่พระชายา ทำเอาพวกเขากระโดดหลบแทบไม่ทัน อารมณ์ขุ่นมัวขนาดนี้ใครล่ะจะกล้าขวางทาง

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 68

    “ร้องไห้ทำไม มีอะไรน่าเสียใจมากอย่างนั้นหรือ” สวีเฟยหลงปรากฏขึ้นข้างกายหลานซือเยว่ ร่างสูงรวบคนร่างบางเข้ามากอดแนบอก เช็ดน้ำตาให้คนร่างบางอย่างอ่อนโยน กลับถูกหลานซือเยว่ผลักออกอย่างแรงด้วยความเดียดฉันท์ จนร่างสูงกระแทกกับผนังห้องเต็มแรง “ไปให้พ้น ข้าไม่อยากเห็นหน้าท่าน” หลานซือเยว่ผลักไสเขาออกไปแต่กลับเป็นฝ่ายปวดใจเสียเอง เมื่อเห็นเขาแสดงสีหน้าเจ็บปวดออกมา จิตใต้สำนึกของหลานซือเยว่ร่ำร้องหาชายผู้นั้น ได้แต่ฝืนตัวเองเอาไว้สุดกำลังไม่ให้เข้าไปพยุงอีกฝ่ายด้วยความห่วงใย “ทำไม เห็นหน้าผัวตัวเองแล้วรับไม่ได้อย่างนั้นหรือ” สวีเฟยหลงกระชากร่างบางเข้ามากอดแนบอกแกร่ง มือหนาบีบคางเรียวแน่นด้วยแรงอารมณ์ “ข้าไม่ได้เป็นอะไรกับเจ้าทั้งนั้น เป็นเจ้าฉวยโอกาสตอนข้าหลับ สารเลว!” หลานซือเยว่ปัดมือหนาออก ดวงตาสีน้ำเงินวาววับด้วยโทสะไม่ยอมรับความสัมพันธ์ใดๆ กับคนตรงหน้าทั้งสิ้น  

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 67

    หลานซือเยว่ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกมึนเบลอ ไม่รู้ว่าเมื่อคืนตนเองไปทำอะไรมาร่างกายถึงได้ปวดร้าวไปทั้งร่าง โดยเฉพาะสะโพกแทบครากอยู่รอมร่อ ทำเอาขยับเขยื้อนไปไหนไม่ได้แม้แต่ครึ่งชุ่น[1] ดีที่มีแรงจากมือหนาคอยบีบนวดให้ อาการปวดเมื่อยค่อยทุเลาเบาบางลง ขณะที่หลานซือเยว่หลับตาพริ้มสัมผัสกับความรู้สึกผ่อนคลายสบายเนื้อสบายตัว จู่ๆ ก็เริ่มตงิดใจกับแรงบีบนวดอันไร้ที่มาที่ไปนี้ เดี๋ยวนะ! ใครบีบนวดให้ข้ากัน? ดวงตาเรียวหงส์เปิดพรึ่บสะดุ้งตื่นเต็มตา หลานซือเยว่นอนคว่ำหน้าอยู่เอี้ยวตัวมองด้วยความสงสัย ภาพที่เห็นตรงหน้าคือ ใบหน้าเหี่ยวย่นของชายชราผู้หนึ่งในชุดจื๋อตัวหรือชุดนักพรตสีฟ้าเทานั่งอยู่ข้างเตียง กำลังบีบนวดหลังไหล่ให้ตนอยู่ ร่างสูงโปร่งตกใจถลันตัวลุกขึ้นนั่ง รีบถอยห่างจากคนแปลกหน้า “ตื่นแล้วหรือ” &nb

