หลินตงรีบไปหาซ่งซือหมิน เขายังไม่รู้ความคิดของกวนเหม่ยหลิง ไม่เช่นนั้นเขาจะยกนิ้วให้กวนเหม่ยหลิง และชมเธอหลายประโยคแน่นอนแม่ยายคนนี้น่าสนใจมาก!!!หลินตงเป็นผู้ชายธรรมดากำลังจะเรียนจบเพื่อนร่วมชั้นหลายคนอาศัยอยู่กับแฟนแล้วตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยเขาก็อิจฉาริษยาเหมือนกันตอนที่เขาคบกับเจียงซาน เขาก็เคยเสนอหลายครั้งว่าอยากเช่าบ้านอยู่ข้างนอก แต่ก็ถูกเจียงซานปฏิเสธอย่างไร้ความปราณีในเมื่อตอนนี้คบกับยุนซีแล้ว และยังได้รับการยอมรับจากพ่อแม่แล้วเขาจะไม่ต้องการทำอะไรกับยุนซีเหรอ?ในใจต้องอยากมากแน่ ๆด้วยนิสัยของยุนซีที่ติดหลินตงมาก หลินตงแค่เอ่ยปาก เธอจะไม่ปฏิเสธแน่นอนเพียงแต่หลินตงไม่ต้องการทำลายภาพลักษณ์ของตัวเองในใจของยุนซีนอกจากนี้ยังมีความกลัวว่ายุนซีจะผ่านด่านพ่อแม่ของเธอได้ยากเพราะโดยปกติแล้ว ยุนซียังเป็นนักศึกษา กวนเหม่ยหลิงต้องให้เธอปกป้องตัวเองตอนออกไปข้างนอกแน่ ๆหลินตงไม่อยากให้ยุนซีตกอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ถึงเวลานั้นทั้งไม่สามารถปฏิเสธตัวเองได้และยังไม่สามารถขัดขืนคำสั่งแม่ของเธอได้ดังนั้นเขาและยุนซีจึงปฏิบัติต่อกันด้วยความเคารพมาโดยตลอด แล
ซ่งเจียพาหลินตงไปที่อีกห้องหนึ่งตรงกลางห้องมีโต๊ะกลมขนาดใหญ่ตัวหนึ่ง ด้านบนมีกล่องไม้จันทน์วางอยู่มากมายข้างในน่าจะเป็นสมุนไพรหลินตงก้าวไปข้างหน้าและหยิบกล่องไม้จันทน์ขึ้นมาหนึ่งกล่อง หลังจากเปิดมัน กลิ่นหอมที่เรียบง่ายและสดชื่นก็ปะทะหน้าทำให้ผู้คนรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขเมื่อได้กลิ่นยังไม่ทันได้ดูอย่างละเอียด หลินตงก็รู้ว่านี่เป็นสมบัติที่หายากแน่นอนเห็นเพียงโสมอันหนึ่งนอนเงียบ ๆ อยู่ในกล่องหนากว่านิ้วหัวแม่มือไม่มาก หนวดรากเล็ก ๆ นับไม่ถ้วนอยู่ข้าง ๆ เต็มไปหมด อย่างน้อยก็มีหลายร้อยเส้นหลินตงใช้การแพทย์แผนโบราณต้าเซี่ย และเริ่มสังเกตโสมในกล่องที่มืออย่างละเอียดเริ่มจากรูปทรง กลิ่น...สุดท้ายใช้มือบิดหนวดรากเล็ก ๆ เบา ๆ เข้าปากชิมดู"หลินตง เป็นยังไงบ้าง?" ซ่งเจียถามอย่างกังวลจากด้านข้างเธอกลัวว่าหลินตงจะบอกว่าไม่ได้สมุนไพรเหล่านี้เป็นสิ่งที่คุณปู่ฉู่หามาด้วยความยากลำบากอย่างยิ่งหากไม่ได้ผลก็จะต้องใช้เวลามากในการตามหาอีกครั้ง สุขภาพของปู่ทวดก็แย่ลงเรื่อย ๆ และไม่รู้ว่าเขาจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหนช่วงนี้เธอกังวลทุกวันกลัวว่าตื่นเช้ามาจะพบว่าปู่ทวดไม่อยู่แล้ว"
