“ดีมาก! แกสามารถก้าวไปสู่ระดับของจ้าวจักรวาลได้ภายในเวลาไม่ถึงสองร้อยปี และยังมีความหวังสำหรับความก้าวหน้าต่อไปในอนาคต อย่าหยิ่งผยองหรือชะล่าใจเกินไป และจงมุ่นมั่นกับตนเอง ยกระดับมาตรฐานของตัวแกเองให้สูงเสมอ”“ขอบคุณสำหรับคำชมของครับพ่อ!!!” เล่ยชางชิงตอบอย่างตื่นเต้นเขามีความสุขจริงๆเล่ยเมิ่งไม่เคยชมเชยเขาเลยตั้งแต่สมัยเด็กเพราะเขามีพี่ชายชื่อเล่ยหมิงแม้ว่าพี่น้องทั้งสองจะมีอายุใกล้เคียงกันแต่เล่ยหมิงสามารถทะลุระดับจ้าวจักรวาลได้เร็วกว่าเล่ยชางชิงถึงห้าสิบปีตอนนี้พลังการต่อสู้ได้ไปถึงช่วงปลายของระดับจ้าวจักรวาลแล้วส่วนเขาก็เพิ่งจะทะลวงผ่านไปยังช่วงต้นของระดับจ้าวจักรวาลมีพี่ชายแบบนี้คอยกดดันลองนึกภาพดูว่าเล่ยชางชิงเคยกดดันขนาดไหนเล่ยเมิ่งยังฝึกฝนเล่ยหมิงให้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งของเขา โดยพาเขาไปด้วยและทุ่มเททรัพยากรทั้งหมดของเขาเล่ยชางชิงไม่ได้ขาดพรสวรรค์แต่ใครเป็นคนมอบพี่ชายที่แข็งแกร่งกว่าให้เขา?เปรียบเทียบทั้งสองคนแล้วเล่ยชางชิงอ่อนแอกว่ามากดังนั้น เขา ถูกเล่ยเมิ่งทุบตีและดุว่าเป็นตัวอย่างเชิงลบตั้งแต่ยังเด็กดังนั้นเล่ยชางชิงจึงละทิ้งเส้นทางที่เล่ยเมิ่
“พ่อไม่ต้องกังวลไป นี่เกี่ยวกับความเป็นความตายของตระกูลเล่ย ผมจะเก็บเป็นความลับและไม่บอกให้ใครรู้”เล่ยชางชิง กล่าวขณะมองดูชายวัยกลางคนที่สะท้อนอยู่ตรงหน้าจากเครื่องสื่อสาร“ดีมาก! ตามข่าวล่าสุด องค์หญิงสิบเก้า อยู่ใกล้กับเขตแดนมหาดวงดาว ชางชิง สิ่งที่แกต้องทำตอนนี้คือเลื่อนเวลางานเลี้ยง กระจายการประชาสัมพันธ์ และดึงดูดองค์หญิงสิบเก้ามาที่มหาดวงดาว เธอชอบงานรื่นเริง ตราบใดที่เธอได้รับรู้ เธอจะไม่พลาดงานเลี้ยงนี้แน่ ในเวลาเดียวกัน อย่าลืมจัดเตรียมมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุม ฉันกำลังไปที่นั่นตอนนี้” เล่ยเมิ่งกล่าวอย่างจริงจังจิตใจของเล่ยชางชิงสับสนองค์หญิงสิบเก้าใกล้จะถึงมหาดวงดาวแล้วเหรอ?นี่………เป็นโอกาสดีอะไรเช่นนี้!เล่ยชางชิงไม่คิดว่า เขาจะได้ทำความรู้จักกับองค์หญิงสิบเก้าได้ เพราะเขาไม่มีคุณสมบัติช่องว่างสถานะระหว่างทั้งสองฝ่ายนั้น เหมือนไก่ฟ้ากับหมาวัดถ้าเขากล้าคิดแบบนั้นจริงๆ ตระกูลเล่ยจะต้องพังทลายแต่ถ้าได้รับความโปรดปรานจากองค์หญิงสิบเก้าขอให้เธอพูดถึงเรื่องนี้ต่อหน้าองค์จักรพรรดิ หลังจากที่เธอกลับไปเล่ยชางชิงสามารถโบยบินขึ้นไปบนท้องฟ้าได้สถานะทางสังคม
