“ใครว่าเล็กหา!!!” เขาโวยวายอย่างหัวเสีย เลือดในกายเดือดปุดไปทั้งร่าง ไม่เคยอยากชักไอ้จ้อนออกจากซิปกางเกงมากขนาดนี้มาก่อนเลย“ฉันออกไปก็ได้ค่ะ จัดการตัวเองเสร็จแล้วก็เรียกนะคะ ฉันจะรออยู่หน้าห้องน้ำ”วานิลลารีบตัดบทแล้วออกจากห้องน้ำอย่างเร็วเพื่อจะได้หัวเราะให้หายอึดอัด“ฮ่า ๆ ๆ คุณน่าจะได้เห็นหน้าตัวเองนะชัชวิน หน้าซีดเหมือนไก่ต้มเลยล่ะ...แต่ก็หล่อเหมือนเดิม เห็นใกล้ๆ แล้วใจฉันจะละลาย จมูกน่าหม่ำชะมัด”วานิลลานิ่งคิดบางอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกอาย ก่อนจะหันไปมองกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่ที่วางเรียงรายอย่างเรียบร้อยอยู่ตรงมุมห้องเธอเดินไปหากระเป๋าพวกนั้น แล้วเริ่มจัดการกระเป๋าเสื้อผ้าของเขา ด้วยการรื้อเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ขึ้นจัดเรียงในตู้อย่างเป็นระเบียบ“ให้ตายเหอะ! รู้สึกเหมือนมาฮันนีมูนเลย”ชัชวินอยู่ในห้องน้ำพักหนึ่ง ก่อนจะบังคับวีลแชร์ด้วยตัวเองออกจากห้องน้ำ ด้วยสีหน้าบึ้งตึงเหมือนคนอารมณ์บูด แน่ล่ะ ทั้งโดนหยามและโดนขัดใจขนาดนั้น ไม่อารมณ์เสียสักนิด ก็เย็นชาไปหน่อยละ“เสร็จแล้วหรือคะ!” เธอย้ำคำว่าเสร็จ “เสร็จแล้ว ทำไมไม่เรียกล่ะ”“กำลังทำอะไรน่ะ”“จัดเสื้อผ้าให้คุณค่ะ กางเกงในมีแ
ชัชวินสูดลมหายใจแล้วค่อย ๆ ลืมตาขึ้น จ้องมองเพดานนิ่งงัน ด้วยสายตาแน่วแน่มุ่งมั่น“แล้วคุณจะได้รู้ว่า ผมมันหมาบ้ากว่าที่คุณคิดเยอะ รู้จักล็อตไวเลอร์น้อยไปแล้ว”รอยยิ้มมุมปากบ่งบอกอันตราย สายตาคมกริบราวกับดาบของนักรบในสงคราม...“อ่า...อาห์...” เขาหลับตาลงอีกครั้งอย่างเคลิบเคลิ้ม ขณะใช้มือสาวรูดลำเนื้ออย่างรุนแรงจนมันแข็งคัดตั้งโด่ชูชัน “โอววว...”ความใหญ่ยาวแข็งแรงราวแท่งเหล็กของดุ้นเนื้อสีน้ำผึ้งทำให้เขาเซ็กซี่ไปทั้งตัว เส้นเอ็นผุดโปนไปทั้งลำ กดเกร็งเป่งพองแสดงความกระหายอยากในรสสตรี อย่างไม่มีวันจบสิ้น“โอววว...อูววว...ซี๊ดส์” เขาครางอย่างสุขสม ใบหน้าคร้ามคมเข้มแดงก่ำไปด้วยฤทธิ์ราคะที่กำลังพล่าผลาญร่างแกร่งในทุกอณู“อือออ อ่า โอววว อืมม” เสียวซ่านในทุกต่อมกระสัน ยามแรงสัมผัสเสียดสีเร่งเร้ารุนแรงหนักหน่วง เปิดเปลือยส่วนหัวถอกแดงออกจากเปลือกหุ้มสีน้ำผึ้ง เผยเส้นผ่ากลางหัวเอ็นอย่างสวยงาม มันวาวฉ่ำชื้นไปด้วยน้ำใคร่หล่อเลี้ยง“อื้อออ อ่า...” เขาเม้มปากแน่น เมื่อใกล้ถึงจุดสุดยอดแห่งปรารถนา วินาทีนั้นเองที่เสียงของเธอดังขึ้นในความคิด พยาบาลคนใหม่ที่เข้ามาป่วนชีวิตของเขาจนแตกกระเจิงภายในเวลาเ