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 66

    ดึกดื่นคืนค่ำจันทราหลบเร้นในหมู่เมฆ อารามหลวงตั้งตระหง่านกลางพระราชวังเงียบสงัด ภายในห้องพักแห่งหนึ่งซึ่งหลานซือเยว่อาศัยหลับนอน ปรากฏเงาร่างสูงใหญ่ในชุดผ้าคลุมศีรษะสีดำสนิท ดวงตาสีนิลดุจรัตติกาลเปล่งประกายวาววับท่ามกลางความมืด จับจ้องไปยังร่างบางที่หลับสนิทอยู่บนเตียงตั่งด้วยความรักใคร่ลึกซึ้งถึงกระดูก ร่างสูงเคลื่อนกายมาหยุดอยู่ข้างเตียง ทรุดตัวลงนั่งข้างกายคนที่นอนหลับใหลไม่รู้เรื่องรู้ราว มือหนาลูบไล้ดวงหน้าซึ่งติดตรึงอยู่ในใจไม่เสื่อมคลาย “เสวี่ยเอ๋อร์” ชายหนุ่มกระซิบเรียกหลินเสวี่ยเฟิ่งเสียงแผ่วชิดปากอิ่ม ริมฝีปากหนาประทับบนริมฝีปากบางเพียงแผ่วเบา ก่อนจะค่อยๆ บดขยี้อย่างหนักหน่วงตามแรงอารมณ์ “ข้าคิดถึงเจ้ามากรู้หรือไม่ ยอดรักของข้า” มือหนาปลดเปลื้องอาภรณ์ของหลานซือเยว่ออกอย่างเร่งร้อน เป็นเพราะรีบมากเกินไปจึงทำให้หลานซือเยว่สะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 65

    “จำได้หรือไม่ว่าต้องพูดอย่างไร” “รู้น่า แค่เอ่ยคำว่า 'ขอโทษ' ง่ายจะตายไป” “ดี ไหนลองพูดดูซิ” “ขอโทษ” “เข้าไปแล้วห้ามก่อเรื่อง เข้าใจหรือไม่” “เข้าใจแล้วน่า ข้าไม่ใช่เด็กแล้วนะ อายุมากกว่าเจ้าด้วย” เฉินซือหยางกับจ้าวลี่หมิงยืนเถียงกันอยู่หน้าห้องบรรทมในตำหนักหยางซิน ทำเอาหวังกงกงที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูอมยิ้มขำนายท่านทั้งสอง “จะให้ขานนามหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ” “ไม่ต้อง” เฉินซือหยางโบกมือห้ามไว้ จ้าวลี่หมิงแอบชะโงกหน้าเข้าไปสังเกตการณ์ภายในห้อง เห็นเฉ

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 64

    “มาดื่มชาหน่อยจะได้ชุ่มคอ เมื่อครู่เหนื่อยหรือไม่” เฉินเทียนอี้หยิบผ้ามาซับเหงื่อให้หลานซือเยว่อย่างใส่ใจ “เสด็จพ่อกับหลินเสวี่ยเฟิ่งต้าซือดูสนิทสนมคุ้นเคยกันดีนะพ่ะย่ะค่ะ” เฉินซือหยางปรายตามองเสด็จพ่อที่กำลังหลอกล่อให้นักบวชผู้นั้นกินขนมดอกกุ้ยอย่างสำราญใจด้วยสายตาลุ่มลึก ไม่นึกว่าอีกฝ่ายจะลงมือได้รวดเร็วถึงเพียงนี้ ถึงขนาดล่อลวงให้เสด็จพ่อหลงใหลจนแทบประคองอีกฝ่ายไว้ในอุ้งมือ นับว่ามีความสามารถโดยแท้ แค่ดูก็รู้ว่าไม่ใช่ตัวดีอะไร “อ๋อ นี่หรือเพราะ...” เฉินเทียนอี้กำลังจะบอกความจริงกับบุตรชาย แต่กลับเห็นหลานซือเยว่ขยิบตาให้ ทั้งยังส่ายหน้าเบาๆ ไม่ให้ชายหนุ่มบอกออกไปว่านี่คือเสด็จแม่ของเขา เฉินเทียนอี้จึงได้แต่ปิดบังไว้ “...หลินเสวี่ยเฟิ่งเป็นสหายเก่าของพ่อเอง เจ้าก็มาทำความรู้จักไว้สิ” “สหายเก่า? ดูไม่ออกเลยว่าเสด็จพ่อก็มีสหายเป็นนักบวชผู้หนึ่งด้วย” เฉินซือหยางเย้าเสด็จพ่อยิ้มๆ แสร้งท

