แชร์

บทที่ 192

ผู้เขียน: มู่อวิ๋นเฉิง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-26 17:00:00
เมื่อเมิ่งจิ่นเหยาฟังจบ ดวงตาก็เป็นประกาย

การตัดศีรษะก็ไม่เลว การแขวนคอก็ดีมากเช่นกัน เมื่อถึงเวลานายบ่าวคู่นั้นก็จะได้รับการลงโทษบนเวทีเดียวกัน คนหนึ่งถูกตัดศีรษะในที่สาธารณะ คนหนึ่งถูกแขวนคอตายด้วยเชือกป่าน เพื่อเซ่นไหว้ดวงวิญญาณของเฉิงอวี่ที่อยู่บนสวรรค์

เมื่อกู้จิ่งซีเห็นใบหน้าของแม่นางน้อยเต็มไปด้วยความลิงโลด ก็รู้สึกแต่เพียงว่าแม่นางน้อยดีใจมากเกินไป จนมองข้ามสิ่งอื่น ถึงแม้ในใจไม่อยากให้นางเจ็บช้ำ ทว่าจำเป็นจะต้องเตือนนาง “เพียงแต่ บุตรธิดาฟ้องร้องบิดามารดา ถือว่าไม่กตัญญู ความผิดของการไม่กตัญญูจะต้องถูกลงโทษด้วยเช่นกัน ขอฮูหยินทบทวนดูให้รอบคอบ ข้าไม่อยากให้มีวันใดวันหนึ่งที่ข้าต้องไปเยี่ยมเจ้าในคุกหลวงบ่อย ๆ ”

สีหน้าของเมิ่งจิ่นเหยาชะงักค้างไปชั่วขณะ ในตอนนั้นที่นางซุนยักยอกสินเดิมของมารดาผู้ให้กำเนิดนาง นางยืมอำนาจของจวนฉางซินโหวในการบีบบังคับให้พวกเขาคืนสินเดิมก่อน แล้วใช้เหตุผลในการข่มขู่ว่าจะแจ้งต่อทางการ

ในครั้งนั้นเป็นเพราะว่านางมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม มีหลักฐานพร้อมทั้งอำนาจของจวนฉางซินโหวคอยกดดัน ไม่จำเป็นต้องแจ้งต่อทางการ พวกเขาก็คืนกลับมาแล้ว ดังนั้นนางถึงสามารถพู
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 193

    เมิ่งจิ่นเหยาจ้องมองเขาอย่างไม่สบอารมณ์ พลางกล่าวอย่างมีโทสะ “ท่านก็เป็นผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากกฎหมายนี้เหมือนกัน”กู้จิ่งซียิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ มองดูที่แม่นางน้อยที่โกรธอย่างหนัก จนใจอยู่บ้าง ทว่าก็สามารถเข้าใจความโมโหของนางที่เกิดขึ้นมาอย่างฉับพลันได้ ผู้ที่ถูกขูดรีดเผชิญหน้ากับผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ หากยังมีสีหน้าปกติอยู่ก็แปลกแล้ว จึงกล่าวอย่างอ่อนโยน “ฮูหยินอย่าโมโหไปเลย หากฮูหยินไม่ยินดี ข้าก็สามารถละทิ้งผลประโยชน์เช่นนี้ได้เหมือนกัน”เมิ่งจิ่นเหยาเลิกหางคิ้ว พลางถามด้วยสีหน้าที่คาดไม่ถึง “ท่านคิดจะละทิ้งอย่างไรงั้นหรือเจ้าคะ?”กู้จิ่งซีตอบกลับด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “หากภายภาคหน้าข้ากระทำความผิด ก็จะลงนามในหนังสือหย่า เช่นนี้พวกเราก็จะยกเลิกความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยา ถึงตอนนั้นฮูหยินก็สามารถนำหลักฐานไปฟ้องร้องข้าโดยไม่ต้องถูกคุมขังได้แล้วละ”เมื่อสิ้นเสียง เมิ่งจิ่นเหยาก็ตกตะลึง พลางมองไปที่กู้จิ่งซีด้วยความมึนงง เมื่อหวนกลับไปนึกถึงประโยคนี้อีกครั้ง โทสะที่มีอยู่บนใบหน้าก็มลายลงอย่างรวดเร็ว นางช่างไม่ได้เรื่องยิ่งนัก ถูกเอาใจด้วยคำพูดประโยคเช่นนี้ หัวใจดวงน้อย ๆ ที่ขุ่นเคือ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-27
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 194

