ชัชวาลอุ้มร่างเพรียวสวยไปวางบนโซฟาอย่างค่อย ๆ พลางถอนแกนกายออก ก่อนจะไปจัดการเช็ดคราบแห่งความสุขสมที่เลอะอยู่กลางห้องอีกฝ่ายวางเธอลงไว้ที่โซฟาท่าไหน เธอก็ยังเอนตัวพิงโซฟาอยู่ท่านั้น นภัสสรนั่งอ้าขาเอนกายพิงพนักที่นั่งอย่างสิ้นสภาพ การร่วมรักครั้งนี้ทำเธอล่องลอย สติกระเจิดกระเจิงไปคนละทิศละทางจนเธอแทบจะจับจุดและเอาสติกลับมาไม่ได้“เธอโอเคไหม นภัสสร” ชายหนุ่มเอ่ยพลางจับแก้มนวลเพื่อตรวจเช็กร่างกายว่าเธอยังปกติดีหรือไม่“โอเคค่ะ” เธอตอบเสียงอ่อน“โอเคจริง ๆ ใช่ไหม ฉันไม่เคยเห็นเธอหมดสภาพแบบนี้มาก่อนเลย” เสียงทุ้มต่ำเจือความกังวลเอ่ยก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งข้างคนตัวเล็ก“โอเคจริง ๆ ค่ะ สรแค่หมดแรงเฉย ๆ” ตอนนี้สติของเธอเริ่มกลับมาเกือบหมดแล้ว“งั้นเธอนอนพักก่อนดีไหม”“ก็ดีค่ะ นอนพักสักหน่อยน่าจะดีขึ้น”“ขอโทษนะ ฉันไม่น่าเอาเธอขนาดนี้เลย” ว่าจบชายหนุ่มก็กดจูบกลางหน้าผากอย่างแผ่วเบา“ไม่ใช่ความผิดเสี่ยเลยค่ะ ก็สรอยากให้เสี่ยทำแรง ๆ เอง และอีกอย่างที่ทำกันเมื่อกี้ไม่ใช่ไม่ดีสักหน่อย” เธอเอ่ยพลางเม้มปากอย่างขัดเขิน“หมายความว่ายังไง”“ที่เสี่ยอุ้มสรเมื่อกี้มันดีมาก ๆ เลยค่ะ”นัยน์ตาดำขลับฉายแววเป็
สามปีต่อมาในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ณ ห้างสรรพสินค้าย่านใจกลางเมือง ซึ่งคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่มาพักผ่อนหย่อนใจและจับจ่ายใช้สอยกันอย่างเบิกบานแต่ทว่าสำหรับนภัสสรแล้ว วันนี้กลับกลายเป็นวันทำงานที่เธอทั้งกดดันและตื่นเต้นไปพร้อม ๆ กัน เพราะเป็นวันที่แบรนด์เสื้อผ้าออนไลน์ของเธอจะมีหน้าร้านเป็นของตัวเองสักทีหลังจากที่เธอหย่าขาดกับณรงค์ เธอก็ได้เอาเงินเก็บที่เสี่ยชัชให้ด้วยความเสน่หามาลงทุนสร้างแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเอง ในช่วงแรกกิจการลุ่ม ๆ ดอน ๆ ตามประสาคนที่ไม่ได้เชี่ยวชาญการทำธุรกิจมากนักแต่เมื่อได้ลองผิดลองถูกหลายอย่าง มันก็ทำให้เธอได้เรียนรู้และผลักดันให้ธุรกิจสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำอย่างที่เธอต้องการ จนกระทั่งสามารถเช่าพื้นที่เปิดร้านในห้างสรรพสินค้าใหญ่ ๆ ได้“พี่สรคะ มีดอกไม้มาส่งค่ะ” น้ำรินทร์เอ่ยพลางยื่นดอกกุหลาบช่อโตให้เจ้าของแบรนด์“ใครให้มาเหรอรินทร์” เธอยิ้มบางพลางทำหน้างุนงงเล็กน้อย“พี่สรดูเองดีกว่าค่ะ”ลูกน้องคนสนิทยิ้มร่าก่อนจะว่าต่อ“แต่รินทร์ว่าพี่สรคงเดาได้ไม่ยากหรอกค่ะ ก็คงเป็นคนดีคนเดิมของพี่สรนั่นแหละ”หญิงสาววัยสามสิบสามไม่พูดอะไร ก่อนจะก้มหน้าอ่านจดหมายน้อยที