“หลังจากรับประทานอาหารเช้าสักชั่วโมง เราจะเริ่มทำกายภาพบำบัดกันนะคะ”เขาจิบกาแฟช้า ๆ เหมือนใช้ความคิด “อืม”เธออึ้งนิดหน่อยที่เขาไม่ดื้อ แถมยังไม่ได้เรียกหานายธนพลเลย “เพิ่มขนมปังปิ้งสักหน่อยนะคะ จะดื่มกาแฟแค่แก้วเดียวได้ไง เดี๋ยวไม่มีแรงทำกายภาพ นี่ค่ะ ขนมปังปิ้งทาเนยถั่วผสมกับแยมแอปริคอต”เขาขมวดคิ้วนิด ๆ พยาบาลคนใหม่รู้ข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้ด้วยเหรอ “คุณรู้ได้ไง ว่าผมชอบเนยถั่วกับแยมแอปริคอต”วานิลลาตาลุก “อ้อ...ฉันก็ถามป้าแม่บ้านของคุณ ไง เธอให้ข้อมูลจำเป็นของคุณมาทุกอย่างเลย”เขาพยักหน้า เคาะถ้วยกาแฟอย่างใช้ความคิด ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงปกติ “เสียงของคุณ ทำให้ผมนึกถึง...ใครบางคน”คราวนี้เธอเกือบพรวดกาแฟออกจากปาก หันมองหน้าเขาอย่างตื่นตระหนก...หรือเขาจะจำเธอได้“เสียงฉัน...เหมือนใครหรือคะ???” อย่าบอกนะว่าเขายังไม่ลืมเธอ...เขายังนึกถึงเธอ แม้จะในฐานะคนที่เขาเกลียดเข้ากระดูกดำก็ตาม “ใครบางคน?”“ไม่รู้สิ แค่คุ้นหู อาจจะแค่คนที่เคยผ่านมาและผ่านไป ไม่ได้สำคัญอะไร”วานิลลาไหล่ลู่ตกอย่างผิดหวัง เธอไม่ควรมีหวังตั้งแต่แรกว่าเขาจะจำเธอได้ บางทีต่อให้เขามองเห็นปกติ เขาก็อาจจำเธอไม่ได้ด้วยซ
ใบหน้าคร้ามคมเปียกฉ่ำ นิ่งงันเหมือนลืมหายใจไปครู่หนึ่ง ก่อนจะอ้าปากหายใจลึกยาวเร็ว ๆ เพื่อเติมออกซิเจนให้สมอง“เสียสติไปแล้วหรือคะ” เธอโกรธจนอยากจะฆ่าเขาเลยจริง ๆ “มันอันตรายนะ”“ก็แค่...” เหยียดยิ้มมุมปากนิดหน่อย “อยากทดสอบความสามารถของคุณ ว่าจะเร็วได้แค่ไหน แต่คุณไม่ผ่านนะ ผมเร็วกว่า!”เธออยากจะเขกหัวเขานัก ทำเธอหัวใจจะวาย ตั้งแต่เช้าเลยนะ “คุณเอาเรื่องความเป็นความตายมาล้อเล่นได้ไง...เดี๋ยวเหอะ!”“ถ้าผมตาย คุณแย่แน่”“ฮึ่ม!” รู้สึกโกรธจนอยากจะตบหน้าเขาจริงๆ “ถ้าเป็นเด็กเป็นเล็ก จะตีก้นให้!”“อะไรนะ?”“อย่าให้ฉันต้องร้าย” เธอเกี่ยวร่างเขาไว้ แล้วว่ายน้ำเพื่อจะพาเขาไปพักที่บันไดสระ อย่างทุลักทุเล“ถ้าไม่ไหวก็ออกไปสิ”“เรื่องไรจะทิ้งเงินแสน!” ระหว่างกระเสือกกระสนอยู่ในสระน้ำ เธอโอบกอดร่างเขาไว้ไม่ยอมปล่อย “หลังจากนี้ไป ฉันจะไม่หันหลังให้คุณแล้ว!”“แน่เหรอ?” เขายิ้มร้าย เพราะต่อไปนี้เขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้เธอลำบาก เขาจะแผลงฤทธิ์ จนเธอทนไม่ไหวแล้วหนีไปเองเลย “ว่าแต่ผมจับอะไรอยู่...”เธอขมวดคิ้วก่อนจะตกใจหน้าเหวอ ก้มมองมือใหญ่ที่เกี่ยวจับเต้านมของเธอเอาไว้“อะ...” เธอใจหายใจคว่ำเมื่อรู้ว่
