หญิงสาวในชุดเดรสรัดรูปสีกรมท่า ดูสวยสง่าเข้ากับอายุวัยสามสิบของเธอ ใครที่ได้เห็นต่างก็ต้องลงความเห็นว่าเธอนั้นดูดีไม่ต่างจากภรรยาเศรษฐีผู้มีอันจะกิน แต่ใครจะรู้ว่าแท้จริงแล้วเธอกลับเป็นลูกหนี้ตกอับที่อาจจะไม่มีที่ให้ซุกหัวนอน
“สร แกลองเช็กดูก่อนแล้วกันว่าครบไหม”
หญิงสาวผมสั้นนัยน์ตาเรียวยื่นซองสีน้ำตาล ที่ข้างในเต็มไปด้วยเงินปึกใหญ่ส่งให้เพื่อนสาวคนสนิท
“ที่จริงฉันก็เช็กจากธนาคารแล้วรอบหนึ่ง แต่เพื่อความชัวร์เช็กอีกรอบก็น่าจะดี”
นภัสสรทำเพียงเปิดดูเงินในซองก่อนจะยัดมันใส่กระเป๋าสะพายข้าง
“ไม่เป็นไร ฉันว่าแกน่าจะนับเรียบร้อยดีแล้วแหละ”
“อืม โอเค”
“ขอบใจแกมาก ๆ นะโส ถ้าไม่มีแกฉันคงแย่” ดวงตากลมโตเครือไปด้วยหยาดน้ำตา
“ไม่เป็นไรเลยแก เพื่อนกันมีไรก็ต้องช่วยกันอยู่แล้ว” โสรยาตบบ่านภัสสรเบา ๆ เพื่อให้เพื่อนสนิทคลายกังวล
“ไว้ฉันมีเมื่อไหร่จะรีบมาใช้คืนแกเลยนะ”
“ไม่ได้จะว่าอย่างนั้นอย่างนี้นะ แต่เงินห้าแสนมันจะพอเหรอสร ผัวแกเป็นหนี้ตั้งยี่สิบล้านเลยนะ มันยังไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นต์ของยอดทั้งหมดเลยอ่ะ” น้ำเสียงหวานเจือด้วยความเป็นกังวล
“มันก็ไม่พอหรอก แต่มันก็ดีกว่าที่ฉันต้องไปต่อรองกับพวกเจ้าหนี้มือเปล่า อย่างน้อยก็ให้เขาเห็นว่าฉันพยายามหาเงินมาใช้หนี้ เผื่อเขาจะสงสารยอมผ่อนผันให้ฉันบ้าง” เธอพูดด้วยเสียงเหนื่อยอ่อนก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ก็หวังให้เป็นอย่างนั้นแล้วกัน”
“งั้นฉันไปก่อนนะโส”
“เรื่องเป็นยังไงโทรมาบอกฉันด้วยนะ”
“อืม เดี๋ยวบอกนะ”
หลังจากร่ำลาเพื่อนสนิทเป็นที่เรียบร้อย นภัสสรก็นั่งแท็กซี่เพื่อเดินทางไปยังบ้านของเจ้าหนี้ที่เธอนัดไว้ เพื่อขอเจรจาประณอมหนี้
แต่จากชื่อเสียงเรียงนามของ 'เสี่ยชัช' หรือ 'ชัชวาล' ที่เธอได้ไปถามไถ่คนที่รู้จักเขามา ต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวกันว่าเขานั้นเป็นคนเด็ดขาดและไม่มีความปรานีให้ใครหน้าไหนทั้งนั้น โดยเฉพาะกับลูกหนี้ เมื่อได้ยินเช่นนี้ยิ่งทำให้เธอวิตกกว่าเดิมเป็นเท่าตัว แถมยังต้องมาพบเสี่ยชัชคนเดียวอีก เพราะณรงค์ต้องอยู่ช่วยงานเจ้านายเก็บค่าแผงที่ตลาด ทำให้ไม่สามารถปลีกตัวมากับเธอได้
ไม่นานนักรถก็มาจอดอยู่หน้าบ้านหลังใหญ่สุดในย่านคนมีสตางค์ ที่ตั้งอยู่ท้ายสุดของหมู่บ้าน แค่รั้วบ้านยังดูราคาแพงมากกว่าหอพักทั้งหลังที่เธอเช่าอยู่เสียอีก ทำเอานภัสสรรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจอย่างบอกไม่ถูก
“มาหาใคร”
ชายฉกรรจ์ในชุดสูทสีดำเอ่ยถาม เมื่อเห็นเธอยืนด่อม ๆ มอง ๆ หน้าบ้านอยู่สักพักใหญ่
“ฉันชื่อนภัสสร มาพบคุณชัชวาลค่ะ” เธอยิ้มแย้มอย่างเป็นมิตร
“อ่อ เมียณรงค์ใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ”
“เข้ามา ๆ เสี่ยรออยู่ด้านในแล้ว" เขาพูดพลางเปิดประตูให้เธอเข้าไปด้านใน
“ค่ะ”
เธอเดินตามหลังบอดี้การ์ดเข้าไปในบ้าน พลางสายตาสอดส่องทั่วบริเวณ รวมทั้งข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ทุกอย่างล้วนสวยสะดุดตาและหรูหราอย่างที่นภัสสรเคยวาดฝันไว้ หากวันหนึ่งเธอมีบ้านแบบนี้บ้างก็คงจะดี
“เสี่ยครับ เมียณรงค์มาแล้วครับ” ชายฉกรรจ์ตะโกนบอกคนด้านใน
“เข้ามาได้”
บอดี้การ์ดเปิดประตูพลางทำไม้ทำมือให้เธอเดินเข้าไป เรียวขาสวยก้าวเดินอย่างระมัดระวัง ทั้งรู้สึกกังวล กลัว และตื่นเต้น เพราะไม่รู้เลยว่าคนตรงหน้าจะเป็นเช่นไร เขาจะเป็นคนโหดร้ายอย่างที่ใคร ๆ ต่างพูดกันไหมนะ
ร่างกำยำเอนพิงโซฟาขณะพินิจมองหญิงสาวที่เข้ามาใหม่ ทรวดทรงองค์เอวสวยงามอย่างกับภาพวาด ดวงตากลมโตแวววาวราวไข่มุกอันดามัน หน้าตาดีสมคำร่ำลือ
ไม่น่าแต่งงานกับไอ้ผีพนันนั่นเลย
“สวัสดีค่ะคุณชัชวาล” นภัสสรยกมือไหว้
“เสี่ยชัช” เสียงทุ้มเอ่ย
“คะ?”