    เมื่อเมิ่งจิ่นเหยาได้ฟัง ก็เงยหน้าขึ้นมามองเขาอย่างกะทันหัน เมื่อมองเห็นมุมปากที่แย้มยิ้มของเขาดวงตาก็สว่างไสวขึ้นมาในฉับพลัน พลางถามอย่างรีบร้อน “คดีนั้นมีจุดจบเช่นไรเจ้าคะ?”กู้จิ่งซีกล่าวต่อ “ที่เหมือนกันคือบิดากับมารดาเกิดมีปากเสียงกัน ระหว่างที่โต้เถียงกันเกิดลงไม้ลงมือกันขึ้น บิดาเข้าไปในครัวแล้วหยิบมีดทำครัวขึ้นมาฟันมารดาสิบห้าครั้ง มารดาเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ในตอนที่บุตรชายกลับถึงบ้าน เห็นมารดาถูกฆ่าตายอยู่ที่นั่น บิดาถือมีดทำครัวอยู่ในมือ จึงตะโกนเรียกเพื่อนบ้านมาจับบิดาในทันที สุดท้ายบุตรฟ้องร้องว่าบิดาสังหารมารดา พยานและหลักฐานครบถ้วน บิดาถูกตัดสินให้ตัดศีรษะ ทว่าบุตรชายถูกตัดสินว่าไร้ความผิด และไม่มีพฤติกรรมที่อกตัญญู” นี่คือผลลัพธ์ที่ตนเองต้องการ ทว่าเมิ่งจิ่นเหยากลับรู้สึกไม่ค่อยพึงพอใจอีกครั้ง พลางตั้งคำถามขึ้นมา “เช่นนั้นเหตุใดคดีความครั้งแรก ท่านจึงไม่สามารถตัดสินเช่นนี้ได้เจ้าคะ? ในเมื่อคดีที่สองสามารถกระทำได้ ไยคดีในครั้งแรกถึงไม่พยายามทำให้ได้เล่าเจ้าคะ?”กู้จิ่งซีตอบ “นั่นก็เพราะว่ามีเหตุผลอย่างไรเล่า”เมื่อเมิ่งจิ่นเหยาได้ฟังก็งุนงง ถามอย่างไม่อาจเข้าใจได้ “

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-27
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 195

    คำพูดของบุรุษอ่อนโยนและโน้มน้าวใจ เยียวยาอารมณ์โกรธของเมิ่งจิ่นเหยาอย่างช้า ๆ เดิมทีนางยังรู้สึกขุ่นเคือง โกรธจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เกลียดชังผู้ที่เสนอกฎหมายฉบับนี้ ทว่าตอนนี้กลับรู้สึกจนใจ ในเวลาเดียวกันภายในใจยังเกิดความรู้สึกว่าไร้พลังเพียงชั่วครู่ นางก็เงยหน้ามองกู้จิ่งซีอย่างไม่มีเหตุผล ภายในใจมีความหวังเพิ่มขึ้น หากมีคนอย่างกู้จิ่งซีเพิ่มขึ้นสักหน่อย กฎหมายที่ไม่สมเหตุสมผลพวกนี้ก็คงจะถูกปรับปรุงอย่างช้า ๆ นางจ้องมองกู้จิ่งซีเป็นเวลานาน กล่าวอย่างอึกอักว่า “ท่านพี่ เมื่อครู่ข้าไม่ควรพาลโมโหท่านเลยเจ้าค่ะ”กู้จิ่งซีส่ายศีรษะแผ่วเบาอย่างไม่เก็บมาใส่ใจ พลางกล่าวด้วยเสียงอ่อนโยน “ไม่เป็นไร ฮูหยินว่ากันด้วยเหตุผล และเป็นผู้ที่รู้เหตุรู้ผล เมื่อครู่เป็นเพียงแค่ความโมโหชั่ววูบเท่านั้น”เมิ่งจิ่นเหยาราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง จับจ้องเขาอย่างกระตือรือร้น “เสนาบดีศาลต้าหลี่สามารถมีส่วนร่วมในการบัญญัติและแก้ไขกฎหมายได้ใช่ไหมเจ้าคะ?”เมื่อได้ฟัง กู้จิ่งซีก็อดที่จะยิ้มออกมาอย่างจนใจไม่ได้ จึงยิ้มพลางกล่าวว่า “ฮูหยิน ข้าขอแนะนำเจ้าว่าอย่าคาดหวังกับสามีของเจ้านักเลย อันที่จริงสามีของเจ้าไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-27
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 196

    “ที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเปิดเผย ก็เพราะว่าเฉียวหมอมอคอยจัดการเรื่องต่าง ๆ ให้เขาอยู่เบื้องหลังมาโดยตลอด ข้าสามารถใช้ประโยชน์จากจุดนี้ได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ จับจุดอ่อนของเฉียวหมอมอ และทำให้เฉียวหมอมอเปลี่ยนฝ่าย ขอเพียงเฉียวหมอมอยอมแปรพักตร์ เรื่องราวต่อจากนี้ก็ง่ายดายมากขึ้นแล้ว”กู้จิ่งซีเหลือบมองนางอย่างชื่นชม พยักหน้าพลางกล่าวว่า “ฮูหยินเฉลียวฉลาด ต่อจากนี้มีเรื่องอันใดที่ต้องการให้ข้าทำหรือไม่?”เมิ่งจิ่นเหยาครุ่นคิดอย่างจริงจังอยู่ชั่วครู่ หลังจากนั้นก็ปฏิเสธอย่างอ้อม ๆ “ขอบคุณท่านพี่มากเจ้าค่ะ เพียงแต่ในช่วงระยะเวลานี้น่าจะไม่ต้องเจ้าค่ะข้าอยากลองดูด้วยตัวเองสักหน่อย หากว่ามีสิ่งใดที่ต้องการ ข้าจะมายืมกำลังของท่านพี่อีกครั้งเจ้าค่ะ?”กู้จิ่งซีกล่าวเตือน “ก็ได้ เพียงแต่ฮูหยินอย่าได้ทำอะไรบุ่มบ่าม ต้องคิดให้รอบด้าน ส่วนเรื่องกำลังคน เมื่อใดที่ฮูหยินต้องการสามารถบอกข้าได้ทันที”เมิ่งจิ่นเหยาพยักหน้าแผ่วเบา สอดกระดาษกลับเข้าไปในซองจดหมาย พลางเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ท่านพี่ ตอนนี้มองดูก็สายมากแล้ว หากไม่มีธุระอันใดละก็ มิสู้พวกเรากลับเรือนเวยหรุยเซวียนก่อน ประเดี๋ยวค่อยกินอาหารเย็นดีไหมเจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-27
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 197