“ทำไมล่ะ”“เพราะ...” หากเขารู้ว่าเป็นเธอ...เรื่องใหญ่แน่ “ฉันอาจไม่ใช่สเป๊กของคุณ”“ก็แค่เซ็กส์ ถ้าคุณรับได้”“ฉันก็เลือกนะ” แต่ถ้าเขารู้ว่าเป็นเธอ แล้วยังยืนยันว่าจะมีเซ็กส์ด้วยเพื่อคลายกำหนัด เพื่อคลายเหงา เธอจะไม่ยอมอยู่เฉยแน่ เธอจะตอบสนองเขาด้วยความเต็มใจ และทำให้เขามีความสุขจนลืมเธอไม่ลงเลยล่ะ“คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหน้าตาฉันเป็นยังไง”“อ่า...” เขาหอบหายใจแรงกว่าเดิม สายตาเย็นชาซ่อนความปรารถนาอันลึกเร้น“แค่เสียงคุณ...” เสียงที่อบอุ่น ไร้ความเสแสร้งและปรารถนาดีของเธอ “ผมก็รู้แล้ว ว่าคุณไม่สวย”เธออ้าปากหวอ “อืม ไม่สวย รู้แล้วยังจะ...”“ก็อยากลองจูบคนไม่สวยบ้าง”“ชิ!”“แล้วรู้สึกยังไง”เธอจะตอบเขาได้ยังไงว่ารู้สึกดีชะมัด เพราะมันเป็นจูบแรกที่เธอใฝ่ฝันเลยล่ะ“รู้สึกดีรึเปล่า”ถามอยู่ได้ เธออายนะ “ก็...งั้นๆ”“โกหก คุณก็ฟินใช่มั้ย”“หืม นี่คุณ คุณไม่ใช่แฟนฉันนะ”“แต่คุณไม่มีแฟน และไม่เคยจูบกับใครด้วย อย่าโกหกเลยน่า ผมได้ยินเสียงครางเบา ๆ จากลำคอของคุณ และหน้าอกของคุณ คัดตึงชูชัน ตอนที่โดนผมจูบ”เธอตาเหลือก ก้มมองหน้าอกตัวเอง ซึ่งยังคัดตึงชูชันอยู่อย่างที่เขาว่าเลย...อีสองเต้าทรยศ!“อะ.
คราวนี้เขายอมทำตามที่เธอสั่งโดยดี เมื่อเก็บกวาดทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เธอจึงพาเขาเข้าห้องนอน เพื่อจัดการตัวเขาต่อ“ฉันจะพาคุณเข้าไปในห้องน้ำนะ คุณจะได้อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า”“อืม” เขาตอบสั้น ๆ“ฉันสระผมให้เอามั้ย”“ผมทำเองได้” พูดเหมือนงอนซะงั้น“งั้นฉันไปรอข้างนอกนะ” เธอหยิบผ้าขนหนูผืนหนึ่งออกมาด้วย แล้วทิ้งเขาไว้ในห้องน้ำ โดยปิดประตูแบบไม่ล็อค และเฝ้าสังเกตการณ์อยู่หน้าห้องน้ำ เพื่อระวังอันตรายที่อาจเกิดขึ้นวานิลลานุ่งผ้าขนหนูเพื่อปกปิดร่างกายไว้ก่อน รอจนเขาอาบน้ำเสร็จและสวมเสื้อผ้าลำลองเรียบร้อย“พลล่ะ?” เขาถามทันทีที่ออกจากห้องน้ำ“ไม่อยู่ค่ะ ได้ข่าวว่าไปทำธุระที่ชุมพรให้คุณแม่ของคุณ น่าจะไม่อยู่สักสองสามวัน”เขาพยักหน้า “มื้อเที่ยงโทรไปสั่งอาหารที่โรงแรมสิ คุณจะได้ไม่ต้องเหนื่อย มันไม่ใช่หน้าที่คุณด้วย”วานิลลายิ้มกริ่ม “ฉันโทรเรียบร้อยแล้วค่ะ อาหารอิตาเลี่ยนของโปรดคุณไง...ใกล้ถึงเวลามื้อเที่ยงแล้ว ตอนนี้ ฉันจะพาคุณออกไปที่ห้องโถงนะคะ”เธอพาเขาออกมาที่ห้องโถง หยุดรถวีลแชร์ไว้ใกล้กับโซฟาตัวยาว บนโต๊ะเตี้ยมีแจกันดอกกุหลาบสดวางอยู่ ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ซึ่งเป็นกลิ่นที่เขาชอบ“ฉันจะเข้า
“สวยมากใช่มั้ย” เขาจ้องมองไปยังเบื้องหน้า ด้วยสายตาเหมือนคนสิ้นหวังเธอก้มมองหน้าเขาอย่างรู้สึกเห็นใจและสงสาร แต่มันไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการอย่างแน่นอน คนอย่างเขาไม่เคยอยากได้ความสงสารจากใคร“ตอนนี้พระอาทิตย์กำลังจูบกับเส้นขอบฟ้า ท้องฟ้าเป็นสีทองค่ะ มีนกบินอยู่ฝูงหนึ่ง น่าจะนกนางแอ่นนะ กลางทะเลนั่นมีเรือยอร์ชอยู่สามสี่ลำ เหมือนภาพวาดบนฝาผนังที่ติดอยู่ในห้องโถงเลยค่ะ”ชัชวินนิ่งฟังแล้วยิ้มนิด