และไม่ได้เล่นเพลงอะไรอีกแล้วแต่ยังมีตำนานเกี่ยวกับเธอในยุทธภพตลอดเวลาดนตรีที่เธอได้บรรเลงในงานเลี้ยงของอาณา ยังได้รับการยกย่องจากทั่วโลกว่าเป็นผลงานชิ้นเอกไม่มีใครสามารถล้มตำแหน่งของเธอในฐานะหัวหน้าของสี่เทพธิดาได้นี่คือองค์หญิงสิบเก้า ของอาณาจักรกาแล็กซี - เซี่ยมู่หญิงสาวลึกลับในอาณาจักรกาแล็กซีที่ ได้รับการขนานนามมากมายนับไม่ถ้วนเมื่ออายุเพียงสิบเจ็ด เธอสร้างความประหลาดใจให้กับโลก ทันทีที่ปรากฏตัวแปดปีผ่านไปเจ้าหญิงเซี่ยมู่ก็อายุยี่สิบห้าปีเช่นกันตั้งแต่อายุสิบเจ็ดเมื่อดอกไม้ตูมกำลังจะบาน จนกระทั่งตอนนี้เมื่ออายุยี่สิบห้าปีซึ่งบานสะพรั่งเต็มที่เมื่อเธอปรากฏตัวต่อหน้าโลกอีกครั้งทุกคนเชื่อว่ามันจะทำให้ทุกคนตกตะลึงอีกครั้งเล่ยชางชิงรู้สึกเหมือนถูกพลังที่ไร้ขอบเขตเข้าครอบงำเขาตั้งใจแน่วแน่ที่จะคว้าโอกาสนี้ไว้ให้ได้ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม“พ่อ ทำไมองค์หญิงสิบเก้าถึงอยู่ใกล้เขตมหาดวงดาวด้วย?” เล่ยชางชิงถามหลังจากสงบสติอารมณ์ลงแล้ว“องค์หญิงสิบเก้าออกเดินทางอย่างลับๆ เมื่อปีที่แล้ว เธอทิ้งจดหมายไว้ว่าเธอต้องการออกไปดูโลกภายนอก บอกให้องค์จักรพรรดิไม่ต้องกังวล
หลังจากที่เล่ยชางชิงได้เรียนรู้ว่าเศษซากอาณาจักรสวรรค์ ได้ปรากฏขึ้นใกล้กับอาณาเขตมหาดวงดาวทำให้รู้สึกหวาดกลัวอย่างยิ่งแม้ว่าเขาจะไม่ได้มีชีวิตอยู่ในยุคนั้นแต่ตระกูลเล่ยได้บันทึกความน่ากลัวของเศษซากอาณาจักรสวรรค์ไว้ครบถ้วนผู้คนเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทรงพลังเท่านั้น แต่ยังจับตัวได้ยากและคาดเดาไม่ได้อีกด้วยหากองค์หญิงสิบเก้าตกอยู่ในมือเศษซากอาณาจักรสวรรค์จริงๆก็จะจบสิ้นจักรพรรดิจะต้องกริ้วอย่างมากทั้งมหาดวงดาวจะต้องทนทุกข์ทรมานและเขายังเป็นเจ้าแห่งมหาดวงดาวอีกจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเขาถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดกับเศษซากอาณาจักรสวรรค์ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น แต่ทั้งตระกูลเล่ยก็จะถูกกวาดล้างไปด้วยสิ่งที่ดูเหมือนเป็นโอกาสทองตอนนี้กลับกลายเป็นฝันร้ายที่ใกล้เข้ามา“พ่อ ฉันขอโทษ! ฉัน……..”เล่ยชางชิงถูกขัดจังหวะโดยเล่ยเมิ่งก่อนที่เขาจะพูดจบ“แกไม่ได้ผิด! แม้ว่าองค์หญิงสิบเก้าและเศษซากอาณาจักรสวรรค์จะไม่ปรากฏตัวในอาณาเขตมหาดวงดาว ถึงจะปรากฏตัวในอาณาจักรดวงดาวอื่น ๆ ตระกูลเล่ก็ยังหนีไม่พ้นเช่นเดิม เพราะฉันถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในคนที่ช่วยองค์หญิงในครั้งนี้ หากภารกิจล้มเหลว เราต้องได้รับการบั
