แต่แล้วเหยียนซือเหยียนได้ยินเสียงลมหายใจหนัก ๆ และยังมีบางสิ่งที่กระเพื่อมขึ้นลงเป็นจังหวะมั่นคงอยู่ใต้ฝ่ามือของนางเหยียนซือเหยียนลืมตาช้า ๆ และทันใดนั้นเอง นางก็ต้องตื่นตระหนกแทบสิ้นสติ!สิ่งที่นางกำลังกอดก่ายแนบแน่น… หาใช่เตาอุ่นแต่เป็นร่างของบุรุษผู้หนึ่ง นางลุกพรวดขึ้นมาทันใดและเมื่อเห็นว่าเป็น
จากนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าเอายามาจากที่ใด ยัดใส่ปากของนางแล้วกระแทกแผ่นหลังเล็กน้อยให้นางกลืนลงไปโดยที่นางไม่ทันระวังตัวแต่เหยียนซือเหยียนกลับก่นด่าเขา“ไป๋จิ้งหานเจ้าเอาสิ่งใดให้ข้ากิน”จากนั้นก็พลันลุกพรวดพราดขึ้นมามา จ้องเขาสายตาตื่นตระหนกสองมือกำสาบเสื้อของเขาเอาไว้เอ่ยน้ำเสียงลนลาน“ไป๋จิ้งหานเจ้าใ
ช่วงเวลาสายหลังจากที่เหยียนซือเหยียนมีอาการดีขึ้นนางก็พร้อมลงจากเขาน่าประหลาดใจที่ไป๋จิ้งหานกลับไม่เร่งเร้านางอย่างที่ปากของเขาบอก ชาวบ้านมารอส่งนางกันพร้อมหน้า นางจึงได้รู้ว่าฐานะของนางถูกเปิดเผยแล้ว และไป๋จิ้งหานก็ได้ทำการตกลงกับหัวหน้าโจรผู้นั้น ให้เขาสวามิภักดิ์เสียและจะส่งคนขึ้นมาช่วยชาวบ้านทำ
บทที่ 16 เข้าเมืองแสงแดดอบอุ่นยามสายทาบทอไปทั่วผืนป่า ลำแสงลอดผ่านกิ่งไม้ที่ทอดตัวเป็นแนวยาว เสียงฝีเท้าม้าสะท้อนก้องไปตามเส้นทางลาดชัน ม้าสีดำตัวสูงใหญ่เคลื่อนผ่านเส้นทางในหุบเขาอย่างมั่นคง และบนหลังของมันบัดนี้มีบุรุษในอาภรณ์ดำขลับที่นั่งซ้อนหลังสตรีร่างบางแน่นิ่งราวกับภูผาน้ำแข็ง ทว่า หากสังเกตใ
ผ่านไปราวครึ่งวันก็ใกล้เข้าสู่เมืองหลงเซิง เหยียนซือเหยียนก็ตื่นขึ้นมาแล้วเมื่อตื่นขึ้นมานางก็ร้องหาน้ำดื่ม เป็นไป๋จิ้งหานที่ส่งน้ำให้นางหญิงสาวดื่มน้ำจนรู้สึกสดชื่นเอ่ยว่า“ข้าไม่คิดว่าการนั่งบนหลังม้าจะสบายได้เพียงนี้ ต้องขอบคุณท่านพี่แล้ว”นางกล่าวขอบคุณเขาจากใจจริง ข้อดีของเขานอกจากใบหน้าหล่อเห
บทที่ 17 ไม่ยอมอีกต่อไปณ เมืองหลงเซิงเมืองหลงเซิง แม้จะเป็นเมืองชายแดนที่เคยตกอยู่ในวังวนของสงคราม ทว่าบัดนี้กลับกลายเป็นหนึ่งในเมืองท่าการค้าที่สำคัญแห่งหนึ่งของแคว้นต้าหยาง ความเจริญรุ่งเรืองนี้เกิดจากน้ำพักน้ำแรงของตระกูลไป๋ผู้ปกครองแห่งแดนเหนือรุ่นแล้วรุ่นเล่าถนนใหญ่ทอดยาวจากประตูเมืองเข้าสู่
แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่พ้นจากสายตาของไป๋จิ้งหานไปได้ จู่ ๆ เขาก็กระแอมแล้วเคลื่อนมือมาโอบรอบเอวบางของเหยียนซือเหยียนเอาไว้เสวียนหย่งทักทาย สายตาของเขาทอดมองนางด้วยความห่วงหา ใบหน้าหล่อเหลาที่เคยสงบนิ่งบัดนี้กลับเต็มไปด้วยอารมณ์หลากหลาย“ไม่พบกันนาน เจ้า…สบายดีหรือไม่?”เหยียนซือเหยียนกำลังจะตอบ ทว่าก
บทที่ 18 ข้าไม่ว่างเล่นกับเจ้าจวนสกุลไป๋ เมืองหลงเซิงเมื่อขบวนเดินทางมาถึงหน้าประตูจวนสกุลไป๋ ประตูไม้ขนาดใหญ่ก็เปิดออก เผยให้เห็นลานกว้างที่ปูด้วยศิลาเรียงตัวเป็นระเบียบ พ่อบ้านจ้าวหัวหน้าบ่าวแห่งสกุลไป๋นำบ่าวไพร่จำนวนหนึ่งมาต้อนรับเขาอย่างนอบน้อม“คารวะนายท่านและฮูหยินน้อยขอรับ”ดวงตาของพ่อบ้านจ
แต่เมื่อเขามองไปรอบ ๆ ห้อง กลับไม่พบเหยียนซือเหยียนอยู่เคียงข้าง หัวใจของเขาอดไม่ได้ที่จะเต้นผิดจังหวะ สีหน้าของเขาพลันเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันใด“เหยียนเหยียน...เจ้าอยู่ไหน”ในขณะที่กำลังจะลุกขึ้นจากเตียง เสียงของหลัวเฟิงที่เต็มไปด้วยความดีใจก็ดังขึ้นจากด้านนอกก่อนจะรีบเข้ามาหาเขาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
บทที่ 56 ตอนจบหลังจากสงครามที่ดุเดือดกินเวลาหลายวัน ในที่สุดอวิ๋นอ๋องก็ถูกจับกุมและถูกตัดสินประหารชีวิต เมืองหลวงที่เคยลุกเป็นไฟก็กลับสู่ความสงบสุขอีกครั้งเด็กๆ ที่ถูกจับมาฝึกฝนเป็นทหารเดนตายของอวิ๋นอ๋องต่างได้รับการช่วยเหลือและถูกส่งตัวกลับไปยังแดนเหนือ ฝ่าบาททรงพระเมตตาพระราชทานเงินทุนจำนวนหนึ่ง
พี่ชายของอี้ชิงพยายามจะพูดส่งเสียงอื้ออึง ไป๋จิ้งหานจึงสั่งให้หลี่หลงดึงผ้าปิดปากของเขาออกบุรุษผู้นั้นเอ่ยว่า“ท่านโหว ข้าไม่รู้เรื่องอันใด ไว้ชีวิตข้าเถิด พวกนางสองแม่ลูกที่ทำกันเอง ล้วนเป็นพวกนางไม่เกี่ยวกับข้าขอรับ”สองแม่ลูกถึงกับมองบุรุษผู้นั้นดวงตาเบิกกว้าง เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดกระทั่งมาถึ