“เรียกฉันว่าเสี่ยชัช”
“ค่ะ เสี่ยชัช”
เธอกะพริบตาถี่ รู้สึกประหม่ายิ่งกว่าเดิมเมื่อต้องอยู่ใกล้เจ้าหนี้ ตอนแรกเธอเข้าใจว่าชัชวาลจะดูมีอายุมากกว่านี้ แต่ทว่าเมื่อเจอตัวจริงกลับดูดีคล้ายชายหนุ่มวัยสามสิบปลายเสียมากกว่า
“เธอมาที่นี่มีอะไรจะคุยกับฉัน” ชัชวาลเอ่ยเข้าเรื่อง
“สรจะมาขอผ่อนผันหนี้ค่ะ” ดวงตาดำขลับมุ่งมั่นแม้นข้างในจะสั่นกลัวอยู่ก็ตาม
“จะผ่อนกี่งวดดีละ ตั้งยี่สิบล้านเลยนะ”
“ถ้าสิบปี ปีละสองล้าน พอจะได้ไหมคะ” เธอเสนออย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
“สิบปี? เธอว่ามันไม่นานไปหน่อยเหรอ” ดวงตาคมมองคนตัวเล็กอย่างไม่วางตา
“นานค่ะ แต่สรกับพี่รงค์เราไหวเท่านี้จริง ๆ” หญิงสาวเอ่ยก่อนจะหยิบซองสีน้ำตาลในกระเป๋าส่งให้คนตรงหน้า
“อะไร”
“เงินงวดแรกค่ะ ตอนนี้สรพอจะหามาให้เสี่ยได้เท่านี้ แล้วเดี๋ยวสรจะหามาจ่ายเพิ่มนะคะ”
“ในซองนี้เท่าไหร่”
“ห้าแสนค่ะ”
เธอพูดตะกุกตะกักพลางนั่งสั่นเทิ้ม จนต้องกุมมือทั้งสองข้างไว้บนตักเพื่อให้ตนดูเป็นปกติ เธอรู้ดีว่าเงินมันน้อยเกินไป และอาจทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจได้
“แค่งวดแรกเธอยังจ่ายให้ฉันไม่ครบเลย ทั้งที่มันควรจะเป็นสองล้านด้วยซ้ำ”
สายตาชายหนุ่มยังคงเรียบนิ่ง จนนภัสสรแทบไม่นั่งติด
“อีกล้านห้า สรจะพยายามหามาจ่ายให้ได้เร็วที่สุดนะคะ" เธอเอ่ยอย่างแข็งขัน ทำใจดีสู้เสือใหญ่วัยสี่สิบแปด
“เร็วที่สุดของเธอมันเมื่อไหร่”
“เอ่อ..." หญิงสาวอึกอัก
“เร็วที่สุดสำหรับฉันคือตอนนี้”
ดวงตาดุดันเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ ทำเอาหญิงสาวเสียวสันหลังวาบ
“แต่ว่าเธอคงจะหามาให้ฉันตอนนี้ไม่ได้หรอกใช่ไหม”
หญิงสาวส่ายหน้าเป็นคำตอบ
“งั้นเธอก็จ่ายหนี้มาเป็นอย่างอื่น”
นภัสสรคิ้วขมวดอย่างไม่เข้าใจว่าอีกคนหมายถึงอะไร
“ร่างกายของเธอ เอามันมาใช้หนี้แทนผัวเธอสิ นภัสสร”
“ร่างกายของเธอ เอามันมาใช้หนี้แทนผัวเธอสิ นภัสสร” รอยยิ้มมีเลศนัยประดับบนใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มนภัสสรตะลึงงันไปทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่เจ้าหนี้บอกตน ไม่คิดว่าชีวิตต้องมาอยู่ในจุดที่ตกต่ำเช่นนี้ ต้องเอาตัวเข้าแลกเพื่อใช้หนี้ให้สามี เธอจะทำเช่นนั้นได้อย่างไรกัน ไม่เท่ากับว่าเป็นการนอกใจคนที่ตนรักหรอกหรือ ถึงจะทำเพื่ออีกคนก็เถอะ“ยังไง ไม่สนใจหน่อยเหรอ”“สรว่าสรคงทำแบบนั้นไม่ได้หรอกค่ะ”“มาเป็นนางบำเรอให้ฉันหนึ่งปี แล้วหนี้ทั้งหมดของผัวเธอฉันจะยกให้”ดวงตากลมโตเบิกโพลงเมื่อได้ยินข้อเสนอ ความลังเลก่อตัวขึ้นโดยพลัน จากที่ต้องทำงานหาเงินยี่สิบล้านมาจ่ายให้หมดภายในสิบปี แต่เรื่องทั้งหมดจะจบสิ้นภายในปีเดียวเพียงแค่เธอตอบตกลงเป็นนางบำเรอของเสี่ยชัช ข้อเสนอนี้ทำเอาเธอคิดหนักอยู่ไม่น้อย“ยังไม่ต้องตอบตกลงตอนนี้ก็ได้ ฉันจะให้เวลาเธอไปคิดและให้คำตอบภายในเดือนนี้ ถ้าเธอไม่ตอบตกลงก็หาเงินยี่สิบล้านมาจ่ายฉันแล้วกัน”“แล้วเงินห้าแสนล่ะคะ ไม่หักจากยอดยี่สิบล้านหรอกหรือ” นภัสสรเอ่ยท้วงพลางย่นหน้าผาก“อันนี้มันแค่ดอกเบี้ย”ความวาบโหวงเกิดขึ้นในอก ตั้งใจว่าเงินห้าแสนจะสามารถลดหนี้ทั้งหมดไปได้บ้าง แต่มั