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 63

    เพียงสบเข้ากับเนตรหงส์เรียวงามแฝงประกายฉ่ำวาวราวหยาดน้ำค้างคู่นั้น ส่วนลึกของจิตวิญญาณก็พลันสะท้านไหว สายตาอาลัยรักฉายแววคิดถึงคะนึงหาลึกซึ้งถึงกระดูก ทั้งเทิดทูนบูชาราวกับเขาเป็นดั่งท้องฟ้าไกลเกินเอื้อมคว้าไหนจะคำเรียกขานอันแสนคุ้นเคยที่เฉินเทียนอี้ไม่ได้ยินมานานปียังจะมีผู้ใดได้อีก “เป็นไปไม่ได้ เหตุใดเจ้าถึงได้มาอยู่ที่นี่” เฉินเทียนอี้พึมพำอย่างไม่อยากจะเชื่อ สายตาจ้องมองดวงหน้าที่ทั้งแปลกตาทั้งคุ้นเคยของหลินเสวี่ยเฟิ่งอย่างเหม่อลอย หวนนึกถึงวันวานที่พวกเขาได้พานพบกัน “หม่อมฉันหลานซือเยว่ถวายบังคมองค์ชายเก้าเพคะ” ร่างผอมบางของหลานซือเยว่ในวัยสิบสามหนาวสูงกว่าเขาในวัยหกหนาวเกือบช่วงตัว ยอบกายถวายบังคมองค์ชายตัวน้อยอย่างนอบน้อม แต่เขาที่ตอนนั้นยังไม่รู้ความและหยิ่งยโสใช้อำนาจกดข่มนางก็ไม่เคืองโกรธ “เ

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 62

    จ้าวลี่หมิงนอนขลุกอยู่ในห้องจนสายโด่ง พอตื่นขึ้นมาก็พบว่าคนตัวโตที่นอนอยู่เคียงข้างลุกออกไปนานแล้ว จ้าวลี่หมิงเรียกจางกงกงเข้ามาปรนนิบัติ พอได้อาบน้ำล้างหน้าก็รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าขึ้นไม่น้อย “ต้าซือทานอาหารเช้าแล้วหรือยัง” “ยังเลยพ่ะย่ะค่ะ เห็นต้าซือบอกว่าจะรอให้พระชายาตื่นก่อนค่อยทานพร้อมกัน” “แล้วตอนนี้ต้าซืออยู่ที่ใด” “ต้าซือชมดอกท้ออยู่ที่ศาลารับลมริมสระบัวตำหนักปีกซ้ายพ่ะย่ะค่ะ” “จัดสำรับที่ศาลารับลมก็แล้วกัน ไม่ต้องทำพวกเนื้อสัตว์ขึ้นโต๊ะนะ ข้าจะทานเจเป็นเพื่อนต้าซือ” “พ่ะย่ะค่ะพระชายา” จ้าวลี่หมิงเดินไปหาหลานซือเยว่ที่ตำหนักปีกซ้าย เห็นอีกฝ่ายกำลังจิบชาชมทัศนียภาพยามเช้าอย่างสบายอารมณ์ จ้าวลี่หมิงไม่อยาก

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 61

    “เสด็จแม่!... ไม่สิ! เป็นไปไม่ได้ เหตุใดใบหน้าของคนผู้นี้ถึงได้...” เฉินซือหยางตะลึงงันจ้องมองใบหน้าของหลานซือเยว่ไม่วางตา ตอนอยู่ที่ท่าเรือเพราะความมืดสลัวเขาจึงไม่ทันได้สังเกตว่าใบหน้าของนักบวชผู้นี้คล้ายคลึงกับมารดาของเขายิ่งนัก แต่เพราะอีกฝ่ายเป็นบุรุษจึงขับเน้นให้ดวงหน้าอ่อนหวานนั้นคมชัดยิ่งขึ้นหลายส่วน แลดูงดงามโดดเด่นกว่ามารดาเขามากนัก เป็นความงามเหนือโลกีย์ดั่งสัตตบงกชที่แย้มบานในสระหยกอมฤตบนสวรรค์เก้าชั้นฟ้าหาได้แปดเปื้อนเศษธุลีแดงแม้เพียงเศษเสี้ยวประหนึ่งเทพเซียนผู้สูงสง่าน่าเลื่อมใสแล้วคนที่ดูสูงส่งถึงเพียงนี้มีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับมารดาเขา ในเมื่อญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่มีเพียงซูโม่หลันหรือนามที่แท้จริงก็คือ 'หลานโม่หลัน'ลูกพี่ลูกน้องของมารดาเขา ตระกูลหลานของเสด็จแม่เป็นตระกูลขุนนางเล็กๆ ในเมืองห่างไกล ทั้งตระกูลมีเพียงท่านตาที่เป็นเสมียนชั้นผู้น้อยในที่ว่าการอำเภอ มารดาเขาจึงมีสิทธิ์เข้าร่วมคัดเลือกนางกำนัล แล

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status