ต้าเซี่ย จิงตูตระกูลมู่หรงวันนี้เป็นวันดีของตระกูลมู่หรงเพราะมู่หรงฉิงเกอคุณหนูของตระกูลมู่หรงที่หายตัวไปเป็นเวลาสิบปีกลับมาแล้วนี่คือคนที่สร้างความวุ่นวายในจิงตูเมื่อสิบปีก่อนใครบ้างจะไม่รู้ว่าทายาทสองคนของตระกูลเศรษฐีอันดับต้น ๆ ในจิงตู จ้าวซือเต้าจากตระกูลจ้าวและจูเก่อชางโฉงจากตระกูลจูเก่อเดิมเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่สุดท้ายก็กลายเป็นศัตรูกันเพราะมู่หรงฉิงเกอและคนที่เคยเห็นมู่หรงฉิงเกอใช้เพียงสี่คำเพื่อบรรยายเธอ"งดงามอลังการ!!!"ผู้หญิงที่ปรากฏตัวในจิงตูเหมือนดาวหางเมื่อสิบปีก่อนได้บดบังผู้หญิงรุ่นใหม่ทุกคนในจิงตูในเวลานั้นหลังจากที่หายไปนานนับสิบปีตอนนี้เธอปรากฏตัวอีกครั้งการกลับมาของมู่หรงฉิงเกอในครั้งนี้ก็ไม่ได้หลบซ่อน ทุกตระกูลที่มีหน้ามีตาในจิงตูรู้กันหมดว่ามู่หรงฉิงเกอกลับมาแล้วทุกคนคิดว่าเธอกลับมาเพื่อทำตามพันธสัญญาสิบปีที่กำหนดไว้เมื่อสิบปีก่อนต้าเซี่ยกำลังจะเกิดพายุอีกครั้งการปะทะกันระหว่างจ้าวซือเต้าจากตระกูลจ้าวและจูเก่อชางโฉงจากตระกูลจูเก่อจะทำให้เกิดประกายไฟแบบไหน?ทุกคนต่างรอคอยผู้ชนะจะเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มคนรุ่นใหม่ของต้าเซี่ย การพัฒนาในอนาค
ขณะนี้ดวงตาของเขาก็ล้อมรอบด้วยหมอกเล็กน้อยลูกสาวที่รักของตัวเองต้องถูกส่งไปเนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพ กลับมาเพียงสองครั้งในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมาเขาจะไม่รู้สึกเสียใจได้อย่างไร!แต่ดูจากท่าทางของลูกสาวแล้ว เธอคงสบายดีในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา"พ่อ แม่ คุณปู่ล่ะ?" มู่หรงฉิงเกอถามเธอจำได้ว่าปู่ของเธอรักเธอมากที่สุดตั้งแต่เด็ก ครั้งที่แล้วที่เธอกลับมาก็รีบมาหาเธอ แต่ครั้งนี้ไม่เห็นแม้แต่เงา"ปู่ของลูกได้รับบาดเจ็บสาหัสตอนต่อสู้กับคนอื่นเมื่อสามปีก่อน ตอนนี้ยังไม่สามารถลุกจากเตียงได้ เดี๋ยวลูกไปดูเขาด้วยตัวเองเถอะ! เขาพูดถึงลูกทุกวันหวังว่าจะได้เจอลูกก่อนตาย ตอนนี้ในที่สุดก็สามารถทำความปรารถนานั้นให้สำเร็จได้แล้ว" มู่หรงไป๋พูดอย่างเศร้าโศกเล็กน้อยพ่อของตัวเองถูกคนอื่นทำร้าย แต่เขาไม่มีทางเลือกเลยได้แต่โทษว่าศัตรูแข็งแกร่งเกินไปหากตระกูลจ้าวและตระกูลจูเก่อไม่ได้ช่วยไกล่เกลี่ยมาโดยตลอด ชีวิตของตระกูลมู่หรงก็คงไม่ง่ายเหมือนในปัจจุบันเหตุผลที่ทั้งสองตระกูลมาช่วยตระกูลมู่หรงของเขาก็เพราะลูกสาวเมื่อได้ยินคำพูดของมู่หรงไป๋ สีหน้าของมู่หรงฉิงเกอก็เปลี่ยนไปและก็ระเบิดพลังออกมาทันที ร่า