“ไม่สิ จริง ๆ เธอไม่มีทางเลือกเลยต่างหาก”ดวงตากลมโตสั่นไหว ความรู้สึกผิดก่อขึ้นในใจ ไม่ว่าจะอย่างไรเธอก็ต้องช่วยสามีให้ได้ ครอบครัวของเธอจะต้องผ่านเรื่องราวเลวร้ายนี้ไปให้ได้มือเรียวสวยจับมือหนาที่ประคองแก้มตนออก ก่อนจะย้ายมันมาวางสัมผัสตรงเนินอกของตน พลางจับจ้องคนตรงหน้าคล้ายจะสื่อความนัยว่าเธอพร้อมจะปรนเปรอให้เขาเสร็จสมอย่างที่อีกคนต้องการชัชวาลคลี่ยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะทาบทับริมฝีปากบางสีเชอร์รี่ เขาจูบสัมผัสแผ่วเบาเพื่อไม่ให้หญิงสาวตื่นตระหนก ใบหน้าเนียนนวลหลับตาพริ้มคล้ายตกอยู่ในห้วงฝัน เคลิบเคลิ้มไปกับรสหวานที่ไม่ได้สมัครใจรับอย่างเต็มร้อยมือหนาเลื่อนต่ำลงไปยังช่วงเอวของหญิงสาว ก่อนจะลูบไล้สัมผัสตรงสะโพกผายแน่น ที่ยั่วยุอารมณ์ชายหนุ่มให้พุ่งทะยานขึ้น จนอยากจับร่างเพรียวสวยกระแทกกระทั้นให้หนำใจความรู้สึกแปลกใหม่ที่ได้รับจากชายแปลกหน้า ทำเอานภัสสรเสียววาบไปทั้งตัว มันทั้งหวามไหวและตื่นเต้น ทำเธอรู้สึกดีอย่างไม่บอกถูก ดีจนทวีความรู้สึกผิดในใจมากกว่าเดิมตอนนี้แม้ว่าร่างกายจะโดนชายอื่นล่วงล้ำ แต่สิ่งหนึ่งที่เธอระลึกไว้เสมอและเตือนใจตัวเองไว้เป็นอย่างดี ว่ามีเพียงสามีเท่านั้นที่เป
หลังจากวันที่นภัสสรกลับมาจากบ้านของชัชวาล ดูเหมือนว่าข้อเสนอของอีกฝ่ายจะทำให้เธอเครียดและหนักใจมากกว่าเดิม เธอเล่าเรื่องข้อเสนอต่าง ๆ ให้ณรงค์ได้ทราบทั้งหมด ยกเว้นเสียแต่การจ่ายดอกเบี้ย เธอไม่ได้บอกเขาทว่าแค่เท่านั้นมันก็มากพอจะทำให้ผู้เป็นสามีโกรธจนควันออกหู จนสบถด่าเจ้าหนี้อย่างไม่ปรานี แต่มันกลับทำให้หัวใจใกล้โรยราของนภัสสรกลับมาชุ่มชื่นได้อีกครั้ง อย่างน้อยเธอก็ได้รู้ว่าอีกฝ่ายรักและหวงแหนเธอมากขนาดไหนแกร๊ก ~ ~เสียงประตูห้องเช่าเปิดออก ณรงค์กลับมาหลังจากหายออกจากบ้านไปครึ่งค่อนวัน เขาหัวเสียจนเลือดขึ้นหน้า จึงขอตัวไปสงบสติอารมณ์ที่อื่น เวลานี้คงจะดีขึ้นมากแล้ว ทำให้เขากลับมาหาผู้เป็นภรรยาได้เสียที“พี่รงค์ กินข้าวหรือยัง” เธอเอ่ยถามสามีอย่างที่ทำเป็นปกติ“พี่กินมาแล้ว”สีหน้าสามีกังวลอย่างเห็นได้ชัดจนหญิงสาวอดห่วงไม่ได้“พี่รงค์เป็นอะไรหรือเปล่า สีหน้าไม่ดีเลย”“ก็เรื่องเดิมนั่นแหละ” เธอแน่นิ่งไปทันทีเพราะรู้ดีว่าคงไม่พ้นเรื่องหนี้สินเช่นเคย“ไม่เป็นไรนะพี่ ยังเหลืออีกห้าวัน ฉันว่-”ยังไม่ทันที่ภรรยาจะพูดจบ ผู้เป็นสามีก็เอ่ยขัดขึ้น“เรื่องข้อเสนอ พี่ว่าตกลงตามนั้นก็ได้นะ” เขาเอ
เพราะคำว่า ‘รัก’ ที่สามีพร่ำบอกอยู่เสมอ ทำให้นภัสสรมาที่นี่ มาที่บ้านของเจ้าหนี้ ผู้ต้องการให้เธอเป็นนางบำเรอแลกกับการใช้หนี้ของสามีที่เธอไม่ได้มีส่วนก่อ ความขมขื่นที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี้ ทำเอาเธอปวดร้าวแทบขาดใจ ไม่คิดว่าสุดท้ายแล้วชีวิตจะมาลงเอยเช่นนี้ แม้จะเตรียมใจไว้ว่าหากสุดท้ายหาเงินมาจ่ายงวดแรกไม่ได้ก็อาจจะยอมตอบตกลง แต่ทว่าณรงค์กลับออกปากให้เธอทำตามข้อเสนอ ทั้งที่ยังไม่ได้พยายามหาทางรอดอย่างถึงที่สุดมันก็แน่อยู่แล้ว จะพยายามหาทางอื่นไปให้เหนื่อยไปทำไม ในเมื่อให้เมียอย่างเธอเอาตัวเข้าแลกก็สิ้นเรื่อง“หนูนภัสสรเชิญทางนี้เลยค่ะ” ป้าแม่บ้านเอ่ยเรียกให้เธอไปพบเจ้าของบ้าน“ค่ะป้า”เธอค้อมหัวเล็กน้อย ทำเอาป้าแม่บ้านอดยิ้มไม่ได้กับท่าทางนอบน้อมของหญิงสาว“หนูนภัสสรทานอะไรมาหรือยังคะ”“ทานมานิดหน่อยแล้วค่ะป้า”“แล้วอิ่มไหมคะเนี่ย ทานอะไรเพิ่มไหมคะ เดี๋ยวป้าเตรียมไว้ให้พร้อมคุณชัชเลย”หญิงวัยเจ็ดสิบเอ่ยอย่างอ่อนโยน ทำเอานภัสสรรู้สึกเหมือนกับได้รับการปลอบประโลม แม้จะเป็นคำพูดเพียงไม่กี่คำจากหญิงแปลกหน้า แต่มันกลับแสดงความเป็นห่วงเป็นใยจนเธอรู้สึกอบอุ่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูก“ไม่เป็นไรค่ะ