เล่ยชางชิงเริ่มออกคำสั่งเป็นชุดงานเลี้ยงที่จะจัดใน 3 วัน ไปเป็นอีก 5 วันในเวลาเดียวกัน คำเชิญก็ยังส่งไปบุคคลทรงพลังทั้งหมดบนดาวเคราะห์ต่างๆ ในอาณาเขตของมหาดวงดาว โดยม่เว้นแม้แต่คนเดียว และถือเป็นคำสั่งที่ต้องทำตาม คนที่ได้รับคำเชิญทั้งหมดจะต้องมาถึงมหาดวงดาวภายในหนึ่งสัปดาห์ ไม่อย่างนั้น พวกเขาจะต้องรับผลที่ตามมาบางคนที่กำลังเก็บตัวบำเพ็ญเพียรอยู่ ก็ต้องออกมาชั่วคราวและรีบไปที่มหาดวงดาวโดยเร็วตระกูลเล่ยของเล่ยชางชิง ซึ่งเป็นเจ้าแห่งมหาดวงดาวนั้น ก็ถือเป็นตระกูลใหญ่ของกองทัพจักรวรรดิด้วยดังนั้นจึงไม่มีใครกล้า ทำให้เล่ยชางชิงขุ่นเคืองเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ พวกเขาไม่กล้าเมื่อเทียบในกาแล็กซีทางช้างเผือก มหาดวงดาวทั้งหมดก็ยังคงเป็นเพียงเรือลำเล็กในมหาสมุทรเท่านั้นอย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับระบบสุริยะแล้ว มันใหญ่กว่ามากที่นี่ยังมีดาวเคราะห์ที่มีสิ่งมีชีวิตอีกมากมายอย่างน้อยก็มีหลายร้อยดวงเมื่อเทียบดาวเคราะห์ที่มีสิ่งมีชีวิตนับล้านดวงในกาแล็กซีทางช้างเผือก ถือว่าไม่สำคัญเท่าไหร่ มหาดวงดาวยังเข้าสู่สถานะเตรียมพร้อมรับมือ กับสถานการณ์ฉุ
ใกล้บริเวณมหาดวงดาว มีดาวเคราะห์ที่มีสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กอาศัยอยู่ดาวเคราะห์ดวงนี้มีขนาดไม่ใหญ่กว่าโลกมากนัก และภายในแกนกลางของกาแล็กซีทางช้างเผือก ดาวเคราะห์ดวงนี้ก็เป็นดาวเคราะห์ขนาดเล็กที่มีสิ่งมีชีวิตอยู่อย่างไรก็ตาม แม้จะมีขนาดเล็ก แต่ดาวเคราะห์ดวงนี้ก็มีทิวทัศน์ที่สวยงามพื้นที่มากกว่า 90% ถูกปกคลุมด้วยป่าไม้ และมีต้นไม้สูงตระหง่านมากมายบนดาวเคราะห์นี้ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของนกและสัตว์ป่านับไม่ถ้วนมนุษย์อาศัยอยู่เพียงประมาณ 5% ของพื้นที่เท่านั้นระดับเทคโนโลยีบนดาวเคราะห์ยังล้าหลังมาก และยังคงอยู่ในสถานะพึ่งพาตนเองทุกคนหาเลี้ยงชีพด้วยการล่าสัตว์ในป่าเหตุผลที่สภาพแวดล้อมทางนิเวศวิทยาเดิมยังคงไม่ถูกรุกราน ก็เพราะว่าครั้งหนึ่งเคยมีบุคคลที่แข็งแกร่งอาศัยอยู่ที่นี่อย่างสันโดษเขาซื้อดาวเคราะห์ดวงนี้และทำให้มันเป็นดาวเคราะห์พลเมืองระดับสูงของอาณาจักรกาแล็กซี ซึ่งไม่มีใครกล้าแตะต้องหลังจากที่ชายผู้แข็งแกร่งจากไป ไม่มีใครกล้าแตะต้องที่นี่ ดังนั้นจึงยังคงอยู่ในสถานะเดิมณ ขณะนี้ บนโลกใบนี้หญิงสาวสวมผ้าคลุมหน้าที่มีรูปร่างสง่างาม คล้ายกับเทพธิดาที่ลงมายังโลกมนุษย์ กำลังเดิ
เซี่ยมู่มองตามสายตาของสาวใช้เสี่ยวชิงและมองดูผีเสื้อหลากสีสันขนาดเท่าฝ่ามือกำลังเกาะดอกไม้ไม่ไกลนัก“อืม! สวยจริงๆ! สวยไม่แพ้ผีเสื้อฟีนิกซ์บนดวงดาวจักรพรรดิเลย ดาวเคราะห์ดวงนี้มีทัศนียภาพที่สวยงามที่สุดที่ฉันเคยเห็นมาเลย" เซี่ยมู่กล่าวอย่างมีความสุข“คุณหนู ถ้าท่านต้องการให้จักรพรรดิส่งคนไปย้ายดาวเคราะห์ดวงนี้ไปยังบริเวณใกล้เคียงดวงดาวจักรพรรดิ เพื่อที่ท่านจะได้เห็นบ่อยๆ ก็ย่อมทำได้" หญิงรับใช้ชราแนะนำ“ฉันยังไม่อยากทำเลย มันจะทำให้คนและสัตว์บนดาวเคราะห์ดวงนี้หวาดกลัวอย่างแน่นอน ฉันไม่สามารถทำลายชีวิตดั้งเดิมของพวกเขาเพียงเพื่อประโยชน์ส่วนตัวได้" เซี่ยมู่ปฏิเสธ“คุณหนูก็เหมือนคุณผู้หญิง ใจดีและคิดถึงผู้อื่นเสมอ" หญิงรับใช้ชราถอนหายใจ“โม้โม่ นี่ไม่ใช่ความใจดี ในจักรวาลอันกว้างใหญ่และท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว สิ่งมีชีวิตทุกชนิดต่างก็มีความหมายของการดำรงอยู่ แม้แต่ต้นไม้หรือใบหญ้า เราไม่ควรพึ่งพาความแข็งแกร่งของเราเองเพื่อเปลี่ยนแปลงพวกมัน เพราะมันไม่ยุติธรรมกับพวกมัน" เซี่ยมู่กล่าวอย่างสบายๆ“คุณหนูมีเหตุผล!" โม้โม่ตอบถึงแม้เธอจะพูดแบบนั้น แต่ในใจเธอก็รู้สึกสงสัยเล็กน้อยเผ่
ไม่นานหลังจากองค์หญิงสิบเก้าและสหายของเธอจากไปในความว่างเปล่าเหนือดาวเคราะห์นี้ยานอวกาศมาถึงที่นี่และจอดลงประตูยานอวกาศเปิดออกและคนสวมชุดดำมากกว่าสิบคนลงมาและยืนอยู่ในความว่างเปล่า“ออกมา! องครักษ์เกราะจักรพรรดิ ฉันรู้ว่าพวกแกอยู่ที่นี่” ผู้นำในชุดดำกล่าวในขณะนี้ มิติข้างหน้าก็สั่นสะเทือนชายสวมหน้ากากสีขาวที่มีตราจักรพรรดิสลักอยู่บนเสื้อผ้าของเขาปรากฏตัวต่อหน้าชายในชุดดำนี่คือกลุ่มองครักษ์เกราะจักรพรรดิ ที่ทำให้กองกำลังนับไม่ถ้วนหวาดกลัว“เศษซากอาณาจักรสวรรค์!" ชายผู้เพิ่งปรากฏกายกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก“ไม่ได้เจอกันนานเลย องครักษ์เกราะจักรพรรดิ ฉันดีใจที่แกยังจำเราได้ ออกมาทุกคน! ฉันรู้ว่าตราบใดที่องครักษ์เกราะจักรพรรดิออกมาแบบนี้ กลุ่มนึงก็จะมีแปดคน”ทันทีที่ชายในชุดดำเพิ่งพูดจบในเจ็ดทิศทางอื่นๆ ทางฝั่งเดียวกับชายหน้ากากสีขาว มิติก็สั่นสะเทือนพร้อมกันชายอีกเจ็ดคนที่สวมหน้ากากสีดำก็ปรากฏตัว ล้อมรอบชายในชุดคลุมสีดำองครักษ์เกราะจักรพรรดิ แปดคนขวางชายชุดดำจากแปดทิศทางคนหนึ่งสวมหน้ากากสีขาว ในขณะที่อีกเจ็ดคนสวมหน้ากากสีดำชายสวมหน้ากากสีขาวเป็นกัปตันทีมองครักษ์
ท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีสิ่งใดสำคัญไปกว่าชีวิตหากไม่มีชีวิต ก็ไม่มีอะไรเหลืออยู่ตราบใดที่ยังมีชีวิตและครอบครัวเขาก็ยังคงเป็นนายน้อยของตระกูลหยินต่อหน้าคนนอกเย่ชิงหวู่มองหยินไห่เหลียงที่คุกเข่าอยู่ไกลๆ ราวกับว่าเป็นความฝันเมื่อไหร่ที่นายน้อยของตระกูลหยิน ซึ่งอยู่ในอันดับที่สี่จากแปดตระกูลใหญ่ คุกเข่าลงและขอความเมตตาจากเธอ?