หลังจากหลินตงเก็บสมุนไพรทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ก็มาที่ห้องของซ่งซือหมินในเวลานี้ซ่งเจียเพิ่งป้อนยาซ่งซือหมินเสร็จ"หลินตง! ยานี้จะได้ผลไหม?" ซ่งเจียถามอย่างกังวล"จะได้ผลหรือเปล่า อีกเดี๋ยวก็จะรู้แล้ว" หลินตงตอบจริง ๆ แล้วเขาไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็น เพราะไม่เคยทดลองด้วยตัวเองแต่ด้วยความไว้วางใจในระบบ หลินตงก็ยังรู้สึกว่าไม่น่าจะมีปัญหาเนื่องจากระบบมหัศจรรย์มาก ถ้าสุดท้ายไม่ได้ผล ก็น่าจะเกิดจากส่วนไหนที่ตัวเองทำไม่ดีทั้งคู่เฝ้าสังเกตสถานการณ์ของซ่งซือหมินอย่างระมัดระวังตามคำแนะนำในหัวของหลินตง ยาจะมีผลอย่างมากหลังจากรับประทานครั้งแรกประมาณหนึ่งชั่วโมงหลังจากที่ซ่งซือหมินดื่มยาก็รู้สึกแค่ว่าท้องอุ่นเหมือนมีไฟกำลังลุกไหม้อยู่สบายมาก!!!เขาอดไม่ได้ที่จะหลับตาและเพลิดเพลินไปกับความรู้สึกนี้ไม่นาน...ความรู้สึกอบอุ่นนี้เริ่มแพร่กระจายเริ่มต้นจากช่องท้องจะแพร่กระจายไปทั่วร่างกายอย่างรวดเร็วในฐานะผู้พิทักษ์ระดับเทพ ซ่งซือหมินสามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์เขาสามารถรู้สึกถึงอวัยวะทุกส่วนของตัวเอง และทุกเซลล์กำลังถูกกระตุ้นเริ่มจากอวัยวะภายใน จากนั้นทุกเซลล์
"คุณปู่ทวด..."ซ่งเจียอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ซ่งซือหมินก็เอื้อมมือไปหยุดเธอ"หลินตง ผมเข้าใจความหมายของคุณ แต่เดิมทีผมเป็นคนที่เคยตายมาแล้วครั้งหนึ่ง การรอดชีวิตครั้งนี้ก็เป็นปาฏิหาริย์แล้ว การมีชีวิตอยู่ทุกวันก็เป็นกำไล ส่วนจะอยู่ได้นานแค่ไหน จริง ๆ แล้วผมไม่สนใจมากนัก แค่หวังว่าคุณจะเติบโตอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ผมจากไป ประคับประคองต้าเซี่ยไม่ให้ล้ม" ซ่งซือหมินกล่าว"ลุงซ่งไม่ต้องห่วง! ผมจะพยายามอย่างเต็มที่!!!""งั้นก็ดี! ผมจะช่วยคุณเคลียร์กองกำลังบางส่วนที่กำลังสอดแนมต้าเซี่ย ก่อนผมจากไปจะพยายามแบ่งเบาภาระของคุณให้มากที่สุด!"หลินตงพูดไม่ออกเป็นเวลานาน...เขาไม่รู้ว่าจะโน้มน้าวชายชราคนนี้ที่มองว่าต้าเซี่ยสำคัญกว่าชีวิตของเขาเองได้อย่างไรตัวเองต้องขยันเท่านั้นเร่งฝีเท้าในการปรับปรุงความแข็งแกร่งก่อนที่ซ่งซือหมินจะทำตามแผนของเขาสำเร็จ ปรับปรุงความแข็งแกร่งให้อยู่ในระดับที่เกินกว่าเขา ก็ไม่ต้องให้เขาเสี่ยงกับชีวิตเพื่อลงมือ"ลุงซ่ง! ผมขอตัวกลับก่อน พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่!" หลินตงกล่าว"งั้นก็รบกวนคุณแล้ว! เจียเจีย ไปส่งหลินตงหน่อย!""ค่ะ! คุณปู่ทวด!!!"ซ่งเจียส่งหลินตงไปท
การใช้พลังจิตวิญญาณที่มีความเข้มข้นสูงแบบนี้ยังคงมากเกินไปสำหรับเขา แม้ว่าเขาจะมีพลังจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งก็ตามดูที่หน้าจอระบบที่อยู่ตรงหน้าแต้มศักดิ์สิทธิ์ทะลุเก้าพันแล้วมาถึงเก้าพันหนึ่งร้อยสี่สิบเจ็ดนี่เป็นความสูงที่ไม่เคยถึงมาก่อนหลินตงก็ตื่นเต้นมากเช่นกันด้วยความเร็วเช่นนี้ ทะลุหมื่นก็เป็นเรื่องของสองหรือสามวันนี้แล้วพอแต้มศักดิ์สิทธิ์ทะลุหมื่นแต้ม