“ไหน ๆ วันนี้เธอก็มาแล้ว จ่ายหนี้งวดแรกให้ฉันสักหน่อยดีไหม”นภัสสรเตรียมใจแค่มาให้คำตอบเรื่องข้อเสนอเท่านั้น ไม่คิดว่าเสี่ยชัชจะใจร้อน ต้องการทำเรื่องอย่างว่ากับเธอทันทีหลังจากพูดคุยเรื่องข้อตกลงเสร็จดวงตาเม็ดลำไยเหลือบมองไปมาพลางอึกอักไม่ยอมพูดอะไร ทำให้ชัชวาลต้องไล่คนรับใช้ให้ออกไปด้านนอกทั้งหมด เผื่ออีกฝ่ายจะประหม่าน้อยลง“จะวันนี้หรือวันไหน เธอก็ต้องให้ฉันเอาอยู่ดี แล้วเธอจะยึกยักไม่ยอมทำไมล่ะ” เจ้าหนี้วัยสี่สิบปลายยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์“สรแค่ตกใจนิดนึงค่ะ มาวันนี้ไม่ได้คิดว่าจะต้องเริ่มสัญญาเลย” เธอพูดพลางเม้มปากอย่างเคอะเขิน“จ่ายดอกเบี้ยครั้งก่อนมันไม่ได้ทำให้เธอรู้อะไรเลยเหรอ”“รู้อะไรคะ” นภัสสรเลิกคิ้วถาม“เธอไม่รู้เลยเหรอ ว่าฉันต้องการเธอมากแค่ไหน”นัยน์ตานุ่มลึกเอ่ยเสียงเข้ม ทำนภัสสรร้อนวาบในอกโดยพลัน“มานี่สิ” ชัชวาลสั่งพลางทำมือกระดิกนิ้วเรียกหญิงสาวสองขาเรียวกำลังจะก้าวตรงไปหาเจ้าของบ้าน แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินอีกคนเอ่ยบอก“ถอดชุดเธอออก แล้วคลานเข่าบนโต๊ะมาหาฉัน”นภัสสรผงะเล็กน้อย แต่ก็ค่อย ๆ ถอดกระโปรงทรงแคบออกโดยไม่ได้ปฏิเสธอะไรแม้นจะไม่เต็มใจนัก เธอไม่รู้ว่าชัชวา
ว่าจบชัชวาลก็ประกบริมฝีปากไปยังอวัยวะเดียวกันของคนตัวเล็ก เนิบนาบในช่วงแรกก่อนจะรุนแรงและหนักหน่วงยิ่งขึ้น หญิงสาวปล่อยให้อีกฝ่ายใช้ลิ้นเกี่ยวกระหวัดลุกล้ำเข้ามามอบความหวานแก่ตนด้วยความเต็มใจมือสากไล่สัมผัสไปตามเนื้อเนียนสวย จุดไฟปรารถนาในตัวเธอให้ติดขึ้นมา ดูเหมือนว่ากิจกรรมตรงหน้าจะไม่ได้เป็นเพียงแค่การแสดงอีกต่อไป แต่กลับกลายเป็นการกระทำที่มาจากอารมณ์และความรู้สึกจากห้วงแห่งความต้องการของเธอจริง ๆจมูกเป็นสันคมซุกไซ้ดอมดมซอกคอระหง ก่อนจะพรมจูบผิวเนียนสวยอย่างหลงใหล ราวกับโหมไฟราคะให้ลุกโชน ร่างเพรียวลมจัดการถอดอาภรณ์ของชายหนุ่มออกไปให้พ้นทาง เผยให้เห็นกล้ามเนื้อสวยที่บ่งบอกได้ว่าชายวัยสี่สิบปลายดูแลตัวเองดีขนาดไหนในขณะที่ชัชวาลมัวเมาอยู่กับสองเต้าลูกโตโดยไม่มีทีท่าจะถอนตัวออกจากมันได้ มือเรียวสวยก็ไล่สัมผัสกล้ามอกแน่นก่อนจะเลื่อนลงต่ำลูบไล้ตรงหน้าท้องลอน“กล้ามเสี่ยแน่นจังเลยค่ะ” ใบหน้าละมุนเอ่ยเสียงหวาน“ชอบไหมล่ะ”“ชอบค่ะ”“แล้วชอบมากกว่าของผัวเธอหรือเปล่า”นภัสสรผงะไปเล็กน้อยกับคำถามของชัชวาล ไม่ใช่ว่าเธอไม่สามารถหาคำตอบได้ แต่ทว่ามันกลับแทงใจเธอให้รู้สึกผิดบาป ที่เริ่มหวั่นไห
ว่าจบชัชวาลก็จัดการปลดเปลื้องท่อนล่างของตนออก แล้วจับท่อนแข็งเขื่องเสียดสีตรงกลีบดอกไม้ของหญิงสาว น้ำรักพรั่งพรูไม่ขาดสายจากช่องสวาทโอบชโลมไปทั่วแกนลำ ทำให้ชายหนุ่มไม่ต้องสรรหาตัวช่วยในการสอดใส่ส่วนหัวถูวนตรงปากทาง ก่อนที่แท่งเนื้อเอ็นทั้งลำจะสอดแทรกเข้าไปด้านในจนสุดทาง หญิงสาวนิ่วหน้าโดยพลันเมื่อความจุกเสียวแล่นแปลบขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัว ความใหญ่โตที่นภัสสรไม่เคยสัมผัส ทำให้เธอบิดเร่าไปมาราวกับหญิงสาวแรกรัก ที่เพิ่งเคยเจอประสบการณ์สยิวครั้งแรกสะโพกสอบเริ่มขยับเข้าออกโดยไม่ได้สนว่าความเจ็บปวดกำลังเล่นงานเธอ ความรู้สึกเจ็บแปลบตรงช่วงล่างราวกับว่าน้องสาวของเธอกำลังโดนฉีกเป็นชิ้น ๆ กำลังแผ่กระจายไปทั่วทุกส่วนแต่ทว่าเมื่อผ่านไปเพียงชั่วครู่หนึ่ง ความเจ็บปวดนั้นได้แปรเปลี่ยนเป็นความซ่านเสียว เนื้อตัวชาวาบเป็นส่วน ๆ ผสานกับความวาบไหวเป็นช่วง ๆ เร้าให้เธอเริ่มสัมผัสได้ถึงความสุขสมที่ไหลผ่านมาตามความแข็งแรงที่กระแทกกระทั้นเธอ“อื้ออออ ส...