คนอย่างนายน้อยของตระกูลหยินก่อนที่เธอจะเกี่ยวข้องกับหลินตงเขามักจะเป็นคนที่เธอสามารถมองขึ้นไปได้เท่านั้นแต่ตอนนี้ เขากำลังคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเธอและร้องขอความเมตตา"คุณชายหลิน! ฉันรู้ว่ามีความเข้าใจผิดระหว่างคุณกับไห่เหลียง ตอนนี้เขาคุกเข่าที่นี่และขอโทษสำหรับความผิดพลาดของเขา โปรดละเว้นเขาด้วย จากนี้ไป คุณจะเป็นแขกผู้มีเกียรติของตระกูลหยินของฉัน ถ้ามีอะไรก็คุณต้องการก็สามารถบอกมาได้ ตระกูลหยินของฉันจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำให้สำเร็จ" หยินเทียนหง ท่านผู้เฒ่าของตระกูลหยินกล่าวจากด้านข้างเช่นกันเขาไม่มั่นใจที่จะเอาชนะอีกฝ่ายได้ไม่ว่าหลินตงจะจัดการทำลายยานรบนับไม่ถ้วนด้วยเสียงเดียวและผลักยักษ์ใหญ่ระดับปรมาจารย์มหาจักรวาลทั้งสี่คนออกไปได้อย่างไร หยินเทีย
ในขณะที่สมาชิกหลักของตระกูลหยินทุกคน กำลังจ้องมองยานรบแปดเหลี่ยมด้วยความตกตะลึง ไม่รู้จะทำอย่างไรประตูของยานรบแปดเหลี่ยมก็เปิดออกสมาชิกทุกคนของตระกูลหยินหรี่ตาลงหลินตงก้าวออกมาเป็นคนแรกเย่ชิงหวู่เดินตามหลังมาอย่างใกล้ชิด โดยแบกกล่องไม้ไว้บนหลังทั้งสองยืนอยู่ในความว่างเปล่า จ้องมองสมาชิกตระกูลหยินที่อยู่ห่างออกไปหนึ่งร้อยกิโลเมตร"หยินไห่เหลียง เมื่อมองดูทั้งหมดนี้แล้ว ฉันสงสัยว่าแกจะเสียใจกับการตัดสินใจเมื่อตอนนั้นหรือไม่?" หลินตงถามเสียงดัง"กะ....แก... แกทำแบบนี้ได้ยังไง?" หยินไห่เหลียงชี้ไปที่หลินตง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกใจไม่ว่าเขาจะลองพยายามแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถเข้าใจได้ด้วยคำพูดครั้งเดียว หลินตงก็สามารถทำลายยานรบของตระกูลหยินนับไม่ถ้วนยิ่งไปกว่านั้นแม้แต่ท่านผู้เฒ่าทั้งสี่ยังถูกซัดถอยหลังไปร้อยกิโลเมตรนี่คือสิ่งที่หยินไห่เหลียงไม่สามารถจินตนาการได้หยินไห่เหลียงเพิ่งพูดจบมีเสียงดังมาจากด้านหลัง“คุกเข่า!”จากนั้นเขาก็รู้สึกถึงพลังที่แข็งแกร่งโจมตีเขาร่างกายคุกเข่าลงโดยไม่ได้ตั้งใจในความว่างเปล่าหยินไห่เหลียงหันหน้ามองด้วยความไม่เชื่อบุคคลที่
นี่มันหมายความว่ายังไง?เป็นไปได้ไหมว่ายานรบแปดเหลี่ยมนี้ ซ่อนบุคคลระดับปรมาจารย์มหาจักรวาลช่วงปลาย หรือแม้กระทั่งขั้นสูงสุดของปรมาจารย์มหาจักรวาล?เป็นไปไม่ได้!!!เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!!!สถานะของตัวตนระดับปรมาจารย์มหาจักรวาลช่วงปลายคืออะไร? ในกาแล็กซีทางช้างเผือกทั้งหมดมีไม่มากนักจะมาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไร?