จิงตู ตระกูลมู่หรงเวินหรูอวี้ศิษย์พี่ใหญ่ ตงฟางเยว่ศิษย์พี่สามรวมทั้งผู้อาวุโสทั้งสองคนได้ถูดจัดให้ไปที่ห้องรับแขกมู่หรงฉิงเกอมาที่ห้องของปู่เธอชายชราที่มีใบหน้าเหี่ยวย่นและมีผมหงอกนอนอยู่บนเตียงเขาเป็นปู่ของมู่หรงฉิงเกอ มู่หรงจี้พ่อของมู่หรงไป๋มู่หรงฉิงเกอนั่งอยู่ที่ขอบเตียง ขณะที่มู่หรงไป๋และเสิ่นอวี๋ยืนอยู่ข้าง ๆ"คุณปู่! คุณปู่ไม่ต้องเป็นห่วง หนูจะหาวิธีมารักษาคุณปู่ให้หายแน่นอน" มู่หรงฉิงเกอพูดด้วยดวงตาสีแดงมู่หรงฉิงเกอเป็นหลานสาวคนโตของตระกูลมู่หรง เธอยังจำได้ว่าปู่ของเธอมู่หรงจี้รักเธอมากที่สุดตอนที่เธอยังเป็นเด็ก และไม่เคยรังเกียจเธอเพราะเธอเป็นหลานสาวตอนเธอกลับมาเมื่อสิบปีก่อน คุณปู่ยังกระปรี้กระเปร่า ไม่คิดว่าผ่านไปแค่สิบปี คุณปู่นอนอยู่บนเตียงมาสามปีแล้ว"ฉิงเอ๋อ! การได้เจอเธอเป็นครั้งสุดท้ายก่อนตาย ปู่ก็พอใจแล้ว แต่คุณปู่ขอเธอเรื่องหนึ่ง" มู่หรงจี้กล่าว"คุณปู่พูดได้เลยค่ะ!""ปู่แก่มากแล้ว เป็นความตายไม่สำคัญอีกต่อไป แต่เธอต้องช่วยเหลือน้องชายของเธอ เขาบริสุทธิ์ เขายังเด็กและยังมีชีวิตอีกยาวไกล" มู่หรงจี้กล่าว"คุณปู่ไม่ต้องเป็นห่วง! หนูจะช่วยน้องชายของหน
นี่เป็นสาเหตุของความขัดแย้ง ซึ่งสุดท้ายก็กลายเป็นการปะทะกันระหว่างทั้งสองตระกูลตระกูลมู่หรงเป็นเพียงตระกูลชั้นหนึ่งระดับต่ำสุด มีความแตกต่างกับตระกูลชั้นนำอย่างตระกูลกู่เป็นอย่างมากมู่หรงจี้ไปที่บ้านและต้องการใช้บางอย่างเพื่อแลกกับมู่หรงจุ้นเจี๋ย แต่กลับถูกตระกูลกู่ทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส จนถึงตอนนี้เป็นเวลาสามปีแล้วที่ต้องนอนอยู่บนเตียงเท่านั้น และมู่หรงจุ้นเจี๋ยก็ถูกคุมขังจนถึงปัจจุบันตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น ตระกูลกู่ก็เริ่มมุ่งเป้าไปที่ตระกูลมู่หรงจากทุกด้าน ถ้าไม่ใช่ตระกูลจ้าวและตระกูลจูเก่อซึ่งเป็นมหาเศรษฐีชั้นนำเหมือนกัน ตระกูลมู่หรงก็ถูกขับไล่ออกจากจิงตูไปนานแล้วหลังจากที่มู่หรงฉิงเกอได้ยินเรื่องราวทั้งหมด เธอก็รู้สึกโกรธเกรี้ยวในอกที่ไม่สามารถระบายออกมาได้ หายใจเข้าลึก ๆ สักสองสามครั้งก่อนที่จะสงบสติอารมณ์ลงอย่างช้า ๆ"ฉิงเอ๋อ! แค่ช่วยน้องชายเธอออกมาก็พอแล้ว ตอนนี้ตระกูลกู่กำลังเจริญรุ่งเรืองในต้าเซี่ย พวกเราอย่าไปยุ่งกับพวกเขาเลย" เสิ่นอวี๋แม่ของมู่หรงฉิงเกอกล่าวด้วยความกังวลเธอแค่หวังว่าลูก ๆ ของเธอจะปลอดภัยก็พอ"แม่! ไม่ต้องเป็นห่วง! หนูจะช่วยให้น้องชายออกมาให้ไ