เขาจะต้องทำให้ร่างกายทะลุด่านก่อนร่างกายทะลุด่านแล้ว เขาก็ถือว่าได้เข้าสู่ระดับเทพและกลายเป็นผู้พิทักษ์แล้วแม้ว่าในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา เนื่องจากการขยายตัวอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าทำให้บริษัทลงทุนตงไหลถูกขัดขวางในทุกด้าน แต่ตราบใดที่ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ใช่ปัญหาหลังจากจัดการเรื่องของลุงซ่งเสร็จแล้ว เขาจะค่อย ๆ แก้ไขปัญหาทีละเรื่องขณะที่หลินตงคิดว่าอีกสองสามวันแต้มศักดิ์สิทธิ์จะทะลุหมื่น โทรศัพท์ก็ดังขึ้นหลินตงหยิบขึ้นมาดูเป็นสายจากเฉินฮุยผู้รับผิดชอบบริษัทลงทุนตงไหลในจิงตู"ฮัลโหล!!!" หลินตงกดปุ่มรับสายแล้วพูด"ประธานหลิน! สวัสดีครับ ฉันคือเฉินฮุย!" เฉินฮุยทักทายทางโทรศัพท์ด้วยความเคารพ"ผมรู้! ม
จิงตู ตระกูลมู่หรงเวินหรูอวี้ศิษย์พี่ใหญ่ ตงฟางเยว่ศิษย์พี่สามรวมทั้งผู้อาวุโสทั้งสองคนได้ถูดจัดให้ไปที่ห้องรับแขกมู่หรงฉิงเกอมาที่ห้องของปู่เธอชายชราที่มีใบหน้าเหี่ยวย่นและมีผมหงอกนอนอยู่บนเตียงเขาเป็นปู่ของมู่หรงฉิงเกอ มู่หรงจี้พ่อของมู่หรงไป๋มู่หรงฉิงเกอนั่งอยู่ที่ขอบเตียง ขณะที่มู่หรงไป๋และเสิ่นอวี๋ยืนอยู่ข้าง ๆ"คุณปู่! คุณปู่ไม่ต้องเป็นห่วง หนูจะหาวิธีมารักษาคุณปู่ให้หายแน่นอน" มู่หรงฉิงเกอพูดด้วยดวงตาสีแดงมู่หรงฉิงเกอเป็นหลานสาวคนโตของตระกูลมู่หรง เธอยังจำได้ว่าปู่ของเธอมู่หรงจี้รักเธอมากที่สุดตอนที่เธอยังเป็นเด็ก และไม่เคยรังเกียจเธอเพราะเธอเป็นหลานสาวตอนเธอกลับมาเมื่อสิบปีก่อน คุณปู่ยังกระปรี้กระเปร่า ไม่คิดว่าผ่านไปแค่สิบปี คุณปู่นอนอยู่บนเตียงมาสามปีแล้ว"ฉิงเอ๋อ! การได้เจอเธอเป็นครั้งสุดท้ายก่อนตาย ปู่ก็พอใจแล้ว แต่คุณปู่ขอเธอเรื่องหนึ่ง" มู่หรงจี้กล่าว"คุณปู่พูดได้เลยค่ะ!""ปู่แก่มากแล้ว เป็นความตายไม่สำคัญอีกต่อไป แต่เธอต้องช่วยเหลือน้องชายของเธอ เขาบริสุทธิ์ เขายังเด็กและยังมีชีวิตอีกยาวไกล" มู่หรงจี้กล่าว"คุณปู่ไม่ต้องเป็นห่วง! หนูจะช่วยน้องชายของหน
เขตชายแดนของกาแล็กซีทางช้างเผือก ระบบสุริยะยานรบปลายแหลมสีดำกว่าสิบลำมาถึงที่นี่แล้วที่แนวหน้าของยานรบปลายแหลมสีดำจูหงจื่อมองไปยังดาวเคราะห์สีน้ำเงินข้างหน้าด้วยความตื่นเต้นไม่มีผิดแน่!!!นี่เป็นดาวเคราะห์พื้นเมืองที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยจริงๆแม้ว่าดาวเคราะห์ที่เรียกว่า โลกนี้จะมีขนาดเล็กมากแต่ยานรบปลายแหลมสีดำได้ตรวจพบความมีชีวิตชีวาอันยิ่งใหญ่บนโลกแล้วฮ่าๆๆ!!!