เสียว”“ครางชื่อฉัน”“เสี่ยชัชขาาา อ้ะ”เจ้าของชื่อโถมแรงใส่คนตัวเล็กทันที เมื่อได้ยินอีกคนครางเรียกชื่อตน เสียงหวานกระเส่าของนภัสสรกระตุ้นอารมณ์ของเขาให
“หนูสร ให้ป้าช่วยไหมคะ” หญิงสูงวัยเอ่ยถาม พลางกุลีกุจอช่วยเธอยกกระเป๋า“ไม่เป็นไรค่ะป้าสาย เดี๋ยวสรยกเองก็ได้ค่ะ” เธอเอ่ยเสียงหวานพลางยิ้มละมุนนภัสสรเก็บเสื้อผ้าและข้าวของต่าง ๆ ย้ายมาอยู่ที่บ้านชัชวาลตามคำสั่งของเขา ที่จริงเธอไม่ได้อยากอยู่ที่นี่เท่าไหร่นัก เพราะเธอต้องการความเป็นส่วนตัว อีกทั้งอยากใช้เวลาอยู่กับสามีมากกว่า แต่เมื่อเจ้าหนี้ให้เหตุผลว่าเธอต้องทำหน้าที่นางบำเรอให้คุ้มกับหนี้ยี่สิบล้าน นั่นจึงทำให้นภัสสรต้องย้ายมาอยู่ใต้ชายคาเดียวกับเจ้าหนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้“ไอ้ชัย ไอ้มิ่ง มาช่วยหนูสรยกของเลยเร็ว ๆ” ป้าสายตะโกนเรียกคนรับใช้แถวนั้นให้มาช่วยเธอ“ไม่ต้องก็ได้ค่ะป้าสาย ของหนูนิดเดียวเอง”“ไม่ต้องถือให้เหนื่อยหรอกค่ะหนูสร ใช้เด็กพวกนี้เนี่ยแหละ”“แต่ว่าหนูไม่ใช่เจ้านายบ้านนี้นะคะ หนูแค่มาทำงานใช้หนี้ให้เสี่ยชัชค่ะ” เธอพูดพลางหลุบสายตามองต่ำ“คุณชัชกำชับกับป้าไว้ค่ะ ว่าให้ดูแลหนูสรเป็นอย่างดี ดูแลให้ดีเหมือนเป็นนายหญิงของบ้านค่ะ”“นายหญิงหรือคะ” หญิงสาวเอียงคอสงสัยถึงแม้ว่าการทำงานใช้หนี้ของเธอจะไม่ได้ต่างจากสิ่งที่ภรรยาปรนนิบัติพัดวีให้สามีบนเตียง แต่นอกเวลางานเธอก็เป็นแค
นภัสสรขับรถไปตามเส้นทางที่คุ้นเคย ก่อนจะเลี้ยวเข้าซอยท้ายสุดของหมู่บ้าน ประตูรั้วบานใหญ่เปิดออกอัตโนมัติเมื่อหญิงสาวมาถึง เธอสามารถเข้าออกที่นี่ได้อย่างอิสระราวกับว่าเธอเป็นหนึ่งในเจ้าของบ้าน เธอได้รับเกียรตินั้นเสมอตั้งแต่วันแรกที่มาจนถึงปัจจุบัน“สวัสดีค่ะหนูสร ให้ป้าช่วยถืออะไรไหมคะ” ป้าสายออกมาต้อนรับเธออย่างดี“ไม่เป็นไรค่ะป้า เดี๋ยวสรถือเองก็ได้ค่ะ”“หนูสรกินอะไรมาหรือยังคะ ให้ป้าเตรียมให้ไหม”“สรกินมาเรียบร้อยแล้วค่ะ ตอนนี้เสี่ยอยู่ไหนหรือคะ” เธอระบายยิ้มพลางถาม“คุณชัชอยู่ที่ห้องนอนค่ะ” หญิงสาวพยักหน้าเล็กน้อย“งั้นเดี๋ยวสรไปหาเสี่ยก่อนนะคะ” เธอปลีกตัวก่อนจะเยื้องย่างมุ่งหน้าไปยังห้องนอนของชัชวาลก๊อก ก๊อก ~ ~หญิงสาวเคาะประตูห้องก่อนจะเปิดมันเข้าไปด้านใน เจ้าของบ้านสะลึมสะลือคล้ายกับเพิ่งรู้สึกตัวตื่นหลังจากที่เธอเข้ามา ร่างเพรียวบางหย่อนตัวลงนั่งข้างเตียง ก่อนจะโน้มตัวพรมจูบบนใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์“เธอกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่” เขาถามทั้งที่ยังลืมตาตื่นไม่เต็มที่“เพิ่งมาถึงเองค่ะ”“ตอนนี้กี่โมงแล้ว” เขาถามก่อนจะหยัดตัวนั่งพิงหัวเตียง“จะห้าทุ่มแล้วค่ะ”“อ้าว ดึกแล้วท