จิงตู ตระกูลจ้าวหนึ่งในสี่มหาเศรษฐีชั้นนำจ้าวซือเต้าเองก็ได้รับข่าวการกลับมาของมู่หรงฉิงเกอด้วยเช่นกันสำหรับผู้หญิงคนนี้ที่เคยทำให้เขาตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น ตอนนี้ไม่ได้เจอกันสิบปีแล้วก็ไม่รู้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือเปล่ายังจำได้ว่าครั้งแรกที่เขาพบมู่หรงฉิงเกอเมื่อสิบปีก่อน ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจมากจริง ๆ!!!อายุยี่สิบก็เหมือนนางฟ้าที่เหนือมนุษย์มันแตกต่างกับผู้หญิงจากตระกูลชั้นสูงรอบตัวเขาอย่างสิ้นเชิงทำให้เขาเกิดความคิดอยากครอบครองผู้หญิงคนนี้ขึ้นมาทันทีตระกูลมู่หรงไม่กล้าปฏิเสธคำขอของจ้าวซือเต้า แต่ใครจะรู้ว่าจูเก่อชางโฉงจะเข้ามาแทรกกลางสุดท้ายก็กําหนดพันธสัญญาสิบปีนี้ถ้าจะพูดว่ามู่หรงฉิงเกอทำให้เขากับจูเก่อชางโฉงกลายเป็นศัตรูกัน สู้พูดว่ามู่หรงฉิงเกอเป็นชนวนดีกว่าในยุคหนึ่งถูกกำหนดให้มีผู้ชายเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถยืนบนจุดสูงสุดได้เขาและจูเก่อชางโฉงต่างต้องการแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งนี้ และทั้งคู่ก็ตกหลุมรักมู่หรงฉิงเกอตั้งแต่แรกเห็น ดังนั้นสถานการณ์จึงพัฒนาไปสู่สิ่งที่เป็นอยู่ทุกวันนี้โดยธรรมชาติแม้ว่าจะไม่มีมู่หรงฉิงเกอ เขาและจูเก่อชางโฉงก็ถูกกำห
จากนั้นก็เพิ่มความแข็งแกร่งได้อย่างสบายใจวันถัดไปหลินตงมาถึงบ้านของซ่งซือหมินตั้งแต่เช้าและเริ่มปรุงยาด้วยประสบการณ์ที่ประสบความสำเร็จเมื่อวาน วันนี้ก็เชี่ยวชาญมากขึ้นผ่านไปชั่วโมงกว่า...ยาเหนียว ๆ ครึ่งถ้วยถูกต้มออกมาซ่งเจียป้อนยาซ่งซือหมินเสร็จหลินตงยังคงสังเกตการเปลี่ยนแปลงของซ่งซือหมินอย่างละเอียดกินยาเจ็ดครั้งเป็นเวลาเจ็ดวันติดต่อกัน แต่ละครั้งจะมีการเปลี่ยนแปลงที่สอดคล้องกันหากพบว่าผลลัพธ์ใดไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ก็ต้องหาสาเหตุ ไม่เช่นนั้นหลังจากเจ็ดครั้งผลลัพธ์จะลดลงอย่างมากนี่ไม่สามารถประมาทได้เลยซ่งซือหมินหลับตาและรู้สึกถึงความตื่นตัวของอวัยวะต่าง ๆ และเซลล์นับไม่ถ้วนในร่างกายของตัวเอง เขารู้ว่าร่างกายของเขาเริ่มฟื้นตัวแล้วอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา...ซ่งซือหมินลืมตาขึ้น"คุณปู่ทวด?" ซ่งเจียเรียก"รู้สึกดีขึ้นกว่าเมื่อวานมาก" ซ่งซือหมินพูดด้วยรอยยิ้ม"ดีจัง!!! เหลืออีกห้าวัน คุณปู่ทวดก็จะหายดีแล้ว!" ซ่งเจียพูดอย่างมีความสุข"ยังต้องขอบคุณหลินตง ถ้าไม่มีเขา คนแก่อย่างฉันก็ใกล้จะฝังดินแล้ว""ขอบคุณมากจริง ๆ หลินตง!" ซ่งเจียหันมามองหลินตงแล้วพูดนอกจากความ
ตระกูลกู่หนึ่งในสี่มหาเศรษฐีชั้นนำของจิงตูแม้ว่าจะมองไปทั้งต้าเซี่ยก็เป็นตระกูลชั้นนำแน่นอนว่านี่เป็นสถานการณ์ที่ไม่นับตระกูลซ่อนเร้นเหล่านั้นตระกูลที่ซ่อนเร้นเหล่านี้ไม่สามารถออกมาได้เมื่อร้อยปีก่อนเพื่อหลีกเลี่ยงจึงซ่อนเร้นไม่ออกมา ตอนนี้แข็งแกร่งแค่ไหน ก่อนที่จะออกมาอย่างสมบูรณ์ไม่มีใครรู้กู่หยางหัวหน้าตระกูลกู่ความแข็งแกร่งอยู่ที่จุดสูงสุดรายการมังกรกู่เจี้ยนสงทายาทอันดับแรกของตระกูลกู่ก็เป็นผู้นำในกลุ่มคนรุ่นใหม่เช่นกัน แม้จะเปรียบเทียบกับคนอย่างจ้าวซือเต้าและจูเก่อชางโฉงก็ไม่น้อยไปกว่ากันทายาทอันดับแรกของมหาเศรษฐีชั้นนำจะแย่ไปไหนได้เพียงแต่ว่าจ้าวซือเต้าและจูเก่อชางโฉงเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางเนื่องจากพันธสัญญาสิบปีของพวกเขาแพร่กระจายออกไปกว้างขวาง ดังนั้นพวกเขาจึงถือเป็นสองคนที่ทรงอิทธิพลที่สุดของคนรุ่นใหม่โดยธรรมชาติผู้ชาย!!!เพื่ออำนาจ!!!เพื่อสาวสวย!!!พันธสัญญาสิบปีระหว่างมู่หรงฉิงเกอกับจ้าวซือเต้าและจูเก่อชางโฉงก็ถือเป็นเรื่องราวที่ดีเช่นกันแต่สิ่งนี้ก็ทำให้หลายคนไม่พอใจเช่นกันกู่เจี้ยนสงก็เป็นหนึ่งในนั้นเขาเคยกล่าวไว้มากกว่าหนึ่งครั้งว่าเขาเสีย
ปัจจุบันเป็นหนึ่งในสิบเอ็ดสมาชิกสภาต้าเซี่ยตราบใดที่เขาไม่ล้ม ตระกูลกู่ก็จะสามารถยืนหยัดบนต้าเซี่ยได้และถ้ากู่ฟางสามารถทะลุระดับเทพกลายเป็นผู้พิทักษ์ ตระกูลกู่ก็จะยกระดับไปอีกระดับในขณะนี้สมาชิกหลักของตระกูลกู่ล้วนอยู่ในบ้านหลังใหญ่เพราะพวกเขาได้รับข่าวว่ามู่หรงฉิงเกอแห่งตระกูลมู่หรงจะมาเยี่ยมที่บ้านในวันนี้บอกว่ามาเยี่ยม จริง ๆ แล้วมาขอคำอธิบายให้ตระกูลมู่หรงพวกเขาสามารถเพิกเฉยต่อตระกูลมู่หรงได้ แต่มู่หรงฉิงเกอคนนี้พวกเขาต้องให้ความสำคัญคนที่ถูกพาตัวไปและฝึกฝนโดยนิกายที่ซ่อนอยู่ตั้งแต่ยังเด็ก ตอนนี้กลับมาพร้อมกับคนของนิกายนั้น ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ให้ความสำคัญไม่ได้ยิ่งไปกว่านั้นนิกายของมู่หรงฉิงเกอคือนิกายอะไรกันแน่ ตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ สิ่งที่ไม่รู้จักถึงจะน่ากลัวที่สุดครั้งนี้มู่หรงฉิงเกอพาคนของนิกายมาเยี่ยม ต้องขอคำอธิบายให้ตระกูลมู่หรงอย่างแน่นอน เนื่องจากตระกูลกู่ปราบปรามตระกูลมู่หรงอย่างรุนแรงในช่วงสองปีที่ผ่านมานี้ไม่เพียงทำร้ายปู่ของมู่หรงฉิงเกอจนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่แม้แต่น้องชายก็ยังถูกคุมขังอยู่จนถึงปัจจุบัน"พวกคุณมีใครรู้บ้างว่าอาจารย์ของมู่หรงฉิงเกอเ