ดูเหมือนว่าฉัน จูหงจื่อจะได้รับโชคครั้งใหญ่แล้วรอก่อนจนกว่าจะกลับสู่อาณาเขตจักรพรรดิอีกครั้งฉันจะต้องทำให้คนนับไม่ถ้วนตกใจ และกลายเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของอาณาเขตจักรพรรดิอย่างแน่นอนตบหน้าคนที่เคยดูถูกฉันในขณะนี้ จูหงจื่อเต็มไปด้วยความทะเยอทะยานจินตนาการถึงการประทับตราทาสลงบนโลก และได้รับคำชื่นชมจากมนุษย์ทั้งหมดทั้งมวล และจากนั้นเป็นต้นมา เขาก็ทะยานขึ้นไปถึงจุดสูงสุดเฟิงเฮิงยืนอยู่ข้างๆ จูหงจื่อเขายังมองเห็นโลกไม่ไกลข้างหน้าถอนหายใจด้วยความโล่งใจในใจจริงๆ แล้วเขารู้สึกกังวลตลอดทางท้ายที่สุด ข้อมูลนี้ได้รับมาจากห้องลับของตระกูล ไม่ใช่ข้อมูลที่เขาค้นพบด้วยตนเองดังนั้นก็ยังมีบางปัจจัยที่ไม่สามา
ในขณะนี้ สมาคมการค้าตงไหล ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารของตระกูลเย่ ถูกเปิดเผยว่าเจ้าของเบื้องหลังที่แท้จริงคือหลินตง ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในกาแล็กซี่ทางช้างเผือกสมาคมการค้าตงไหลเป็นองค์กรที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นหลินตงเพิ่งปรากฏตัวเมื่อไม่นานนี้ และในชื่อมีคำว่า ตงอยู่ด้วยเรื่องบังเอิญเช่นนี้จะมีอยู่ได้อย่างไร?ไม่นานหลังจากนั้น ผู้นำตระกูลเย่ เย่หงทู่ก้าวออกมาเพื่อยืนยันคำกล่าวนี้ภายใต้คำสั่งของหลินตง เขาได้ออกแถลงการณ์ต่อสาธารณะหลินตงเป็นเจ้าของลึกลับเบื้องหลังสมาคมการค้าตงไหลอย่างแท้จริงในทันใดนั้น กองกำลังหลักทั้งหมดก็รีบเร่งสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับสมาคมการค้าตงไหลพวกเขาไม่ได้ทำเพื่อผลกำไร แต่สร้างความสัมพันธ์กับสมาคมการค้าตงไหล โดยหวังว่าจะดึงดูดความสนใจของหลินตงนี่คือพลังที่ความแข็งแกร่งนำมาให้และนี่คือความตั้งใจของหลินตงอย่างแท้จริงเขาต้องการให้สมาคมการค้าตงไหล โดยใช้ประโยชน์จากคลื่นอิทธิพลนี้และขยายตัวอย่างรวดเร็วเนื่องจากความแข็งแกร่งของเขาถูกเปิดเผยแล้ว เขาควรใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ให้เต็มที่เป้าหมายของเขาคือใช้ปฏิบัติการของสมาคมการค้าตงไหลเพื่อสะสม 100,
แม้ว่าสงครามใหญ่ระหว่างอาณาจักรสวรรค์และอาณาจักรกาแล็กซีจะสิ้นสุดลงชั่วคราวแต่รู้ดีว่านี่ยังไม่ถึงจุดจบ ไม่นานอาณาจักรสวรรค์จะกลับมาอีกครั้งเมื่อถึงเวลานั้น จะเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายที่แท้จริงในที่สุด อาณาจักรสวรรค์จะยึดคืนทุกสิ่งที่เคยเป็นของตนได้หรือไม่ หรืออาณาจักรจะรักษาตำแหน่งของตนไว้และทำลายอาณาจักรสวรรค์จนสิ้นซากไม่มีใครสามารถพูดได้แน่ชัดเพราะความแข็งแกร่งของทั้งสองฝ่ายไม่ด้อยกว่ากันอาณาจักรสวรรค์มีปรามจารย์ระดับอาณาจักรนิรันดรครึ่งขั้นถึงห้าคนและอาณาจักรก็มีสามคนที่มีความสำคัญเช่นกันประเด็นสำคัญคือมีหลินตง ผู้ที่แข็งแกร่งมากซึ่งสามารถเอาชนะคู่ปรมาจารย์ทั้งห้าคนด้วยตัวคนเดียวอย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่ยังคงหวังว่า