ๆ “ผมวาดเองแหละ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าชีวิตจะมาถึงจุดนี้”เธอย่อตัวนั่งลงแล้วมองหน้าเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและชื่นชม “คุณวิน ที่ผ่านมาคุณเก่งมากนะคะ ฉันเห็นแผลและรอยช้ำตามร่างกายคุณ สองขาของคุณ สองเท้าของคุณ คุณกำลังพยายามอยู่ใช่มั้ยคะ คุณรู้มั้ย ทุกครั้งที่คุณล้มลง มันจะช่วยให้คุณเดินไปข้างหน้าได้อีกหนึ่งก้าว”เขาสูดลมหายใจ “ในขณะที่คนอื่น คิดว่าผมพยายามทำร้ายตัวเอง แต่คุณคิดว่าผมพยายามสู้กับความบัดซบของชีวิตงั้นเหรอ...คุณมองผมผิดไปแล้ว ผมแค่โมโหและ...อาละวาด”“ไม่จริงหรอกค่ะ” เธอเถียงเขางั้นเหรอ “ที่คุณปฏิเสธผู้ดูแลทุกคน เพราะอยากไปอเมริกาเหรอ”เขาเงยหน้ารับแสงสุดท้ายของวัน “ผมยังอยากมองเห
เธอนอนซบอยู่ในอ้อมกอดของเขาทั้งคืน ซุกกายอยู่ในอกอุ่นของชายที่เธอรักแม้ทุกวินาทีจะรู้สึกเหมือนกำลังฝัน แต่ลมหายใจอุ่นซ่านของเขายืนยันว่ามันเป็นเรื่องจริงขณะที่เขานอนหลับใหลไร้กังวล แต่เธอกลับหลับไม่ลงแม้สักวินาที นั่นเพราะเธอแอบกลัวว่าถ้าหลับไปแล้ว พอตื่นขึ้นมาอีกที เขาจะหายไปเหมือนความฝัน...เธออยากกอดตอบเขาจัง แต่ก็ไม่กล้าทำอย่างนั้น เพราะเธอมั่นใจเลยว่า เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่อยู่ในความฝันของเขาตอนนี้หรอก ไม่ใช่เธอแน่นอนเกือบเช้าแล้วล่ะ...มันหมดเวลาของเธอแล้วใช่มั้ย และความฝันของเธอต้องจบลงซะทีเธอผละตัวออกจากอ้อมกอดของเขาแล้วลงจากเตียง เข้าไปในห้องน้ำเพื่อเตรียมน้ำอุ่นให้เขาจากนั้นก็ออกจากห้องนอนใหญ่ ไปทำอาหารเช้าที่ครัว ทำตัวเหมือนเป็นเมียบ่าวผู้ซื่อสัตย์“เฮ่อ...อยากให้เป็นแบบนี้ตลอดไปจัง”เธอยกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม มองสายฝนโปรยปรายด้านนอกอย่างเศร้าใจ ฝนที่ขาดช่วงไปตั้งแต่เมื่อคืน กลับมาตกอีกครั้งก่อนรุ่งอรุณ จนทำให้บรรยากาศยามเช้าค่อนข้างมืดสลัวและเหน็บหนาวแทบขาดใจ“ฟ้ามืดครึ้มขนาดนี้ แต่ทำไมรู้สึกเหมือนโลกมันสว่างจังเลย” เธอห้ามตัวเองไม่ให้รู้สึกดีไม่ได้ แม้รู้ว่ามันเกิดขึ้นเพราะคว
บทส่งท้ายชัชวินลากเธอเข้าลิฟต์ กุมมือเธอแน่นไม่ยอมปล่อย ทำเธอใจเต้นระส่ำด้วยความตื่นเต้น แม้ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ร้อยเปอร์เซ็นก็ตาม“คุณวิน”“ค่อยคุยกันในรถ”“แต่ฉันต้องทำงาน”“ลางานซะ”“เอ๋...” เธอก็ไม่รู้หรอกนะว่ามันเป็นข่าวร้ายหรือข่าวดี แต่มือของเขาอบอุ่นเกินกว่าจะใจแข็งได้เมื่อถึงลานจอดรถชั้นใต้ดินของโรงพยาบาล เขาเปิดประตูรถหรู แล้วยัดร่างเธอเข้าไปในรถ ตรงเบาะข้างคนขับ แล้วตัวเองก็ขึ้นมานั่งหลังพวงมาลัยเหล็ก เคียงข้างกันในรถแบบสองต่อสอง“คุณรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ว่า...” เธอเป็นฝ่ายเริ่มก่อน เพราะสงสัยจนอึดอัดไปหมดแล้ว “ว่า...”