นภัสสรขับรถไปตามเส้นทางที่คุ้นเคย ก่อนจะเลี้ยวเข้าซอยท้ายสุดของหมู่บ้าน ประตูรั้วบานใหญ่เปิดออกอัตโนมัติเมื่อหญิงสาวมาถึง เธอสามารถเข้าออกที่นี่ได้อย่างอิสระราวกับว่าเธอเป็นหนึ่งในเจ้าของบ้าน เธอได้รับเกียรตินั้นเสมอตั้งแต่วันแรกที่มาจนถึงปัจจุบัน“สวัสดีค่ะหนูสร ให้ป้าช่วยถืออะไรไหมคะ” ป้าสายออกมาต้อนรับเธออย่างดี“ไม่เป็นไรค่ะป้า เดี๋ยวสรถือเองก็ได้ค่ะ”“หนูสรกินอะไรมาหรือยังคะ ให้ป้าเตรียมให้ไหม”“สรกินมาเรียบร้อยแล้วค่ะ ตอนนี้เสี่ยอยู่ไหนหรือคะ” เธอระบายยิ้มพลางถาม“คุณชัชอยู่ที่ห้องนอนค่ะ” หญิงสาวพยักหน้าเล็กน้อย“งั้นเดี๋ยวสรไปหาเสี่ยก่อนนะคะ” เธอปลีกตัวก่อนจะเยื้องย่างมุ่งหน้าไปยังห้องนอนของชัชวาลก๊อก ก๊อก ~ ~หญิงสาวเคาะประตูห้องก่อนจะเปิดมันเข้าไปด้านใน เจ้าของบ้านสะลึมสะลือคล้ายกับเพิ่งรู้สึกตัวตื่นหลังจากที่เธอเข้ามา ร่างเพรียวบางหย่อนตัวลงนั่งข้างเตียง ก่อนจะโน้มตัวพรมจูบบนใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์“เธอกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่” เขาถามทั้งที่ยังลืมตาตื่นไม่เต็มที่“เพิ่งมาถึงเองค่ะ”“ตอนนี้กี่โมงแล้ว” เขาถามก่อนจะหยัดตัวนั่งพิงหัวเตียง“จะห้าทุ่มแล้วค่ะ”“อ้าว ดึกแล้วท
“ห้ะ!! ยี่สิบล้าน!!”ดวงตาหญิงสาวเบิกโพลงในทันที เมื่อได้ยินยอดหนี้ทั้งหมดที่สามีจะต้องจ่ายให้เจ้าหนี้ภายในเดือนนี้ใบหน้าพริ้มเพราของ 'นภัสสร' เปลี่ยนสีอย่างเห็นได้ชัด เธอเคยเตือนสามีตัวดีหลายหนเรื่องการพนัน ไม่มีใครมีชีวิตที่ดีและร่ำรวยได้จากอบายมุขพวกนั้น มันมีแต่จะนำพาให้ชีวิตตกต่ำอย่างหาที่สุดไม่ได้ และในที่สุดมันก็ได้เกิดขึ้นกับครอบครัวของเธอแล้วตอนนี้ตอนแรก 'ณรงค์' ก็เล่นสนุกพอหอมปากหอมคอ จากหลักหมื่นก็กลายเป็นหลักแสน หลักแสนเป็นหลักล้าน จนในที่สุดก็เป็นหลักสิบล้าน แล้วแม่ค้าออนไลน์หาเช้ากินค่ำแบบเธอจะหาเงินจำนวนแปดหลักมาช่วยสามีได้อย่างไร แค่จะไลฟ์ขายเสื้อผ้าให้ได้สักตัวยังยากในเศรษฐกิจที่ซบเซาแบบนี้“สร ช่วยพี่ด้วยนะ” มือใหญ่เอื้อมจับมือเธอมากุมไว้ พลางอ้อนวอน“สรช่วยพี่อยู่แล้ว ถ้าสรช่วยได้”ดวงตากลมโตร้อนผ่าวคลายน้ำสีใสจะเอ่อไหลออกมา“แต่เงินมันไม่ใช่น้อย ๆ เลยนะพี่รงค์ เงินมันตั้งยี่สิบล้าน แล้วสรจะหาเงินจากไหนมาให้พี่”“ถ้าสรไม่ช่วย พี่ตายแน่” ณรงค์เอ่ยเสียงสั่น“เราหนีไปที่อื่นกันดีไหมพี่”ถ้าไม่มีเงินจ่าย ก็คงต้องหนีหายไปให้ไกล ไม่ให้เจ้าหนี้ตามตัวได้ก็พอ“พี่ก็อยากหนี