อาณาจักรจะชนะได้ท้ายที่สุดแล้ว กาแล็กซีทางช้างเผือกอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรในปัจจุบันถือว่าพัฒนาไปได้อย่างดีอย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีการกดขี่ข่มเหงคนทั่วไปสามารถมีชีวิตที่สงบสุขได้มหาอำนาจใหญ่ๆ ก็ถูกข่มขู่ด้วยความแข็งแกร่งของอาณาจักรไม่กล้าทำสงครามอย่างไม่ใส่ใจเพื่อหลีกเลี่ยงการก่อให้เกิดการสูญเสียครั้งใหญ่แค่นี้ก็เพียงพอแล้วหากอาณาจั
“ลุงจิ่ว ให้หลินตงลองดูเถอะ ฉันเชื่อใจเขา” เซี่ยอวิ๋นชวนกล่าวถ้าหลินตงต้องการทำร้ายเขาก็ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงบาดเจ็บเพื่อช่วยเขาสำหรับตัวหลินตง เซี่ยอวิ๋นชวนจึงมั่นใจมากเนื่องจากเซี่ยอวิ๋นชวนเองที่รับการรักษา ตอบตกลงเซี่ยจิ่วโหยวจึงไม่มีเหตุผลที่จะคัดค้านพอดีเขาก็อยากเห็นเหมือนกันว่า หลินตงจะมีความสามารถอะไรบ้างอีกฝ่ายจึงกล้าตั้งคำถามถึงทักษะทางการแพทย์ ที่เขาศึกษามาหลายร้อยปีหลินตงรับหน้าที่รักษาขั้นแรก เขาให้เเซี่ยอวิ๋นชวนถอดเสื้อผ้าออก เพื่อเปิดเผยลำตัวที่ได้รับบาดเจ็บของเขา จากนั้น เขาก็เริ่มฝังเข็มทุกคนในห้องเฝ้าดูอย่างตั้งใจไม่นาน เข็มเงินของหลินตงก็ปกคลุมร่างกายของเซี่ยอวิ๋นชวนหลังจากฝังเข็มเสร็จ หลินตงก็ไปเตรียมยาอาการบาดเจ็บของเซี่ยอวิ๋นชวนเกิดจากภายในดังนั้นเขาจึงต้องการยาภายในเท่านั้นเขาจึงรวบรวมสมุนไพร เตรียมสูตรยา และต้มยาจนกระทั่งการรักษาทั้งหมดเสร็จสิ้นเซี่ยอวิ๋นชวนสูดหายใจเข้าลึกๆ กระอักเอาเลือดเสียออกมาหมดทั้งหมด รู้สึกเบาสบายขึ้นทันที“เสด็จพ่อ ท่านรู้สึกอย่างไรบ้าง?” เซี่ยมู่อดไม่ได้ที่จะถาม“ฉันสบายดี ดีขึ้นมาก”หลังจากเซี่ยอวิ๋นชว
หลินตงและครอบครัวอวิ๋นชวนรีบกลับไปที่พระราชวังทันทีที่พวกเขามาถึง เซี่ยอวิ๋นชวนก็รีบพาหลินตงเข้าไปในห้องลับของพระราชวังนี่คือสถานที่ที่เซี่ยจิ่วโหยวใช้ศึกษายาและปรุงยาเป็นประจำสมุนไพรล้ำค่าเกือบทั้งหมด ที่พบในกาแล็กซีทางช้างเผือกมีอยู่ที่นี่แม้ว่าอาการบาดเจ็บของหลินตงจะไม่ร้ายแรงแต่เซี่ยอวิ๋นชวนได้รับบาดเจ็บอย่างเร่งด่วนหลังจากเข้าไปในห้องลับแล้วหลิวนิ่งเหยียนกับเซี่ยมู่ช่วยเซี่ยอวิ๋นชวนเข้าไปในห้องหนึ่งเซี่ยจิ่วโหยวพาหลินตงและเย่ชิงหวู่ไปที่ห้องอื่นเซี่ยจิ่วโหยวกำลังเตรียมที่จะให้การรักษาหลินตงเล็กน้อยก่อน จากนั้นจึงช่วยรักษาเซี่ยอวิ๋นชวนอย่างไรก็ตาม หลินตงปฏิเสธเขาเชี่ยวชาญเทคนิคการแพทย์แผนจีนโบราณจนเชี่ยวชาญถึงขีดสุดแล้ว ยังจำเป็นต้องให้คนอื่นมารักษาอีกหรือ?ไม่มีใครรู้จักร่างกายของตัวเองดีไปกว่าตัวเอง"หลินตง นายรู้จักทักษะทางการแพทย์ด้วยงั้นเหรอ? "เซี่ยจิ่วโหยวถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่เชื่อ"ใช่! ผู้อาวุโสเซี่ย ฉันเคยเรียนรู้มาบ้างแล้ว ดังนั้นคุณควรไปช่วยลุงเซี่ยรักษาเขา! อาการบาดเจ็บของเขาค่อนข้างร้ายแรง และหากไม่ได้รับการรักษาในเวลาที่เหมาะสม อาจ