    เช้าวันรุ่งขึ้นกู้จิ่งซีถึงศาลาว่าการศาลต้าหลี่เพื่อทำหน้าที่ สหายร่วมงานคนสนิทฉีอวิ้นเหวินเห็นเขามาทำงาน ก็เดิมตามต้อย ๆ อยู่ข้างกาย มองเขาด้วยดวงตาสว่างไสว หลายครั้งหลายคราที่อยากจะพูดแต่ก็ไม่พูดออกมาเขานั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน อ่านม้วนคดีที่เสนอมาจากทุกหนทุกแห่ง เสนาบดีศาลต้าหลี่มีเขาที่มีเอกสิทธิ์ มีสถานที่ทำงานส่วนตัว ฉีอวิ้นเหวินจึงย้ายม้วนคดีที่ตนเองต้องอ่านมาที่นี่ด้วย มาอ่านด้วยกันกับเขาเพียงแต่ กู้จิ่งซีเพิกเฉยเขามาตลอด และอ่านม้วนคดีอย่างตั้งใจ มีบางครั้งบางคราวที่ไม่มีสมาธิ แล้วสบตากับเขา ก็มักจะรู้สึกว่าแปลกประหลาดยิ่งนัก จนกระทั่งในภายหลังถูกสายตาของเขามองจนรู้สึกกระอักกระอ่วน ไม่มีกะจิตกะใจทำงาน จึงได้วางม้วนคดีที่อยู่ในมือฉบับนั้นลง พลางถามเสียงทุ้ม “ฉีโม่ไป๋ เจ้าเป็นโรคที่ตากระนั้นหรือ?”ฉีอวิ้นเหวินส่ายศีรษะโดยไม่รู้ตัว “ปะ เปล่านี่ ไยเจ้าถึงถามเช่นนี้?”กู้จิ่งซีขมวดคิ้ว เมื่อประสานกับดวงตาที่ลุกโชนของเขา ก็รู้สึกหนาวเย็นขึ้นมาอีกครั้ง พลางกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “เช่นนั้นเจ้าเอาแต่จับจ้องข้าทำไมกัน? ข้ามิใช่ภรรยาของเจ้าเสียหน่อย”ฉีอวิ้นเหวินส่ายศีรษะอีกครั้ง “ไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-28
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 198

    ฉีอวิ้นเหวินขยับปากจะพูด แต่แล้วก็กลืนคำพูดที่มาถึงริมฝีปากกลับไปอีกครั้ง พลางเหลือบมองไปที่สหายสนิท ภายในใจรู้สึกเสียดายยิ่งนัก กู้จิ่งซีกล่าวด้วยน้ำเสียงเฉยเมย “มีม้วนคดีจากที่ต่าง ๆ เสนอมาใหม่เป็นกอง ไปอ่านก่อนเถิด”ฉีอวิ้นเหวินส่งเสียงตอบรับ “ได้” และไม่ได้เอ่ยถึงหัวข้อสนทนานี้อีกอย่างรู้ว่าอะไรควรไม่ควร และยุ่งอยู่กับม้วนคดีอีกครั้งเพียงชั่วพริบตา ก็ถึงเวลาเที่ยงตรงฮูหยินของฉีอวิ้นเหวินส่งอาหารกลางวันมาให้ไม่เพียงแต่ฮูหยินของฉีอวิ้นเหวินเท่านั้น มีใต้เท้าบางคนที่แต่งงานแล้ว ก็จะได้รับอาหารกลางวันที่ฮูหยินส่งมาในเวลากลางวันเป็นครั้งคราวเช่นกัน ยกเว้นสามีภรรยาที่มีความสัมพันธ์ไม่ดีเท่าใดนักที่แทบจะไม่เคยได้รับเลยถึงอย่างไรห้องครัวของศาลต้าหลี่ พ่อครัวก็เป็นเพียงพ่อครัวธรรมดาเท่านั้น อาหารที่ทำออกมาไม่ได้ถือว่าอร่อยมากนัก แค่พอถู ๆ ไถ ๆ อาหารก็ทั่วไป จะอร่อยเหมือนกับอาหารที่บ้านได้เช่นไรกัน? อาหารที่บ้านต่อให้ไม่ใช่อาหารหายาก ทว่าก็ตั้งใจนำส่วนผสมที่เรียบง่ายทำออกมาให้ได้รสชาติที่ดีที่สุดภรรยาที่สงสารสามีของตนเองว่าจะกินอาหารไม่ดี ต่างก็มาส่งอาหารให้สามีเป็นครั้งคราว ปร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-28
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 199