หญิงสาวในชุดเดรสรัดรูปสีกรมท่า ดูสวยสง่าเข้ากับอายุวัยสามสิบของเธอ ใครที่ได้เห็นต่างก็ต้องลงความเห็นว่าเธอนั้นดูดีไม่ต่างจากภรรยาเศรษฐีผู้มีอันจะกิน แต่ใครจะรู้ว่าแท้จริงแล้วเธอกลับเป็นลูกหนี้ตกอับที่อาจจะไม่มีที่ให้ซุกหัวนอน“สร แกลองเช็กดูก่อนแล้วกันว่าครบไหม”หญิงสาวผมสั้นนัยน์ตาเรียวยื่นซองสีน้ำตาล ที่ข้างในเต็มไปด้วยเงินปึกใหญ่ส่งให้เพื่อนสาวคนสนิท“ที่จริงฉันก็เช็กจากธนาคารแล้วรอบหนึ่ง แต่เพื่อความชัวร์เช็กอีกรอบก็น่าจะดี”นภัสสรทำเพียงเปิดดูเงินในซองก่อนจะยัดมันใส่กระเป๋าสะพายข้าง“ไม่เป็นไร ฉันว่าแกน่าจะนับเรียบร้อยดีแล้วแหละ”“อืม โอเค”“ขอบใจแกมาก ๆ นะโส ถ้าไม่มีแกฉันคงแย่” ดวงตากลมโตเครือไปด้วยหยาดน้ำตา“ไม่เป็นไรเลยแก เพื่อนกันมีไรก็ต้องช่วยกันอยู่แล้ว” โสรยาตบบ่านภัสสรเบา ๆ เพื่อให้เพื่อนสนิทคลายกังวล“ไว้ฉันมีเมื่อไหร่จะรีบมาใช้คืนแกเลยนะ”“ไม่ได้จะว่าอย่างนั้นอย่างนี้นะ แต่เงินห้าแสนมันจะพอเหรอสร ผัวแกเป็นหนี้ตั้งยี่สิบล้านเลยนะ มันยังไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นต์ของยอดทั้งหมดเลยอ่ะ” น้ำเสียงหวานเจือด้วยความเป็นกังวล“มันก็ไม่พอหรอก แต่มันก็ดีกว่าที่ฉันต้องไปต่อรองกับพวกเจ้าหนี้
“ร่างกายของเธอ เอามันมาใช้หนี้แทนผัวเธอสิ นภัสสร” รอยยิ้มมีเลศนัยประดับบนใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มนภัสสรตะลึงงันไปทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่เจ้าหนี้บอกตน ไม่คิดว่าชีวิตต้องมาอยู่ในจุดที่ตกต่ำเช่นนี้ ต้องเอาตัวเข้าแลกเพื่อใช้หนี้ให้สามี เธอจะทำเช่นนั้นได้อย่างไรกัน ไม่เท่ากับว่าเป็นการนอกใจคนที่ตนรักหรอกหรือ ถึงจะทำเพื่ออีกคนก็เถอะ“ยังไง ไม่สนใจหน่อยเหรอ”“สรว่าสรคงทำแบบนั้นไม่ได้หรอกค่ะ”“มาเป็นนางบำเรอให้ฉันหนึ่งปี แล้วหนี้ทั้งหมดของผัวเธอฉันจะยกให้”ดวงตากลมโตเบิกโพลงเมื่อได้ยินข้อเสนอ ความลังเลก่อตัวขึ้นโดยพลัน จากที่ต้องทำงานหาเงินยี่สิบล้านมาจ่ายให้หมดภายในสิบปี แต่เรื่องทั้งหมดจะจบสิ้นภายในปีเดียวเพียงแค่เธอตอบตกลงเป็นนางบำเรอของเสี่ยชัช ข้อเสนอนี้ทำเอาเธอคิดหนักอยู่ไม่น้อย“ยังไม่ต้องตอบตกลงตอนนี้ก็ได้ ฉันจะให้เวลาเธอไปคิดและให้คำตอบภายในเดือนนี้ ถ้าเธอไม่ตอบตกลงก็หาเงินยี่สิบล้านมาจ่ายฉันแล้วกัน”“แล้วเงินห้าแสนล่ะคะ ไม่หักจากยอดยี่สิบล้านหรอกหรือ” นภัสสรเอ่ยท้วงพลางย่นหน้าผาก“อันนี้มันแค่ดอกเบี้ย”ความวาบโหวงเกิดขึ้นในอก ตั้งใจว่าเงินห้าแสนจะสามารถลดหนี้ทั้งหมดไปได้บ้าง แต่มั
“ไม่สิ จริง ๆ เธอไม่มีทางเลือกเลยต่างหาก”ดวงตากลมโตสั่นไหว ความรู้สึกผิดก่อขึ้นในใจ ไม่ว่าจะอย่างไรเธอก็ต้องช่วยสามีให้ได้ ครอบครัวของเธอจะต้องผ่านเรื่องราวเลวร้ายนี้ไปให้ได้มือเรียวสวยจับมือหนาที่ประคองแก้มตนออก ก่อนจะย้ายมันมาวางสัมผัสตรงเนินอกของตน พลางจับจ้องคนตรงหน้าคล้ายจะสื่อความนัยว่าเธอพร้อมจะปรนเปรอให้เขาเสร็จสมอย่างที่อีกคนต้องการชัชวาลคลี่ยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะทาบทับริมฝีปากบางสีเชอร์รี่ เขาจูบสัมผัสแผ่วเบาเพื่อไม่ให้หญิงสาวตื่นตระหนก ใบหน้าเนียนนวลหลับตาพริ้มคล้ายตกอยู่ในห้วงฝัน เคลิบเคลิ้มไปกับรสหวานที่ไม่ได้สมัครใจรับอย่างเต็มร้อยมือหนาเลื่อนต่ำลงไปยังช่วงเอวของหญิงสาว ก่อนจะลูบไล้สัมผัสตรงสะโพกผายแน่น ที่ยั่วยุอารมณ์ชายหนุ่มให้พุ่งทะยานขึ้น จนอยากจับร่างเพรียวสวยกระแทกกระทั้นให้หนำใจความรู้สึกแปลกใหม่ที่ได้รับจากชายแปลกหน้า ทำเอานภัสสรเสียววาบไปทั้งตัว มันทั้งหวามไหวและตื่นเต้น ทำเธอรู้สึกดีอย่างไม่บอกถูก ดีจนทวีความรู้สึกผิดในใจมากกว่าเดิมตอนนี้แม้ว่าร่างกายจะโดนชายอื่นล่วงล้ำ แต่สิ่งหนึ่งที่เธอระลึกไว้เสมอและเตือนใจตัวเองไว้เป็นอย่างดี ว่ามีเพียงสามีเท่านั้นที่เป
หลังจากวันที่นภัสสรกลับมาจากบ้านของชัชวาล ดูเหมือนว่าข้อเสนอของอีกฝ่ายจะทำให้เธอเครียดและหนักใจมากกว่าเดิม เธอเล่าเรื่องข้อเสนอต่าง ๆ ให้ณรงค์ได้ทราบทั้งหมด ยกเว้นเสียแต่การจ่ายดอกเบี้ย เธอไม่ได้บอกเขาทว่าแค่เท่านั้นมันก็มากพอจะทำให้ผู้เป็นสามีโกรธจนควันออกหู จนสบถด่าเจ้าหนี้อย่างไม่ปรานี แต่มันกลับทำให้หัวใจใกล้โรยราของนภัสสรกลับมาชุ่มชื่นได้อีกครั้ง อย่างน้อยเธอก็ได้รู้ว่าอีกฝ่ายรักและหวงแหนเธอมากขนาดไหนแกร๊ก ~ ~เสียงประตูห้องเช่าเปิดออก ณรงค์กลับมาหลังจากหายออกจากบ้านไปครึ่งค่อนวัน เขาหัวเสียจนเลือดขึ้นหน้า จึงขอตัวไปสงบสติอารมณ์ที่อื่น เวลานี้คงจะดีขึ้นมากแล้ว ทำให้เขากลับมาหาผู้เป็นภรรยาได้เสียที“พี่รงค์ กินข้าวหรือยัง” เธอเอ่ยถามสามีอย่างที่ทำเป็นปกติ“พี่กินมาแล้ว”สีหน้าสามีกังวลอย่างเห็นได้ชัดจนหญิงสาวอดห่วงไม่ได้“พี่รงค์เป็นอะไรหรือเปล่า สีหน้าไม่ดีเลย”“ก็เรื่องเดิมนั่นแหละ” เธอแน่นิ่งไปทันทีเพราะรู้ดีว่าคงไม่พ้นเรื่องหนี้สินเช่นเคย“ไม่เป็นไรนะพี่ ยังเหลืออีกห้าวัน ฉันว่-”ยังไม่ทันที่ภรรยาจะพูดจบ ผู้เป็นสามีก็เอ่ยขัดขึ้น“เรื่องข้อเสนอ พี่ว่าตกลงตามนั้นก็ได้นะ” เขาเอ
นภัสสรขับรถไปตามเส้นทางที่คุ้นเคย ก่อนจะเลี้ยวเข้าซอยท้ายสุดของหมู่บ้าน ประตูรั้วบานใหญ่เปิดออกอัตโนมัติเมื่อหญิงสาวมาถึง เธอสามารถเข้าออกที่นี่ได้อย่างอิสระราวกับว่าเธอเป็นหนึ่งในเจ้าของบ้าน เธอได้รับเกียรตินั้นเสมอตั้งแต่วันแรกที่มาจนถึงปัจจุบัน“สวัสดีค่ะหนูสร ให้ป้าช่วยถืออะไรไหมคะ” ป้าสายออกมาต้อนรับเธออย่างดี“ไม่เป็นไรค่ะป้า เดี๋ยวสรถือเองก็ได้ค่ะ”“หนูสรกินอะไรมาหรือยังคะ ให้ป้าเตรียมให้ไหม”“สรกินมาเรียบร้อยแล้วค่ะ ตอนนี้เสี่ยอยู่ไหนหรือคะ” เธอระบายยิ้มพลางถาม“คุณชัชอยู่ที่ห้องนอนค่ะ” หญิงสาวพยักหน้าเล็กน้อย“งั้นเดี๋ยวสรไปหาเสี่ยก่อนนะคะ” เธอปลีกตัวก่อนจะเยื้องย่างมุ่งหน้าไปยังห้องนอนของชัชวาลก๊อก