สามปีต่อมาในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ณ ห้างสรรพสินค้าย่านใจกลางเมือง ซึ่งคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่มาพักผ่อนหย่อนใจและจับจ่ายใช้สอยกันอย่างเบิกบานแต่ทว่าสำหรับนภัสสรแล้ว วันนี้กลับกลายเป็นวันทำงานที่เธอทั้งกดดันและตื่นเต้นไปพร้อม ๆ กัน เพราะเป็นวันที่แบรนด์เสื้อผ้าออนไลน์ของเธอจะมีหน้าร้านเป็นของตัวเองสักทีหลังจากที่เธอหย่าขาดกับณรงค์ เธอก็ได้เอาเงินเก็บที่เสี่ยชัชให้ด้วยความเสน่หามาลงทุนสร้างแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเอง ในช่วงแรกกิจการลุ่ม ๆ ดอน ๆ ตามประสาคนที่ไม่ได้เชี่ยวชาญการทำธุรกิจมากนักแต่เมื่อได้ลองผิดลองถูกหลายอย่าง มันก็ทำให้เธอได้เรียนรู้และผลักดันให้ธุรกิจสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำอย่างที่เธอต้องการ จนกระทั่งสามารถเช่าพื้นที่เปิดร้านในห้างสรรพสินค้าใหญ่ ๆ ได้“พี่สรคะ มีดอกไม้มาส่งค่ะ” น้ำรินทร์เอ่ยพลางยื่นดอกกุหลาบช่อโตให้เจ้าของแบรนด์“ใครให้มาเหรอรินทร์” เธอยิ้มบางพลางทำหน้างุนงงเล็กน้อย“พี่สรดูเองดีกว่าค่ะ”ลูกน้องคนสนิทยิ้มร่าก่อนจะว่าต่อ“แต่รินทร์ว่าพี่สรคงเดาได้ไม่ยากหรอกค่ะ ก็คงเป็นคนดีคนเดิมของพี่สรนั่นแหละ”หญิงสาววัยสามสิบสามไม่พูดอะไร ก่อนจะก้มหน้าอ่านจดหมายน้อยที
ชัชวาลอุ้มร่างเพรียวสวยไปวางบนโซฟาอย่างค่อย ๆ พลางถอนแกนกายออก ก่อนจะไปจัดการเช็ดคราบแห่งความสุขสมที่เลอะอยู่กลางห้องอีกฝ่ายวางเธอลงไว้ที่โซฟาท่าไหน เธอก็ยังเอนตัวพิงโซฟาอยู่ท่านั้น นภัสสรนั่งอ้าขาเอนกายพิงพนักที่นั่งอย่างสิ้นสภาพ การร่วมรักครั้งนี้ทำเธอล่องลอย สติกระเจิดกระเจิงไปคนละทิศละทางจนเธอแทบจะจับจุดและเอาสติกลับมาไม่ได้“เธอโอเคไหม นภัสสร” ชายหนุ่มเอ่ยพลางจับแก้มนวลเพื่อตรวจเช็กร่างกายว่าเธอยังปกติดีหรือไม่“โอเคค่ะ” เธอตอบเสียงอ่อน“โอเคจริง ๆ ใช่ไหม ฉันไม่เคยเห็นเธอหมดสภาพแบบนี้มาก่อนเลย” เสียงทุ้มต่ำเจือความกังวลเอ่ยก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งข้างคนตัวเล็ก“โอเคจริง ๆ ค่ะ สรแค่หมดแรงเฉย ๆ” ตอนนี้สติของเธอเริ่มกลับมาเกือบหมดแล้ว“งั้นเธอนอนพักก่อนดีไหม”“ก็ดีค่ะ นอนพักสักหน่อยน่าจะดีขึ้น”“ขอโทษนะ ฉันไม่น่าเอาเธอขนาดนี้เลย” ว่าจบชายหนุ่มก็กดจูบกลางหน้าผากอย่างแผ่วเบา“ไม่ใช่ความผิดเสี่ยเลยค่ะ ก็สรอยากให้เสี่ยทำแรง ๆ เอง และอีกอย่างที่ทำกันเมื่อกี้ไม่ใช่ไม่ดีสักหน่อย” เธอเอ่ยพลางเม้มปากอย่างขัดเขิน“หมายความว่ายังไง”“ที่เสี่ยอุ้มสรเมื่อกี้มันดีมาก ๆ เลยค่ะ”นัยน์ตาดำขลับฉายแววเป็
ใบหน้าขาวนวลขึ้นสีตรงแก้มอย่างเห็นได้ชัด ก้อนเนื้ออกข้างซ้ายเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ รู้สึกประหม่าจนต้องเม้มปากเพื่อแก้อาการเขิน แต่ทว่ามันกลับยั่วยุอารมณ์กามของอีกฝ่ายให้พลุ่งพล่าน จนเผลอกระทุ้งเสยเข้าไปเต็มแรง“อ้ะ จ...จุก”“เจ็บเหรอ”ร่างกำยำถามอย่างเป็นกังวล แต่ก็ยังกระแทกกระทั้นไม่ยั้งแรงเช่นเดิม“ไม่เจ็บค่ะ แค่จุกเฉย ๆ” เธอเอ่ยพลางลูบตรงท้องน้อยที่ปวดมวนวาบเป็นที ๆ“ให้ฉันทำเบากว่านี้ไหม”“ไม่เอาค่ะ ทำแรง ๆ แบบนี้แหละ หนูชอบ”รอยยิ้มเสือร้ายปรากฏบนใบหน้าชายวัยกลางคนทันที ก่อนจะตอกอัดเสยแกนกายอย่างไม่ปรานี ทำเอาหญิงสาวนิ่วหน้าด้วยความจุกเสียว“อ่าส์ ตรงนั้นแหละค่ะ เสียวสุด ๆ ไปเลย”สะโพกสอบโถมแรงอัดกระแทกเข้าใส่ไม่บันยะบันยัง ทำเอาสองเต้ากลมกลึงเด้งกระเพื่อมตามแรงโน้มถ่วง อีกทั้งเรียวขาสวยทั้งสองข้างสั่นสะท้านจนแทบจะยืนทรงตัวไม่ได้เต็มฝ่าเท้า แขนแกร่งจึงยกขาข้างหนึ่งของหญิงสาวมาประคองไว้ หวังจะช่วยทำให้เธอทรงตัวได้ง่ายขึ้น แต่ทว่ามันกลับทำให้ท่อนลำเนื้อทะลวงเข้าไปในตัวของอีกคนลึกกว่าเดิม“อ้าาาส์ ล...ลึก ลึกจังเลยค่ะเสี่ย”“พิงผนังไว้ดี ๆ นะ ฉันจะใส่เต็มแรงแล้ว”“กรี๊ดดดด อ่าห์”นภ