บทที่ 55 แผนการจบสิ้นแสงเทียนอบอุ่นส่องสว่างทั่วทั้งห้องโถงใหญ่ที่จัดไว้สำหรับงานเลี้ยงค่ำคืนนี้ ธูปกำยานหอมกรุ่นลอยอวลอยู่ในอากาศ ฮูหยินชรานั่งอยู่ที่ตำแหน่งประธาน ดวงหน้ายิ้มแย้มมองไปที่ฮูหยินใหญ่หรงด้วยสายตาอ่อนโยน“ลูกสะใภ้ ข้าต้องขอบใจเจ้าที่คอยดูแลข้าในยามที่ล้มป่วย ลำบากเจ้าแล้ว”ฮูหยินใหญ่
บทที่ 54 หล่อเหลาที่สุดสองสามีภรรยาเดินไปยังโต๊ะที่จัดเตรียมแพะย่างหอมกรุ่นไว้ข้างกองไฟเหยียนซือเหยียนนั่งลงพลางเอ่ยว่า“หานหาน ท่านต้องรู้จักระมัดระวังรักษาร่างกาย อากาศหนาวหากสวมเพียงเสื้อตัวบางเหมือนเมื่อครู่อาจจะล้มป่วยได้”ไปจิ้งหานจับมือนางเอาไว้บีบเบา ๆ เอ่ยเสียงอ่อน“ไม่หนาวเลยสักนิดหรือถ้
“ไม่ต้องรวบผม ข้าจะปล่อยให้แห้งข้างกองไฟ”“ขอรับ”หลัวเฟิงเลือกชุดให้เขาแล้วนำมาให้ ไป๋จิ้งหานกลับเอ่ยว่า“ไม่เอาสีดำ มีสีทีสดใสเข้ากับผิวของข้าหรือไม่”หลัวเฟิงทำสีหน้าประหลาดใจ“นายท่าน อาภรณ์ของท่านมีเพียงสีดำ ชุดตัวในก็มีเพียงสีขาวไม่มีสีอื่นเลยขอรับ สีอื่นที่ท่านกล่าวถึงไม่มีแม้แต่ตัวเดียว”ไป๋
บทที่ 53 หนึ่งแลกหนึ่งร้อยเหยียนซือเหยียนบัดนี้แอบมองอี้ชิงอยู่ที่มุมหนึ่ง นางเองก็ตั้งใจมารอรับไป๋จิ้งหานกลับจวนเช่นกัน ทว่าเมื่อเห็นว่าอี้ชิงรออยู่หน้าประตูใหญ่ก่อนนางแล้วจึงได้ซ่อนตัวในมุมมืดไม่ให้อี้ชิงเห็นภาพที่อี้ชิงโกรธแค้นไป๋จิ้งหานบัดนี้นางจึงมองเห็นได้อย่างชัดเจน ในใจพลันรู้สึกหนาวสั่นอย
จากนั้นก็ยกนิ้วหัวแม่มือขึ้นมาทั้งสองข้าง บอกเขาว่าเขายอดเยี่ยมเพียงใดไป๋จิ้งหานกลับยังเอ่ยถามต่อ“ทรงคิดว่าบุรุษในจวนองค์หญิงใหญ่จะมีผู้ใดทัดเทียมได้หรือไม่”ฝ่าบาทครุ่นคิด เขามอบชายงามให้องค์หญิงใหญ่มากมายทุกคนล้วนโดดเด่นไปคนละแบบ จึงได้ตรัสว่า“อันที่จริง...” ในใจกำลังจะกล่าวว่าทุกคนล้วนดูดีไปคน
บทที่ 52 เรื่องราวหวนกลับอี้ชิงไม่รอช้าวันต่อมานางวางแผนการจากนั้นรีบไปปรึกษากับฮูหยินใหญ่หรง บอกว่าจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับฮูหยินชรากลับจวนแต่ขอให้ฮูหยินใหญ่หรงออกหน้า ด้วยเหยียนซือเหยียนไม่ชอบนางเกรงว่าจะเกิดปัญหากระทบกระทั่งได้ หากว่าจัดในนามของฮูหยินใหญ่หรงเช่นนี้ก็จะปรองดองกันได้ง่ายฮูหยินใหญ่ห