ก๊อก ~ ~หญิงสาวเคาะประตูห้องก่อนจะเปิดมันเข้าไปด้านใน เจ้าของบ้านสะลึมสะลือคล้ายกับเพิ่งรู้สึกตัวตื่นหลังจากที่เธอเข้ามา ร่างเพรียวบางหย่อนตัวลงนั่งข้างเตียง ก่อนจะโน้มตัวพรมจูบบนใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์“เธอกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่” เขาถามทั้งที่ยังลืมตาตื่นไม่เต็มที่“เพิ่งมาถึงเองค่ะ”“ตอนนี้กี่โมงแล้ว” เขาถามก่อนจะหยัดตัวนั่งพิงหัวเตียง“จะห้าทุ่มแล้วค่ะ”“อ้าว ดึกแล้วท
สามปีต่อมาในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ณ ห้างสรรพสินค้าย่านใจกลางเมือง ซึ่งคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่มาพักผ่อนหย่อนใจและจับจ่ายใช้สอยกันอย่างเบิกบานแต่ทว่าสำหรับนภัสสรแล้ว วันนี้กลับกลายเป็นวันทำงานที่เธอทั้งกดดันและตื่นเต้นไปพร้อม ๆ กัน เพราะเป็นวันที่แบรนด์เสื้อผ้าออนไลน์ของเธอจะมีหน้าร้านเป็นของตัวเองสักทีหลังจากที่เธอหย่าขาดกับณรงค์ เธอก็ได้เอาเงินเก็บที่เสี่ยชัชให้ด้วยความเสน่หามาลงทุนสร้างแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเอง ในช่วงแรกกิจการลุ่ม ๆ ดอน ๆ ตามประสาคนที่ไม่ได้เชี่ยวชาญการทำธุรกิจมากนักแต่เมื่อได้ลองผิดลองถูกหลายอย่าง มันก็ทำให้เธอได้เรียนรู้และผลักดันให้ธุรกิจสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำอย่างที่เธอต้องการ จนกระทั่งสามารถเช่าพื้นที่เปิดร้านในห้างสรรพสินค้าใหญ่ ๆ ได้“พี่สรคะ มีดอกไม้มาส่งค่ะ” น้ำรินทร์เอ่ยพลางยื่นดอกกุหลาบช่อโตให้เจ้าของแบรนด์“ใครให้มาเหรอรินทร์” เธอยิ้มบางพลางทำหน้างุนงงเล็กน้อย“พี่สรดูเองดีกว่าค่ะ”ลูกน้องคนสนิทยิ้มร่าก่อนจะว่าต่อ“แต่รินทร์ว่าพี่สรคงเดาได้ไม่ยากหรอกค่ะ ก็คงเป็นคนดีคนเดิมของพี่สรนั่นแหละ”หญิงสาววัยสามสิบสามไม่พูดอะไร ก่อนจะก้มหน้าอ่านจดหมายน้อยที
ชัชวาลอุ้มร่างเพรียวสวยไปวางบนโซฟาอย่างค่อย ๆ พลางถอนแกนกายออก ก่อนจะไปจัดการเช็ดคราบแห่งความสุขสมที่เลอะอยู่กลางห้องอีกฝ่ายวางเธอลงไว้ที่โซฟาท่าไหน เธอก็ยังเอนตัวพิงโซฟาอยู่ท่านั้น นภัสสรนั่งอ้าขาเอนกายพิงพนักที่นั่งอย่างสิ้นสภาพ การร่วมรักครั้งนี้ทำเธอล่องลอย สติกระเจิดกระเจิงไปคนละทิศละทางจนเธอแทบจะจับจุดและเอาสติกลับมาไม่ได้“เธอโอเคไหม นภัสสร” ชายหนุ่มเอ่ยพลางจับแก้มนวลเพื่อตรวจเช็กร่างกายว่าเธอยังปกติดีหรือไม่“โอเคค่ะ” เธอตอบเสียงอ่อน“โอเคจริง ๆ ใช่ไหม ฉันไม่เคยเห็นเธอหมดสภาพแบบนี้มาก่อนเลย” เสียงทุ้มต่ำเจือความกังวลเอ่ยก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งข้างคนตัวเล็ก“โอเคจริง