“วันนี้พอแค่นี้ก่อนก็ได้” เสียงทุ้มเอ่ยบอกเจ้าของใบหน้าสอางค์ท่ามกลางความเงียบในห้องทำงานของเขา“ไม่เป็นไรค่ะ เหลืออีกนิดเดียวก็จะเสร็จแล้ว” นัยน์ตาดำขลับฉายแววแน่วแน่ขะมักเขม้นกับงานเอกสารตรงหน้าพลางเอ่ย“เธอนั่งทำมาทั้งวันแล้วนะ ไม่เหนื่อยบ้างเหรอ”“เสี่ยก็ทำมาทั้งวันเหมือนกัน ไม่เห็นเสี่ยจะเหนื่อยเลยนี่คะ” เธอเอ่ยย้อนตาใส แต่ทว่าก็ไม่ได้ทำให้คนแก่กว่ารู้สึกเดือดดาล“ก็ฉันทำจนชินไปแล้ว แต่เธอเพิ่งจะทำเองนะ”นภัสสรมาช่วยงานเอกสารและตัวเลขให้ชัชวาลได้เกือบสองสัปดาห์แล้ว แม้ว่าเธอจะไม่เคยมีประสบการณ์งานด้านนี้มาก่อน แต่ทว่าความรู้จากการเรียนจบครูคณิตฯ ระดับมัธยมศึกษามาก่อนก็พอจะช่วยเธออยู่ได้บ้าง ถึงจะช่วยไม่ได้มากนัก แต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกโง่งมจนเกินไป“ถึงจะเพิ่งทำ แต่สรก็ทำได้นะคะ” เธอยังคงมุ่งมั่น“ก็รู้ แต่มันก็ต้องทำแต่พอดีไง ทำเยอะเกินไป เธอจะล้าเอาได้ เดี๋ยวจะเหนื่อยจนไม่ได้ทำอย่างอื่น” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นบนใบหน้าของชายมีอายุ“เสี่ยหมายถึงทำอะไรคะ” หญิงสาวเอียงคอถามชัชวาลเคลื่อนกายเข้ามาใกล้เธอก่อนจะโน้มใบหน้าและกระซิบข้างหูหญิงสาวอย่างแผ่วเบา“ก็ทำแบบที่เธอร้องครางเสีย
นภัสสรแหวกกางเกงในออก เพื่อเปิดทางให้หลืบสวาทได้ครอบครองความใหญ่โตได้ดั่งใจปรารถนา เธอจับแกนลำเนื้อให้ส่วนหัวถูไถกับปากถ้ำที่ชุ่มน้ำคลึงเคล้ากระตุ้นอารมณ์กามให้พลุ่งพล่าน พลางเชิดหน้าครางเสียงหวานอย่างระมัดระวัง“อื้ออออ อ่าส์ เสียวจัง”“เธอลองเอามันเขี่ยเม็ดเธอดู”“ไม่เอาค่ะ หนูอยากให้เสี่ยเขี่ยเม็ดให้หนูมากกว่า เสี่ยทำให้หน่อยได้ไหมคะ” แพขนตาสวยกะพริบถี่พลางทำเสียงหวานออดอ้อน“เสี่ยเขี่ยให้ตอนหนูขย่มดีไหมคะ”“ก็ได้ค่ะ”เธอทำปากมุ่ยก่อนกดสะโพกให้ท่อนลำเอ็นเสือกไสเข้าไปจนสุดลำ ความจุกเสียวที่คุ้นเคยแผ่ซ่านไปถึงท้องน้อย ทำเอาเธออ้าปากค้างอย่างห้ามไม่อยู่ คนโตกว่านึกสนุกจึงแหย่นิ้วชี้เข้าไปให้เธอดูดอม หญิงสาวไล้เลียพลางดูดดึงนิ้วของอีกฝ่ายอย่างยั่วยวนไม่ต่างจากที่เธอทำกับแกนกายของเขา ทำเอาหัวใจของชายหนุ่มวัยสี่สิบแปดเต้นรัวเร็วจนแทบจะระเบิดออกมา“หน้าเธอโคตรยั่วเลย เห็นแล้วยิ่งมีอารมณ์”“สรทำให้เสี่ยมีอารมณ์ได้มากกว่านี้อีกนะคะ” หญิงสาวเอ่ยขณะที่สะโพกยังเคลื่อนขยับผ่อนหนักผ่อนเบาเอาแต่ใจตนเอง“อย่ายั่วมากไปนะ เดี๋ยวฉันหัวใจวายก่อน”“สรเพิ่งโสดได้ไม่ถึงวัน เสี่ยก็จะหนีสรไปแล้วเหรอ” เธอเอ