เป็นไปไม่ได้ที่ตัวตนเช่นนี้จะเดินทางบนยานอวกาศระดับต่ำเช่นนี้ต้องเป็นวิชาลับบางอย่าง ซึ่งสามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นและไม่สามารถใช้ซ้ำได้หยินเทียนหงปลอบใจตัวเองด้วยวิธีนี้แม้แต่ตัวเขาเองก็คิดว่าความเป็นไปได้นี้น้อยมากแต่ก็อดไม่ได้ที่จะยึดติดกับความคิดนั้นเพราะถ้ามันเป็นความเป็นไปได้อื่นใดวันนี้ตระกูลหยินจะต้องพังทลายอย่างสิ้นเชิงและไม่มีความหวังที่จะฟื้นคืนได้อีกในอนาคตภายในยานรบแปดเหลี่ยมเย่ชิงหวู่ก็ตกตะลึงกับฉากนี้เช่นกันเมื่อหลินตงเอ่ยคำว่า 'ไสหัวไป' เมื่อกี้ เสียงของเขาไม่ดังเหมือนคำพูดปกติของเขาและเธอไม่ได้รู้สึกอะไรเลยเมื่ออยู่เคียงข้างหลินตง แต่ภายนอกกลับเกิดความปั่นป่วนครั้งใหญ่ยานรบนับไม่ถ้วนของตระกูลหยิน ที่ล้อมรอบถูกทำลายด้วยคำ
ภายในยานรบแปดเหลี่ยมเมื่อเห็นหยินเต๋อหลินพุ่งเข้าหาเธอ เย่ชิงหวู่ก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจ เธอคว้าตัวหลินตงไว้แน่นและตะโกนด้วยความกังวลเล็กน้อย "คุณชาย!!!"แม้ว่าหลินตงจะบอกว่าตนเองแข็งแกร่งเพียงใด แต่เย่ชิงหวู่ก็ไม่เคยเห็นด้วยตาตนเองยิ่งกว่านั้น ตระกูลหยินก็ไม่สามารถเทียบได้กับตระกูลเฟิง เพราะที่นี่ก็เป็นฐานที่มั่นของตระกูลหยินเช่นกันหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น พวกเขาคงไม่สามารถออกจากดวงดาวหยินหยวนได้ในวันนี้ในขณะนี้ หลินตงหันศีรษะไปมองเย่ชิงหวู่ ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ไม่มีอะไรต้องกลัว ฉันอยู่นี่แล้ว!"เมื่อเห็นรอยยิ้มของหลินตง หัวใจของเย่ชิงหวู่ก็สงบลงทันทีรอยยิ้มของชายผู้นี้ทำให้ผู้คนรู้สึกปลอดภัยจริงๆ!หยินเต๋อหลินมาถึงด้านนอกของยานรบแปดเหลี่ยมอย่างรวดเร็วและเตรียมที่จะเปิดเปลือกนอกของมันในขณะนี้ สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่เขาหยินไห่เหลียงแสดงรอยยิ้มที่บ้าคลั่งปู่ลงมือแล้ววันนี้หลินตงจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขามีไม้เด็ดบางอย่าง?ยังมีท่านผู้เฒ่าสี่คนอยู่ที่นี่!หลินตงไม่สามารถหลบหนีได้หยินเทียนหงและท่านผู้เฒ่าะดับยักษ์ใหญ่สี่คนของตระกูลหยิ
หยินไห่เหลียงที่ยืนอยู่ข้างๆ เขา ก็ถามขึ้นทันที่ว่า "แกคือหลินตงใช่ไหม?""ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคุณชายหยิน! ฉันดีใจที่แกยังจำฉันได้" หลินตงทักทายด้วยรอยยิ้ม"แกมาทำอะไรที่นี่ ขอโทษฉันเหรอ? ส่งเย่ชิงหวู่มาหาฉันหรือไง? น่าเสียดายจริงๆ! แม้ว่าแกจะทำแบบนี้ ฉันก็จะไม่ปล่อยแกไป ในเมื่อแกกล้าแตะต้องสิ่งที่เป็นของชั้น แกต้องเตรียมใจชดใช้ และราคานั้นก็คือความตาย!" หยินไห่เหลียงพูดอย่างโกรธเคืองหลินตงได้ชิงตัวเย่ชิงหวู่ไปนี่เป็นความแค้นครั้งใหญ่ในชีวิตของเขาอย่างแน่นอนจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาได้เย่ชิงหวู่ตอนนี้?