ยามบ่ายในสำนักศึกษา จะมีลูกศิษย์เข้ามาขอคำชี้แนะกับเหล่าซื่อฝู ย่อมมีเสียงแว่วพูดคุยกันตามห้องต่าง ๆ ได้ยินอยู่รำไร มีเพียงห้องพักของเฉิงอ๋องที่เงียบสงบปราศจากเสียงพูดคุย “ท่านอ๋อง คุณหนูจางกับคุณชายกู้ ขอเข้าพบขอรับ” ชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะส่งสายตาบอกให้พวกเขาเข้าม
ในขณะเดียวกัน ที่สกุลกู้กลับไม่สงบ ชาวนาหลายครัวเรือนได้ยินข่าวที่กู้ฟางเสียนจะรับซื้อเมล็ดพันธ์หญ้าลิ้นฟ้า พวกเขาไปสอบถามชายหนุ่มตั้งแต่อยู่ที่ท้องนา จึงได้แจ้งทุกคนให้ไปลงชื่อที่เรือน “ลุงโจ เหตุใดท่านเก็บเมล็ดพันธ์ไว้เยอะเพียงนี้ขอรับ” กู้ฟางเสียนถามขึ้นพร้อมมองตาชั่ง เมล็ดพ
ตะวันเริ่มคล้อยต่ำ ทุกคนก็ต่างรีบเร่งขึ้นจนมาถึงคิวของเด็กน้อย ในขณะที่มารดากำลังตื่นเต้นกับตาชั่งเด็กน้อยก็จ้องมองขนมที่อยู่ในจานหน้ากู้ฟางเสียน มันทั้งหอมสีสรรน่ากิน “ข้าให้เจ้าชิ้นหนึ่ง” กู้คุนเห็นแววตาของสหาย เด็กน้อยดีใจรีบเอื้อมมือไปรับทันที “อร่อย อร่อยมาก ขอบใจเ
เฉิงอ๋องเดินถือกระถางหญ้าลิ้นฟ้ามุ่งไปยังตำหนักคุนหยวนชิง ใบหน้าระบายรอยยิ้มอบอุ่น เมื่อไปถึงก็ถูกเชิญเข้าไปในตำหนักทันที ต้าหยวนชิงเห็นหลานรักก็คลี่ยิ้มอย่างยินดี ปรายสายตามองกระถางต้นไม้แล้วถามขึ้น “หญ้าชนิดนี้คงเป็น หญ้าลิ้นฟ้ากระมัง” “ขอรับท่านลุง” “ฮืม..
แสงตะวันยังไม่พ้นขอบฟ้าองค์รักษ์จากจวนอ๋องก็มายืนอยู่หน้าบ้านสกุลกู้ “คุณชายกู้ ท่านอ๋องให้ข้านำเมล็ดพันธ์หญ้าลิ้นฟ้ามาให้ท่าน 10 ชั่งขอรับ และฝากข้ากำชับท่านว่า วันนี้คนสกุลลู่จะกลับเมืองไห่หลานแล้ว” กู้ฟางเสียนยืนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็กระจ่างใจ เป็นเขาที่รับปากองค์หญิงต้าเหยาไ
ห้องพักซื่อฝู 1 จางซูอินกำลังเก็บบันทึกหลังทำการสอนในแต่ละวันลงในกล่องอย่างใส่ใจ พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นเสิ่นอินยืนส่งยิ้มสดใสอยู่หน้าประตู หญิงสาวรีบเก็บของแล้วเดินออกไปหาทันที “เสิ่นอิน เจ้ามาหาข้าหรือ” “เจ้าค่ะ...ข้ามารบกวนพี่สาวหรือไม่” “เพียงจัดการบางอย่างอย
พอหลงจู้กลับเข้าไปในร้าน เสิ่นอินก็เลือกดูผ้าต่าง ๆ นางหยิบผ้าไหมราคาแพงขึ้นมาพับหนึ่ง จางซูอินจึงกล่าวขึ้น “หากคุณหนูเสิ่นอินจะซื้อย่อมเหมาะสมใช่หรือไม่” “ฮ่า ฮ่า พี่ซูอินช่างเข้าใจข้ายิ่งนัก...ผ้าไหมผืนนี้พี่เจินคงไม่นำมาตัดชุดสวมใส่แน่นอน ทว่านางคงดีใจไม่น้อยถ้ามีอยู่ในหีบสิน
เฉิงอ๋องนั่งฟังเสียงฝีเท้าที่กำลังเดินเข้ามาในห้องหนังสือ ด้วยใจที่จดจอ หัวใจของเขาเต้นระรัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูพร้อมเสียงนางกำนัล เขาก็รีบตีหน้าใสซื่อทันที “เชิญพระชายา ท่านอ๋องกำลังรอท่านอยู่” เสียงสูดหายใจเข้าของหญิงสาวชายหนุ่มได้ยินอย่างชัดเจ