“คุณคือพยาบาลคนที่สิบสาม...ผมรู้ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันแล้ว”เธออ้าปากหวอ “วันแรก!!”“คิดว่าผมจำคุณไม่ได้เหรอ”เขาขยับตัวเข้าหาเธอจนชิดใกล้ เธอเอนตัวหนีเท่าที่ทำได้ “แล้วทำไม”“ทำไม? อะไร อยากถามอะไร?”“ก็...ทำไมคุณ โอ๊ย ปวดหัว” เธออยากจะอาลวาด อยากจะทึ้งผมตัวเองให้หลุดลุ่ยชะมัด “ในเมื่อคุณรู้ว่าเป็นฉัน แล้วทำไมคุณยัง...จูบ...จูบทำไม”เขาขยับใบหน้าเข้าใกล้อีกนิด จนลมหายใจประสานกัน จนริมฝีปากเกือบชนกันรอมร่อสายตาเจ้าเล่ห์ร้ายมองเธออย่างร้อนแรงปนหวานหื่น เหมือ
เมื่อได้เห็นภาพความสุขของคนคู่แบบเต็มตา หัวใจของเธอก็แตกสลาย รู้สึกร้อนผ่าวในดวงตาจนต้องรีบหลบไปนั่งร้องไห้ในห้องน้ำ“ฮือ...ไม่เป็นไร ยังไงฉันก็ต้องมีชีวิตที่มีความสุขเหมือนกัน ฉันจะต้องเข้มแข็ง เพื่อคนไข้ของฉัน”เธอบอกตัวเองให้ฮึดสู้แล้วเดินออกจากห้องน้ำ ตรงไปยังแผนกงานของตัวเองทว่า...ระหว่างทางเดินนั้นเอง เธอเกือบช็อคเมื่อต้องเผชิญหน้ากับชัชวินและอัญชิสาโดยไม่ได้ตั้งใจ...เธอสบตากับชัชวินเสี้ยววินาทีหนึ่ง ก่อนที่เธอจะเป็นฝ่ายหลบสายตาแล้วเดินผ่านพวกเขาไปเหมือนคนไม่รู้จักกัน ด้วยสีหน้าท่าทางที่พยายามจะเข้มแข็งให้ได้ แต่ใจจะสั่นจนเกินควบคุม‘ถึงเขาจะมองเห็นเป็นปกติ แต่เขาก็จำเธอไม่ได้อยู่แล้ว เพราะงั้น ทำเหมือนไม่รู้จักกันดีที่สุด’เธอรีบสาวเท้าเดินเพื่อให้ถึงห้องทำงานโดยไว แต่ไม่ทันจะก้าวเข้าข้างใน เสียงของเขาดังขึ้นมาจากด้านหลังซะก่อน“คุณ!”เธอตกใจตาเหลือก เขาตามเธอมาทำไม เขาต้องการอะไรจากเธอเหรอ?“เราเคยรู้จักกันรึเปล่า”“เปล่านี่คะ คุณคงจำคนผิด”ตอบคำถามโดยหลบสายตา ทำท่าจะเปิดประตูเข้าห้อง...“นิล!”เธอชะงัก ตาเหลือกถลน หันหลังกลับมาเผชิญหน้ากับเขาด้วยความแปลกประหลาดใจ!!ชัชวินทำ
วันนี้วานิลลาก็เลยตื่นแต่เช้าตรู่ ลุกจากเตียงนอนอย่างเงียบเชียบ เพราะไม่อยากให้เขาตื่น ปล่อยให้เขานอนอย่างมีความสุขใต้ผ้าห่มอุ่นและหลับฝันดีจนถึงมื้อเช้าเลยก็ได้“เฮ่อ...” เธอจ้องใบหน้านิ่งสงบของเขาอย่างนึกเสียดาย ที่จะไม่ได้ตื่นในตอนเช้าแล้วพบเขานอนอยู่ด้วยแบบนี้อีกแล้วแต่เธอก็ดีใจนะ ที่เขากลับมาเดินได้อย่างสง่างามอีกครั้ง โดยมีเธอเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จเธอขี่มอเตอร์ไซค์ของลุงมิ่งไปตลาดเช้า ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านพักตากอากาศสักเท่าไหร่นักเมื่อซื้อของตามที่ต้องการได้จนครบแล้ว ก็รีบกลับมาที่บ้านพัก เพื่อจะได้เริ่มทำอาหาร แต่ปรากฏว่ารถตู้หายไปจากลานจอดรถหน้าบ้านแล้ว“รถออกไปไหนแต่เช้า”ธนาพลวิ่งหน้าตาตื่นออกมาจากในบ้าน ตรงมาหาเธอที่เพิ่งจอดมอเตอร์ไซค์ “คุณพยาบาลครับ”“อ้าวพล! รถหายไปไหนเหรอ”ธนพลทำหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง เขาพยายามสงบสติอารมณ์ “คุณวินครับ คุณวินกลับกรุงเทพฯ ไปแล้วครับ เพิ่งจะออกไปไม่นานนี่เอง”คำตอบของธนพลทำให้เธอทั้งอึ้งและประหลาดใจไปเลย “เขาขับไปเองเหรอ???”