ผู้คนยังคงนินทาเขาลับหลัง เขาหยินไห่เหลียง ผู้นำตระกูลหยินในอนาคต จริงแล้วเขากลับเอาเศษอาหารของคนอื่นไปดังนั้นหลินตงต้องตายสิ่งนี้อาจทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้น"นายน้อยหยิน แกหลงตัวเองไปรึเปล่า? แกคิดว่าฉันมาที่นี่เพื่อขอโทษแกงั้นเหรอ?""แล้วแกมาทำอะไรที่นี่?” หยินไห่เหลียงถาม"ฉันมาที่ตระกูลหยินของแกเพื่อขอคำอธิบาย""คำอธิบายเรื่องอะไร?""แกใช้ข้ออ้างเรื่องการซื้อขายสมาคมการค้า เพื่อล่อลวงฉันและชิงหวู่ไปที่ดาวว่างเปล่า เสียเวลาของฉันไปมาก นอกจากนั้น แกยังต้องการฆ่าฉันและครอบค
หลินตงสั่งการยานรบแปดเหลี่ยม และทันทีที่เรือมาถึงดาวหยินหยวน ก็ถูกยานตรวจการณ์หลายลำล้อมรอบทันที"ใครอยู่ข้างหน้า? บอกชื่อแซ่มาซะ! ทำไมเรื่องถึงมาที่ดาวหยินหยวน?"ทันใดนั้นก็มีเสียงออกมาจากภายในยานตรวจการณ์ในขณะนี้ หลินตงขี้เกียจเกินกว่าจะพูดเรื่องไร้สาระกับอีกฝ่ายเขาได้เสียเวลาไปมากพอสมควรแล้วพลังจิตวิญญาณปะทุขึ้นในทันที ก่อให้เกิดลมพายุพลังจิตวิญญาณล้อมรอบยานรบแปดเหลี่ยม ซึ่งแผ่กระจายออกไปอย่างกะทันหัน“ปัง!!!”ยานตรวจการณ์หลายลำ ที่ล้อมรอบยานรบแปดเหลี่ยมถูกพัดออกไปทันทีเป็นระยะทางหลายสิบกิโลเมตรครั้งนี้ หลินตงไม่ได้ฆ่าใครแค่พัดไปคงไม่ทำให้ใครได้รับบาดเจ็บ"ไสหัวไป!!! เรียกหยินไห่เหลียงออกมาพบฉัน" เสียงทุ้มลึกของหลินตงดังขึ้นลูกเรือในยานตรวจการณ์หวาดกลัวอย่างยิ่ง ต่อการแสดงพลังของหลินตงพวกเขารีบติดต่อเจ้าหน้าที่บนดาวหยินหยวน“ปะ....ปะ....โปรดรอสักครู่ นายท่าน! เราจะติดต่อนายน้อยทันที”หลินตงไม่สนใจพวกเขาเขาสั่งให้ยานรบแปดเหลี่ยมลงจอดต่อไปยานตรวจการณ์ไม่กล้าขัดขวางเขาอีกต่อไปแค่ติดตามไปอย่างเงียบๆภายในห้องทำงานของผู้นำตระกูลหยินหยินไห่เหลียงยังคงหารือกับ
ขณะที่หยินไห่เหลียงกำลังจมดิ่งอยู่กับความคิด เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นขัดจังหวะเขา"ฉันเข้าใจแล้ว!" หยินไห่เหลียงตอบจากนั้นก็หันหลังและเดินตามคนๆ นั้นไปพบท่านผู้เฒ่าไม่นาน พวกเขาก็มาถึงห้องทำงานของผู้นำตระกูลหยิน"ก๊อกๆ!!"หยินไห่เหลียงก้าวไปข้างหน้าและเคาะประตูพร้อมพูดว่า "ท่านผู้เฒ่า ผมมาแล้ว"มีเสียงดังขึ้นจากข้างในทันที"เข้ามา!"หยินไห่เหลียงผลักประตูให้เปิดออกและเข้าไปมีคนห้าคนอยู่ในห้องท่านผู้เฒ่าทั้งสี่ของตระกูลหยินในระดับปรมาจารย์มหาจักรวาล เช่นเดียวกับหยินเต๋อหลิน ผู้นำตระกูลหยินคนห้าคนนี้เป็นสมาชิกระดับสูงสุดห้าคนของตระกูลหยินโดยพื้นฐาน"หยินไห่เหลียงคารวะท่านผู้เฒ่าทั้งสี่ และท่านปู่" หยินไห่เหลียงกล่าวอย่างเคารพ"ไห่เหลียงมาแล้วเรอะ นั่งลงสิ!" ชายชราผมหงอกกล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นมิตรคนคนนี้คือท่านผู้เฒ่าที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลหยิน หยินเทียนหง ซึ่งความแข็งแกร่งของเขาไปถึงช่วงกลางของปรมาจารย์มหาจักรวาลการเข้าสู่ปรมาจารย์มหาจักรวาลช่วงกลางของเขา บรรลุได้เมื่อหยินไห่เหลียงเกิดหยินเทียนหงจึงชอบหยินไห่เหลียงมากเขารู้สึกว่าหยินไห่เหลียงเป็นตัวนำโชคสำหรับตัวเข