    เมื่อเห็นเขานิ่งเงียบไม่เอ่ยอันใด ฉีอวิ้นเหวินก็ถามต่อ “เย่าหลิง ไยเจ้าถึงไม่พูดเล่า?”กู้จิ่งซีหรี่ตามมองเขาชั่วขณะหนึ่ง รู้สึกแต่ว่าประหลาด จึงถามกลับไป “ไยต้องให้นางมาส่งอาหารให้ข้าเล่า? มิใช่ว่าข้าไม่มีขาเสียหน่อย หากอยากกินอาหารในจวน กลับจวนด้วยตนเองก็ได้แล้วนี่นา? ”เมื่อฟังจบ ฉีอวิ้นเหวินก็มองเขาอย่างประหลาดใจ พลางยกนิ้วให้เขาอย่างเงียบ “เป็นครั้งแรกที่ข้าได้ยินว่ามีคนที่ปลอบใจตนเองเช่นนี้ด้วย”กู้จิ่งซีไม่ได้สนใจเขา ก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อไป คงต้องบอกว่า พ่อครัวของสกุลฉีมีฝีมือในการปรุงอาหารที่ไม่เลวเลย หากเทียบกับพ่อครัวของศาลต้าหลี่แล้ว ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับดินจริง ๆเขาไม่พูดอันใด ทว่าฉีอวิ้นเหวินกลับกำลังพูดไม่หยุดกู้จิ่งซีขัดจังหวะคำพูดของเขา กล่าวอย่างเฉยเมยว่า “จะส่งอาหารหรือไม่แล้วเกี่ยวอันใด? หลิวฮูหยินส่งอาหารมาให้ใต้เท้าหลิวทุกวัน แต่ว่านี่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการทะเลาะกันของสามีภรรยาเลย เจ้าไม่ได้เห็นหรือว่าวันนี้มุมตาด้านซ้ายของใต้เท้าหลิวมีรอยฟกช้ำน่ะ? เมื่อวานนี้เขายังดี ๆ อยู่เลย วันนี้ก็มาเป็นเช่นนี้เสียแล้ว เจ้าคิดว่าผู้ใดตีเขาอย่างนั้นหรือ?”ฉีอวิ้นเห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-28
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 200

    เมิ่งจิ่นเหยาตอบกลับ “มีธุระกับท่านพี่นิดหน่อยเจ้าค่ะ หากท่านพี่ยังมีงานต้องไปทำ เช่นนั้นข้าก็ไม่ขอรบกวน”กู้จิ่งซีตะลึงงันอีกครั้ง กล่าวในทันทีว่า “ที่นี่ไม่สะดวกสนทนากัน พวกเราไปคุยกันที่ด้านนั้นเถิด”เวลานี้ ใต้เท้าหลายคนที่ออกมาจากด้านหลังมองเห็นกู้จิ่งซีกำลังสนทนากับสตรีงดงามผู้หนึ่ง จึงรู้สึกอยากรู้อยากเห็น เสนาบดีกู้ของพวกเขาใกล้ชิดกับสตรีขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน? มีใต้เท้าผู้หนึ่งเดินเข้ามาถาม “ใต้เท้ากู้ ท่านนี้คือ?” กล่าวจบก็มองมาที่เมิ่งจิ่นเหยา ประกายแห่งความประหลาดใจฉายวาบในดวงตา ไม่นานก็รู้สึกตัวในภายหลังว่าสายตาของตนเองได้ล่วงเกินไปแล้ว จึงรีบเบือนสายตาออกกู้จิ่งซีกล่าวตอบ “นี่คือภรรยาของข้า” พูดจบก็กล่าวกับเมิ่งจิ่นเหยาอีกว่า “ฮูหยิน ท่านนี้คือใต้เท้าจาง”ใต้เท้าผู้นั้นประหลาดใจ รีบทำการคารวะ “ที่แท้ก็กู้ฮูหยินนี่เอง เสียมารยาทแล้ว เสียมารยาทแล้ว” เมิ่งจิ่นเหยาพยักหน้าพลางแย้มยิ้ม “ใต้เท้าจาง”กู้จิ่งซีกล่าว “ใต้เท้าจาง พวกเราสามีภรรยายังมีธุระอย่างอื่น ขอตัวก่อน”ใต้เท้าจางรีบพูดว่า “ได้ ใต้เท้ากู้ กู้ฮูหยินเดินดี ๆ”กู้จิ่งซีพยักหน้าแผ่วเบา หลังจากนั้นก็ดึ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-28