“งดงามยิ่งนัก” จางซูอินพูดขึ้น “ในทุกปี…ฤดูหนาวเราจะมาที่นี่ดีหรือไม่” “ฮืม…” จางซูอินซบลงอกของชายหนุ่มด้วยท่าทางอ่อนคลาย แสดงความรักความสุขล้นออกมา เฉิงอ๋องโอบกอดหญิงสาวด้วยความอ่อนโยนก่อนใบหน้าก้มลงไป จางซูอินปิดเปลือกตาลง เคลิบเคลิ้มไปกับจูบอันอ่อนโยนของชา
เมื่อม่านราตรีโรยตัวลงมา เฉิงอ๋องก็ยังอดใจไม่ไหวไปเยือนห้องพักของจางซูอิน เมื่อบ่าวไพร่ปิดประตูออกจากห้อง เขาจึงปรากฏกาย แม้เฉิงอ๋องจะมาอย่างไร้สุ่มเสียงแต่คล้ายจางซูอินจะรู้ตัวอยู่ก่อนแล้ว นางชำเลืองมองชายหนุ่ม ใบหน้าระบายยิ้มบาง ๆ “ข้าเพียงอยากเจอหน้าเจ้าก่อนนอน” เ
หญิงสาวปรายตามองดูในตะกร้าจึงพูดขึ้น “ข้าซื้อทั้งหมดนี่ ท่านคิดราคามาได้เลย” พ่อค้าเห็นจางซูอินรับทั้งหมดก็ยิ้มหน้าบานดีใจ แต่สักพักใบหน้าชายหนุ่มกลับจืดขึ้นแล้วพูดว่า “คุณหนู ปลาพวกนี้รสชาติทานลำบากอยู่บ้าง ท่านจะลองซื้อไปทำทานดูสักตัวสองตัวก่อนดีหรือไม่” จาง
ผู้ที่ตื่นเต้นในการเดินทางครั้งนี้มากกว่าผู้ใดก็คือ เฉิงอ๋องเทพแห่งสงครามของแคว้นต้าเว่ย หลังจากนี้ทุกวันคืนเขาจะได้อยู่ร่วมกับซูซู เขาสั่งให้จงถังจัดเตรียมทุกอย่างด้วยตนเอง จนเมื่อถึงออกเดินทาง รถม้าหรูหราคันใหญ่มาจอดรอรับจางซูอินหน้าสกุลจางตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่
ตอนที่ 50 โกรธเป็นโง่ โมโหเป็นบ้า หลังราชโองการออกมา ผู้ที่ได้รับคำสั่งก็ต่างเตรียมตัวออกเดินทาง บรรยาศครื้นเครงต่างจากตำหนักบูรพาที่แม้กระทั่งเงาของก้อนเฆมก็ดูอึ้มครึมมากกว่าปกติ พระชายาเสิ่นจือ บีบผ้าในมือปิดจนเป็นเกลียวนางกัดริมฝีปากจนแทบจะเป็นแผล องค์รัชทายาทไม่ได้รับราชโ
หลังจากมื้อเที่ยงต้าเหยาก็เข้าวังทันที เมื่อไปถึงนางก็ไปคารวะพระสนมลู่ผินก่อน “พระมารดา ข้าคิดถึงท่านจังเลย” พระสนมลู่ลูบศรีษะต้าเหยาเบา ๆ พลางเอ่ยถามไถ่ เห็นสีหน้าแววตาของต้าเหยาเปล่งประกายเต็มไปด้วยความสุข ก็วางใจอย่างอบอุ่น หลังจากพูดคุยกัน ต้าเหยาก็บอกเล่าว่านางจะมา
ยามเช้าในต้นฤดูหนาวแสงแดดยังคงเจิดจ้า ฤดูการเปลี่ยนแปลงผู้คนก็ต้องการปรับเปลี่ยนการดำรงชีวิต เสียงพูดคุยหัวเราะดังแว่วมาจากในครัว จางซูอินเอียงหูฟังอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะลุกล้างหน้าล้างตา เมื่อคืนเฉิงอ๋องอ้อยอิ่งอยู่ห้องนางไม่ยามจากไปทำให้นางนอนไม่เต็มอิ่มเท่าไรนัก หญิงสาวเลือกช
จางซูอินล้างหน้าเปลี่ยนอาภรณ์เมื่อเดินออกมาจากฉากกั้นก็เห็นร่างสูงโปรงอันคุ้นเคยนั่งอยู่บนโต๊ะน้ำชาด้วยท่าทางสบาย “ท่าน..เหตุใดมาอยู่ที่นี่” เฉิงอ๋องยิ้มให้หญิงสาวอย่างอ่อนโยน เขาลุกขึ้นพลางเอาเสื้อคลุมขนสัตว์ห่อหุ้มกายของหญิงสาวพร้อมอธิบายอย่างใจเย็น “เจ้าเคยขอให้ข้าพาไป
สวี่ซื่อจัดการให้สาวใช้ไปตั้งแผงขายขนมส่วนตนเองก็ยังคงไปทำงานที่ร้านลู่เหยาเช่นเดิม จางซูอินก็ไม่ได้ห้ามปรามหรือให้แม้กระทั่งแสดงความคิดเห็น นางเพียงเฝ้ามองและคอยสนับสนุนเพียงเท่านั้น อากาศเริ่มเย็น หิมะเริ่มโปรยปราย จางเจินก็ถึงคราวยามออกเรือน แม้สกุลจางจะเป็นเพียงชาว