ยานรบแปดเหลี่ยมเข้าใกล้ดาวหยินหยวนพลังจิตวิญญาณของหลินตงถูกปลดปล่อย กวาดผ่านไปทั่วดาวหยินหยวนทั้งหมดทันใดนั้น ก็ตรวจพบรัศมีอันทรงพลังสี่จุดระดับปรมาจารย์มหาจักรวาลช่วงกลางหนึ่งคน และระดับปรมาจารย์มหาจักรวาลช่วงต้นสามคนตระกูลหยินเป็นตระกูลอันดับสี่อย่างแท้จริง ในบรรดาแปดตระกูลใหญ่แข็งแกร่งนี้แข็งแกร่งกว่าตระกูลเฟิงมากแต่สำหรับหลินตง ก็แค่เท่านั้นไม่ว่าจะมีมดกี่ตัว พวกมันก็ยังเป็นมดและไม่สามารถกลายเป็นช้างได้หลังจากกำหนดตำแหน่งของท่านผู้เฒ่าหลายคนของตระกูลหยินแล้ว หลินตงก็สั่งให้ยานรบแปดเหลี่ยมเตรียมลงจอดบนดาวหยินหยวนท่านผู้เฒ่าทั้งสี่ของตระกูลหยิน เมื่อรู้ว่าตระกูลหลิวค้นพบช่องโหว่ในหัตถ์เพลิงนิลและมีแนวโน้มที่จะบุกโจมตี ทุกคนต่างก็ออกจากที่หลบซ่อนไปพวกเขากำลังรอให้ตระกูลหลิวโจมตีแถมยังหารือถึงมาตรการตอบโต้ด้วยหลังจากประสบความพ่ายแพ้อย่างยับเยินต่อหลิวเจียหลิง หยินไห่เหลียงเป็นอาชญากรของตระกูลหยินในตอนแรกด้วยเหตุนี้ เขาจึงได้ค้นพบความลับที่น่าตกตะลึงของตระกูลหลิวและกลายมาเป็นดวงดาวนำโชคของตระกูลหยินทันทีแถมรวมถึงตอนที่เขาเกิดมา ท่านผู้เฒ่าคนหนึ่งของตระกูลหยิน
"แกยังใช้หัตถ์เพลิงนิลได้ไหม?""ได้แน่นอน!!!""ดีมาก!!!"ไม่นานหลังจากนั้นทหารยามสองคนจากตระกูลหยินคุมนักโทษที่สภาพไม่สู้ดีเข้าไปในห้องโถง“คุกเข่า!”ทหารยามเตะข้อเท้าของนักโทษและเตะเขาให้คุกเข่าลงบนพื้นจากนั้นทหารยามทั้งสองก็คุกเข่าลงบนพื้นและพูดอย่างเคารพ "คารวะผู้นำตระกูล คารวะผู้อาวุโสตระกูลทุกท่าน""ลุกขึ้น เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพวกนาย พวกนายสามารถออกไปได้" หยินเต๋อหลินสั่ง"ขอรับผู้นำตระกูล!"ทหารยามพูดจบและออกจากห้องโถงไปในขณะนี้ หยินไห่เหลียงรู้ว่าถึงเวลาที่เขาต้องก้าวไปข้างหน้าแล้ว เขาจึงยืนขึ้นและเดินไปข้างหลังนักโทษนักโทษดิ้นรนอย่างรุนแรงเมื่อเห็นใครบางคนเดินเข้ามาหาเขา แต่ปากของเขาถูกปิดไว้และเขาพูดไม่ได้หยินไห่เหลียงจับนักโทษด้วยมือซ้ายและมือขวาปล่อยวิชาหัตถ์เพลิงนิล โดยมีรัศมีสีดำจางๆ ล้อมรอบเขาจากนั้นฝ่ามือก็ถูกกดลงบนหลังของนักโทษสายตาของทุกคนจับจ้องไปที่นักโทษตรงหน้าเมื่อพิษของเพลิงนิลสัมผัสกับนักโทษ มันก็แทรกซึมเข้าไปในร่างกายของเขาความเจ็บปวดอย่างรุนแรงเกิดขึ้นทำให้ดวงตาของเขาเบิกกว้างขึ้นถึงขีดสุด เต็มไปด้วยเส้นเลือดแดงก่ำเนื่องจากปาก