“หานหานข้าเพิ่งมาถึงแท้ ๆ เหตุใดท่านจะทิ้งข้าแล้วเล่า อยู่กับข้าอีกสักหน่อยมิได้หรือ กินข้าวด้วยกันก่อนค่อยไปนะเจ้าคะ”ไป๋จิ้งหานขมวดคิ้ว สายตาคมกริบเหลือบมองมือเล็กที่กอบกุมปลายแขนเสื้อของเขาไว้แน่น ราวกับกลัวว่าเขาจะหนีหายไปเอ่ยเสียงเบาลอดไรฟัน“ปล่อย”นางตอบกลับด้วยน้ำเสียงเบาพอกัน สายตาสองคู่ปะท
บทที่ 19 เผชิญหน้าทันทีที่ก้าวเข้าสู่เขตจวนสกุลไป๋ บรรยากาศก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงจากความครึกครื้นวุ่นวายของตลาดด้านนอก สู่พื้นที่เงียบสงบที่ดูราวกับเป็นอีกโลกหนึ่งภายในจวนกว้างขวางราวกับเมืองเล็ก ๆ ทุกพื้นที่ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย พื้นศิลาเรียงตัวแน่นหนา สะท้อนถึงความพิถีพิถันของผู้ดู
เรือนพฤกษา ซึ่งเป็นที่พำนักของฮูหยินชราพ่อบ้านจ้าวให้นางนั่งรอที่ศาลาเล็กหน้าเรือน เพื่อให้ได้พักคลายความเมื่อยล้า ก่อนที่เขาจะเข้าไปรายงานฮูหยินชราว่า ฮูหยินน้อยมาถึงแล้วเหยียนซือเหยียนทอดสายตามองประตูเรือนที่ปิดสนิท นางจำสตรีที่อยู่เบื้องหลังบานประตูนั้นได้ขึ้นใจชาติที่แล้ว ฮูหยินชราไม่ชอบนางเล
บทที่ 20 สู้กลับชาติที่แล้วเหยียนซือเหยียนคนเดิมชีวิตพังเพราะความใจร้อนมาแล้ว เพราะรักไป๋จิ้งหานจนโงหัวไม่ขึ้นจึงถูกปั่นหัวจากสตรีสองนางนี้ได้ง่าย เมื่อมีประสบการณ์แล้ว นางต้องไม่ทำให้ตนเองถึงทางตันอีกไป๋จิ้งหานจะเป็นอย่างไรก็ช่างเถิด นางไม่ทุกข์ร้อนเพราะเขาแล้ว ต่างฝ่ายต่างวางยากัน นับว่าความแค้น
ฮูหยินชราอยากจะก้าวออกไปตรงนั้น… อยากจะสั่งสอนเหยียนซือเหยียนให้รู้ว่าเป็นผู้ใดที่ใหญ่ที่สุดในสกุลไป๋ และนางในฐานะหลานสะใภ้ควรเจียมตัวอย่างไรแต่… ไม่อาจทำเช่นนั้นได้เมื่อครู่เพิ่งบอกว่ากำลังพักผ่อนอยู่ หากตอนนี้ก้าวออกไปคงโดนสตรีนางนั้นถอนหงอกหาว่าโกหกเป็นแน่ให้ตายเถิด วันนี้ตั้งใจจะให้เหยียนซือเ
เหยียนซือเหยียนจ้องเขาท่าทางข่มขู่จนคนรู้สึกหวาดกลัว“ข้าจะฟ้องท่านพี่ ฟ้องไปถึงท่านพ่อ และอาจถึงไทเฮาด้วย ข้าจะบอกพวกเขาว่า จวนสกุลไป๋รังแกข้าจนทำให้ได้รับความลำบาก หลอกให้ข้าเดินมาคารวะฮูยินสุราแล้วยังไม่ออกมาต้อนรับ จากนั้นก็ยังจะให้ข้าเดินกลับอีก คอยดูเถิดว่าไทเฮาจะตรัสว่าอย่างไรกับการที่มาถึงจว