บทล่าสุด

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 250

    เมื่อนางจริงใจอย่างเต็มเปี่ยม เมิ่งจิ่นเหยาที่เงียบงันอยู่นานก็ได้พยักหน้าตอบ “ในเมื่อพวกเจ้าสองคนแม่ลูกมีความจริงใจ เรื่องนี้ก็จะมอบให้พวกเจ้าไปทำ ข้าก็คร้านจะหาผู้อื่นเช่นกัน สำหรับจะเป็นวัวเป็นม้าในอีกครึ่งชีวิตที่เหลือนั้น ก็ไม่จำเป็น เพียงแค่ต้องทำเรื่องนี้แทนข้าให้ดีก็พอแล้ว”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หลี่เฉิงก็คุกเข่าตาม พลางกล่าวขอบคุณพร้อมกับเฉียวหมอมอ “ขอบคุณคุณหนูใหญ่”เมิ่งจิ่นเหยาส่งสายตาให้กับชิงชิวชิงชิวเข้าใจโดยสัญชาตญาณ จากนั้นก็หยิบซองจดหมายซองหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อ เปิดซองจดหมายแล้วหยิบกระดาษที่เขียนตัวอักษรขึ้นมาสองแผ่น หลังจากนั้นก็รับกล่องขนาดเล็กทรงกลมกล่องหนึ่งมาจากมือของหนิงตงแล้วเปิดออก นั่นคือกล่องหมึกสีชาดกล่องหนึ่งเมิ่งจิ่นเหยากล่าวอีกว่า “เฉียวหมอมอ ผู้ดูแลหลี่ ประทับรอยนิ้วมือบนนี้เถิด”เมื่อกล่าวคำนี้ออกมา เฉียวหมอมอกับหลี่เฉิงก็ตะลึงงัน พากันลุกขึ้นยืน มองไปบนกระดาษสองแผ่นที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่รู้เหตุผลเฉียวหมอมอกล่าวอย่างงงัน “คุณหนูใหญ่ นี่คือ?”เมิ่งจิ่นเหยายิ้มอย่างใจเย็น พลางกล่าวอย่างช้า ๆ ว่า “ข้าจะให้เงินหกพันตำลึงแก่พวกเจ้า หากพวกเจ้ากลับคำไ

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 249

    “คุณหนูใหญ่ ในที่สุดท่านก็มาเสียที เชิญเข้ามาโดยเร็วเถิดขอรับ”เมื่อหลี่เฉิงมองเห็นเมิ่งจิ่นเหยา ก็เหมือนดังได้เห็นที่พึ่งสุดท้าย เป็นแสงสว่างในความมืดมิด ดวงตาทั้งคู่ของเขาเปล่งประกาย รีบหลบไปด้านข้างเพื่อหลีกทางเชิญเมิ่งจิ่นเหยาและสาวใช้สองคนเข้ามาเมิ่งจิ่นเหยาพยักหน้าเล็กน้อย พลางย่างเท้าเข้าไปในห้องส่วนตัวหนิงตงกับชิงชิวติดตามไปอย่างใกล้ชิดเมื่อเฉียวหมอมอมองเห็นเมิ่งจิ่นเหยากับสาวใช้อีกสองคนเข้ามา ก็ยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน พลางรินน้ำชาให้กับเมิ่งจิ่นเหยา “คุณหนูใหญ่ เชิญดื่มชาเจ้าค่ะ”ก่อนหน้านี้ตอนที่เมิ่งจิ่นเหยายังไม่ออกเรือน เฉียวหมอมอคือคนสนิทที่อยู่ข้างกายของฮูหยิน สำหรับสตรีที่ไม่ได้รับความรักอย่างเมิ่งจิ่นเหยาแล้ว นางไม่จำเป็นต้องจะต้องใส่ใจ ทว่าตอนนี้นางกลับมีเรื่องที่ต้องขอร้องต่อหน้านาง ความรู้สึกเช่นนี้ทั้งน่ากระอักกระอ่วนและซับซ้อนเมิ่งจิ่นเหยาเหลือบมองดูเฉียวหมอมออยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “เงินหกพันตำลึงไม่ใช่เงินจำนวนเล็กน้อย ข้าต้องการเห็นคุณค่าถึงจะสามารถช่วยเหลือผู้ดูแลหลี่ได้ เฉียวหมอมอลองบอกมาก่อนเถิดว่ามีอันใดที่คุ้มค่ากับเงินหกพัน