ๆ ค่ะ สรแค่หมดแรงเฉย ๆ” ตอนนี้สติของเธอเริ่มกลับมาเกือบหมดแล้ว“งั้นเธอนอนพักก่อนดีไหม”“ก็ดีค่ะ นอนพักสักหน่อยน่าจะดีขึ้น”“ขอโทษนะ ฉันไม่น่าเอาเธอขนาดนี้เลย” ว่าจบชายหนุ่มก็กดจูบกลางหน้าผากอย่างแผ่วเบา“ไม่ใช่ความผิดเสี่ยเลยค่ะ ก็สรอยากให้เสี่ยทำแรง ๆ เอง และอีกอย่างที่ทำกันเมื่อกี้ไม่ใช่ไม่ดีสักหน่อย” เธอเอ่ยพลางเม้มปากอย่างขัดเขิน“หมายความว่ายังไง”“ที่เสี่ยอุ้มสรเมื่อกี้มันดีมาก ๆ เลยค่ะ”นัยน์ตาดำขลับฉายแววเป็
ใบหน้าขาวนวลขึ้นสีตรงแก้มอย่างเห็นได้ชัด ก้อนเนื้ออกข้างซ้ายเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ รู้สึกประหม่าจนต้องเม้มปากเพื่อแก้อาการเขิน แต่ทว่ามันกลับยั่วยุอารมณ์กามของอีกฝ่ายให้พลุ่งพล่าน จนเผลอกระทุ้งเสยเข้าไปเต็มแรง“อ้ะ จ...จุก”“เจ็บเหรอ”ร่างกำยำถามอย่างเป็นกังวล แต่ก็ยังกระแทกกระทั้นไม่ยั้งแรงเช่นเดิม“ไม่เจ็บค่ะ แค่จุกเฉย ๆ” เธอเอ่ยพลางลูบตรงท้องน้อยที่ปวดมวนวาบเป็นที ๆ“ให้ฉันทำเบากว่านี้ไหม”“ไม่เอาค่ะ ทำแรง ๆ แบบนี้แหละ หนูชอบ”รอยยิ้มเสือร้ายปรากฏบนใบหน้าชายวัยกลางคนทันที ก่อนจะตอกอัดเสยแกนกายอย่างไม่ปรานี ทำเอาหญิงสาวนิ่วหน้าด้วยความจุกเสียว“อ่าส์ ตรงนั้นแหละค่ะ เสียวสุด ๆ ไปเลย”สะโพกสอบโถมแรงอัดกระแทกเข้าใส่ไม่บันยะบันยัง ทำเอาสองเต้ากลมกลึงเด้งกระเพื่อมตามแรงโน้มถ่วง อีกทั้งเรียวขาสวยทั้งสองข้างสั่นสะท้านจนแทบจะยืนทรงตัวไม่ได้เต็มฝ่าเท้า แขนแกร่งจึงยกขาข้างหนึ่งของหญิงสาวมาประคองไว้ หวังจะช่วยทำให้เธอทรงตัวได้ง่ายขึ้น แต่ทว่ามันกลับทำให้ท่อนลำเนื้อทะลวงเข้าไปในตัวของอีกคนลึกกว่าเดิม“อ้าาาส์ ล...ลึก ลึกจังเลยค่ะเสี่ย”“พิงผนังไว้ดี ๆ นะ ฉันจะใส่เต็มแรงแล้ว”“กรี๊ดดดด อ่าห์”นภ
“วันนี้พอแค่นี้ก่อนก็ได้” เสียงทุ้มเอ่ยบอกเจ้าของใบหน้าสอางค์ท่ามกลางความเงียบในห้องทำงานของเขา“ไม่เป็นไรค่ะ เหลืออีกนิดเดียวก็จะเสร็จแล้ว” นัยน์ตาดำขลับฉายแววแน่วแน่ขะมักเขม้นกับงานเอกสารตรงหน้าพลางเอ่ย“เธอนั่งทำมาทั้งวันแล้วนะ ไม่เหนื่อยบ้างเหรอ”“เสี่ยก็ทำมาทั้งวันเหมือนกัน ไม่เห็นเสี่ยจะเหนื่อยเลยนี่คะ” เธอเอ่ยย้อนตาใส แต่ทว่าก็ไม่ได้ทำให้คนแก่กว่ารู้สึกเดือดดาล“ก็ฉันทำจนชินไปแล้ว แต่เธอเพิ่งจะทำเองนะ”นภัสสรมาช่วยงานเอกสารและตัวเลขให้ชัชวาลได้เกือบสองสัปดาห์แล้ว แม้ว่าเธอจะไม่เคยมีประสบการณ์งานด้านนี้มาก่อน แต่ทว่าความรู้จากการเรียนจบครูคณิตฯ ระดับมัธยมศึกษามาก่อนก็พอจะช่วยเธออยู่ได้บ้าง ถึงจะช่วยไม่ได้มากนัก แต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกโง่งมจนเกินไป“ถึงจะเพิ่งทำ แต่สรก็ทำได้นะคะ” เธอยังคงมุ่งมั่น“ก็รู้ แต่มันก็ต้องทำแต่พอดีไง ทำเยอะเกินไป เธอจะล้าเอาได้ เดี๋ยวจะเหนื่อยจนไม่ได้ทำอย่างอื่น” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นบนใบหน้าของชายมีอายุ“เสี่ยหมายถึงทำอะไรคะ” หญิงสาวเอียงคอถามชัชวาลเคลื่อนกายเข้ามาใกล้เธอก่อนจะโน้มใบหน้าและกระซิบข้างหูหญิงสาวอย่างแผ่วเบา“ก็ทำแบบที่เธอร้องครางเสีย