บทที่ 21 เริ่มเดินหมากทันทีล้อรถม้าค่อย ๆ ชะลอหยุดลงหน้าประตูเรือนขนาดใหญ่ เหยียนซือเหยียนก้าวลงจากรถม้าพร้อมเซียวยีและพ่อบ้านจ้าว ดวงตาคู่สวยของนางทอดมองป้ายไม้เก่าคร่ำคร่าที่แขวนอยู่เหนือประตูเรือนสง่างามตัวอักษรสีทองบนป้ายซีดจางจนแทบอ่านไม่ออก ผิวไม้แตกร้าว แสดงให้เห็นถึงกาลเวลาที่กัดกินมันมาเ
พ่อบ้านจ้าวเข้าใจแล้ว เพื่อชดเชยเรื่องเรือนหลังนี้ สิ่งที่เขาทำได้โดยไม่ขัดคำสั่งของฮูหยินชราก็คงเป็นเรื่องอาหารของคนจากเมืองหลวง“ขอรับ ข้าจะสั่งบ่าวเดี๋ยวนี้ ให้ไปทำอาหารเพิ่มแล้วรีบนำเดี๋ยวนี้ขอรับ”เขาหันไปสั่งให้คนขับรถม้ารีบตรงไปยังโรงครัว นำอาหารมาเลี้ยงคนจากเมืองหลวงให้อิ่มหนำสำราญบ่าวคนหนึ
แต่เมื่อเขามองไปรอบ ๆ ห้อง กลับไม่พบเหยียนซือเหยียนอยู่เคียงข้าง หัวใจของเขาอดไม่ได้ที่จะเต้นผิดจังหวะ สีหน้าของเขาพลันเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันใด“เหยียนเหยียน...เจ้าอยู่ไหน”ในขณะที่กำลังจะลุกขึ้นจากเตียง เสียงของหลัวเฟิงที่เต็มไปด้วยความดีใจก็ดังขึ้นจากด้านนอกก่อนจะรีบเข้ามาหาเขาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
บทที่ 56 ตอนจบหลังจากสงครามที่ดุเดือดกินเวลาหลายวัน ในที่สุดอวิ๋นอ๋องก็ถูกจับกุมและถูกตัดสินประหารชีวิต เมืองหลวงที่เคยลุกเป็นไฟก็กลับสู่ความสงบสุขอีกครั้งเด็กๆ ที่ถูกจับมาฝึกฝนเป็นทหารเดนตายของอวิ๋นอ๋องต่างได้รับการช่วยเหลือและถูกส่งตัวกลับไปยังแดนเหนือ ฝ่าบาททรงพระเมตตาพระราชทานเงินทุนจำนวนหนึ่ง
พี่ชายของอี้ชิงพยายามจะพูดส่งเสียงอื้ออึง ไป๋จิ้งหานจึงสั่งให้หลี่หลงดึงผ้าปิดปากของเขาออกบุรุษผู้นั้นเอ่ยว่า“ท่านโหว ข้าไม่รู้เรื่องอันใด ไว้ชีวิตข้าเถิด พวกนางสองแม่ลูกที่ทำกันเอง ล้วนเป็นพวกนางไม่เกี่ยวกับข้าขอรับ”สองแม่ลูกถึงกับมองบุรุษผู้นั้นดวงตาเบิกกว้าง เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดกระทั่งมาถึ