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 248

    จนกระทั่งปลายปีที่แล้ว แม่สามีของนางในตอนนี้ได้จัดงานเลี้ยงขึ้น จึงได้เชิญท่านย่าของนางไปที่ตระกูลกู้เพื่อพูดคุยเรื่องการแต่งงาน ท่านย่าของนางจึงวางใจได้เสียที และจัดเตรียมการแต่งงานให้กับนางกู้จิ่งซีดูเหมือนจะไม่เข้าใจความหมายที่นางกล่าวออกมา จึงยิ้มพลางกล่าวว่า “ฮูหยินก็เป็นแม่คนแล้วเช่นกัน”เมิ่งจิ่นเหยา “…”หากเป็นลูกอกตัญญูเหมือนเช่นกู้ซิวหมิงก็ช่างเถิด นางไม่ต้องการ มีลูกอย่างกู้ซิวหมิง อายุคงสั้นลงไปอีกหลายปี……วันรุ่งขึ้น ใบหน้าของเฉียวหมอมอเต็มไปด้วยความกังวล นางติดตามหลี่เฉิงบุตรชายมารออยู่ที่ห้องส่วนตัวของโรงน้ำชาที่ตกลงกันไว้ ก่อนหน้านี้มิใช่ว่าบุตรชายไม่เคยติดหนี้การพนัน ทว่าก็ไม่เคยติดหนี้มากมายถึงเพียงนี้ไม่ต้องถึงห้าพันตำลึงของโรงบ่อน ต่อให้เป็นรายได้ของที่ดินที่ขาดดุลหนึ่งพันตำลึงนั่น นางก็ไม่สามารถเอามาคืนได้เช่นกันนางเป็นหมอมอคนสนิทที่อยู่ข้างกายฮูหยิน แต่กลับกำลังจะทำข้อตกลงกับคุณหนูใหญ่ คุณหนูใหญ่กับฮูหยินมีบุญคุณความแค้นต่อกัน นางทำเช่นนี้เป็นการทรยศฮูหยินที่เคยมีบุญคุณต่อนางอย่างไม่ต้องสงสัยความรู้สึกที่แท้จริงภายในใจทรมานไม่หยุดหย่อน ตอนนี้ถึงเวลา

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 247

    เมื่อมองเห็นท่าทางที่เตรียมพร้อมเป็นอย่างดีแล้วของแม่นางน้อย กู้จิ่งซีก็ถามอย่างสนใจว่า “ฮูหยินมีแผนอย่างไรงั้นหรือ?”เมื่อเมิ่งจิ่นเหยาหันมามองเขา ก็เห็นบุรุษผู้นี้กำลังมองดูตนเองด้วยสีหน้าอ่อนโยน ก็ไม่รู้ว่าเหตุใด ถึงได้มีความรู้สึกไว้วางใจเขาอย่างแปลกประหลาด ลังเลเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น ก็เล่าแผนทั้งหมดให้เขาฟังกู้จิ่งซีฟังแม่นางน้อยพูดจนจบ อันที่จริงแผนของแม่นางน้อย สำหรับเขาแล้วยังไม่ประสีประสายิ่งนัก ทว่าสตรีที่อยู่แต่ในเรือน สิ่งที่สามารถทำได้มีข้อจำกัด จึงสามารถทำได้แค่นี้เท่านี้เขาพยักหน้าแผ่วเบา พลางตอบไปสองคำ “ไม่เลว”เมื่อเมิ่งจิ่นเหยาได้ฟังคำยืนยันจากเขา รอยยิ้มที่มีอยู่บนใบหน้าก็กว้างขึ้น ยันข้อศอกไว้บนโต๊ะ มือทั้งสองเท้าคาง ยิ้มหวานพลางถามว่า “ท่านพี่มีแผนที่ดีกว่านี้หรือไม่เจ้าคะ?”กู้จิ่งซีหันมามองนาง พยักหน้าแล้วตอบว่า “มี ทว่าไม่เหมาะกับเจ้า”เมิ่งจิ่นเหยาส่งเสียง ‘หืม?’ อย่างไม่เข้าใจ เงยหน้ามองเขาด้วยความสับสน หมายจะสอบถามกู้จิ่งซีกล่าวด้วยเสียงอ่อนโยน “เป็นสตรี อย่าใช้วิธีการเปื้อนเลือดจะดีกว่า”เมื่อได้ฟังดังนั้น เมิ่งจิ่นเหยาก็เบ้ปาก สุดท้ายก็ไม่

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 246

    เมิ่งจิ่นเหยาพยักหน้าแผ่วเบา ครุ่นคิดอย่างลังเลอยู่ชั่วครู่ก็ถามอีกว่า “ที่ดินในเขตชานเมืองของข้าขาดผู้ดูแล เจ้ายินดีไปหรือไม่?”ทุกวันนี้ นางรู้สึกว่าความสามารถของหลินรุ่ยค่อนข้างใช้ได้ บังเอิญในสินเดิมของมารดานางมีที่ดินอยู่และต้องการเปลี่ยนผู้ดูแล หลินรุ่ยเหมาะสมที่จะไปทำหน้าที่ผู้ดูแลได้พอดีประการแรกเป็นเพราะว่าหลินรุ่ยมีความสามารถประการที่สองเป็นเพราะว่าหลินรุ่ยเป็นคนของนาง สามารถเชื่อใจได้ รายได้ของที่ดินนั่นดีมาก เขาไม่มีทางทำบัญชีเท็จและปิดบังเงินรายได้ที่ดินกับร้านค้าพวกนั้นอยู่ในสินเดิมของมารดานาง ถูกนางซุนดูแลมานานหลายปี ผู้ดูแลเดิมได้ถูกนางซุนเปลี่ยนตัวไปตั้งนานแล้ว ตอนนี้ผู้ดูแลพวกนั้นล้วนแต่เป็นคนที่นางซุนปลูกฝังมา หรือไม่ก็เป็นพวกคนไม่ซื่อสัตย์ที่ไปพึ่งพานางซุนตอนนี้นางรับกลับมาดูแลต่อ คนของนางซุนย่อมต้องเปลี่ยนออกไปเป็นธรรมดา เปลี่ยนออกไปทั้งหมด ช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ไม่สามารถหาคนที่เชื่อใจได้มากมายขนาดนั้น ช่วงนี้สามารถทำได้เพียงเปลี่ยนคนที่ไม่เข้าตาที่สุดออกไป ส่วนคนอื่น ๆ ก็ค่อย ๆ สังเกตกันไป ค่อยเป็นค่อยไป คนที่นางสามารถใช้ประโยชน์ได้ก็เก็บเอาไว้ก่อนหลินรุ่ย