นภัสสรแหวกกางเกงในออก เพื่อเปิดทางให้หลืบสวาทได้ครอบครองความใหญ่โตได้ดั่งใจปรารถนา เธอจับแกนลำเนื้อให้ส่วนหัวถูไถกับปากถ้ำที่ชุ่มน้ำคลึงเคล้ากระตุ้นอารมณ์กามให้พลุ่งพล่าน พลางเชิดหน้าครางเสียงหวานอย่างระมัดระวัง“อื้ออออ อ่าส์ เสียวจัง”“เธอลองเอามันเขี่ยเม็ดเธอดู”“ไม่เอาค่ะ หนูอยากให้เสี่ยเขี่ยเม็ดให้หนูมากกว่า เสี่ยทำให้หน่อยได้ไหมคะ” แพขนตาสวยกะพริบถี่พลางทำเสียงหวานออดอ้อน“เสี่ยเขี่ยให้ตอนหนูขย่มดีไหมคะ”“ก็ได้ค่ะ”เธอทำปากมุ่ยก่อนกดสะโพกให้ท่อนลำเอ็นเสือกไสเข้าไปจนสุดลำ ความจุกเสียวที่คุ้นเคยแผ่ซ่านไปถึงท้องน้อย ทำเอาเธออ้าปากค้างอย่างห้ามไม่อยู่ คนโตกว่านึกสนุกจึงแหย่นิ้วชี้เข้าไปให้เธอดูดอม หญิงสาวไล้เลียพลางดูดดึงนิ้วของอีกฝ่ายอย่างยั่วยวนไม่ต่างจากที่เธอทำกับแกนกายของเขา ทำเอาหัวใจของชายหนุ่มวัยสี่สิบแปดเต้นรัวเร็วจนแทบจะระเบิดออกมา“หน้าเธอโคตรยั่วเลย เห็นแล้วยิ่งมีอารมณ์”“สรทำให้เสี่ยมีอารมณ์ได้มากกว่านี้อีกนะคะ” หญิงสาวเอ่ยขณะที่สะโพกยังเคลื่อนขยับผ่อนหนักผ่อนเบาเอาแต่ใจตนเอง“อย่ายั่วมากไปนะ เดี๋ยวฉันหัวใจวายก่อน”“สรเพิ่งโสดได้ไม่ถึงวัน เสี่ยก็จะหนีสรไปแล้วเหรอ” เธอเอ
เขายิ้มมุมปากก่อนจะขับเข้าไปในซอย ซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้และซากอาคารรกร้างที่ไร้ผู้คนพลุกพล่าน แม้แต่สิ่งมีชีวิตตัวเล็กอื่น ๆ เธอก็ไม่พบเห็น“เสี่ยคะ?”“ว่าไง” เธอถามขณะที่รถคันหรูหยุดการเคลื่อนไหว แต่ทว่าเครื่องยนต์ยังคงทำงานอยู่“เราจะทำกันที่นี่เหรอคะ” เธอขมวดคิ้วเป็นปม พลางชี้นิ้วไปยังพงหญ้าและบ้านโทรม ๆ ที่อยู่เบื้องหน้าไม่เกินห้าร้อยเมตร“ที่จริงตั้งใจจะทำบนรถ แต่ถ้าเธออยากลองเอาท์ดอร์แบบบ้านร้าง ฉันก็ไม่ขัดนะ”เขาพูดเล่น แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่เล่นด้วย นภัสสรทำหน้าวิตกพลางกุมมือที่สั่นงันงกไว้บนตัก“ฉันพูดเล่น ใครมันจะไปทำกับเธอในที่แบบนั้น” เขาว่าก่อนจะลูบศีรษะคนตัวเล็กอย่างปลอบโยน“สรตกใจหมดเลยค่ะ”“หรือเธออยากให้ฉันเปิดโรงแรม” เขาเสนอ“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ถ้าเป็นในรถ สรก็พอได้อยู่”“เธอเคยลองบนรถแล้วเหรอ”“ยังไม่เคยหรอกค่ะ ถ้าครั้งนี้กับเสี่ยก็ครั้งแรกค่ะ” ชายหนุ่มลอบยิ้มก่อนจะขยับเบาะและปรับที่นั่งให้เอนไปด้านหลัง“ฉันเปิดซิงเธอเหรอเนี่ย” เขายิ้มขำพลางรูดซิปและหล่นกางเกงลงต่ำ“เปิดซิงอะไรกันคะ อย่างสรเนี่ยน่าจะเลยคำว่าซิงไปนานแล้วค่ะ”นภัสสรเปลี่ยนท่านั่งมาคุกเข่าข้างคนขับ ก่อ