“ครับ หลังจากวางโทรศัพท์จากคุณอัญ คุณวินก็ ออกไปเลย อย่างนี้ก็หมายความว่าคุณวินหายจากอาการตาบอดแล้ว
“อืออ คุณวิน...อ่า อืมม...” เธอครางสยิว บิดร่างเปลือยเปลาอย่างสุขสม ลูบคลำดุ้นเนื้อของเขาแล้วสาวรูดไม่หยุด พร้อมกันนั้นก็ก้มเข้าหาแผงอกกว้าง เลียไล้ดูดเคล้าหัวนมของเขาอย่างปรนเปรอเอาใจ“โอววว...ผมชอบคุณมากเลย” เขาสวมกอดเธอไว้แน่น ยกร่างเธอขึ้นแล้วจับดุ้นเนื้อสอดใส่อย่างรุนแรงจนมันมิดด้าม กระแทกกระทุ้งเข้าใส่ร่างสวยไม่หยุด“อ๊า คุณวิน อ๊า...โอ๊วส์” เธออ้าปากหวอ ใบหน้าสวยบิดเบ้อย่างสุขสมปนทรมาน แอ่นอกเข้าหาปากลิ้นแสนสากและว่องไวของเขาอย่างเร่าร้อน“โอววว อา อา...คุณพยาบาล” เขาครางไม่ขาดปาก กระทุ้งใส่ช่องสวาทของเธออย่างหนักหน่วง“คุณวิน...”เขาซบจูบทรวงอกของเธออย่างเว้าวอน กระซิบกระซาบด้วยเสียงแหบพร่า “ผมยังไม่อยากกลับกรุงเทพฯ เราอยู่ที่นี่กันต่อดีมั้ย”วานิลลายิ้มอย่างเอ็นดู “ถ้าคุณต้องการ...”“ชัวร์ ผมยังอยากบำบัดกับคุณต่อ” ด้วยเซ็กส์และด้วยความเร่าร้อนของเธอ หญิงสาวที่ปลุกร่างผีดิบของเขาให้ลุกขึ้นมาเดินได้อีกครั้งเมื่อขึ้นจากสระน้ำ...เธอพาเขาไปเดินเล่นที่ชายหาด ท่ามกลางแสงสุดท้ายของช่วงวัน“ระวังหน่อยนะคะ ค่อย ๆ นะคะ”“ผมทำได้แล้ว ผมทำได้!” เขาดีใจไม่น้อยที่กลับมาเดินได้เหมือนเดิม แม
“โอวว...” เขาทิ้งร่างเหน็ดเหนื่อยลงสวมกอดกายชุ่มเหงื่อของเธอไว้ แล้วจูบไซ้ซอกคอหอมละมุนอย่างหลงใหล ระบายริมฝีปากอย่างโหยหา“คุณวิน...” ไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอกับเขาเพิ่งจะร่วมรักกันอย่างเมามันส์ กระแทกกระทั้นเข้าใส่กันจนน้ำสวาทเนืองนองไปหมด“ผมมีความสุขจัง” เสียงกระซิบแหบพร่าของเขาทำให้ใจที่เต้นระส่ำของเธอสงบลงนิดหน่อย บางทีเธออาจทำถูกก็ได้ ที่ยอมมีเซ็กส์กับเขาเธอดีใจนะ ที่ทำให้เขามีความสุข แม้มันจะเป็นแค่ความสุขของร่างกาย ไม่ใช่ความสุขของใจ แต่ก็ยังดีกว่าการใช้ชีวิตแบบซังกะตายเหมือนสามเดือนที่ผ่านมา“คุณไม่ใช่ซอมบี้นี่นา”เขายิ้มกริ่ม ดวงตาดุดันดูเจ้าเล่ห์สมกับเป็นคนร้ายกาจแล้ว “มันยังใช้งานได้”“ใช้ได้ดีด้วย”“ยอมรับแล้วเหรอ”“คุณทำฉันแทบตาย”“ผมชอบกลิ่นของคุณจัง” เขากระซิบเสียงแหบพร่า ตั้งใจเย้าหยอกหญิงสาว ทำเธออายจนแก้มแดงก่ำ อยากจะมะเหงกเขานัก“พูดอะไรของคุณเนี่ย”“อยากเห็นหน้าจัง” พลางขยับใบหน้าหล่อเหลาเข้าใกล้ใบหน้าของเธอ จนลมหายใจประสานกันเธอยิ้มแทบไม่ออก “ถ้าได้เห็นหน้า คุณไม่ชอบฉันหรอก เพราะงั้น คุณไม่ต้องเห็นหน้าฉันหรอกนะ จินตนาการถึงฉันด้วยใบหน้าของ...ออเดรย์ เฮปเบิร์น ก็แ