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 245

    เมิ่งจิ่นเหยาพิงอยู่ที่หน้าต่าง มองดูหลี่เฉิงเดินกะโผลกกะเผลกออกไปจากโรงน้ำชา นางยกยิ้มอย่างแฝงไปด้วยความหมายหนิงตงย่างเท้ามาอยู่ข้างกายนาง ก้มศีรษะมองหลี่เฉิงที่อยู่บนถนน พลางกล่าวว่า “ฮูหยิน เมื่อครู่ข้าน้อยเห็นท่าทางของท่านไม่ค่อยสนใจผู้ดูแลหลี่ ยังคิดว่าท่านต้องการจะละทิ้งหมากเช่นเขาไปแล้วเสียอีกเจ้าค่ะ”เมิ่งจิ่นเหยาส่ายศีรษะแผ่วเบา นางใช้เวลา ทรัพย์สมบัติ และกำลังคนวางกับดักเพื่อให้หมากตัวนี้มาอยู่ในมือ จะทิ้งเขาไปโดยง่ายได้เช่นไรกัน?นางยิ้มพลางกล่าวว่า “หากจะเล่นละครก็ต้องเล่นให้ถึงที่สุด เฉียวหมอมอเป็นคนที่ฉลาด”หนิงตงถามอย่างสงสัย “แต่ว่าเฉียวหมอมอจะทรยศนางซุนเพื่อผู้ดูแลหลี่หรือไม่เจ้าคะ?”เมิ่งจิ่นเหยาหรี่ตา น้ำเสียงอ่อนลง “ถึงนายหญิงจะสำคัญมาก ทว่าบุตรชายเพียงคนเดียวก็สำคัญไม่แพ้กัน เพื่อเลือดเนื้อเชื้อไขของตนแล้ว คนที่หักหลังนายของตนเองก็มีไม่น้อย บางทีเฉียวหมอมออาจกลายเป็นหมากอีกตัวก็เป็นไปได้นี่นา?” หนิงตงพยักหน้า “ก็จริงเจ้าค่ะ นางซุนเคยมีบุญคุณกับเฉียวหมอมอ ทว่าเฉียวหมอมอก็เคยช่วยนางซุนเช่นเดียวกัน บุญคุณได้ถูกทดแทนไปเรียบร้อยแล้ว ”เมิ่งจิ่นเหยามองหลี่เฉิงลั

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 244

    เมื่อสิ้นเสียง หลี่เฉิงก็รู้สึกหวั่นใจเป็นอย่างยิ่ง ความตื่นตระหนกพวยพุ่งขึ้นในจิตใจ หากเรื่องในวันนี้วุ่นวายไปถึงต่อหน้าฮูหยิน มารดาของเขาก็คงช่วยเขาไม่ได้เช่นกัน บางทีอาจจะเห็นแก่ไมตรีของนายบ่าวในอดีต ไม่เอาเรื่องที่เขาเคลื่อนย้ายเงินรายได้ของที่ดิน ทว่าเงินห้าพันตำลึงก็คงจะไม่ช่วยเขาคืน ถึงอย่างไรเขาก็ยังคงถึงทางตันเขาชูสามนิ้วกล่าวคำสาบานอย่างหนักแน่น “คุณหนูใหญ่ ข้าน้อยขอสาบาน นับแต่นี้ไปจะภักดีต่อท่าน จะไม่เปลี่ยนใจโดยเด็ดขาด หากข้าน้อยทรยศท่าน ขอให้ถูกฟ้าผ่าขอรับ”เมิ่งจิ่นเหยาไม่สะทกสะเทือน “หากว่าคำสาบานมีประโยชน์ละก็ คาดว่าคงจะมีคนถูกฟ้าผ่าตายทุกวันเป็นแน่” นางพูดจบก็หันไปมองชิงชิวกับหนิงตง “ตอนนี้ก็สายมากแล้ว พวกเราไปกินข้าวกลางวันกันก่อนเถิด” นายบ่าวทั้งสามคนก้าวเท้าเตรียมจะออกไปจากห้องส่วนตัวหลี่เฉิงเห็นดังนั้น ก็ตกอยู่ในความผิดหวังอย่างมากมายในฉับพลัน ภายในใจรู้สึกเสียใจไม่มีที่สิ้นสุด ก่อนหน้านี้เขาไปที่โรงบ่อนเป็นครั้งคราว ทว่าไม่เคยลองพนันมากมายขนาดนั้นมาก่อน ตอนนั้นไม่รู้ว่าอะไรมาดลใจจริง ๆ ถึงได้จมลงไปอย่างถอนตัวไม่ขึ้นอยู่ ๆ ชิงชิวก็กล่าวขึ้นว่า “ฮูหยิน บางท