ดนตรีจากวิทยุเปิดคลอผสานกับเสียงเครื่องปรับอากาศภายในรถยนต์เบา ๆ ร่างเพรียวลมเหม่อมองไปนอกหน้าต่าง พลางทอดสายตาไปอย่างไร้จุดหมายด้วยจิตใจที่ไร้อารมณ์และความรู้สึก“เธอจะแวะไหนไหม” เสียงทุ้มเอ่ยขัดขึ้นทลายความเงียบที่ก่อตัวตั้งแต่พวกเขาขึ้นรถมาได้สักพัก“ไม่ค่ะ กลับบ้านเลยก็ได้ค่ะเสี่ย” เธอเอ่ยพลางยิ้มไม่เต็มแก้มให้สารถี“เป็นอะไรหรือเปล่า ฉันเห็นเธอเงียบตั้งแต่ออกมาแล้ว”“สรไม่ได้เป็นอะไรค่ะ”เธอเอ่ยพลางส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะว่าต่อ“สรแค่รู้สึกว่างเปล่าค่ะ มันรู้สึกไม่มีอะไรอยู่ในนี้เลย ทั้งความดีใจและความเสียใจ มันไม่มีอะไรเลย” เจ้าของเสียงหวานสั่นเครือขณะกุมหน้าอกข้างซ้าย“เพราะการเลิกรากับคนรักมันไม่ใช่เรื่องน่ายินดี เธอเลยไม่รู้สึกถึงมัน” แต่ทว่าสำหรับชัชวาลแล้วมันกลับเป็นเรื่องราวดี ๆ ที่เขาปรารถนาตั้งแต่พบเจอนภัสสร“และอีกอย่างเพราะเธอเสียใจไปแล้วล่ะมั้งก่อนหน้านี้ เวลาที่ต้องหย่าจริง ๆ ก็เลยไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรขนาดนั้น”“คงงั้นมั้งคะ” เธอเอ่ยยิ้ม ๆ“ถ้าเธอไม่รู้สึกอะไรก็ดีแล้ว ปล่อยใจให้มันเป็นไปอย่างที่มันจะเป็น ไม่ต้องพยายามดีใจหรือเสียใจ ไม่ต้องพยายามยัดเยียดให้ตัวเองรู้สึ
“แค่รู้สึกดีเท่านี้ก็พอแล้ว”เพราะความรักมันก็ล้วนแต่เกิดจากความรู้สึกดีทั้งนั้นแหละว่าจบริมฝีปากหนาก็แตะแนบสัมผัสเรียวปากสีเชอร์รี่แผ่วเบา คนตัวเล็กเผยอรับจูบด้วยความยินดี ก่อนจะโถมตัวดื่มด่ำและลุกไล้มอบสัมผัสตามอารมณ์ปรารถนาหน้าอกนิ่มถูไถคลึงเคล้าอกแกร่งแนบชิดสนิทสนม ในขณะที่ท่อนแข็งแกร่งด้านล่างไล่เลียเฉียดสัมผัสขาอ่อนเนียนไปมา ทำเอาหัวใจของหญิงสาววาบหวามและเนื้อตัวสั่นระริกจมูกโด่งอันนิดของใบหน้าหวานลุกล้ำดอมดมซอกคอแกร่งของชายหนุ่มอย่างโหยหา ก่อนจะเลื่อนลงต่ำพรมจูบส่วนหัวแดงก่ำอย่างรักใคร่ เธอแลบลิ้นยาวกวาดเลียท่อนเอ็นตั้งแต่โคนไปจนถึงปลาย พลางทำสายตาเย้ายั่วจนคนโตกว่าใจสั่นระรัวแทบระเบิด“ของฉันมันอร่อยขนาดไหนเลยเหรอ เธอถึงได้ทำหน้าเหมือนอยากจะกินมันขนาดนั้น” เขาแซวพลางยิ้มเจ้าเล่ห์“ใช่ค่ะ มันทั้งน่าอร่อยและน่าอมมากเลยค่ะ”ว่าจบปากบางก็ครอบแกนกายเข้าไปทันที ทำเอาชายวัยกลางคนเสียววาบโดยไม่ทันตั้งตัว“อ้ะ เธอนี่มันใจร้อนจริง ๆ” เขายิ้มขำเธอผงกหัวขึ้นลงพลางใช้มือช่วยถูรูดส่วนที่เหลือเป็นจังหวะ จนเกิดเสียงลามกดังสนั่นคลอไปกับเสียงกระเพื่อมของน้ำในอ่าง“อ่อกๆๆๆๆ”“อ่าส์ พอก่อน เด