หลี่เทียนลังเลเขาไม่กล้าเอาทุกสิ่งในอาณาจักรสวรรค์ไปเสี่ยงรอจนกว่ากองกำลังเสริมจากเผ่ามังกรเก้าหัวจะมาถึงก่อน แล้วค่อยว่ากัน!"หลินตง! เร็วๆ นี้ แกจะต้องชดใช้ในสิ่งที่แกทำไปในวันนี้ ฉันหวังว่าแกจะไม่เสียใจในภายหลัง เซี่ยอวิ๋นชวน แม้ว่าแกจะรอดพ้นจากภัยพิบัติมาได้ในวันนี้ แต่ก็อย่าดีใจจนเกินไป เราจะกลับมาอีกครั้ง"หลังจากพูดจบ หลี่เทียนก็หันหลังกลับและจากไปหยวนหลินและคนอื่นๆ มองหลินตงอย่างครุ่นคิด จากนั้นก็หันหลังกลับและจากไปรอจนกว่าหลี่เทียนและคนอื่นๆ จะจากไปในที่สุดรัศมีของหลินตงก็อ่อนลงเอามือซ้ายปิดหน้าอกและไออย่างรุนแรงหลายครั้ง"แค่กๆ!!"บ้าเอ๊ย ไอ้พวกนี้ไม่ยั้งมือกันเลยจริงๆถ้าไม่ใช่เพราะร่างกายของเขาถูกระบบยกระดับให้แข็งแกร่งถึงขนาดนี้วันนี้คงจบลงด้วยหายนะสำหรับเขาเสียงโห่ร้องดังลั่นมาจากหอคอยทองคำดวงดาวจักรพรรดิ"นายท่านหลินไร้เทียมทาน!!!""นายท่านหลินเป็นผู้ยิ่งใหญ่!!!”"จากนี้ไป นายท่านหลินคือต้นแบบของฉัน"องค์จักรพรรดิเซี่ยอวิ๋นชวนและจักรพรรดินีหลิวนิ่งเหยียน ต่างก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกมีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่รู้ว่า ตอนนี้มันอันตรายแค่ไหนถ้าไม่ใช
การต่อสู้บนท้องฟ้าได้หยุดลงชั่วคราว!รูปลักษณ์ที่ดูยุ่งเหยิงของหลินตงก็ปรากฏอยู่ในสายตาของทุกคนเช่นกัน"นายท่านหลินได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า?""นายท่านหลิน อดทนไว้!!!""นายท่านหลิน ฉันมียารักษาอยู่ที่นี่!""ฉันก็มีเหมือนกัน!!!"เสียงต่างๆ ดังขึ้นทีละเสียงจากผู้คนบนหอคอยทองคำเย่ชิงหวู่มองไปที่บาดแผลบนร่างกายของหลินตง หัวใจของเธอเจ็บปวดเล็กน้อยเธอติดตามหลินตงมาเป็นเวลานาน แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นเขาได้รับบาดเจ็บแต่ศัตรูคือตัวตนที่เทียบเท่ากับองค์จักรพรรดิถึงห้าพระองค์เว้นแต่ว่าจะไปถึงระดับอาณาจักรนิรันดรอย่างแท้จริงแล้ว ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีใครสามารถอ้างชัยชนะได้อย่างง่ายดายเซี่ยมู่ก็เห็นเช่นกันน้ำตาคลอเบ้าในดวงตาที่สวยงามคู่หนึ่งหลินตงได้รับบาดเจ็บเช่นนี้ จากเศษซากอาณาจักรสวรรค์ ก็เพราะเพื่อช่วยครอบครัวของเธอเซี่ยอวิ๋นชวนกับเซี่ยจิ่วโหยวมีสายตาที่เฉียบคมกว่าคนอื่นๆ มากแม้ว่าอาการบาดเจ็บของหลินตงจะดูร้ายแรงเมื่อมองเผินๆแต่ในความเป็นจริง เขาไม่ได้รับบาดแผลร้ายแรงใดๆ เลยเขายังคงมีพละกำลังที่จะต่อสู้นอกจากนี้ เหล่าผู้รอดชีวิตจากเศษซากอาณาจักรสวรรค์ ยกเว้นหล