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 243

    ใบหน้าของเมิ่งจิ่นเหยาเต็มไปด้วยความสงสัย แววตาปกคลุมไปด้วยความไม่เข้าใจและความสนใจอยู่บางส่วน พลางจับจ้องไปที่หน้าบวมช้ำ และภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของหลี่เฉิงอยู่เป็นเวลานาน สุดท้ายก็พยักหน้า “ช่างเถอะ ถึงอย่างไรวันนี้ข้าก็ไม่มีธุระอื่น จะลองฟังเจ้าพูดไร้สาระดูแล้วกัน คิดเสียว่าฆ่าเวลา”เมื่อได้ฟัง หลี่เฉิงก็ลอบผ่อนลมหายใจ ในตอนนี้นอกเสียจากคุณหนูใหญ่ที่กลายเป็นฮูหยินท่านโหวแล้ว เขาไม่สามารถหาผู้อื่นที่สามารถคืนเงินจำนวนนี้แทนเขาได้แล้วจริง ๆ หากภายในสิบวันนี้ไม่สามารถหาเงินห้าพันตำลึงมาได้ เขาคงถูกทุบตีจนตายเป็นแน่และฮูหยินก็คงจะไม่ช่วยเขาแน่นอน ทว่าคุณหนูใหญ่ที่ทราบสถานการณ์อาจจะช่วยเขาก็เป็นได้ เขาคือคนสนิทของฮูหยิน คุณหนูใหญ่กับฮูหยินมีบุญคุณความแค้นต่อกัน ไม่แน่อาจมีเรื่องจำเป็นที่ต้องใช้เขาก็เป็นได้นี่นา?นี่คือความเชื่อมั่นเพียงอย่างเดียวของเขาหลี่เฉิงนั่งอยู่ตรงที่นั่งด้านหน้าของรถม้า นั่งอยู่ด้านข้างของคนขับ แล้วตามเมิ่งจิ่นเหยาไปที่โรงน้ำชาแห่งหนึ่งเมื่อเข้าไปในห้องส่วนตัว หลังจากที่เมิ่งจิ่นเหยานั่งลงแล้ว ก็มองหลี่เฉิงด้วยความสงบแม้จะอยู่ท่ามกลางเรื่องวุ่นวายก็ตา

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 242

    เมื่อหลี่เฉิงได้ยินเสียงที่ค่อนข้างคุ้นเคย เงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นว่าเป็นเมิ่งจิ่นเหยา เขาไม่มีเวลาไปสนใจสิ่งอื่นอีกแล้ว คิดแต่เพียงว่าอยากมีชีวิตรอด จึงรีบส่งเสียงขอความช่วยเหลือ “คุณหนูใหญ่ ช่วยข้าน้อยด้วยขอรับ!”เมิ่งจิ่นเหยาจับจ้องเขาอยู่นาน น้ำเสียงลังเล “เจ้าคือบุตรชายของเฉียวหมอมองั้นหรือ?”หลี่เฉิงพยักหน้าซ้ำเเล้วซ้ำเล่า “ใช่ขอรับ คุณหนูใหญ่ช่วยด้วย!”เมิ่งจิ่นเหยาถามด้วยความประหลาดใจ “ผู้ดูแลหลี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”ยังไม่ทันได้ที่หลี่เฉิงจะตอบ หัวหน้าอันธพาลก็เหยียดขาแล้วเตะไปที่หลี่เฉิงอย่างแรง จากนั้นก็กล่าวกับเมิ่งจิ่นเหยาว่า “ฮูหยินท่านนี้ นี่คือบ่าวไพร่ในจวนท่านกระนั้นหรือ? จะให้พวกข้าปล่อยเขาไปก็ได้ แต่เขาติดหนี้โรงบ่อนหย่งเซิ่งห้าพันตำลึง ขอเพียงท่านคืนเงินจำนวนนี้แก่พวกข้า พวกข้าก็จะปล่อยคนไปทันที”เมื่อเมิ่งจิ่นเหยาฟังจบ สีหน้าก็ฉายแววประหลาดใจ ราวกับคิดไม่ถึงว่าหลี่เฉิงจะสามารถติดหนี้โรงบ่อนได้ จึงเหลือบมองไปที่หลี่เฉิงอย่างแปลกใจอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็กล่าวกับหัวหน้าผู้นั้นว่า “เขาคือบุตรชายของเฉียวหมอมอ คนสนิทที่หย่งชางป๋อฮูหยินไว้วางใจมากที่สุด ทั้งยังเป

DMCA.com Protection Status