ในขณะที่ตระกูลกู่กำลังคุยกันเรื่องมู่หรงฉิงเกอ คนรับใช้คนหนึ่งก็มาที่ห้องรับแขก!"นายท่าน นายท่านที่สอง ตระกูลมู่หรงมาเยี่ยม""ให้พวกเธอเข้าไป!!!" กู่เจี้ยนสงกล่าว"ครับ!!! นายท่าน!!!"หลังจากนั้นไม่นาน มู่หรงฉิงเกอและพรรคพวกก็เดินเข้าไปในห้องรับแขกของตระกูลกู่ทันทีที่มู่หรงฉิงเกอเข้ามา ดวงตาของผู้ชายทุกคนในห้องรับแขกก็เป็นประกายสมกับเป็นผู้หญิงที่สามารถสร้างความวุ่นวายในจิงตูได้เมื่อสิบปีก่อน ยังไม่ต้องพูดถึงหน้าตา แค่ท่าทางและกลิ่นอายของนางฟ้าที่พลิ้วไหวนี้ก็ทิ้งผู้หญิงคนอื่นไปไกลแล้วบวกกับหน้าตาที่สุดยอดสมคำร่ำลือจริง ๆสมกับสี่คำที่ว่างดงามอลังการแวบแรกที่กู่เจี้ยนสงและกู่เจี้ยนเฟิงเห็นมู่หรงฉิงเกอต่างก็มีความหลงใหลในทันทีพวกเขาเคยเห็นมู่หรงฉิงเกอเมื่อสิบปีก่อน แต่เมื่อเทียบกับเมื่อสิบปีก่อน มู่หรงฉิงเกอในปัจจุบันน่าสนใจกว่าอย่างไม่ต้องสงสัยในตอนนั้นมู่หรงฉิงเกอก็เต็มไปด้วยจิตวิญญาณของนางฟ้า แต่เมื่อเปรียบเทียบกับตอนนี้สง่างามกว่ามากตอนนี้มู่หรงฉิงเกอสมบูรณ์แบบในทุกด้านอย่างไร้ที่ติในห้องรับแขกมีเพียงกู่เจี้ยนหย่าเท่านั้นที่มองมู่หรงฉิงเกอด้วยสายตาอิจฉาริษยา
กู่หยางและกู่หยวนสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ ในขณะที่พวกเขาอยากจะเคลื่อนไหว ออร่าทั้งสองก็ล็อคพวกเขาและหยุดการเคลื่อนไหวของพวกเขาทันทีเมื่อพวกเขาเคลื่อนไหวอีกฝ่ายก็ต้องลงมืออย่างแน่นอนคนที่แข็งแกร่งในระดับของพวกเขาต่อสู้กันไม่ใช่เรื่องตลกตระกูลกู่ทั้งหมดต้องพังแน่กู่เจี้ยนสงนั่งอยู่ข้างกู่เจี้ยนหย่า หลังจากพบการเคลื่อนไหวของทั้งสองคนที่อยู่ข้างหลังมู่หรงฉิงเกอ เขาก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อหยุดพวกเขาเวินหรูอวี้กำลังจะสอนบทเรียนให้กับผู้หญิงคนนี้ที่กล้าดูถูกนิกายของเขา แต่ก็กู่เจี้ยนสงขวางไว้"ปัง!!!""เพียะ!!!""อ๊า!!!"เสียงสามเสียงดังขึ้นติดต่อกันในห้องรับแขกเวินหรูอวี้และตงฟางเยว่กลับมาที่ข้างมู่หรงฉิงเกอแล้วส่วนสองพี่น้องตระกูลกู่อยู่ห่างจากตำแหน่งเมื่อกี้หลายเมตรกู่เจี้ยนสงยืนอยู่ มองเวินหรูอวี้ที่ซึ่งเพิ่งใช้ฝ่ามือกระแทกเขากลับไปหลายเมตรกู่เจี้ยนหย่านอนอยู่บนพื้น ใบหน้าครึ่งหนึ่งบวมปูด ปากเลือดไหลไม่หยุด พร้อมกับร้องครวญครางไม่หยุดในที่สุดเธอก็ได้ชดใช้ให้กับความอิจฉาริษยาของตัวเองตอนที่เวินหรูอวี้และกู่เจี้ยนสงปะทะกัน ตงฟางเยว่ก็ตบกู่เจี้ยนหย่าออกไปแล้