บทที่ 55 แผนการจบสิ้นแสงเทียนอบอุ่นส่องสว่างทั่วทั้งห้องโถงใหญ่ที่จัดไว้สำหรับงานเลี้ยงค่ำคืนนี้ ธูปกำยานหอมกรุ่นลอยอวลอยู่ในอากาศ ฮูหยินชรานั่งอยู่ที่ตำแหน่งประธาน ดวงหน้ายิ้มแย้มมองไปที่ฮูหยินใหญ่หรงด้วยสายตาอ่อนโยน“ลูกสะใภ้ ข้าต้องขอบใจเจ้าที่คอยดูแลข้าในยามที่ล้มป่วย ลำบากเจ้าแล้ว”ฮูหยินใหญ่
บทที่ 54 หล่อเหลาที่สุดสองสามีภรรยาเดินไปยังโต๊ะที่จัดเตรียมแพะย่างหอมกรุ่นไว้ข้างกองไฟเหยียนซือเหยียนนั่งลงพลางเอ่ยว่า“หานหาน ท่านต้องรู้จักระมัดระวังรักษาร่างกาย อากาศหนาวหากสวมเพียงเสื้อตัวบางเหมือนเมื่อครู่อาจจะล้มป่วยได้”ไปจิ้งหานจับมือนางเอาไว้บีบเบา ๆ เอ่ยเสียงอ่อน“ไม่หนาวเลยสักนิดหรือถ้
“ไม่ต้องรวบผม ข้าจะปล่อยให้แห้งข้างกองไฟ”“ขอรับ”หลัวเฟิงเลือกชุดให้เขาแล้วนำมาให้ ไป๋จิ้งหานกลับเอ่ยว่า“ไม่เอาสีดำ มีสีทีสดใสเข้ากับผิวของข้าหรือไม่”หลัวเฟิงทำสีหน้าประหลาดใจ“นายท่าน อาภรณ์ของท่านมีเพียงสีดำ ชุดตัวในก็มีเพียงสีขาวไม่มีสีอื่นเลยขอรับ สีอื่นที่ท่านกล่าวถึงไม่มีแม้แต่ตัวเดียว”ไป๋
บทที่ 53 หนึ่งแลกหนึ่งร้อยเหยียนซือเหยียนบัดนี้แอบมองอี้ชิงอยู่ที่มุมหนึ่ง นางเองก็ตั้งใจมารอรับไป๋จิ้งหานกลับจวนเช่นกัน ทว่าเมื่อเห็นว่าอี้ชิงรออยู่หน้าประตูใหญ่ก่อนนางแล้วจึงได้ซ่อนตัวในมุมมืดไม่ให้อี้ชิงเห็นภาพที่อี้ชิงโกรธแค้นไป๋จิ้งหานบัดนี้นางจึงมองเห็นได้อย่างชัดเจน ในใจพลันรู้สึกหนาวสั่นอย
จากนั้นก็ยกนิ้วหัวแม่มือขึ้นมาทั้งสองข้าง บอกเขาว่าเขายอดเยี่ยมเพียงใดไป๋จิ้งหานกลับยังเอ่ยถามต่อ“ทรงคิดว่าบุรุษในจวนองค์หญิงใหญ่จะมีผู้ใดทัดเทียมได้หรือไม่”ฝ่าบาทครุ่นคิด เขามอบชายงามให้องค์หญิงใหญ่มากมายทุกคนล้วนโดดเด่นไปคนละแบบ จึงได้ตรัสว่า“อันที่จริง...” ในใจกำลังจะกล่าวว่าทุกคนล้วนดูดีไปคน
บทที่ 52 เรื่องราวหวนกลับอี้ชิงไม่รอช้าวันต่อมานางวางแผนการจากนั้นรีบไปปรึกษากับฮูหยินใหญ่หรง บอกว่าจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับฮูหยินชรากลับจวนแต่ขอให้ฮูหยินใหญ่หรงออกหน้า ด้วยเหยียนซือเหยียนไม่ชอบนางเกรงว่าจะเกิดปัญหากระทบกระทั่งได้ หากว่าจัดในนามของฮูหยินใหญ่หรงเช่นนี้ก็จะปรองดองกันได้ง่ายฮูหยินใหญ่ห