เขายิ้มมุมปากก่อนจะขับเข้าไปในซอย ซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้และซากอาคารรกร้างที่ไร้ผู้คนพลุกพล่าน แม้แต่สิ่งมีชีวิตตัวเล็กอื่น ๆ เธอก็ไม่พบเห็น“เสี่ยคะ?”“ว่าไง” เธอถามขณะที่รถคันหรูหยุดการเคลื่อนไหว แต่ทว่าเครื่องยนต์ยังคงทำงานอยู่“เราจะทำกันที่นี่เหรอคะ” เธอขมวดคิ้วเป็นปม พลางชี้นิ้วไปยังพงหญ้าและบ้านโทรม ๆ ที่อยู่เบื้องหน้าไม่เกินห้าร้อยเมตร“ที่จริงตั้งใจจะทำบนรถ แต่ถ้าเธออยากลองเอาท์ดอร์แบบบ้านร้าง ฉันก็ไม่ขัดนะ”เขาพูดเล่น แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่เล่นด้วย นภัสสรทำหน้าวิตกพลางกุมมือที่สั่นงันงกไว้บนตัก“ฉันพูดเล่น ใครมันจะไปทำกับเธอในที่แบบนั้น” เขาว่าก่อนจะลูบศีรษะคนตัวเล็กอย่างปลอบโยน“สรตกใจหมดเลยค่ะ”“หรือเธออยากให้ฉันเปิดโรงแรม” เขาเสนอ“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ถ้าเป็นในรถ สรก็พอได้อยู่”“เธอเคยลองบนรถแล้วเหรอ”“ยังไม่เคยหรอกค่ะ ถ้าครั้งนี้กับเสี่ยก็ครั้งแรกค่ะ” ชายหนุ่มลอบยิ้มก่อนจะขยับเบาะและปรับที่นั่งให้เอนไปด้านหลัง“ฉันเปิดซิงเธอเหรอเนี่ย” เขายิ้มขำพลางรูดซิปและหล่นกางเกงลงต่ำ“เปิดซิงอะไรกันคะ อย่างสรเนี่ยน่าจะเลยคำว่าซิงไปนานแล้วค่ะ”นภัสสรเปลี่ยนท่านั่งมาคุกเข่าข้างคนขับ ก่อ
ดนตรีจากวิทยุเปิดคลอผสานกับเสียงเครื่องปรับอากาศภายในรถยนต์เบา ๆ ร่างเพรียวลมเหม่อมองไปนอกหน้าต่าง พลางทอดสายตาไปอย่างไร้จุดหมายด้วยจิตใจที่ไร้อารมณ์และความรู้สึก“เธอจะแวะไหนไหม” เสียงทุ้มเอ่ยขัดขึ้นทลายความเงียบที่ก่อตัวตั้งแต่พวกเขาขึ้นรถมาได้สักพัก“ไม่ค่ะ กลับบ้านเลยก็ได้ค่ะเสี่ย” เธอเอ่ยพลางยิ้มไม่เต็มแก้มให้สารถี“เป็นอะไรหรือเปล่า ฉันเห็นเธอเงียบตั้งแต่ออกมาแล้ว”“สรไม่ได้เป็นอะไรค่ะ”เธอเอ่ยพลางส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะว่าต่อ“สรแค่รู้สึกว่างเปล่าค่ะ มันรู้สึกไม่มีอะไรอยู่ในนี้เลย ทั้งความดีใจและความเสียใจ มันไม่มีอะไรเลย” เจ้าของเสียงหวานสั่นเครือขณะกุมหน้าอกข้างซ้าย“เพราะการเลิกรากับคนรักมันไม่ใช่เรื่องน่ายินดี เธอเลยไม่รู้สึกถึงมัน” แต่ทว่าสำหรับชัชวาลแล้วมันกลับเป็นเรื่องราวดี ๆ ที่เขาปรารถนาตั้งแต่พบเจอนภัสสร“และอีกอย่างเพราะเธอเสียใจไปแล้วล่ะมั้งก่อนหน้านี้ เวลาที่ต้องหย่าจริง ๆ ก็เลยไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรขนาดนั้น”“คงงั้นมั้งคะ” เธอเอ่ยยิ้ม ๆ“ถ้าเธอไม่รู้สึกอะไรก็ดีแล้ว ปล่อยใจให้มันเป็นไปอย่างที่มันจะเป็น ไม่ต้องพยายามดีใจหรือเสียใจ ไม่ต้องพยายามยัดเยียดให้ตัวเองรู้สึ
“แค่รู้สึกดีเท่านี้ก็พอแล้ว”เพราะความรักมันก็ล้วนแต่เกิดจากความรู้สึกดีทั้งนั้นแหละว่าจบริมฝีปากหนาก็แตะแนบสัมผัสเรียวปากสีเชอร์รี่แผ่วเบา คนตัวเล็กเผยอรับจูบด้วยความยินดี ก่อนจะโถมตัวดื่มด่ำและลุกไล้มอบสัมผัสตามอารมณ์ปรารถนาหน้าอกนิ่มถูไถคลึงเคล้าอกแกร่งแนบชิดสนิทสนม ในขณะที่ท่อนแข็งแกร่งด้านล่างไล่เลียเฉียดสัมผัสขาอ่อนเนียนไปมา ทำเอาหัวใจของหญิงสาววาบหวามและเนื้อตัวสั่นระริกจมูกโด่งอันนิดของใบหน้าหวานลุกล้ำดอมดมซอกคอแกร่งของชายหนุ่มอย่างโหยหา ก่อนจะเลื่อนลงต่ำพรมจูบส่วนหัวแดงก่ำอย่างรักใคร่ เธอแลบลิ้นยาวกวาดเลียท่อนเอ็นตั้งแต่โคนไปจนถึงปลาย พลางทำสายตาเย้ายั่วจนคนโตกว่าใจสั่นระรัวแทบระเบิด“ของฉันมันอร่อยขนาดไหนเลยเหรอ เธอถึงได้ทำหน้าเหมือนอยากจะกินมันขนาดนั้น” เขาแซวพลางยิ้มเจ้าเล่ห์“ใช่ค่ะ มันทั้งน่าอร่อยและน่าอมมากเลยค่ะ”ว่าจบปากบางก็ครอบแกนกายเข้าไปทันที ทำเอาชายวัยกลางคนเสียววาบโดยไม่ทันตั้งตัว“อ้ะ เธอนี่มันใจร้อนจริง ๆ” เขายิ้มขำเธอผงกหัวขึ้นลงพลางใช้มือช่วยถูรูดส่วนที่เหลือเป็นจังหวะ จนเกิดเสียงลามกดังสนั่นคลอไปกับเสียงกระเพื่อมของน้ำในอ่าง“อ่อกๆๆๆๆ”“อ่าส์ พอก่อน เด