บริเวณที่นิ้วของคนในชุดดำถูกตัดขาด ดูเหมือนจะมีพลังบางอย่างมาเกาะที่แผล ทำให้ไม่สามารถงอกนิ้วขึ้นมาใหม่ได้ทั้งสองฝ่ายได้หยุดการต่อสู้ชั่วคราวหลินตงยืนอยู่ในอากาศ โดยถือดาบกำราบมารอย่างไรก็ตาม เขาไม่สงบนิ่งและไร้กังวลเหมือนเมื่อไม่กี่นาทีก่อนอีกต่อไปเลือดหยดหนึ่งไหลซึมจากมุมปากของเขาเสื้อผ้าของเขาขาดรุ่งริ่งเขาถูกหยวนหลินและคนอื่นๆ ข่วนด้วยกรงเล็บที่แหลมคม เผยให้เห็นผิวหนังด้านในแม้แต่บนผิวหนังก็มีคราบเลือดมากมาย บางรอยก็ซึมลึกเข้าไปในกล้ามเนื้อ ดูน่ากลัวมากอย่างไรก็ตาม สำหรับหลินตง สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงบาดแผลผิวเผินเท่านั้น และไม่ทำอันตรายต่ออวัยวะสำคัญนอกจากความเจ็บปวดแล้ว มันไม่มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพการต่อสู้มากนักในที่สุด เขาจึงสามารถต้านทานการโจมตีของหยวนหลินกับหลี่เทียนได้สำเร็จ และใช้ฝ่ามือถล่มฟ้าจนได้รับความเสียหายหลินตงมองดูบาดแผลบนร่างกายของเขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจในใจการเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ห้าคนในคราวเดียวนั้นฝืนเกินไปนี่เป็นผลของการใช้พลังจิตวิญญาณเป็นเครื่องมือในการเล่นไม่ซื่อ เพื่อจัดการกับศัตรูคนหนึ่งก่อน จากนั้นจึงทำร้ายคนอื่นโดยไม่คาดคิดไ
แม้ว่าหลินตงจะใช้พลังจิตวิญญาณ เพื่อควบคุมดาบกำราบมาร และตัดนิ้วของชายชุดคลุมดำคนหนึ่งโดยไม่ให้ตั้งตัวได้ นั่นทำให้ฝ่ายตรงข้ามกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดไม่หยุดแต่เขาก็ยังไม่สามารถวางใจได้ในตอนนี้ ระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายใกล้เข้ามาแล้วชายชุดดำที่เหลือสองคนพร้อมกับหลี่เทียน โจมตีหลินตงเข้ามาในเวลาเดียวกันไม่มีการคุกคามจากดาบกำราบมารอีกต่อไปทั้งสามคนพึ่งพาการป้องกันที่แข็งแกร่งของเผ่ามังกรเก้าหัว และต่อสู้แบบประชิดตัวกับหลินตงพวกเขาต้องการที่จะฉีกหลินตงเป็นชิ้นๆ เพื่อระบายความแค้นในใจของตัวเองในขณะนี้ มันสายเกินไปสำหรับหลินตงที่จะดึงดาบกำราบมารกลับมาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเผชิญหน้าโดยตรงโชคดีที่เขาได้ยกระดับความแข็งแกร่งของร่างกายไปถึงปรมาจารย์มหาจักรวาลขั้นสิบ ร่างกายของเขาแข็งแกร่งไม่น้อยไปกว่าของเผ่ามังกรเก้าหัวนอกจากนี้ยังมีฝ่ามือถล่มฟ้า ที่สามารถเจาะทะลุการป้องกันของศัตรูและทำให้ได้รับบาดเจ็บภายในทันทีหลินตงไม่กลัวการต่อสู้ระยะประชิดกับคู่ต่อสู้ในไม่ช้า ทั้งสองฝ่ายก็เข้าสู่การต่อสู้"ปังๆๆๆ......."เสียงปะทะกันนับไม่ถ้วนดังขึ้นตามคำกล่าวที่ว่า จำนวนมากก