“โอ๊ย โอ๊ย อื้อ” ปากของเขาประกบกับร่องรักของเธอ พร้อมกระแทกนิ้วเข้าใส่รูสวาทถี่ยิบ เร่งนิ้วทุกครั้งที่เธอขยับตัวจะถอย “อ๊า...”เธอไม่ได้จะต่อต้านการปรนเปรอของเขาหรอกนะ เพียงแต่มันเสียวจนทนไม่ไหวต่างหาก“อื้อ โอยย อูยย...ซี๊ดส์ อ๊า” เธอครางลั่นก่อนจะบิดร่างอย่างทรมาน ยามถึงจุดสุดยอดแห่งปรารถนา น้ำสวาทแตกกระจายออกมาราวกับฉี่แตก “โอววว”เธอครางอย่างเหน็ดเหนื่อย หอบหายใจถี่ยิบจนหน้าอกกระเพื่อมไหว เนินสวาทกระตุกร่อน เร่าร้อนแผดเผาเข้าไปถึงรูสวาทภายใน“อ่า...” เขาเองก็ครางกระสันราวกับเหน็ดเหนื่อย เมื่อผละริมฝีปากออก เขายื่นฝ่ามือขึ้นลูบไล้ร่างกายเปลือยเปล่านวลเนียนอย่างโหยหาเธอจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาด้วยสายตาหวานฉ่ำ แรงปรารถนาฉุดให้เธอลุกขึ้นนั่งแล้วก้มลงใช้ปากลิ้นกับแท่งเนื้อแข็งทื่อของเขา ด้วยความเต็มใจ“อ่า...” เขาทิ้งตัวลงนอนแผ่หลา ดื่มด่ำกับการปรนเปรอของหญิงสาวด้วยความกระสัน กายแกร่งเกร็งจนเส้นเอ็นผุดไปทั้งร่าง เสียวซ่านในทุกอณูเนื้อยามโดนตวัดเลียไปทั่วทั้งบ้องเนื้อ“โอววว...” เขาครางแผ่วเบา หายใจแรงจนตัวหอบโยน ดุ้นเนื้อขนาดยาวราวแปดนิ้ว แข็งคัดชูชันตั้งแต่หัวจดปลาย เปลือกหนังสีน้ำผึ้งเ
“คุณชื่ออะไร” เขากระซิบถาม ก่อนจะจูบแนบลงบนลำคอระหง ประทับรอยหื่นเป็นจ้ำแดง “หืม...”“เราไม่ต้องรู้จักกันหรอกค่ะ” เธอตัดสินใจแล้วว่าจะเป็นแค่สายลมสำหรับเขาเท่านั้น สายลมที่พัดเข้ามาในชีวิตของเขาชั่วคราว และพัดออกไป“คิดซะว่าฉันเป็นแค่ความฝันของคุณ”ความฝันที่ทำให้เขาเร่าร้อนไปทั้งตัว หญิงสาวผู้ปลุกไฟรักในตัวเขาให้ลุกโชน...“ผมอยากฝันดี...” เสียงกระซิบของเขาเองก็เหมือนสายลมเช่นกัน มันพัดผ่านผิวเนื้อของเธอ จนทำให้เธอรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งร่าง ปั่นป่วนไปทั้งชีวิต“อืมมม โอววว...” สองริมฝีปากประกบกันแนบแน่น บดเคล้าขยี้บี้บดอย่างสาสมใจ แลกลิ้นอุ่นตวัดโรมรันพันตู สูบซับความหวานหอมของแรงสัมผัสกันและกันอย่างไม่รู้จักเบื่อ“อ่า...อ่า...อ่า...” ริมฝีปากร้อนร้ายไล่จูบนเนินอกขาวนวลของเธออย่างเร่าร้อน“อืออ...” เธอครางแผ่วเบา แอ่นทรวงอกขึ้นรับรสจูบอันร้อนแรง ฝ่ามือใหญ่เลื่อนขึ้นจัดการถอดเสื้อยืดของเธอออกทางศีรษะ ปลดตาขอชุดชั้นในแล้วกระชากมันออกทิ้งไปอย่างไม่ใยดี“โอววส์ ซี๊ดส์” สองริมฝีปากจูบกันอย่างสุขสม กอดคลำลูบไล้ร่างกายของกันและกันอย่างโหยหา แรงปรารถนาอันคุคลั่งส่งให้ร่างกายของทั้งคู่ร้อนเป็นไฟ
“ถามสิ ว่าทำไมผมถึงฟุ้งซ่าน”เธอจ้องมองเขานิ่ง แต่ใจสั่นแทบบ้าแล้ว เขาจะรู้มั้ยว่ากำลังทำให้เธอแพ้เขาราบคาบ“เอ่อ...ทำไมคะ...คุณไม่สบายตรงไหน”ดวงตาคมดุยิ้มพราว “ตรงนั้นของเขาผมไง”“อะไรของคุณ”“มันร้อนผ่าว” พูดพลางขยับแก่นกายแข็งทื่อของตัวเองลงบดเบียดหน้าท้องของเธออย่างจงใจเย้าหยอกและกระตุ้นกำหนัด “ร้อนจนผมจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว”เธอเองก็ไม่ต่างจากเขานักหรอก การได้ใกล้ชิดในระยะอันตราย ยามเนื้อแนบเนื้อ ยามอวัยวะเพศกระทบกระทั่งกัน แม้จะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตามโอยย...ตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนโดนเขาสะกดเอาไว้ใต้อาณัติจนไม่อาจขยับเขยื้อนได้เลยล่ะ เธออยากจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าด้วยสองมือตัวเองจริง ๆ“ผมคงบ้าไปแล้ว”“คุณวิน...” เธอเองก็อยากจะเผยอริมฝีปากขึ้นจูบเขาแทบแย่ แม้มันจะเป็นแค่ความใคร่ก็ตาม“เรามาทำกายภาพบำบัดกันเถอะ” เขาเอ่ยปากชวนเธออย่างตรงไปตรงมา สายตาหื่นกระหายกระจ่างชัดในแววตาคู่คม แผงอกล่ำสันกระเพื่อมไหวอย่างรุนแรง บ่งบอกว่าหัวใจของเขากำลังเต้นหนัก“ทำไมคุณถึง...คิดว่าฉันจะยอมคุณ” เธออยากรู้จริงๆ นะ เขาคิดว่าเธอง่ายหรือคิดว่าเธอเป็นแค่ของเล่น ก็เลยอยากคลายเหงาในวันฝนตก“ไม่เอาน่า เรา
เธอนอนซบอยู่ในอ้อมกอดของเขาทั้งคืน ซุกกายอยู่ในอกอุ่นของชายที่เธอรักแม้ทุกวินาทีจะรู้สึกเหมือนกำลังฝัน แต่ลมหายใจอุ่นซ่านของเขายืนยันว่ามันเป็นเรื่องจริงขณะที่เขานอนหลับใหลไร้กังวล แต่เธอกลับหลับไม่ลงแม้สักวินาที นั่นเพราะเธอแอบกลัวว่าถ้าหลับไปแล้ว พอตื่นขึ้นมาอีกที เขาจะหายไปเหมือนความฝัน...เธออยากกอดตอบเขาจัง แต่ก็ไม่กล้าทำอย่างนั้น เพราะเธอมั่นใจเลยว่า เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่อยู่ในความฝันของเขาตอนนี้หรอก ไม่ใช่เธอแน่นอนเกือบเช้าแล้วล่ะ...มันหมดเวลาของเธอแล้วใช่มั้ย และความฝันของเธอต้องจบลงซะทีเธอผละตัวออกจากอ้อมกอดของเขาแล้วลงจากเตียง เข้าไปในห้องน้ำเพื่อเตรียมน้ำอุ่นให้เขาจากนั้นก็ออกจากห้องนอนใหญ่ ไปทำอาหารเช้าที่ครัว ทำตัวเหมือนเป็นเมียบ่าวผู้ซื่อสัตย์“เฮ่อ...อยากให้เป็นแบบนี้ตลอดไปจัง”เธอยกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม มองสายฝนโปรยปรายด้านนอกอย่างเศร้าใจ ฝนที่ขาดช่วงไปตั้งแต่เมื่อคืน กลับมาตกอีกครั้งก่อนรุ่งอรุณ จนทำให้บรรยากาศยามเช้าค่อนข้างมืดสลัวและเหน็บหนาวแทบขาดใจ“ฟ้ามืดครึ้มขนาดนี้ แต่ทำไมรู้สึกเหมือนโลกมันสว่างจังเลย” เธอห้ามตัวเองไม่ให้รู้สึกดีไม่ได้ แม้รู้ว่ามันเกิดขึ้นเพราะคว